ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต
เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน “ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับ ภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง “มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ “พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ” ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว “พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น” “กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…” ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพูดคำว่า “อยากให้กลับบ้าน” ด้วยน้ำเสียงโคตรจริงใจ “จะให้พ่อทำอะไร?” ภาคภูมิจิบกาแฟเงียบๆแต่แววตาเริ่มอ่อนลง “บอกแม่กวางทีดิ…ให้ใช้ไม้แข็งก็ได้ เอาอะไรก็ได้แหละ… แค่ให้เขากลับบ้าน…” . . . หอพักกวาง เวลาเย็นวันเดียวกันแม่ของกวางยืนกอดอกอยู่หน้าห้องลูกสาว กวางเปิดประตูออกมาในชุดเสื้อยืดหลวมกับกางเกงขาสั้นหน้าตายังหม่น “แม่… จะพูดอะไรอีก กวางไม่อยากคุยเรื่องพี่สิงโตแล้วนะ” แม่ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดแบบ “แม่ที่ไม่ถามความสมัครใจ” “กลับบ้านใหญ่พรุ่งนี้เช้า แม่จะให้รถไปรับ พี่สิงโตยังเจ็บ แม่ขอร้อง กลับไปดูแลกันหน่อย” กวางชะงัก แต่ยังเงียบและยังไม่ยอมตอบ “ไม่ต้องห่วง แม่ไม่ได้ให้กลับไปเป็นเมียพี่สิงโตแม่ให้กลับไปในฐานะลูก… ที่เคยอยู่บ้านนั้น พี่เขาอาจจะทำผิดหลายอย่าง” เช้าวันรุ่งขึ้น กวางนั่งอยู่ในรถของแม่น้ำตาซึมเงียบๆ ไม่ใช่เพราะยินดีแต่เพราะใจหนึ่งก็ยังเจ็บ อีกใจก็อยากรู้ว่าเขา “คิดอะไรอยู่จริงๆ” บ้านเกียรติภูมิ ภาคภูมิยืนมองจากชั้นสองยิ้มเล็กๆในมุมที่ไม่มีใครเห็น “กูเอาเด็กดื้อสองคนมาอยู่บ้านเดียวกัน เพราะกูเบื่อจะดูคนที่ไม่รู้จักหัวใจตัวเอง หวังว่ามึงจะเข้าใจซะทีนะ ไอ้ลูกชาย” สิงโตเดินลงมาชั้นล่างในชุดเสื้อยืดธรรมดา ไม่มีแว่น ไม่มีฮู้ด ไม่มีเพื่อน ไม่มีผับ ไม่มีใคร พอเห็นกวางยืนอยู่ที่ประตูบ้าน เขาไม่พูดอะไรแค่สบตาเธอ แล้วพูดเบาๆว่า… “จะอยู่ก็อยู่ จะเกลียดก็เกลียด… กูไม่ขออะไรเลย” แล้วเขาก็เดินผ่านขึ้นไปบนห้องโดยไม่หันกลับมาอีก เวลาเช้า เสียงช้อนกระทบแก้วกาแฟเบาๆดังมาจากห้องครัว กวางยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์เธอสวมเสื้อยืดตัวเก่ากับกางเกงวอร์มไม่แต่งหน้า ไม่พูด และไม่สบตาใครเธอกำลังชงกาแฟให้ตัวเอง เมื่อเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดดังขึ้นช้าๆ สิงโตในเสื้อยืดสีดำ ใบหน้าเรียบเฉย เดินตรงผ่านหลังเธอไป ไม่มีคำทัก ไม่มีคำอรุณสวัสดิ์ มีแค่… ความเงียบระหว่างสองคนที่เคยใกล้กัน แต่ตอนนี้ เหมือนห่างกันเป็น “คนแปลกหน้า” จนกระทั่งช่วงสาย “กวางย้ายกลับบ้านแล้วเหรอ?” เสียงจากโทรศัพท์ของกวางเป็นกระทิงที่อยู่ปลายสาย “อือ… ยังไม่ได้บอกใครเลย ขอโทษนะที่ไม่ได้ตอบไลน์หลายวัน” “ไม่เป็นไรเลย เราแค่เป็นห่วง คืนนี้มีซ้อมพิธีกรที่หอประชุมใหญ่ มารึเปล่า?” “อื้ม ไปแน่นอน… แล้วเจอกันนะกระทิง” สิงโตยืนอยู่ตรงหัวบันไดได้ยินทุกคำสนทนาใบหน้านิ่งสนิทแต่สายตากดดันมือในกระเป๋ากำแน่นแววตาเย็นลงทันที เขาไม่พูดอะไร แค่เดินกลับขึ้นห้อง เงียบ… แต่สั่นเหมือนกำลังจะขาดอะไรบางอย่าง เย็นวันเดียวกัน หน้าบ้าน รถหรูคันหนึ่งจอดลงหน้าบ้าน ผู้หญิงคนหนึ่งในเสื้อโค้ตสีเบอร์กันดี กับรองเท้าบู๊ทเข้ารูปยืนมองบ้านหลังนั้นด้วยแววตานิ่งลึกเธอสวมแว่นกันแดด และถือดอกกุหลาบสีดำไว้ในมือ ชื่อของเธอคือ “เบอร์รี่” อดีตเพื่อนสนิทที่เคยใช้ชีวิตวัยเด็กกับสิงโตแบบไม่มีใครเข้าใจ “ไม่คิดเลยว่า…บ้านนี้จะยังเหมือนเดิม แต่เธอน่ะโตขึ้นขนาดนี้… ยังคิดถึงฉันอยู่บ้างไหมสิงโต” เวลากลางคืน กวางกลับจากซ้อมพิธีกรที่มหาวิทยาลัย บ้านเงียบอีกครั้ง กวางเดินผ่านห้องนั่งเล่นเห็นแค่เงาของสิงโตนั่งพิงโซฟาสูบบุหรี่อยู่คนเดียวในความมืด เธอหยุดเท้า แต่ไม่พูดอะไร แล้วเดินเลยขึ้นไปข้างบน แต่ทันใดนั้นเอง เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น สิงโตลุกขึ้นไปเปิดประตู ก่อนจะชะงักไปทันที “เบอร์รี่…?” “ไง สิงโต…นานมากเลยนะ…” กวางที่ยืนอยู่ตรงบันไดด้านบน เห็นภาพนั้นเต็มตา ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ส่วนสิงโต…ยืนนิ่งเหมือนคนหลุดจากโลกไปพักหนึ่ง “ฉันกลับมาแล้วนะ… กลับมาเพราะนาย” กวางเดินกลับเข้าห้องปิดประตูแน่นโดยไม่พูดอะไรแววตาเธอมีบางอย่างสั่นไหวแต่เธอก็ยังไม่รู้ว่า…ความรู้สึกนั้นคืออะไร ย้อนอดีต “เบอร์รี่กับสิงโต” เมื่อ 6 ปีก่อน ห้องใต้หลังคาในบ้านเก่าสมัยมัธยมปลายของสิงโต เสียงฝนตกพรำๆด้านนอก แสงไฟสีส้มนวลส่องลงบนร่างของเด็กหนุ่มวัย 19 ปีที่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดบันทึก เด็กผู้หญิงผมสั้นใส่เสื้อยืดตัวใหญ่เดินเข้ามาเงียบๆ “สิงโต นายเคยรู้ตัวไหม ว่าฉันชอบนาย?” เสียงของเบอร์รี่สั่นเบาแต่หนักแน่นในน้ำเสียง สิงโตหยุดเขียน เขาไม่หันไปมอง “รู้” เขาพูดเรียบๆ แต่กูไม่เคยรู้ว่ารู้สึกอะไรกลับไป…” เบอร์รี่เดินเข้ามาใกล้เอื้อมมือจับต้นแขนเขาแน่น “แล้วตอนที่ฉันร้องไห้ นายอยู่กับฉัน ตอนที่บ้านฉันพัง นายให้ฉันนอนกอดทุกคืน…นายเรียกสิ่งนั้นว่าอะไร?” สิงโตเงียบไปนานมาก ก่อนจะตอบเสียงเบา “กูไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร…แต่กูไม่ได้ลืมมันเลย” ปัจจุบัน สายตาเบอร์รี่จ้องมองบ้านของเขาในตอนนี้ “ถ้าฉันขอทวงมันคืน… นายจะกล้าปฏิเสธไหม สิงโต?”บ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ