“วันนี้มาประชุมแทนพี่เก้าเหรอลูก” นุชนาทรับไหว้พร้อมเอ่ยทักอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยถึงชื่อพี่ชายคนโตของตระกูลแสนวัฒนกุล
“ครับคุณป้า…พอดีวันนี้เก้าติดประชุมตอนเช้าครับ”
“ดีเลย อนาคตยังไงก็ต้องมาบริหารอยู่แล้ว ฝึก ๆ ไว้ดีแล้วจ้ะ”
“ครับคุณป้า” น้ำเสียงท่าทีแสนสุภาพของเขาทำให้เธอรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา เขาก็แบบนี้แหละ เป็นที่รักของผู้หลักผู้ใหญ่ตลอด
“น้องไวน์หายแฮ้งหรือยังครับ” อยู่ดี ๆ การัณย์ก็ทำลายความเงียบในลิฟต์ด้วยประโยคที่ดูยังไงก็จงใจจะหาเรื่องแกล้งเธอ
“หายแล้วค่ะ”
“เมื่อคืนสนุกไหม”
โว๊ยยย! จะเอ่ยถึงเมื่อคืนหาพระแสงอะไร! แถมเอ่ยต่อหน้าใครไม่เอ่ย มาเอ่ยต่อหน้าพ่อกับแม่เธอเนี่ยนะ แล้วอีคำว่าเมื่อคืนเนี่ยเธอรู้นะว่าเขาหมายถึงอะไร!
“สนุกค่า พี่กายก็หัดไปสนุกบ่อย ๆ บ้างนะคะ หน้าจะได้ไม่แก่ค่ะ” เธออดไม่ได้ที่จะแอบกัดแซะคนที่ยืนยิ้มกวนส้นใส่เธอ
ติ๊ง!
“เดี๋ยวยังไงลุงกับป้าไปเตรียมตัวก่อน เด็ก ๆ คุยกันไปก่อนนะ” ทันทีที่ถึงห้องรับรอง พ่อกับแม่ก็ทิ้งเธอไว้กับชายหนุ่มแต่เพียงลำพัง
เมื่ออยู่กันสองคนก็ได้เวลาเช็กบิล…
“นี่! กล้าดียังไงมาที่นี่อีกคะ!” เสียงหวานจัดการสาดคำพูดออกไปใส่คนตัวสูงที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างบนโซฟาอย่างสบายใจ
“มาให้เราถอดเสื้อผ้าพี่อีกครั้งมั้งครับ” การัณย์ยักคิ้วข้างนึงอย่างกวน ๆ แถมริมฝีปากได้รูปยังยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“กรี๊ดดด! หยุด! หยุดพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเดี๋ยวนี้นะ…พี่ฉวยโอกาสตอนไวน์เมายังมีกล้ามาพูดอีกเหรอ!”
“แต่เราก็ฉวยโอกาสมาจูบพี่ก่อนเหมือนกันนี่ครับ” ใบหน้าหล่อเหลายังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกะล่อน
“!!!”
สะอึกสิคะรออะไร ถึงคำพูดเมื่อกี้ของเขามันจะหน้าด้านและทุเรศแค่ไหน แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเธอเป็นคนเริ่มจริง ๆ แต่คนที่ทำให้เรื่องมันเลยเถิดไปขนาดนี้ก็คือเขาไม่ใช่เรอะ!
“ทั้งฉวยโอกาส ทั้งใจร้าย ทิ้งให้พี่นอนปลดกระดุมอยู่ในห้องหนาว ๆ คนเดียวอีก”
“จะให้ไวน์รับผิดชอบพี่เลยไหมคะ ถึงจะหยุดพูดเรื่องทุเรศนี้สักที” วรัญชิตาเอ่ยประชด
“ก็รออยู่ครับ”
“ประชดค่ะ!”
“อ้าวเหรอครับ นี่พี่หลงเชื่อไปว่าน้องไวน์จะรับผิดชอบพี่เหรอเนี่ย น่าเสียใจจริง ๆ ” คนตัวสูงยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นหน้าใส ๆ นั้นบูดเบี้ยวโมโห
“เรื่องเมื่อคืนมันไม่มีความหมายอะไร ไวน์ถือว่าเป็น One Night Stand แล้วกันค่ะ”
“ถ้าหมายถึงที่เราถอดเสื้อผ้ากันอย่างเร่าร้อนอันนั้นพี่ไม่ติดนะครับ แต่เรื่องรูปของเราสองคนนี่สิ”
“รูป? อะไรคะ หมายความว่าไง” โอเค เธอต้องทำใจทีละเรื่อง 1. เขาพูดถึงเรื่องเมื่อคืน แถมลงดีเทลให้ด้วยนั่นแปลว่าเขาจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี 2. รูป ซึ่งรูปอะไรไม่รู้แต่มีรูปไปแล้ว
ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิต! ทุกอย่างถาโถมมาหมดภายในวันเดียวได้ยังไงกัน!
“ก็สตอรี่ I* เพื่อนเราไง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวจึงรีบหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมาไล่เช็ค Story จุดไข่ปลาของเพื่อนแต่ละคนที่ดื่มด้วยกันเมื่อคืน
แต่ละภาพช่างดูสนุกสนานกันเหลือเกิน จนกระทั่งถึงภาพเจ้ากรรมที่การัณย์เอ่ยถึง วรัญชิตาก็ลมแทบจับ…ภาพของเธอและเขากำลังแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนในคลับบวกกับวิดีโอตอนเขาอุ้มเธอออกไปราวกับคู่รักพากันขึ้นห้องแถมยัยเพื่อนตัวดียังใส่ Hashtag สุดปั่นอย่าง #ThehottestCouple ให้อีกด้วย
กรี๊ดดดดดดดดดดด! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
“บ้าเอ๊ย…”
วรัญชิตากระหน่ำกดโทรหาเพื่อนสาวเพื่อจะให้ลบรูปออก แต่โทรเท่าไหร่ปลายสายก็ไม่มีท่าทีว่าจะรับ สงสัยจะยังเมาน็อกอยู่ แล้วแบบนี้เธอจะทำอย่างไรได้ล่ะ นอกจากปล่อยให้ภาพนั้นเผยแพร่ใน I* เพื่อนสนิทต่อไปเรื่อย ๆ
แล้วยัยนั่นดันเป็น Celebrity ที่เปิดเผย เพราะนางตั้ง I* เป็นสาธารณะ แถมมีคนติดตามตั้งเยอะ ถ้าให้เดานะ อีกสักพักภาพนี้ต้องถูกนักข่าว Gossip เล่นงานแน่ ๆ
เพราะการัณย์ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเซเลบสุดฮอต ทั้งหล่อทั้งรวย เผลอ ๆ อาจจะหล่อกว่าพระเอกบางคนด้วยซ้ำ! แถมเขายังมีข่าวออกเดตกับดาราและสาวสังคมมากมาย แต่ก็ไม่เคยประกาศคบใครจริงจัง
นั่นยิ่งทำให้สาว ๆ แต่ละคนหวังจะเป็นสะใภ้เล็กแห่งตระกูลหมื่นล้านอย่าง ‘แสนวัฒนะกุล’
แต่วรัญชิตาเองก็ไม่ได้น้อยหน้า…เธอเองก็เป็นลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่นล้านเช่นกัน ภาพลักษณ์ในแวดวงสังคมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการัณย์เลย
“ถึงเวลาประชุมแล้วค่ะ” เสียงเลขาพิมพ์ดาวดังมาจากทางประตู
“...”
หญิงสาวได้แต่เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าถือและถอนหายใจให้ตัวเอง พลางลอบมองไปทางคนตัวสูงที่เดินตามคุณเลขาออกไปโดยไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับรูปที่หลุดไป
หึ! ก็ใช่สิ ตัวเองเป็นผู้ชายก็คงไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับอีแค่การมีรูปจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่แล้ว แต่เธอนี่สิที่เสียหายเต็ม ๆ แถมยังถูกยัยเพื่อนตัวดีตั้งแฮชแท็กให้อีก อยากจะบ้า!
“เชิญค่ะ” คุณเลขาคนสวยเปิดประตูให้ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่มีนักธุรกิจและคนสำคัญทยอยเดินเข้ามาในห้อง
วรัญชิตานั่งลงตรงข้ามกับการัณย์ที่นั่งยักคิ้วข้างเดียวให้เธออย่างกวน ๆ หญิงสาวได้แต่พยายามมองไปที่อื่นเพื่อหลบสายตาคมคู่นั้น เหม็นขี้หน้าสุด ๆ ให้ตาย!
“เรามาเริ่มการประชุมกันเลยนะครับ…” วรเวชผู้เป็นประธานที่ประชุมกล่าวเปิดและเริ่มการประชุมรายงานผลประกอบการ
การประชุมยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่วรัญชิตายังคงกังวลกับภาพดังกล่าวจนเสียสมาธิ เรียวขาสวยในท่าไขว่ห้างเขย่าขึ้นลงเบา ๆ ด้วยความกระวนกระวาย มือเรียวยังคงคอยกดเช็ก Line ว่าเพื่อนตัวแสบจะตื่นมาอ่านหรือยัง
แต่ก็พบเพียงแต่ความเงียบ นี่เธอคิดว่าเธอน่าจะดื่มหนักที่สุดในกลุ่มแล้วนะ ยังตื่นมาประชุมตั้งแต่เช้าได้เลย แล้วยัยณิณีนี่จะนอนไปถึงบ่ายเลยหรือไง ไม่รู้เลยเหรอว่าสร้างความเสียหายให้เพื่อนแค่ไหน!
“เฮ้อ…” หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ ก่อนจะพยายามสลัดความกังวลทิ้งแล้วหันมาโฟกัสกับการประชุม
12.30
ในที่สุดการประชุมที่กินเวลาหลายชั่วโมงก็สิ้นสุดลง วรัญชิตาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยในขณะที่เดินออกจากห้องประชุม
ใน 2 ชั่วโมงกว่าที่ผ่านมา เธอยอมเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าและทำใจนิ่ง ๆ ไม่เปิดดูอะไร เพื่ออยากจะโฟกัสกับการประชุมครั้งแรก
และผลที่ออกมาก็ผ่านไปได้ด้วยดี ในปีที่ผ่านมาบริษัทในเครือ VN-Group มีผลประกอบการที่ดีเกินคาด ตัวเลขรายได้และกำไรสุทธิแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จมหาศาล
ไม่ว่าบริษัทคู่แข่งจะผุดขึ้นเยอะแค่ไหน แต่ VN-Group ก็ยังคงเป็นผู้นำด้านเครื่องดื่มและห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไม่เปลี่ยนแปลง
Rrrr Rrrr
การสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋าทำให้วรัญชิตารีบเดินฉีกออกมาจากบริเวณห้องประชุม และปลายสายเป็นณิณีนั่นเองที่โทรมา
15 Missed calls
[Text me back ASAP!!]
-Risa-
Rrrr Rrrr
“ฮัลโหล เธอรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป!” วรัญชิตาตะคอกกึ่งกระซิบใส่ปลายสายทันที
[รู้แล้ว ๆ ฉันขอโทษ เมื่อคืนเมาเกิน]
“ลบสตอรี่หรือยัง”
[ลบแล้ว ตื่นมาก็ลบเลย ปกติก็ลงใน Close friends ตลอด สงสัยเมื่อคืนน่าจะมือไปโดนผิดปุ่มอะคุณเพื่อน ฮือออ]
“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ” ด้วยความที่ปลายสายมีน้ำเสียงเสียใจจริง ๆ บวกกับความเมาที่วรัญชิตาเองก็เข้าใจว่าอาจจะทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นได้ ก็เหมือนที่เธอไปเสียตัว (ครึ่งนึง) ให้การัณย์ยังไงล่ะ!
“คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
[เอ่อ…คือ…]
“อะไร”
[เดี๋ยวฉันส่งให้ดูใน Line แล้วกัน]
คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน ก่อนจะกดเปิดดูข้อความใน Line ที่ณิณีส่งมาให้
“!!!”
ลิงก์ข่าว Gossip ถูกส่งมาให้ไม่ต่ำกว่า 5 สำนัก และเพจบันเทิงเกือบทุกเพจต่างลงรูปสตอรี่ของณิณีที่มีการัณย์และตัวเธอจูบกันอยู่ในนั้น!
โลกออนไลน์ต่างพูดถึงประเด็นร้อนแรงนี้อย่างคึกคัก รายละเอียดของข่าวเต็มไปด้วยคำว่า
“คู่รักมหาเศรษฐีคู่ใหม่แห่งวงการ?”
“นึกว่าจะโสดถึงปี! ในที่สุดหัวใจของไฮโซกายก็ไม่ว่างแล้ว เพราะตอนนี้ได้สาวสวยและรวยมากคนใหม่อย่าง ไวน์ วรัญชิตา วงศ์ธารานิพิฐ มาอยู่ข้างกาย แถมยังเปิดตัวกันอย่างเผ็ดร้อนถึงใจ งานนี้หลายคนต่างจับตาว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะอยู่ในโควตาไม่เกิน 1 เดือนของคาสโนวาหมื่นล้านได้หรือไม่”
“อุ้มกันออกจากคลับแบบนี้ เขาจะไปที่ไหนกันคะพี่ตาน้องนกเดาไม่ออกเลย แซ่บซู้ดปากจริง ๆ คู่นี้!”
โอ๊ยยย! อะไรกันเนี่ย ทำไมนักข่าวสมัยนี้ไม่มีจรรยาบรรณกันเลย พาดหัวข่าวแรงขนาดนี้ได้ยังไง ทั้งผู้หญิงคนใหม่ทั้งโควตาไม่เกิน 1 เดือน ทั้งคาดเดาไปถึงไหนต่อไหน แต่ละคำสรรหามาเหยียดกันสุด ๆ
แล้วโพสต์ที่ลงมีคนมาวิพากษ์วิจารณ์มากมายหลายร้อย Comment ซึ่งแต่ละประโยคที่ชาวเน็ตพิมพ์ออกมา มีแต่ประโยคแรง ๆ ทั้งนั้น
‘คนรวยที่เป็นของเล่นของคนรวยอีกที’
‘นางอยากประกาศตัวเองรึเปล่า ภาพมาจากไอจีเพื่อนนาง’
‘ไม่น่าถึง 1 เดือน ผู้หญิงก็ดูแรง ๆ อยู่แล้วนะ’
‘เห็นนางมีข่าวกับไฮโซด้วยกันเยอะอยู่นะ เปลี่ยนผู้ชายบ่อยเว่อร์’
กรี๊ดดดด! โกรธ โกรธจนสั่นไปหมด สภาพแต่ละคนที่มาคอมเมนต์นี่ไม่ดูเงินในบัญชีตัวเองเลยสินะ ทำไมถึงกล้าพ่นคำแย่ ๆ ออกมา แล้วไอ้ประโยคเปลี่ยนผู้ชายบ่อยนี่ขอค้านหน่อยนะ ตูโดนทิ้งโว๊ยยย! ถ้าเป็นไปได้ก็อยากคบเป็นตัวเป็นตนอยู่หรอก
เจ็บใจสุด ๆ ปกติเคยแต่อ่านข่าวของคนอื่นจนไม่คิดเลยว่าการได้รับ Hate Speech มากมายจากคนไม่รู้จักกันมันทำให้รู้สึกแย่ขนาดนี้
ทำไมพอมีข่าวการออกเดตของคนดังผู้หญิงถึงมักจะเป็นฝ่ายโดนด่าทุกครั้ง? ในขณะที่ผู้ชายแทบจะเกือบ 90% มักจะลอยตัวเหนือดราม่า แล้วปล่อยให้ฝ่ายหญิงโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
“ยัยไวน์!” เสียงเรียกจากมารดาทำให้เธอต้องรีบเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋า และหันกลับไปเผชิญหน้า ซึ่งแน่นอนว่าฟังจากน้ำเสียง…แม่ของเธอต้องรู้เรื่องแล้วแน่นอน
“ขะ…ขา คุณแม่”
“เข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้!!”
“ค่า”
คนตัวเล็กรีบเดินหน้าจ๋อยเข้าไปในห้อง โดยเมื่อเข้าไปถึงสายตาคู่สวยก็พบกับตัวละครสำคัญในข่าวฉาวครั้งนี้นั่งรออยู่แล้ว
“เรื่องมันเป็นยังไงกันสองคนนี้” วรเวชผู้เป็นพ่อเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
“คือเมื่อคือไวน์…”
“ผมยอมรับว่าเมาจนจูบน้องจริงครับ แต่ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น ผมต้องขอโทษคุณลุงกับคุณป้าด้วยจริง ๆ ครับ” ยังไม่ทันที่วรัญชิตาจะเอ่ยพูด เสียงเข้มก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกดีนิด ๆ เพราะอย่างน้อยเขาก็ช่วยโกหกเพื่อปิดบังเรื่องโง่ ๆ ที่เธอทำลงไป
“ค่ะ ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้นแน่นอน” คนตัวเล็กช่วยเสริมให้ประโยคดูมีน้ำหนักขึ้น
“แล้วที่อุ้มกันออกไปล่ะ ภาพมันล่อแหลมมากเลยนะ แค่เห็นก็จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” แม้ว่าเสียงของนุชนาทจะนิ่งมาก แต่หญิงสาวสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่หลั่งไหลออกมาจากตัวคุณแม่ของเธอ
เธอเข้าใจดีว่าเป็นใครก็ต้องคิด…ทั้งภาพจูบแลกลิ้น ทั้งวิดีโออุ้มกันออกจากโต๊ะ ถึงแม้จะเป็นวิดีโอสั้น ๆ แต่ก็ดูไม่ดีเอาเสียเลย แถมความจริงคือเมื่อคืนเธอไปทำอะไรต่อมิอะไรกับเขามาจริง ๆ อย่างที่คนเม้าธ์มอยกันด้วย
“แค่อุ้มน้องไปขึ้นรถแล้วไปส่งที่เพนต์เฮาส์ครับ” การัณย์ยังคงช่วยเธอเสียงเข้ม
“ปกติพ่อไม่อยากยุ่งเลยนะเรื่องหนุ่มสาวเนี่ย…จะทำอะไรกันก็ทำต่างคนก็ต่างโต ๆ กันแล้ว แต่ภาพที่หลุดไปมันแรงมากจริง ๆ และมันทำให้ภาพลักษณ์ของยัยไวน์เสื่อมเสียมาก อย่าลืมนะว่าเราเป็นคนในสังคมธุรกิจที่มีคนทั้งประเทศจับตามองอยู่”
“แล้วมันไม่ได้เสียแค่เธอสองคนแต่มันส่งผลต่อทั้งสองครอบครัวของพวกเราด้วย”
“ไวน์ขอโทษนะคะ คุณพ่อ, คุณแม่” เธอพยายามเอ่ยขอโทษบิดามารดา แม้จะรู้ว่ามันคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่
“ลุงคงโทษลูกสาวตัวเองฝ่ายเดียวไม่ได้ ลุงจะไม่พูดเรื่องที่เราเมาจนจูบล่วงเกินน้องนะ เพราะลุงคิดว่าลูกลุงเองก็น่าจะไม่ได้ถูกบังคับหรือฝืนใจอะไร”
“ใช่ไหม?”
“...” เธอทำได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ
เพราะรังสีอำมหิตของผู้เป็นพ่อแผ่กระจายออกมาจนบรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความอึดอัดจนวรัญชิตาแทบจะกลั้นหายใจ และได้แต่นั่งตัวสั่นรับฟังน้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้เป็นพ่อด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่เกิดมาเกือบ 26 ปี พ่อเธอน่ากลัวที่สุดก็วันนี้แหละ…
“ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ก็คงจะเหลือวิธีเดียวแล้วล่ะ”
“ต้องประกาศออกไปว่าทั้งสองคบหาดูใจกันอยู่จริง ๆ เพราะยังไงทั้งคู่ก็ต่างคนต่างโสด ถ้าเป็นแฟนกันจูบกันเองก็คงไม่เสียหายเท่าไหร่” วิธีการของนุชนาททำให้บรรยากาศร้อนระอุในห้องนี้อึดอัดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“แฟน? คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ เราแก้ข่าวไปเฉย ๆ ไม่ได้เหรอคะ”
วรัญชิตาเอ่ยถามอย่างฉงน สำหรับคน ๆ นี้ แค่คำว่าคนรู้จักเธอยังไม่อยากเรียกให้เสียปากเลย จะให้เลื่อนขั้นกลายเป็นแฟนเนี่ยนะ ฝันไปเหอะ!
“แล้วจะให้แม่แก้ข่าวว่ายังไงดีล่ะ น้องไวน์ลองคิดคำแก้ตัวให้แม่หน่อย” การตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ไม่ว่าใครได้ยินก็ต้องเจ็บไปถึงขั้วหัวใจคือสไตล์ของแม่เธอเลยล่ะ
“...”
แน่นอนว่าเธอให้คำตอบไม่ได้ ลำพังภาพลักษณ์เธอคนเดียวน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะเธอก็เป็นสาวนักสังคมที่มีข่าวกับคนนู้นคนนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ถ้าเธอมีส่วนทำให้บริษัทต้องขาดความน่าเชื่อถือ เธอก็ยอมไม่ได้เช่นกัน
จะให้ไปบอกนักข่าวว่า “อ๋อ เพราะเมาค่ะ เลยไปขึ้นคอนโดด้วยกัน แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะคะ นอนกอดกันเฉย ๆ ” ยิ่งดูแย่ทวีคูณขึ้นไปอีก!
ทั้งเมาจนไม่รู้เรื่อง ทั้งนัวเนียกันในคลับที่มีคนอยู่ตั้งมากมาย แค่สองข้อหานี้พ่อกับแม่ก็เอาเธอตายแล้ว อย่าให้พวกท่านรู้ว่าเธอไปขึ้นคอนโดกับเขาจริง ๆ เลย
ดังนั้นปลาเน่าตัวเดียว จะยอมให้เหม็นไปทั้งเข่งคงเป็นไม่ได้
“ไวน์ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ แต่ไวน์ขอฟ้องพวกที่มาพูดจาหมา ๆ ใส่ไวน์ได้ไหม”
“แล้วมันมีกี่คนกันล่ะ ร้อย? พัน? หรือมากกว่านั้น”
“ก็…” หญิงสาวถึงกับเถียงไม่ออก ฟ้องไปก็เท่านั้น คนพวกนั้นไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายให้เธอหรอก มีแต่จะเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลเปล่า ๆ
เธอไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ใช้เท้าสะกิด ๆ คนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ ให้พูดอะไรออกมาบ้าง
“ผมเห็นด้วยกับคุณป้านะครับ ผมยินดีใช้วิธีนี้ครับ”
เอ้า! เห็นดีเห็นงามกันไปอี๊กกก แทนที่จะช่วยกันหาทางที่ไม่ต้องมาผูกติดในความสัมพันธ์ของกันและกันแต่ดันมาเออ-ออห่อหมกกับคุณแม่เธอเสียได้
นี่ชีวิตโสดของเธอจะจบลงด้วยการมีแฟน (ปลอม) คนแรก เป็นพี่กายเหรอเนี่ย อยากตายค่ะ!
“งั้นตกลงตามนี้ เดี๋ยวพ่อจะให้เลขาปล่อยข่าวเพิ่มให้เอง”
“แต่คุณพ่อคะ!”
“พอแล้วนะไวน์ พ่อปวดหัว” วรเวชเอ็ดลูกสาวเสียงดุจนหัวใจดวงน้อยรู้สึกทั้งเจ็บปวดและน้อยใจ เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยโดนคุณพ่อดุเลย
“เราสองคนก็รับผิดชอบเรื่องที่ก่อให้มันเนียน ๆ ด้วยนะ จะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่” นุชนาทกำชับก่อนจะเดินออกจากห้องรับรองไปพร้อมกับสามี
“ค่ะ…” ถึงจะไม่อยากตอบตกลง แต่วรัญชิตาก็ทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรมที่ต้องชดใช้ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ อยากกัดลิ้นตัวเองตาย เพราะความเมาแท้ ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างต้องลงเอยแบบนี้
แม้ว่ายากจะยอมรับแต่ก็ต้องโทษตัวเองเต็ม ๆ ที่เป็นคนกระโจนเข้าไปจูบอีพี่กายด้วยตัวเอง แต่ยัยเพื่อนสาวตัวแสบก็ไม่น่าเมาจนเผยแพร่เรื่องพวกนี้จนกลายเป็นข่าวว่อนไปทั่ว!
ชีวิตช่างเล่นตลกเหลือเกิน เมื่อวานยังอกหักเมาเหมือนหมา พอตกดึกกลับไปนอนทอดกายให้คนที่เกลียดขี้หน้าละเลงอย่างหนำใจ แถมไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอหลับไปมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง!
“เฮ้อ…” วรัญชิตาถอนหายใจออกมาดัง ๆ และเตรียมชิ่งออกไป เพราะอยู่กับเขาสองคนแบบนี้ไม่ดีต่อใจแน่ ๆ
ก็เมื่อคืนเล่นดูดดื่มกันขนาดนั้นจะไปลืมได้ไง…ถึงแม้พาร์ทหลัง ๆ เธอจะจำอะไรแทบไม่ได้ก็เถอะ
“ไวน์กลับก่อนนะคะ ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะที่ช่วย” คนตัวเล็กไม่ลืมจะขอบคุณเขาด้วยความไม่เต็มใจ
“คิดว่าพี่จะช่วยเราฟรี ๆ เหรอ?”
1 อาทิตย์ผ่านไปนับว่าโชคยังดีที่การัณย์ยังไม่ได้ติดต่อมากวนใจเธอเท่าไหร่นัก จะมีก็แต่เข้ามากดไลก์ , Comment โพสต์ใน IG เธอทันทีที่ลงรูป เรียกได้ว่าเขาแสดงได้สมบทบาทมากทีเดียว เพราะกับผู้หญิงคนอื่นที่เคยเป็นข่าวกับเขานั้นไม่มีใครเคยได้รับการแสดงออกแบบนี้เลยแต่เขาก็คงทำ ๆ ไปงั้น เพราะความเกรงใจที่มีต่อครอบครัวเธอด้วยแหละมั้ง ยังไงก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กจริง ๆ เธอก็ไม่น่าอกหักจนไปทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นเลย แต่หลังจากวันที่แยกจากกันที่บริษัท เธอก็กลับมาสำรวจร่างกายตัวเองแล้วแหละ ว่ามันน่าจะจบที่ท่อนบนจริง ๆ เพราะเธอก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าตัวเองเสียตัวไปหรือยังแล้วก็ขอโทษได้ไหมล่ะที่เสี้ยวหนึ่งแอบไปคิดว่าเพราะของเขาเล็กน่ะ อันที่จริงขนาดอาจจะใหญ่มากก็ได้ ก็เขามีเชื้อตะวันตกนี่นะ เดี๋ยวนะ! เธอจะไปคิดเรื่องขนาดของเขาทำไมเนี่ย! ลืมไปเดี๋ยวนี้เลย“เฮ้อ…” แต่ถ้าจะพูดถึงต้นเหตุที่ทำให้เธอทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ที่คลับ ก็คงจะนับเป็นเรื่องดีเพราะตั้งแต่มีเรื่องของพี่กายเข้ามา เธอก็ไม่ได้นึกถึงผู้ชายหลอกลวงคนนั้นเลย แม้ว่าเขาจะส่งข้อความมาถามไถ่ผ่าน Line แต่เธอก็หาได้แคร์อย่าลืมสิว่าตอนนี้เธอมีแฟน (
นี่ไง ความปลอมของเขามักจะเผยออกมาตอนอยู่กันสองคนเสมอ ต่อหน้าผู้ใหญ่น่ะดูเป็นคนดีเสียเหลือเกิน แต่ลับหลังมีความแต่ความเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเหมือน!“อะไรอีกคะ” “มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอม Tom Ford จากตัวเขา“รู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่ได้ต้องการแค่คำขอบคุณน่ะ”วรัญชิตาได้แต่ขยับถอยจนแผ่นหลังแทบจะติดกับผนัง แต่ก็ยังทำใจกล้าจ้องมองเขาอย่างไม่กลัวใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบที่อยู่ในระยะที่ใกล้ชิดกันทำให้เธอได้สังเกตเห็นดวงตาคมกริบสีฟ้าเข้มที่สวยงามราวกับดวงดาวเมื่อถูกประดับอยู่บนใบหน้าสง่างามนี้เขาคือความลงตัวที่พระเจ้าสร้างมาให้ชัด ๆ ใบหน้าหล่อคมเข้มแบบเอเชีย แต่มีดวงตาสีฟ้าเข้มจากสายเลือดตะวันตกที่อยู่ในตัวเขาเสี้ยวหนึ่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาว ๆ แต่ละคนถึงอยากเป็นสะใภ้เล็กแห่งบ้านแสนวัฒนกุลกันนักหญิงสาวเผลอจ้องมองใบหน้าฟ้าประทานนั้นอย่างลืมตัว เธอจึงรีบหลับตาลงเพราะทนไม่ไหวกับสายตาพราวเสน่ห์ที่ทำให้เธอหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา“พี่ต้องการอะไร…” วรัญชิตากลั้นหายใจและหลับตาปี๋ เพราะใบหน้าคมของคนเจ้าเล่ห์เคลื่อนไหวเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนพวงแก้มใสรับรู้ได้ถึงองศ
“วันนี้มาประชุมแทนพี่เก้าเหรอลูก” นุชนาทรับไหว้พร้อมเอ่ยทักอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยถึงชื่อพี่ชายคนโตของตระกูลแสนวัฒนกุล“ครับคุณป้า…พอดีวันนี้เก้าติดประชุมตอนเช้าครับ” “ดีเลย อนาคตยังไงก็ต้องมาบริหารอยู่แล้ว ฝึก ๆ ไว้ดีแล้วจ้ะ” “ครับคุณป้า” น้ำเสียงท่าทีแสนสุภาพของเขาทำให้เธอรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา เขาก็แบบนี้แหละ เป็นที่รักของผู้หลักผู้ใหญ่ตลอด“น้องไวน์หายแฮ้งหรือยังครับ” อยู่ดี ๆ การัณย์ก็ทำลายความเงียบในลิฟต์ด้วยประโยคที่ดูยังไงก็จงใจจะหาเรื่องแกล้งเธอ“หายแล้วค่ะ” “เมื่อคืนสนุกไหม”โว๊ยยย! จะเอ่ยถึงเมื่อคืนหาพระแสงอะไร! แถมเอ่ยต่อหน้าใครไม่เอ่ย มาเอ่ยต่อหน้าพ่อกับแม่เธอเนี่ยนะ แล้วอีคำว่าเมื่อคืนเนี่ยเธอรู้นะว่าเขาหมายถึงอะไร!“สนุกค่า พี่กายก็หัดไปสนุกบ่อย ๆ บ้างนะคะ หน้าจะได้ไม่แก่ค่ะ” เธออดไม่ได้ที่จะแอบกัดแซะคนที่ยืนยิ้มกวนส้นใส่เธอติ๊ง!“เดี๋ยวยังไงลุงกับป้าไปเตรียมตัวก่อน เด็ก ๆ คุยกันไปก่อนนะ” ทันทีที่ถึงห้องรับรอง พ่อกับแม่ก็ทิ้งเธอไว้กับชายหนุ่มแต่เพียงลำพังเมื่ออยู่กันสองคนก็ได้เวลาเช็กบิล…“นี่! กล้าดียังไงมาที่นี่อีกคะ!” เสียงหวานจัดการสาดคำพูดออกไปใส่คนตัวสูงที่ตอ
-Beep-เธอแตะคีย์การ์ดและพาการัณย์เข้ามายังคอนโด ไม่สิ ต้องเรียกว่าเพนต์เฮาส์ต่างหาก เพราะขนาดของมันใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังหนึ่งเลยหญิงสาวเปิดเครื่องปรับอากาศและเดินไปรินแชมเปญราคาแพงลงบนแก้วใสจำนวนสองแก้ว ก่อนมานั่งลงบนโซฟาและเริ่มจิบเบา ๆ พลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยมีเพื่อนนั่งดื่มก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้หัวใจของเธอมันว่างเปล่าเกินกว่าจะผ่านค่ำคืนอันโหดร้ายนี้ไปได้ด้วยตัวคนเดียว…ถึงแม้ว่าเพื่อนดื่มจะเป็นคนที่เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะอยู่ด้วยในวันแย่ ๆ แบบนี้ก็เถอะ“เป็นอะไรครับ อกหักมาหรือไง” “เหอะ…” อกหักงั้นเหรอ อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเป็นแฟนกันเลยเนี่ยนะ เรียกว่าโดนทิ้งตั้งแต่ยังไม่เริ่มยังจะดูดีเสียกว่า“เอาน่า คนเราอกหักบ้างไม่เห็นเป็นไรเลยครับ” น่าแปลกที่น้ำเสียงของเขาในตอนนี้ช่างนุ่มนวลปราศจากความเจ้าเล่ห์แบบที่เคย แถมประโยคที่เขาพูดออกมายังทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกใครสักคนช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในใจอย่างไม่น่าเชื่อ“เจ็บบ้าง ผิดหวังบ้าง อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังเอื้อมมือมาลูบหัวเธอเบา ๆ อย่างปลอบใจ“...”ด้วยความที่ตอนนี้เธอและเขาอยู่ใกล้กันมาก จนท
K Clubเสียงเพลงสากลในจังหวะเร้าอารมณ์เคล้ากับเสียงหัวเราะจากโต๊ะ VVIP ที่มีบรรดาลูกหลานเศรษฐีแถวหน้าของประเทศนั่งดื่มกันอย่างสนุกสนาน“Cheers!” การชนแก้วกันนับครั้งไม่ถ้วนในคืนนี้ทำให้สติสตังของไฮโซสาวอย่าง “ไวน์ วรัญชิตา” เริ่มหดหาย แม้เธอจะเป็นสาวสวยเซ็กซี่ที่มีลุคดูร้อนแรง แต่เธอนั้นไม่ได้ดื่มเก่งสมชื่อเอาเสียเลยด้วยนิสัยเอาแต่ใจ และไม่ยอมคนสมกับเป็นคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างเอาใจทำให้เธอยืนกรานว่าจะดื่มจนกว่าคลับจะปิด!ก็แน่อยู่แล้ว เพราะ ‘วรัญชิตา วงศ์ธารานิพิฐ’ คือลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัววรเวช ผู้เป็นเจ้าของอนาจักรเครื่องดื่ม และห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของประเทศ ความหรูหรา และชีวิตที่ถูกตามใจกับวรัญชิตาน่ะเป็นของคู่กันแถมตอนนี้หัวใจก็ไม่แข็งแรงเพราะคนที่คุยกันมาทุกวันจนคิดว่าเป็นเหมือนแฟน ดันมาเปิดตัวคบหากับคนอื่นหักหน้าเธออย่างจังเท่ากับว่าที่ผ่านมาเธอได้แต่หวังอยู่ฝ่ายเดียวสินะว่าสุดท้ายเธอกับเขาจะได้ลงเอยเป็นแฟนกัน ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายคุยกับผู้หญิงคนอื่นมาตลอดเวลา!ทั้งเจ็บ ทั้งจุก สิคะรออะไร คุยกันทุกวันเธอบอกว่าเป็นพี่น้อง พี่น้องพ่อเธอเหรอบอกคิดถึงกันทุกวัน! แค่วั