"คุณ! ข่มขืนฉัน!" "ฉันไปทำเธอตอนไหน?" "ตอนไหนเหรอ ก็เมื่อคืนไงไอ้คนทุเรศ!" "เมื่อคืนฉันเมาเละ อย่ามาใช้มุกตื้น ๆ จับฉันมันไม่สำเร็จ" "จับบ้าอะไรฮะ ฉันโดนข่มขืนฉันเสียหายนะไอ้ชั่ว" "ก็บอกว่าไม่ได้ทำไงวะ" "เมาเหมือนหมาแล้วจำไม่ได้ว่าข่มขืนผู้หญิงเหรอ!" "ก็บอกว่าไม่ได้ทำไงวะ!" "ก็บอกว่าทำไงวะ!!"
View More“ว่าไงคะคุณนับเงินวันนี้พอจะได้ทิปเยอะไหม” น้ำเสียงหวานปนเซ็กซี่เอ่ยถามทันทีฉันที่เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน
“เยอะค่า เยอะมากเวอร์ค่ะพี่พิม ขนาดแค่ครึ่งคืนนะคะ” ฉันตอบกลับสาวสวยผู้ช่วยผู้จัดการผับด้วยรอยยิ้มมีความสุข ผับคนรวยนี่มันดีจริง ๆ ทิปหนักแม้กระทั่งเด็กเสิร์ฟ
“แล้วไม่สนเลื่อนขั้นมาทำพีอาร์บ้างเหรอนับเงิน ทิปเยอะกว่านี้อีกนะ” เสียงเดิมยังคงพูดต่อทำให้ฉันยิ้มแหยแล้วก็ส่ายหน้ากลับไป
“ไม่ไหวหรอกค่ะพี่พิม นับกินเหล้าไม่เป็น เทคแคร์ใครไม่เก่ง ยิ่งให้ไปพูดหวาน ๆ ดูแลแขกนับว่าจะกลายเป็นไล่แขกมากกว่า”
“พี่เสียดายความสวยของเราจริง ๆ ถ้ามาทำรับรองฮอตที่สุดแน่นอน แต่ไม่เป็นไรเอาความสมัครใจของคนทำดีกว่าเนอะ” พี่พิมพูดด้วยรอยยิ้มแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรฉันต่อ
“ขอบคุณนะคะพี่พิม” ฉันขอบคุณพี่เขาก่อนจะเดินไปจากห้องเพื่อทำงานต่อ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลค่ะ นี่เพิ่งจะเที่ยงคืนถึงจะเหลือแค่ 2 ชั่วโมงผับก็จะปิดแต่เชื่อเถอะค่ะเวลานับจากนี้นี่ล่ะคือช่วงบันเทิงขาบันเทิงสมองของเด็กเสิร์ฟอย่างฉัน
อ้อลืมแนะนำตัวใช่ไหมคะ ฮายค่ะซิสฉันชื่อนับเงินนะคะ อายุ 21 ปี กำลังเรียนอยู่ปี 3 มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง ชื่อนับเงินแต่เงินไม่ค่อยมีให้นับหรอกนะ ฮ่า ๆๆ ชีวิตฉันปากกัดตีนถีบมากเพราะอยู่แบบหัวเดียวกระเทียมลีบมาหลายปีแล้ว เหนื่อยจากการเรียนแค่ไหนก็ต้องแบกร่างมาเดินเสิร์ฟเหล้าทุกคืน
ผับ บาร์ หรือที่เที่ยวอโคจรคือที่ ๆ ฉันเกลียดมาตั้งแต่เด็กเพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คนเมา แค่เห็นวงเหล้าหน้าบ้านก็เอียนเต็มทนนี่ต้องมาเจอคนเป็นร้อยเมาทุกวันเลยไม่รู้สึกประทับใจมันเท่าไหร่แต่พอโตขึ้นมามันกลับเป็นที่ ๆ ฉันต้องมาทุกวันเพราะมันคือแหล่งทำเงิน ไม่ทำก็ไม่ได้เงิน ไอ้พวกผู้ชายพอเมาแล้วมันก็แต๊ะอั๋งได้แม้กระทั่งเด็กเสิร์ฟ แม่ง! ถ้าไม่ใช่ลูกค้าจะเอาขวดเหล้าฟาดหัวให้ เรียนจบเมื่อไหร่ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำงานนี้เด็ดขาด
“นับ ๆ คุณคนนั้นมาแล้วนะจ้ะ” เสียงอัญชันเพื่อนเด็กเสิร์ฟในผับเดินเข้ามากระซิบบอกฉันด้วยรอยยิ้มเพื่อบอกฉันว่าสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันมีกำลังใจจะมาทำงานได้เดินทางมาถึงแล้ว
“จริงดิ! ว่าแต่วันนี้มาดึกจัง แล้วโต๊ะเดิมไหมอ่ะอัญ” ฉันรีบหันไปมองหน้าอัญชันแล้วก็ถามด้วยความตื่นเต้น ผู้ชายคนนั้น แขกประจำของร้านที่หล่อมาก~ ผู้ชายคนแรกที่ปลุกความแรดในตัวนับเงิน ฮ่า ๆๆ
“โต๊ะเดิมแล้วก็ซูกัสคนสวยคนเดิมค่ะคุณ” อัญชันตอบมาพร้อมเบ้ปากเบา ๆ ตอนที่พูดถึงชื่อของอีกคน
ซูกัส คือพีอาร์สาวสวยเบอร์หนึ่งของผับ สวยมาก ยิ่งแต่งยิ่งสวย ซูกัสเป็นคู่แค้นของฉันเองค่ะ แต่อันที่จริงต้องบอกว่าฉันเป็นคู่แค้นของนางมากกว่า เพราะนางไม่ใช่คู่แค้นของฉัน เข้ามาทำงานวันแรกอีแม่ก็แขวะฉันแล้ว ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไปทำอะไรให้
“หล่อรวยก็ต้องเลือกอะไรที่ดีที่สุดเนอะอัญ มาเที่ยวแบบนี้ก็คงสนใจแต่คนที่สวยที่สุด ช่างเหอะไปทำงานกันดีกว่า” ฉันพูดแล้วก็ห่อเหี่ยวใจเพราะว่านับเงินแอบชอบคุณคนนั้นมาเป็นปีแล้วค่ะ แต่คนเจียมตัวก็ได้แต่เจียมตน ทนทำใจได้แต่เฝ้ามองดูเธอ เฮ้อ!
“อย่าห่อเหี่ยวสิจ๊ะ ลองนับแต่งตัวบ้างซูกัสก็ซูกัสเหอะ” อัญชันยังคงพูดต่อแต่ฉันก็ทำได้แค่ส่ายหน้าพร้อมยิ้มบาง ๆ
“ไม่เอาหรอก เอาเวลาแต่งตัวไปเสิร์ฟเหล้าทำงานหาเงินหาทิปดีกว่า” ฉันหันไปบอกเพื่อนพร้อมกับยิ้มจนตาหยีแล้วก็เดินไปทำงานที่ดูท่าทางคงจะวุ่นวายมากจนกว่าร้านจะปิด
“คุณคริชขา เอาเครื่องดื่มเพิ่มนะคะเดี๋ยวกัสสั่งเด็กเสิร์ฟให้” ฉันเดินไปเสิร์ฟเหล้าที่โต๊ะของผู้ชายคนนั้นซึ่งเพื่อนเขาเป็นคนสั่งแต่กลับไปยินเสียงยัยซูกัสคนสวยพูดหวาน ๆ แต่ดันเน้นคำว่าเด็กเสิร์ฟด้วยน้ำเสียงดูถูก ซึ่งแน่นอนค่ะต่อให้ตอนนี้ถ้าฉันเมาเหมือนหมาก็มีสติรับรู้ได้ว่านางพูดแขวะฉัน
“...” เห็นกูเงียบ ๆ จะฟาดคำอะไรใส่ก็ได้งั้นเหรอมึง...
“อื้ม สั่งมาเลยครับ” คุณคริช เทพบุตรหวานใจในมโนของฉันตอบกลับซูกัสด้วยน้ำเสียงทุ้ม หล่อ แบด ที่ทำให้ฉันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งที่เขาไม่ได้พูดกับฉันแต่ฉันก็ยังใจสั่นแล้วถ้าเขาพูดกับฉันฉันว่าฉันระทวยลงไปกองได้เลยนะคะ คนบ้าอะไรคาริสม่าแรงมาก
“นี่! เอาออนเดอะร็อคมาเสิร์ฟด้วย เร็ว ๆ ล่ะ” เสียงสำเนียงที่แตกต่างจากการคุยกับบุรุษเมื่อ 0.001 วินาทีเมื่อกี้หันมาพูดกับฉันประหนึ่งว่าแม่นางเป็นแขกโคตรซุปเปอร์วีไอพีของร้าน
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับแล้วก็ถอยออกมา เหอะ! ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในหน้าที่แล้วโดนพูดจาด้วยน้ำเสียงสันขวานแบบนี้นับเงินคนนี้จะเอาถาดเหล้าฟาดลงไปกลางหน้าให้โบท็อกสะเทือนเลย!
#NUB NGERN END
#KRICH TALK
“สวยว่ะ” ไอ้แทนหรือแทนคุณเพื่อนสนิทที่สนิทกันแค่ในวงเหล้าของผมหันมาคุยกับผมในทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปแล้ว
“เหรอวะ” ผมแกล้งหันไปถามมันด้วยน้ำเสียงกวนตีน แต่ต้องยอมรับว่ามากี่ครั้งพอเห็นพนักงานเสิร์ฟที่หน้าสดแต่สวยโคตร ๆ คนนี้ทีไรผมอยากจะลากเธอขึ้นเตียงทุกครั้ง
“เสียดายแค่เสิร์ฟ ถ้ามานั่งกูจะให้ 50 ดื่มตั้งแต่แรกเลยว่ะ” มันยังคงพูดต่อไม่หยุดแถมมองตามเธอคนนั้นโดยที่ไม่ได้เกรงใจน้องคนสวยที่นั่งข้างมันเลยสักนิด มันให้น้องเขาแค่ 10 ดื่มอยู่เลยแต่พูดว่าจะให้คนอื่น 50 ดื่มต่อหน้าต่อตา เลวฉิบหาย
“ให้น้องเขาไปมีอนาคตเถอะไอ้ห่า” ผมพูดกับมันแค่สั้น ๆ แล้วก็ยกเหล้าขึ้นกระดกหมดแก้ว วันนี้มีเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดใจเลยกะจะเมาให้เต็มที่
“มึงอย่าเมาหนักไอ้คริช กูขี้เกียจแบกกลับ” มันหันมาบอกผมแล้วก็เบนสายตาไปทางน้องคนสวยที่นั่งข้างมัน
“กูกลับเองได้น่า มึงจะไปกดสาวที่ไหนก็ไปเถอะ” ผมบอกมันแล้วก็หันไปคุยกับน้องซูกัสต่อ ผู้หญิงคนนี้อ้อนเก่ง รู้หน้าที่ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ผมก็เลยชอบเรียกมานั่งด้วยเป็นประจำ
“ออนเดอะร็อคค่ะ” ผมกำลังนั่งคุยกับซูกัสเพลิน ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมกับมองสบตากับผมเล็กน้อยแล้วก็รีบหลบสายตาด้วยความเขิน ซึ่งผมเจอปฏิกิริยาแบบนี้จากเธอหลายครั้ง ไม่ต้องฉลาดกูก็ดูออกครับว่าเธอคิดยังไง
เด็กน้อยใสซื่อแอบชอบผู้ชายแต่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เธอเป็นแบบนั้นนั่นแหละครับผมดูออก และถึงแม้ว่าเธอจะดูน่ากินแค่ไหนแต่พอเห็นแววตาใสซื่อของเธอผมก็เปลี่ยนใจไม่เข้าไปวอแวทุกครั้ง
แค่เห็นเธอมาทำงานเสิร์ฟโดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองสวยจนสามารถเป็นนางแบบหรือพริตตี้ที่หาเงินได้มากกว่าการเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มเป็นร้อยเท่าได้ผมก็ยิ่งไม่อยากไปทำให้เสียเด็ก ท่าทางคงเป็นเด็กดีอยู่พอสมควรแต่คงมาหารายได้พิเศษเท่านั้น เพราะฉะนั้นปล่อยน้องเขาไปดีกว่าครับ อนาคตที่สดใสอาจจะรอน้องเขาอยู่
“น้องคนเมื่อกี้หน้าตาเขาก็สวยนะซูกัสทำไมเขาถึงทำแค่งานเสิร์ฟล่ะ” ผมถามซูกัสในสิ่งที่สงสัยมานาน เพราะขนาดหน้าสดยังสวยถ้าลองได้แต่งตัวดี ๆ คงแซงซูกัสแบบไม่เห็นฝุ่น แต่ทำไมคนสวย ๆ ที่สวยธรรมชาติขนาดนี้ถึงได้มายอมเดินเสิร์ฟเหล้าทั้งคืนแบบนี้วะ
“พี่คริชไม่รู้เหรอคะว่าคนที่น่าสนใจถ้าทำตัวให้ตัวเองเข้าถึงยาก แต่ก็ยังตัวธรรมดาเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีคนสนใจมากขึ้น” ซูกัสมองตามหลังผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะหันมาบอกผมด้วยรอยยิ้มเหยียด
“ยังไง?” ผมมองซูกัสด้วยความสงสัย มันก็พอจะเข้าใจนั่นแหละครับ แต่ผมไม่อยากคิดไปเอง ซูกัสมองหน้าผมนิดหนึ่งก่อนที่เธอจะพูดออกมาช้า ๆ
“ก็...ยิ่งยากก็ยิ่งแพงไงคะ”
“ว่าไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม เราแต่งงานกันนะ” พี่คริชกอดฉันพร้อมกับจูบที่ผมแล้วก็พูดออกมา น้ำเสียงของเขามันมีแต่ความอบอุ่น ฉันอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยิน เฮียเร่งให้ตอบน้องก็อยากตอบ อยากตอบตั้งแต่เฮียพูดคำแรกแล้วแต่มันมัวแต่ตะลึงตื่นเต้นดีใจร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยไม่ทันได้ตอบไงคะ“แต่งค่ะ นับจะแต่งงานกับพี่คริช” ฉันตอบชัดถ้อยชัดคำ ไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตโชคดีเท่ากับการได้มีเขาคนนี้เข้ามาในชีวิตอีกแล้ว“ถ้างั้นก็มาปั๊มน้องรอเลยไหม~”“พี่คริช! หวานเกิน 10 นาทีก็ได้นะคะ” ฉันผละออกแล้วก็ตีเข้าที่แขนล่ำ ๆ ของพี่คริชด้วยความหมั่นไส้ เพิ่งตกลงก็จะชวนปั๊มลูกแล้ว ไม่เห็นใจจิตใจที่อ่อนไหวของฉันเลย“ฮ่า ๆๆ ไม่ปั๊มก็ได้ครับ ไม่อยากให้เมียกับลูกโดนคนนินทาเหมือนกัน ทำให้คนอื่นอิจฉาหนูที่มีสามีโคตรดีดีกว่า”“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณเหมือนกันครับที่รักพี่” พี่คริชส่งยิ้มมาให้แล้วก็เอามือปัดปอยผมไปทัดหูให้ช้าๆ หล่อ~ มองยังไงก็หล่อทั้งกายและใจ“ขอบคุณนับทำไมคะ มีแต่นับสิคะที่ต้องขอบคุณ ขอบคุณที่ให้อภัยนับ ขอบคุณที่ถึงนับจะทำตัวไม่น่ารักแค่ไหนแต่พี่คริชก็ไม่เคยทิ้งนับไปไหนเลย”“พี่ทำผิดกับหนูก่อนจำไ
เมียผมเป็นตัวร้าย! นอกจากความคิดความอ่านจะเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้วสกิลการยั่วยังก้าวกระโดด ตอนแรกที่ก้มหน้าลงมาจูบผมก็ไม่ได้ว่าหรอกนะครับ อยากจูบแฟนอยู่เหมือนกัน แต่ใครจะคิดว่าจะกล้าขนาดล้วงเข้าไปจับลูกชายของผมคลึงเล่นขนาดนั้น พอห้ามเหมือนทุกครั้งก็นึกว่าจะฟัง ที่ไหนได้ดันเอานมมายัดปากแทน แล้วผมจะปฏิเสธการดื่มนมก่อนนอนได้เหรอครับในเมื่อมันเข้าปากไปแล้ว เวลานี้สภาพสุดที่รักของผมก็เลยเละ ไม่ได้เละแค่เธอแต่หมายถึงผมด้วย ห่างหายการมีเซ็กส์ไปตั้งหลายเดือนมีแต่แม่นางทั้ง 5 ที่คอยช่วยพอไอ้นกเขาลูกรักได้กลับไปหาแม่มัน มันก็เลยคึกทั้งคืน กว่าจะสงบก็ปาไปเกือบสว่างยิ่งรักมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งแสดงออกไปเท่านั้น ใส่ไม่ยั้งไม่มีออมแรง เดี๋ยวน้องหาว่าผมรักน้อยลง อีกอย่างก็คือเอาให้สมกับที่กล้ามายั่วแล้วก็รุกผมก่อนซะหน่อยจุ๊บ!“อื้อ~ อย่าเพิ่งกวนค่ะ” ผมก้มลงไปจูบไหล่เนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มออกม แล้วก็ไล้จมูกตามไหล่ขึ้นไปหาต้นคอขาว ๆ แต่นับเงินกลับเอามือมาผลักหัวผมออก ยัยขี้เซาตัวแสบ“กล้าผลักหัวพี่เหรอ หืม~” ผมกระซิบถามข้างหู โคตรมันเขี้ยวเธอเลย ผู้หญิงบ้าอะไรวะสวยฉิบหาย ไม่ต้องแต่งหน้าก็หลงหัวปักหัวปำ
Line...แก๊งนางฟ้ากับเมียมโนMilan : พี่คริชทำแสบ!Mintra : ใช่ ใช่ไหม?Milan : ชัวร์! ไอ้บ้าแอลบอกมาWahn-Wahn : ฮือ~ หวานโดนคุณพอร์ชบ่นหูชา ยังบ่นไม่จบแต่หวานแกล้งปวดอึ๊วิ่งเข้าห้องน้ำก่อน T_TKaNom : พี่คริช! น้องนับแฟนหนูขี้ฟ้อง!Milan : คราวหลังนับเงินต้องหัดโกหกเฮียเขาบ้างนะลูก!!!!!Manny : เกิดอะไรขึ้นคะชะนี ผัวรู้ผัวเห็นแล้ว?Nub-nuB : ฮือ~ หนูผิดเอง ขอโทษนะคะแต่อย่าด่าเฮียเลย เฮียแค่ไม่อยากให้หนูไปManny : โอ๊ย สรุปชะนีอดทุกนางเพราะผัวรู้ทันแล้ว ลำไยพวกมีผัวหล่อ!Nub-nuB : คุณแม่อย่าว่าพี่คริชนะคะ ผิดที่หนูอ้อนไม่เก่งเอง T_TManny : ปกป้องผัวมากค่าMintra : สุดฤทธิ์ค่ะบอกเลย อิอิMilan : เป็นคนแรกในแก๊งที่ไม่โขกสับพ่อบ้านWahn-Wahn : เด็กดีของเฮียคริช ทีหลังอย่ารายงานทุกเรื่องนะลูกพี่หวานขอร้อง~KaNom : โกรธพี่คริชมากตอนนี้ อุตส่าห์หลอกพี่วินได้ T_TNub-nuB : ฮือ~ หนูผิดเอง อย่าว่าพี่คริช หนูรักของหนู หนูไม่อยากโกหกเฮีย หนูขอโทษนะคะกลุ่มไลน์ร้อนเป็นไฟเพราะความหวังดีของเฮียที่กลัวน้องจะอดไปนั่งเม้าท์กับเจ้ ๆ อยู่คนเดียวเลยทำให้พวกอาเฮียหนุ่มหล่อที่เหลือรู้ทันแผนของบรรดาเมีย จั
ชีวิตนับเงินหลังจากโดนแทงจนต้องไปนอนแอ้งแม้งในโรงพยาบาลก็จะงง ๆ หน่อยนะคะ โดนลดสถานะก็เลยวางตัวไม่ถูก ไม่ได้วางตัวลำบากกับเฮียนะคะ แต่มันยังงง ๆ ว่าต้องวางตัวแบบไหน นี่ก็ผ่านมา 1 เดือน หมดเวลาพักฟื้นและย้ายจากบ้านพี่คริชมาอยู่ที่คอนโดแล้วเพราะต้องกลับไปฝึกงานฉันกลับมาอยู่ที่คอนโดเหมือนเดิมค่ะ นอนห้องเดิมที่แตกต่างไปจากเดิมก็คือพี่คริชย้ายไปนอนอีกห้อง ตอนที่พักฟื้นที่บ้านใหญ่พี่คริชก็ไปนอนเฝ้า นอนที่โซฟาในห้องเขานั่นแหละ คนอะไรบทจะใจแข็งก็หักดิบได้สุด ๆ ไปเลย จากที่เคยหื่นตลอดเวลากลับกลายเป็นเหมือนคนตายด้านพี่คริชทำมากที่สุดแค่กอด หอม จุ๊บแก้ม จุ๊บปาก แต่ถ้าน้องนับเงินคนนี้เกิดคิดใจกล้าบ้าบิ่นจะไปจูบปากนุ่ม ๆ ของเฮียก็จะโดนมือผลักหัวให้ไสหัวไปไกล ๆ ในทันที รู้สึกวางตัวลำบากกับเรื่องนี้มาก ๆ อยากจูบ อยากนอนกอดแต่เฮียไม่อนุญาต T_T“อ้าว! ยังไม่นอนอีกเหรอครับ” พี่คริชเปิดประตูออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพกางเกงนอนขายาว และอกแกร่งที่เปลือยเปล่าแถมผมที่เพิ่งสระมันเปียกหมาด ๆ ยิ่งเพิ่มความเซ็กซี่ให้เฮียเป็นล้านเท่าตัว“ออกมาดื่มน้ำค่ะ พี่คริชล่ะคะ” ฉันตอบพี่คริชแล้วก็พยายามไม่มองไปที่หุ่นทรมานใจ
“ร้องไห้ทำไมเจ็บแผลเหรอครับ หรือว่าเสียใจเรื่องไอ้อาร์ต”“...เปล่าค่ะ แค่เจ็บแผล” พอเห็นความเย็นชาจากพี่คริชนับเงินคนนี้ก็เลยต้องรีบเช็ดน้ำตาป้อย ๆ แล้วก็รีบตอบอย่างรวดเร็ว“ให้เรียกหมอให้ไหม” พี่คริชเดินมาหยุดที่ข้างเตียงแล้วก็มองหน้าฉันแบบที่ไม่หลงเหลืออารมณ์พิศวาสใด ๆ ในสายตา ขอพับเก็บการขอโอกาสจากเฮียเลยแล้วกันนะคะเพราะดูทรงเฮียคงไม่มีอารมณ์มาฟังนับเงินอ้อนวอนขอโอกาสหรอก“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหมอก็ให้ยาแก้ปวดหลังอาหาร” ฉันตอบพี่คริชแล้วก็ส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้ ไม่รู้จะวางตัวยังไง อยู่ในสถานะแฟนเก่าที่อยากกระโดดกอดเฮีย อยากกอด อยากจุ๊บแต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ขนาดจะมองหน้าสบตาที่คุ้นเคยยังไม่กล้าเลย...“ครับ จะกินข้าวเลยไหม คุณแม่ให้คนทำอาหารมาให้ ขนมไปบ่นว่าอาหารโรงพยาบาลไม่น่ากิน เมื่อกี้เขาเอาอาหารมาเสิร์ฟพอดีแต่พี่ให้เอากลับไปแล้วล่ะ” พี่คริชถามฉันแล้วก็หันหลังเดินไปตรงเค้าเตอร์ก่อนที่จะหยิบกล่องอาหารออกมา“ค่ะ ทานเลยก็ได้ค่ะ” ฉันพยักหน้าอย่างว่าง่าย เลิกดื้อไปเลยค่ะ ไม่เอาแล้วจริง ๆ เข็ด ถึงเขาจะไม่รักแล้วก็จะเลิกดื้อ จะเปลี่ยนนิสัยของตัวเองฉันนั่งกินอาหารที่มาจากบ้านพี่คริชเงียบ ๆ
“ไหนมาคะอีแมนนี่”“ไปจัดการอีเกย์ไร้คุณธรรมนำจิตใจมาค่ะ อีอาร์ตี้นั่นแหละกูจัดหนักให้แล้ว”“อีแมน! มึงไปทะลวงมาเหรอ”“แมนนี่ค่ะอีมิ! อีผี! แล้วใครว่ากูจะไปทะลวงมัน กูสาวรับค่ะ! หรือต่อให้กูรุกกูก็ไม่เอาเวอร์จิ้นของกูไปเปื้อนราคีมันหรอก!” สวัสดีค่ะลูกสาวทุกคน นี่คุณแม่เองค่ะ คุณแม่แมนนี่คนดีหน้าหล่อหุ่นแมนแต่ใจเป็นหญิง หญิงทั้งสี่ห้องหัวใจเองค่ะลูกสาว“แล้วมึงไปจัดการมันยังไง” อีมิลานคนดี อีชะนีที่ปากหมาที่สุดในกลุ่มถามขึ้นอีกครั้ง แต่นังลูกสาวที่เหลือก็ทำหน้าเหมือนว่าเปิดต่อมรับรู้ทุกอณูในร่างกายเอาไว้แล้ว ยกเว้นลูกนับคนงามของคุณแม่ที่นอนแอ้งแม้งไม่ยอมตื่นคนเดียวที่ดูจะไม่อยากรู้อยากเห็นกับเรื่องนี้“ที่จริงกูไม่ได้ไปจัดการหรอกแค่ไปแอบดูพี่คริชจัดการ สยองมากค่ะกูบอกเลย” คุณแม่ตอบยัยพวกชะนีน้อยแล้วก็ทำหน้าผะอืดผะอม คิดแล้วสยองไม่หาย“ยังไงคะพี่แมนนี่” ยัยลูกหวานคนสวยชะโงกหน้ามาถามก่อนใคร“ก็เริ่มจากไปพลิกฟ้าตามจิกหัวมันมาภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมง แล้วก็จับมันขึง 4 มุมเมือง เสร็จแล้วก็กรอกยาปลุกเซ็กส์ชนิดต้องการมีผัว 10 คนใน 5 นาทีให้มัน แล้วก็ปล่อยมันมันทุรนทุรายร้องโหยหวนต้องการราคะตั้ง
“ทำไมคุณคริชถึงมาส่งนับ”“คะ? อะไรนะคะ”“จะถามซ้ำทำไมในเมื่อได้ยินชัด! ทำไมคุณคริชถึงมาส่งนับ!”“พี่อาร์ตเป็นอะไร ออกไปนะคะ”“ตอบสิ! เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วเขามาส่งนับทำไม อยากให้พี่คลั่งใช่ไหม!”“พี่อาร์ต...พี่อาร์ตอย่า! กรี๊ด!!!”ฉันกรี๊ดออกมาลั่นบ้านเพราะพี่อาร์ตตรงเข้ามากระชากแขนฉันเต็มแรง“พี่อาร์ตจะทำอะไรคะ” ฉันถามด้วยความกลัวลนลานไปหมดเพราะไม่รู้ว่าพี่อาร์ตต้องการกันแน่“ไปยุ่งวุ่นวายกับคุณคริชอีกทำไม เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ! แล้วจะไปวุ่นวายกับเขาอีกทำไม!”“พี่อาร์ตปล่อย!” ฉันไม่ตอบคำถามเพราะมันไม่ใช่เรื่องของพี่อาร์ตสักหน่อย ตอนนี้ฉันโกรธมากกว่าที่เขาเข้ามาอาละวาดฟาดงวงฟาดงาใส่ฉันเพี๊ยะ!“...พี่อาร์ต~” ฉันโดนพี่อาร์ตตบจนล้มลงไปกองที่พื้น ฉันหันกลับไปมองพี่อาร์ตช้า ๆ ทั้งงงทั้งกลัวไปหมดแล้ว“พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าพี่พลาดโอกาสจากความรักมาแล้วครั้งหนึ่งแล้วพี่ก็จะไม่ยอมพลาดอีกครั้ง!” ไม่ใช่การหึงฉันแน่นอน ไม่มีทาง ฉันมั่นใจว่าพี่อาร์ตไม่ได้คิดเกินเลยกับฉัน ไม่อย่างนั้นพี่เขาไม่หายไปเลยตอนที่ฉันโสดหรอก นอกซะจาก...“พี่อาร์ตชอบพี่... / ไม่ได้ชอบแต่กูรัก!” ฉันยังถามไม่จบพี่อาร์ตก
“อย่าให้ผมเห็นพวกคุณสองคนมาทะเลาะกันที่บริษัทผมอีก ไม่งั้นผมจะแจ้งมหาลัยของพวกคุณแล้วส่งตัวกลับ!”ฉันยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเพราะไม่มีแรงจะทำอะไร ส่วนซิลเวียร์ก็รีบเผ่นไปตั้งแต่ที่พี่คริชพูดจบแล้ว“น้องนับ”“พี่ขนม...ฮึก” ฉันหันไปตามเสียงที่เรียกชื่อถึงได้เห็นว่าเป็นพี่ขนมที่ยืนมองฉันอยู่ พอเห็นพี่ขนมเท่านั้นฉันก็กลั้นสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” พี่ขนมรีบเดินเข้ามากอดฉันเอาไว้แล้วก็ปลอบพร้อมกับลูบหัวฉันไปด้วย มันเจ็บมากนะคะ เจ็บจนไม่รู้จะทำอะไรนอกจากกอดใครสักคนเอาไว้#NUB NGERN END#KRICHB TALKใครคิดว่าคนที่เย็นชาจะไม่เจ็บ ผมโคตรเจ็บเลยที่เห็นเธอโดนทำร้าย โคตรโกรธที่ซิลเวียร์กล้าทำร้ายคนดีของผม ยิ่งเห็นเลือดที่มุมปากผมยิ่งอยากเข้าไปกอดเธอให้แน่นที่สุดแล้วถามว่าเจ็บมากไหม ขอโทษที่ปล่อยให้คนอื่นกล้ามาทำร้ายเธอแบบนี้แต่จะให้ผมเสนอตัวไปทำแบบนั้นด้วยสถานะไหน?ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด“อืมว่าไง”(ไปผับไอ้ตินไหมเฮีย)“ไม่ว่ะ เหนื่อยวันนี้ประชุมทั้งวัน ไม่ต้องมากวนเฮียด้วยเฮียอยากนอน” ไอ้เควินโทรมาชวนผมให้ออกไปเปิดหูเปิดตาแบบนี้หลายครั้งแล้วแต่ผมไม่อยากไป บางครั้งพอผมปฏิเสธมันก็เป็นฝ่าย
“อย่าพูดเหมือนจะเลิกกับพี่นับเงิน”“พี่คริชก็น่าจะรู้ว่าที่นับพูดมามันหมายความว่ายังไง แต่ถ้าไม่อยากสรุปเอาเองก็ใช่ค่ะ เราเลิกกัน ถ้าโกรธจะฆ่านับให้ตายตอนนี้ก็ทำได้เลย แต่รู้เอาไว้นะคะไม่ว่าพี่คริชจะทำยังไงกับนับ นับก็ไม่มีวันกลับไป”ฉันพูดจบแววตาของพี่คริชก็ลดความแข็งกร้าวลงกลายเป็นสั่นไหว พร้อมกับความเจ็บปวดที่มันออกมาทางสายตานี่ฉัน...พูดบ้าอะไรออกไป“พี่คริช.../ หึ! ตลกว่ะนับเงิน” พี่คริชแค่นยิ้มออกมาก่อนที่จะมองฉันแค่เสี้ยววินาทีเดียวแล้วเขาก็หันหลังให้ฉันทันที“พี่คริช นับ... / พี่เคยบอกว่าจะไม่ปล่อยมือเราเด็ดขาด ยกเว้นเราจะเป็นคนปล่อยมือพี่เองนับเงิน” พี่คริชหยุดนิ่งตอนที่ฉันเรียกชื่อเขาอีกครั้งพร้อมกับคำพูดประโยคนี้ที่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดฉันไม่กล้าเรียกเขาอีกครั้งได้แต่มองเขาเดินออกไป ค่อย ๆ ไกลออกไปทีละนิด จนตอนนี้ฉันมองไม่เห็นเขาแล้วฉันทำอะไรลงไป ฉันปล่อยให้ความโกรธที่เขาหึงหวงฉันเพราะรักฉันมากมาเป็นต้นเหตุทำให้เราต้องเลิกกัน ทั้งที่พี่คริชพยายามบอกให้ฉันกลับห้องอยู่หลายครั้ง ความจริงถ้าฉันค่อย ๆ พยายามขอร้องเรียกสติพี่คริชให้เขาเย็นลงมันก็ทำได้ แต่ฉันกลับเลือกที่
Comments