เข้าสู่ระบบหลังจากไปสูบบุหรี่เสร็จ ฟรินท์ก็เดินเข้าไปในห้องวีไอพี คราวนี้ไม่ได้มีแค่เพื่อนสนิทสองคนที่นั่งอยู่ แต่มีหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ในห้องนี้ด้วย น่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟที่ธันเดอร์เรียกมาให้บริการชงเหล้าเหมือนทุกครั้ง
“ไปบริการเพื่อนพี่หน่อยครับ วันนี้มันเครียดเรื่องงาน”ไทเกอร์สะกิดหญิงสาวชุดเกาะอกสีแดงให้พร้อมพยักเพยิดใบหน้ามาทางเขา ซึ่งเขาก็ถลึงตาใส่เพื่อนทันที เพราะทุกครั้งเขาไม่ชอบให้ผู้หญิงที่เพื่อนเรียกมาถึงเนื้อถึงตัวเขา “เหอะน่า มึงจะถือศีลหรือไงว่ะ กูเห็นไม่ยุ่งกับใครมานานแล้วนะ ทำอย่างกับ….” “ทำอย่างกับอะไร?”ธันเดอร์ถามต่อทันที เมื่อเห็นไทเกอร์เว้นจังหวะการพูด “ทำอย่างกับมึงมีใครในใจอยู่แล้ว” “มึงก็รู้กูไม่ชอบ พวกมึงชอบก็พอดีแล้วนี่หว่าคนละคนไงว่ะ” เขาเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม แต่ทว่าขนาดเขาพูดไปแบบนั้นแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ยังเดินมานั่งลงใกล้กับเขา เธอยิ้มทักทายเขาพร้อมกับทำท่าทางยั่วยวน “พี่ชื่ออะไรคะ” “จะอยากรู้ไปทำไมครับ” “หนูจะได้เรียกถูกไงคะ” “ฉันไม่ชอบให้ใครเรียกนอกจากคนที่สนิท ไม่รู้จักก็ไม่ต้องเรียกเข้าใจไหม”เสียงทุ้มห้วนบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจ ทำให้หญิงสาวคนนั้นหน้าหงอไปทันที จากที่จะมาผูกมิตรด้วยเลยได้แต่นั่งเงียบ ไทเกอร์ที่เห็นอาการของเพื่อนทุกอย่าง ก็ขมวดคิ้วสงสัยอย่างหนัก อันที่จริงเขาก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมเพื่อนถึงไม่ค่อยสนใจผู้หญิงคนไหน แนะนำใครให้รู้จักก็ปฏิเสธเสียหมด แล้วอาการหงุดหงิดวันนี้ของมันก็ไม่ปกติเอามาก ๆ บุหรี่เลิกสูบไปนานแล้ว ก็ยังกลับมาสูบ ถ้าไม่ได้มีอะไรก่อกวนใจมันจริง ๆ เขาคิดว่ามันไม่น่าจะกลับไปสูบอีกแล้ว ถึงจะบอกว่ามวนเดียวก็เถอะ “มีอะไรกวนใจมึงนักหนาว่ะ กูเห็นมึงดูไม่ปกติตั้งแต่อยู่ที่สนามแข่งแล้ว” “เรื่องงานนิดหน่อย เมื่อเช้ากูไปทำงานสายแล้วโดนพ่อด่าว่ะ” เขาแกล้งยกเรื่องนี้ขึ้นมาบอก เพื่อให้เพื่อนเลิกสนใจอาการของเขา ตอนนี้มันแน่นในอกไปหมดแล้ว ไหนจะเรื่องที่ต้องปิดบังเพื่อน ไหนจะเรื่องที่เขากำลังคิดมาก บางทีก็นึกอยากให้เพื่อนรู้เหมือนกัน จะรู้วิธีไหนก็ช่าง อยากรู้เหมือนกันว่าหากทุกคนรู้ เรื่องของเขากับเรนเดียร์จะเป็นยังไง “คิดไรมากว่ะ พ่อมึงก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ว่าแต่ทำไมมึงถึงไปทำงานสาย เมื่อคืนก็ไม่ได้ออกมาดื่มกันนี่หว่า” “กูดูหนังเพลินไปหน่อย เผลอแปบเดียวตีสามว่ะ” “เออกูก็เคยเป็น”ธันเดอร์เออออไปด้วย เพราะเชื่อเรื่องที่เพื่อนเล่าเต็มอก เป็นแบบนี้ทุกครั้ง หากเขาต้องโกหกเรื่องนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจทุกทีที่ต้องทำแบบนี้ มันเหมือนกำลังทรยศความไว้ใจของเพื่อนสนิท ส่วนเรนเดียร์ตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่บนที่นอน ในมือถือโทรศัพท์เปิดเฟซบุ๊กไถฟีดไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่ดวงตากลมโตจะชะงักที่โพสต์ล่าสุดของธันเดอร์เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ในภาพเป็นการนั่งดื่มเหล้ากันปกติ คนในภาพก็ล้วนแต่เป็นคนที่เธอสนิทสนมคุ้นเคยดีทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่เพิ่งส่งข้อความหาเธอก่อนหน้านี้ "ที่แท้ก็ไปนั่งกินเหล้าอยู่นี่เอง แล้วดูสิ..." เสียงหวานหยุดชะงักพร้อมกับภาพที่ฟรินท์นั่งข้างผู้หญิงคนหนึ่ง มองดูการแต่งตัวก็รู้ว่าเป็นเด็กนั่งดริ้งผับธันเดอร์ นึกแล้วก็โมโหที่เมื่อกี้อยากจะมาหาเธออยู่เลย พอบอกว่าประจำเดือนมาเท่านั้นแหละ รีบตอบกลับมาทันทีว่าไม่มาดีกว่า ไม่ใช่ว่าที่ไม่มาหาเธอ เพราะมีที่ลงคืนนี้แล้วหรอกนะ คิดแล้วมือบางก็ดึงแผ่นมาร์คปิดหน้าออกทันที พยายามหายใจเข้าออกลึก ๆ และคิดว่าเธออาจจะคิดมากไปเอง จากการที่อยู่ใกล้ชิดกับเขามานาน ฟรินท์ไม่เคยมีนิสัยเจ้าชู้หรือกินไม่เลือกแบบนั้น แต่แล้วทำไมเธอต้องมาเห็นภาพอะไรแบบนี้ตอนที่กำลังจะนอนด้วย มันทำให้เธอนอนไม่หลับ กระวนกระวายใจแบบนี้ เมื่อเห็นว่าการจะนอนสงบนิ่งแบบนี้ไม่เป็นผล เลยตัดสินใจโทรหาอีกฝ่ายทันที ซึ่งก็รอไม่นานปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงแปร่งเล็กน้อย น่าจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ "นายอยู่ไหนฟรินท์" (ผับไอ้ธัน) เรนเดียร์ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างโล่งอก อย่างน้อยเขาก็ไม่คิดโกหกเธอเรื่องนี้ "ทำไมยังไม่กลับคอนโด พรุ่งนี้ไม่ทำงานหรือไง" (ก็ไม่มีใครรออยู่ที่คอนโด จะรีบกลับไปทำไม) "ฉันว่านายเริ่มเมาแล้วนะ นอนกับธันไปเลย ไม่ต้องขับรถกลับคนเดียวนะ" (ตกลงเธออยากให้ฉันกลับ หรือไม่อยากให้กลับกันแน่ ฉันจะได้ทำให้ถูกใจเธอ) คำพูดที่ออกมาฟังดูเหมือนคนเมาธรรมดา แต่ทว่าหญิงสาวจับความรู้สึกเขาได้ว่าเหมือนกำลังน้อยใจอะไรบางอย่างอยู่ หรือเพราะที่ไปดื่มเหล้าจนเมามาย เพราะกำลังคิดมากเรื่องของเธออีกแล้ว "ฉันเป็นห่วงนะถึงได้พูด ไม่ได้บังคับให้นายทำตามใจตัวเอง หรือที่ผ่านมานายคิดว่าฉันบังคับฝืนใจนายมาตลอด" (ไม่เคย...เธอไม่เคยบังคับฝืนใจฉัน เป็นฉันเองที่อยากอยู่กับเธอแบบนี้เรน เป็นฉันเองที่เริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการที่ต้องโกหกคนอื่นอีกแล้ว) คนตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันแน่น เมื่อได้ยินประโยคตัดพ้อของคนเมา นึกสงสัยว่าตอนนี้เขากำลังคุยโทรศัพท์ตรงส่วนไหนของผับ เพราะเธอไม่ได้ยินเสียงเพลงของผับเลย ได้ยินแค่เสียงหายใจฟึดฟัดของปลายสายเท่านั้น (เรื่องรีสอร์ทที่ระยอง ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอจะต้องเป็นคนไปดูแลที่นั่น ทั้ง ๆ ที่ฉันจะเป็นคนสร้างให้เธอแท้ ๆ แต่กลับต้องมารู้จากปากคนอื่น) "ฉันยังไม่ได้ตกลงพ่อไปนะ ถึงวันที่สร้างเสร็จ ฉันอาจจะไม่อยากไปอยู่ที่นั่นก็ได้ มันยังอยู่ในช่วงของการตัดสินใจนะฟรินท์" ที่แท้เขาก็คิดมากเรื่องนี้ เธอยังไม่ได้ตัดสินใจจริง ๆ เสียหน่อย ยังบอกกับคนเป็นแม่ไปว่าเธอรับผิดชอบให้ได้โครงการนี้ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปบริหารที่นั่น "เพราะเรื่องนี้เหรอ นายถึงเอาแต่พูดประชดประชันฉัน" เสียงปลายสายเงียบไปไม่ตอบอะไร เรนเดียร์เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู และมองดูหน้าจอยังเห็นเวลาการโทรขึ้นอยู่หน้าจอ หรือว่าเขาจะเมาจนหลับไปแล้ว เลยคิดจะกดวางสาย แต่ทว่าได้ยินเสียงเรียกขึ้นมาเสียก่อน (เรนเดียร์) "หืม" (เธอรู้หรือเปล่าว่าฉันรักเธอ) คราวนี้เป็นเธอบ้างที่เงียบไป หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วเมื่อได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากของเขา ที่ผ่านมาจะบอกว่าเธอไม่รู้ว่าฟรินท์รู้สึกยังไงกับเธอ ก็คงจะกลายเป็นคนโง่เต็มที ก็เขาแสดงออกชัดเสียอย่างนั้น เพียงแต่เขาไม่เคยบอกกับเธอตรง ๆ แบบนี้มาก่อน และเธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเมื่อได้ยินประโยคนี้แล้วเธอจะมีความรู้สึกดีใจที่เธอไม่ได้คิดไปเองว่าเขามีใจให้กับเธอ "ฟรินท์ นายยังอยู่หรือเปล่า?" เสียงเงียบไปแล้ว ได้ยินเพียงเสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ เป็นไปได้ว่าเขาน่าจะเมาหลับไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเป็นกังวลว่าเขากำลังเมาหลับอยู่ตรงส่วนไหนของผับ เลยตัดสินใจโทรหาไทเกอร์แกล้งทำเป็นถามว่าอยู่ที่ไหนกัน ได้คำตอบว่ายังอยู่ที่ผับ "แล้วคนอื่นล่ะ" (ไอ้ธัญก็นั่งกับผมนี่แหละ แต่ไอ้ฟรินท์ออกไปคุยโทรศัพท์นานแล้วนะ ไม่เห็นมันเข้ามาสักที) "ไม่ใช่ว่าไปเมาหลับอยู่แล้วเหรอ ทำไมนายไม่ดูเพื่อนให้ดีเกอร์" คิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าต้องไปเมาหลับอยู่ตรงไหนแน่นอน ดีนะที่เธอโทรหาน้องชาย ไม่งั้นจนผับปิดก็คงไม่มีใครรู้ คอยดูเถอะพรุ่งนี้เธอจะบ่นให้หูชาเลย โทษฐานเมาแล้วทำตัวเรี่ยราดเมื่อจัดท่าสำหรับให้นมเสร็จ เรนเดียร์ก็จับเต้าอวบ เอายอดอกไปสกิดตรงปากเล็กของลูกน้อย จนรันเวย์อ้าปากอมเข้าไปในปากและเริ่มดูดทันที ช่วงแรกเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบ แต่ทว่าพอผ่านไปสักพักก็รู้สึกดีขึ้น ลูกชายของเธอดูดนมแรงและเร็วมาก ทำให้เต้าอวบอีกข้างมีน้ำนมไหลหยดออกมาด้วย “ให้เฟรย่าดูดด้วยได้ไหม”เรนเดียร์พยักหน้าตอบ ฟรินท์รีบไปอุ้มลูกสาวที่เพิ่งตื่นและกำลังส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา เขาจัดท่าทางใหม่ให้ลูกแฝดทั้งสองคนสามารถดูดนมแม่ได้คนละข้าง ภาพที่เห็นทำเอาเขาเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เดินเข้าไปจับหัวเล็กของเธอลูบผมนุ่มเบา ๆ และกดจูบลงไปบนหน้าผากทันที “ฟรินท์รักเรนนะครับ” “เป็นอะไรอ่ะ ทำไมร้องไห้” น้ำตาของชายหนุ่มไหลออกมาไม่รู้ตัว อันที่จริงมันก็ไหลตั้งแต่เขาเห็นหน้าลูกในห้องผ่าตัดแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนั้นมีหมอพยาบาลอยู่หลายคน เขาเลยต้องสะกดกลั้นเอาไว้ และมาบ่อน้ำตาแตกตอนนี้ “ดีใจที่เรนมีลูกกับฟรินท์” “เรนก็ดีใจเหมือนกันที่ฟรินท์เป็นพ่อของลูกเรน” หนึ่งปีผ่านไป ตอนนี้ลูกแฝดชายหญิงของฟรินท์และเรนเดียร์อายุหนึ่งขวบกับสองเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีของคนเป็นพ่อแม่ ที่จะจัดงานแต่งงานในวัยที่ลูกน้อ
“ว้ายย! ดูขนตาสิพี่เพลิง ขนตายาวเหมือนตาฟรินท์เลยค่ะ” “แต่พี่ว่าปากเหมือนเรนเดียร์นะปิ่น ดูสิ” “แต่ตาคนน้องเหมือนตาฟรินท์นะคะ” เพลิงและเสือส่ายหน้าออกมาพร้อมกัน เมื่อคุณย่าและคุณยายกำลังเห่อหลานอย่างหนัก ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องพักฟื้นของเรนเดียร์ที่เพิ่งผ่าคลอดคู่แฝดชายหญิงและยังนอนเพลียจากฤทธิ์ยาสลบยังไม่ฟื้น ส่วนฟรินท์คุณพ่อของแฝดน้อยกำลังนั่งคุยกับเพื่อนสนิทสองคนคือไทเกอร์และไทก้าที่มีศักดิ์เป็นคุณน้าของสองแฝด “หุบยิ้มบ้างก็ได้สัดฟรินท์” “ตั้งแต่กูได้เห็นหน้าลูก กูไม่อยากหุบยิ้มเลยว่ะ” “สัดเอ้ยย!! คลั่งรักเมียจนพวกกูอ้วกแตกไม่พอ ยังคลั่งรักลูกอีก” “ไว้มึงมีเมีย มีลูกมึงก็จะเข้าใจเองแหละว่ะ ว่าพวกเขาเป็นเหมือนหัวใจของมึง” “แหวะ!! เลี่ยนฉิบหาย”ไทเกอร์ทำท่าทางโก่งคออาเจียนล้อเลียนอาการคลั่งรักของเพื่อน นับวันจะยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนเคยคิดว่าอาจจะเพราะเมื่อก่อนปิดบังคนอื่นเลยหวานกันได้ไม่เต็มที่ แต่ที่ไหนได้ผ่านมาปีกว่าแล้วก็ยังหวานเลี่ยนกันเหมือนเดิม “แล้วเพื่อนรักมึงไปไหนว่ะ”ไทก้าถามถึงธันเดอร์ ปกติเรื่องสำคัญของฟรินท์แบบนี้มันจะไม่พลาดมาอย่างทันที “คงนอนไม่ตื่น กูโ
"อื้อ~ อย่าทำแบบนั้น มะไหว อ๊าสส ฟรินท์" เรนเดียร์ร้องครางดังลั่น มือเล็กที่กอบกุมเอ็นร้อนของเขาสั่นเทา เมื่อเขาแหย่ลิ้นเข้ามากวาดต้อนน้ำหวานสีใสในโพรงอ่อนนุ่ม นิ้วเรียวแหวกกลีบอวบอูมของเธอออกจากกัน ก่อนจะใช้นิ้วสะกิดตรงติ่งเสียวของเธอถี่รัว จนเรนเดียร์ส่ายสะโพกดิ้นเร่า ๆ ร่างกายจิกเกร็งตั้งแต่ช่วงบนไปจนถึงปลายเท้า "อย่าขี้โกงเรนเดียร์" ฟรินท์เอ่ยเสียงแหบพร่าออกมา เมื่อมือบางเอาแต่จับเอ็นร้อนไว้แบบนั้นโดยไม่ทำอะไร เรนเดียร์เลยจำต้องอ้าปากอมแก่นกายใหญ่เอาไว้ในปาก ขบเม้มส่วนปลายหัวบานไปพร้อมกับสาวรูดส่วนโคนไปด้วย "ซี้ดด เร็วเลยเมีย" คนตัวสูงเร่งเร้าจังหวะ ลิ้นร้อนตวัดปากทางรักระรัว ขยี้เน้นย้ำตรงจุดเสียวซ่าน ไปพร้อมกับเรนเดียร์ที่ผงกหัวเล็กขึ้นลงกลืนกินท่อนเนื้อแดงก่ำเข้าออกไปพร้อมกัน ทั้งสองคนครางอื้ออึงในลำคอ เสียวกระสันอย่างที่สุด แต่ทว่ายังคงปรนเปรอส่วนกลางกายของอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร อุณหภูมิในห้องเพิ่มระดับขึ้น โดยเฉพาะฟรินท์ที่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก่อนหน้าทำให้เลือดลมสูบฉีดอย่างหนัก ความร้อนแผ่ขยายออกมาจนคนตัวเล็กสัมผัสได้ เมื่อความกระสันพุ่งสูงขึ้น ร่องรักก็ขมิบตอดรัดลิ
“หมายความว่าไงเรน” เรนเดียร์ก้มหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อคลายความประหม่า ตอนนี้เธออยากจะบอกความจริงทุกอย่างกับเขา ทุกความรู้สึกที่ผ่านมาของเธอ “หมายความว่าฉันชอบนายก่อนหน้านั้น” “จริงเหรอเรนเดียร์” เธอพยักหน้า“ฉันมีเรื่องเล่าให้นายฟัง” “…..” “ตอนเด็ก ๆ ฉันเอาแต่แอบมองเพื่อนน้องชายคนหนึ่งมาตลอด เขาชอบมาเล่นเกมส์กับน้องชายฉันที่บ้าน และมักจะมาเป็นเพื่อนคุยเวลาฉันนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่คนเดียว หลังจากนั้นเสาร์อาทิตย์ ฉันก็จะคอยมองหาเขาคนนั้น เพราะอยากให้เขามานั่งคุยกับฉัน จนถึงวันที่ฉันเข้าเรียนมหาลัย เราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ทว่าเขาก็ยังมาเรียนมหาลัยเดียวกับฉัน ถึงจะคนละคณะ แต่เพราะน้องชายของฉันทำให้เราได้เจอกันบ่อย ๆ” “…..” “คืนนั้นตอนงานวันเกิดไทเกอร์ ฉันไม่ได้เมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฉันตั้งใจ” “เรนเดียร์” ฟรินท์พูดออกมาเหมือนละเมอ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอรู้สึกแบบนั้นกับเขาจริง ๆ แต่ก็แอบสงสารที่เธอเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนานขนาดนี้ “แต่ตอนนั้นที่ฉันไม่ยอมให้นายรับผิดชอบก็เพราะรู้ว่านายไม่ได้คิดอะไรกับฉันจริง ๆ ฉันเห็นแก่ตัวยื่นข้อเสนอเอาแต่ใจตัวเองกับนายไป เพราะอย
“ไม่โกหกจะได้เห็นหน้าเรนตอนนี้เหรอลูก รักเขาแต่ก็ปากไม่ตรงกับใจ” “นั่นมันเมื่อก่อนค่ะ ตอนนี้ปากตรงกับใจแล้ว”เรนเดียร์ยักคิ้วและขยับเข้าไปควงแขนคนที่เพิ่งเดินมายืนข้างเตียงเธอ ด้วยท่าทางงง ๆ “โอ้ยยย พี่เรนพอเถอะ ผมจะอ้วก แม่ไม่น่าปลุกผมมาฟังอะไรแบบนี้ตอนเช้าเลยนะครับ” ไทเกอร์ทำท่าทางขนลุกและโก่งคอจะอ้วกออกมา ทุกคนในห้องเลยหัวเราะออกมากับท่าทางนั้น “เรื่องแต่งงานจะเอายังไง จะแต่งเลยหรือเปล่า”เพลิงถามออกมา เขาอยากให้ทั้งสองคนได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่วนเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างอยู่แล้ว ขอเพียงลูกบอกมาว่าต้องการแบบไหน ฟรินท์หันมาเลิกคิ้วถามเรนเดียร์ เขาเองก็อยากตามใจเธอในเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนี้เธออยากทำอะไรเขาไม่ห้ามความคิดเธอทั้งนั้น แค่เขาได้อยู่เคียงข้างเธอตอนนี้เขาก็ดีใจที่สุดแล้ว “เรนอยากให้ลูกคลอดก่อนได้ไหมคะ อยากให้ลูกได้อยู่ในงานแต่งของพ่อกับแม่ด้วย” “ช้าไปไหมลูก กว่าลูกจะโตจนรับรู้ได้ ไม่ปาเข้าไปสามสี่ปีเหรอเรน” “จดทะเบียนไว้ก่อนไงค่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรนไม่เคยอายใครนะคะ และดีใจที่กำลังจะมีลูกด้วย เรนเรียนจบมีงานทำแล้วนะคะ ใครจะนินทาหรือพูดยังไงก็ช่างค่ะ แค่อยากถามฟรินท์ว
“เธอไม่คิดถึงฉันเหรอ”เมื่อหญิงสาวเอามือมาจับสาบเสื้อเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาถอดมันออก ก็เลยต้องทำหน้าตาน่าสงสารเพื่อให้เธอเห็นใจ “คิดถึงสิ แต่ที่นี่มันโรงพยาบาลนะ” “นี่มันห้องส่วนตัวนะเรน ใครจะเข้ามาได้ถ้าเราล็อกประตู” “เอ่อ…”เรนเดียร์ทำท่าทีลังเล ใจหนึ่งเธอก็คิดถึงเขาจริง ๆ แต่อีกใจก็ยังค้านอยู่ในใจว่าจะดีเหรอที่เราสองคนจะทำอะไรกันในห้องพักผู้ป่วยแบบนี้ มันจะเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่หรือเปล่า “ยิ่งเธอคิดนาน ยิ่งเสียเวลานะเรนเดียร์” “แค่รอบเดียวนะ”เรนเดียร์อ้อมแอ้มตอบ พร้อมกับหลบสายตาคมของเขา ซึ่งร่างสูงของฟรินท์ก็กระโจนเข้าใส่เธอทันที ราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหยจนเธอรู้สึกกลัวและตื่นเต้นขึ้นมา มือหนาจับท้ายทอยของเธอให้ตอบรับจูบอันเร่าร้อนและดุเดือดของเขา เป็นจูบที่ทั้งดุดันและรุนแรงราวกับจะสูบวิญญาณเธอให้ออกมาจากร่าง มือหนาอีกข้างก็เร่งปลดเชือกเสื้อผู้ป่วยออกจากกัน ก่อนจะใช้มือสัมผัสอกขาวเนียนไปทั่ว บีบเค้นจนขึ้นรอยแดงจาง ๆ ตามอารมณ์กระสันที่พุ่งสูงขึ้น “อื้อ~ อ๊าสส”เมื่อริมฝีปากผละออกจากกัน เรนเดียร์ก็ส่งเสียงครางหวานออกมาทันที “เบา ๆ ที่รัก ไม่รู้ห้องนี้เก็บเสียงหรือเปล่า” “อ๊







