แชร์

บทที่ 4 ผมรักผัวเขา

ผู้เขียน: มินิซ่าส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-30 15:18:45

วันนี้วันรับน้องวันสุดท้ายแล้วครับ ผมกับไอ้ซันไอ้วุฒิก็ยังคงเกาะกันเหนียวแน่นเช่นเดิม ไอ้ซันมันก็ไล่คุยไล่ถาม สนิทกับคนนั้นทีคนนี้ที แต่ก็ได้แค่คุยแหละครับ ไม่ได้คนในกลุ่มเพิ่มมาเลยสักคน ผมก็อยู่เรื่อยๆ เอื่อยๆ ของผมไป ส่วนไอ้ซันก็ม่อสาวไปเรื่อย งานรับน้องวันสุดท้ายก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมายซักเท่าไหร่ มีประกวดดาวเดือน ซึ่งพวกผมทั้ง 3 คนก็ถูกทาบทามตัวไปประกวดนะ แต่ไม่มีใครยอมตกลงประกวดเลยนี่สิ

อ้อ มีการโหวตเลือกประธานรุ่นด้วย และเพราะไปซันมันไปเต๊าะเขาไว้ทั่ว ทำให้เป็นที่รู้จักของทั้งรุ่น หวยก็เลยออกที่มันเต็มๆ พอได้เป็นประธานรุ่นแล้วมันก็โดนพวกพี่ๆ เขาบังคับให้เป็นสมาชิกสโมต่อด้วยเลย เพื่อที่ว่าเวลามีงานอะไรจะได้กระจายข่าวให้เพื่อนๆ ในรุ่นรับรู้ โดยที่มันเองก็ออกไปพูดประโยคหล่อๆ เพื่อขอบคุณเพื่อนๆ ที่เลือกมันให้ทำหน้าที่นี้ ด้วยคำพูดที่ว่า

“ขอบคุณนะครับพวกเพื่อนเอี้ย ที่หาภาระมาให้กูครับ” พูดพร้อมฉีกยิ้มหวานๆ ก้มหัวลงหน่อยๆ แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้ดี ไม่มีใครถือโทษโกรธมันแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นจึงเป็นกิจกรรมบายศรี รับขวัญน้องๆ เข้าสู่ครอบครัวบริหาร ก็ผูกข้อไม้ข้อมือ ขอพรกันไป แล้วในตอนสุดท้ายนี้เองที่พวกพี่เทคต่างเอาขนมมาให้น้องๆ ได้ของขวัญกันเยอะแยะ แต่ว่ายังไม่เฉลยนะครับ พวกพี่ๆ เขาบอกว่าจะเฉลยตอนหมดเทอม ส่วนผมนั้นก็ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว

ไอ้ซันได้หูฟังเฮดโฟนบลูทูธอันใหม่มาใช้แทน เป็นสีส้มเรืองแสงทั่วทั้งอัน โดยที่พี่เทคของมันเขียนเอาไว้ว่า

"เห็นชอบฟังเพลง แต่อันที่ใช้อยู่สีไม่เจ็บเท่าไหร่ แสบๆ อย่างน้องต้องใช้ไอ้นี่"

ไอ้นี่ที่ว่าก็คือหูฟังสีส้มเรืองแสง รูปเขาควายนั่นละครับ มันอาจจะเป็นเขาเดวิล กล่องมันเขียนไว้แบบนั้น แต่ผมมองยังไงก็ควายชัดๆ นั่นละนะ ซึ่งมันเองก็หัวเราะชอบอกชอบใจ แล้วเอามาใช้จริงๆ พร้อมกับตะโกนไปด้วยว่า

“ไม่รู้ว่าพี่ของผมคือใคร แต่ถูกใจผมมากเลยครับ!!”

ส่วนของไอ้วุฒินั้นอลังการงานสร้างมากครับ เป็นบริษัทส่งของเป็นคนเอามาส่งให้ โดยถามชื่อของมันแล้วเอาไปยื่นให้ด้วยความระมัดระวัง คนส่งยังไม่วายกำชับอีกด้วยว่าให้ระวังนะครับ มันอาจจะเสียหายแตกหักได้ และขอให้เปิดภายในวันนี้ มันก็จัดให้ตามนั้นครับ เซ็นชื่อรับของมา แล้วเปิดมันตรงนั้นเลย ทันทีที่ได้เห็นมันก็ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น ขนมเค้ก 2 ชั้น เคลือบช็อกโกแลต แถมตกแต่งหน้าเค้กด้วยขนมช็อกโกแลตหลากหลายชนิด กองสุ่มๆ กันที่ด้านบน พร้อมการ์ดใบเล็กเขียนกำกับเอาไว้ด้วยว่า

“พี่เห็นน้องวุฒิชอบขนมเค้ก ก็เลยสั่งทำมาให้ ทานให้อร่อยนะคะ”

ผมก็ร่วมยินดีไปกับเพื่อนๆ ด้วยที่พี่เทคของมันเอาใจใส่ขนาดนี้ ส่วนของคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน พวกผู้หญิงก็ได้พวกเครื่องสำอาง เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋าแบรนด์เนมกันไป ส่วนพวกผู้ชายส่วนใหญ่ก็ของที่ใช้แกล้งกัน ถุงยางทั้งแพ็คบ้าง นาฬิกาบ้าง ตุ๊กตาไก่บีบ หรือแม้แต่ยกทรงลายเสือดาว ส่วนของผมนั้นเงียบกริบ.... ไม่ได้รับของมาเลยสักชิ้น พวกเพื่อนๆ ก็เข้ามาตบหลังตบไหล่ ปลอบใจ ไอ้ซันก็เอาหูฟังมาสวมใส่ให้ ลูบหัวเบาๆ พร้อมกับบอกว่าเดี๋ยวพาไปกินของอร่อยเพื่อเป็นการปลอบใจ ทำให้ผมผลักไหล่มันด้วยความหมั่นไส้ที่มันเอาของกินมาล่อ แต่ก็ทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างนิดหนึ่ง

หลังจากที่จบกิจกรรมแล้วพวกพี่ๆ เขาก็ปล่อยกลับบ้าน ไอ้วุฒิก็เดินฮัมเพลงด้วยความอารมณ์ดีกลับไปที่รถของตัวเอง โดยที่มีขนมเค้กอยู่ในอ้อมกอด ทำให้ผมส่ายหน้าน้อยๆ ด้วยความขบขันไม่ได้ มันเหมือนเด็กเลยวุ้ย ที่ดีใจเวลาได้ขนมน่ะ ส่วนผมกับไอ้ซันก็พากันกลับบ้าน แยกย้ายกันไปพักผ่อน

ในเช้าวันถัดมาผมก็ทำการย้ายของออกจากบ้าน มุ่งตรงไปที่คอนโดใกล้กับมหาวิทยาลัย โดยที่มีพี่คมคอยช่วยเหลือพร้อมกับคนงานในบ้านอีกนิดหน่อยมาช่วยขนของ เมื่อขนของทุกอย่างมาครบแล้ว พวกพี่ๆ เขาก็ขอตัวกลับ ส่วนผมก็นั่งจัดของไปเรื่อยๆ เก็บให้เป็นระเบียบเข้าที่เข้าทาง

Rrrrrrrr Rrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น เรียกให้ผมละความสนใจจากงานตรงหน้า มองหน้าจอเพียงชั่วครู่แล้วกดรับสายในทันที

“มีไร”

[มึงย้ายของเสร็จยัง]

“เสร็จแล้ว”

[เออ ส่งที่อยู่มา เดี๋ยวกูไปรับ] แม้ผมจะแปลกใจนิดหน่อยที่มันบอกว่าจะมารับ แต่ผมก็ให้ที่อยู่ไป ไม่คิดอะไรมากนัก จนเมื่อมันมาถึงมันก็โทรให้ผมลงไปหา บอกให้เตรียมตัวออกไปข้างนอก มันจะพาไปกินของอร่อยๆ ผมก็จัดการตามนั้น พอมันมาถึงแล้วผมก็ต้องงงหนัก เมื่อมันเอารถใครมาขับก็ไม่รู้

“จะยืนมองอีกนานไหม ขึ้นมาดิ” ผมยืนมองรถซูซูกิ เซียสสีดำ ตรงหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะก้าวขึ้นรถไป

“บ้านมึงมีรถคันนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”

“วันนี้นี่แหละ แม่กูซื้อมือสองให้ เอาไว้ใช้ตอนเรียน นี่ก็พึ่งไปรับมา”

“เออ ดีเลย รถกูยังไม่มาส่งพอดี”

Rrrrrrrrr Rrrrrrrrr

ผมพึ่งจะพูดจบประโยค เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมจึงล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง มองชื่อบนหน้าจอแล้วร้องบอกไอ้ซันในทันที

“มึงเดี๋ยวๆ อย่าพึ่งไป” ว่าจบก็กดรับสาย พร้อมๆ กับไอ้ซันที่มันก็จอดรถรอตามคำสั่ง ก่อนที่ผมจะก้าวขาลงจากรถ แล้วคุยโทรศัพท์ไปด้วย

“ครับ... เห็นผมไหมครับ ผมยืนอยู่ตรง B2 น่ะครับ.... อ่อ ใส่เสื้อสีขาวกางเกงยีนส์สีดำขาดเข่าครับ..... อ้อ เจอแล้วครับ” ผมพูดพร้อมๆ กับโบกไม้โบกมือ ให้คนที่โทรมาเห็นผมที่กำลังยืนรออยู่ ก่อนที่ผมจะโน้มตัวลงเปิดประตูรถ แล้วร้องบอกเพื่อนตัวเองเบาๆ

“ไอ้ซัน มึงจอดรถรอกูแป๊บได้ไหมว่ะ เขาเอารถมาส่งให้พอดี กูขอเช็กสภาพรถก่อน”

“เออๆ เดี๋ยวกูช่วยดู” ไอ้ซันว่าพร้อมๆ กับดับเครื่องยนต์ แล้วก้าวขาลงจากรถ เพื่อมาช่วยผมตรวจสภาพรถที่เอามาส่ง เราใช้เวลาตรวจสอบกันชั่วครู่ แล้วจึงเซ็นรับรถ ก่อนที่เราต่างหันมองหน้าหากัน

“จะเอารถใครไปละทีนี้” ผมเอ่ยถามเบาๆ เมื่อรถ 2 คันจอดอยู่ข้างกัน มองซ้ายมองขวา อย่างตัดสินใจไม่ถูก ก่อนจะเป็นไอ้ซันเองที่พูดออกมา

“เอารถมึงไปก็ได้ รถใหม่ป้ายแดงด้วย จะได้เอาไปลองขับดู”

“ของมึงก็พึ่งจะรับมาวันนี้ไม่ใช่รึไง แถมยังเป็นรถมือสองด้วย มึงจะไม่ลองเอาไปเทสหน่อยหรอ ของมึงน่าเอาไปลองยิ่งกว่าของกูอีกนะ” ไอ้ซันหันหน้ามองผมเพียงชั่วครู่ แล้วจึงหันกลับไปมองรถตามเดิม ก่อนจะเอ่ยย้ำอีกครั้ง

“ไม่เป็นไร กูขับมาหามึงแล้วไง ถือว่าเทสไปแล้ว เอารถมึงไปนั่นแหละ” พอมันพูดแบบนั้นผมจึงยื่นกุญแจส่งให้ มันก็ทำหน้างงๆ

“อะไร?”

“ให้มึงขับ มึงจะพากูไปกินนี่ กูไม่รู้หรอกนะว่าที่ไหน” ผมพูดพลางเขย่ากุญแจรถ เป็นการเร่งให้มันรับเอาไป มันก็รับไปถือไว้ ก่อนจะพากันขึ้นนั่งประจำที่ ผมใช้ฝ่ามือลูบรถเบาๆ ก่อนจะพึมพำออกมา

“ชื่ออะไรดีนะเรา” ไอ้ซันเหลือบมองผมเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง

“ไท่หยาง”

“แปลว่าอะไร?” เพราะที่ผมพูดออกมาเป็นภาษาจีน ไอ้ซันจึงไม่เข้าใจที่ผมพูดออกไป ผมหันไปยกยิ้มกวนๆ ก่อนจะเอ่ยปาก

“ไม่บอกโว้ยยยยย” อีกฝ่ายยักไหล่ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดเพลง เปิดแต่ดนตรีนะครับ ส่วนมันเป็นคนร้อง ผมก็รู้แหละว่ามันชอบร้องเพลง ชอบดนตรี และโชคดีที่มันเป็นคนเสียงดีเสียด้วย ผมละแปลกใจว่าทำไมมันถึงสอบศิลปกรรมไม่ติด จนอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้

“สอบเข้าศิลปกรรมนี่เขาสอบอะไรบ้างว่ะ ทำไมมึงถึงสอบไม่ติด”

“อืมม ก็มีสอบพวกทฤษฎี ความรู้ทั่วไปกับความรู้เฉพาะทาง แล้วถ้าผ่านก็จะสอบสัมภาษณ์ต่อน่ะ”

“แล้วมึงตกอันไหนละ” ไอ้ซันเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากบอก

“ทฤษฎีว่ะ ก็มันยากนี่หว่า ใครจะไปจำได้ ดนตรีแบ่งออกเป็นกี่ยุค วงออเคสตร้ามีกี่ตำแหน่ง มีเครื่องดนตรีอะไรบ้าง พวกนี้อะ ก็เลยสอบไม่ผ่าน”

“เออ ยากจริง” ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่ฟังดูแล้วก็คงจะยากจริงๆ นั่นละ

“แล้วมึงมาเข้าคณะบริหารได้ไง?” ผมเอ่ยถามต่อในทันที

“ก็มันมีอันดับให้เลือกนี่ ก็เลยก็เลือกส่งๆ ไป ถ้าไม่ได้ของศิลปกรรมที่นี่ก็ไม่คิดจะไปเข้าที่ไหนแล้ว”

“น่าเสียดายนะ มึงน่าจะลองเลือกศิลปกรรมที่อื่นบ้าง ยังไงก็ศิลปกรรมเหมือนกัน มันก็พวกๆ กันนั่นแหละ”

“ก็ของที่อื่นไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าที่นี่นิน่า” ไอ้ซันตอบกลับมาเบาๆ ผมเองก็เลยไม่ได้พูดอะไรอีก ก็นะ ผมไม่ได้หาข้อมูลมานี่ว่าคณะที่ไอ้ซันอยากจะเรียนมันมีที่ไหนดังๆ แต่ละที่แตกต่างกันอย่างไร ลองให้มันมาถามเรื่องคณะคหกรรมสิ ผมตอบได้หมดอะ บอกเลย

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรมากมายนัก ไอ้ซันมันก็ร้องเพลงของมันไป จนเมื่อมาถึงสถานที่ๆ หนึ่ง มันก็จอดรถแล้วพากันเข้าไปด้านใน ที่นี่เป็นกึ่งผับกึ่งบาร์ แถมด้านนอกยังมีโซนนั่งฟังเพลงสบายๆ อีกด้วย ตอนนี้ก็เวลาราวๆ 6 โมงเย็น คนจึงยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

“เห็นในเน็ทเขาบอกว่าที่นี่อาหารอร่อย บริการก็ดี ก็เลยพามึงมาลองดู”

“Aftermoon Club” ผมอ่านชื่อที่ติดอยู่หน้าร้านช้าๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ การตกแต่งก็ดูดีใช้ได้ บรรยากาศก็สบายๆ เหมาะทั้งคนที่ต้องการมาแสดงลวดลาย หรือนั่งดื่มกันเบาๆ ท่ามกลางเสียงเพลง หรือแม้แต่นั่งคุยไปทานอาหารไปด้วย มีครบหมดที่นี่ แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน แต่ก็บริเวณเดียวกัน เหมือนว่าจะเปิดเป็นโรงแรมในตัวด้วย เพราะที่ชั้น 2 ก็เห็นเป็นห้องๆ แล้วก็มีลานตรงกลาง เหมือนว่าจะให้ขึ้นไปดื่มแบบ VIP ได้ แล้วก็เหมือนจะมีห้องที่จัดไว้เป็นส่วนตัว ก่อนที่จะมองเลยขึ้นไปอีก เป็นชั้นสูงๆ แล้วมีห้องพักหน้าตาคล้ายๆ กันทั้งหมด

“เร็วตลอดนะมึง” ผมบ่นเพื่อนออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่ามันมองตามสาวสวยที่นั่งทานอาหารกับเพื่อนๆ อยู่ที่โต๊ะหนึ่ง หญิงสาวคนนั้น สวมใส่ชุดสายเดียว สีแดงสด แล้วมีผ้าเป็นมุ้งๆ สีดำจับจีบทั่วทั้งตัวอีกชั้น กระโปรงสั้นจนเห็นขาอ่อนของเธอได้ สวมใส่รองเท้าวิบวับส้นเข็มที่หากโดนเหยียบไปสักทีผมคิดว่ามันคงจะทะลุแน่ๆ เส้นผมสีน้ำตาลไหม้ปล่อยสยายที่กลางแผ่นหลัง ไหนจะหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โตเกินตัวแล้วเอาเล็กๆ คอดกิ่ว ทำให้ไอ้ซันผิวปากออกมาด้วยความสนใจ ผมส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจแล้วจึงก้มลงมองเมนูในมือ หันไปสั่งอาหารกับบริกรที่รอรับเมนูอยู่

“เอาหอยนางรมทรงเครื่อง ยำถั่วพูกุ้งลวก ปีกไก่ทอดเกลือ หมูมะนาว กุ้งแช่น้ำปลา ปลาทับทิมสามรส ทาโร่ทอด เสือร้องไห้ลุยสวน แล้วก็เอา เตกิล่ามาขวดหนึ่งครับ อ้อ น้ำแข็งหนึ่งถังกับแก้ว 2 ใบครับ” พนักงานจดรายการยิ้กๆ จนเมื่อผมส่งเมนูคืนให้ ไอ้ซันถึงได้หันมาสนใจกัน

“สั่งอะไรไปแล้วบ้าง”

“เยอะแยะ มึงไม่ต้องสั่งละ” มันเองก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปร้องเพลงคลอเบาๆ สายตากลับไปจดจ้องผู้หญิงคนเดิม ผมได้แต่เบือนหน้าหันไปทางอื่น พยายามที่จะไม่แสดงความรู้สึกออกมา เก็บซ่อนสีหน้าและอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ จนเมื่ออาหารมาเสิร์ฟตรงหน้า ไอ้ซันก็ถึงกับอึ้ง

“หมดหรอว่ะมึง”

“หมดสิ แค่นี้เอง” ผมพูดก่อนจะตักอันนั้น อันนี้เข้าปาก ลิ้มลองรสชาติที่ชวนติดใจ เรียกได้ว่าอาหารของเขาสดจริงๆ หอยก็หวาน ปลาก็กรอบ กุ้งก็เด้ง ปีกไก่ทอดก็เค็มกำลังดี กุ้งแช่น้ำปลาก็สด เรียกได้ว่าที่นี่ได้ใจผมไปเต็มๆ ไอ้ซันก็ลองกินบ้าง อย่างละนิดละหน่อย จัดแก้วเหล้ามาส่งให้ผมถึงปาก

“กินเองได้น่า” เพราะมันบังคับจับคอผมแล้วจับแก้วเหล้ากรอกปากนี่ละครับ ถึงได้บ่นออกไป มันก็หัวเราะหึหึ ก่อนจะหันไปสนใจอาหารต่อ

“น้องครับๆ”

“ครับ?”

“พี่ฝากเอาดอกไม้ไปให้ผู้หญิงชุดแดงดำคนนั้นทีนะ” ไอ้ซันพูดพลางชี้ไม้ชี้มือไปที่ผู้หญิงคนนั้น บริกรก็พยักหน้ารับคำ ก่อนจะทำการส่งดอกไม้ไปทันที พร้อมชี้มือชี้ไม้กลับมาที่ไอ้ซัน ซึ่งมันก็ยกแก้วเหล้านิดๆ เป็นการทักทาย หญิงสาวก็ยกตอบกลับมาเช่นกัน ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความคุกรุ่นหน่อยๆ ตากระตุกถี่แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ ภาพในหัวตอนนี้คือเอาส้อมในมือไปจิ้มตาไอ้ซันจนทะลุแล้ว แต่ก็ต้องพยายามฝืนอารมณ์ กำส้อมในมือเอาไว้แน่น ก่อนจะมองตามหลังเพื่อนที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืน ไปพูดคุยข้างๆ เวทีเพียงชั่วครู่ แล้วจึงรับกีตาร์มาถือเอาไว้

“สวัสดีครับ ขอรบกวนช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกท่านสักครู่นะครับ พอดีผมมีบทเพลงที่อยากจะมอบให้หญิงสาวแสนสวยที่นั่งอยู่ตรงหน้าท่านนี้ เพลงนี้ผมของมอบให้คุณครับ” จบคำที่ว่าเสียงดนตรีก็ดังขึ้น โดยที่ไอ้ซันมันก็ดีดกีตาร์เป็นจังหวะไปด้วย แล้วเริ่มต้นร้องบทเพลง

“ล่องจักรวาล กว้างใหญ่ไพศาลอยู่เพียงลำพัง

จนในวันหนึ่ง มีคนๆ หนึ่งบังเอิญมาลอยร่วมทาง

คือเธอที่รัก คือเธอคนนี้

ท่องจักรวาล ขึ้นขี่ดาวหาง แค่เธอและฉัน

ไม่ต้องคำนึง ไม่มีเหตุผลต้องกลัวอะไร

มั่นใจในฉัน โอบกอดเธอไว้ ไม่ให้มีภัย

ให้มีแค่เพียงรอยยิ้ม อันสุขแสนเพลิดเพลินใจ”

หญิงสาวยกยิ้มมุมปากส่งให้มัน มันก็ยิ้มตอบ ก่อนจะร้องเพลงต่อ

“แต่ถ้าพรุ่งนี้ ความฝันต้องดับสลาย

มันพังทลายกลายเป็นความจริงแค่เพียงเธอลืมตา

มันคงมลายกลายเป็นความจริงไปอยู่ดี

ถ้าเกิดว่ารักในครั้งนี้เป็นเพียงแค่รักที่ยืมมา

ฉันคงเศร้าเมื่อฉันไม่มีความหมาย

หากตอนสุดท้ายมันยังไม่สายถ้าได้เธอคืนมา

อย่ามาใจร้ายแล้วทิ้งฉันไว้อยู่ตรงนี้

เพราะว่าความรักที่ฉันมีจะไม่จบเมื่อตอนเธอลืมตา

อยากให้เธอนั้นได้นอนหลับฝัน

จินตนาการว่ามีเธอกับฉัน

อยู่ด้วยกันในราชวังของเรา

จะมีเพียงแค่วันของเรา

โอ๋ที่รักยามเธอนอนหลับใหล

ไม่มีฉันแล้วเธอนอนหลับไหม

นอนด้วยกันมันจะดีกว่าไหม

Come with me to our galaxy

เพลง GALAXY : D GERRARD

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าเสียงของไอ้ซันนั้นมันมีเสน่ห์ ไปเป็นนักร้องได้สบายๆ ในขณะที่ร้องสายตาของมันก็จดจ้องไปที่หญิงสาวเพียงคนเดียว หากแต่เรื่องน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ หญิงสาวที่นั่งข้างๆ กัน เหมือนกับจะอดรนทนไม่ไหว ผุดตัวขึ้นไปนั่งคร่อมตักของหญิงสาวที่ไอ้ซันหมายตาเอาไว้ ก่อนจะประกบริมฝีปากจูบลงไปทันที ไอ้ซันถึงกับชะงักเพลงที่กำลังร้องอยู่ แล้วเกิดเสียงร้องดังขึ้นรอบทิศทาง เหมือนว่าไอ้ซันจะไปสนใจสาวเลสเบี้ยนเข้าซะแล้ว เมื่อผู้หญิงที่มันหมายตาไม่ได้ปัดป้องสาวคนที่กำลังจูบออกแต่อย่างใด กลับกัน ฝ่ามือกลับจับคว้าบั้นท้ายเอาไว้ แล้วบีบคลึงไปมา ไอ้ซันกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง แล้วจึงหันไปหาพวกพี่ๆ เขา เปลี่ยนเพลงที่เล่นในทันที

“ผมเคยเป็นผู้ชายโลโซ เป็นจิ๊กโก๋ปากเสีย

ผมก็เลยยังไม่มีเมีย แบบเป็นตัวเป็นตน เขาสนคนรวย

พบแล้วคนที่โดนสเป็ก เธอดูเด็กอยู่ด้วย

ตัดผมสั้นแค่คอพอสวย หมวย สูง ยาว ขาวจั๊วะ จั๊วะ จั๊วะถูกใจ

จีบคราวนี้ต้องจีบ ต้องรุกต้องรีบ อย่าให้หลุดไป

รักจริง จริงแล้วนิ เป็นแฟนผมที ช่วยหน่อยได้ไหม

เธอมองหน้าอมยิ้ม แถมยักคิ้วไม่พูดอะไร

แบกความหวังกลับบ้านไป หลับฝัน ฝันเห็นฉิ่ง”

“ฮ่าๆ ๆ ๆ” ผมหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่ต่างจากคนโดยรอบที่ขำออกมาเช่นกัน เพราะกำลังสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนผม ผมหัวเราะอย่างหนักจนปวดท้องไปหมด น้ำตาไหลออกมาอยู่ที่หางตา

“ตื่นรีบไปหาเธอ ถ้าเจอะเจอจะถามความจริง

หากมีแฟนอยู่แล้ว

กลัวกินแห้วจะถูกเขี่ยทิ้ง

เมื่อเห็นเธอเดินแอบอิงกะหนุงกะหนิงกับหญิงคนหนึ่ง

ผมรักผัวเขา โอ๊ยตายผมรักผัวเขา

ที่รักของเราเป็นสาวหล่อ ก็นึกไม่ถึง

ผมรักผัวเขา ทั้งเจ็บอกและตกตะลึง

ก็นึกไม่ถึง ไอ้ที่ผมฝันนั้นมันเป็นจริง”

เพลง ผมรักผัวเขา : เดส อิสระ อาร์ สยาม

ไอ้ซันมันฝืนเล่นเพลงนั้นต่อจนจบ โดยที่สายตาก็ยังคงมองสองสาวที่นัวเนียกันไม่หยุด ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง จนเมื่อมันเล่นเพลงจบก็เดินหน้ายุ่งกลับมานั่งที่ บ่นเป็นหมีกินผึ้ง

“แม่งเอ้ย ชอบตีฉิ่งแล้วมาเล่นด้วยกับกูทำไมว่ะ สัส เสียเวลาเต๊าะสาวฉิบหาย” ไอ้ซันบ่นพร้อมกับกอดอกแน่น ผมจึงตักปลาทับทิมสามรส บีบปากมันให้เปิดออกแล้วยัดเข้าไป

“แดกซะ จะได้เลิกบ่น เรด้ามึงพังเอง อย่าไปโทษคนอื่น”

“แอ้งเอ้ย อ้าเอาไอ่เอ่นอ้วย อูอะเอียเออาไออ่อเอาอำไออ่ะ” (แม้งเอ้ย ถ้าเขาไม่เล่นด้วย กูจะเสียเวลาไปม่อเขาทำไมว่ะ) ไอ้ซันพูดทั้งๆ ที่เคี้ยวอยู่ในปาก ผมก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะมีเงามาพาดผ่าน ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ร้องถามอย่างสงสัย

“ครับ?”

“ร้องเพลงเพราะดีนะไอ้น้อง” คนๆ นั้นเขาหันไปคุยกับไอ้ซัน มันก็เลยรีบกลืนลงคอ ก่อนจะบอกเบาๆ

“ขอบคุณครับ”

“ร้องเพลงเพราะดี รู้จักเพลงหลายแนว เหมาะกับร้านเหล้าแบบนี้ เข้าบ่อยหรอ”

“ก็ให้พอเป็นเท่านั้นแหละครับ” คนๆ นั้นกับไอ้ซันคุยกันไปมา ผมก็นั่งทานอาหารฟังบทสนทนาไปเงียบๆ

“สนใจมาเป็นนักร้องให้พี่ไหม”

“ผมคงไม่สะดวกเท่าไหร่อ่าครับ ผมยังเรียนอยู่ เวลายังไม่แน่ไม่นอน”

“งั้นเอาไว้วันไหนมาค่อยมาร้องแล้วกัน เป็นเหมือนนักร้องรับเชิญอะไรงี้ ไว้วันไหนอยากก็ค่อยร้อง วันไหนเบื่อๆ อยากพักก็ไม่เป็นไร พี่ให้ชั่วโมงละ 2,500 สนใจไหม”

“อ่อ ก็น่าสนอยู่นะพี่”

“ดี นี่นามบัตรพี่ เอาไว้มาจะมาร้องวันไหนก็โทรบอกหน่อยแล้วกัน พี่จะได้เคลียร์คิวเอาไว้ให้ อ้อ พี่ชื่อต้องนะ ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วเรา??”

“ผมซันพี่”

“น้องละ?” พี่เขาหันมาถามผมด้วยอีกคน ทำให้ผมรับคำอย่างงงๆ

“หื้อออ อ้อ ผมเบสครับ”

“ถือว่าวันนี้เป็นวันแรกที่รู้จักกัน มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง เต็มที่เลยนะ หวังว่าซันจะมาร้องเพลงบ่อยๆ นะ ถ้าเบสเสียงดี จะขึ้นไปร้องคู่ก็ไม่ว่ากัน แต่ค่าแรงเท่าเดิมนะ ฮะๆ ไปละ พี่จะไปดูงานที่อื่นต่อ”

“ขอบคุณครับ/ ขอบคุณครับ” ผมกับไอ้ซันยกมือไหว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะหันหลังเดินจากไป ไอ้ซันก็นั่งกระดิกเท้า ยกเหล้าขึ้นมาดื่ม

“ดูมึงไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่เลยนะ”

“มึงคิดว่ากูหิ้วสาวมาจากไหนเยอะแยะกันละ ตกเอาจากร้านแบบนั้นทั้งนั้นแหละ” คำตอบของมันทำให้ผมหันขวับไปมองอย่างแปลกใจในทันที

“แอบมาตอนไหน ทำไมกูไม่เห็นรู้”

“แหมมม ก็มึงมันคุณหนูขนาดนั้นนี่ครับ ขืนกูพามาพ่อมึงแหกอกกูพอดี ที่พาลูกเขาเสียคน แค่ตอนนี้พ่อมึงก็ไม่ชอบขี้หน้ากูอยู่ละ มึงเป็นเด็กดีอยู่บ้านไปนั่นแหละ” ไอ้ซันพูดพร้อมๆ กับยกมือขึ้นบีบจมูกผมแล้วส่ายไปมา ทำให้ผมปัดออกอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะกินอาหารตรงหน้าต่อไป แต่ก็ยังไม่วายถามขึ้นมาอีก

“แล้วทำไมวันนี้ถึงพามา”

“ก็ที่สัญญาว่าจะมาพาไปกินของอร่อยๆ ไง นี่ไง ตามสัญญา ที่นี่มันก็เป็นแค่กึ่งๆ ไม่ใช่ผับจ๋าแบบที่กูชอบไป แถมอีกอย่าง มึงย้ายออกมาอยู่คอนโดแล้วนี่ พ่อมึงคงไม่ตามมาด่ากูถึงนี่หรอก มั้ง?” ไอ้ซันพูดด้วยความไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก ก่อนที่ผมจะยกแก้วเหล้าเข้าปาก ร้องบอกมันที่กำลังยกแก้วรัวๆ

“กินได้แต่ห้ามเมานะโว้ยยย มึงต้องขับรถไปส่งกูอีก”

“เออน่า กูรู้ลิมิตตัวเองดี” ดังนั้นผมจึงวางใจ ดื่มกินได้เท่าที่ต้องการ เพราะไอ้ซันมันดื่มได้ไม่มาก ผมจึงต้องดื่มคนเดียวเกือบหมดขวด ผลก็คือ เมาอย่างหมา แต่ก็มีไอ้ซันนี่แหละที่คอยช่วยพยุงตัว พาขึ้นรถกลับคอนโด

แปะ แปะ แปะ

“ไอ้เบส ห้องมึงอยู่ชั้นไหน”

“หือออออ 25” ดังนั้นมันจึงลากผมเข้าลิฟต์ กดชั้นที่ 25 ผมเองก็เอนพิงซบมันไว้ ง่วงจัง อยากนอน

“ไอ้เบส หลับหรอว่ะ ตื่นขึ้นมาก่อน” ไอ้ซันเขย่าๆ ตัวผมไปมา เพื่อเป็นการปลุก เพราะมือข้างหนึ่งมันจับแขน อีกข้างจับเอว คอยช่วยให้ผมก้าวเดิน แต่ที่มันไม่รู้คือมันกำลังจะทำให้ผมอยากจะอ้วก

“ไอ้ซันนนนน เขย่าทำม้ายยยยย”

“ตื่นก่อน ห้องมึงห้องไหน”

“25 ไง ฟายยยย” ผมด่ามันไปเบาๆ ตาก็กำลังจะปิดลงอีกครั้ง

“มึงนั่นแหละฟาย ก็นี่ไงชั้น 25”

“เออ ก็ชั้น 25 ห้อง 25 ไงว่ะ”

“อ้าว แล้วก็ไม่บอกกูละ” ผมได้ยินเสียงไอ้ซันบ่นออกมาเบาๆ ก่อนที่มันจะลากพาผมเดินไปอีกครั้ง จนเมื่อถึงห้องของผมมันนิ่งอึ้ง

ตุ้บ!

“เหี้ยยยยย เจ็บนะโว้ยยยยย” ผมโวยวายออกมา ดิ้นๆ อยู่ที่พื้น เมื่อเพื่อนตัวดีจู่ๆ ก็ปล่อยผมทิ้งเอาไว้กับพื้นเสียอย่างนั้น

“โทษๆ ๆ ๆ ฮึ้บ!” มันหันมาขอโทษขอโพย ก่อนจะพยุงผมขึ้นอีกครั้ง ได้ยินเสียงบ่นพึมพำเบาๆ

“มึงนี่มันลูกคุณหนูจริงๆ นะ” ผมไม่ได้สนใจว่ามันพูดว่าอะไร แต่นิ้วกลับชี้ไปที่ห้องๆ หนึ่ง

“นอนนู้นนนนนนน” ดังนั้นมันจึงพาลากผมไปในห้องที่ว่า ก็คือห้องนอนนั่นแหละ ก่อนจะทุ่มผมลงที่เตียง แต่เพราะแรงเขย่าของมันก่อนหน้า แถมยังทำผมล้มลงกับพื้นอีก พอมันปล่อยผมลงที่เตียงแรงๆ ผมก็ผุดลุกขึ้นนั่งแล้ว....

“อ้วกกกกกกกกกกกก” ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อทัน

“เหี้ย!!!! โอ้ยยยยยย ภาระกูอี้กกก” ผมได้ยินอีกฝ่ายบ่นดังลั่นห้อง แต่จับใจความไม่ได้ ก่อนที่ตัวจะมีความชื้นแปะไปทั่วตัว ทำให้เกิดอาการหนาวสั่น เมื่อโดนลมเย็นๆ ของแอร์ที่กำลังทำงานอยู่ในตอนนี้ ทำให้ซุกตัวเข้าหาความอบอุ่น

“เฮ้อ มึง.............. แล้ว.........” อีกฝ่ายพูดอะไรผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง ได้แต่ซุกเข้าหาความอบอุ่นนั้นอย่างวางใจ และหลับสนิทลงไปในที่สุด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Secret Love Friend แอบรักเพื่อน   บทที่ 60 Unkiss Me..

    ผมเดินเข้ามาในตึกด้วยความอารมณ์ดี ที่ช่วงนี้ป๊าไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายอะไรกับผมอีก หลังจากเกิดเรื่องราวทะเลาะกันใหญ่โตในครั้งนั้น เหมือนว่าป๊าจะดูนิ่งเฉยมากขึ้น ม๊าก็พยายามที่จะโทรหา เพื่อให้ผมกลับไปปรับความเข้าใจกับป๊าแต่ก็ไร้ผล แม้ว่าเราจะทำงานที่เดียวกัน ห้องอยู่ติดกัน แต่เรากลับไม่ได้พูดคุยกันเลยสักคำในอ้อมแขนของผมเต็มไปด้วยของสดมากมาย ผมพยายามก้าวเท้าพร้อมกับหอบหิ้วของเหล่านี้ไปด้วย ในใจคิดแต่เพียงว่าจะต้องจัดเตรียมเมนูอะไรบ้าง คิดพลางแตะคีย์การ์ดเข้าไปภายในห้อง แต่ก็ต้องชะงักกึกหลังจากแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อย เมื่อดวงไฟในห้องถูกเปิดส่องสว่าง หรือบางทีอาจจะเป็นคนรักที่เปลี่ยนใจ ไม่ได้ทำโอทีในวันนี้ก็เลยกลับมาก่อนเวลาปกติ คิดพลางดันประตูให้เปิดออกกว้าง ก่อนจะต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตายืนอยู่ภายใน“พี่เมธ....” เจ้าของชื่อหันมาทำหน้าลำบากใจส่งมาให้ ผมจึงขมวดคิ้วและเดินสาวเท้าเข้าไปหา“พี่มาหาผมถึงนี่มีอะไรรึเปล่าครับ?” ถามพร้อมกับถอดรองเท้าไปด้วย ก่อนจะต้องหยุดชะงัก เมื่อรองเท้าที่ถูกถอดวางไว้อย่างเป็นระเบียบมี

  • Secret Love Friend แอบรักเพื่อน   บทที่ 59 ระยะเวลา 7 ปี

    ไอ้วุฒิแทบจะเป็นบ้าไปเลย หลังจากที่รู้เรื่องนี้ มันรีบไปที่บ้านของไอ้เพชรทันที และเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้งจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ และครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ พวกผมเองก็สลับไปเรียนสลับไปเฝ้า ไอ้วุฒิแทบจะเสียผู้เสียคน.....เวลาล่วงเลยไปเป็นเดือนในระหว่างที่ไอ้วุฒิมันรักษาตัว พวกผมก็ตามหาไอ้เพชรจนเจอแล้วล่ะครับ แต่มันขอร้องไว้ว่าไม่ให้บอก พวกผมเหมือนกับน้ำท่วมปาก จะพูดก็พูดไม่ได้ ได้แต่ทนอึดอัดอยู่อย่างนี้ หลังจากนั้นมันก็พักฟื้นจนหายดี กลับไปอยู่ที่คอนโด พวกผมเองก็ไปช่วยปัดกวาดเช็ดถู ก่อนจะพากันออกไปตามหา พวกผมทำได้เพียงทำตามคำสั่งของไอ้วุฒิมัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันต้องไปหาที่ไหน ไอ้ซันจับกุมมือของผมเอาไว้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คลายความเศร้าลง อาการของไอ้วุฒิหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยที่พวกผมช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่คอยแอบรายงานให้ไอ้เพชรรู้เป็นระยะๆปีที่ 1…..ชีวิตในรั้วมหาลัยของเราเปลี่ยนจาก 5 คน เป็น 4 คน เรียบร้อยแล้ว เพราะไอ้เพชรมันหายไปโดยไร้การติดต่อใ

  • Secret Love Friend แอบรักเพื่อน   บทที่ 58 เสียวไม่สุด....

    “กูไม่รู้ กูไม่รู้ว่า.....” ไอ้ซันเงียบเสียงลงไปซะดื้อๆ แต่ผมก็ใจเย็นพอที่จะรอ ใช้ฝ่ามือลูบหลังคนรักไปพลางๆ เพื่อให้มันผ่อนคลาย ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปเงียบๆ โดยที่มีเสียงน้ำกระทบกำแพงเป็นฉากหลัง“กูไม่รู้ว่า ที่กูเป็นอยู่ตอนนี้ มันดีพอให้มึงรักไหม” ไอ้ซันพูดเสียงเบา ผมจึงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ขมวดคิ้วหมุน“ไปได้ยินได้ฟังอะไรมา” ผมเอื้อมมือยกขึ้นสูง ลูบหัวคนรักเบาๆ ไอ้ซันโน้มตัวลง ซบลงที่บ่าของผม ก่อนจะเริ่มต้นเล่าต่อ“จำวันที่ไอ้นายร้องไห้ ตอนไอ้เพชรเข้าโรงพยาบาลได้ไหม” เพราะเรื่องนั้นสินะ...“ซัน มึงไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใคร มึงไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร เรื่องฐานะ หน้าตาทางสังคม ความรู้ความสามารถ กูไม่เคยหยิบมันมาใส่ใจเลย สิ่งที่กูสนใจและใส่ใจมาตลอด มีแค่มึง แค่มึงคนเดียวเท่านั้น กูเฝ้ามองมานานตั้งเท่าไหร่ มันไม่ทำให้มึงมั่นใจบ้างเลยหรอ” ผมพูดพร้อมกับลูบหลังปลอบใจไปด้วย“กูรู้... แต่บางที.... กูก็อดคิดไม่ได้ กูไม่อยากเสียมึงไป แต่.. เบส พวกเราไม่ต่างกันเกินไปห

  • Secret Love Friend แอบรักเพื่อน   บทที่ 57 อยากลงอ่าง

    ในที่สุดเย็นวันเสาร์ก็มาถึง เชฟจองห้องส่วนตัวให้พวกเรา นักเรียนทั้ง 5 คนของเชฟ ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา และมีหัวหน้าเชฟต่างๆ ที่เคยประกบคู่กับพวกเรายืนเรียงรายอยู่ด้วย แต่ละคนนั้นทำอาหารที่ทำร่วมกับพวกเราคนละ 1 จาน วางลงตรงหน้า ทำให้พวกเราประทับใจไม่น้อย แต่ละคนก็ได้แตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าหัวหน้าเชฟจะเลือกจานไหนที่เคยทำด้วยกัน หลังจากนั้นเชฟทั้ง 5 คนก็เข้าไปช่วยงานเชฟฟรองซัวในการจัดทำอาหาร มีทั้งหมด 10 เมนูและทยอยนำออกมาจนครบทุกเมนูเมื่อทานอาหารโดยที่มีเชฟยอดฝีมือคอยประกบ และแนะนำวิธีการทานให้ ทำให้พวกผมรู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษเลยละครับ เสียดายจังที่ไอ้ซันไม่ได้เข้าร่วม ผมนั่งคิดพร้อมกับหันหน้าไปทางเวทีเล็กๆ ที่เชฟกำลังพูดแนะนำและให้คำอวยพรกับพวกเราอยู่ แต่จิตใจของผมกลับล่องลอย คิดถึงสิ่งที่คนรักเป็นอยู่ในช่วงนี้หลังจากที่มันได้คุยกับเชฟวันนั้น เหมือนจะปกติ แต่มันไม่ปกติ.....“อ่า ซัน แรงๆ อึก ทำแรงๆ”“อืมมม” ผมได้แต่ร้องครางอยู่ใต้ร่างของคนรัก บิดตัวไปมาอย่างทรมาน นิ้วมือร้า

  • Secret Love Friend แอบรักเพื่อน   บทที่ 56 มรสุมสาดซัดเข้าที่กลุ่ม

    ในเช้าวันถัดมาพวกผมกับไอ้ซันก็จัดข้าวกับน้ำไว้ให้ไอ้วุฒิ ยืนมองมันที่นอนกอดขวดเหล้าอยู่บนเตียง ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตา หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว มันไม่สามารถออกจากห้องได้ เนื่องจากพวกผมคอยขวางทางเอาไว้ ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพากันออกจากห้อง หลังจากที่คิดว่าผ่านมา 2 – 3 วัน มันอาจจะพอมีสติขึ้นมาบ้างพวกผมตั้งใจจะไปเยี่ยมไอ้เพชรสักหน่อย โดยติดต่อผ่านไอ้นายไว้ ถ้าไปตอนนี้ไอ้วุฒิมันคงหาไม่เจอหรอกครับ เพราะหายไปกันหมด ก่อนที่เราจะเร่งรีบออกจากห้องกันสองคน พวกผมมาตามที่ไอ้นายนัดไว้ แล้วขึ้นไปพร้อมกัน จนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องๆ หนึ่ง“นี่ไม่ใช่ชื่อไอ้เพชรนี่ ถูกห้องหรอว่ะ” ไอ้ซันถามอย่างสงสัย ก่อนจะมองลอดเข้าไปภายในห้องพักนั้น“ถูกสิ พี่เนมเป็นคนจัดการนะ จะให้ตามหาเจอง่ายๆ ได้ยังไง” ไอ้นายพูดพลางเปิดประตูเข้าไป เจอเจ้าของห้องนอนหันหลังอยู่“อ้าว!! ผิดห้อง!! ไปๆ ๆ ๆ” ไอ้นายว่าอย่างตกใจ แล้วดุนดันหลังพวกผมให้รีบออกไปทันที ไม่อยากรบกวนผู้ป่วย“กูบอกแล้ว!!! มึงอะมั่วไอ้นาย” ทันทีที่ออกมาจากห้

  • Secret Love Friend แอบรักเพื่อน   บทที่ 55 ยังไม่พร้อม

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก....ก๊อก ก๊อก ก๊อก....“อืมมม”ก๊อก ก๊อก ก๊อกหมับ!!! พรึ่บ!!!แกร๊ก!“แม่ออกไปก่อน”“เด็กๆ อะ อ่า...... แม่ไม่กวนแล้วกันนะ ฮึฮึ”ปัง!“หึหึ”ตอนนี้ผมได้แต่นอนเขินอายหน้าแดงซุกลงที่อกของไอ้ซัน ไม่กล้าเงยหน้ามองใครทั้งสิ้น ต่างจากเจ้าตัวที่ทำเพียงหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ กอดก่ายผมเอาไว้เต็มรัก สาเหตุนั้นก็เพราะ เราทั้งคู่ตื่นสายครับ กว่าจะรู้สึกตัวก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ แล้ว ส่วนสาเหตุที่ตื่นก็ไม่ใช่อะไรคุณแม่ท่านตั้งใจมาปลุกเราให้ลงไปทานข้าว คิดว่าใช่นะครับ เคาะประตูรัวเชียวละ ผมเองก็มึนๆ เลยผุดตัวลุกขึ้น หมายจะไปเปิดประตูให้คุณแม่เข้ามาหา หากแต่ตอนที่กำลังจะลุกอยู่นั้นเอง ไอ้ซันก็ฉุดดึงข้อมือของผมให้ล้มตัวนอนลงอย่างแรง พร้อมๆ กับประตูที่ถูกเปิดเข้ามาพอดี จนไอ้ซันรีบตวั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status