หน้าหลัก / วาย / Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี / บทที่ 2 ข้อตกลงของคนขี้แกล้ง

แชร์

บทที่ 2 ข้อตกลงของคนขี้แกล้ง

ผู้เขียน: เห็ดสีน้ำเงิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-27 20:01:14

น้ำมนต์ไม่กล้าเงยหน้า ขาทั้งสองข้างของเขาสั่น ไร้เรี่ยวแรงจนไม่อาจวิ่งหนีได้

คุณใสเคยบอกว่าอย่าทำตัวให้พวกผีรู้ว่าเรามองเห็น มองข้ามได้ก็มองข้าม ทำเหมือนพวกมันเป็นธาตุอากาศที่มีรูปร่าง ยิ่งเราให้ค่ากับมัน สิ่งนั้นจะยิ่งมีพลังและเข้าหาเรามากขึ้น ดังนั้นจงเมินสับปะรดพวกนั้นซะ!! (น้ำมนต์เกลียดสับปะรดที่สุด)

แค่พูดก็ง่ายสิ...กว่าสิบปีที่น้ำมนต์พยายามไม่สนใจพวกมัน แล้วดูสภาพเขาตอนนี้สิ แค่ดูก็รู้ว่าคำแนะนำของคุณใสใช้ไม่ได้ผล

ร่างไร้ใบหน้าหยุดลงห่างจากน้ำมนต์ไปเพียงหนึ่งช่วงแขน มันย่อตัวลง จ้องมองเด็กหนุ่มที่กำลังสั่นกลัว หูของน้ำมนต์ได้ยินเสียงครางเบาๆ จากลำคอที่ทะลุเป็นรู ผีตนนั้นเอื้อมมือออกมาเพื่อสัมผัสใบหน้าของน้ำมนต์

ก่อนที่อะไรจะแย่ไปมากกว่านั้น คุณใสก็เดินเข้ามาขวางตรงกลางระหว่างน้ำมนต์กับวิญญาณไร้หน้า เขาทำเป็นมองไม่เห็นวิญญาณตนนั้น ฉุดดึงน้ำมนต์ให้ลุกขึ้น

ร่างของน้ำมนต์เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว ไหลไปตามแรงดึงของคุณใส

"โอ๊ย หิวแล้วๆ ขอโทษที่ช้านะเจ้าเด็กน้อย"

คุณใสช้อนร่างของน้ำมนต์ขึ้น โดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่กำลังเพ่งมองอย่างสนอกสนใจ

ในตอนนี้ แทนที่จะรู้สึกกลัว น้ำมนต์กลับรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เขาไม่มีแรงจะดิ้นหนี จึงมุดหน้าลงกับอกของคุณใสแทน

หลินซีที่เห็นเหตุการณ์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าราบเรียบ

"นายจะไปห้องพยาบาลอยู่ไหม?"

คุณใสจ้องมองเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจ

"เธอเป็นใครฮะ?!"

"เพื่อนของน้ำมนต์ คนที่นายอุ้มอยู่นั่นน่ะ" หลินซีเอียงคอมองน้ำมนต์อย่างเป็นห่วง "ให้ช่วยไหม?"

"ไม่ต้อง!" คุณใสสวนกลับทันที "ฉันจัดการได้!"

น้ำมนต์พยายามจะอธิบาย แต่คุณใสก็หอบเอาร่างผอมบางเดินผ่านตัวหลินซีไปอย่างไม่ไยดี

ปกติคุณใสชอบทำตัวหยาบคายใส่ทุกคน ถึงเขาจะปากไม่ดี และชอบกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่บ้าง แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดี น้ำมนต์ไม่อยากให้เพื่อนใหม่เข้าใจพวกเขาทั้งสองผิดไปจึงพยายามจะขอโทษ

หลินซีพยักหน้าเข้าใจ เธอเหมือนจะไม่ถือสาคำพูดของคุณใส แม้เธอจะทำหน้านิ่งเฉยอยู่ตลอดเวลา แต่เธอก็มีการตัดสินใจที่เฉียบขาด มีเหตุผล และดูเป็นผู้ใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ

"ห้องพยาบาลอยู่ใต้ตึกบริหารติดกับโรงอาหารนะ เผื่อนายอยากรู้" หลินซีพูดทิ้งท้ายและโบกมือลา

คุณใสทำเสียงจิ๊จ๊ะเดินกระทืบเท้าไม่พอใจ แต่ก็ยังมุ่งตรงไปห้องพยาบาลตามทางที่หลินซีบอก

เจ้าหน้าที่ดูแลห้องพยาบาลเหมือนจะไปเข้าห้องน้ำ คุณใสเลยพาน้ำมนต์เข้าไปนั่งบนเตียงผู้ป่วยโดยพลการ

"ยัยคนนั้นเป็นใคร?" เมื่อประตูปิดลงคุณใสก็ยิงคำถามใส่น้ำมนต์ทันที

"อย่าว่าเพื่อนสิ" น้ำมนต์ติ แต่นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าไม่พอใจ

"นี่นายนอกใจฉันงั้นเหรอ? จะบอกว่าแค่วันเดียว ไม่สิ แค่ไม่กี่นาทีก็เป็นเพื่อนกันแล้ว งั้นฉันที่ตามแกล้งนายมาตั้งแต่เจ็ดขวบล่ะ เป็นอะไร?"

ใบหน้าของน้ำมนต์กลายเป็นสีแดง

"แล้วต้องนานแค่ไหนถึงจะเป็นเพื่อนได้เล่า อีกอย่างฉันไม่ได้...ไม่ได้..."

"ไม่ได้อะไร?"

ไม่ได้นอกใจเฟ้ย! (น้ำมนต์ไม่ได้กล่าวอีกเช่นเคย)

"ไม่รู้ๆ!"

คนตัวเล็กมุดเข้าไปใต้ผ้าห่ม เพื่อหลบซ่อนความเขินอายบนใบหน้า

คุณใสฉีกยิ้มกว้างอย่างพอใจ เด็กที่ถูกเขาแกล้งในวันนั้น บัดนี้ก็ยังคงถูกแกล้งอยู่เช่นเดิม ความเคยชินที่คุณใสหมั่นสั่งสมเหล่านั้นได้ฝังรากลึกลงในตัวน้ำมนต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูนั่น ทำให้คุณใสอดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปกอด มุดหาใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างสนุกสนาน

ร่างเล็กพยายามดึงผ้าหนี แต่คุณใสก็รุดเข้ามาอย่างไม่ลดละ

หนีได้ก็หนีไป คุณใสไม่เคยเหนื่อยที่จะตามแกล้งนายตัวเล็กคนนี้อยู่แล้ว

คุณใสเลียริมฝีปาก มองเจ้าก้อนกลมกระเถิบหนีเหมือนซาลาเปาลูกโต มันทั้งดูนุ่มนิ่มและน่ากินเป็นที่สุด

ที่ผ่านมาเพราะนิสัยขี้กลัวของน้ำมนต์ ทำให้ไม่ว่าใครก็รุมรังแกเขาได้ ไม่เว้นแม้แต่พวกคนที่ตายไปแล้ว ผิดกับคุณใสที่ไม่เคยกลัวสิ่งใด พร้อมมีเรื่องไม่ว่ากับคนหรือผี ปากแซ่บที่สุดในซอย ใครก็ตามที่มาหาเรื่องน้ำมนต์ คุณใสก็พร้อมใส่เดี่ยวด้วยหมด

ด้วยศักยภาพนั้นคุณใสจึงตั้งตนเป็นผู้ปกป้องน้ำมนต์ และยังคงปฏิบัติหน้าที่นั้นตราบจนถึงทุกวันนี้

แต่แล้ว พอมองเจ้าก้อนผ้าห่มตรงหน้าพยายามขัดขืน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนเพิ่งออกตัวช่วยเหลือเอาไว้ ไม่เพียงไม่ได้รับคำขอบคุณ ยังโดนหลบหน้าเช่นนี้อีก นี่มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

คุณใสกระเถิบเข้าใกล้เจ้าก้อนผ้าห่ม เริ่มเปิดฉากการแสดงระดับที่ซูเปอร์สตาร์ยังต้องอาย

"ใช่สินะ ฉันมันทำอะไรก็ไม่เคยดี...คงเป็นได้แค่คนร้ายในสายตานายเสมอสินะ น่าน้อยใจชะมัด"

คุณใสหันหนี แสร้งทำหน้าเศร้าและเสียงสะอื้น

มันได้ผล คนในผ้าห่มค่อยๆ ชะเง้อมองร่างใหญ่ที่หันหลังให้อย่างระมัดระวัง

เมื่อเห็นว่าคนขี้แกล้งเงียบไปนานเกิน 3 นาที น้ำมนต์ก็เริ่มใจอ่อน ในที่สุดก็ติดกับความเจ้าเล่ห์ของคุณใสเข้าจนได้

"ฉันไม่ได้มองว่านายเป็นคนไม่ดีนะ" น้ำมนต์พยายามดึงแขนเสื้อของคุณใส

"อุตส่าห์ช่วย ก็เอาแต่ดุกันตลอด..." คุณใสตัดพ้อ

"ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ"

"ทำดีกับฉันบ้างไม่ได้หรือไง?"

"รู้แล้วๆ ฉันจะทำดีด้วย...เลิกงอนได้แล้ว"

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าหนาๆ ของคุณใส

"ต้องไปกินข้าวกับฉันก่อน"

"ฉันกินข้าวกับนายประจำอยู่แล้วนี่" น้ำมนต์เอียงคอ

"งั้นป้อนข้าวด้วย" คุณใสยังไม่ยอมแพ้

"นายเป็นเด็กหรือไง?"

"นั่นไง!...ดุอีกแล้ว!" คุณใสโพล่งขึ้น หันไปทำหน้าง้องอนอีกครั้ง "หนหน้าจะปล่อยให้ผีพวกนั้นหิ้วไปซะเลย!"

"ไม่ๆ ไม่เอานะ!!" น้ำมนต์รีบดึงแขนของคุณใสเอาไว้ พลางส่ายศีรษะรัว ๆ "ถ้านายไม่ช่วย ฉันคงใช้ชีวิตแบบคนปกติไม่ได้แน่..."

"นี่มันเกินไปหรือเปล่า?" คุณใสกอดอกทำกระฟัดกระเฟียด "ใช้ฉันเป็นเครื่องไล่ผี เกาะติดจนแทบไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ แล้วยังชอบดุฉันอีก ไม่คิดว่ามันเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือไง?"

น้ำมนต์เถียงไม่ออก เขารู้ดีว่าสิ่งที่ตนเรียกร้องออกจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว อีกทั้งยังเป็นภาระให้คนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกว่าเรื่องที่คุณใสกล่าวหาว่าเขาเกาะติดคุณใสนั่นมันไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริง คนที่ไม่ยอมให้น้ำมนต์ได้อยู่คนเดียวคือคุณใสต่างหาก ขนาดน้ำมนต์คุยกับหลินซี คุณใสยังพาลใส่เธอเลย...คิดดูสิ!

แม้อยากเถียงใจจะขาด แต่ส่วนหนึ่งที่คุณใสพูดมันก็เป็นความจริง ถ้าไม่มีคุณใสอยู่ น้ำมนต์คงถูกรบกวนจากคนตายจนไม่เป็นอันใช้ชีวิตกันพอดี

เมื่อคุณใสเห็นว่าอีกฝ่ายไม่โต้เถียง และเริ่มแสดงสีหน้ารู้สึกผิด เขาจึงถือโอกาสขอในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้

"แบบนี้ฉันต้องเรียกร้องรางวัลในการทำหน้าที่เครื่องรางบ้างแล้วมั้ย?"

"จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ นายอยากให้ฉันทำอะไร จะทำให้หมดเลย" น้ำมนต์พูดอย่างจริงจัง

คุณใสแสร้งทำเป็นคิดมาก

"มันออกจะยากอยู่นะ นายจะทำได้จริงหรือ?"

"ได้สิ ฉันทำได้!" น้ำมนต์พยักหน้ารัวๆ

ดูสิ ไม่ระวังตัวอีกแล้ว...คุณใสหงุดหงิดเล็กน้อยที่คนตัวเล็กยอมรับคำขอของผู้อื่นง่ายๆ โดยไม่ถามรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะแบบนี้ถึงได้ถูกเอาเปรียบอยู่เสมอ แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งคุณใสเองก็รู้สึกพอใจที่ตนไม่ถูกปฏิเสธ...เป็นไปตามแผนเป๊ะ!

"งั้นหลับตาสิ" คุณใสเอ่ย

"ทะ ทำไมต้องหลับตาด้วย?" น้ำมนต์ถามอย่างระมัดระวัง

หลายต่อหลายครั้งที่คุณใสชอบสั่งให้น้ำมนต์หลับตา หลังจากนั้นคนตัวเล็กก็มักจะถูกแกล้งด้วยวิธีแผลงๆ นั่นทำให้น้ำมนต์ลังเลที่จะทำตาม

"แน่ะ! ไหนว่าทำได้ทุกอย่างไง แค่หลับตานายยัง...!"

"รู้แล้วๆ แค่หลับตาใช่มั้ยล่ะ!"

น้ำมนต์หลับตาลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

ปลายนิ้วของเขารู้สึกวูบวาบเมื่อต้องอยู่ในความมืด ยากจะควบคุมความคิด ได้แต่ต้องมโนเอาเองว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรในขณะที่มองไม่เห็น

คุณใสมองคิ้วของคนตรงหน้าขมวดเข้าหากันอย่างขบขัน แม้ร่างเล็กจะทำหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ ทว่าในสายตาคุณใส มันกลับยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า

"นายจะทำอะไร...อึ้ก!"

คำถามของน้ำมนต์ถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอ เมื่อคุณใสโน้มตัวเข้ามาประทับริมฝีปากของเขาเข้ากับน้ำมนต์

สัมผัสนุ่มนวลที่ริมฝีปากชัดเจนจนร่างเล็กถึงกับชาไปทั้งตัว

ดวงตาของน้ำมนต์เบิกกว้าง หัวสมองยุ่งเหยิงราวกับก้อนไหมพรม ใบหน้าของคุณใสอยู่ใกล้มากจนกลายเป็นภาพเบลอ น้ำมนต์ลืมที่จะขัดขืน ลืมแม้กระทั่งวิธีหายใจ จนอีกฝ่ายผละออกช้าๆ

คุณใสยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าร่างเล็กไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธ

"จากนี้ไป ถ้าอยากให้ช่วย นายก็ต้องจุ๊บฉันก่อน เข้าใจ๊?"

"หา...?"

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมประหลาดๆ ของพวกเขาทั้งสองคนในรั้วมหาวิทยาลัย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 32 ภาพถ่ายของเรา

    “หลิน! ฟังก่อนได้ไหม เพราะเธอเอาแต่ปฏิเสธฉันแบบนี้ไงฉันถึงได้ไปมีคนอื่น”คำพูดของคนหน้าด้านหน้าทนทำให้หลินซีเดือดปุดๆทีแรกก็ว่าจะรวมพลังไปหาถึงที่ ใครจะคิดว่าแค่ส่งข้อความพร้อมคลิปหลักฐานไป หมอนี่ก็โผล่มาทันที แล้วยังเอาแต่พ่นคำแก้ตัวปัญญาอ่อนนี่ต่อหน้าเธอไม่หยุด“ได้ งั้นในเมื่อเป็นแบบนี้ก็จบกัน แล้วแยกย้ายซะ” หลินซีตัดบทสรุปอย่างง่ายดาย“ไม่นะหลิน นี่หลิน ฟังฉันสิ!”เมื่อคำออดอ้อนใช้ไม่ได้ผลเหมือนทุกครั้ง ธีร์จึงเริ่มใช้ความรุนแรง เขาจับแขนของหลินซีแน่นเสียจนเป็นรอยเขียวช้ำถ้าคิดว่าหลินซีจะยอมอยู่ฝ่ายเดียวละก็ คิดผิดแล้วทว่าก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ใช้วิชาป้องกันตัวที่เรียนมาจากคุณพ่อที่เป็นสารวัตรตำรวจ รองเท้าผ้าใบข้างหนึ่งก็ลอยข้ามหลังหัวของเธอไปกระแทกเข้ากับหน้าหนาๆ ของธีร์เข้าอย่างจังพลั่ก!“โอ๊ย! อะไรวะเนี่ย!”ก่อนที่ธีร์จะทันได้โวยวาย ลูกเตะขาคู่ของคุณใสก็ยันเอาร่างของนักศึกษาแพทย์ลอยปลิวไปชนกำแพงน้ำมนต์รีบวิ่งไปดูหลินซี เธอสะดุ้งเมื

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 31 หนี

    “คิดว่าผู้หญิงคนนั้น จะยังอยากมองหน้าพวกนายต่องั้นเหรอ หลังจากที่โดนคนประเภทนั้นแย่งคนรักไป”“แน่นอน” คุณใสพูดอย่างมั่นใจ “ถึงยัยนั่นจะน่าหงุดหงิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่แยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ถ้านายคิดว่าตัวเองยั่วยุให้ยัยนั่นแตกคอกับพวกเราได้สำเร็จแล้วละก็...หึ นายคิดผิดถนัด”นิ้วมือและกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของยูเรเกร็งเพราะความเดือดดาล ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นกับตา แค่เพียงได้ยินคำพูดนั้นจากปากของคุณใส ยูเรก็รู้สึกว่าตนได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆนาฬิกาข้อมือของยูเรหนักอึ้ง ราวกับสวมหินขนาดใหญ่ไว้ที่ข้อมือทำไมถึงเป็นเช่นนี้...มันเป็นความผิดของใครกัน ยูเรนึกคิดในใจ“กลับกันได้แล้ว...อย่าลืมไปขอโทษน้ำมนต์ด้วยล่ะ”น้ำมนต์...แค่เพียงได้ยินชื่อนั้นยูเรก็รู้สึกเกรี้ยวโกรธ ราวกับลาวาปะทุ ใบหน้าเกร็ง คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปม ชื่อนี้นี่เองที่เป็นตัวการทำลายความสุขของเขาห่างออกไปที่ด้านหลังของคุณใส ชายผู้เป็นตัวการคนนั้นกำลังวิ่งตรงเข้ามา บนใบหน้าเต็มไปด้

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 30 ฉันรู้อยู่แล้ว!

    คลิปวิดีโอของชายหนุ่มสองคนที่กำลังกอดจูบลูบคลำกันใต้แสงไฟสลัวในสถานเริงรมย์ ทำเอาใบหน้าของหญิงสาวที่ปกติแทบไม่แสดงอารมณ์ บัดนี้กลับบิดเบี้ยวเพราะความเศร้าโศกเสียใจเหตุเพราะยูเรเลือกที่จะเปิดคลิปที่เขาบังเอิญเจอธีร์กำลังมีสัมพันธ์กับชายอื่น ซึ่งเป็นการนอกใจ และนอกกายอย่างไม่น่าให้อภัย“ขอโทษนะหลิน ไม่ได้อยากทำให้เสียใจนะ แต่พอมาคิดดูแล้ว ก็จริงอย่างที่น้ำมนต์พูดเมื่อวาน บางเรื่องมันก็จำเป็นต้องพูดจริงๆ ” ยูเรเอ่ยพลางก้มหน้าก้มตารู้สึกผิดน้ำมนต์มองใบหน้าเศร้าสร้อยของเพื่อนสาวแล้วรู้สึกเจ็บปวด สายตาว่างเปล่าของหลินซีดูน่าเป็นห่วงเอาการ แม้ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่น้ำมนต์ก็จับมือเพื่อนสาวเอาไว้ตลอดเวลา“ไอ้เวรนั่น ว่าแล้วเชียว!” คุณใสกัดฟันกรอด “แค่เห็นหน้าครั้งแรกก็ไม่สบอารมณ์แล้ว นี่หลินให้ฉันไปต่อยมันสักทีดีมั้ย!”หยาดน้ำตาใสไหลอาบแก้มของหญิงสาว!!!น้ำมนต์กับคุณใสแทบช็อก ตั้งแต่รู้จักกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่หลินซีแสดงด้านอ่อนแอของเธอให้เห็น ครั้นจะพยายามหยุดน้ำตาของเธอก็ไม่ได้ การร้

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 29 ร้าวฉาน

    “นายมองเห็นดวงวิญญาณเนี่ยนะ” ยูเรเอ่ยถาม เขาดูไม่เชื่อคำพูดของน้ำมนต์เสียเท่าไรเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่กับคนที่น่าสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากที่สุด ดันออกตัวพูดทำให้เรื่องเล่าของน้ำมนต์ดูไม่มีน้ำหนักเช่นนี้ ยิ่งทำให้ความสงสัยในใจของน้ำมนต์เพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่าหลินซีพิจารณาสิ่งที่ได้ยินด้วยเหตุผล เธอรู้ดีว่าน้ำมนต์ไม่ใช่คนโป้ปด ถึงกระนั้นสิ่งที่เขาพูดก็ยากที่จะเชื่อ เธอจึงตัดสินใจไม่พูดอะไร เพื่อรอคำอธิบายเพิ่มเติม“ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ” นิ้วมือของน้ำมนต์ประสานเข้าด้วยกัน“ที่นายไม่สบายครั้งก่อน เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้หรือเปล่า” หลินซีถามน้ำมนต์พยักหน้า นัยน์ตาเหลือบมองปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสอง“ที่ฉันเล่าให้ฟัง เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกัน เรื่องนี้เป็นปัญหากับฉันพอสมควร ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้พวกนาย...”“มั่นใจนะว่านายไม่ได้คิดไปเอง...”คำถามของยูเรทำให้แววตาของคุณใสเย็นเยียบ ร่างสูงกระแอม&ldquo

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 28 มีคนอกหัก

    "มาๆ นั่งตรงนี้เลย" พนักงานหนุ่มลูกชายเจ้าของร้านวาดแขนเป็นการเชื้อเชิญด้านในของร้าน เป็นโต๊ะอาหารที่อยู่ใต้หลังคา ซึ่งแทบจะอยู่ติดกับเวทีการแสดง แม้จะไม่ได้เป็นห้องปิดหรือมีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็นับได้ว่าเป็นโต๊ะระดับ VIPกลุ่มนักศึกษาสี่คนนั่งลงที่โต๊ะไม้ใหญ่ ชาร์ปทำงานอย่างกระฉับกระเฉง ทั้งแนะนำเมนูทั้งยกน้ำมาเสิร์ฟ บริการผู้หญิงที่เพิ่งพบหน้ากันเพียงไม่กี่วินาทีได้ดีกว่าบริการเพื่อนสนิทอย่างคุณใสเสียอีกไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ทว่าจานอาหารของหลินซีกับถูกตกแต่งอย่างสวยงามราวกับอาหารในร้านหรู ช้อนส้อมก็เงาวับอย่างกับของใหม่แกะกล่อง ที่สำคัญใต้ขวดน้ำดื่มของหลินซียังมีกระดาษโน้ตที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ และชื่อของชาร์ปเอาไว้ด้วยคุณใสแทบสำลัก...เขาหันไปกระซิบกับน้ำมนต์ที่นั่งข้างๆ"เมื่อก่อนฉันไม่ได้จีบนายด้วยวิธีเห่ยๆ แบบนั้นใช่ปะ ดูแล้วน่าขนลุก"น้ำมนต์ส่งยิ้มอันตรายจนแฟนหนุ่มถึงกับปากหุบในทันทีใช่สิ...ก่อนหน้านี้อย่าเรียกว่าจีบ คนที่เอาแต่กลั่นแกล้ง ฉวยโอกาส ล่วงละเมิดทางเพศน้ำมนต์อย่างคุณใสน่ะ ไม่มีสิทธิ์มาพู

  • Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี   บทที่ 27 พนักงานปากแซ่บคนนั้นคือ...

    ยามว่างของหลินซีเป็นอะไรที่แสนเรียบง่ายและน่าเบื่อหญิงสาวพบว่าพี่ชายของเธอไม่กลับบ้านอีกแล้ว เรียกได้ว่าคอนโดห้องนี้แทบจะถูกเธอยึดครองอย่างสมบูรณ์แบบ มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ เธอสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ มีพื้นที่ส่วนตัวและห้องเงียบสงบเป็นของตัวเอง ข้อเสียคือ เธอต้องรับหน้าที่เป็นผู้จัดการงานบ้านงานเรือนทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียวเอาเถอะ...ก็สมเหตุสมผลดีหลินซีก้มลงมองข้อความในโทรศัพท์ที่ถูกส่งมาจากคนรักของเธอ'หลินวันนี้ไม่ว่างนะ ต้องติวหนังสือต่อ ไว้วันหลังค่อยไปดูหนังด้วยกันนะ''ได้ พี่อย่าแอบอู้แล้วกัน''ครับผมมมมมมม'การสนทนาสิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น เป็นเรื่องปกติสำหรับคู่รักของเธอ ธีร์เรียนแพทย์ บทเรียนต่างๆ ทั้งยากและยังต้องศึกษาอยู่ตลอดเวลา อาจเพราะพี่ชายของเธอเองก็มีพฤติกรรมบ้าเรียนไม่ต่างกัน เธอจึงเข้าใจได้ ไม่ทำตัวงี่เง่าให้คนรักต้องทิ้งสิ่งที่เขาชอบเพื่อมาเอาอกเอาใจเธอหลินซีเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตเอาล่ะ...วันนี้เป็นวันว่างของจริงแล้วเธอกวาดตามองไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status