Accueil / แฟนตาซี / The Light and Shadow : เงาทมิฬ / บทที่ 1 การกลับมา

Share

บทที่ 1 การกลับมา

Auteur: RainyStarSea
last update Dernière mise à jour: 2024-11-20 14:27:57

ไรอัน อีวานส์ยืนอยู่บนยอดเขาสูงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอาณาจักรเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน ลมเย็นที่พัดผ่านพาเอากลิ่นอายของความทรงจำเก่าๆ กลับมาหาเขา ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของเขาแฝงด้วยความโศกเศร้าและความหนักอึ้งที่ไม่สามารถลบเลือนออกจากหัวใจได้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ภาพในอดีตยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ

ไรอันใช้เวลาหลายปีในการเดินทางไกลหนีจากเงามืดของอดีต เขาเดินทางไปยังที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครตามหา แต่ไม่ว่าเขาจะไปไกลแค่ไหน เขาก็ไม่อาจหนีจากความรู้สึกผิดในใจได้ เมื่อข่าวลือเกี่ยวกับการทำลายล้างหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขามาถึงหู ไรอันรู้ทันทีว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป

“ลูเซียส...”

ไรอันเอ่ยชื่อของเพื่อนสนิทที่กลายเป็นศัตรูออกมาเบาๆ

คำพูดนั้นเหมือนกับการเรียกวิญญาณที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขารู้ดีว่าการกลับมาครั้งนี้ไม่เพียงแค่การสืบหาความจริงเกี่ยวกับหมู่บ้านที่ถูกทำลายเท่านั้น แต่มันยังเป็นการเผชิญหน้ากับลูเซียส คนที่เขาเคยเชื่อใจและรักเหมือนพี่น้อง

ความคิดของเขาเต็มไปด้วยคำถาม เหตุใดลูเซียสถึงได้กลายเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้? เขาเคยเป็นคนดี เป็นคนที่มีความกล้าหาญและความยุติธรรม แต่ความมืดที่เข้ามาครอบงำจิตใจของเขาได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไรอันรู้ดีว่าการหาคำตอบเหล่านี้อาจนำพาเขาไปสู่ความเสี่ยง แต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญกับมัน

ไรอันเริ่มเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านที่ถูกทำลาย ดินที่เขาเหยียบย่ำยังคงมีร่องรอยของเถ้าถ่านจากกองไฟที่ลุกลามไปทั่วทุกหนแห่ง เศษซากของบ้านเรือนที่ถูกเผาเหลือเพียงแค่โครงไม้ที่พังทลายไปแล้ว เขาเดินผ่านถนนที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับกลายเป็นถนนที่ไร้ผู้คน ไร้เสียงหัวเราะและเสียงสนทนาที่เคยคุ้นเคย

เมื่อเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้าน ไรอันก็พบกับสิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้งยิ่งขึ้นไปอีก ศพของชาวบ้านที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้น แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้น ไรอันคุกเข่าลงข้างๆ ศพหนึ่ง ใช้มือสัมผัสที่ดินรอบๆ ศพ น้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ไหลลงมาอย่างช้าๆ แม้จะไม่เคยรู้จักชาวบ้านเหล่านี้ แต่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดและการสูญเสียของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง

“ข้าจะหยุดเจ้าให้ได้ ลูเซียส”

ไรอันพึมพำออกมา

ไรอันลุกขึ้นยืนหลังจากดูศพของชาวบ้านคนหนึ่ง หัวใจของเขาหนักอึ้งด้วยความเศร้าและความสิ้นหวัง เขาก้าวเดินต่อไปโดยไม่มีคำพูดใดๆ ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น ความเงียบสงบที่แผ่ซ่านไปรอบๆ หมู่บ้านทำให้บรรยากาศยิ่งน่าหวาดหวั่น ทุกย่างก้าวของเขารู้สึกราวกับกำลังเดินผ่านฝันร้ายที่ไม่สิ้นสุด

เมื่อไรอันเดินไปถึงบ้านของตน เขาก็หยุดชะงักตรงหน้าประตูบ้าน บ้านที่เขาเคยอยู่ บ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันแสนสุข ดอกไม้สีม่วงที่เคยชูช่อเล็กๆสดสวยอยู่ในแปลงริมรั้วบ้าน เวลานี้เหี่ยวเฉา และมีรอยช้ำดำๆปรากฎเต็มไปหมด เมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านกลับมีแต่ความเงียบและความว่างเปล่า เสียงหวีดหวิวของลมพัดผ่านใบหูที่เย็นเฉียบความเย็นยะเยือกของความตายแผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ เหลือไว้เพียงความโศกเศร้าที่ไม่มีวันลืม

ไรอันเปิดประตูเข้าไปช้าๆ เสียงบานประตูที่เปิดออกดังเอี๊ยดอ๊าดราวกับกำลังร้องคร่ำครวญ ทุกอย่างภายในบ้านเงียบสงัด ในตอนนี้เขาได้ยินเพียงเสียงรองเท้าบู๊ตของตัวเอง ไรอันมองไปรอบๆ ห้องโถงใหญ่ที่เคยอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แต่ตอนนี้กลับมีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านช่องหน้าต่างแตกและกลิ่นอายของความตายที่ยังคงหลงเหลือ

 เขาเดินไปยังห้องหนึ่งที่อยู่ลึกที่สุดในบ้าน หัวใจของเขาเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ ราวกับลางบอกเหตุถึงสิ่งที่เขากำลังจะพบ เมื่อเข้าไปในห้องนั้น ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย ร่างของพ่อแม่และน้องสาวของเขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เลือดที่แห้งกรังสร้างรอยเปื้อนบนพื้นไม้ เผยให้เห็นถึงการต่อสู้และการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของพวกเขา

ไรอันทรุดตัวลงกับพื้นข้างๆ ร่างไร้ชีวิตของครอบครัว น้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้อีกครั้งกลับไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง มือของเขาสั่นเทาเมื่อเขายื่นออกไปแตะมือของแม่ที่เย็นเฉียบ เขาจับมือของแม่ไว้แน่นราวกับพยายามจะเรียกเธอกลับมา แม้ว่าในใจลึกๆ เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

“ข้าขอโทษ...” เสียงของไรอันเบาและแหบพร่า ราวกับจะขาดใจ “ข้าควรจะอยู่ที่นี่... ข้าควรจะปกป้องพวกท่าน... แต่ข้ากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย...”ความรู้สึกผิดและความสิ้นหวังท่วมท้นจิตใจของเขา หยดน้ำใสๆไหลหยดลงบนมือเย็นชืดของแม่ ไรอันกลั้นสะอื้นและเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆเขาบรรจงเอาผ้าเช็ดหน้าสีขาวของตัวเองเช็ดบนมือแม่อย่างแผ่วเบา เขาไม่สามารถหยุดความคิดที่ว่าถ้าเขาอยู่ที่นี่ บางทีสิ่งนี้อาจไม่เกิดขึ้น การสูญเสียที่เจ็บปวดครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกมือที่มองไม่เห็นบีบเค้น ความโกรธที่เคยมีต่อชะตากรรมและความแค้นที่เขามีต่อลูเซียสเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาในใจ

แต่ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงความอ่อนล้าและความสิ้นหวังที่แทบจะทำให้เขายอมแพ้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยรู้จัก ทุกคนที่เขาเคยรัก ถูกทำลายลงอย่างไร้ความปรานี ลูเซียส ไนท์ฟอลคนที่เคยเป็นเพื่อนรัก คนที่เขาเคยเชื่อมั่น ตอนนี้กลายเป็นศัตรูที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา

ไรอันกอดร่างของแม่ไว้แนบอก ร่างที่เคยอบอุ่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตอนนี้กลับเย็นชืดและไร้วิญญาณ น้ำตาของเขาไหลลงมารวมกับเลือดที่แห้งกรังบนพื้น เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้ ความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงลงไปในจิตวิญญาณของเขา“ข้าสัญญา...” ไรอันพูดเบาๆ ขณะที่เขาวางร่างของแม่กลับลงไปอย่างอ่อนโยน “ข้าจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งลูเซียส... ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”

แม้เสียงของเขาจะแผ่วเบา แต่ความมุ่งมั่นในใจกลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไรอันลุกขึ้นยืน และเริ่มค้นหาผู้รอดชีวิตหรือเบาะแสที่จะนำเขาไปสู่ลูเซียส

ขณะที่ไรอันกำลังสำรวจหมู่บ้านอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบาๆ มาจากซากปรักหักพังทางซ้ายมือ เขาเงยหน้าขึ้นและมองเห็นเงาร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังพยายามขยับออกมาจากใต้ซากไม้ที่ถล่มทับอยู่ เธอมีผมยาวสีทองอ่อนที่เลอะเทอะด้วยฝุ่นและดิน ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ก็ไม่อาจปิดบังความงดงามของเธอได้ สองแขนบอบบางสั่นระริกขณะพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น ร่างกายของเธอบาดเจ็บและอ่อนล้า

ไรอันรีบเข้าไปช่วยหญิงสาวคนนั้นทันที เขายกซากไม้ออกและค่อยๆ พยุงเธอลุกขึ้นยืน หญิงสาวมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความหวาดกลัว แต่ไรอันก็สังเกตเห็นประกายของความมุ่งมั่นในดวงตาสีเขียวมรกตของเธอ

“ขอบคุณ” หญิงสาวพูดด้วยเสียงแผ่วเบา

“คุณ...เป็นใคร?”

ข้าชื่อไรอัน” เขาตอบอย่างสั้นๆ

“ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาคนคนหนึ่ง”

“คุณกำลังตามหา...ลูเซียสใช่ไหม?” หญิงสาวถามขึ้นทันที

แม้เสียงของเธอจะสั่นไหวแต่ก็เต็มไปด้วยความโกรธ “เขาคือคนที่ทำลายหมู่บ้านนี้ เขาคือคนที่ฆ่าครอบครัวของฉัน”

ไรอันรู้สึกถึงความเจ็บปวดในคำพูดของเธอ เขาไม่อยากยอมรับว่าลูเซียสคือผู้กระทำผิด แต่เขารู้ดีว่าหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่อดีตเพื่อนของเขา

“ใช่ ข้ากำลังตามหาเขา ข้ารู้ว่าเขาคือคนที่ทำเรื่องเลวร้ายนี้และข้าต้องการหยุดเขา”

หญิงสาวมองไรอันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความโกรธ

“ข้าชื่อลีอา ถ้าท่านต้องการหยุดลูเซียส ข้าจะช่วยด้วย ข้าไม่ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้แน่”

ไรอันพยักหน้าเบาๆ แม้จะยังไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถปกป้องเธอและหยุดยั้งลูเซียสได้หรือไม่ แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้เพียงลำพัง

“ตกลง เราจะร่วมมือกัน”

ทันใดนั้น ไรอันและลีอาก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ที่แว่วมาจากซากปรักหักพังใกล้เคียง ทั้งสองคนหันไปทางต้นเสียง และเมื่อไรอันเดินเข้าไปใกล้ เขาก็พบกับเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังกองไม้ เธอดูเหมือนอายุประมาณ 7 ขวบ ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เคยเรียบร้อยบัดนี้กลับยุ่งเหยิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและฝุ่นดิน แต่ดวงตาสีฟ้าของเธอที่คล้ายคลึงกับของไรอันกลับเปล่งประกายด้วยความหวาดกลัวและความไร้เดียงสา

“ไม่ต้องกลัวนะ” ไรอันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

“ข้ามาช่วยเจ้า”

เด็กหญิงมองไรอันด้วยสายตาที่ไม่แน่ใจ แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่เป็นมิตรของเขา เธอก็ยอมให้เขาเข้าใกล้ ไรอันย่อตัวลงและยื่นมือให้เธอ

“ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ข้าและพี่สาวคนนี้จะพาเจ้าไปที่ปลอดภัย” ลีอาเข้ามาช่วยปลอบโยนเด็กหญิงด้วย

”พวกเราจะดูแลเจ้า เจ้าไม่ต้องกลัวอีกแล้ว”

เด็กหญิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยอมยื่นมือเล็กๆ ของเธอไปจับมือไรอัน เขายกเธอขึ้นมาอย่างนุ่มนวล แล้วพาเธอออกมาจากซากปรักหักพัง ลีอาหยิบเสื้อคลุมของเธอมาคลุมให้เด็กหญิงเพื่อปกป้องเธอจากลมหนาว

“ข้าชื่ออาเรียน่า” เด็กหญิงพูดเสียงแผ่วเบา

ขณะที่เธอจับเสื้อคลุมของลีอาไว้แน่น

“ข้ากลัว... ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”

“ไม่เป็นไรนะ อาเรียน่า” ไรอันปลอบเธอ

“พวกเราจะไม่ทิ้งเจ้าไว้ที่นี่ พวกเราจะพาเจ้าไปที่ปลอดภัย”

อาเรียน่าซบหน้าลงกับไหล่ของไรอันอย่างอ่อนแรง เสียงสะอื้นค่อยๆ เบาลงเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยในอ้อมกอดของเขา

ไรอันรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น เด็กคนนี้สูญเสียทุกอย่างไปในพริบตา และตอนนี้เธอมีเพียงพวกเขาสองคนที่จะปกป้องเธอ

ลีอามองดูเด็กหญิงที่หลับใหลไปในอ้อมกอดของไรอันด้วยความรู้สึกปะปนกัน เธอรู้สึกเห็นใจและเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาเรียน่า

แต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นในตัวเองที่จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งลูเซียส เธอไม่อาจปล่อยให้คนอื่นต้องสูญเสียอย่างที่เธอและอาเรียน่าเคยประสบมา

“เราควรจะรีบออกจากที่นี่ก่อนที่ลูเซียสหรือคนของเขาจะกลับมา” ลีอากล่าวเสียงเบา

เธอจับตาดูรอบๆ หมู่บ้านที่ยังคงเต็มไปด้วยเงามืดที่น่าสะพรึงกลัว

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   ตอนพิเศษ หัวใจทมิฬ

    ลูเซียสยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ความมืดนี้ไม่ใช่แค่เงาหรือความมืดธรรมดา แต่มันคือพลังที่อยู่ในตัวเขามาตั้งแต่เกิด มันเป็นพลังที่ทำให้เขาถูกตัดสินและขับไล่ออกไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเงยหน้าขึ้นมองลีอาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจมาเนิ่นนาน”ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น” ลูเซียสเริ่มเล่า น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุ้มลึก “ข้าเกิดมาในตระกูลสูงส่งแห่งแอสทารา ข้าเคยมีทุกสิ่งที่เด็กคนหนึ่งต้องการ...มีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่ข้าเคารพรัก แต่พวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขารู้ว่าข้ามีพลังเงามืดในตัว” ลีอานั่งฟังด้วยความตั้งใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินความเจ็บปวดในคำพูดของเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูเซียสต้องทนทุกข์กับอดีตเช่นนี้”ข้าจำได้ชัดเจน ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กแค่ 7 ขวบ ข้าคิดว่าพลังนี้เป็นสิ่งพิเศษ ข้ารู้สึกแตกต่าง แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้คนอื่นๆ กลัว ข้าพยายามใช้มันเพื่อแสดงให้พ่อแม่เห็นว่า ข้าสามารถปกป้องพวกเขาได้ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจ” ลูเซียสหยุดไปช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทสุดท้าย เงาที่เหลืออยู่

    ชีวิตของไรอันและลีอาเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขที่พวกเขาเคยฝันถึง หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและการสูญเสียที่ทำให้หัวใจของพวกเขาต้องบอบช้ำ พวกเขาก็ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หมู่บ้านที่เคยถูกครอบงำด้วยเงามืดกลับมาสดใสอีกครั้ง และชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยินดีและความหวังลีอาและไรอันมีลูกแฝดชายหญิงที่เปรียบเสมือนดวงดาวสว่างไสวในชีวิตของพวกเขา เด็กทั้งสองคนเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสาและความสดใสที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกถึงความหวังและความสุขที่แท้จริง ครอบครัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรัก ไรอันเป็นพ่อที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและปกป้องลูกๆ ด้วยชีวิต ขณะที่ลีอาเป็นแม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยน คอยดูแลทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักในขณะเดียวกัน เอลเลียตและเฟนิกซ์ก็ออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ เพื่อฝึกฝนตนเองและค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต พวกเขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกด้านอาเรียน่าเองก็เลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เธอตัดสินใจออกเดินทาง

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่ (1)

    ลูเซียสหายใจลึก รู้สึกถึงน้ำหนักที่ถูกยกออกจากบ่าของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าความมืดในจิตใจของเขายังคงหลงเหลืออยู่ แต่ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและหาความสงบสุขในตัวเองก็มีมากกว่าลีอาที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างไรอันก็ยิ้มให้ลูเซียสด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ “ข้ายังเชื่อในตัวเจ้า ลูเซียส ข้ารู้ว่าลึกๆ แล้วเจ้าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร เจ้าก็แค่ต้องการคนที่จะเชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเจ้า”อาเรียน่าก้าวเข้ามาสมทบ “เราเป็นครอบครัว... ครอบครัวที่ยอมรับกันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว”ลูเซียสมองดูพวกเขาทั้งสี่คน น้ำตาที่เก็บกดไว้ตลอดหลายปีเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารู้สึกถึงความโล่งใจและความหวังที่เคยสูญเสียไปนานแล้ว“ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ข้าเคยทำ” ลูเซียสกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษที่ข้าเคยเลือกทางที่ผิด และข้าขอโทษที่ข้าพยายามจะทำร้ายพวกเจ้า”“เจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรอีกแล้ว” ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาใกล้ลูเซียสและยื่นมือออกไป “สิ่งสำคัญคือเจ้าได้กลับมา และเราจะผ่านทุกสิ่งไปด้วยกัน” ไ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่

    "ในคืนหนึ่ง... ข้าจำได้ว่าแม่ของข้าไม่ได้มาร่ำลาข้า ข้าเพียงเห็นแผ่นหลังของพ่อที่หันมาเอ่ยคำสุดท้ายกับข้า 'เจ้าต้องไป...เพื่อปกป้องตระกูล' คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวข้าตลอดมา ข้าถูกขับไล่ออกจากบ้าน ถูกส่งไปในป่าลึก โดยไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะมาอธิบายว่าเหตุใด ข้าเป็นแค่เด็ก แต่ข้ากลับถูกทิ้งไว้ในความมืด โดยไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีความอบอุ่นของครอบครัว" เขาก้มหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ตอนที่ข้าจากไป ไรอันยังไม่เกิด พ่อและแม่ของเราคิดว่าเมื่อข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ข้าถูกลบออกจากความทรงจำของครอบครัว...และไรอัน เขาเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา"ลีอาหันไปมองลูเซียสอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน ลูเซียส...พี่น้องร่วมสายเลือดของไรอัน ถูกผลักไสออกจากครอบครัวในวัยเด็ก เพียงเพราะพลังที่เขาไม่ได้เลือกที่จะมี"ข้าเร่ร่อนอยู่ในป่า เดียวดายและเต็มไปด้วยความกลัว ข้าไม่รู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ข้ารอคอยวันที่ครอบครัวจะมารับข้ากลับ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ข้าโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวและความเกลียดชัง ข้าเรียนรู้ที่จะใช้พ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (2)

    แต่ลีอากลับก้าวออกมาจากเงามืดนั้นอย่างช้าๆ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าไรอันและอาเรียน่า น้ำตาของเธอไหลลงมาเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษที่ข้าเคยละทิ้งพวกเจ้า...”ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้าวเข้ามากอดเธอไว้ “ไม่เป็นไร ลีอา เจ้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวอาเรียน่าเริ่มส่องประกายอย่างแรงกล้าอีกครั้ง ลูเซียสรู้สึกถึงพลังที่ถอยห่างจากตัวเขา ความมืดที่เคยทำให้เขาแข็งแกร่งกลับกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอที่เข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวและอ่อนแรงลง “ไม่... ไม่!” ลูเซียสตะโกนด้วยความสิ้นหวัง แต่พลังที่เขาเคยยึดมั่นกลับหายไปทีละน้อย เงามืดที่เคยล้อมรอบตัวเขาเริ่มจางหายไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนเข้าสู่แสงสว่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ลีอายังคงมองไปทางลูเซียสที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสับสน ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจสะท้อนถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เธอมีต่อลูเซียส แม้ว่าเธอจะถูกสะกดจิตในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แต่เธอก็สามารถจดจำทุกเรื่องราวท

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (1)

    พลังเงามืดของลูเซียสถูกต้านทานด้วยบาเรียน้ำของไรอันและแสงสว่างของอาเรียน่า แต่ลูเซียสก็ไม่ยอมแพ้ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีและปล่อยคลื่นพลังมืดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงและน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันเป็นพลังที่ถูกหล่อหลอมจากความแค้นและความโดดเดี่ยว คลื่นพลังมืดที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลูเซียสไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้หรือยอมให้ใครเข้ามาขวางทางเขาได้อีก เอลเลียตที่เป็นด่านแรกของการป้องกัน ยังคงยืนหยัดไม่ถอย เขาใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่พื้นอีกครั้งเพื่อสร้างแรงกระแทกที่พุ่งตรงเข้าไปปะทะกับพลังเงามืด แต่ความรุนแรงของพลังมืดนั้นกลับทำให้พื้นดินแตกออกเป็นรอยแยก ลมพายุจากพลังมืดกวาดเอาเศษซากและฝุ่นผงขึ้นมาหมุนวนรอบตัวเอลเลียต ทำให้การมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตาม เอลเลียตยังคงยืนอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางของเขา “พวกเจ้ารีบทำสิ่งที่ต้องทำ!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลัง “ข้าจะยืนหยัดตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” ไรอันรู้ดีว่

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status