แชร์

บทที่ 5 ทะเลมรกต (1)

ผู้เขียน: RainyStarSea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 21:29:07

เธอรีบเข้าไปประคองให้ไรอันพาไปนั่งพักอยู่ใกล้ๆกับอาเรียน่า เธอเดินออกไปช่วยเอลเลียตต่อสู้ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กรามขบกันแน่น นึกถึงแผลของไรอันและสีหน้าหวาดกลัวของอาเรียน่า เธอก็รู้ว่าจะอ่อนแอไม่ได้

ในขณะนั้นเองเธอก็เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวเอง พลังภายในที่ลึกซึ้งซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เธอสัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวเธอที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จิตใจของลีอาเริ่มเปิดรับเสียงเบาๆ ที่ดังขึ้นจากผืนน้ำ มันเป็นเสียงกระซิบของสัตว์น้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลลึก พวกมันกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ ลีอาตัดสินใจที่จะใช้พลังใหม่ที่เธอเพิ่งค้นพบ เพื่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เธอหลับตาลงและมุ่งสมาธิไปยังพลังภายในของเธอ

"ได้โปรด... ช่วยพวกเราด้วย" ลีอาพูดออกมาด้วยภาษาของสัตว์น้ำที่เธอเพิ่งเข้าใจ

เสียงของเธอสื่อถึงความหวังและความมุ่งมั่นที่จะปกป้องพวกพ้องของเธอ

"สัตว์ประหลาดนี้เป็นภัยต่อทั้งพวกเราและพวกเจ้า ข้าขอร้องให้พวกเจ้าช่วยเราต่อสู้"เสียงของลีอาส่งสัญญาณออกไปในน้ำทะเล

และในไม่ช้า ลีอาก็รู้สึกถึงการตอบรับจากสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในทะเล เธอได้ยินเสียงกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศทาง เสียงสะท้อนลึกๆ จากใต้พื้นน้ำที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น สายตาของเธอจ้องมองไปยังพื้นผิวน้ำที่เริ่มมีคลื่นเคลื่อนตัวอย่างผิดปกติ

ทันใดนั้น เงามืดขนาดใหญ่ก็เริ่มปรากฏขึ้นใต้เรือของพวกเขา ลีอารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่แผ่ซ่านมาจากใต้น้ำ แล้วมันก็ปรากฏตัวขึ้น... สิ่งมีชีวิตที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบ มันคือปลาวาฬสีขาวเงินที่เปล่งประกายจากแสงแดดที่ส่องลงมาสู่ท้องทะเล มันมีขนาดใหญ่มหึมาและมีดวงตาสีฟ้าที่แสดงถึงความฉลาดและความเก่าแก่ วาฬตัวนี้มีครีบขนาดใหญ่ที่แข็งแรงราวกับจะสามารถฟาดทุกสิ่งที่ขวางหน้าให้แหลกสลายได้ มันส่งเสียงร้องกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งมหาสมุทร เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยพลังและอำนาจและไม่เพียงแค่วาฬยักษ์เท่านั้น ที่ห่างออกไปไม่ไกล พวกเขาเห็นฝูงปลากระเบนขนาดใหญ่กำลังโฉบผ่านน้ำด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ปลากระเบนเหล่านี้มีแผ่นหลังแข็งแรงและหางที่ยาวและแหลมคม ราวกับเป็นหอกที่สามารถเจาะทะลุเกล็ดของสัตว์ประหลาดใดๆ ก็ได้ แผ่นหลังของพวกมันเปล่งประกายสีเงินสดใส พร้อมที่จะโจมตีศัตรูที่มาบุกรุกอาณาเขตของมัน

เหนือผิวน้ำ พวกนกกาน้ำที่ปีกเป็นสีดำเข้มและมีจะงอยปากที่แข็งแกร่งโฉบลงมา มันไม่ได้เป็นเพียงนกธรรมดา แต่เป็นผู้พิทักษ์ท้องฟ้าแห่งท้องทะเล ปีกของพวกมันกว้างใหญ่และแกร่งพอที่จะฟาดใส่สิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ปกป้องผู้ที่พวกมันเลือกจะช่วยเหลือ

ทันทีที่สัตว์ประหลาดยักษ์ลำตัวเท่ากับเรือห้าลำปรากฏตัวขึ้นจากทะเล สายตาสีแดงฉานและฟันแหลมคมที่พร้อมขย้ำทุกสิ่งที่ขวางหน้า สัตว์ทะเลที่ลียาเรียกหาก็เริ่มเข้าประจำตำแหน่ง วาฬยักษ์สีขาวเงินพุ่งตัวขึ้นมาปะทะกับสัตว์ประหลาด ปลากระเบนก็ว่ายวนรอบๆสัตว์ประหลาดนั้นอย่างรวดเร็ว หางของพวกมันฟาดใส่เกล็ดสีเขียวมรกตที่แข็งแรงของมันจนเกิดเสียงดังก้องเสียจนเอลเลียตและลีอาต้องขบกรามแน่นและหยีตาพร้อมเอามือปิดหู ขณะที่นกกาน้ำก็โฉบลงมาจิกใส่ส่วนหัวและดวงตาของสัตว์ประหลาด ทำให้มันสะบัดหัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง เจ้าเฟนิกซ์ก็ไม่น้อยหน้า มันเข้าร่วมต่อสู้ด้วยเช่นกัน เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดก้องกังวานไปทั่วท้องทะเล มันพยายามต่อสู้และดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากการโจมตีจากทุกทิศทุกทาง มันฟาดหางและขยับร่างยาวใหญ่ของมันอย่างดุดัน แต่สัตว์ทะเลที่ลีอาเรียกมาช่วยนั้นต่างมีพลังและความเด็ดเดี่ยวในการปกป้องอาณาเขตของมันเอง

ลีอามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง ปากอ้าค้าง เธอไม่เคยคิดว่าการเรียกร้องของเธอจะได้รับการตอบรับจากสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังเช่นนี้ หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความหวัง เธอรู้ว่าพวกเขาอาจมีโอกาสที่จะรอดพ้นจากสัตว์ประหลาดนี้ได้

ขณะที่สัตว์ทะเลเหล่านั้นเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดอย่างไม่ลดละอยู่นั้น ลีอายังคงใช้พลังของเธอในการควบคุมเถาวัลย์และคลื่นน้ำเพื่อกดดันสัตว์ประหลาดนั้นไว้ ในขณะเดียวกันเอลเลียตก็ใช้โอกาสนี้เข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องเอลเลียตใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่ส่วนที่เป็นแผลของสัตว์ประหลาดอีกครั้ง ทำให้มันเจ็บปวดอย่างหนัก แม้จะโดนฟันและหนามพิษจากเกล็ดของสัตว์ประหลาด แต่บาดแผลของเขาก็หายอย่างรวดเร็วด้วยความสามารถพิเศษ ขณะที่เฟนิกซ์ยังคงบินวนเหนือหัวสัตว์ประหลาดเพื่อสอดส่องและส่งสัญญาณเตือนถึงการเคลื่อนไหวของมัน

ลีอาและเอลเลียตหันมาสบตากัน พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการปะทะของวาฬยักษ์สีขาวเงินกับสัตว์ประหลาดเกล็ดสีมรกต ท้องฟ้าและท้องทะเลดูลุกโชนไปด้วยความโกลาหล ขณะที่สัตว์ประหลาดพยายามสะบัดร่างใหญ่โตของมันอย่างดุเดือดเพื่อสลัดวาฬยักษ์และฝูงปลากระเบนที่พยายามทำลายมัน วาฬยักษ์กระแทกเข้ากับลำตัวของสัตว์ประหลาดอีกครั้ง น้ำทะเลกระเซ็นขึ้นสูงจนเหมือนกำแพงน้ำที่ท่วมท้น เอลเลียตซึ่งยืนอยู่ใกล้ขอบเรือจับกระบองเหล็กของเขาแน่น เขามองดูลีอาซึ่งกำลังตั้งสมาธิเพื่อควบคุมพลังแห่งธรรมชาติของเธอในการสื่อสารกับสัตว์ทะเล

ทันใดนั้น สัตว์ประหลาดเกล็ดมรกตก็สะบัดร่างยาวใหญ่ของมันอย่างแรงจนทำให้วาฬยักษ์กระเด็นออกไป ลำตัวของมันหมุนวนอย่างรวดเร็ว และมันก็พุ่งตัวเข้าใส่เรือของพวกเขาในทันที เอลเลียตกระโดดขึ้นมาขวางทางสัตว์ประหลาดนั้นด้วยความรวดเร็ว เขาใช้กระบองเหล็กฟาดลงไปที่เกล็ดของมัน เสียงกระทบของเหล็กกับเกล็ดที่แข็งเหมือนเหล็กทำให้เกิดเสียงดังสนั่นวาฬยักษ์รีบกลับมาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอีกครั้ง มันพุ่งตัวเข้าปะทะจากด้านข้าง ทำให้สัตว์ประหลาดหยุดชะงักชั่วขณะ ขณะที่ฝูงปลากระเบนก็พุ่งเข้าจู่โจมที่จุดอ่อนของมัน คือบริเวณคอและท้องที่ไม่มีเกล็ดปกป้อง หางแหลมของพวกมันแทงลงไปในเนื้อของสัตว์ประหลาด ทำให้มันร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด

ลีอายืนอยู่ที่ศูนย์กลางของเรือ กางแขนออกและเรียกพลังจากธรรมชาติเข้ามาสู่ตัวเธอ เสียงคลื่นและสายลมกลายเป็นเหมือนคำพูดที่เธอใช้ในการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตในทะเล เธอร้องเรียกอีกครั้งเพื่อขอกำลังเสริม และทันใดนั้น เธอรู้สึกถึงการตอบรับจากใต้ทะเลลึก “มาแล้ว…” ลีอาพูดเบาๆ ด้วยความหวังที่พุ่งขึ้นในใจพวกเขามองลงไปยังพื้นน้ำ และเห็นเงาขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สิ่งนั้นคือฝูงฉลามขาวที่ว่ายมาจากความลึกของมหาสมุทร พวกมันมีดวงตาสีดำสนิทและคมเขี้ยวที่แหลมคม ร่างของพวกมันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทรงพลัง ฉลามเหล่านี้เป็นนักล่าที่ดุร้ายและเก่งกาจที่สุดในมหาสมุทรฉลามขาวตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่ส่วนท้องของสัตว์ประหลาดทันที มันกัดฟันคมลงไปในเนื้อที่ไม่มีกำบังและสะบัดหัวอย่างดุเดือด ส่วนฉลามตัวอื่นๆ ก็เริ่มเข้าล้อมและโจมตีสัตว์ประหลาดจากทุกทิศทาง การโจมตีที่รุนแรงและไม่หยุดยั้งทำให้สัตว์ประหลาดเริ่มอ่อนแรง มันพยายามดิ้นรนและหมุนตัวเพื่อหลบหนี แต่แรงกระแทกจากฉลามและวาฬยักษ์ทำให้มันไม่สามารถทำได้

เอลเลียตไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เขาใช้กระบองเหล็กกระแทกที่หัวของสัตว์ประหลาดซ้ำๆ เพื่อลดทอนความสามารถในการต่อสู้ของมัน และเมื่อมันเริ่มอ่อนแรงลง ลีอาก็ใช้พลังของเธอเพื่อเรียกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเข้าโจมตีสัตว์ประหลาดอย่างต่อเนื่อง คลื่นน้ำที่ถูกเรียกขึ้นมาทับถมลำตัวของสัตว์ประหลาด กดทับมันลงไปในทะเลอย่างรุนแรงในที่สุด เมื่อฉลามขาวและวาฬยักษ์ได้รวมพลังกันทำให้สัตว์ประหลาดยักษ์ลำตัวใหญ่มโหฬารนี้ต้องจมลงไปในท้องทะเลอีกครั้ง มันส่งเสียงคำรามครั้งสุดท้ายด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างยาวใหญ่ของมันจะถูกดึงลงไปสู่ความมืดลึกของมหาสมุทร

ทุกอย่างกลับมาสู่ความเงียบสงบ ลีอาและเอลเลียตต่างหายใจหอบหนัก พวกเขายืนมองท้องทะเลที่บัดนี้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง สัตว์ทะเลที่ช่วยเหลือพวกเขาค่อยๆ ว่ายกลับสู่ที่อยู่ของพวกมัน และวาฬยักษ์ก็หันกลับมามองพวกเขาอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ว่ายออกไปอย่างสง่างาม

“เราทำได้แล้ว” ลีอาพูดด้วยความโล่งใจ และรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ

ลีอาถอนหายใจยาว เธอมองดูทะเลมรกตที่กลับมาเงียบสงบด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน การตื่นขึ้นของพลังใหม่ที่ทำให้เธอสามารถสื่อสารกับสัตว์น้ำได้ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองแข็งแกร่งขึ้น และมีบทบาทสำคัญในการปกป้องพวกพ้องของเธอ

"เจ้าทำได้ดีมาก ลีอา" ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาหาเธอ "ข้าไม่เคยเห็นพลังเช่นนี้มาก่อน เจ้าไม่เพียงแต่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่ยังมีความสามารถในการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งอีกด้วย"

ลีอายิ้มออกมาเล็กน้อย

"ข้าเองก็ไม่เคยรู้ว่าข้ามีพลังนี้มาก่อน แต่ข้าเชื่อว่ามันจะมีประโยชน์มากในการเดินทางครั้งนี้"

"แน่นอน" เอลเลียตกล่าวขณะยิ้มให้เธอเช่นกัน

"ข้ารู้สึกว่าเรามีโอกาสมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับลูเซียส ถ้าพวกเรายังคงร่วมมือกันเช่นนี้"

อาเรียน่าวิ่งเข้ามาหาลีอาและกอดเธอไว้แน่น "พี่สาวเก่งมากเลย ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน!"

เฟนิกซ์บินลงมาจากฟ้าและส่งเสียงร้องอย่างภูมิใจ มันมาเกาะที่แขนของเอลเลียตซึ่งยื่นออกมาต้อนรับมัน

"เจ้าเองก็ทำได้ดีมาก เฟนิกซ์ เจ้าเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีที่สุดของข้า"

ลีอาเดินไปหาไรอัน และค่อยๆประคองตัวเขา ก่อนจะใช้พลังธรรมชาติรักษาขาและบาดแผลตามตัวให้เขา

ไรอันมองลำแสงสีขาวนวลนั้น เขารู้สึกอุ่นวาบในจุดที่ลำแสงนั้นตกต้อง ชายหนุ่มแอบมองใบหน้าสาวสวยที่ตั้งใจใช้พลังรักษาเขา หัวใจไรอันกระตุกแทบลืมเต้น ตอนนี้ลีอาราวกับเทพธิดา เขาละสายตาจากเธอไม่ได้จริงๆ

“เสร็จแล้ว ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง” ลีอาเงยหน้าขึ้นมอง กลับพบว่าไรอันมองเธออยู่ สายตาของเขาบ่งบอกถึงความชื่นชมและหลงใหลอย่างเปิดเผย เเธอจึงหยิกแขนชายหนุ่มเต็มแรง

“โอ๊ยย” ไรอันร้องสุดเสียง ไม่ใช่เพราะเจ็บแต่ตกใจมากกว่า

“หยิกเรียกสติ” ว่าแล้วลีอาก็เดินไปสมทบกับอาเรียน่า เอลเลียตและเฟนิกซ์ ไรอันเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเบาๆ ส่ายหน้าไปมา

เมื่อทุกอย่างกลับมาสงบ พวกไรอันก็มองทะเลมรกตที่เงียบสงบอีกครั้ง พวกเขารู้ว่าการข้ามทะเลนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ แต่ด้วยพลังและความสามารถที่พวกเขามี พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าได้อย่างมั่นคงพวกเขาพายเรือต่อไปยังปลายทางที่ไม่รู้จัก ขณะที่ทะเลมรกตค่อยๆ ห่างออกไปข้างหลัง ยังมีอันตรายอะไรที่รอให้พวกเขาเข้าไปติดกับ พวกเขาไม่สนใจ ขอแค่ตอนนี้ได้พักหายใจก็มีความสุขแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   ตอนพิเศษ หัวใจทมิฬ

    ลูเซียสยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ความมืดนี้ไม่ใช่แค่เงาหรือความมืดธรรมดา แต่มันคือพลังที่อยู่ในตัวเขามาตั้งแต่เกิด มันเป็นพลังที่ทำให้เขาถูกตัดสินและขับไล่ออกไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเงยหน้าขึ้นมองลีอาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจมาเนิ่นนาน”ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น” ลูเซียสเริ่มเล่า น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุ้มลึก “ข้าเกิดมาในตระกูลสูงส่งแห่งแอสทารา ข้าเคยมีทุกสิ่งที่เด็กคนหนึ่งต้องการ...มีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่ข้าเคารพรัก แต่พวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขารู้ว่าข้ามีพลังเงามืดในตัว” ลีอานั่งฟังด้วยความตั้งใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินความเจ็บปวดในคำพูดของเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูเซียสต้องทนทุกข์กับอดีตเช่นนี้”ข้าจำได้ชัดเจน ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กแค่ 7 ขวบ ข้าคิดว่าพลังนี้เป็นสิ่งพิเศษ ข้ารู้สึกแตกต่าง แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้คนอื่นๆ กลัว ข้าพยายามใช้มันเพื่อแสดงให้พ่อแม่เห็นว่า ข้าสามารถปกป้องพวกเขาได้ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจ” ลูเซียสหยุดไปช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทสุดท้าย เงาที่เหลืออยู่

    ชีวิตของไรอันและลีอาเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขที่พวกเขาเคยฝันถึง หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและการสูญเสียที่ทำให้หัวใจของพวกเขาต้องบอบช้ำ พวกเขาก็ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หมู่บ้านที่เคยถูกครอบงำด้วยเงามืดกลับมาสดใสอีกครั้ง และชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยินดีและความหวังลีอาและไรอันมีลูกแฝดชายหญิงที่เปรียบเสมือนดวงดาวสว่างไสวในชีวิตของพวกเขา เด็กทั้งสองคนเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสาและความสดใสที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกถึงความหวังและความสุขที่แท้จริง ครอบครัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรัก ไรอันเป็นพ่อที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและปกป้องลูกๆ ด้วยชีวิต ขณะที่ลีอาเป็นแม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยน คอยดูแลทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักในขณะเดียวกัน เอลเลียตและเฟนิกซ์ก็ออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ เพื่อฝึกฝนตนเองและค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต พวกเขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกด้านอาเรียน่าเองก็เลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เธอตัดสินใจออกเดินทาง

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่ (1)

    ลูเซียสหายใจลึก รู้สึกถึงน้ำหนักที่ถูกยกออกจากบ่าของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าความมืดในจิตใจของเขายังคงหลงเหลืออยู่ แต่ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและหาความสงบสุขในตัวเองก็มีมากกว่าลีอาที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างไรอันก็ยิ้มให้ลูเซียสด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ “ข้ายังเชื่อในตัวเจ้า ลูเซียส ข้ารู้ว่าลึกๆ แล้วเจ้าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร เจ้าก็แค่ต้องการคนที่จะเชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเจ้า”อาเรียน่าก้าวเข้ามาสมทบ “เราเป็นครอบครัว... ครอบครัวที่ยอมรับกันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว”ลูเซียสมองดูพวกเขาทั้งสี่คน น้ำตาที่เก็บกดไว้ตลอดหลายปีเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารู้สึกถึงความโล่งใจและความหวังที่เคยสูญเสียไปนานแล้ว“ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ข้าเคยทำ” ลูเซียสกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษที่ข้าเคยเลือกทางที่ผิด และข้าขอโทษที่ข้าพยายามจะทำร้ายพวกเจ้า”“เจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรอีกแล้ว” ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาใกล้ลูเซียสและยื่นมือออกไป “สิ่งสำคัญคือเจ้าได้กลับมา และเราจะผ่านทุกสิ่งไปด้วยกัน” ไ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่

    "ในคืนหนึ่ง... ข้าจำได้ว่าแม่ของข้าไม่ได้มาร่ำลาข้า ข้าเพียงเห็นแผ่นหลังของพ่อที่หันมาเอ่ยคำสุดท้ายกับข้า 'เจ้าต้องไป...เพื่อปกป้องตระกูล' คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวข้าตลอดมา ข้าถูกขับไล่ออกจากบ้าน ถูกส่งไปในป่าลึก โดยไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะมาอธิบายว่าเหตุใด ข้าเป็นแค่เด็ก แต่ข้ากลับถูกทิ้งไว้ในความมืด โดยไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีความอบอุ่นของครอบครัว" เขาก้มหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ตอนที่ข้าจากไป ไรอันยังไม่เกิด พ่อและแม่ของเราคิดว่าเมื่อข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ข้าถูกลบออกจากความทรงจำของครอบครัว...และไรอัน เขาเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา"ลีอาหันไปมองลูเซียสอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน ลูเซียส...พี่น้องร่วมสายเลือดของไรอัน ถูกผลักไสออกจากครอบครัวในวัยเด็ก เพียงเพราะพลังที่เขาไม่ได้เลือกที่จะมี"ข้าเร่ร่อนอยู่ในป่า เดียวดายและเต็มไปด้วยความกลัว ข้าไม่รู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ข้ารอคอยวันที่ครอบครัวจะมารับข้ากลับ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ข้าโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวและความเกลียดชัง ข้าเรียนรู้ที่จะใช้พ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (2)

    แต่ลีอากลับก้าวออกมาจากเงามืดนั้นอย่างช้าๆ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าไรอันและอาเรียน่า น้ำตาของเธอไหลลงมาเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษที่ข้าเคยละทิ้งพวกเจ้า...”ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้าวเข้ามากอดเธอไว้ “ไม่เป็นไร ลีอา เจ้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวอาเรียน่าเริ่มส่องประกายอย่างแรงกล้าอีกครั้ง ลูเซียสรู้สึกถึงพลังที่ถอยห่างจากตัวเขา ความมืดที่เคยทำให้เขาแข็งแกร่งกลับกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอที่เข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวและอ่อนแรงลง “ไม่... ไม่!” ลูเซียสตะโกนด้วยความสิ้นหวัง แต่พลังที่เขาเคยยึดมั่นกลับหายไปทีละน้อย เงามืดที่เคยล้อมรอบตัวเขาเริ่มจางหายไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนเข้าสู่แสงสว่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ลีอายังคงมองไปทางลูเซียสที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสับสน ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจสะท้อนถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เธอมีต่อลูเซียส แม้ว่าเธอจะถูกสะกดจิตในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แต่เธอก็สามารถจดจำทุกเรื่องราวท

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (1)

    พลังเงามืดของลูเซียสถูกต้านทานด้วยบาเรียน้ำของไรอันและแสงสว่างของอาเรียน่า แต่ลูเซียสก็ไม่ยอมแพ้ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีและปล่อยคลื่นพลังมืดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงและน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันเป็นพลังที่ถูกหล่อหลอมจากความแค้นและความโดดเดี่ยว คลื่นพลังมืดที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลูเซียสไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้หรือยอมให้ใครเข้ามาขวางทางเขาได้อีก เอลเลียตที่เป็นด่านแรกของการป้องกัน ยังคงยืนหยัดไม่ถอย เขาใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่พื้นอีกครั้งเพื่อสร้างแรงกระแทกที่พุ่งตรงเข้าไปปะทะกับพลังเงามืด แต่ความรุนแรงของพลังมืดนั้นกลับทำให้พื้นดินแตกออกเป็นรอยแยก ลมพายุจากพลังมืดกวาดเอาเศษซากและฝุ่นผงขึ้นมาหมุนวนรอบตัวเอลเลียต ทำให้การมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตาม เอลเลียตยังคงยืนอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางของเขา “พวกเจ้ารีบทำสิ่งที่ต้องทำ!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลัง “ข้าจะยืนหยัดตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” ไรอันรู้ดีว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status