Home / แฟนตาซี / Undisclosure / ฝันหรือทำนาย

Share

ฝันหรือทำนาย

last update Huling Na-update: 2025-03-01 11:10:47

สาวน้อยผมแดงนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้ โนเอลอุ้มร่างเล็กมาที่ห้องพยาบาล ข้างเตียงปรากฏเครื่องวินิจฉัยอาการที่ทำหน้าที่เสมือนคุณหมอรายงานอาการว่าเธอแค่เป็นลมไปเท่านั้น โดยไม่มีการกล่าวถึงอาการเจ็บปวดทางศีรษะแต่อย่างใด ไม่มีใครทราบว่าทำไมเบ็กกี้ถึงหมดสติกะทันหัน และก่อนหน้านั้น ทำไมเธอถึงกรีดร้องทุรนทุรายราวกับอาการปวดหัวรุนแรงสาหัสจนทำให้เธอขยับตัวไม่ได้ ได้แต่ร้องแบบนั้น อเล็กซิสจำเสียงนั้นได้ดีทีเดียว เพราะพอได้ยินก็เกิดอาการขนลุกขึ้นมาทันที เด็กสาวกลัวอะไรบางอย่าง...หรือบางที เธออาจจะกลัวอเล็กซิส

อเล็กซิสและออสโล่นั่งมองเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียง เธอยังเด็กมาก เบ็กกี้สวมชุดกระโปรงสีครีมออกเหลืองที่น่าจะเคยเป็นสีขาวบริสุทธิ์มาก่อน ทั้งยังถักเปียสองข้าง ทั้งยังดวงตาสีเขียวเข้มที่เศร้าที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา อเล็กซิสสังเกตเห็นรอยช้ำตามลำตัวของเธอเหมือนกับที่มินนี่และเบนเห็น ทำไมเธอจะจำรอยแบบนั้นไม่ได้ เพราะมันคล้ายกับรอยที่คาเมรอนเคยฝากไว้

สาวน้อยผมแดงมาจากสถานพักฟื้นผู้ป่วยจิตเวชในแคสติโมเนีย เมืองที่รายการข่าวมักเล่าว่าผู้คนที่นั่นชอบประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแบบสุดโต่ง อเล็กซิสนึกสงสัยว่าชีวิตของเบ็กกี้ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร และทำไมเธอถึงกลัวอเล็กซิสขนาดนี้ หรือเพราะว่าเธอเห็นฉันฆ่าใครสักคน แต่ประเด็นคือ เธอเห็นแบบนั้นจริงเหรอ

“ฉันกลับห้องก่อนได้ไหม” ออสโล่ถามเหมือนขออนุญาต เขาดูท่าทางไม่สบาย

“นายเป็นอะไร” พลันเห็นมือของเขากุมบริเวณหน้าท้องแน่น “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดื่มนมตอนท้องว่าง”

“รู้แล้ว ๆ อย่าบ่นเหมือนแม่เลยน่า”

“รีบไปสิ!” เธอเร่ง ออสโล่จึงวิ่งออกไป แต่ไม่ลืมหันกลับมาบอกทิ้งท้าย “เจอกันที่ห้องอาหารเลยนะ” แล้วเขาก็หายไป พอเธอหันกลับมา เบ็กกี้กำลังกะพริบตา และเมื่อเด็กสาวเห็นว่าตัวเองอยู่กับอเล็กซิสตามลำพังก็รีบเขยิบตัวถอยร่นจนแทบจะฝังร่างกับกำแพง

“ทำไมเธออยู่ที่นี่”

ไม่มีใครอยากนั่งเฝ้าเด็กคนนี้นอกจากเธอกับโนเอล แต่เทสซ่าไม่เห็นด้วย ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา สองพี่น้องคู่นี้ไม่ได้ทะเลาะกันเลย (ตั้งแต่เบนเข้ากลุ่ม เทสซ่าชอบถูกเบนแกล้งเป็นประจำ เธอจึงใช้เวลาไปกับการป้องกันตัวเองจากหมอนี่) เพราะเหตุนี้ โนเอลจึงไม่อยากก่อบรรยากาศอึมครึมระหว่างพี่น้องขึ้นมาอีก เขาจึงปล่อยให้พวกอเล็กซิสเฝ้าเด็กแทน ส่วนเรมีลังเลว่าตัวเองควรอยู่หรือเปล่า เพราะเขาเป็นเพื่อนคนแรกของเบ็กกี้ แต่สุดท้าย เบนกับอเล็กซ์ก็ลากเรมีไปสัมภาษณ์เรื่องแฮกระบบจนได้ จึงเหลืออเล็กซิสกับออสโล่ที่นั่งอยู่ อีกเหตุผลหนึ่งคือเธออยากพูดกับเด็กคนนี้ให้รู้เรื่อง

อเล็กซิสนึกถึงวิธีที่พ่อรับมือกับเจสซี่เมื่อตอนจับได้ว่าเขาแอบซ่อนขวดเหล้าไว้ใต้เตียง เธอเลือกวิธีนี้เพื่อเอาชนะความกลัวของเบ็กกี้ที่มีต่อเธอ อเล็กซิสเดินไปที่เครื่องจ่ายยา “ครีมลดรอยแผลเป็น”

หน้าต่างตรงช่องจ่ายของเลื่อนขึ้น กล่องจิ๋วขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสตกลงบนฝ่ามือ มันเป็นสีเขียวพาสเทลซึ่งข้างในจะบรรจุเนื้อเจลสีฟ้า อเล็กซิสส่งมันให้เบ็กกี้

“ใช้นี่สิ ไม่กี่วันหรอก พวกรอยนั้นก็หายแล้ว”

เบ็กกี้ลังเล เหมือนคิดว่าเธอยื่นยาพิษให้

“เวดกับฉันลองใช้แล้ว มันดีมากเลยนะ”

ใบหน้ากลมเงยขึ้น ดวงตาสีเขียวฉายแววสนใจ สีเขียวที่เหมือนกับป่าทึบในวันที่หดหู่ “เธอมีแผลด้วยเหรอ”

อเล็กซิสพยักหน้า “เหมือนกับที่เธอมีตรงคอและแขน” เมื่อเห็นว่าเบ็กกี้ยังคงตั้งใจฟัง เธอจึงเล่าเหตุการณ์น่ากลัวในตอนนั้นอย่างละเอียด แถมยังเพิ่มเนื้อหาเข้าไปนิดหน่อยเพื่ออรรถรส (และไม่ลืมไขว้นิ้วไว้ข้างหลัง) “...มือของเขากุมไว้ที่คอของฉัน แล้วก็บีบ ๆ เขาตีฉันนับครั้งไม่ถ้วนเลย ฉันหายใจไม่ออก จำหน้าตัวเองแทบไม่ได้”

ดวงตาที่เคยมองเธออย่างหวาดระแวงเปลี่ยนเป็นความเห็นใจและอารมณ์ร่วม สาวน้อยผมแดงจึงเก็บยาทาผิวที่เธอให้ใส่กระเป๋ากระโปรง “ทำไมคนเราถึงชอบทำร้ายกัน คนที่ทำร้ายเธอก็เป็นถึงตำรวจ ส่วนคนที่ทำร้ายฉันเป็นหมอและพยาบาล”

“หา หมอกับพยาบาลเหรอ มันไม่ใช่วิธีการรักษาคนไข้นะ มันผิดกฎหมาย”

“ในแคสติโมเนีย บทกฎหมายเป็นรองธรรมเนียมเสมอ” เด็กสาวนั่งเงียบ แล้วทำท่าเหมือนนึกเรื่องสำคัญออกมาได้ “ไม่ ไม่ ฉันไม่ควรพูดแบบนั้น ได้โปรดลืมเถอะนะว่าฉันพูดอะไร เธอเจอคนเลว แต่สถานการณ์ของฉันมันต่างออกไป พวกเขาเป็นคนดี พวกเขาดูแลฉัน พยายามช่วยฉันให้หลุดพ้นจากคำสาป พ่อก็ตีฉันเหมือนกัน เพราะว่าฉันถูกสาป”

เมื่อได้ยินเด็กสาวตรงหน้าเล่าเรื่องของตัวเองราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่เธอถูกทำร้าย ราวกับเธอสมควรถูกปฏิบัติเช่นนั้น ทั้งที่ลึก ๆ แล้ว เธอรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง ราวกับเธอรู้สึกว่าคนพวกนั้นจับจ้องเธออยู่ ทันใดนั้น อเล็กซิสเหมือนมีอาการหัวร้อน

“เธอเล่าความฝันอันนั้นให้ฉันฟังได้ไหม”

สาวน้อยมองซ้ายขวาเหมือนไม่แน่ใจ “เธออยากรู้จริง ๆ เหรอ เธอเชื่อฉันใช่ไหม”

“เอาจริงนะ ถ้าบอกว่าเชื่อก็คงเป็นการโกหก แต่ถ้าบอกว่าไม่เชื่อ ก็ไม่ใช่เหมือนกัน เอาเถอะ รู้ไว้ว่าฉันอยากฟังจริง ๆ โดยเฉพาะความฝันที่เธอเห็นฉัน ที่ถาม ไม่ได้มีจุดประสงค์แอบแฝงเลยนะ”

เบ็กกี้ถอนหายใจ “ก็ได้ ฉันเห็นเธอในความฝัน เธอถือปืนเล็งมาที่ฉัน ไม่สิ คนอื่น คือเวลาที่ฉันฝัน ฉันจะมองเห็นผ่านสายตาเจ้าของร่างซึ่งเป็นคนอื่น ฉันไม่รู้ว่าหรอกว่าเธอจะฆ่าใคร ไม่รู้จริง ๆ ฉันเห็นแต่ตาคู่นั้น ตาของเธอ ฝันเห็นเหตุการณ์นี้ติดต่อกันหลายคืน แล้วฉันก็จะกรีดร้องจนตื่น เป็นแบบนี้จนพ่อและแม่ทนไม่ไหวเลยส่งฉันไปที่นั่น ดวงตาของเธอมันเย็นชาไปถึงกระดูก ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงกลัวดวงตาคู่นั้นนัก บางทีอาจเป็นเพราะฉันเห็นความกราดเกรี้ยวข้างในความเย็นชานั้นอีกที”

“ขอโทษ” อเล็กซิสพูด แม้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอจริง ๆ ใช่ไหม “ฉันเองก็อยากฆ่าไอ้ตำรวจสองคนนั้น เคยคิดอยู่หลายครั้ง แต่ไม่รู้ว่าจะฆ่าพวกนั้นได้ยังไง และฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันอยากฆ่าพวกเขาจริง ๆ หรือเปล่า หรือแค่อยากให้พวกเขาทรมานเหมือนที่เคยทำกับคนอื่นไว้” พลันสายตาตวัดไปทางเด็กสาวเพื่อจับกิริยา อย่างน้อย ตอนนี้อเล็กซิสประสบความสำเร็จในการซื้อใจเบ็กกี้ได้ประมาณหนึ่ง

แปลกเหลือเกิน เธอสัมผัสได้ว่าเด็กคนนี้พูดความจริง แต่เรื่องที่เธอเล่าจริงแค่ไหนกันแน่ ถ้าเบ็กกี้เชื่อว่ามันเป็นความจริง คนฟังย่อมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่มันคือความจริงแน่เหรอ หรือว่ามินนี่พูดถูก ว่าเด็กคนนี้มีความสามารถในการมองเห็นอนาคตอันใกล้ แต่แม้เธอจินตนาการตัวเองสังหารคาเมรอนกับบรูซ อเล็กซิสยังสงสัยว่าเธอจะทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่า

“ความฝันของเธอกลายเป็นความจริงบ่อยแค่ไหน”

“ไม่เคยนับด้วยสิ บางครั้งนะ”

บางครั้ง

“แล้วทำไมเธอถึงกรีดร้องจนเป็นลมด้วย”

“เพราะชายคนนั้น คนตัวใหญ่ ๆ”

“โนเอลเหรอ”

สาวน้อยพยักหน้า “ฉันเห็นเขาในหัว บางครั้งมันมีภาพปรากฏขึ้นมาแล้วเวลานั้น ฉันจะปวดหัวมาก...มาก...ฉันเห็นเขา เห็นเลือด ได้ยินเสียงปืนดังมาก...ดังเหมือนระเบิด”

คนฟังพูดไม่ออก โนเอลในมโนภาพของเบ็กกี้นั้นน่ากลัวกว่าของเธอมากมาย ฉันควรบอกโนเอลหรือเปล่า หรือคุยกับเทสซ่าก่อน พวกเขาคงคิดว่าฉันประสาทแน่ ๆ

“ฟังแล้ว...เธอว่าฉันแปลกหรือเปล่า” ในดวงตาของเด็กคนนี้มีแต่ความปวดร้าว ราวกับ

อเล็กซิสกำลังเดินเข้าไปในป่าในวันที่มืดมนที่สุด คนโตกว่าจับมือเล็ก ๆ ของแม่หนูน้อยแล้วถามกลับว่า “แล้วฉันดูน่ากลัวไหม”

เด็กสาวสั่นหัว จากนั้นค่อย ๆ คลี่ยิ้มน้อย ๆ

นี่ถือวิธีที่พ่อทำให้เจสซี่คายความในใจออกจากมาได้ แม้มันจะเป็นความจริงครึ่งเดียวก็ตาม แต่ดูเหมือนมันจะได้ผลกับกรณีของเบ็กกี้พอสมควร

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Undisclosure    บทนำเล่ม 3 จบ

    บราวน์ละสายตาจากเอกสารตรงหน้า วาร์กเนอร์เป็นหัวหน้าทีมคนก่อน“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ แต่นัยน์ตาจับจ้องที่ดวงหน้าผู้ถาม สีหน้าของเดวิสดูซีดลงเล็กน้อย นัยน์ตาหม่นแสงลงคล้ายกับไม่สบายใจ เขาไม่แน่ใจนักว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไปถึงขั้นไหน แต่คงมากพอที่จะให้วาร์กเนอร์พยายามหาข้อมูลไปประเคนชายหนุ่มคนนี้ได้งี่เง่า โดยเฉพาะวาร์กเนอร์ที่ดันผันตัวจากไฟเป็นหิ่งห้อย“พวกเราตกใจนิดหน่อยว่าอาจมีปัญหาอะไรหรือไม่...” ดูเหมือนเขาพยายามจะหาเหตุผลเพื่อไม่ให้ตัวเองดูผิดปกตินัก นายน้อยโวลคอฟคลี่ยิ้มน้อย ๆ “...หรือมีข้อตกลงที่ฝ่ายคุณไม่พอใจเป็นต้น”“ไม่หรอกครับ” บราวน์ตอบทันที “ทุกอย่างเรียบร้อยดี เพียงแต่คุณวาร์กเนอร์ถูกย้ายไปประจำตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมกว่า ทีแรกผมกังวลที่ต้องมาประสานงานต่อ แต่อย่างที่เห็น ทุกอย่างเรียบร้อยดี อีกอย่างการโยกย้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเบื้องบน มัน...ค่อนข้างจะเป็นเรื่องภายใน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ...” เขาวางมือลงบนโต๊ะ “...งานตรงนี้หรอกครับ”ในห้องเงียบไปสักพัก เค

  • Undisclosure    บทนำเล่ม 3 ต่อ

    ปัญหาไม่ใช่เนื้อหางานหรือรูปแบบของงานแต่อย่างใด แต่มันคือเหตุใดต้องเป็นเขาระแคะระคาย? ก็อาจเป็นไปได้ แต่อย่างที่บราวน์สรุปไปก่อนหน้า เมื่อไม่ลงมือก็แปลว่าขาดหลักฐาน เมื่อไม่จัดการก็แปลว่ายังต้องการอยู่ดังนั้นหากบราวน์จะรู้สึกเสียวสันหลังนิดหน่อยก็ไม่แปลกนัก การประสานงานกับคนภายนอก ทั้งยังต้องระมัดระวังข้อมูลไม่ให้รั่วไหล ยิ่งบราวน์ตงิดใจว่าถูกจับตามอง หากแม้เขาระวังตัวเพียงใด แต่คนใต้อำนาจเกิดสะเพร่าขึ้นมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อย่างไรเสียเขาก็ต้องโดน...ก็นะ ถ้านี่ไม่ใช่กับดักขอเถอะ อย่างน้อยให้ส่งของก่อนสักพัก เคย์ซี่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟ เมื่อเธอหันหลัง บราวน์อดไม่ได้เหลือบมองบั้นท้ายกลมกลึง กระโปรงของเธอยาวพอดีเข่า แต่เพราะมันรัดรูปจนเห็นเป็นทรงสวย...ผลของการสควอทสินะ เขาสังเกตเรียวขาที่มีเส้นกล้ามเนื้อบ่งบอกว่าออกกำลังกายอย่านอกเรื่อง เขาส่ายหัว อย่างไรก็เป็นผู้ชาย มองนิดมองหน่อยไม่เป็นไรแต่อย่าทำให้สมาธิเสียก็เท่านั้น เขายักไหล่ให้ตัวเองแล้วมองข่าวบนจอโทรทัศน์“...กองทัพส่งกำลังเสริมเข้าต้านฝ่ายก่อกา

  • Undisclosure    บทนำเล่ม 3

    เสียงพูดคุยเซ็งแซ่ผสานไปกับเสียงแตรรถ เครื่องยนต์ และประกาศต่าง ๆ ไม่ว่าจะโฆษณาเชิญชวนซื้ออาหารกล่องยามเช้า ไปจนถึงเครื่องดื่มบำรุงกำลัง รณรงค์ให้สวดมนต์เพื่อขอให้พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานอภัยแก่บาปของมนุษย์ บางคนหยุดแวะสนทนากับคนรู้จัก บ้างเดินฝ่าฝูงชนเพื่อรีบเข้าไปแตะบัตรให้ทัน ส่วนเขาเพียงแค่หยุดมองหนังสือพิมพ์ที่แขวนเรียงกันอยู่บนเพิงขาย ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาทักคนแปลกหน้าเพียงเพื่อถามเรื่องราวที่ปรากฏอยู่บนข่าวหน้าหนึ่ง“คุณว่าไง” ชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปลายกระตุกแขนเสื้อโดยไม่คำนึงถึงมารยาทนอกจากอยากสนทนาล้วน ๆ หากไม่ใช่เพราะเขาอยากสัมผัสชีวิตมนุษย์เงินเดือนครั้งแรก อยากเห็นหน้าค่าตาผู้คนในสำนักงานจึงยอมเสียเวลาให้คนขับรถจอดตรงหัวมุมตึก ก็เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใส่สูท ไม่ใช่เครื่องแบบผ้าหนาและอาวุธครบมือ“ว่าไง จริงไหม คุณว่าเด็กพวกนั้นจะกล้าเผาจริงหรือ”บราวน์เลิกคิ้วพลางชายหางตามองคนดังกล่าว แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจหากแต่ยัดหนังสือพิมพ์ใส่มือเขา “เงียบทำไมเล่า คุณทำงานในนั้นก็ต้องรู้บ้างสิ” สายตาของเขาประเมินมองสำรวจอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ชายคนนี้จงใจเข้ามาทักเพราะรู้

  • Undisclosure    บทส่งท้ายเล่ม 2 จบ

    “สำหรับคำถามสุดท้ายขอติดไว้ก่อน เรื่องมันยาว” เธอตอบแล้วหันกลับไปเช็กจอมอนิเตอร์อีกครั้ง สักพักมีสัญญาณกะพริบขึ้นมา เธอรีบกดปุ่มหนึ่งบนแผงวงจรแล้วกระชากไมโครโฟนมาจ่อปาก “ฮัลโหล”พวกเขาได้ยินเสียงซ่าอยู่ราว ๆ สามสิบวินาที ต่อจากนั้นเป็นคำด่าหยาบคายล้วน ๆ หญิงสาวผมดำสั่นหัวเล็กน้อยแล้วหันมามองเขา ก่อนจะยื่นไมโครโฟนให้ “บอกชื่อตัวเอง พูดกับพวกเขาที” มันไม่ใช่คำขอร้อง เพราะไมโครโฟนถูกยัดใส่มือจอห์นแล้ว“ฮัลโหล” เขาพูดใส่ไมค์มีเสียงด่ากลับมาอีกรอบ ประมาณว่า ไปตายซะ สารเลว นีโอนาซี และอีกมากมายที่ออกมาราวกับฟังเพลงแร็ป“เอิ่ม” เขากระแอม “ผมชื่อ จอห์น ลีลอยด์ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ และ...กับผม...”เสียงในสายหยุด เขาได้ยินเสียงผู้หญิงแทรกขึ้นมาว่า “พูดดี ๆ สิ เรมี!”“คุณคือจอห์น ลีลอยด์?” ผู้ถือสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลงในพริบตา“ใช่” จอห์นตอบ“ใครวะ” เขาได้ยินเสียงแทรก ผู้หญิงคนเดิมด่าคนที่แทรกขึ้น

  • Undisclosure    บทส่งท้ายเล่ม 2 ต่อ

    เขาส่ายหน้าอีกครั้ง จนปัญญาจะตอบ โรซ่ามองหาวัตถุแข็ง ๆ มาทุบกระจก แต่ก็ไม่มีแถวนั้น จอห์นจึงต้องลองใช้ความสามารถดังกล่าวอีกครั้ง กว่าจะปลุกทุกคนจนครบก็แทบหอบ แถมโรซ่ายังซักถามไม่หยุดว่าเขากลายเป็นกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่เมื่อไร แถมยังตะบึงตะบอนงอนที่เขาไม่ยอมบอกอยู่ราวสิบนาทีพวกเขามีกันทั้งหมดยี่สิบเอ็ดคน จอห์นเดินนำทุกคนออกไปจากห้อง ทั้งหมดทำท่าเหมือนเด็กน้อยเล่นซ่อนแอบ ต่างระมัดระวังสุดฤทธิ์ แต่เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก็พบว่ามันเป็นตึกที่ถูกทิ้ง ยังไม่ถึงกับร้างเพราะระบบไฟฟ้าทำงานปกติ ห้องหับส่วนใหญ่นั้นปิดเงียบ ไม่มีใครอยู่เลย สถานที่ที่พวกเขาถูกจับมานอนนั้นมีลักษณะเหมือนตึกทดลอง มีส่วนสำนักงานที่ประกอบไปด้วยโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์จอบางเฉียบ ห้องประชุม ห้องทดลองที่ปราศจากสิ่งของทดลองใด ๆ ทั้งหมดจึงพยายามหาทางออก แต่เพราะไม่รู้เส้นทางก็กลายเป็นเดินสำรวจมากกว่าไม่มีใครรู้ว่าวันนี้วันที่เท่าไร เวลาอะไร ผ่านไปร่วมสามชั่วโมง แต่ละคนเริ่มหมดแรง จนกระทั่งโรซ่าเจอบันไดขึ้นไปอีกชั้น ที่นั่นเอง พวกเขาเห็นว่ามีห้องหนึ่งมีแสงสว่างมันคล้ายกับห้องควบคุมในยานอวกาศ แบบที่เขาเคยแสดงเป

  • Undisclosure    บทส่งท้ายเล่มสอง

    เสียงผู้คนมากมายดังอื้ออึงอยู่รอบตัว แต่หนังตาหนักเกินกว่าจะลืมขึ้นได้ เสียงของใคร เสียงคนพวกไหน ถึงเวลาไปทำงานแล้วหรือยัง นาฬิกาไม่ปลุกสักที วันนี้เขาต้องทำอะไรนะ หรือว่าตอนนี้นอนอยู่ในบ้านหลังเก่า เมืองบลูเบลล์อันแสนสงบสุข เขานึก แต่ดูเหมือนสมองทำงานเชื่องช้าไม่ทันใจ หรือว่าวันนี้มีถ่ายแบบ หรือว่าเข้าฉาก ทำไมคนเยอะขนาดนี้ ใครเข้ามาในรถเทรลเลอร์ หรือว่าเขาแอบงีบหลับ ตื่นสิ ตื่นสักทีตื่น!แสงไฟสีขาวสลัวไม่ได้ทำให้แสบตาเท่าไรนัก แต่สติของเขานี่สิยังหน่วงแปลก ๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนไอออกมารัว ๆ มือทั้งสองข้างยื่นออกไปแต่...ติดกระจก อะไรกัน เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตัวเขานอนเหยียดยาวอยู่ในโลงแก้วนี่นา คิดแล้วก็มองไปรอบ ๆเขานอนอยู่ในโลงแก้วจริง! แต่จะว่าอย่างไรดี มันไม่ได้อับจนหายใจไม่ออก กลับโล่งจมูกดีด้วยซ้ำ กระจกโค้งมนพอให้คนข้างในพลิกตัวนอนได้ แต่ใช่เวลาพลิกตัวแล้วหลับต่อหรือเปล่า...แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาหันไปทางซ้ายจึงเห็นร่างหญิงสาวผมสีทองนอนหลับสนิทราวกับเจ้าหญิงนิทรา เธอสวมชุดสีแขนยางกางเกงขายาวสีขาวสะอาดเหมือนกับเขาเลย หันไปทางขวาก็เจอผู้ชายนอนอยู่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status