ภายใต้หลอดไฟดวงเล็กที่ส่องแสงสลัวอยู่บนเพดานสีขาวอมเทา อเล็กซิสไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในห้องขัง แต่กำลังเวียนว่ายหาฝั่งอยู่ในทะเลแห่งความสิ้นหวัง บางทีเวดและออสโล่อาจจะกำลังแหวกว่ายอยู่ที่ไหนสักแห่งในมหาสมุทรแห่งเดียวกัน เพียงแต่เธอมองเห็นแค่มวลน้ำที่โอบล้อมรอบกาย พวกเขากำลังจมดิ่งลงไปในก้นทะเลลึก ต่อให้พยายามตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งเท่าไร สุดท้ายก็หมดแรง
สายตาของเธอเหลือบมองเวดและเบลินดา แม้มันไม่ใช่ความผิดของเธอจริง ๆ แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อของเวดสามารถจ่ายค่าปรับจำนวนนั้นได้สบาย ๆ และพาเขาออกจากที่นี่ เขาจะกลับไปใช้ชีวิตเดิมได้ ถ้าหากไม่พบว่ามีกลุ่มต้องสงสัย ส่วนเบลินดาอาจหาทนายความช่วยต่อสู้คดีเพื่อลดหย่อนโทษต่อไป คำตัดสินที่พวกเขาได้รับเมื่อครู่ ไม่ต่างจากถูกจำคุกตลอดชีวิต
เวดทิ้งตัวนอนราบไปกับพื้น รอยช้ำมากมายปรากฏอยู่บนแขนและไหล่ของเด็กหนุ่ม พอเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวน เมื่อพวกตำรวจปลดล็อกแขนทั้งสองข้าง เขาพุ่งตัวหมายเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐทันที แต่โชคยังดี ใช่ โชคยังดี อเล็กซิสใช้คำถูกแล้ว โชคดีที่ตำรวจสองนายสกัดไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นเวดคงโดนโทษหนักกว่าเดิม ด้วยข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานรัฐ พวกตำรวจใช้ไม้กระบองฟาดเขาอยู่หลายทีเพื่อระงับอาการคลุ้มคลั่ง มันเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดไม่ให้เขาทำอะไรโง่ ๆ
“ขอโทษนะ”
ออสโล่เป็นคนแรกที่พูดขึ้น ทั้งหมดไม่ได้พูดคุยกันอีกเลยตั้งแต่ออกมาจากห้องนั้น
“ฉันสมควรพูดแบบนั้นเหมือนกัน” อเล็กซิสว่า “พวกเธอสองคนไม่สมควรอยู่ที่นี่เลย”
“พวกเธอสองคนงั้นเหรอ ไม่ใช่หรอก พวกเราทุกคนไม่สมควรจะมานั่งอยู่ในนี้ต่างหาก ไม่มีใครผิด ยกเว้นยัยนี่” เวดยืนขึ้น หน้าแดงก่ำ มือกำหมัดแน่น “เพราะเธอ เธอทำลายชีวิตพวกเราทุกคน!”
อเล็กซิสและออสโล่ช่วยกันห้ามเเวดไม่ให้ทำร้ายอีกฝ่าย เบลินดาร้องไห้โฮ เธอคลานหนีไปยังมุมห้อง ท่าทางน่าสมเพช ครั้งนี้เธอยอมแพ้คู่กรณี ไม่กล้าเถียงกลับหรือเชิดหน้าหยิ่งเหมือนเก่าอีกแล้ว
“เธอเป็นผู้หญิงนะ!”ออสโล่เตือนเด็กหนุ่มที่ตัวโตกว่า
“ไม่สนแล้วโว้ย” เพราะร่างของเขาสูงใหญ่กว่าคนอื่น คนสองคนจึงแทบหยุดเขาไม่อยู่ “ทั้งเธอ คาร์เตอร์ ทั้งยัยสตีเว่น และยัยโดบี้ส์ เธอและพวกเขาต้องชดใช้พวกเรา”
“ครูขอโทษนะ มิลเลอร์”
เสียงครูสาวดังขึ้นนอกห้องขัง ทั้งหมดกำลังจะมีเพื่อนร่วมขังคนใหม่ ไม่สิ มีถึงสองคน นางพยาบาลสตีเว่นกับครูโดบี้ส์ยืนอยู่บนทางเดินด้านนอก ทั้งสองสวมกุญแจมือด้วยกันทั้งคู่ สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือสภาพของพวกเธอที่ไม่ต่างจากคนเสียสติ ผมสีบลอนด์หลุดลุ่ยไม่เป็นทรง ผิวหนังบางแห่งมีรอยไหม้เป็นประปราย พวกวัยรุ่นคุ้นเคยกับครูโดบี้ส์มากกว่าพยาบาลสตีเว่น ก่อนหน้านี้ ครูโดบี้ส์เป็นผู้หญิงสวยเปรี้ยวและมีเสน่ห์มาก เธอชอบมัดผมสีบลอนด์เป็นมวยสูงไว้ข้างหลัง ทั้งยังชอบทาลิปสติกสีแดงสดเป็นประจำ ตอนนี้สภาพของเธอตรงข้ามกับเมื่อก่อนลิบลับ ริมฝีปากสีแดงคล้ำมาจากคราบเลือดที่เกาะติดกรัง สีหน้าหมองคล้ำปราศจากเลือด ส่วนนางพยาบาลไม่ได้มีสภาพดูดีไปกว่าพี่สาวเลย เห็นได้ชัดว่าพวกเธอถูกทารุณกรรมอย่างรุนแรง ทั้งจากการช็อกด้วยไฟฟ้าและทำร้ายร่างกาย
“พวกเราขอโทษจริง ๆ นะ” เธอกล่าวกับลูกศิษย์ทั้งสี่
เบลินดาคลานไปยังซี่ลูกกรง ดูจากลักษณะท่าทาง เธอคนนี้กำลังเสียใจ เด็กสาวถามคุณครูด้วยความห่วงใย เป็นอากัปกิริยาแรกที่อเล็กซิสเพิ่งเห็นว่าคนคนนี้ห่วงใยคนอื่นเป็นเหมือนกัน “พวกเขาทำอะไรพวกครูคะ หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ”
คุณครูโดบี้ส์ยังคงใจดีมีเมตตากับนักเรียนของเธอเสมอ เธอมองเบลินดาด้วยสายตาราวกับเป็นแม่พระมาโปรดสัตว์ ครูสาวไม่ติดใจอะไรเลย อเล็กซิสเหมือนหมดแรงขึ้นมาดื้อ ๆ เหมือนกับตอนที่เธออยู่ในห้องนั้น สภาพของพวกเธอแย่มาก พยาบาลสาวในเวลานี้แทบจะยืนพิงพี่สาว ทั้งสองต่างยืนพยุงกันและกันเหมือนไม่สามารถทรงตัวได้หากยืนอยู่ตามลำพัง
พวกเด็ก ๆ ควรกล่าวโทษหญิงสาวทั้งสอง ควรสาปแช่งพวกเธอให้ตกนรกหมกไหม้ ตรงกันข้าม พวกเขากลับร้องไห้ เช่นอเล็กซิสที่ร้องเงียบ ๆ ส่วนเบลินดาปล่อยโฮลั่น นางโดบี้ส์เป็นคุณครูที่นักเรียนส่วนใหญ่ชื่นชอบมากที่สุด เพราะเธอเป็นคนตลก ใจดี และทุ่มเทกับการสอน แม้เวดจะโทษเธอในทีแรกเพราะอารมณ์ แต่เมื่อเห็นสภาพครูสาวเป็นแบบนี้ จิตใจคนเราจะไม่เกิดความรู้สึกสงสารและสังเวชได้อย่างไร แล้วดูสภาพของเธอตอนนี้สิ อเล็กซิสกลัวว่าพ่อแม่ของเธอจะมีชะตากรรมแบบเดียวกับหญิงทั้งสอง พวกเขาทำร้ายพ่อและแม่หรือเปล่า แล้วพี่น้องเธอล่ะ ทั้งเอโลดี้ จูน และเดวี่ พวกเขาจะเป็นอย่างไร
“เข้าไปข้างในเถอะครับ” นายตำรวจร่างเล็ก ศีรษะบางจนเกือบล้านกล่าวกับทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้ว เรียกได้ว่าอ่อนโยน เขาไม่ใช่นายตำรวจหน้าเป็นแบบโจเซฟ ชื่อของเขาคือ บรูซ นายตำรวจคนนี้เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่บุกไปยังคฤหาสน์ของเวดและจับกุมตัวเหล่าเยาวชนที่อยู่ในงานปาร์ตี้ทั้งหมด เมื่อนางพยาบาลทำท่าเหมือนจะล้ม เขามีน้ำใจช่วยประคองเธอเข้าไปข้างใน
“คนนี้ใจดีกว่าคนอื่นเยอะเลยนะ” ออสโล่กระซิบบอก อเล็กซิสเห็นด้วย ถ้าหากเจ้าหน้าที่อีกสองคนที่พวกเขาเห็นหน้าอยู่บ่อย ๆ สองคนนั้นคงปล่อยให้หญิงทั้งสองล้มลงไปกับพื้น แล้วเร่งพวกเธอด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก
คุณครูโดบี้ส์และน้องสาวถูกขังอยู่ตรงข้ามกับพวกเขา เจ้าหน้าที่บรูซยิ้มให้เด็ก ๆ คล้ายเห็นอกเห็นใจ ก่อนจะเดินออกไป
พอมองดูคนที่อยู่ในห้องขังฝั่งตรงข้าม พวกเขายิ่งรู้สึกแย่ ออสโล่ทรุดตัวลงกับพื้น อเล็กซิสเข้าใจดีว่าเพื่อนของเธอกำลังอับจนหนทาง ไม่มีความหวังเหลืออยู่แล้ว ทั้งหมดต้องยอมรับความจริงที่ว่า ชีวิตของพวกเขามาถึงทางตัน อเล็กซิสปาดน้ำตาออกไป ร้องไห้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
“แล้วครอบครัวของหนูล่ะคะ” อเล็กซิสถามครูสาว
“พวกเขาไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ อย่าห่วงไปเลย ทั้งหมดเป็นฝีมือของแมรี่คนเดียว ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อของเธอหรอกนะ มีแต่พวกเราที่ถูกสอบสวนเท่านั้น ครูเสียใจ ครูเสียใจมากเหลือเกินที่ทำให้พวกเธอลำบาก เพราะครูกับน้องพยายามจะปกป้องพวกเธอจากการล่าแม่มดแท้ ๆ แต่...” เธอถอนหายใจ
หญิงสาวอ่อนล้ามาก แต่พยายามบังคับตัวเองเพื่อคุยกับพวกเด็ก ๆ ดูเหมือนเธออยากอธิบายว่าเหตุใดเธอจึงทำแบบนี้ เธอเล่าว่าทางการพยายามไล่ล่ากลุ่มคนที่พวกเขามองว่าเป็นตัวอันตรายต่อระบบ เหตุผลหลักก็คือ ไม่มีใครหาคำตอบได้ว่าเหตุใดคนบางกลุ่มจึงมีศักยภาพเหนือมนุษย์ การปล่อยให้คนกลุ่มนี้มีอิสระเหมือนคนปกติอันตรายเกินไป แต่น่าเสียดายที่นางโดบี้ส์เองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าโปรแกรมบำบัดจะทำอะไรกับพวกเด็ก ๆ บ้าง เธอไม่ทราบเลย
เบลินดาวิ่งจ้ำอ้าวร้องขอความช่วยเหลือ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังใกล้เข้ามา เธอวิ่งกระโดดเข้าไปในห้องหนึ่งแล้วลากเก้าอี้เข้ามาสกัด ทว่าห้องนั้นกลับเล็กและแคบ มีเพียงแผงวงจรเป็นตู้ตั้งเรียงกัน ไม่มีทางให้หนีต่อ เมื่อเหลียวหลังก็เห็นว่าศัตรูยืนจังก้า มันเงื้อดาบขึ้น “ไม่ ๆ” น้ำตาไหลทะลักออกมา เบลินดาย่อตัวลงแต่คมดาบใกล้ตัวแล้ว เธอกรีดร้องกลัวตาย ทว่ามันล้มลงข้างตัวหากแต่ยังไม่ตายสนิท เบลินดาคลานหนีแล้วลุกขึ้นตั้งหลัก คนที่ยิงด้านหลังคือเด็กผู้หญิงจากเมืองเดียวกันอเล็กซิส เดวิสแต่มันดันสวมเกราะครอบไปทั้งตัว ยกเว้นด้านหน้า กระสุนของอเล็กซิสจึงทำลายเกราะเพียงชั้นนอกเท่านั้น “ยิงสิ!” เธอสั่งทั้งที่ยืนตัวงอหน่อย ๆ คงยังจุกอยู่ เบลินดายกปืนช่วยยิงระรัว มันปัด ๆ ก่อนจะพุ่งตัวใส่คนข้างหลัง อเล็กซิสไถลตัวลอดขามันไปยืนด้านหลัง มันเอี้ยวตัวมาแล้วซัดใส่ พอโดนทีเดียวก็กระเด็นมาชนตัวเบลินดาล้มไปด้วยกัน“อะ” คนข้างตัวกุมไหล่“หะ หักเหรอ” เธอถามทั้งสองรีบลุกขึ้น“ไม่รู้” อเล็กซิสส่ายหน้าแต่แขนซ้ายตกไปข้
แต่แล้วเขาก็พูดต่อ “เธออยู่กลุ่มเทสซ่า”เธอกลัวว่าเขาจะฆ่าเธอเหมือนกับที่ฆ่าพวกเพื่อนคิตแคต โชคดีที่เขาจำเธอได้ “พวกเขาจะจับกลุ่มต่อต้านให้ทางการ ถ้าฉันไม่เออออไปด้วยก็จะ...” ลิ้นของเธอแทบพันกันดวงตาเด็กหนุ่มเบิกกว้าง เขายกปืนขึ้นมาทันที และตอนนั้นเองเบลินดาหลับตาปี๋เพราะนึกว่าเขาจะยิงเธอ แต่เปล่าเลย มีเสียงดังตุบข้าง ๆ กลับเป็นคิตแคตตายสนิท ถูกยิงกลางศีรษะ“ถ้าคิดจะยืนตรงข้ามกันก็ต้องทำแบบนี้ ใจดีนิดเดียว เมื่อกี้เธอก็อาจจะเป็นยัยนั่นแทน” พลูทักซ์ชี้ไปที่ศพหญิงสาว คิตแคตคงคิดจะจัดการเธอแต่พลูทักซ์ต่างหากช่วยไว้ เบลินดารีบหันกลับมา แม้คนฆ่าคือพลูทักซ์ แต่อีกครั้งที่เธอต้องทำแบบนี้เธอไม่ใช่คนผิด ก่อนหน้านี้พวกคิตแคตก็ไม่ได้คิดดีกับเธอเท่าไร เธอยังจำสีหน้าผู้ชายสองคนที่ตายนั้นได้ถ้าหากตอบว่าไม่เสี่ยงไปกับพวกเขา ก็คงโดนจับแทน“แล้วเพื่อนเธอล่ะ” เด็กหนุ่มถามเบลินดาอึกอัก จะให้ตอบได้ไงว่าทิ้งทุกคนไป ถ้าไม่ใช่เพราะประกาศเธอคงไม่กลับมา แล้วก็คงไม่ต้องเจอสามคนนี้ด้วย“เอาเถอะ ขึ้นไปข้าง
ในที่สุดเธอก็ต้องเดินเข้าส่วนที่อันตรายที่สุด ด้านหน้าคือศูนย์บัญชาการกลางเขตเดอะ วาล พวกเขาเห็นกลุ่มบลูเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินเข้าไป ยังมีคนอยู่ภายนอก ดูเหมือนไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะเข้าไปดีไหม หรือจะกลับไปหาที่หลบซ่อน เบลินดาเริ่มลังเล กลุ่มต่อต้านมีจำนวนมากขึ้นเพราะคนที่หลบซ่อนตั้งแต่ต้นเริ่มหันมาจับอาวุธสู้ แต่ศพที่นอนตายเกลื่อนปะปนกันไปบ่งบอกว่าความตายไม่แยกแยะว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ยิ่งมีเสียงต่อสู้ภายใน เธอยิ่งลังเล ไม่รู้ว่าพวกเทสซ่าอยู่ด้านในแล้วหรือยัง แต่เธอค่อนข้างแน่ใจว่าคนอย่างเทสว่าจะไม่เปลี่ยนใจทิ้งกลุ่มจนกว่าทุกคนเห็นพ้องให้เลิกราเด็กสาวเหลือบมองพวกคิตแคต พวกเขาสูบบุหรี่แล้วนั่งมองประตู เบลินดาเคยเกลียดกลิ่นบุหรี่มาก แต่ตอนนี้เธอไม่แน่ใจว่ากลิ่นนิโคติน กลิ่นเลือด และกลิ่นไหม้ กลิ่นไหนรุนแรงกว่ากัน ต่อมรับกลิ่นตอนนี้พังยับเยินเสียงต่อสู้ดังลอดออกมาถึงข้างนอกไม่หยุดหย่อน พวกที่ยังลังเลก็ถอดใจเดินออกจากบริเวณนี้ บางคนวิ่งเข้าไปสมทบหวังช่วยคนข้างใน บางคนยังยืนรอดูเหมือนเบลินดา“เรา...ถอยเถอะ”คิตแคตเหยียดปากเล็กน้อย เด็กสาวนึก
เธอจำหน้าผู้หญิงคนนี้ได้ เมื่อก่อนผมสีน้ำตาลแดงของเธอสั้นเป็นทรงพิกซี่ แต่ตอนนี้ยาวประมาณคอ ท่าทางดูเป็นมิตรกว่าทุกครั้งที่เจอ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนวาววับดูซุกซน ริมฝีปากบางเล็กเป็นกระจับยกขึ้นมุมหนึ่ง เธออยู่กับเพื่อนชายอีกสองคนคิตแคตผู้หญิงคนนี้ชอบอเล็กซ์อย่างเปิดเผย แต่ตั้งแต่ชายหนุ่มย้ายมาอยู่ในเดอะ วาล เบลินดาก็ไม่ค่อยเห็นเธอมาคอยเกาะแกะเขาเท่าไร อาจจะถอดใจไปแล้วก็ได้ คิตแคตชอบเข้ามาทักอเล็กซ์แล้วเมินเพื่อนของเขาทุกคน (รวมทั้งพวกผู้ชายด้วย) ไม่ค่อยมีใครชอบเธอนัก แม้เบลินดาแทบไม่สนิทกับทายาทโวลคอฟเลย แต่มารยาทของคิตแคตก็พลอยทำให้เธอชังน้ำหน้าทั้งที่ไม่ได้หวงเพื่อนอย่างเทสซ่า และทั้งที่เธอออกจะรำคาญความสัมพันธ์ของอเล็กซิสกับอเล็กซ์ด้วยซ้ำ ทว่าในเวลานี้เบลินดาต้องวางอคติลง เธอหลับไปสักพักแต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไร หากแต่นั่งดื่มน้ำกันเงียบ ๆ สถานการณ์ในตอนนี้คงไม่เอื้อให้คนเป็นศัตรูกันหรอก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นมิตรเพราะในตัวเธอมีเสบียงอยู่เล็กน้อย“ฉัน...ไม่รู้ตัวเลย”หญิงสาวพยักหน้า “ก็คงงั้น ขนาดประกาศเมื่อกี้ เธอก็ยังนิ่ง นี่พวกเ
ซูเปอร์ของเดอะวาลไม่ต่างอะไรจากในเครสเตอร์ สภาพด้านนอกและด้านในเละเทะ เศษซากอาหารกระจัดกระจายเต็มพื้น คลุกเคล้าไปกับฝุ่นและเลือด ศพคนตายถูกลากไปกองสุมกันยังมุมหนึ่งทั้งไหม้เป็นตอตะโกสลับและไหม้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะอยู่ใจกลางเมืองจึงได้รับความเสียหายหนัก แต่เธอก็ยังเจอเสื้อกันหนาวสภาพดีอยู่หลายตัว จึงหยิบขึ้นมาเปลี่ยน แม้ควรจะหวาดกลัวกับสภาพแวดล้อมอันน่าสยดสยองนี้ แต่เบลินดาไม่ใช่คนเดียวที่มองโลกในมุมมองต่างออกไปแล้ว นี่คือโลกวิปลาส ยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาเพื่อหาเสบียงสะสมในนี้ เด็กสาวโกยถุงซีเรียลที่แตกออกแต่ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งข้างใน ไม่จำเป็นต้องโกยเยอะเพราะจะดึงดูดสายตา อย่างไรเสียถ้าเจอคนที่แข็งแรงกว่าก็อาจโดนปล้นไปได้ เธอมีอาวุธ คนอื่นก็มี ดังนั้นจึงแค่ซื้อเวลาเป็นชั่วโมงไปก็พอขอเพียงแค่ผ่านพ้นไปได้ ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ เราก็ไม่เกี่ยว เธอคิดแบบนี้แม้จะถูกป้อนชื่อไปแล้วว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน แต่ถ้าเหตุการณ์สงบลงแล้ว หากสารภาพว่าทำไปเพราะสถานการณ์บังคับ อาจจะไม่แย่เท่าไรนักเธอไม่คิดว่าตัวเองฉลาดนักที่แยกออกจากกลุ่มมาคนเดียว และไม่คิดว่าตัวเองทำถูก ตอนนั้นสติเตลิดเมื่อเห็นว่าคนเกือบสิบล้
ไมเคิลไม่ตอบสนองคำขอร้องของเร็กกี้หากแต่พยายามรวบรวมสมาธิภายในเวลาอันจำกัด เขาเคยช่วยอเล็กซิสจากระเบิดมาแล้ว ทำไมครั้งนี้เขาจะช่วยตัวเองและเร็กกี้จากความร้อนไม่ได้ เด็กหนุ่มพยายามนึกถึงตอนที่ตัวเองสู้กับไซบอร์กตัวแรก ยามนั้นเขาอยู่กับอเล็กซิส และเมื่ออยู่กับแฝดสาว ดูเหมือนพลังและความคิดอ่านจะเพิ่มทวีคูณภาพของร่างของพ่อหายวับไปกลับเปลวเพลิงผุดขึ้นมาในหัว เขาจะปล่อยให้ตัวเองและแฝดอีกคนตายแบบพ่องั้นหรือ ชะตากรรมของแฝดทั้งสองจะเหมือนลูก้าใช่หรือไม่ใช้ประสบการณ์ในตอนนั้น ไมเคิล คิด! เขาต้องออกไปให้ได้ และต้องช่วยให้เร็กกี้มีชีวิตอยู่ต่อ ทักษะของชายคนนี้จำเป็นต่อการอพยพ พ่อแม่ ปาสคาล ได้โปรดเถอะ ชี้ทางสว่างที เขาไม่รู้จักพระเจ้า ไม่เคยเชื่อว่าใครอยู่เบื้องบนหรือจะมีจริงหรือไม่ หรือตอนนี้เขาเป็นเพียงฝุ่นในจักรวาล แต่ในเมื่อฝุ่นตัวนี้มีชีวิตจิตใจและมีคนที่ต้องปกป้อง เขาอยากจะเชื่อว่าสิ่งลี้ลับบางอย่างจะประทานทางออกมาให้“ฆ่าฉัน!” เร็กกี้ตะโกนอีกครั้ง แก้มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกดูเหมือนเลือดฝาดหน่อย ๆ แต่เมื่อผ่านไปสักพักผิวกลับแดง