วันรุ่งขึ้น
ถิงลี่หมิงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะมีนัดหมายกับใครบางคนก็ตาม ตั้งใจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนดึก ไม่คิดจะเดินทางไปสถานที่นัดหมายเร็วกว่านั้น ตั้งใจยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้เขาคนนั้น ลิ้มรสชาติของคนที่เป็นฝ่ายรอ
รถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของผับที่ดังที่สุด และหรูหราที่สุดในย่านนั้น ร่างสมส่วนถูกปิดทับด้วยเสื้อผ้าสวมใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยท่อนขาเรียวสวยโดนลมอุ่นของต้นฤดูร้อนรินรด ลี่หมิงสาวเท้าเข้าไปในผับช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เวลาจะใกล้เข้าวันใหม่ไปทุกที เลือกที่นั่งในมุมเงียบๆของร้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอ
ห่างออกไปไม่มาก มู่เฟยหลงกำลังเสียสติ เพราะเธอที่นัดกับเขา ไม่ยอมปรากฏตัวสักที ใบหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มที่นั่งถัดออกไปห้าโต๊ะ ทำให้ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขาควรได้ลิ้มรสชาติแบบนี้บ้าง จะได้เลิกอวดดี เลิกคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น เขาชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เธอก็จะเล่นกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน
“ยัยบ้าเอ้ย! กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ”
พรึ่บ! อึก อึก!
แก้วรูปทรงแปลกตา ถูกมือเรียวสวยยกขึ้นดื่มอย่างสบายใจ น้ำสีอำพันไหลออกจากแก้วลงไปที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อน รสชาติของมันถูกใจเธอมาก แต่สิ่งที่ทำให้ถูกใจที่สุด กลับเป็นใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังบึ้งตึงของมู่เฟยหลง ยิ่งสีหน้าเขาดูแย่ลงเท่าไหร่ เธอยิ่งยกแก้วขึ้นดื่มบ่อยเท่านั้น
เพล้ง!
เสียงแก้วหล่นกระทบพื้นดังไปทั่วบริเวณ หลายคนหยุดชะงักการเคลื่อนไหวเพราะความตกใจ หลายสายตามองไปยังจุดที่เกิดเสียง เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังทำลายข้าวของคือชายหนุ่มเจ้าของสถานที่ ผู้คนก็เลิกให้ความสนใจหันกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองตามปกติ มีเพียงถิงลี่หมิงที่ยังสนใจเขา และหลุดเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
ผู้ชายที่โอ้อวดตัวเองว่าเป็นเสือผู้หญิง กำลังทำตัวน่าสมเพช เพราะเหยื่อที่ตัวเองไม่ได้แอ้มเลยสักครั้ง น่าสมเพชจริงๆ
พรึ่บ!
ร่างสมส่วนน่ามองลุกขึ้นจากเก้าอี้ เยื้องย่างผ่านเหล่านักท่องราตรีไปช้าๆ หยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนเมาที่กำลังอาละวาด สายตาคู่คมกำลังมองหาสิ่งของมาเขวี้ยงเพิ่ม เท้าเล็กห่อหุ้มด้วยรองเท้าผ้าใบเขี่ยเศษแก้วออกไปให้พ้นจากจุดที่จะยืน ยื่นมือไปหยุดข้อมือที่กำลังจะเขวี่ยงแก้วใบใหม่ลงพื้นไว้
“ขอโทษที่มาช้าค่ะคุณมู่”
ริมฝีปากกระจับสวยคลี่ยิ้มออกมา รอยยิ้มใสซื่อที่เจ้าตัวรู้ดีกว่าใคร ว่าทั้งหมดนั้น มันก็แค่การแสดง
“เธอ!”
เฟยหลงตวาดลั่น คว้าข้อมือคนตัวเล็กมากำไว้ เขานั่งรอเธอตั้งแต่หนึ่งทุ่ม ตอนนี้ดึกมากจนเกือบจะข้ามเข้าวันใหม่แล้ว ยัยตัวเล็กนี่เพิ่งจะโผล่หน้ามา แล้วยังมีหน้ามาทำสีหน้าใสซื่อใส่เขาอีก
“คะ?”
ใบหน้าสวยหวานยื่นเข้าไปใกล้ ตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อสำรวจระดับความเมาของคนตัวโต แต่ทันทีที่ยื่นหน้าไป เธอก็โดนมือใหญ่คว้าเข้าลำคอ ริมฝีปากหนากดจูบลงบนกลีบนุ่ม ทั้งรวดเร็วและรุนแรงจนเธอต้านไว้ไม่ทัน
“อะ! อือ”
แม้จะปฎิเสธในคราแรก แต่เพื่อแผนการที่แยบยล ลี่หมิงยอมเปิดริมฝีปากขึ้น ให้ลิ้นร้อนของผู้ชายที่เธอเกลียดสอดแทรกเข้ามาด้านใน เธอไม่เคยยอมให้ใครจูบแบบนี้เลยสักครั้ง เขาได้ในสิ่งที่เธอไม่เคยให้ใคร และเพราะแบบนั้น เธอถึงรู้สึกเกลียดเขามากกว่าที่เคยเกลียด
“อึก!”
ลิ้นเล็กขยับหนีการไล่ต้อนจากลิ้นใหญ่ด้วยความรังเกียจ แต่คนเมากลับคิดว่านั้นคือความอ่อนประสบการณ์ หัวใจพาลกระชุ่มกระชวยขึ้นมานิดๆ ไล่ต้อนลิ้นเล็กไปทั่วโพลงปาก ใช้ชั้นเชิงเหนือกว่าทำให้คนตัวเล็กจำนน
เจ็บใจ! ลี่หมิงยกมือทุบไหล่หนาแรงๆ อย่างคับแค้นใจ เพราะไร้ประสบการณ์นั่นแหละ เธอถึงแพ้ให้เขาทั้งที่ไม่ควร
“พะ พอ! พอก่อน ฉัน หายใจ ไม่ทัน!”
“ลงโทษที่เธอปล่อยให้ฉันรอ”
ริมฝีปากร้ายเหยียดออก ใบหน้าบ่งบอกระดับความหงุดหงิดได้ดีเช่นเดิม อารมณ์ของเขายังไม่ดีขึ้นเลย แม้จะได้ครอบครองกลีบปากหอมหวานไปแล้ว เขารอเธอตั้งหลายชั่วโมง ถ้าหากเธอมาเร็วกว่านี้ ป่านนี้เธอกับเขา ต่างก็ได้มีความสุขด้วยกันทั้งคู่
“ฉันขอโทษ”
ลี่หมิงส่งรอยยิ้มหวานไปให้ ทั้งที่ในใจของเธอนั้นเดือดปุดๆ ขโมยจูบเธอไปไม่พอ ยังปล่อยให้เธอยืนคว้างไม่ขยับที่นั่งให้ พื้นรอบกายก็มีแต่เศษแก้ว ขยับตัวยาก ให้ยืนนานกว่านี้ขาจะไม่ไหวแล้วนะ
“อยากนั่ง? มานั่งบนนี้สิ”
เฟยหลงมองตามสายตาคู่หวาน เหยียดยิ้มกว้างเมื่อเห็นความต้องการของเธอ ตบมือลงบนตักเบาๆ ตั้งใจเลือกที่นั่งดื่มที่มีเพียงโซฟาตัวเล็ก ก็เพื่อจะให้เธอได้นั่งลงบนตักของตัวเอง ได้สัมผัสร่างกายเนียนนุ่ม ได้รื้อฟื้นความรู้สึกในค่ำคืนนั้น
แต่ …
“ให้คนของคุณหาเก้าอี้มาให้ฉันด้วยค่ะ หรือจะให้ฉันกลับก็ได้นะ ถ้าที่นั่งไม่มี” คนตัวเล็กต่อรองด้วยท่าทีไม่เกรงกลัว ทำให้คนหงุดหงิดรีบยกมือเรียกพนักงานของตัวเอง เมื่อพนักงานที่ทำงานอยู่ใกล้บริเวณนั้นเดินมาใกล้ ก็ออกคำสั่งเสียงเรียบ
“ไปหาเก้าอี้มาให้เธอ”
พนักงานรีบร้อนเดินไปหาเก้าอี้ตามคำสั่งของเจ้านาย เฟยหลงมองหญิงสาวใสซื่อพลางคิดในใจ
ยัยเด็กคนนี้ร้ายกว่าที่คิดไว้ ท่าทางของเธอตอนนี้ ต่างจากคืนนั้นนิดหน่อย เหมือนจะซื่อ แต่ก็ดูมีเล่ห์เหลี่ยม
“นั่งสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
ลี่หมิงหันไปกล่าวขอบคุณพนักงาน จากนั้นก็เลื่อนมันออกห่างจากเจ้าของผับ เพราะไม่อยากสร้างโอกาสใกล้ชิดกับเขาอีก ดวงตาคู่คมมองดูการกระทำของเธออยู่ตลอด ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเงียบๆ พลางสังเกตการณ์กระทำของยัยตัวเล็กไปด้วย
“เธอชื่ออะไร?” ในข้อมูลที่เขาได้มาจากเพื่อน บอกชื่อเธอไว้ชัดเจน แต่ก็ต้องถามเอง เพื่อให้ดูแนบเนียนขึ้น
“คุณอยากรู้จักฉันจริงๆเหรอคะ?” ลี่หมิงถามกลับ ตั้งใจยียวนเขาเต็มที่ เพื่อดึงเขาเข้าสู่แผนการของตัวเอง
“หึ! เริ่มไม่อยากรู้แล้ว” คนความอดทนต่ำตอบกลับทันที เขาไม่ชอบผู้หญิงเล่นตัว เพราะมันทำให้เสียเวลาด้วยกันทั้งคู่
“ก็ดีค่ะ ฉันก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น”
มือเล็กยกแก้วเหล้าที่พนักงานชงไว้ให้ขึ้นดื่ม คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกผิดหวังแปลกๆ แต่คิดว่าแบบนี้มันก็ดีแล้ว เพราะเธอเองก็ไม่อยากรู้จักเขานักหรอก ถ้าไม่ติดว่าเขาเคยทำให้เธอเสียใจ เธอไม่เฉียดกายเข้าใกล้เขาแน่ ที่เธอทำมาจนถึงตอนนี้ เพื่อการแก้แค้นทั้งนั้น
เวลาล่วงเลยไปนานหลายนาที และความเงียบก็อยู่กับเธอและเขามาตลอด ถิงลี่หมิงใช้เวลาเหล่านั้น สังเกตใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี มู่เฟยหลงดูดีมาก ไม่เพียงแค่มีโครงหน้าราวกับลูกรักของพระเจ้า สรีระของเขายังดูดียิ่งกว่านายแบบบางคน ฐานะก็ดี มันสมองก็ดีด้วย เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟค แต่กลับเห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น และข้อเสียสุดท้ายนั้น ทำให้เขากลายเป็นผู้ชายที่ไม่มีใครอยากได้
หมายความว่า ไม่มีใครอยากได้ไปเป็นสามีอะนะ ถ้าอยากได้เฉยๆ บอกได้เลยว่ามีคนต้องการเขาเยอะเลยแหละ เขาเป็นแหล่งเงิน และตัวสร้างความสุขทางกายให้ผู้หญิงเลย เป็นผู้ชายสำส่อน! ใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่าอะไรซะอีก!
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต