Share

บทที่ 4 พินัยกรรม

last update Last Updated: 2025-04-28 16:01:57

เช้าวันถัดมา ผมตื่นขึ้นความรู้สึกดีกว่าเมื่อวานมากนัก รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลยทีเดียว เวลาสายของวัน พี่เนมก็เข้ามา และบอกให้ผมอาบน้ำแต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมที่พี่เนมเป็นคนนำมา และเราก็ออกจากโรงพยาบาลกัน โดยมีพี่เนมเป็นคนขับรถให้ เมื่อผมได้เห็นรถของพี่เนมชัดๆ รถ Lamborghini อเวนทาดอร์ สีดำสนิท รถของพี่เนมหรูมากครับ จนผมไม่กล้าที่จะเข้าไปนั่ง กลัวจะทำให้รถของพี่เนมเสียหาย เกิดเป็นรอยขึ้นมา ผมแย่แน่ๆ วันนั้นอะไรดลใจให้ผมโบกรถของเขาไปกันนะ!! พี่เนมบอกให้ผมขึ้นรถพร้อมกับจ้องมองนิ่งๆ เหมือนบังคับกลายๆ ผมเลยจำใจต้องขึ้นรถมานั่งข้างเขา ที่นั่งภายในมีเพียง 2 ที่เท่านั้นเอง ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ซื้อรถแบบนี้มาใช้เด็ดขาดเลย ไม่มีความคุ้มค่าเลยสักนิด ราคาแพงแต่ไปได้น้อยคนแบบนี้

“จะไปสุสานใช่ไหม” พี่เนมถามผม ทำลายความเงียบที่อยู่ในบรรยากาศ

“ครับ ใช่ครับ” ผมตอบกลับพี่เนมและนั่งตัวเกร็ง ไม่กล้าให้ร่างกายไปโดนส่วนไหนของรถมากนัก ผมกลัวว่าจะทำให้รถพี่เนมเสียหาย

“นั่งตามสบายเถอะ ไม่ต้องเกร็ง มันน่าหงุดหงิด” พี่เนมบอกขึ้น เพื่อให้ผมนั่งสบายๆ แต่พี่โว้ยยยยยย เกร็งยิ่งกว่าเดิมอีกครับ!!! พี่เนมเล่นพูดแบบนี้แล้วผมจะได้นั่งตามสบายได้ยังไง ฮืออออ

“ฉันบอก ได้ยินไหม” พี่เนมพูดย้ำขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น เมื่อผ่านไปสักพัก แต่ผมยังนั่งตัวเกร็งยิ่งกว่าเดิม แถมยังเป็นมากกว่าเดิมเสียอีก ก็ใครมันจะไปกล้าว่ะ

“คะ ครับ” ผมตอบรับเสียงสั่นๆ และค่อยๆ แนบหลังลงกับพนักพิง พี่เนมมีท่าทีที่ดีขึ้น ฟู่ววววว ผมว่าพี่เนมใจดีนะครับ ในเวลาเดียวกัน พี่แกก็น่ากลัวด้วย เมื่อเห็นว่าพี่เนมลดบรรยากาศกดดันนั้นลงแล้วนิดหนึ่ง ทำให้ผมก็ผ่อนคลายไปหลายส่วน และยอมนั่งแบบสบายๆ จริงๆ สักที

“จะซื้อดอกไม้ไหม”

“อ่อ ไม่ครับพี่เนม ผมไม่มีเงิน” ผมตอบกลับพี่เนมพร้อมๆ กับรถที่หยุดลงที่หน้าร้านดอกไม้พอดี ถ้าพี่จะถามผมโดยไม่รอคำตอบ พี่จะถามทำไมคร้าบบบบบบ

“อืม รอนี่” พี่เนมพูดแล้วก็ลงจากรถไป ผ่านไปสักพักใหญ่ จึงเห็นพี่เนมเดินถือดอกไม้มา 2 ช่อใหญ่ แล้วเปิดประตูรถ ส่งมันให้กับผมทั้ง 2 ช่อ

“พี่เนมซื้อไปให้ใครครับ” ผมถามพร้อมกับเอียงหน้ามอง คงจะเป็นพวกสาวๆ นั้นละมั้ง แต่มี 2 ช่อเนี้ยนะ สาว 2 คนเลยหรอว่ะ เห็นนิ่งๆ เจ้าชู้ใช่เล่นแฮะ

“ของนายกับของฉัน คนละช่อ” พี่เนมตอบกลับมาและออกรถอีกครั้ง

อ้าว นึกว่าเอาไปให้สาว ผมขอโทษครับพี่มองพี่เป็นคนไม่ดี ผมมันเนรคุณ งื้อออ ว่าแต่ พี่เขาเอามาให้ผมทำไม

“พี่เนมให้ผมทำไมครับ??” ผมถามพร้อมกับเครื่องหมายเควสชั่นมาร์คเต็มหัวไปหมด

“เอาไปไหว้ที่สุสาน” พี่เนมตอบผมมานิ่งๆ และตั้งใจขับรถ

“ขอบคุณครับ พี่ให้ผมมากเกินไปแล้ว ผมจะใช้คืนพี่ยังไง” ผมตอบพร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้น ผมบอกแล้วไงครับ พี่เนมเขาใจดี ผมไม่ค่อยได้เจอคนที่มีน้ำใจแบบนี้เท่าไหร่นัก ทำให้ผมอดรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณไม่ได้เลย

“แล้วอีกช่อนี่ละครับ” ถึงช่อหนึ่งจะเป็นของผม แต่อีกช่อนี่สิของใครกันนะ

“ของพ่อกับแม่พี่” พี่เนมตอบมานิ่งๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก และบรรยากาศรอบๆ ตัวก็เปลี่ยนไป มันกดดันอย่างกับปล่อยจิตสังหารออกมาได้เลย ทำให้ผมกลับมานั่งตัวเกร็งอีกครั้ง และไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก

ไม่นานเราก็มาถึงสุสานครับ พี่เนมกับผมถือดอกไม้กันคนละช่อ แล้วเดินตรงมายังสุสาน พอถึงทางแยก ผมก็เห็นพี่เนมเดินแยกไปอีกทาง ผมจึงเดินมาหาพ่อของผมบ้าง แล้วเอาดอกไม้ไปวางไว้หน้าหลุมศพ ผมไม่ค่อยได้มาหาพ่อเท่าไหร่ครับ เพราะมันไกลจากบ้านผมพอสมควรเลย แม่ผมพามาอยู่ไม่กี่ครั้ง ไม่ได้บ่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับห่างหายไปเลย ผมคุกเขาอยู่ที่พื้น และคิดถึงคำพูดของแม่ตอนนั้น

‘นะ นะ นาย ฟังแม่นะลูก ไป อึก ไปหาพ่อ ที่สุสานนั้น เปิดแผ่นหินออก แค่กๆ แม่คงอยู่กันหนูไม่ได้แล้ว แค่กๆ แม่ยังไม่ได้บอก ไม่ได้บอก แค่กๆ แค่กๆ’

อืมมม ไปหาพ่อที่สุสาน เปิดแผ่นหินออก มีเรื่องที่แม่ยังไม่ได้บอก คำพูดของแม่ทำให้ผมนั่งนิ่งคิด เรื่องอะไรที่ไม่ได้บอกผม เรื่องอะไรที่ปิดบังผมอยู่ ไม่รอให้สงสัยนาน ผมเริ่มคลำๆ หาที่เปิดแผ่นหินทันที ผิวด้านหน้าเรียบเนียน ไม่มีอะไรที่คล้ายกับลูกบิด หรือที่เปิดเลย แต่ที่มุมด้านหนึ่งเหมือนกับเป็นรอยแตกเล็กๆ ที่ทำให้สอดนิ้วเข้าไปได้ 1 นิ้ว ผมสอดนิ้วชี้เข้าไปอย่างกลัวๆ แล้วลองดึง ก็ผมไม่รู้นี่น่า ว่ามันจะมีตัวอะไรในนั้นบ้าง แต่ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก หรือจะไม่ใช่ตรงนี้นะ ผมนึกพร้อมกับจะชักนิ้วออก ขณะนั้นผมรู้สึกว่านิ้วโดนตออะไรสักอย่าง นิ่มๆ เหมือนจุกยาง นูนขึ้นมาหน่อยๆ เลยลองใช้นิ้วชี้สำรวจแล้วลองกดลงไป

แกร็ก

แผ่นหินที่มีรูปของพ่อผมติดอยู่เด้งออกมานิดๆ ผมเลยลองใช้นิ้วชี้ลองดึงออกอีกครั้ง และครั้งนี้มันเปิดออกได้จริงๆ เมื่อเปิดออกผมเห็นกล่องเหล็กขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ขนาดใกล้ๆ กับครึ่งกระดาษ A4 เลยหยิบขึ้นมาสำรวจและเปิดดู ในนั้นมีรูปถ่ายของพ่อกับแม่ยืนยิ้มหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งอย่างมีความสุข ในชุดแต่งงานที่ทำให้แม่ของผมเหมือนกับนางฟ้าเคียงคู่กับเทวดารูปหล่อข้างกาย ผมยิ้มให้กับรูปภาพนั้น ความสุขที่ผมรู้สึกได้ทำให้ผมรู้สึกดีตามไปด้วย ผมไม่เคยเห็นรูปงานแต่งของพวกท่านมาก่อนเลย นี่จึงเป็นรูปแรกที่ผมได้เห็นพ่อกับแม่สมัยยังหนุ่มยังสาว นอกจากนี้ภายในกล่องยังมีซองจดหมาย และซองเอกสารสีน้ำตาล สิ่งที่ผมเปิดอ่านเป็นอันดับแรกคือจดหมายครับ ผมอยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่แม่ไม่เคยบอกผม

"นายลูกรัก ถ้าลูกได้เปิดจดหมายนี้อ่าน แสดงว่าพ่อกับแม่ คงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว จดหมายนี้พ่อและแม่ร่วมกันเขียน พ่อกับแม่รู้ดีสักวันมันจะเกิดขึ้น เราแค่ไม่รู้ว่าใครจะตายก่อน สิ่งที่จะบอกต่อไปนี้คือสิ่งที่พวกเราทั้งคู่พยายามกลบฝังมัน อยากลบมันออกไปจากชีวิต เราไม่อยากให้ลูกต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องพวกนี้ แต่หากเราทั้งคู่ไม่อยู่แล้ว อย่างน้อยลูกก็ต้องสามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบาก

ครอบครัวของพ่อ แต่เดิมทำธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ และพบรักกับแม่ของลูก แม่เขาเป็น PR หน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรมในเครือของพ่อ พ่อตกหลุมรักแม่ของลูกตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก แม่ของลูกสวยมาก พ่อตามจีบแม่อยู่หลายเดือน และฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน เนื่องจากคุณย่าไม่ยอมรับแม่ของลูก แต่สุดท้ายก็ยอมใจอ่อน และให้เข้ามาอยู่บ้านด้วยกัน พ่อมีน้องชายอยู่ 1 คน น้องชายของพ่อคนนี้ต้องการครอบครองธุรกิจทั้งหมด และไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ เพราะเขาเองก็หลงรักแม่ของลูกอยู่เช่นกัน เขาจึงคิดครอบครองทุกอย่าง รวมถึงแม่ของลูกด้วย พ่อไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรขึ้นมาอีก จึงได้ละทิ้งทุกอย่าง และออกมาใช้ชีวิตอย่างสงบๆ กับแม่ของลูก

ถึงแม้จะลำบาก แต่พ่อมีความสุขมาก เมื่อมีแม่ของลูกและลูกอยู่ข้างๆ กัน คุณย่ายืนยันว่าทรัพย์สินของพ่อ ก็ยังคงเป็นของพ่อ พ่อจึงเขียนพินัยกรรมนี้เอาไว้ให้ลูก หากไม่มีใครให้พึ่งพิง ไปหาย่าของลูกนะ หากลูกไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เก็บเงินจำนวนนี้ไว้ตั้งตัว ทำธุรกิจของตัวเอง พ่ออยากให้ลูกเลือกทางที่ลูกมีความสุขที่สุด และพ่อรู้ว่าลูกจะเลือกทางที่ดีให้ตัวเอง แต่ลูกจงรู้ไว้ ระวังตัวให้มาก เพราะเราไม่รู้ว่าใครมาดีหรือมาร้าย อย่าให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก หากมีเรื่องอะไรที่ลูกแก้ไม่ตก ติดต่อหาทนายวิทยา เขาเป็นเพื่อนของพ่อเอง ลูกไว้ใจเขาได้ พ่อรักลูกนะ

จากพ่อและแม่ที่รักลูกที่สุด"

เมื่อผมอ่านจบก็เปิดพินัยกรรมที่พ่อทิ้งไว้ให้ โดยสรุปเป็นข้อๆ

1. ที่ดินพร้อมบ้าน 1 หลัง เนื้อที่ 1,500 ไร่ ที่จังหวัดอยุธยา ผู้ทำพินัยกรรม นายพิชิต พัชรวิทิต มอบให้ เจ้านาย พัชรวิทิต พยาน นางสุจิตรา พัชรวิทิต

2. โรงแรมกรีนวิลล์, โรงแรมโอเชียนวิลล์, พิชิตรีสอร์ต และ โรงแรมบลูสกาย เนื้อที่ 300, 500, 200 และ 30 ไร่ ที่จังหวัดนครราชสีมา ภูเก็ต เชียงราย และ กาญจนบุรี ผู้ทำพินัยกรรม นายพิชิต พัชรวิทิต มอบให้ เจ้านาย พัชรวิทิต พยาน นางสุจิตรา พัชรวิทิต

3. เงินในบัญชีธนาคาร จำนวน 530 ล้านบาท เจ้าของบัญชี นายพิชิต พัชรวิทิต มอบให้ เจ้านาย พัชรวิทิต พยาน นางสุจิตรา พัชรวิทิต

4. หุ้นส่วน ของบริษัท โอแกรนวิลล์ 35%

ผู้ทำพินัยกรรม นายพิชิต พัชรวิทิต มอบให้ เจ้านาย พัชรวิทิต พยาน นางสุจิตรา พัชรวิทิต

เงื่อนไข

1. ติดต่อ นายวิทยา แสงจันทร์หอม ทนายความผู้ร่างพินัยกรรม เบอร์โทร

086-966-xxxx

วันที่ 11 สิงหาคม 2543

เมื่อผมอ่านจบ ผมได้แต่นั่งนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 5 เสนองาน

    วันที่ 11 สิงหาคม ปี 43 มันเป็นวันเกิดของผม พ่อของผมทำพินัยกรรมให้ทันทีที่ผมเกิด ครอบครัวของผมเป็น เศรษฐี และนี่คือสิ่งที่แม่ไม่เคยบอกผม เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยรู้ การได้รับรู้ข่าวนี้ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น ผมทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นทำอะไรต่อจากนี้ ผมรู้แล้วว่าทำไมผมถึงไม่เคยได้เจอหน้าพ่อ ผมรู้แล้วว่าทำไมท่านถึงเสียก่อนวัยอันควร และรู้แล้วว่าทำไมแม่ของผมจึงถูกชาย 2 คนนั้นทำร้ายจนเสียชีวิต ผมว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับพินัยกรรมฉบับนี้แน่ ในขณะที่ผมคิดอะไรไม่ตกนั้น พี่เนมก็ขยับเดินเข้ามาใกล้“เสร็จรึยัง” พี่เนมถามและมองผมที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่พื้น อย่างคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนพี่เนมต้องนั่งยองๆ และเอามือวางบนไหล่ผมเบาๆ ผมสะดุ้งนิดๆ และหันไปหาพี่เนม“อะ อ่อ เสร็จ เสร็จแล้วครับ” เสียงของผมสั่นคนผมเองยังรู้สึกได้ พี่เนมขมวดคิ้วมองผมเล็กน้อย ก่อนลุกยืนขึ้น“จะกลับเลยไหม”“คะ ครับ กลับครับ” ผมตอบพี่เนม เริ่มเก็บของที่ผมได้เจอ ปิดแผ่นหินนั้นคืนที่เดิม และนำของที่ได้รับกลับมาด้วย เมื่อมาถึงรถผมก็ขึ้นไปนั่งและก้มมองกล่องเหล็กนั้นอย่างใช้ความคิดเงียบๆ“นาย จะให้ไปส่งที่ไหน”“...”“เจ้านาย” พี่

    Last Updated : 2025-04-28
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 6 เลขาส่วนตัว

    คำชวนจากพี่เนมทำให้ผมนิ่งคิด พี่เนมชวนผมทำงาน ผมเนี้ยนะ เด็กบ้านๆ คนหนึ่ง เรียนก็น้อย ผมยังไม่มีมหาลัยให้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ แล้วจะให้ผมช่วยงานอะไรพี่เขาได้ละครับ“พี่เนมจะให้ผมทำงานอะไรหรอครับ”“เลขาส่วนตัว”“แต่ว่าผมเรียนมาน้อย จะช่วยงานพี่ได้ยังไงครับ ผมคิดว่าผมคงไม่เหมาะกับงานนี้” ผมพูดพลางคิดไปด้วย ให้ผมเป็นเลขาส่วนตัว แสดงว่าก็ต้องคอยช่วยจัดตารางงาน นัดลูกค้า แจ้งกำหนดการอะไรแบบนี้รึเปล่านะ“ฉันจะส่งเสียนายเรียนมหาลัยก่อน ระหว่างนั้นให้ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวฉันไปพลางๆ หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมาก เตรียมรายการอาหารเช้า กลางวัน เย็นให้ป้านุ่ม ให้นายเป็นคนคิดเมนูอาหารในแต่ละวัน ตอนเช้าก็เข้ามาปลุกฉันในห้องและจัดเตรียมเสื้อผ้า รวมถึงเอกสารที่จำเป็น แล้วค่อยออกไปเรียน พอนายเรียนจบฉันจะหางานที่เหมาะสมให้กับนายอีกที”“ผมคิดว่า ผมต้องทำการนัดหมาย เตรียมเอกสารสำคัญ นัดพบลูกค้า หรือจัดเตรียมข้อมูลระหว่างที่พี่เนมทำงานที่บริษัทซะอีกครับ” ผมถามพร้อมกับทำหน้างง ก็มันเป็นหน้าที่ของเลขาไม่ใช่หรอ มันก็ต้องไปทำที่บริษัทกับพี่เนมสิถึงจะถูก แต่ทำไมงานที่พี่เนมให้ทำกลับเป็นงานที่บ้านทั้งหมดเลยล่ะ“อันนั้นงา

    Last Updated : 2025-04-28
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 7 เริ่มงานวันแรก

    เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นแต่เช้า ทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่าผมต้องไปปลุกพี่เนม เพื่อให้พี่เนมได้ออกไปทำงาน ผมตื่นมาตอนตี 5.30 น. เพื่ออาบน้ำ แต่งตัว แล้วลงไปบอกเมนูอาหารให้กับป้านุ่มได้รับทราบ อาหารเช้าในวันนี้ที่ผมคิดก็คือ เบคอน ไข่ดาว ขนมปัง กาแฟ และ แอปเปิล เมื่อป้านุ่มได้ฟังก็เตรียมตัวออกไปจ่ายตลาด ผมไม่รู้ว่าปกติที่บ้านนี้ทานอาหารเช้ากันยังไง ไว้เดี๋ยวผมจะไปถามป้านุ่มอีกที เผื่อพี่เนมมีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษจะได้เพิ่มเข้าไปในเมนู เมื่อจัดการเรื่องอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมก็เข้าห้องไปปลุกพี่เนม เคาะประตูสอง สาม ครั้ง เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าผมกำลังจะเข้าไป ห้องของพี่เนมมืดสนิทเลยครับ มองแทบไม่เห็นอะไรเลย เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ผมทำก็คือเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเปิดผ้าม่านออก แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาภายในห้องนอน“อืมมม” พี่เนมส่งเสียงงัวเงียเล็กน้อยเมื่อมีแสงรบกวนการนอน ทำให้ผมหันไปมองเพื่อลงมือปลุกพี่เนม แต่ภาพที่เห็นทำให้ผมหยุดชะงัก พี่เนมในสภาพเปลือยอก แขนวางพาดไว้ด้านบนศีรษะ มืออีกข้างวางบนหน้าท้อง ทำให้ผมเห็นกล้ามแขนที่น่าขบกัดเบาๆ ของพี่เนม ไหนจะหน้าท้องเป็นลอนลูกคลื่น แซมด้วยไรขนอ่อนๆ ไล่ลึกลงไปด้าน

    Last Updated : 2025-04-28
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 8 เปิดเทอมวันแรกและออกงานครั้งแรก

    วันนี้เป็นวันเสาร์ครับ พี่เนมบอกว่าไม่ต้องปลุกและไม่ต้องคิดเมนูอาหาร ทำให้ผมนอนยาวได้อย่างสบายใจ แต่ก็ไม่มากหรอกครับ ผมตื่นมาในเวลา 7 โมงเช้าของวัน อาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปช่วยป้านุ่มทำกับข้าวแทน จนถึงเวลาอาหารเช้าก็ยังไม่เห็นพี่เนมออกมาจากห้อง ผมเลยเดินไปปลุกพี่เนมภายในห้องเพื่อให้มาทานอาหารเช้า แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับไม่พบใครอยู่ในนั้น แถมเตียงนอนก็ถูกจัดเก็บอย่างเรียบร้อย จึงออกเดินตามหาภายในบ้าน ผมเดินเข้าห้องนั้น ออกห้องนี้ จนเริ่มจะปวดขาหน่อยๆ แต่ก็ยังไม่เจอพี่เนมสักที ในขณะที่กำลังจะหันหลังกลับ ก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วๆ มา จึงเดินตามเสียงเพลงนั้นไป จนสุดท้ายผมก็มาพบพี่เนมอยู่ที่ห้องออกกำลังกาย พี่เนมกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง หันหน้าไปทางสระน้ำ ใส่เสื้อกล้ามสีดำ กางเกงบอล รองเท้าผ้าใบ และผ้าผืนบางพาดอยู่ที่ต้นคอ ห้องนี้เปิดเพลงดังมากและมันมาก คิดว่าคงเพื่อปลุกใจในการออกกำลังกาย ผมส่งเสียงเรียกพี่เนมอยู่ สอง สาม ครั้ง แต่คนตรงหน้าดูท่าว่าไม่ได้ยินสักนิด ผมจึงเดินไปที่เครื่องเล่นเพลง และกดหยุดมัน จนทำให้พี่เนมหันมามอง พี่เนมยอมหยุดวิ่งยืนรออยู่กับที่พร้อมๆ กับผมที่เดินเข้าไปใกล้“พี่เ

    Last Updated : 2025-04-28
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 9 เริ่มรู้สึก NC+ (นิดๆ)

    ผมพาเจ้านายมาส่งถึงห้อง แล้วพาไปที่อ่างน้ำ จับเขานั่งอยู่ภายในอ่าง เปิดน้ำใส่อย่างแรง เมื่อน้ำได้ระดับผมก็จับเจ้านายกดไว้ เจ้านายดิ้นอยู่สักพักหนึ่ง มือเล็กพยายามลูบไล้ร่างกายผมไปทั่ว พร้อมเอาหน้ามาถูไถซุกอก ผมได้แต่กัดฟันกรอด เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จนเจ้านายนั่งนิ่งอย่างสงบ ดวงตาปิดพริ้มไปพร้อมหลับเต็มที เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีอาการดีขึ้นแล้ว ผมก็อุ้มเขาขึ้นมา จัดการถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นทั้งหมดออก ซึ่งมันเกือบจะทำให้สติของผมแตกกระเจิง ยิ่งเห็นยอดอกสีชมพูอ่อน หน้าท้องที่มีกล้านิดๆ พอตัว ตัวสีขาวนวลออกสีแดงจางๆ เพราะฤทธิ์ไวน์ ผมพยายามหักห้ามใจ ไม่ให้ทำอะไรๆ มากไปกว่าที่ควรจะเป็น ผมจัดการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาใหม่ ระหว่างทำก็ก้มจูบคนตัวเล็กอยู่เรื่อยอย่างคนอดใจไม่อยู่ เมื่อผมจัดการเจ้านายจนเสร็จเรียบร้อย จัดให้เขานอนดีๆ บนที่นอน ห่มผ้าให้ถึงอก แล้วผมก็ผละไปจัดการตัวเองบ้าง“อืมมมมม อ่าาาาาาาา” ผมใช้แม่นางทั้ง 5 ของผม รูดรั้งแกนกายที่กำลังพองขยายตัวเต็มที่ อย่างรัวเร็ว พลางคิดถึงสัมผัสทางริมฝีปากที่ได้รับมา มันทั้งนุ่มและหอมหวาน ยิ่งอยากทำให้ลิ้มลองอีก คิดถึงสัมผัสที่ฝ่ามือของผม

    Last Updated : 2025-04-28
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 10 เดทแรก

    “อ๊ะ!!!” พี่เนมจับแขนผมแล้วดึงเอาไว้ขณะที่ผมหมุนตัวหันหลังเพื่อจะออกจากห้องไป ทำให้ตัวของผมเซไปทับพี่เนม แต่อะไรก็ไม่เท่ามือของผมที่จับกายแกร่งช่วงล่างของพี่เขาอยู่ ทำให้ผมตกใจดวงตาเบิกกว้างเงยหน้ามองพี่เนมอย่างตกใจ แล้วสิ่งที่ตามมาติดๆ เมื่อผมล้มลงคือริมฝีปากนุ่มยุ่นของพี่เนมที่แนบชิดกับริมฝีปากของผม ผมตกใจได้แต่ค้างท่านั้นจนในที่สุดพี่เนมก็ผละริมฝีปากออกห่าง“ระวังไว้ให้ดี ฉันจะรุกจีบนายแล้วนะ” พี่เนมกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูของผม จนผมอดรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องไม่ได้ พี่เนมค่อยๆ ถอยออกไปและปล่อยแขนของผม ขณะเดียวกันก็ส่งยิ้มแพรวพราวมาให้“อะ อะ อ่อ” ผมถึงกับใบ้กินและไปต่อไม่ถูก ได้แต่ค้างท่าเดิมไว้อย่างนั้น“ถ้านายยังไม่เอามือออกไป ฉันจะจับนายกินแล้วนะ” เมื่อพี่เนมพูดขึ้น ทำให้ผมนึกขึ้นได้ รีบปล่อยสิ่งที่จับอยู่ในมือราวกับโดนของร้อน“ขะ ขะ ขอโทษครับ” ผมบอกพี่เนมแล้วรีบวิ่งกลับห้องตัวเองทันที“ฮึฮึ” ขณะที่ผมวิ่งออกมาก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของพี่เนมดังไล่หลัง หน้าของผมเห่อร้อนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ได้แต่มานั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเองบนเตียงนอน โอ้ยยยยยยย ทำไมผมถึงรู้สึกดีกับสัมผัสของเขา ทำไม

    Last Updated : 2025-04-28
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 11 นวดคลายเมื่อย

    ตอนนี้ผมกับพี่เนม เรามานั่งในร้านอาหารแห่งหนึ่งครับ โดยผมกับพี่เนมนั่งฝั่งเดียวกัน และฝั่งตรงข้าม มีหญิงสาวชรากับลูกชายของเธอนั่งอยู่ ซึ่งก็คือ คุณหญิงนภา เดชพิมุกต์ และคุณกันต์ เดชพิมุกต์ อดีตกรรมการผู้จัดการ และ กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันของบริษัท โอแกรนวิลล์ ส่วนสาเหตุนั้นเป็นเพราะว่า พี่เนมพาผมมาทานอาหารที่ร้านภายในห้างสรรพสินค้านี้ ตอนแรกที่เดินเข้ามาเหมือนพี่เนมจะเห็นแล้วล่ะครับ แต่เป็นผมที่ดึงดันให้เข้าร้าน เพราะไม่รู้ว่าจะเดินวนหาร้านอื่นไปอีกทำไม เมื่อเดินเข้ามาก็ถูกคุณหญิงนภาเรียกเอาไว้ แล้วชักชวนให้นั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน โดยหยิบยกเรื่องที่ผมกับพี่เนมแอบชิ่งหนีออกจากงานเลี้ยงครั้งก่อนมากดดัน ทำให้ต้องร่วมโต๊ะกันอย่างช่วยไม่ได้“ขอโทษครับพี่เนม” ผมกระซิบบอกคนข้างกาย เพราะเข้าใจดีกว่าพี่เนมคงไม่อยากร่วมโต๊ะกับคู่แข่งสักเท่าไหร่“ไม่เป็นไร” พี่เนมกระซิบตอบกลับมาเบาๆ และหันกลับไปเมื่อฝั่งตรงข้ามหันมาพูดคุยกับพี่เนมเรื่องธุรกิจที่กำลังทำ และโปรเจ็คใหม่ที่มีแผนว่าจะขยายกิจการออกไป“แล้วนี่ คุณเจ้านายมาทำงานกับคุณวรวิทย์นานรึยังคะ?&

    Last Updated : 2025-04-29
  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 12 ความในใจของผู้ชายคนหนึ่ง

    ...NamePart“จะกลับเลยไหม” ผมเอ่ยถามคนตัวเล็กเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้านายและกลุ่มเพื่อนๆ สายตาผมลอบสังเกตเพื่อนของเจ้านายแต่ละคน อืมม ส่วนใหญ่ก็ท่าทางปกติ แต่ที่ไม่ปกติเห็นจะมีอยู่หนึ่งคน ผมจึงตวัดสายตาไปมอง“พี่เนมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เจ้านายเอ่ยถามพร้อมทำหน้าสงสัย เอียงคอหน่อยๆ อย่างน่ารักน่าเอ็นดู“สักพักแล้วล่ะ กำลังจะกลับกันใช่ไหม”“ครับ” เจ้านายตอบรับผม ก่อนจะหันไปหาเพื่อนของตัวเอง ที่กระตุกแขนยิกๆ ซุบซิบกันเบาๆ ถ้าให้ผมเดาก็คงไม่พ้นเรื่องของผมหรอก ก็เมื่อกี้พวกนี้เล่นคุยกันเสียงดัง แถมนินทาระยะเผาขนขนาดนั้น ผ่านไปสักพักหนึ่งเจ้านายหันมาสบตาผมแล้วพยักหน้าให้“ปะ กลับกันเถอะครับ” เมื่อผมได้รับคำยืนยันก็หมุนตัวเดินตรงไปที่รถ จัดการปลดล็อกรถ แล้วเข้าไปนั่ง เจ้านายเปิดประตูฝั่งด้านข้างคนขับ ขึ้นมานั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างเรียบร้อย ผมจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวออกช้าๆ และเร่งความเร็วมากขึ้นเมื่อถึงถนนโล่งแจ้ง ก็นะ อเวนทาดอร์ของผมมันดุเห

    Last Updated : 2025-04-30

Latest chapter

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 13 ไปทำงาน

    ...Nine Part“อืมมมมม ฮ้าวววววว” ผมตื่นมาในเวลาปกติของวัน วันนี้วันอังคาร ผมมีเรียนแค่ช่วงบ่ายครับ ทำให้ผมนอนบิดขี้เกียจอยู่บนเตียง แต่สัมผัสอุ่นๆ ข้างตัวทำให้สะดุ้งตกใจ ที่มายิ่งกว่าคือ การที่ผมตื่นมาแล้วกำลังซุกหน้าลงกับอกเปลือยเปล่าของพี่เนม อีกแล้วหรอครับ!!! ผมเด้งตัวออกจากอ้อมกอด เงยหน้ามองพี่เนม ซึ่งพบว่าพี่เนมตื่นก่อนอยู่แล้วครับ พี่เนมยิ้มมุมปากแล้วยกตัวขึ้นนิดหนึ่งจุ๊บปากผมเร็วๆ“มอร์นิ่งคิส หลับสบายไหม กับอกพี่น่ะ” พี่เนมจุ๊บปากผม แล้วเอ่ยถามข้างใบหูจนผมอดรู้สึกหน้าแดงไม่ได้“พะ พะ พี่เนมเข้ามาได้ยังไงครับ” ผมถามพี่เนมปากสั่น หันไปมองประตูที่เมื่อคืนสู้อุตส่าห์หาวิธีมาป้องกัน โดยการเอาเก้าอี้มาคั่นไว้ ทำให้เปิดเข้ามาไม่ได้แน่ๆ และสภาพของมันก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ล้มลง หรือถูกเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด“หืม ทะลุประตูเข้ามา ฮะๆ” พี่เนมลุกขึ้นจากเตียง เดินไปขยับเก้าอี้ออก แล้วเปิดประตูกลับเข้าห้องตัวเองไป ผมสิ อ้าปากค้าง บ้าหรอ!!!! ถ้าทะลุได้จริง ทำไมไม

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 12 ความในใจของผู้ชายคนหนึ่ง

    ...NamePart“จะกลับเลยไหม” ผมเอ่ยถามคนตัวเล็กเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้านายและกลุ่มเพื่อนๆ สายตาผมลอบสังเกตเพื่อนของเจ้านายแต่ละคน อืมม ส่วนใหญ่ก็ท่าทางปกติ แต่ที่ไม่ปกติเห็นจะมีอยู่หนึ่งคน ผมจึงตวัดสายตาไปมอง“พี่เนมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เจ้านายเอ่ยถามพร้อมทำหน้าสงสัย เอียงคอหน่อยๆ อย่างน่ารักน่าเอ็นดู“สักพักแล้วล่ะ กำลังจะกลับกันใช่ไหม”“ครับ” เจ้านายตอบรับผม ก่อนจะหันไปหาเพื่อนของตัวเอง ที่กระตุกแขนยิกๆ ซุบซิบกันเบาๆ ถ้าให้ผมเดาก็คงไม่พ้นเรื่องของผมหรอก ก็เมื่อกี้พวกนี้เล่นคุยกันเสียงดัง แถมนินทาระยะเผาขนขนาดนั้น ผ่านไปสักพักหนึ่งเจ้านายหันมาสบตาผมแล้วพยักหน้าให้“ปะ กลับกันเถอะครับ” เมื่อผมได้รับคำยืนยันก็หมุนตัวเดินตรงไปที่รถ จัดการปลดล็อกรถ แล้วเข้าไปนั่ง เจ้านายเปิดประตูฝั่งด้านข้างคนขับ ขึ้นมานั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างเรียบร้อย ผมจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวออกช้าๆ และเร่งความเร็วมากขึ้นเมื่อถึงถนนโล่งแจ้ง ก็นะ อเวนทาดอร์ของผมมันดุเห

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 11 นวดคลายเมื่อย

    ตอนนี้ผมกับพี่เนม เรามานั่งในร้านอาหารแห่งหนึ่งครับ โดยผมกับพี่เนมนั่งฝั่งเดียวกัน และฝั่งตรงข้าม มีหญิงสาวชรากับลูกชายของเธอนั่งอยู่ ซึ่งก็คือ คุณหญิงนภา เดชพิมุกต์ และคุณกันต์ เดชพิมุกต์ อดีตกรรมการผู้จัดการ และ กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันของบริษัท โอแกรนวิลล์ ส่วนสาเหตุนั้นเป็นเพราะว่า พี่เนมพาผมมาทานอาหารที่ร้านภายในห้างสรรพสินค้านี้ ตอนแรกที่เดินเข้ามาเหมือนพี่เนมจะเห็นแล้วล่ะครับ แต่เป็นผมที่ดึงดันให้เข้าร้าน เพราะไม่รู้ว่าจะเดินวนหาร้านอื่นไปอีกทำไม เมื่อเดินเข้ามาก็ถูกคุณหญิงนภาเรียกเอาไว้ แล้วชักชวนให้นั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน โดยหยิบยกเรื่องที่ผมกับพี่เนมแอบชิ่งหนีออกจากงานเลี้ยงครั้งก่อนมากดดัน ทำให้ต้องร่วมโต๊ะกันอย่างช่วยไม่ได้“ขอโทษครับพี่เนม” ผมกระซิบบอกคนข้างกาย เพราะเข้าใจดีกว่าพี่เนมคงไม่อยากร่วมโต๊ะกับคู่แข่งสักเท่าไหร่“ไม่เป็นไร” พี่เนมกระซิบตอบกลับมาเบาๆ และหันกลับไปเมื่อฝั่งตรงข้ามหันมาพูดคุยกับพี่เนมเรื่องธุรกิจที่กำลังทำ และโปรเจ็คใหม่ที่มีแผนว่าจะขยายกิจการออกไป“แล้วนี่ คุณเจ้านายมาทำงานกับคุณวรวิทย์นานรึยังคะ?&

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 10 เดทแรก

    “อ๊ะ!!!” พี่เนมจับแขนผมแล้วดึงเอาไว้ขณะที่ผมหมุนตัวหันหลังเพื่อจะออกจากห้องไป ทำให้ตัวของผมเซไปทับพี่เนม แต่อะไรก็ไม่เท่ามือของผมที่จับกายแกร่งช่วงล่างของพี่เขาอยู่ ทำให้ผมตกใจดวงตาเบิกกว้างเงยหน้ามองพี่เนมอย่างตกใจ แล้วสิ่งที่ตามมาติดๆ เมื่อผมล้มลงคือริมฝีปากนุ่มยุ่นของพี่เนมที่แนบชิดกับริมฝีปากของผม ผมตกใจได้แต่ค้างท่านั้นจนในที่สุดพี่เนมก็ผละริมฝีปากออกห่าง“ระวังไว้ให้ดี ฉันจะรุกจีบนายแล้วนะ” พี่เนมกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูของผม จนผมอดรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องไม่ได้ พี่เนมค่อยๆ ถอยออกไปและปล่อยแขนของผม ขณะเดียวกันก็ส่งยิ้มแพรวพราวมาให้“อะ อะ อ่อ” ผมถึงกับใบ้กินและไปต่อไม่ถูก ได้แต่ค้างท่าเดิมไว้อย่างนั้น“ถ้านายยังไม่เอามือออกไป ฉันจะจับนายกินแล้วนะ” เมื่อพี่เนมพูดขึ้น ทำให้ผมนึกขึ้นได้ รีบปล่อยสิ่งที่จับอยู่ในมือราวกับโดนของร้อน“ขะ ขะ ขอโทษครับ” ผมบอกพี่เนมแล้วรีบวิ่งกลับห้องตัวเองทันที“ฮึฮึ” ขณะที่ผมวิ่งออกมาก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของพี่เนมดังไล่หลัง หน้าของผมเห่อร้อนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ได้แต่มานั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเองบนเตียงนอน โอ้ยยยยยยย ทำไมผมถึงรู้สึกดีกับสัมผัสของเขา ทำไม

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 9 เริ่มรู้สึก NC+ (นิดๆ)

    ผมพาเจ้านายมาส่งถึงห้อง แล้วพาไปที่อ่างน้ำ จับเขานั่งอยู่ภายในอ่าง เปิดน้ำใส่อย่างแรง เมื่อน้ำได้ระดับผมก็จับเจ้านายกดไว้ เจ้านายดิ้นอยู่สักพักหนึ่ง มือเล็กพยายามลูบไล้ร่างกายผมไปทั่ว พร้อมเอาหน้ามาถูไถซุกอก ผมได้แต่กัดฟันกรอด เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จนเจ้านายนั่งนิ่งอย่างสงบ ดวงตาปิดพริ้มไปพร้อมหลับเต็มที เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีอาการดีขึ้นแล้ว ผมก็อุ้มเขาขึ้นมา จัดการถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นทั้งหมดออก ซึ่งมันเกือบจะทำให้สติของผมแตกกระเจิง ยิ่งเห็นยอดอกสีชมพูอ่อน หน้าท้องที่มีกล้านิดๆ พอตัว ตัวสีขาวนวลออกสีแดงจางๆ เพราะฤทธิ์ไวน์ ผมพยายามหักห้ามใจ ไม่ให้ทำอะไรๆ มากไปกว่าที่ควรจะเป็น ผมจัดการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาใหม่ ระหว่างทำก็ก้มจูบคนตัวเล็กอยู่เรื่อยอย่างคนอดใจไม่อยู่ เมื่อผมจัดการเจ้านายจนเสร็จเรียบร้อย จัดให้เขานอนดีๆ บนที่นอน ห่มผ้าให้ถึงอก แล้วผมก็ผละไปจัดการตัวเองบ้าง“อืมมมมม อ่าาาาาาาา” ผมใช้แม่นางทั้ง 5 ของผม รูดรั้งแกนกายที่กำลังพองขยายตัวเต็มที่ อย่างรัวเร็ว พลางคิดถึงสัมผัสทางริมฝีปากที่ได้รับมา มันทั้งนุ่มและหอมหวาน ยิ่งอยากทำให้ลิ้มลองอีก คิดถึงสัมผัสที่ฝ่ามือของผม

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 8 เปิดเทอมวันแรกและออกงานครั้งแรก

    วันนี้เป็นวันเสาร์ครับ พี่เนมบอกว่าไม่ต้องปลุกและไม่ต้องคิดเมนูอาหาร ทำให้ผมนอนยาวได้อย่างสบายใจ แต่ก็ไม่มากหรอกครับ ผมตื่นมาในเวลา 7 โมงเช้าของวัน อาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปช่วยป้านุ่มทำกับข้าวแทน จนถึงเวลาอาหารเช้าก็ยังไม่เห็นพี่เนมออกมาจากห้อง ผมเลยเดินไปปลุกพี่เนมภายในห้องเพื่อให้มาทานอาหารเช้า แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับไม่พบใครอยู่ในนั้น แถมเตียงนอนก็ถูกจัดเก็บอย่างเรียบร้อย จึงออกเดินตามหาภายในบ้าน ผมเดินเข้าห้องนั้น ออกห้องนี้ จนเริ่มจะปวดขาหน่อยๆ แต่ก็ยังไม่เจอพี่เนมสักที ในขณะที่กำลังจะหันหลังกลับ ก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วๆ มา จึงเดินตามเสียงเพลงนั้นไป จนสุดท้ายผมก็มาพบพี่เนมอยู่ที่ห้องออกกำลังกาย พี่เนมกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง หันหน้าไปทางสระน้ำ ใส่เสื้อกล้ามสีดำ กางเกงบอล รองเท้าผ้าใบ และผ้าผืนบางพาดอยู่ที่ต้นคอ ห้องนี้เปิดเพลงดังมากและมันมาก คิดว่าคงเพื่อปลุกใจในการออกกำลังกาย ผมส่งเสียงเรียกพี่เนมอยู่ สอง สาม ครั้ง แต่คนตรงหน้าดูท่าว่าไม่ได้ยินสักนิด ผมจึงเดินไปที่เครื่องเล่นเพลง และกดหยุดมัน จนทำให้พี่เนมหันมามอง พี่เนมยอมหยุดวิ่งยืนรออยู่กับที่พร้อมๆ กับผมที่เดินเข้าไปใกล้“พี่เ

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 7 เริ่มงานวันแรก

    เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นแต่เช้า ทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่าผมต้องไปปลุกพี่เนม เพื่อให้พี่เนมได้ออกไปทำงาน ผมตื่นมาตอนตี 5.30 น. เพื่ออาบน้ำ แต่งตัว แล้วลงไปบอกเมนูอาหารให้กับป้านุ่มได้รับทราบ อาหารเช้าในวันนี้ที่ผมคิดก็คือ เบคอน ไข่ดาว ขนมปัง กาแฟ และ แอปเปิล เมื่อป้านุ่มได้ฟังก็เตรียมตัวออกไปจ่ายตลาด ผมไม่รู้ว่าปกติที่บ้านนี้ทานอาหารเช้ากันยังไง ไว้เดี๋ยวผมจะไปถามป้านุ่มอีกที เผื่อพี่เนมมีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษจะได้เพิ่มเข้าไปในเมนู เมื่อจัดการเรื่องอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมก็เข้าห้องไปปลุกพี่เนม เคาะประตูสอง สาม ครั้ง เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าผมกำลังจะเข้าไป ห้องของพี่เนมมืดสนิทเลยครับ มองแทบไม่เห็นอะไรเลย เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ผมทำก็คือเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเปิดผ้าม่านออก แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาภายในห้องนอน“อืมมม” พี่เนมส่งเสียงงัวเงียเล็กน้อยเมื่อมีแสงรบกวนการนอน ทำให้ผมหันไปมองเพื่อลงมือปลุกพี่เนม แต่ภาพที่เห็นทำให้ผมหยุดชะงัก พี่เนมในสภาพเปลือยอก แขนวางพาดไว้ด้านบนศีรษะ มืออีกข้างวางบนหน้าท้อง ทำให้ผมเห็นกล้ามแขนที่น่าขบกัดเบาๆ ของพี่เนม ไหนจะหน้าท้องเป็นลอนลูกคลื่น แซมด้วยไรขนอ่อนๆ ไล่ลึกลงไปด้าน

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 6 เลขาส่วนตัว

    คำชวนจากพี่เนมทำให้ผมนิ่งคิด พี่เนมชวนผมทำงาน ผมเนี้ยนะ เด็กบ้านๆ คนหนึ่ง เรียนก็น้อย ผมยังไม่มีมหาลัยให้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ แล้วจะให้ผมช่วยงานอะไรพี่เขาได้ละครับ“พี่เนมจะให้ผมทำงานอะไรหรอครับ”“เลขาส่วนตัว”“แต่ว่าผมเรียนมาน้อย จะช่วยงานพี่ได้ยังไงครับ ผมคิดว่าผมคงไม่เหมาะกับงานนี้” ผมพูดพลางคิดไปด้วย ให้ผมเป็นเลขาส่วนตัว แสดงว่าก็ต้องคอยช่วยจัดตารางงาน นัดลูกค้า แจ้งกำหนดการอะไรแบบนี้รึเปล่านะ“ฉันจะส่งเสียนายเรียนมหาลัยก่อน ระหว่างนั้นให้ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวฉันไปพลางๆ หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมาก เตรียมรายการอาหารเช้า กลางวัน เย็นให้ป้านุ่ม ให้นายเป็นคนคิดเมนูอาหารในแต่ละวัน ตอนเช้าก็เข้ามาปลุกฉันในห้องและจัดเตรียมเสื้อผ้า รวมถึงเอกสารที่จำเป็น แล้วค่อยออกไปเรียน พอนายเรียนจบฉันจะหางานที่เหมาะสมให้กับนายอีกที”“ผมคิดว่า ผมต้องทำการนัดหมาย เตรียมเอกสารสำคัญ นัดพบลูกค้า หรือจัดเตรียมข้อมูลระหว่างที่พี่เนมทำงานที่บริษัทซะอีกครับ” ผมถามพร้อมกับทำหน้างง ก็มันเป็นหน้าที่ของเลขาไม่ใช่หรอ มันก็ต้องไปทำที่บริษัทกับพี่เนมสิถึงจะถูก แต่ทำไมงานที่พี่เนมให้ทำกลับเป็นงานที่บ้านทั้งหมดเลยล่ะ“อันนั้นงา

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   บทที่ 5 เสนองาน

    วันที่ 11 สิงหาคม ปี 43 มันเป็นวันเกิดของผม พ่อของผมทำพินัยกรรมให้ทันทีที่ผมเกิด ครอบครัวของผมเป็น เศรษฐี และนี่คือสิ่งที่แม่ไม่เคยบอกผม เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยรู้ การได้รับรู้ข่าวนี้ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น ผมทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นทำอะไรต่อจากนี้ ผมรู้แล้วว่าทำไมผมถึงไม่เคยได้เจอหน้าพ่อ ผมรู้แล้วว่าทำไมท่านถึงเสียก่อนวัยอันควร และรู้แล้วว่าทำไมแม่ของผมจึงถูกชาย 2 คนนั้นทำร้ายจนเสียชีวิต ผมว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับพินัยกรรมฉบับนี้แน่ ในขณะที่ผมคิดอะไรไม่ตกนั้น พี่เนมก็ขยับเดินเข้ามาใกล้“เสร็จรึยัง” พี่เนมถามและมองผมที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่พื้น อย่างคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนพี่เนมต้องนั่งยองๆ และเอามือวางบนไหล่ผมเบาๆ ผมสะดุ้งนิดๆ และหันไปหาพี่เนม“อะ อ่อ เสร็จ เสร็จแล้วครับ” เสียงของผมสั่นคนผมเองยังรู้สึกได้ พี่เนมขมวดคิ้วมองผมเล็กน้อย ก่อนลุกยืนขึ้น“จะกลับเลยไหม”“คะ ครับ กลับครับ” ผมตอบพี่เนม เริ่มเก็บของที่ผมได้เจอ ปิดแผ่นหินนั้นคืนที่เดิม และนำของที่ได้รับกลับมาด้วย เมื่อมาถึงรถผมก็ขึ้นไปนั่งและก้มมองกล่องเหล็กนั้นอย่างใช้ความคิดเงียบๆ“นาย จะให้ไปส่งที่ไหน”“...”“เจ้านาย” พี่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status