"ร้อนจัง" ใบชาพูดพึมพำเบาๆ พร้อมกับจับคอเสื้อเขย่าคลายร้อน เพราะจู่ๆ เธอก็รู้สึกร้อนๆ เย็นๆ ยังไงก็ไม่รู้ มันบอกไม่ถูก ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ 22 องศา ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
"ดื่มไปแค่นั้น เมาซะแล้วหรอ" คลินต์หัวเราะเบาๆ เมื่อเหลือบมองอาการของน้องสาวเพื่อนสนิท มันไม่ใช่อาการร้ายแรงอะไรหรอก มันก็แค่อาการกรึ่มๆ เหมือนคนจะเมามากกว่า
แต่เธอดื่มไปแค่นั้นเอง กลับเมาซะแล้ว ถ้าให้ดื่มจนหมดกระป๋องพรุ่งนี้เช้าคงได้แฮงค์ชัวร์เลย
"หน้าแดงเชียวนะ หึหึ"
"ไม่ได้เมาสักหน่อย!" ใบชาเถียงทันควัน แต่ใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอมันฟ้องชัดกว่าอะไรทั้งหมด
เขามองเธอเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยกกระป๋องในมือตัวเองดื่มจนหมด แล้วเอนตัวลงพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย
ความเงียบอีกระลอกเข้ามาแทรกแซง ไม่มีการพูดคุยใดๆ มันเป็นความเงียบที่ไม่เชิงเป็นความอึดอัด แต่มันเป็นความรู้สึกอีกแบบมากกว่า
ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันที่คอนโดสองต่อสอง ณ เวลานี้ ท่ามกลางความเย็นเยียบจากเครื่องปรับอากาศ และความมืดรอบตัว ใครบ้างจะไม่รู้สึกแปลก ถึงเขาจะเป็นเพื่อนสนิทที่พี่ชายไว้ใจ แต่ความรู้สึกนี้ใบชารู้ดีกว่าใคร
แต่เธอไม่เคยรักใคร ก็เลยไม่มั่นใจว่า นี่มันแค่การปลื้มใจเพราะเขาดีกับเธอหรือเปล่า หรือมันเป็นความรักความชอบจริงๆ
"พี่คลินต์..." ใบชาเรียกชื่อเขาเบาๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเรียกไปทำไม แค่รู้สึกอยากพูดอะไรบางอย่างกับเขา สักอย่างก็ยังดี
แต่ทว่าคนตัวโตไม่ได้ตอบกลับอะไรเธอ สายตาของเขาที่กำลังจ้องมองเธอ มันดูสงบ เยือกเย็น นิ่งราวกับผืนน้ำที่ไม่ไหวติง เธอไม่รู้ว่าท่าทีแบบนี้มันหมายความว่ายังไง
และแล้ว...ริมฝีปากของเขาก็แตะลงบนริมฝีปากของเธอ อย่างแผ่วเบา นุ่มนวล จนใบชาแทบลืมหายใจ วินาทีนั้นมันเงียบกริบ เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน
เมื่อทั้งสองผละออกจากกัน สีหน้าเขาก็ดูตกใจไม่แพ้กัน คลินต์เม้มปากแน่นราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
"ขะ...ขอโทษ" เขาเอ่ยเบาๆ
"......" ใบชาก้มหน้าหลบสายตาเพราะความเขินอาย หน้าเธอร้อนผ่าวจนเหมือนจะระเบิด พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
ถึงจะยังไม่แน่ใจ แต่แค่จูบเมื่อครู่ มันก็ทำให้เธออยากหวังขึ้นมาเล็กๆ ว่าใช่
เขาอาจจะกำลังชอบเธอ เหมือนกับที่เธอกำลังชอบเขาอยู่ก็ได้
ไม่รู้สิ แต่การที่เขาจูบเธอแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้น
"เข้านอนกันเถอะ พี่ง่วงแล้ว สงสัยเมา" ว่าแล้วคลินต์ก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองในทันที ทิ้งให้ใบชานั้นนั่งเขินอยู่ที่เดิม
ตัดภาพมาที่เช้าของอีกวัน
ใบชาตื่นตามเวลาที่นาฬิกาปลุก ก่อนจะลุกขึ้นอย่างงัวเงีย เพราะนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง จากนั้นก็รีบอาบน้ำแต่งตัวพร้อมกับเอาเอกสารที่ต้องใช้ติดมือไปด้วย จะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาเอาตอนที่ไปรับพี่ชายออกจากโรงพยาบาล
มหาวิทยาลัยxxx
"จริงดิ! แล้วพี่ชายแกเป็นอะไรมากมั้ย"
"ก็หนักอยู่นะ แค่มันไม่ถึงกระดูก หมอก็เลยให้นอนดูอาการคืนเดียว"
"ไอ้พวกนี้นี่นะ เจอตัวแล้วแกต้องเรียกค่าทำขวัญให้เข็ดเลยนะ"
"ฉันคงคุยไม่ได้หรอก คงให้พี่เต้หรือไม่ก็พี่คลินต์เขาเป็นคนไปเจรจากันเอง ฉันเป็นเด็ก จะไปรู้เรื่องอะไร"
"ก็จริง แต่อย่าไปยอมนะ ชนแล้วหนีแบบนี้... แม่ง!!"
"ช่วงนี้ก็อาจจะยุ่งๆ หน่อยนะ วันหยุดก็คงไม่ได้ไปทำรายงานด้วย"
"ไม่เป็นไรๆ อย่าคิดมาก"
ใบชาต้องบอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆ เพราะมันก็จะเป็นเหตุผลหลักที่เธอไม่สามารถทำตัวสบายชิวๆ ได้เหมือนกับเมื่อก่อน และไม่สามารถไปทำรายงานกับกลุ่มเพื่อนในวันหยุดได้อีกด้วย เพราะเธอต้องคอยดูแลพี่ชาย ที่ไม่รู้ว่าจะหายดีเมื่อไหร่
ตกบ่ายวันเดียวกัน
ถึงเวลาที่ใบชาจะต้องไปรับพี่ชายออกจากโรงพยาบาลแล้ว เธอนั่งรถออกไปพร้อมกับเพื่อนสนิทของพี่ชาย นั่นก็คือคลินต์
ตลอดทางทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก บทสนทนาเล็กน้อยระหว่างทางเป็นแค่เรื่องทั่วไป ฟังดูเหมือน 'เพื่อนของพี่ชาย' กับ 'น้องสาวของเพื่อน' ที่พูดคุยกันตามมารยาท
แต่ภายใต้ท่าทีสงบหัวใจของใบชากลับเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่อยู่
เธอแอบเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของคลินต์ขณะที่เขากำลังขับรถ แต่เขากลับนิ่งเหมือนกับว่าเรื่องเมื่อคืนเขาจำอะไรไม่ได้เลย ทำเหมือนกับว่า จูบนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น
หรือเขาแค่เมา แล้วลืมมันไปหมดแล้ว
เธอไม่ได้กล้าถาม และเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดมากๆ
จนถึงโรงพยาบาล ใบชารีบลงจากรถจากนั้นก็ไปทำเรื่องเอกสารเพื่อพาพี่ชายออกจากโรงพยาบาล ต้องรับยาและต้องรับใบนัดอีก ซ้ำยังต้องล้างแผลทุกวันอีกดูแล้วกว่าจะหายดีคงได้วุ่นวายอยู่กับโรงพยาบาลจนเบื่อแน่ๆ
แต่วันนี้พี่ชายของเธอดีกว่าเดิมใบหน้าเริ่มมีสีเลือดฝาดกลับมาแล้วเมื่อเทียบกับเมื่อคืน
"เป็นยังไงบ้างพี่เต้"
"ก็ตึงๆ น่ะ สงสัยแผลถลอกมันตึง"
"หมอว่าไงบ้าง"
"ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องล้างแผลทุกวัน ไม่ให้มันติดเชื้อ กินข้าวกินยา แล้วก็งดออกไปทำงานไปก่อน ยาวเลยแหละ"
"โทรบอกร้านที่มึงทำงานอยู่แล้วหรอ" คลินต์ถามขึ้นมา
"อืม...ดีหน่อยที่เถ้าแก่เขาเข้าใจ ก็เลยให้กูพักงานได้"
"ดีแล้ว จะได้พักผ่อน"
"ไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ อย่าตากลมนานเลย เดี๋ยวเป็นไข้"
"ครับผม"
เตชินทร์ถึงจะไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ด้วยบาดแผลถลอกบนร่างกายที่มันมีอยู่หลายจุด ก็เลยต้องนั่งรถเข็น เวลาเดินก็ต้องมีคนคอยประคอง
"ขอบใจมึงมากนะไอ้คลินต์ ถ้าไม่ได้มึง กูคงแย่"
"เออ ไม่เป็นไร มึงก็เพื่อนกู"
"แล้วเราล่ะ"
"ชาทำไมคะ?"
"เห็นไอ้คลินต์มันบอกว่า เรากลัวพี่เป็นอะไรจนนอนไม่หลับ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็นอนหลับอยู่ แค่หลับดึกเท่านั้นเอง" ประโยคท้ายเธอพูดออกมาเบาๆ เพราะมันอาจจะทำให้เธอถูกดุได้ พี่ชายของเธอไม่ค่อยชอบให้เธอนอนดึก
"พี่ไม่เป็นอะไรหรอก พี่น่ะมันแมวเก้าชีวิต"
"แล้วพี่ไม่ไปทำงานแบบนี้ มันจะไม่กระทบกับ..."
"ไม่หรอก เราน่ะเรียนไปเถอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินหรอก พี่มีให้เราเรียนอยู่แล้ว"
"ถ้าอย่างนั้น พี่ต้องรอให้ตัวเองหายดีเลยนะ ค่อยกลับไปทำงาน สักสามเดือนไปเลย"
"โห...ขนาดนั้น เถ้าแก่ไม่ไล่พี่ออกเลยหรอ" เตชินทร์พูดแบบขำขัน แต่ความจริงแผลแบบนี้ใช้เวลาสักเดือนกว่าๆ ก็คงจะหายดีแล้วล่ะ
"ก็ชาอยากให้พี่หายดีก่อนนี่" พูดพร้อมกับทำหน้าบูด
"พี่รู้ครับพี่รู้ พี่ตกลงครับ พี่จะรักษาตัวจนหายดี หายสนิทเลย แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ โอเค๊"
"อื้อ..."
เตชินทร์รู้ดีว่าถ้าเขาไม่ทำข้อตกลงกับน้องสาวเธอจะไม่สบายใจอย่างแน่นอน ใบชาเป็นคนที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยกับทุกเรื่อง และเป็นคนที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียดคนรอบข้าง ยิ่งเป็นคนที่สำคัญเธอยิ่งใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไรมาหรือแค่เจ็บป่วยเล็กน้อยเธอก็ห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
นิสัยของเธออ่อนโยน และมักจะเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าห่วงตัวเองเสมอ จนบางครั้ง...เธอก็ชอบถูกมองว่า คนโง่
#ตกกลางคืนในวันเดียวกัน พวกรุ่นพี่เริ่มดื่มกันตั้งแต่หัวค่ำ ใบชาเองก็ได้นั่งร่วมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่เธอไม่ได้ดื่มกับใครเขาเลย ส่วนหนึ่งก็ไม่ชอบ แต่ถึงจะชอบหรือดื่มได้พี่ชายของเธอก็คงห้ามเวลาผ่านไปเริ่มดึกมากขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศก็เริ่มเย็น กลุ่มรุ่นพี่บางคนก็เริ่มเคาะขวดแก้ว ดีดกีต้าร์ เอากระติกมาทำเป็นกลอง ร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน จนพาลทำให้ใบชาคิดไปเหมือนกันว่า ถ้าตอนเธอจบมหาลัยก็คงจะนัดเพื่อนๆ มาดื่มส่งท้ายกันแบบนี้เหมือนกัน"หนาวแล้วหรือเปล่า อยากกลับเข้าห้องไหม" เตชินทร์เอ่ยถามน้องสาวที่นั่งแอบอิงอยู่ข้างๆ"พี่จะดื่มกันดึกไหม""ก็คงดึกนะ ถ้าเราง่วงก็ไปนอนก่อนเลย""โอเค..."ใบชาตอบรับพี่ชายก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ที่ซึ่งนอนอยู่กับพี่ชายเหมือนกันแต่อยู่คนละฝั่งกัน ถึงในวงเหล้ามันจะมีความสนุกสนาน แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ร่วมวงอย่างเธอมันกลับมีความน่าเบื่อร่วมด้วยดีหน่อยที่กลับเข้าห้องแล้วเสียงเพลงมันผ่อนเบาลง เธอนั่งทำงานอยู่ได้สักพักก็รีบเข้านอนเพราะง่วง ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน และนอนไปนานเท่าไร เพราะเธอตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าเสียงในวงเหล้านั้นเงียบไปแล้ว ส่วนพี่ชายของเธอน
#เวลาต่อมา ณ คอนโดมิเนียมหรู "ชาต้องไปด้วยจริงๆ เหรอ?" ใบชากำลังงอแงกับพี่ชาย หลังจากที่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปด้วยพี่ชายของเธอเรียนจบแล้วก็เลยนัดกับกลุ่มเพื่อนกินเลี้ยงกันก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรด้วยหรอก แต่เพราะพี่ชายไม่อยากให้อยู่คนเดียวในช่วงวันหยุด ก็เลยจะลากเธอไปด้วย"อยู่คนเดียวมันอันตรายนะ" เตชินทร์บอกกับน้องสาว"ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ""เป็นสิ" คลินต์พูดเสริมด้วยอีกคน"พวกพี่เป็นอะไรกัน ชาโตแล้วนะคะ อยู่คนเดียวได้อยู่หรอก""ไปเถอะ อย่างน้อยก็ได้เปิดหูเปิดตา บ้านพักริมทะเลเชียวนะ" คลินต์บอก เพราะในใจก็อยากให้เธอไปด้วยจริงๆ"นั่นสิ ถือว่าได้ไปเปิดหูเปิดตาไง" เตชินทร์พูด"เฮ้อ...ไปก็ไปค่ะ" ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจแต่เธอก็ต้องตอบรับ เพราะไม่อย่างนั้นทั้งสองคนคงตื๊อเธอไม่หยุดแน่ถึงเธอจะเป็นเด็กวัยรุ่นแต่เธอก็ไม่ได้สันทัดเรื่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ถ้าเลือกได้เธอก็อยากจะอยู่ที่ห้องเงียบๆ มากกว่า อย่างน้อยก็ได้มีสมาธินั่งทำงานของตัวเอง"เดี๋ยวเราไปเก็บเสื้อผ้าเลยนะ แล้วก็ขนออกมา เดี๋ยวพี่ช่วยยกลงไป" เตชินทร์บอก"ถ้ามีงานก็เอาไปทำได้นะ มีมุมทำงานอ
คอนโดมิเนียมหรู "พี่เต้ ทำไมแต่งตัวแล้วล่ะ ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ" ใบชาเอ่ยทักพี่ชาย ที่แต่งตัวเตรียมตัวเหมือนกำลังจะออกไปทำงานแล้ว"เถ้าแก่บอกว่าให้ไปเร็วกว่าปกติหน่อยน่ะ เห็นว่ามีประชุมลูกน้อง พี่ก็เลยต้องรีบไป""แต่ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ""ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปหากินข้างหน้าเอา เรากินไปเถอะไม่ต้องห่วงพี่""......" ใบชายังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ พี่ชายของเธอก็เดินออกไปก่อนแล้ว เขาดูเร่งรีบมากกว่าทุกวัน"อ้าว..ไอ้เต้มันออกไปแล้วหรอ" คลินต์เดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง แต่กลับไม่เจอเพื่อนสนิทแล้ว"ค่ะ ออกไปแล้ว ดูรีบมากเลย เห็นว่าเถ้าแก่ให้รีบไปค่ะ" ใบชาตอบ"อ๋อ...""เดี๋ยวชาไปตากผ้าก่อนนะคะ ถ้าพี่หิวก็กินก่อนได้เลยไม่ต้องรอค่ะ""ไม่เป็นไร พี่จะรอกินพร้อมเรา""......" ใบชานิ่ง ไม่ได้ตอบกลับอะไร เธอหลบสายตาของเขาแบบเขินๆ ก่อนจะปลีกตัวเดินไปทางเครื่องซักผ้า แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรฟึ่บ ~ร่างบางถูกทับซ้อนจากทางด้านหลังเธอสะดุ้งด้วยความตกใจ พยายามจะดิ้นเพื่อให้ตนเองนั้นหลุดออกมาจากอ้อมกอดแกร่ง แต่ยิ่งดิ้นแรงกอดมันยิ่งแน่นมากขึ้น"จะดิ้นทำไม หืม" เสียงทุ้มนุ่มกระซิบพูดข้างหู"พี่คลินต์อย
เช้าของวันถัดมา ทั้งสามตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองตามปกติ จากนั้นก็เตรียมตัวไปเรียนพร้อมกันเรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่ความฝัน เพราะเขายังคงทิ้งร่องรอยความเจ็บแสบเอาไว้อยู่ และทั้งสองก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงพูดคุยกันตามปกติ ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง"ไอ้คลินต์คอมึง เป็นอะไรวะ ทำไมเหมือนเป็นรอยโดนข่วน""อ๋อ...มันคัน สงสัยเกาแรงไปหน่อย ก็ว่าอยู่ทำไมแสบๆ" คลินต์ตอบเพื่อนสนิทไป พลางเอามือลูบต้นคอของตนเองไปมา เขาแค่รู้สึกแสบๆ แต่ไม่ทันได้มอง เพิ่งรู้เหมือนกันตอนที่เพื่อนสนิททักเนี่ยแหละ"ไม่ใช่ว่า แอบไปหลีสาวที่ไหนมาหรือไงวะ" เตชินทร์เอ่ยแซวตามประสาเพื่อนสนิท เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าคลินต์เป็นคนยังไง และเด็กในสังกัดก็ใช่ย่อยเลย"เมื่อคืนกูเมา แดกจนยับแล้วก็กลับ ไม่ได้ไปเอาใคร" คลินต์พูดเสียงเรียบนิ่ง เพราะมันก็เรื่องจริงที่เขาไม่ได้ไปมีอะไรกับใคร แต่ไปมีอะไรกับน้องสาวของคนที่กำลังเค้นถามเขาอยู่ตอนนี้"หึหึ เชื่อใจได้หรอวะ"เตชินทร์ยังคงแซวและหัวเราะไม่หยุด แต่คลินต์ก็ยังคงนิ่งไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่ในบทสนทนานั้นกลับทำให้ใครอีกคนกำลังเขินอายมากกว่าใบชา ได้ยิ
สวบ!"อึก พะ พี่...พี่คลินต์" น้ำตาของฉันมันไหลพราก บอกความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกจริงๆ มันเจ็บปวด เหมือนร่างกายถูกฉีกออกจากกันแบบสดๆนี่น่ะเหรอที่เขาเรียกกันว่าเซ็กซ์ แต่ทำไมฉันถึงไม่ได้รู้สึกสนุกเลยล่ะ หรือนี่เป็นเพราะมันเป็นครั้งแรกของฉัน"อ่าส์แน่น...อย่าเกร็งสิ""....." ฉันได้ยินเสียงครางจากพี่คลินต์พร้อมกับประโยคออกคำสั่ง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ทำตามคำพูดของเขาไม่ได้จริงๆเจ็บขนาดนี้ ไม่ให้ฉันเกร็งได้ยังไงกัน"ร้องไห้ทำไม""จะ เจ็บค่ะ" ฉันพูดเสียงสั่นๆ"รู้ใช่ไหม ว่าพี่หยุดไม่ได้แล้ว""รู้ค่ะ แต่ค่อยๆ ทำได้หรือเปล่าคะ"ฉันพูดแบบอ้อนๆ โดยที่ไม่รู้หรอกว่าเขาจะใจอ่อนไหม เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังรุนแรงเลยทีเดียว ดูจากการที่กระแทกเข้ามาแบบไม่ส่งสัญญาณไม่พูดอะไรเลย โคตรจุก โคตรเจ็บ และโคตรแสบ!!"พี่จะพยายาม เท่าที่พี่จะทำได้นะ""......""พี่จะขยับโยกตัวเบาๆ ถ้าเจ็บก็จิกแขนพี่ แต่ห้ามร้องเสียงดังเข้าใจไหม""เข้าใจค่ะ"ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่น ก่อนที่ช่วงล่างนั้นมันจะเริ่มขยับเข้าออกแบบฝืดเคือง จากที่ช้าๆ มันก็เริ่มเร็วขึ้นและแรงขึ้น มาพร้อมกับเสียงครางในลำคอเบาๆ จากพี่คลินต์ บวกกั
คนตัวเล็กถูกช้อนตัวและอุ้มเข้าไปด้านใน ก่อนที่เธอจะถูกวางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน ส่วนเขาก็ยืนมองดูเธอตรงข้างเตียงพร้อมกับปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองตามไปด้วย"รู้ใช่ไหม ว่าเสียงดังไม่ได้" คลินต์พูดเสียงเรียบๆ เหมือนเป็นการออกคำสั่งไปในตัว"ค่ะ""ถอดเสื้อผ้าออกสิ""......" เธอเหมือนจะมีอาการขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็ยอมถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแต่โดยดี"ในกระเป๋า พี่มีถุงยางเหลืออันเดียว ทำได้แค่ครั้งเดียวนะ""อื้อ..ค่ะ"ใบชาพยักหน้ารัวๆ สายตาของเธอนั้นจับจ้องไปยังเบื้องหน้าของตนเอง ที่ตอนนี้คลินต์ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้ว เหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วที่แทบจะปิดม้าศึกตรงนั้นไม่มิดเขาหุ่นดี และผิวขาว หัวนมนี่อมชมพูเลย มีรอยสักอยู่ตรงระหว่างไหล่และอกข้างขวา สำหรับเธอมันไม่ได้ดูสกปรกเลย มันดูดีตอนที่อยู่บนตัวของเขา"จ้องขนาดนี้ คงไม่ต้องทำแล้วมั้ง กินพี่เลยดีกว่า""พะ พูดอะไรคะ กินอะไร" ใบชาพูดเสียงตะกุกตะกัก เธอเริ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เมื่อได้เห็นสีหน้าของเขาที่กำลังจ้องมองเธอ ราวกับเสือกำลังหิวโหย"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่บอกแล้วไงเปลี่ยนใจตอนนี้มันไม่ทันแล้ว""......" ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เ