#เวลาต่อมา
คลินต์ยืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าระเบียง พร้อมกับคิดถึงเรื่องเมื่อวันก่อนไปด้วย เขากับใบชาสถานะมันก็แค่ "เพื่อนสนิทของพี่ชายเธอ" แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเลยเถิดไปถึงจุดนั้น แค่จูบเดียวแต่กลับทำให้โลกของเขาเหมือนจะพังลงต่อหน้าต่อตา
ไม่รู้ว่าคืนนั้นเขานึกยังไงถึงได้กล้าจูบเธอลงไปแบบนั้น ทุกครั้งที่มองหน้าเธอมองเข้าไปในดวงตาของเธอ เขากลับรู้สึกใจสั่นอย่างน่าประหลาด
เหมือนตัวเองจะชอบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นความรู้สึกนั้น เพราะเขายังคงนึกถึงคำขอของเพื่อนสนิทอยู่ตลอดมา และพยายามที่จะห้ามไม่ให้ตัวเองล้ำเส้นลงไป เพราะรู้ดีว่าความเจ้าชู้ของตัวเอง มันไม่สามารถเลิกได้หรอก
"บ้าฉิบ! ฟู่ว~" เขาพึมพำกับตัวเองพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกมาจนรอบกายของเขานั้นเต็มไปด้วยควันสีเทา สองมือนั้นกำแน่นอย่างห้ามความรู้สึกไม่ให้ ตอนที่เห็นใบหน้าของเธอในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตากลมโตที่มองเขาอย่างไม่หลบเลี่ยง ริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เขาได้สัมผัส
เรื่องนั้นมันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
เพราะเธอคือ "น้องสาวของเพื่อน"
และเพื่อนของเขาเตชินทร์ก็เคยพูดชัดเจนแล้วว่า
"กูขอล่ะกูรู้ว่ามึงเจ้าชู้ แต่เว้นน้องสาวกูไว้สักคนนึง"
แต่เมื่อวันก่อนเขากลับทำเรื่องเลวร้ายชนิดที่ว่าเพื่อนอาจจะไม่ให้อภัยเลยก็ได้หากรู้เข้า แถมเลวร้ายกว่านั้นเพราะเขาไม่ได้รู้สึกผิดในตอนนั้นเลย
ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึก ดี ด้วยซ้ำ
หลายวันผ่านไป เรื่องนี้มันไม่หลุดออกไปจากหัวสมองของเขาได้เลย เหมือนกับว่ามันกำลังประท้วง ให้เขาทำอะไรกับเธอบางอย่าง เพื่อให้ความสัมพันธ์นี้มันชัดเจน หรือไม่ก็ควรบอกกับเธอว่าเรื่องคืนนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจ
"พี่มีเรื่องจะคุยด้วย"
"มีอะไรหรือเปล่าคะพี่คลินต์" เธอหันมาเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม
"ออกมาหน่อยสิ"
"อ๋อ แป๊บนึงนะคะ"
ใบชาพยักหน้าตอบรับหงึกๆ ก่อนจะเดินตามคลินต์ออกไปทีหลัง เขาเดินออกไปที่ห้องโถงด้านนอก ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยด้วย ทั้งที่ยืนคุยกันอยู่ตรงนั้นก็ได้
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ไอ้เต้ล่ะ?"
"หลับไปแล้วค่ะ เพิ่งกินยาแล้วก็หลับไป"
"อืม..." คลินต์เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง พร้อมกับพยักหน้าและถอนหายใจแรงท่าทางของเขาดูเข้มขรึมจริงจังมาก ก่อนที่เขาจะมองไปที่ใบหน้าสวยที่กำลังยืนงงอยู่ และเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่ง "เรื่องคืนนั้น"
"???"
"พี่ขอโทษนะ" เขาพูดเสียงหนักแน่น
ใบชานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะกะพริบตาช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
"ทำไมล่ะคะ ขอโทษทำไม ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องผิดเลย อีกอย่างชาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีด้วย"
"ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้น"
"ทำไมจะคิดไม่ได้ล่ะคะ"เสียงเธอสั่นนิดหน่อย แต่สายตากลับมั่นคงจนเขาใจสั่น "ชา...ชาชอบพี่นะคะ การที่พี่ทำแบบนั้นชาเลยไม่ได้คิดว่ามันผิด"
เขากลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคออย่างยากลำบาก คำพูดที่เตรียมมาในหัวพลันหายไปหมด
"....."
"พี่จะบอกว่าชาไม่ควรพูดแบบนี้ใช่มั้ย ถ้าเป็นพี่เต้ ก็คงบอกว่าผู้หญิงไม่ควรพูดแบบนี้กับผู้ชาย พี่เองก็คิดแบบนั้นใช่มั้ย"
เธอหัวเราะเบาๆ ทั้งที่ในดวงตามีแววเจ็บปวด
"ถ้าพี่คิดแบบนั้น แล้วพี่มาจูบชาทำไมตั้งแต่แรกล่ะคะ ทำแบบนั้นทำไม ทำทำไมคะ?"
"....."
คลินต์ยืนนิ่งราวกับหายใจไม่ออก หัวใจเขาเต้นโครมครามเหมือนกำลังต่อสู้กับตัวเอง สองมือนั้นกำแน่นจนรู้สึกถึงปลายเล็บที่จิกลงไปบนฝ่ามือหนา
ความจริงเขาควรพูดให้มันชัดเจนไปตั้งแต่ตรงนี้เลย แต่พอเห็นสีหน้าของเธอ น้ำเสียงสั่นๆ นั้นมันทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไปเลย เธอเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้ และสีหน้าที่ดูผิดหวัง
คลินต์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะสัมผัสอย่างอ่อนโยนตรงแก้มนิ่มของเธอ อยากบอกว่าสิ่งที่เขากลัวมันไม่ใช่แค่เรื่องผิดหรือถูก
แต่มันคือความสัมพันธ์ต้องห้าม ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
เขากลัวใจของตัวเอง กลัวนิสัยของตัวเอง ที่มันจะไปทำร้ายเธอ
"ร้องไห้ทำไม"
"แล้วทำไมพี่ ต้องมาพูดแบบนั้นด้วย"
"ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่ คิดมาหลายคืน พี่ควรมาพูดกับเรา ควรขอโทษที่พี่ล่วงเกิน"
"ไม่เลยค่ะ ชาไม่เคยคิดแบบนั้นเลย"
"ต่อไป อย่าให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีกเลยนะ"
"ทำไมล่ะคะ?"
"......" เขาเงียบ แต่ใบหน้าที่เรียบนิ่งนั้นมันทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา
"ชาทำตัวน่ารังเกียจหรอคะ?"
"เปล่า เปล่าเลย พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น"
"อ่าวแล้ว..."
"ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะให้ทำแบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้องใช่มั้ย"
"อื้อ..." ใบชาพยักหน้า
"ถ้างั้น เราจะไม่พูดถึงเรื่องวันก่อนอีก ตกลงมั้ย แล้วก็อย่าบอกไอ้เต้ด้วย ก็พี่สอนให้เราดื่มเหล้า ไม่อย่างนั้นเราโดนสวดกันยกทีมแน่"
"คิกคิก" ใบชาหัวเราะออกมา จากที่กำลังเศร้าอยู่ก่อนหน้านี้ เธอกลับเปลี่ยนอารมณ์ได้แบบจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
"หัวเราะอะไร"
"ถ้าอย่างนั้น ชาก็ชอบพี่ได้ใช่มั้ยคะ"
"ทำไมถึงอยากชอบพี่ขนาดนั้น"
"เพราะพี่อบอุ่นดีไง ชอบซื้อขนมมาให้ แถมเลี้ยงดูชาเป็นอย่างดี พี่เป็นคนดีนะ"
"นี่ไง.."
คลินต์กำมือแล้วทำเหมือนมะเหงกใส่เธอ แต่ไม่ได้ทำแรงขนาดนั้น
"โอ๊ยอะไรเนี่ย ชาพูดอะไรผิดคะ"
"ใครบอกว่า ดูผู้ชายแค่นี้ แล้วเขาจะเป็นคนดี"
"แสดงว่าพี่ก็ไม่ใช่คนดีสิ?"
"......" ร่างสูงถอนหายใจแรง เขาไม่รู้จะพูดยังไง ไม่รู้จะอธิบายให้เธอฟังยังไงจริงๆ
"ทำไมเรื่องนี้ พี่เต้ถึงรู้ไม่ได้คะ ถ้าเราคบกัน..."
"ไม่! เราจะไม่คบกัน" เสียงนั้นแทรกขึ้นมาอย่างทันท่วงที เล่นเอาเธอถึงกับตกใจจนสะดุ้งโหยง.
"คะ?"
"มันยังไม่ใช่ตอนนี้ใบชา เรื่องวันนั้น...พี่ขอโทษจริงๆ พี่มันไม่ดีเอง"
"......"
"ถ้าตัดใจได้ก็ควรทำนะ พี่รู้ว่าพี่มันแย่ พี่ไม่ดีพอสำหรับเราหรอก"
"แต่ชาไม่ได้ชอบคนที่ต้องดีขนาดนั้น ก็แค่ชอบเพราะความรู้สึกของตัวเองมันบอกให้ชอบ"
"....."
"ชาชอบพี่จริงๆ นะ"
#เช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ตามด้วยเสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดังอ้าวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง ทำให้คลินต์ที่กำลังนอนกอดภรรยาสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไปเปิดประตู "พ่อครับ มะตื่นแล้ว แม่ล่ะครับตื่นหรือยัง?" เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองข้างใน "จุ๊ๆ เมื่อวานแม่เหนื่อยมากเลย ให้แม่นอนพักก่อนนะครับ" คลินต์เอามือจ่อปากตัวเองพร้อมกับบอกให้ลูกชายเงียบเสียงลง "อ้าวเหรอครับ""มะลงไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าก่อนนะครับ""ก็ได้ครับ" "เก่งมากเลยครับลูกพ่อ" หลังจากที่จัดการกับเจ้าลูกชายตัวแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วคลินต์ก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนอนข้างๆ ใบชาตามเดิม แต่เขาไม่ได้นอนหลับ เขานอนมองใบชาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งจะจัดหนักกันกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข นึกว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้ซะแล้วสิ "อือ....พี่คลินต์กี่โมงแล้วคะเนี่ย""ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก เขาอยู่กับปู่กับย่า" "อือ..." ใบชาหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็
และแล้วค่ำคืนที่คลินต์รอคอยก็มาถึง หลังจากที่งานเลี้ยงของงานแต่งเล็กๆ นั้นจบลง แขกในงานก็พากันกลับบ้านพักของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้มีงานที่ต้องทำ ใบชาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างในห้องนอน และด้วยท่าทางของคลินต์มันก็ทำให้เธออดถามไม่ได้จริงๆ "พี่ฉีดน้ำหอมเหรอคะ กลิ่นฉุนเชียว" "เหม็นเหรอ?" คลินต์ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ สีหน้าของเขาดูตกใจมากจริงๆ "เปล่าค่ะ ไม่ได้เหม็น แค่ปกติมันไม่มี..." มันไม่ได้เหม็นฉุนขนาดนั้น และไม่เชิงเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เรามักจะฉีดใส่ตัวเอง แต่มันเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ ที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น "แม่ให้มาน่ะ บอกว่ามันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย" "อ๋อ..." "พี่พร้อมแล้วนะ" "....." ใบชามองเงียบๆ เธอสังเกตเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้วล่ะ ห้องถูกจัดใหม่พร้อมด้วยแสงไฟโทนอุ่น แถมด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวลอยู่อีก "มามะ มาหาพี่ที่เตียงหน่อยครับ ปุปุ ~ " คลินต์เอามือตบที่เตียงนอนเป็นจังหวะ พร้อมกับส่งสายตายั่วยวน แต่แทนที่ใบชาจะเดินไปตามคำขอ เธอกลับยืนยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา "ชา อย่ามาแกล้งพี่นะ ให้พี่รอกลางคืน พี่ก็รอแล้วนี่ไ
และแล้วก็มาถึงวันที่คลินต์และใบชาได้แต่งงานกัน งานถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามความต้องการของใบชา ณ กลางไร่องุ่นถูกจัดแต่งให้เป็นซุ้มเล็กๆ และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีความหมายในงานแต่งพื้นที่รอบๆ ก็มีโต๊ะสำหรับรองรับแขกที่มีไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนงานของที่นี่ ใบชาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่จะต้องมางาน พวกญาติๆ ที่เคยอยู่ด้วยสมัยเด็กๆ เธอไม่อยากไปยุ่งกับใครแล้ว กลัวว่าจะเข้ามาทำให้ครอบครัวที่มีความสุขตอนนี้ของเธอต้องลำบากทางฝั่งของคลินต์ก็มีพ่อแม่ของเขาและคุณอาที่เป็นเจ้าของไร่ตัวจริงที่นี่ ครั้งแรกเลยที่ใบชาได้เห็นหน้าตาของเจ้าของไร่เมื่อถึงเวลาใบชาก็เดินมาพร้อมกับพี่ชาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเธอ ด้วยชุดเดรสสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วแต่ไม่รุ่มร่าม สวยเข้ากับรูปร่างของเธอพอดี ทรงผมถูกม้วนเก็บครึ่งศีรษะแบบเรียบร้อย และประดับด้วยดอกไม้สวยๆ ดูเข้ากับใบหน้าแสนหวานของเธอด้านหน้าคือเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสูทหล่อเหลากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน คลินต์กำลังยิ้มให้กับเจ้าสาวแสนสวยของเขา จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาถึง"แม่สวยมากเลยครับ""ขอบคุณครับ เราก็หล่อมากเลยนะ สูทตัวนี้หล่อมาก""ขอบคุณครับ"ค
#เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นฉันย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่คลินต์ และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไป อยู่ในครอบครัวที่เล็กๆ แต่มีความสุขและอบอุ่นมาก ส่วนบ้านหลังนั้นพี่เต้ก็อยู่คนเดียวโดยปริยาย แต่ฉันก็แอบคิดนะว่ารายนั้นก็น่าจะหาแฟนสักคนจะได้มาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังครองโสดอยู่จนปัจจุบันนี้ฉันเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับคำว่าครอบครัว แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทนึง มะโซวก็เข้าโรงเรียนอนุบาล พี่คลินต์ก็ทำงานเป็นผู้ดูแลไร่นี้ และก็ทำงานที่บริษัทของตัวเองบ้าง เราต่างก็มีหน้าที่ของกันและกันพี่คลินต์อยากให้ฉันลาออกจากงานแล้วคอยดูแลบ้าน แต่ที่นี่ก็มีแม่บ้านคอยทำอะไรหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ฉันอยากทำงานอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองโดยที่เงินนั้นไม่ได้มาจากการที่พี่คลินต์เป็นคนให้ อยากทำงานเก็บเงินเอาไว้ในส่วนของตัวเองครึ่งนึง อีกครึ่งหนึ่งก็เก็บเอาไว้ให้มะโซวเป็นค่าเล่าเรียนของเขา ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ต้องลำบากแล้วก็เถอะ เพราะมีพี่คลินต์จัดการทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังอยากทำสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นเอาไว้ให้มันสำเร็จตอนนี้เรามีลูกและมะโซวก็เหมือนเชือกสานร
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจอดรถรอใบชาเลิกงานอยู่ที่หน้าบริษัทพนักงานคนอื่นๆ ก็เริ่มพากันทยอยออกมาเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ไม่นานนักใบชาเดินออกมา"พ่อครับ แม่มาแล้วอยู่นั่น" มะโซวลูกชายตัวน้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ออกไปยังเบื้องหน้า ตรงกลุ่มพนักงานที่กำลังพากันเดินออกมามีผู้เป็นแม่ของตัวเองกำลังเดินออกมาอยู่ด้วย"ไปรับแม่กันป่ะ""ครับ"คลินต์กับลูกชายพากันจูงมือเดินตรงไปหาใบชาที่กำลังเดินออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปถึงตัวของใบชา ก็มีพนักงานผู้ชายคนนึงเข้ามาสะกิดเธอจากด้านหลังและคุยด้วยต่อหน้าต่อตาเลยนะนั่น!ไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกันแต่เห็นแค่นี้ก็หงุดหงิดจนลมออกหูแล้ว"ใบชาครับ""???""ถ้าผมจะขอไลน์ จะว่าอะไรไหมครับ เผื่อเอาไว้คุยกัน""ว่าครับ ขอไม่ได้" คลินต์พูดแทรกเข้าไป เพราะรีบเดินเข้าไปจนได้ยินการสนทนาพอดี"แล้วคุณเป็นใครครับ มาเกี่ยวอะไรด้วย""เกี่ยวสิครับ เพราะผมเป็นสามี""ส่วนมะก็เป็นลูกครับ คนนี้แม่ของมะเอง คุณลุงห้ามยุ่งนะครับ" มะโซวพูดขึ้นอย่างเด็กรู้ทัน ก่อนจะยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าที่เข้ามาขายขนมจีบแม่ของตนเอง"เอ่อ จริงเหรอครับใบชา?""ค่ะ นี่ลูกฉันเอง"เธอยอมร
ณ บ้านไร่องุ่น หลังจากกลับมาที่บ้านไร่ใบชาก็ได้ใบตอบรับจากบริษัทที่ไปสมัครงานทิ้งไว้ให้เข้าทำงานพอดี ส่วนเจ้าลูกชายก็เข้าเรียนตามปกติเหมือนเดิม โดยที่มีคลินต์คอยไปส่งเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเตชินทร์ที่เคยรับหน้าที่ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยคลินต์ทำหน้าที่แทนหมดแล้วไม่สิ ไม่ใช่การทำแทน แต่มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำอยู่แล้ว หน้าที่สามีและหน้าที่พ่อ"แต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอ?" คลินต์เอ่ยถามใบชา พร้อมกับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดที่เธอใส่แม้มันจะไม่โป๊ แต่ในสายตาของเขามันก็ดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิเสื้อเชิ้ตกระโปรงทรงเอรัดรูป ก็ปกติของพนักงานออฟฟิศนั่นแหละ แต่ดูมันรัดรูปมากไปหน่อย"อื้อ ทำไมอ่ะ?" ใบชาถามกลับพร้อมกับมองตามที่คลินต์มองเธอ มันแปลกยังไง หรือมันไม่ดียังไงล่ะ"พี่ว่ามันรัดไป""ยังไง บ้าเหรอ กระโปรงทรงเอนะพี่คลินต์ เอาจริงดิ?""ใช่ เอาจริง เปลี่ยนเถอะ"ใบชามองหน้าคลินต์แบบเหนื่อยหน่าย นี่วันแรกของการไปทำงานของเธอนะ จะเจออุปสรรคตั้งแต่ก้าวออกบ้านเลยเหรอแขนเรียวยกขึ้นเพื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนที่คิ้วจะขมวดย่นเข้าหากันเหมือนกำลังคิดหนัก"สายแล้ว เปลี่ยนตอนนี้ไม่ทันหรอก ฉันต้องไปรายงานต