Prime casino
พิมดาวนั่งถอนหายใจรอบที่ร้อยในห้องทำงานของสามี นี่เป็นวันแรกที่เธอได้ตามเขามาทำงานที่กาสิโนด้วย ถึงมันจะไม่ใช่สถานที่ที่น่าพิศมัยสำหรับเธอสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอตลอดไปเมื่อได้เข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลจาง
"เบื่อหรือไง" อินหลงเงยหน้าจากกองเอกสารมาเอ่ยถามภรรยาที่นั่งหน้างออยู่ที่โซฟา
"เปล่าค่ะ" จริง ๆ ก็เบื่อนิดนึงแหละ เธอนั่งเฉย ๆ อยู่ในห้องทำงานมาสองชั่วโมงแล้ว ถ้าอยู่คฤหาสน์ก็ยังพอได้นอนอ่านหนังสือหรือพูดคุยกับเหล่าแม่บ้านคลายเหงา
"อยากลงไปเล่นอะไรข้างล่างไหม" ร่างสูงกล่าวถึงเครื่องเล่นมอมเมามากมายที่กาสิโน แต่หญิงสาวไม่เอาด้วย ถึงจะเป็นธุรกิจของครอบครัว เล่นไปยังไงก็ไม่มีเสีย แต่ไม่ติดการพนันนั้นย่อมดีกว่า
"ไม่เป็นไรค่ะ"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ระหว่างที่พิมดาวกำลังจะไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับอินหลงนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา
"เข้ามา!"
ปัง!
"คุกเข่าต่อหน้านายน้อยซะ!" การ์ดใช้เท้ากระทุ้งไปที่หลังเข่าของชายหนุ่มผู้มีสภาพสะบักสะบอมให้คุกเข่านั่งลงข้างหน้า เมื่อพิมดาวเห็นสถานการณ์เธอจึงรีบถอยไปยืนหลบอยู่หลังอินหลงทันที
"มันไปทำอะไรมา"
"มันพยายามจะขโมยเหรียญของแขกคนอื่นครับ แถมมันยังติดหนี้พนันอีกหลายแสนดอลลาห์"
"ติดหนี้แล้วยังเสือกจะสร้างความวุ่นวายให้แขกกูอีกเหรอ...กูจะทำยังไงกับหัวขโมยอย่างมึงดี" อินหลงเอ่ยอย่างเยือกเย็น เขาไม่ชอบพวกที่ชอบสร้างปัญหาเลยจริง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในธุรกิจกาสิโนนั้นเจอคนแบบนี้บ่อยมาก
ร้อยพ่อพันแม่...ผีพนันเข้าสิงทั้งนั้น
"ผมไม่ได้ขโมยเหรียญของใครนะ พวกนี้มันใส่ร้าย!" ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มคนนี้จะเอื้อนเอ่ยต่อ นายน้อยแห่ง Prime casino ก็กระทืบลงไปที่มือของมันเต็มแรงจนได้ยินเสียงกระดูกหัก
"อ๊ากกกกก! ไอ้อินหลง" นักพนันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางตะโกนด่าจาง อินหลง ด้วยคำพูดหยาบคาย
"อย่าสะเออะมาเรียกกูด้วยชื่อ มีแต่ครอบครัวและเมียกูเท่านั้นที่เรียกกูแบบนี้ได้..." พิมดาวที่ยืนฟังเหตุการณ์หัวใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เพราะ 'เมีย' ที่เขาหมายถึงมันคือเธอหรือเปล่านะ...เพราะเธอเองก็เรียกเขาด้วยชื่อ แถมเป็นชื่อเล่นอย่าง 'อิน' เฉย ๆ ด้วย และเขาก็ไม่เคยดุด่าที่เธอเรียกเขาแบบนี้
"มึงระวังตัวไว้เถอะไอ้อินหลง...ระวังเมียมึงด้วย สวยดีนี่หว่า" ร่างกายสะบักสะบอมมองมาที่เธออย่างโจ่งแจ้ง คงเพราะความแค้นและฤทธิ์ของน้ำเมาที่ทำให้เขากล้ากระตุกหนวดเสือนายน้อยจางแบบนี้
"อย่ามาแตะต้องเมียกู! คนปากดีแบบมึงนี่กูชอบจริง ๆ แต่เดี๋ยวกูจะทำให้มึงรู้ว่าการพูดไม่ได้มันเป็นยังไง พวกมึง...เอามันลงไปให้พ้นหน้ากู!" ไม่เพียงแต่เอ่ยไล่เฉย ๆ แต่อินหลงยังเพิ่มความอำมหิตด้วยการเตะไปที่ปากหมา ๆ อย่างแรงหลายทีจนฟันแทบร่วงพร้อมถ่มน้ำลายใส่หน้าไอ้คนที่กล้ามาเอ่ยถึงภรรยาเขาด้วย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอ แต่เขาก็จะไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติสะใภ้ตระกูลจางแน่นอน
ปัง!
หลังจากที่ทุกคนออกมาไปแล้ว เหตุการณ์ก็ดูจะสงบขึ้น แต่พิมดาวยังยืนตัวสั่นอยู่เพราะการได้รับสายตาน่ารังเกียจจากผีพนันมันทำให้เธอกลัว
"ขึ้นมานั่งบนนี้สิ" อินหลงที่นั่งอยู่บนโซฟากล่าวกับภรรยา
"คะ...?"
"หมายถึง...บนนี้น่ะ" เขาตบมือลงบนตักราวกับเชื้อเชิญให้เธอขึ้นไปนั่ง
"..." พิมดาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างแกร่งที่พิงโซฟาอย่างใจไม่กล้า จะให้เธอขึ้นไปนั่งบนตักเขาเนี่ยนะ...มันออกจะวาบหวิวไปสักหน่อยนะ ถึงเมื่อคืนเธอกับเขาจะเพิ่งผ่านความเร่าร้อนมาด้วยกันก็เถอะ
"เร็วสิ! จะขัดคำสั่งฉันหรือไง" ร่างสูงดุเสียงเข้ม ทำให้คนตัวเล็กต้องรีบขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักเขาด้วยความรวดเร็ว
"มองหน้าฉันสิ หลบตาทำไม" นิ้วเรียวยาวของเขาเลื่อนมาประคองปลายคางมนให้หันมาสบตา แต่จะไม่ให้เธอหลบตายังไงไหว เมื่อคืนเขาเองที่เป็นคนไม่ชายมองแม้แต่หางตาหลังจากนอนด้วยกันไม่ใช่หรือไง...
"เมื่อกี้เธอกลัวหรือเปล่า..." เขาถามเสียงนุ่มขณะที่พิมดาวนั่งอยู่บนตักสบตากันในระยะใกล้ชิด เธอสัมผัสได้ถึงความอาทรจากนัยน์ตาคมเข้ม
"นิดหน่อยค่ะ..." คนตัวเล็กตอบเบา ๆ ความจริงคือไม่ได้กลัวนิดหน่อย แต่กลัวมากเลยต่างหาก เพราะใจเธอยังสั่นอยู่เลย แต่ตอนนี้สั่นแรงกว่าเมื่อกี้จนเก็บอาการแทบไม่อยู่ เมื่อได้ใกล้ชิดกับเขา
"ไม่ต้องกังวลนะ ถึงฉันจะไม่ชอบขี้หน้าเธอขนาดไหน แต่ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอแน่นอน" อินหลงตอกย้ำความรู้สึกที่มีให้เธอ
รู้แล้วว่าไม่รัก...จะเน้นย้ำทำไมให้ใจเจ็บนักหนา แต่ก็ขอบพระคุณจากใจที่ไม่ทำร้ายกัน
"ขอบคุณค่ะ" พิมดาวเอ่ยขอบคุณพลางทำท่าจะลุกออกไปจากตักแกร่ง แต่ก็ถูกคนมือไวคว้าตัวไว้ก่อน
"เฮีย...อื้อ" เธอกำลังจะอ้าปากถามว่าทำไมเขาไม่ให้เธอลุก แต่ริมฝีปากได้รูปก็ฉกฉวยจังหวะเข้าครอบครองความอวบอิ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว พลางใช้ฝ่ามือสอดประคองเข้าไปที่ท้ายทอยน้อยเพื่อเงยดวงหน้าสวยหวานให้รับสัมผัสที่เขามอบให้
ในตอนแรกหญิงสาวก็ยังรู้สึกงง ๆ กับการกระทำของเขา เดี๋ยวเย็นชา เดี๋ยวดูเป็นห่วง เดี๋ยวถอยห่าง เดี๋ยวมอบจูบ ตามอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ค่อยจะทัน แต่เมื่อเขาสัมผัสมาทีไรก็พร้อมจะเอนอ่อนไปตามอารมณ์ทุกครั้ง...
"อือ..." กลีบปากอุ่นของทั้งสองบดคลึงกันและกันอย่างมีจังหวะ ปลายลิ้นร้อนสอดประสานเกี่ยวกระหวัดแลกเปลี่ยนความหวานตามธรรมชาติ
แม้ว่าเขาจะเคยคิดว่าเธอจูบได้ห่วยแตกที่สุดที่เคยเจอมา...แต่พอได้จูบเป็นครั้งที่สามก็กลับรู้สึกว่าเธอมีความกล้าขึ้นเยอะ
เขาก็ไม่รู้ทำไมว่าอยากใกล้ชิดกับเธออีกหลังจากผ่านความเร่าร้อนกันมาเมื่อคืน...เห็นปากแดง ๆ นั้นแล้วอยากจูบจนอดใจไม่อยู่ เนื้อตัวนุ่มนิ่มนี่ก็น่ากอดน่าซุกไซ้ไปหมด ทำอย่างไรเขาถึงจะควบคุมตัวเองไหว?
"อ่า..." หลังจากแลกจูบกันอยู่นานหลายนาที คนตัวสูงก็ประคองร่างยัยตัวเล็กให้ลงมานอนราบบนโซฟาขนาดใหญ่ เขาก้มลงไปไซ้ที่ซอกคอขาวหอมกรุ่น และออกแรงดูดดึงเบา ๆ ก่อนจะลากริมฝีปากพรมจูบมาตามแนวไหปลาร้าโค้งงามลงมาถึงส่วนทรวงอกนุ่มเด้งที่มีชุดเดรสบดบังอยู่
เขาไม่รอช้ารีบจัดการปลดเปลื้องเดรสสีฟ้าอ่อนและชั้นในตัวนิ่มลงมากองไว้ตรงบั้นเอว เผยให้เห็นเต้าตูมทรงสวยที่ยังคงมีรอยแดงอ่อน ๆ จากการดูดเม้มเมื่อคืน
"อ๊ะ...เฮียคะ อย่าค่ะ" หญิงสาวรู้สึกได้สติจึงพยายามร้องห้ามสามี ให้ตายสิ นี่เธออยู่ในห้องทำงานที่หน้าห้องเต็มไปด้วยบอดีการ์ดตั้งหลายคน จะให้มาทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน!
"ทำไม"
"นะ-นี่มันในห้องทำงานนะคะ..." เธอกล่าวด้วยความเขินอายขั้นสุด
"แล้วยังไง ฉันจะเอาเมียที่นี่แล้วใครจะทำไม"
"คุณพ่อลองอุ้มเลยค่ะ" เมื่อผ่านขั้นตอนการคลอดลูกจนมาพักอยู่ในห้อง VVIP แล้ว พยาบาลก็นำลูกน้อยของเขาและเธอมาให้คุณพ่อมาเฟียลองอุ้มแม้จะมือสั่นน้ำตาซึมไปบ้าง แต่ท่าทางของเขานั้นแสนจะแข็งแรงและดูมืออาชีพสมกับไปเข้าคอร์สติวการเลี้ยงลูกมาอย่างเข้มข้นตลอดหลายเดือนจริง ๆ ตอนนี้ทุกคนต่างอมยิ้มให้กับภาพที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น...บุคคลที่เคยเอาแต่ใจและฝีปากเจ็บ ๆ จนทุกคนร้องไห้เพราะเขามามากกำลังอยู่ในโหมดคุณพ่อที่เห่อลูกเห่อเมียที่หนึ่งเขาอุ้มลูกน้อยอ้วนกลมโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดู และจึงวางเหมยอิงไว้ที่เตียงเด็กแรกเกิดข้าง ๆ ภรรยา"น่ารักจังเลยหลานอาม่า โตมาสวยเหมือนหม่าม้าหนูแน่ ๆ " เกศมณีเดินเข้าไปมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของหลานสาวด้วยความรักตอนนี้ครอบครัวจางอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อตอนรับหลานสาวคนแรกของตระกูล...พวกเขาทั้งเอ็นดูและหมั่นแวะเวียนมาพูดคุยกับเจ้าตัวน้อยที่นอนหลับพริ้มอย่างรักใคร่ นั่นทำให้พิมดาวตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่ทุกคนรักและเอ็นดูลูกสาวของเธอแม้เธอจะเติบโตมาด้วยการเป็นลูกสาวที่พ่อไม่ค่อยจะรักสักเท่าไหร่ แต่เธอก็มั่นใจได้ว่าเหมยอิงจะไม่ได้รับประสบการณ์แบบเธอแน่นอน เพราะดวงใจ
"เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน!""..." หญิงสาวหยิบที่ตรวจครรภ์มาจากสามี ขีดทั้งสองนั้นชัดเจนจนมือไม้ของเธอสั่น แม้ว่าใจลึก ๆ จะพอรู้ว่าตัวเองน่าจะท้อง แต่เมื่อผลตรวจออกมาตอกย้ำความเป็นจริงแบบนี้ก็ทำให้พิมดาวดีใจจนน้ำตารื้นได้ ถึงจะดีใจแค่ไหนแต่หญิงสาวก็รู้สึกกลัวและไม่มั่นใจ"พิมไม่ดีใจเหรอ" อินหลงรีบเดินมาโอบภรรยาด้วยความเป็นห่วง"ดีใจค่ะ แต่ก็กลัว...""กลัวอะไรครับ""พิมไม่มั่นใจ พิมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีไหม" หญิงสาวพูดตรง ๆ ถึงความกังวลในอนาคต"โถที่รัก พิมต้องเป็นหม่าม้าที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว น่ารัก ใจดี ทำกับข้าวก็เก่ง มีอะไรที่ต้องกังวลครับ" ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูภรรยาตัวน้อย เขาเข้าใจที่เธออาจมีความกลัวและกังวล เพราะว่ากันตามตรงเธอก็อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ เอง แถมยังผ่านเรื่องราวมามากมาย และสามีก็ยังใจร้ายกับเธอมาตั้งนาน"ฮือ...พิมดีใจ" คนตัวเล็กโผเข้ากอดสามีที่เพิ่งจะดีกันได้ไม่กี่ชั่วโมงด้วยความรักใคร่ ไม่อาจปฏิเสธเลยว่าทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา เธอมักจะรู้สึกปลอดภัยราวกับถูกโอบกอดด้วยภูเขาแสนอบอุ่นอยู่เสมอ"ฮ่า ๆ โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะครับ" อินหลงหัวเราะกับท่าทีเหมือนเด็กน้อยข
แสงพระจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องเข้ามาในห้องนอนที่เพิ่งเป็นสถานที่เปิดศึกรักไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา ภาพแรกที่เธอมองเห็นคือใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นสลักที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากจบบทรักแสนเร่าร้อนบนเตียง เขาก็อุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำและสูบพลังเธอไปอีกหลายครั้งจนหญิงสาวต้องบอกให้เขาพอก่อน เพราะเธอเขาสั่นจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว แม้คนตัวสูงจะแอบบ่นอุบอิบเพราะยังกินไม่หนำใจ แต่ก็ยอมใส่อาบน้ำใส่ชุดและมานอนให้เรียบร้อยตามคำสั่งภรรยาหญิงสาวกวาดสายตาไปมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เวลาที่เธอสะดุ้งตื่นมานั้นประมาณตีสองเอง อีกนานกว่าจะเช้า หญิงสาวเลยพยายามหลับตาเพื่อจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของสามีต่อแต่อาการปั่นป่วนก็เข้าเล่นงานเธอเวียนหัวมาก รู้สึกคลื่นไส้หนักจนต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและนั่นทำให้สามีของเธอตื่นขึ้นมาทันที"พิม เป็นอะไรครับ!""อ้วก..." พิมดาวอาเจียนออกมาเต็มอ่างล้างหน้าโดยมีอินหลงเดินเข้ามาลูบหลังภรรยาที่กำลังอาเจียนอย่างหนัก น้ำตาใส ๆ เอ่อคลอเพราะความทรมานในการออกแรงอาเจียนใช้เวลาอยู่พักหนึ่งเธอก็ปลดปล่อยของเสียออกมาจนหมด พิมดาวรีบล้างปากและกำลังจะทำความสะอาดซากอ้วกของต
"อ่า...เสียว" อินหลงสูดปากร้องครางเมื่อถูกการสุขสมของภรรยาบีบรัดตัวตนของเขาจนแทบจะเสียการควบคุม ชายหนุ่มดันเรียวขาขาวให้ขึ้นไปชิดกับทรวงอกนุ่ม จนตอนนี้สะโพกของเธอลอยเด่นขึ้นเหนือเตียงนอน พาให้ร่างกายนุ่มนิ่มรองรับการตะบี้ตะบันกระแทกของเขาอย่างลึกขึ้นไปอีกมือหนากดขาภรรยาจนแนบแน่นติดไปกับเต้าตูมและตะบี้ตะบันตอกกระแทกท่อนเอ็นใส่โพรงเนื้ออุ่นอย่างหนักหน่วงเสียงเนื้อกระทบเนื้อผสานกับเสียงครางของเขาและเธอดังก้องไปทั่วทั้งห้อง เขาไม่แคร์ว่าใครจะได้ยิน เพราะการได้เอากับเมียแบบดุเดือดแบบนี้แหละที่เขาโหยหามานานแสนนาน และเขาไม่จำเป็นต้องปกปิดความเสน่หาที่มีต่อร่างกายเธออีกต่อไปแล้วต่อจากนี้และตลอดไป เขาจะแสดงออกในทุก ๆ วันว่ารักและหลงใหลในตัวเธอมากแค่ไหน อินหลงอยากให้ภรรยาภูมิใจว่ามีสามีที่รักและเทิดทูนอย่างสุดหัวใจ"อ่า...เมียจ๋า รักนะครับ""รัก รักที่สุด" ระหว่างที่กำลังโจนจ้วงเข้าใส่ร่างบางอยู่นั้น เขาก็บอกความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมากับภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะตอนนี้เขารักเธอจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว..."อ๊า...พิมก็รักเฮียค่ะ" แม้จะถูกสามีบดเบียดมาไม่ได้พัก แต่คำว่ารักของเขานั้นชัดเจนในหัวใจ เ
"บ้า! ไปปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" พิมดาวฟาดไปที่ไหล่แกร่งแรง ๆ อย่างเขินอาย จะให้แม่บ้านมาได้ยินตอนเธอกำลังทำอะไรต่อมิอะไรกับสามีได้ยังไง เธอก็เขินเป็นนะ"ก็ได้ครับ" เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ยังคงไม่ยอมปล่อยเรือนร่างพิมดาวให้เท้าติดพื้น เขายังคงอุ้มเธอเกี่ยวเอวไว้อย่างนั้น และเวลาที่ก้าวเดินส่วนตรงนั้นก็จะเสียดสีกันอย่างน่าหวาดเสียวฟุ่บ...เมื่อปิดประตูเสร็จเรียบร้อย คนตัวสูงก็พาร่างเล็กลงมานอนบนเตียงและรีบทาบทับกายแกร่งลงมาคร่อมตัวเธอไว้ เขาประกบริมฝีปากลงมาและเริ่มจุมพิตอันดุดันอีกครั้งริมฝีปากของทั้งคู่ต่างบดขยี้กันและกัน ลิ้นร้อนแลกเปลี่ยนเป็นพัวพันเกี่ยวกระหวัดจนเสียงดังชัดเจน...เขาจูบเธอหนักแน่นราวกับต้องการกลืนกินลมหายใจที่โหยหามานานแสนนาน"อื้อ..." พิมดาวร้องครางอู้อี้ในลำคอเมื่อฝ่ามือร้อนของสามีปัดป่ายไปตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มและจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอให้หมดไป อินหลงผละริมฝีปากออกและหันไปจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนตอนนี้ทั้งสองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงประจักษ์แก่สายตาของกันและกันริมฝีปากร้อนของเขาไล่จูบที่แก้มใสทั้งสองข้างและเลื่อนไล้ลงมาซุกไซ้กับซอกคอขาวเนียนที่มีกลิ่น
"เฮีย...อย่าร้องไห้ค่ะ" พิมดาวทั้งตกใจและสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่จริงใจของเขาจนน้ำตาไหลตามกัน ยิ่งเขาสะอื้นดังขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของพิมดาวก็เหมือนจะขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ "เฮียรักพิม..." คำบอกรักเจือเสียงหอบหายใจทำเอาหยาดธาราไหลรินออกมาเป็นสาย"เฮียจะไม่ยอมหย่ากับพิมเด็ดขาด ไม่…เฮียทำไม่ได้จริง ๆ เฮียขอร้องนะ ขอโอกาสให้ผู้ชายแย่ ๆ ที่รู้ตัวช้าได้ไหมครับ""เฮียรักพิม…เฮียขาดพิมไม่ได้ ฮึก" เขายังคงสะอื้นไห้อย่างต่อเนื่อง หยดน้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาจนเปรอเปื้อนบริเวณเอวเธอไปหมดเขากำลังเสียใจอยู่จริง ๆ … ไม่ใช่อาการผีออกผีเข้า แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยอมทุกอย่าง หมดสิ้นอีโก้ทุกทางตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว…และเธอยอมรับทั้งหัวใจอย่างซื่อสัตย์เลยว่า...โคตรรักเขาเลย รักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจนะที่เลือกจะมอบใบหย่าให้สามีพิมดาวเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย แต่เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน...ในวันแรกที่เธอคุยกับพ่อแม่ของเขาว่าจะหย่า พวกท่านก็ช็อกพอสมควรที่เธอตัดสินใจแบบนั้นแต่ที่เธอเลือกจะหย่า นั่นก็เพราะยึดมั่นในสัญญาที่เคยเซ็นไว้กับเขา คือเรื่องจบเมื่อไหร่