แสงตะวันยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนโทนสีดำ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา บ่งบอกถึงรสนิยมมาเฟียหนุ่มเป็นอย่างดี
คนตัวเล็กบนเตียงปรือตาขึ้นเชื่องช้า เพื่อปรับสภาพให้คุ้นชินกับแสงแยงตา
“อื้อ”
“ตื่นแล้วก็ไสหัวไปซะ”
เสียงดังในระยะใกล้เคียงทำให้ณิชาหันมองก่อนพบกับเจ้าของห้องในสภาพชุดคลุมอาบน้ำ เส้นผมเปียกชุ่ม ไม่ต้องบอกก็รู้เพิ่งผ่านการอาบน้ำมาหมาด ๆ
“คุณ” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หญิงสาวเด้งตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมคว้าผ้าห่มคลุมเรือนร่าง
ร่างกายของเธอเต็มด้วยรอยแดงมากมาย ตอกย้ำได้ดีว่าเรื่องเมื่อคืนคือความจริงไม่ใช่ความฝัน เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว
“ไม่ต้องห่วงผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอ ฉันไม่กินซ้ำสองหรอก”
คำพูดของมาเฟียจอมโหดทำให้เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เพื่อข่มความเจ็บปวด เขาช่างเป็นผู้ชายที่แย่ที่สุด
“ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ” เธอไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนทำเอาเขางุนงงไม่น้อย ก่อนเจย์เดนจะนึกบางอย่างขึ้นได้แล้วพูดออกมา
“อยากได้เงินสินะ” เท้าใหญ่ก้าวเดินไปข้างเตียง เขาเปิดลิ้นชักพร้อมหยิบอะไรสักอย่างออกมา ก่อนกรอกจำนวนเงินลงในเช็คนำไปยื่นให้เธอ
“รับไปสิ แล้วรีบไสหัวกลับไปทำงาน”
“อะไรคะ” นัยน์ตากลมโตมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าสลับมองหน้าหล่อเหลา คิ้วโก่งเลิกขึ้นอย่างสงสัย ไม่ใช่ไม่รู้สิ่งนั้นคืออะไรแต่ไม่เข้าใจจะให้ทำไม
“ค่าตัวเธอไง” ไม่พูดเปล่า เขายัดเช็คใบนั้นใส่ในมือของณิชา
หญิงสาวมองเช็คในมือด้วยสายตาแข็งกระด้าง เขาพูดจาทำร้ายจิตใจเธอยังไม่พออีกเหรอ นี่คิดจะดูถูกด้วยสินะ เธอทนไม่ไหวจัดการฉีกของในมือจนแหลกและปาใส่หน้าคมคาย
“กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน” มาเฟียหนุ่มพุ่งตัวเข้าหาณิชาอย่างไว ไม่วายบีบปลายคางมนแทบแหลก จ้องเขม็งเธอปานจะกินเลือดกินเนื้อ
“แล้วคุณล่ะ มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับฉัน” เธอจ้องเขากลับอย่างไม่เกรงกลัว
“เฮอะ ไม่น่าถามฉันจับเธอมาเป็นเชลย ฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรกับเธอก็ได้”
“คุณมันเลว เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ฉันเกลียดคุณ” เธอตอกกลับใส่หน้าของอีกคน
“ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ก่อนฉันจะหมดความอดทน” เจย์เดนพยายามควบคุมสติ ไม่ให้พลั้งมือทำร้ายณิชาไปมากกว่านี้ เพราะเธอต้องอยู่ให้เขาทรมานอีกนาน
“ไปสิวะ!!” ชายหนุ่มก้าวลงจากเตียงก่อนหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงโยนใส่หน้าณิชาพร้อมตะโกนไล่
“เลวที่สุด”
“รีบไปซะ ก่อนฉันจะให้เธอเดินแก้ผ้าออกจากห้องให้ลูกน้องฉันเอา”
คราวนี้หญิงสาวไม่ได้โต้กลับ ย่อมทราบดีคนอย่างเขาทำอย่างที่ลั่นวาจาจริง ฉะนั้นจำเป็นต้องเลี่ยงไปก่อน
ณิชารีบแต่งตัวและออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ทันทีที่กลับถึงห้องพักของตัวเองก็ทรุดกายนั่งลงดั่งคนหมดแรง แล้วปล่อยโฮออกมาราวกับคนใจสลาย
“ฮือ ๆ แม่ขา…ณิกลัวเหลือเกิน” หญิงสาวโอบกอดตัวเองพลางนึกถึงมารดาผู้ล่วงลับ มารดาของเธอจากไปตั้งแต่เธออายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น
ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเรียกความสนใจของณิชาหันไปมอง เธอค่อย ๆ พยุงกายเดินไปเปิดประตูเพื่อดูว่าเป็นใคร
“เอาไป”
“คะ” ณิชามองยูนิฟอร์มแม่บ้านในมือของสาวใช้คนหนึ่ง
“รับไปสิ บอสสั่งให้เอามาให้เธอ”
“ให้ฉันทำไมคะ” คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน
“เอาไปเปลี่ยนสิ บอสบอกว่าเธออยู่ที่นี่ต้องทำงานบ้านทุกอย่างเหมือนพวกเรา ไม่ได้ให้อยู่ฟรี ๆ”
“อ๋อค่ะ” คำอธิบายของคนตรงหน้าทำให้เข้าใจได้ทันที
“เปลี่ยนเสร็จแล้วรีบตามมา หัวหน้าแม่บ้านจะแจ้งหน้าที่ให้เธอเอง” พูดจบ สาวใช้คนดังกล่าวจากไปทันใด ทิ้งณิชามองชุดแม่บ้านในมือครู่หนึ่ง
“เอาเถอะ” เธอหลับตาลงและเบิกขึ้นใหม่อีกครั้งพลางพ่นลมหายใจเฮือกหนึ่ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดต้องรับมือให้ได้ตราบใดยังอยู่ที่นี่
หลังจากณิชาจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย เธอก็มุ่งหน้าไปหาแมรี่หัวหน้าแม่บ้านทันที ก่อนได้รับงานตามที่มอบหมาย
การทำงานของหญิงสาวไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่ต่างจากการทำงานแม่บ้านทั่วไป ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นขณะเธอกำลังจะเดินกลับห้องพักช่วงเที่ยง
ทันใดนั้นเกิดอาการหน้าวูบ ขณะคิดว่าต้องล้มลงแน่นอน จู่ ๆ แขนกำยำของใครคนหนึ่งรับร่างเธอไว้ได้ทัน
“คุณ” เงยหน้ามองคนที่ช่วยเหลือ
“เป็นอะไรไหมครับ” ไททันเอ่ยถามอย่างสุภาพ เขาบังเอิญเดินผ่านมาทางนี้พอดีจึงเข้ามาช่วย
“ปวดหัวค่ะ” เธอยังคงอยู่ในอ้อมกอดของบอดี้การ์ดหนุ่ม เพราะทรงตัวไม่ได้เนื่องจากวิงเวียนศีรษะ
ทั้งคู่ไม่อาจล่วงรู้เลย เจย์เดนกำลังจ้องมองอย่างไม่สบอารมณ์ มาเฟียหนุ่มก้าวเดินฉับ ๆ ตรงไปเบื้องหน้า ก่อนกระชากณิชาจนตัวปลิวไปอยู่ข้างเขา
“ทำอะไรกัน” จ้องมองลูกน้องคนสนิทก่อนหันมองคนตัวเล็กข้างกาย ซึ่งสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไร แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะคิดว่าเธอเสแสร้ง
“คุณณิชากำลังจะเป็นลม ผมแค่ช่วยพยุงไว้เฉย ๆ” ไททันบอกตามความจริง
“ฉันไม่เชื่อหรอก”
“จริงนะครับบอส”
“ตามมา” ยกยิ้มมุมปากพลางปรายตามองณิชา จากนั้นจูงข้อมือเล็กให้เดินตามและไม่วายออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท ไททันไม่เข้าใจพฤติกรรมของเจ้านายแต่ยอมเดินตามเข้าข้างใน
เจย์เดนเหวี่ยงณิชาไปกองกับพื้นห้องโถง ชายหนุ่มมองเธอไม่ต่างจากตัวน่ารังเกียจ
“ร่านนักใช่ไหม”
“บอสจะทำอะไรครับ” ไททันเริ่มรู้สึกถึงสิ่งไม่ชอบมาพากล กลัวเจ้านายหนุ่มจะทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด
“ใครอยู่แถวนี้มาหน่อย”
“ครับบอส” บอดี้การ์ดประมาณห้าคนวิ่งกรูมาหาเจ้านายหนุ่มตามเสียงเรียก
“ฉันยกผู้หญิงคนนี้ให้พวกนายจะทำอะไรก็ได้ตามสบาย”
“เอ่อ บอสครับ” ไททันเอ่ยขึ้นหมายจะห้ามปรามเจย์เดน
“อย่ายุ่งไททัน ไปดิวะ” ประโยคท้ายหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องคนอื่น ๆ อีกห้าคนซึ่งยืนนิ่งไม่มีท่าทีจะขยับ
“ไปสิ!!”
“ครับ ๆ”
ทันทีที่ชายชุดดำเหล่านั้นเข้ามาหาเธอ หญิงสาวพยายามป้องกันตัวเองสุดฤทธิ์ให้รอดพ้น แม้สติเลือนรางเต็มทีก็ตามแต่ไม่มีทางยอมให้คนเหล่านั้นย่ำยีง่าย ๆ
“อย่าเข้ามานะ” ว่าพลางเขยิบหนี
“อยู่เฉย ๆ เถอะคนสวย” หนึ่งในบอดี้การ์ดพูดขึ้น
“ไม่ ๆ อย่ามายุ่งกับฉัน”
เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา อุณหภูมิในร่างกายของเธอเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพิษไข้
“กรี๊ด…” ณิชากรีดร้องลั่นเมื่อคนเหล่านั้นเข้ามาใกล้กว่าเดิม วินาทีต่อมาคนตัวเล็กสลบคาพื้นห้อง ทุกคนบริเวณนั้นต่างมองหญิงสาวอย่างตกตะลึง ยกเว้นเจย์เดนที่คิดว่าเธอแสร้งทำ
“ไปดูสิไททัน ยังหายใจอีกไหม”
“ครับ” ไททันเดินเข้าไปหาณิชา ก่อนยื่นนิ้วแกร่งเข้าใกล้จมูกของเธอเพื่อตรวจสอบดูว่าอีกคนยังหายใจอีกหรือไม่
“เป็นไงบ้างไททัน”
“หายใจอยู่ครับ”
“พาขึ้นไปบนห้องรับรองแขกแล้วตามหมอมาด้วย” สิ้นคำพูด มาเฟียหนุ่มหมุนตัวย่างเท้าจากไปทันใด ไม่เหลียวมองณิชาสักนิด
“คุณณิชาครับ” ไททันเขย่าคนสลบเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ทว่าไม่มีการตอบสนองใด
“ลูกพี่ เธอเป็นยังไงบ้าง” หนึ่งในบอดี้การ์ดถามขึ้นอย่างเป็นห่วง พวกเขาไม่มีเจตนาจะทำเช่นนั้นกับณิชา แต่หากไม่ทำก็กลัวเจ้านายจะจัดการพวกเขาแทน
“ไม่เป็นไรแล้ว พวกนายกลับไปทำงานเถอะและก็เงียบ ๆ ละไม่ต้องพูดอะไรมาก”
“ครับ ๆ”
“เฮ้อ…ขอโทษนะครับคุณณิชา” ไททันไม่รอช้าช้อนร่างบอบบางเข้าสู่วงแขนและพาขึ้นไปบนห้องนอนรับรองแขก จากนั้นรีบโทรตามแพทย์ประจำตระกูลทันที
ปลายลิ้นร้อนอุ่นตวัดเลียบนยอดถันสีหวาน ซึ่งกำลังท้าทายให้มาเฟียหนุ่มตักตวงตามความปรารถนา ก่อนฝ่ามือใหญ่อีกข้างจะยกขึ้นมาบีบขยำดอกบัวตูมอย่างหลงใหล“อื้อ อ๊า พี่เจย์คะ ทำไมดูดแรงแบบนี้คะ” เธอทั้งเสียวและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน“แล้วไม่ชอบเหรอ” ผงกหัวมองใบหน้าหวานและถามขึ้นขณะยอดถันคาปากหยัก“อื้อ ชอบมากเลยค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ สติเริ่มเลือนรางทุกทีการสัมผัสของมาเฟียหนุ่ม ส่งผลให้ณิชาอ่อนระทวยง่ายดาย ร่างกายอ่อนปวกเปียก ยอมให้เขาแตะต้องได้เต็มที่เจย์เดนพรมจูบทั่วเรือนร่างงดงาม ไม่วายประทับตราสีแดงกุหลาบตามจุดต่าง ๆ เธอในช่วงตั้งครรภ์รูปร่างอวบอั๋นมาก ไม่ว่าจะจับตรงไหนเต็มไม้เต็มมือไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหลงได้ยังไง“อื้อ อ๊า ทำไมตัวเมียหอมแบบนี้”“อื้อ พี่เจย์”กายสาวดิ้นพล่านไปมาเมื่ออีกคนเริ่มแยกขาเรียวออกจากกันกว้างและนำปลายลิ้นสากตวัดเลียปุ่มกระสัน“อื้อ อ๊า ตรงนั้น สะ เสียวเหลือเกิน” ณิชาร้องครางไม่เป็นภาษา มือเรียวสอดเข้าไปในเส้นผมนุ่มของคนตัวโตพร้อมกับขยุ้มเบา ๆ เพื่อระบายความเสียวซ่าน“หวานเหลือเกิน เมียจ๋า”ไม่ว่าจะชิมตรงไหนก็หวานบาดลิ้นไปหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาคลั่งไคล้ใน
ณิชากลับไปหาเจย์เดนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลังจากได้เคลียร์ใจกับสมายล์เรียบร้อย ทำเอาคนตัวโตกำลังจ้องมองหญิงสาวเกิดความรู้สึกประหลาดใจ“มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงจ้องณิแบบนั้น”“พี่แค่แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ณิหายไปเมื่อกี้”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”“น่าสงสัย” มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันพลางสังเกตปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่เจย์ขี้สงสัยไปได้” คริสตัลแทรกขึ้น ก่อนหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับณิชาราวกับอยากแกล้งมาเฟียหนุ่ม“ไม่ได้พาณิไปหาไอ้หนุ่มที่ไหนใช่ไหม” คนขี้หวงบอกอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่รู้สิคะ” ยักไหล่ใส่พี่ชายอย่างไม่แยแส“คริส พี่ไม่ตลกนะเล่นแบบนี้”“ดุอะไรน้องล่ะ โน้นไปถามณิสิ” คริสตัลบุ้ยปากไปยังณิชาซึ่งเดินไปหาคาลอสกับคลอเดียตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว“ไม่กล้าไปถามณิละสิ” คริสตัลบ่นพึมพำ เธอรู้หรอกพี่ชายไม่กล้าดุหรือตำหนิณิชาเพราะกลัวโดนงอน อีกคนจึงมาเค้นถามจากเธออย่างนี้“บ่นอะไร”“เปล่า” ปฏิเสธเสียงสูง“พี่เจย์คะ เดินทางกลับอิตาลีอย่างปลอดภัยนะคะ ถ้าน้องว่างจะไปเยี่ยม”“อืม ดูแลตัวเองด้วยนะยัยตัวแสบ” ฝ่ามือหนาลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู แม้ว่าคริสตัลจะแต่งงานและมีลูกแล้ว แต่ยังคง
หลังจากทั้งสี่คนปรับความเข้าใจกัน คาลอสและคลอเดียก็ออกไปเล่นข้างนอกกับไททัน ส่วนณิชาถูกเจย์เดนรั้งไว้บนตักแกร่งพร้อมกอดแน่น“พี่เจย์ ปล่อยณิได้แล้วนะคะ”“อื้อ ไม่เอา ขออยู่แบบนี้หน่อย” เจย์เดนซบหน้าลงบนทรวงอกอวบอั๋นอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมวน้อย “กลับไปทำงานได้แล้ว” เธอไม่ค่อยจะชินเลยกับเขาในโหมดนี้ เมื่อก่อนชอบทำหน้าดุและอารมณ์เสียใส่เธอเป็นประจำ“ทำไมชอบไล่พี่จังเลยครับ” ช้อนตามองคนตัวเล็ก“ถามจริงเถอะ ผู้ชายใจร้ายคนนั้นที่ชอบทำตัวเย็นชาใส่ณิหายไปไหนแล้ว”“อย่าพูดถึงมันเลย ไอ้คนนิสัยไม่ดีแบบนั้น รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ได้ไง” ว่าแล้วมาเฟียหนุ่มเอามือเล็กขึ้นมาจูบพร้อมชำเลืองมองคนตัวเล็กด้วยสายตาเย้ายวน“คนบ้า” หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย สายตาของเขาจ้องมองปานจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว จนใบหน้าหวานร้อนผ่าว“คืนนี้มานอนห้องพี่นะครับ”“ไม่เอาค่ะ” ขืนไปนอนด้วยมีหวังไม่รอดแน่“ทำไมล่ะครับ ไม่สงสารพี่หรือไง” กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเว้าวอนเพื่อขอให้หญิงสาวทำตามความปรารถนาของตัวเอง“พี่เจย์อย่ามาใช้หน้าตาหลอกล่อณิแบบนี้นะคะ” ยิ่งรู้อยู่ว่าเธอพ่ายแพ้ให้กับใบหน้าหล่อ ๆ ของเขา“พี่รักณิน
“ณิชา…พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น พี่ไม่ได้จะดูถูกณิเลยนะครับ พี่แค่ไม่อยากให้ณิพาลูกไปไหน” เงยหน้ามองแม่ของลูกทั้งน้ำตา เขาไม่อยากพบเจอการจากลาเหมือนในอดีต แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว“เป็นอะไรของคุณ” เป็นครั้งแรกเห็นน้ำตาของคนตัวโต “ร้องไห้ทำไมคะ” นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนแก้มอีกคนอย่างอ่อนโยน แต่เจย์เดนไม่หยุดร้องยังคงปล่อยน้ำตาไหลราวกับทำนบแตก“ถ้าครั้งนี้ทิ้งพี่ไปอีก พี่คงได้ตายแน่ ๆ”“เป็นอะไรของคุณ” คำพูดกับท่าทางของมาเฟียทำเอางุนงงไปหมด จู่ ๆ ทำไมถึงร้องไห้สวนทางกับตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ใจเธออ่อนยวบ“ฮึก ฮือ ๆ พี่รักณินะครับ รักมากเหลือเกิน”“คุณเจย์” คำสารภาพรักของเจย์เดน ณิชาถึงกับชาวาบจนคิดว่าตัวเองหูแว่วหรือฝันไป“พี่รักณินะ รักมานานแล้ว ขอโทษเมื่อก่อนทำร้ายณิสารพัดโดยที่ไม่ฟังคำพูดณิสักครั้ง พี่มันแย่เอง” เจย์เดนพูดตัดพ้อมากมาย“หยุดร้องไห้ก่อนเถอะ คุณเจย์” ยิ่งช่วยซับน้ำตาให้เขามากเท่าไร อีกคนยิ่งปล่อยโฮมากเท่านั้น จนเธอรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน“ขอร้องนะคนดี อย่าทิ้งพี่ไปเลย” หยาดน้ำตาพรั่งพรูเปื้อนใบหน้าหล่อคมต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีท่าทีจะหยุดง่าย ๆ“ใจเย็น
สายลมยามเย็นพัดพลิ้วกระทบผิวกายคนตัวเล็กซึ่งนั่งปูเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วนเด็ก ๆ วิ่งเล่นบริเวณนั้นโดยป้าแม่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหลังจากรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม พักหลังมานี้หญิงสาวค่อนข้างเหม่อบ่อยเป็นพิเศษ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากคิดไม่ตกเรื่องเด็กในท้อง กลัวว่าหากคลอดออกมาแล้วจะลำบากกว่าเดิม ลำพังเลี้ยงดูคาลอสกับคลอเดียแทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงกระนั้นไม่คิดจะเอาเด็กออกเด็ดขาดหรือบอกเจย์เดนให้รับรู้เช่นกันในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอ ฉะนั้นไม่อยากเอาลูกมาเป็นข้อผูกมัดระหว่างกัน อีกอย่างไม่คิดยกลูกให้เขาเช่นกัน เธอเคยมีประสบการณ์เรื่องพ่อแต่งงานใหม่แล้วโดนแม่เลี้ยงรังแก ซึ่งไม่ปรารถนาให้ลูกพบเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดียวกับเธอ ไม่ต่างจากฝันร้าย“กลุ้มใจจังเพราะท้องหรือเปล่านะถึงคิดมากแบบนี้” ใบหน้าหวานเหลือบมองวิวข้างหน้า เป็นแม่น้ำที่มีผู้คนปั่นเรือเป็ดอย่างเพลิดเพลิน“หม่ามี้ครับ” คาลอสตะโกนเรียกผู้เป็นแม่พลางวิ่งมาหาณิชาก่อนนั่งลงด้านข้าง“เล่นจนเหนื่อยแล้วเหรอ” ว่าแล้วชำเลืองมองคลอเดียกำลังวิ่งเล่นอย่างไม่รู้จักเหนื่อย จากนั้นส่งยิ้มหวานให้กับลูกชายตัวน้อย“ไม่สนุกเลยค
อากาศเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงกำลังทำงาน ส่งผลให้ณิชานอนหดตัวด้วยความหนาวสะท้านทั่วทั้งกาย แขนบอบบางวาดวงพื้นที่ว่างข้างกายก่อนพบความว่างเปล่า“หายไปไหน” เบิกตาขึ้นเชื่องช้าและกลอกตามองหาทั่วห้องหลังจากจบศึกรักเมื่อคืนเธอจำได้แค่ว่าตอนอยู่ในห้องน้ำ เธอกับเขากำลังแช่น้ำสมุนไพรในอ่าง จากนั้นภาพตัดไปเลยและตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันใหม่“คาลอส คลอเดีย” ณิชาเพิ่งนึกขึ้นได้ทิ้งลูกไว้ในห้องนอนอีกห้องตามลำพังจึงเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนก้มหน้าสำรวจตัวเองอยู่ในสภาพชุดนอนซึ่งไม่ต้องบอกพอเดาออกใครเป็นคนสวมใส่ให้“ห๊ะ!! สิบโมงแล้วเหรอ” ดวงตากลมโตปะทะกับนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นกระโดดลงจากเตียงด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ ทันทีที่เท้าเล็กแตะพื้น ร่างเล็กทรุดกองกับพื้นด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบทั่วสรรพางค์กาย“อึก เจ็บจัง” แขนเล็กยกขึ้นกุมหน้าท้อง ถึงกระนั้นเธอไม่ได้นั่งอ้อยอิ่ง พยายามแบกร่างกายปวดระบมออกไปข้างนอก“หม่ามี้” ทันทีณิชาปรากฏเด็ก ๆ ทั้งสองคนวิ่งมาโอบกอดขาผู้เป็นแม่อย่างดีใจ“หม่ามี้ขอโทษนะคะ คาลอสกับคลอเดียหิวแย่เลย” หญิงสาวนั่งย่อง ๆ อยู่ระดับเดียวกับลูกทั้งสองและลูบหัวเด็กน้