อ้อมดาวบอกกับป้าดูแลหอพักนักศึกษาว่าญาติไม่สบาย ท่านอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล เธอจึงจำเป็นต้องออกจากห้องเวลานี้ พอมาถึงร้านก็โทรหาหมอภีร์ รอไม่นานคนตัวโตสูงใหญ่ก็เดินเซออกมาหาตนเอง เขาเมาแล้วและดีที่เขาโทรหาเธอ ไม่ขับรถกลับเอง
“หมอภีร์” ร่างเล็กในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขากระบอกวิ่งไปโอบประคองร่างใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากร้านด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าไม่ได้เจอกันนานสองปี แต่อ้อมดาวก็จำรูปพรรณสัณฐานของภีร์ได้ดี เขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนแปลงก็แต่อายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
“ดาว...” ภีร์ทิ้งน้ำหนักให้คนตัวเล็กประคองตัวเองเดิน เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ เพราะเขาได้ยินมันทุกวัน น้ำเสียงเล็กหวานนี้
“ดาวเองค่ะหมอภีร์ กลับกันนะคะ คอนโดหมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะพานั่งแท็กซี่กลับ” เพราะคุยกันทุกวัน เธอจึงรู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดกับห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นส่วนใหญ่
“คอนโดอยู่...” เขาบอกเธอขณะถูกดึงลากเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดส่งลูกค้าพอดี ซึ่งเป็นจังหวะพอดีทำให้ไม่ต้องประคองคนตัวโตนาน เพราะเขาตัวหนักเหลือเกิน พออ้อมดาวได้แท็กซี่และเปิดประตูยัดคนตัวโตเข้าไปในรถแล้ว ตัวเองก็ขึ้นไปนั่งด้วยพร้อมสั่งคนขับรถแท็กซี่ว่าให้ไปส่งที่ไหน
ตุ้บ!
พอพาเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็ทิ้งร่างใหญ่ลงกับโซฟารับแขกของห้องชุดคอนโดสุดหรู แน่ใจว่ามันคือคอนโดสำหรับอยู่คนเดียว อ้อมดาวปล่อยคนเมาไม่รู้ความนอนครางพึมพำกับโซฟา ส่วนตัวเองก็ไปยังโซนห้องครัวใหญ่ของห้องชุดแห่งนี้เพื่อนำน้ำเย็นและผ้าเย็นมาเช็ดหน้าให้คนตัวโต
“ทำไมดื่มจนเมาขนาดนี้คะหมอภีร์” เธอเช็ดหน้าให้เขาเมื่อดึงเขานั่งพิงกับพนักโซฟาแล้ว แต่ตายังหลับอยู่
“ผู้หญิงคนนั้นมาหาฉัน”
อ้อมดาวหยุดมือที่กำลังเช็ดใบหน้าทรงเสน่ห์แล้วลดมือมาวางไว้หน้าตักตัวเอง
หมอภีร์ลืมตาขึ้นมองจ้องใบหน้าของเด็กสาวแล้วยื่นมือคว้าหยิบแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นมาดื่มราวกับว่าไม่ได้มีอาการเมาไม่รู้ความเหมือนก่อนหน้านี้ จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เมามากขนาดจะไม่รู้เรื่อง เดินเองไม่ได้และพาตัวเองกลับไม่ได้ แต่เป็นใจเขาต่างหากที่อ่อนแอถึงเป็นเช่นนี้ และมีแค่อ้อมดาวเท่านั้นที่เข้าใจความรู้สึกตน
“ท่านกลับมานานแล้ว ท่านคงอยากเจอหมอภีร์” อ้อมดาวไม่ถามว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ คือใคร เพราะรู้ดีว่าหมอภีร์หมายถึงมารดาผู้ให้กำเนิด
“แต่ฉันไม่อยากเจอ ทิ้งไปแล้วจะมาวุ่นวายกับฉันทำไม เข้าใจฉันใช่ไหมดาว เข้าใจความรู้สึกตรงนี้ของฉันใช่ไหมเด็กน้อย” เขาจับมือเล็กที่กำผ้าเย็นในมือมาทาบทับแนบอกซ้ายที่กำลังเต้นไหวแรงของตนเอง
“ดาวเข้าใจความเจ็บปวดของหมอภีร์ค่ะ และดาวก็เชื่อว่าหมอภีร์จะทิ้งความเจ็บปวดนี้ได้” มือน้อยอีกข้างยกขึ้นทาบทับหลังมือหนาที่กุมมือตัวเองบนอกแกร่งพร้อมจับบีบให้กำลังใจ
“ไม่ดาว! ไม่มีวันนั้นหรอก ถ้าฉันทิ้งมันไปได้ มันคงไม่ตามมาถึงทุกวันนี้” มือหนานุ่มอีกข้างที่ว่างก็ยกมากุมมือเล็กที่กุมมือตัวเอง
เพราะความใกล้ชิดทางเสียงทุกวันของเขาและเธอทำให้อ้อมดาวไม่รู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกกับสัมผัสของนายแพทย์หนุ่ม
“หมอภีร์ดื่มเยอะแล้ว วันนี้ดาวว่าหมอภีร์นอนดีกว่าไหมคะ ว่าแต่ตอนเย็นทานอะไรรึยังคะ เดี๋ยวดาวทำให้ทานแล้วค่อยนอนนะคะ”
“กินกับธีร์แล้ว ว่าแต่ออกมาได้ยังไง ที่หอพักไม่ว่ารึไงฮึ”
แล้วหมอภีร์ก็หันมาสนใจเด็กสาวแทน ตอนนี้ชายหนุ่มจดจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราของสาวน้อยในอุปการะของตนเอง เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อสองปีก่อน เธอยังเป็นเด็กน้อยกะโปโล แต่วันนี้เธอโตเป็นสาวแล้วและสวยน่ารักมากด้วย และลักยิ้มตรงแก้มนั่นอีก มันช่างน่ามองเหลือเกิน
“ไม่เจอกันนานสองปี ดาวโตขึ้นเยอะมากนะ” เขาผละมือออกห่างมือเล็กแล้วเปลี่ยนมาเท้าศอกกับขาตัวเองแล้วยกมือเท้าคางมองจ้องหน้าอ้อมดาวโดยละเอียดจนสาวน้อยต้องขยับถอยหนีผู้มีพระคุณ
“ดาวบอกผู้คุมหอพักว่าญาติไม่สบายจำเป็นต้องมาดูแลป้า เขาก็ให้มาค่ะ เราไม่เจอกันสองปี แต่ดาวก็ส่งรูปปัจจุบันให้หมอภีร์ในไลน์ตลอดนี่คะ”
เธอตอบไม่กล้าสบตา ตอนนี้สองแก้มนวลของสาวน้อยวัยสิบแปดเห่อร้อนกับสายตาของหมอหนุ่ม และใจสาวน้อยก็สั่นไหวเต้นแรงผิดจังหวะจนต้องกระเถิบถอยห่างอีก ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองที่ดังอย่างกับกลองยาว
“อือ...ก็จริง ฉันเป็นครอบครัวคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่ อีกอย่างรูปกับตัวจริงมันไม่เหมือนกัน ตัวจริง ‘น่ารัก’ กว่าเยอะ”
ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้ารึเปล่าถึงทำให้หมอภีร์กำลังเต๊าะเด็กในอุปถัมภ์ของตนเองแบบนี้และไม่ใช่แค่พูด แต่หมอหนุ่มยังขยับตามคนตัวเล็กที่ขยับถอยหนีไปชิดขอบโซฟาด้านหลังและแขนของเขาก็ยกพาดพิงกับพนักพิงหลังของโซฟาจากที่เท้าคางก่อนหน้านี้
“ขอบคุณค่ะหมอภีร์ที่ชมดาว ตอนนี้ดาวว่าหมอภีร์เมามากแล้วและก็ไปนอนดีกว่าไหมคะ ดาวเองก็จะได้กลับหอพักด้วยค่ะ” เธอขยับลุกขึ้นไปยืนข้างโซฟา ก่อนหน้ารู้สึกปลอดภัย ตอนนี้อ้อมดาวไม่ได้รู้สึกเช่นเดิมแล้ว เธอหวาดหวั่นกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองหากยังอยู่ในห้องนี้ลำพังสองต่อสองกับผู้มีพระคุณ และที่กลัวที่สุดคือใจของเธอ เพราะใจของเธอมัน ‘แอบหมายปอง’ ผู้ชายคนนี้มาตั้งแต่แรกเจอแล้ว
“ไหนบอกว่ามาดูแลญาติที่ป่วยไง กลับไปไม่กลัวผู้คุมหอพักถามเหรอ อีกอย่างตอนนี้ก็ดึกมากแล้วจะเรียกรถแท็กซี่ได้เรอะ นอนที่นี่แหละ ที่นี่มีห้องรับแขก อีกอย่างฉันไม่ได้เมาจนดูแลตัวเองไม่ได้ นั่นห้องรับแขกของฉัน ไปนอนเถอะเด็กน้อย พรุ่งนี้ยังมีเรียนตอนบ่ายโมงนี่”
อุ๊ย! เด็กน้อยในชุดนักเรียนคอซอง ผมสั้นเห็นติ่งหูล้มลงกับพื้นหญ้าเมื่อชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ตรงหน้า ด้วยความไม่ทันระวัง นายแพทย์หนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับเด็กนักเรียนที่วิ่งมาทางตนพอดี “เป็นอะไรรึเปล่าหนู” ภีร์ถามพร้อมย่อตัวคุกเข่ากับพื้นหญ้าหนึ่งข้างแล้วส่งยื่นมือไปให้เด็กนักเรียนจับลุกขึ้น “หนูไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะคุณหมอ” เด็กหญิงอ้อมดาวยื่นมือไปจับมือใหญ่นุ่มของคุณหมอแล้วคุณหมอก็จับดึงพาลุกขึ้น “แล้วจะรีบไปไหนเด็กหญิงอ้อมดาว” เมื่อช่วยดึงเด็กนักเรียนลุกขึ้นก็เอ่ยถามเมื่อได้อ่านชื่อของอ้อมดาวที่อกเสื้อ “หนูรีบกลับบ้านไปหาข้าวให้ยายทานค่ะ พอดีวันนี้ยายหนูไม่สบายค่ะคุณหมอ”&
ณ จังหวัดกำแพงเพชร บ้านเกิดของอ้อมดาว ตอนนี้อ้อมดาวในวัยยี่สิบสามปี เธอเรียนจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีสามีและลูกแล้ว แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เธอโชคดีที่ได้เจอกับหมอภีร์และครอบครัวของหมอภีร์ ที่รักและเอ็นดูตนเอง “ขอบคุณนะคะที่พาดาวกลับมาไหว้ยาย ตา และพ่อกับแม่” เธอหันมาขอบคุณสามีหลังจากไหว้อัฐิของทั้งสามคนที่จากตนไปอยู่อีกภพภูมิหนึ่ง “ฉันจะพาดาวและลูกมาไหว้พวกท่านทุกปี อาทิตย์มาไหว้คุณยายทวด คุณตาทวด และคุณตา คุณยายเร็วลูก” ภีร์เรียกลูกชายวัยสี่ขวบให้มากราบไหว้ท่านทั้งสี่พร้อมตนและภรรยา “ก๊าบ!” หนุ่มน้อยอาทิตย์ ผู้ถอดแบบพ่อมาทุกตารางนิ้วและมีสิ่งเดียวที่เหมือนแม่คือลักยิ้ม และนั่นทำให้พ่อหลงลูกชายมาก จิ้มหยิกแก้มหอมแก้มลูกได้ทั้งวันไม่เบื่อ “ระวังล้มนะลูก” อ้อมดาวบอกลูกชายพร้อมยื่นมือไปให้ลูกน้อยจับ&n
ภีร์ไม่รู้จะขอบคุณอ้อมดาวยังไงดี เพราะมีสาวน้อยเข้ามาในชีวิต โลกของเขาก็เริ่มสว่างสดใสขึ้น เงาดำมืดที่เกาะกินจิตใจก็ถูกดวงดาวดวงนี้ทอแสงกลบจนไม่เหลือเงาดำแฝงเร้นในจิตใจ เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นเหตุผลของผู้ใหญ่ว่าเพราะเหตุใดถึงต้องแยกทางและทิ้งตนและน้องชาย พอมาวันนี้ตนเองได้มีครอบครัว เป็นหัวหน้าครอบครัวและกำลังจะเป็นพ่อคนก็ได้รู้และเข้าใจท่านทั้งสอง หากวันนั้นท่านทั้งสองไม่ตัดสินใจแยกทางกันแบบนั้นก็คงจะมีข่าวหน้าหนึ่งสามีภรรยาทะเลาะกันจนพลั้งมือทำร้ายกันถึงชีวิตเป็นได้ “ขอบคุณนะดาว ขอบคุณที่อยู่กับฉันและทำให้ฉันกับพ่อและแม่เข้าใจกัน เพราะมีเธอ ฉันถึงไม่ติดใจเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ขอบคุณที่ฉุดดึงฉันออกมาจากความมืดนั้น” ภีร์บอกภรรยาที่นอนซบอกตนเองพร้อมกับจับกุมมือน้อยทาบทับอกขึ้นมาจูบ “ดาวดีใจนะคะที่หมอภีร์กับคุณพ่อคุณแม่เข้าใจกันได้ จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับดาวเลยสักนิด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้เพราะหมอภีร์ ดาวรู้นะคะ แม้ว่าหมอภีร์จะพูดถึงท่านทั้งส
“หมอภีร์คุยกับท่านทั้งสองนะคะ ดาวจะไปช่วยที่ห้องครัวเผื่อมีอะไรให้ช่วยค่ะ”เมื่อเห็นว่าตัวเองควรปล่อยให้พ่อแม่ลูกอยู่คุยกันตามลำพัง แม้ก่อนหน้าบอกสามีแพทย์ว่าตนจะอยู่ด้วย แต่ตอนนี้เขาควรอยู่กับพ่อกับแม่เขาตามลำพังมากกว่า “ไหนบอกจะอยู่กับฉัน” “ดาวไม่ได้ไปไหนค่ะ ดาวก็อยู่ตรงนี้ของหมอภีร์แล้วไงคะ ดาวอยู่ตรงนี้ตลอดค่ะจะไม่ไปไหนจนกว่าหมอภีร์ไม่ต้องการดาวแล้ว” มือเล็กยกจิ้มอกซ้ายของสามีบอกเขาว่าตนอยู่ตรงนี้ของเขาตลอด “ขอบใจนะดาว ขอบใจที่เข้าใจฉัน ระวังด้วยนะเข้าไปในครัวน่ะ ห้ามยกของหนักรู้ไหม”ก่อนหญิงสาวจะลุกเดินจากไปก็ไม่ลืมบอกเธอด้วยความเป็นห่วง “รู้แล้วค่ะ ดาวไปนะคะ คุยกันดีๆ นะคะ หมอภีร์ถามใจตัวเองดีๆ นะคะว่าลึกๆ แล้วหมอภีร์มีความสุขกับที่ผ่านมาแล้วรึยัง ไปนะคะ” แล้วอ้อมดาวก็ลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นปล
ภีร์มองภรรยาเด็กของตนลุกจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กในครรภ์อายุได้สี่เดือนสองสัปดาห์ ร่างเล็กเปราะบางเพรียวระหงตอนนี้จับเคล้นตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ จะว่าไปล้นมือเสียด้วยซ้ำ อ้อมดาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มและสวยวันสวยคืนจนเขาเริ่มหวงเธอ เพราะได้ยินเธอบอกว่าวันสอบปิดภาคเรียนมีหนุ่มต่างคณะมาทำความรู้จัก แต่เธอก็บอกผู้ชายคนนั้นไปว่า ‘แต่งงาน’ แล้ว “ดาวไปซื้อแหวนแต่งงานกันเถอะ เพื่อกันไม่ให้ใครเข้ามาจีบเมียฉัน” ภีร์เดินมาสวมกอดอ้อมดาวจากด้านหลังที่กำลังบีบยาสีฟันใส่แปรงตัวเองกับของเขา “ใครจะมาจีบได้อีกคะ ตอนนี้ท้องดาวก็เริ่มโตแล้วนะคะ ใครก็มองออกว่าดาวกำลัง ‘ท้อง’ ค่ะ” สาวน้อยตอบ “แต่ท้องดาวมองเผินๆ ก็ไม่เหมือนคนท้องนะ” เขาบอกเธอ “แปรงฟันกันเถอะค่ะ แล้วรีบไปทานมื
ภีร์วิ่งเข้ามาในห้องน้ำ เขามาส่องกระจกดูตัวเองในห้องน้ำแล้วก็ขบกรามแน่น เมื่อกี้เขาร้องไห้ ร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนั้น สองมือกำแน่นเข้าหากันแล้วเปิดน้ำวักน้ำใส่หน้าตัวเองจนเปียกไปทั้งตัวแล้วทุบชกกระจกตรงหน้าตัวเองเมื่อเห็นว่าตนกำลังอ่อนไหวกับคนที่ทิ้งตนไปตอนนั้นตุ้บ!กระจกร้าวแตกเมื่อโดนกำปั้นใหญ่ชกเต็มแรง และกำปั้นของเขาก็แตกไม่ต่างจากกระจกที่ชก เจ็บมือไม่เท่าไหร่ แต่ใจของเขานี่สิ มันเจ็บเหลือเกินตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรกันแน่“ให้ช่วยไหมครับ?” เสียงของคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นเขาเอ่ยถาม“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” แล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ส่วนกระจกที่ร้าวเขาค่อยไปแจ้งให้ฝ่ายช่างมาจัดการ เขาจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพราะเขาใช้มันระบายอารมณ์“ภีร์” เมริษาร้องเรียกคนที่กำลังเดินผ่านตนเองรั้งไว้พร้อมกับฉวยโอกาสคว้าจับข้อมือใหญ่ดึงรั้งไว้ให้หยุด“ปล่อยเมย์” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยเสี