LOGINหลังพิธีศพของพ่อเสร็จสิ้น ทิพย์ต้องรีบกลับไปต่างประเทศเพื่อสะสางงาน และเธอก็บอกกับทุกคนว่า “ทิพย์จะทำเรื่องย้ายกลับมาอยู่ไทยถาวรค่ะ” ซึ่งทำให้แม่ (แวว) และฝนแปลกใจ ทิพย์พยายามชวนฝนไปพักผ่อนด้วยกัน แต่ฝนปฏิเสธทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่ค่ะ ฝนไม่อยากไป”
ทิพย์กับฝนเป็นพี่น้องต่างแม่ที่มีช่องว่างระหว่างวัยและความรู้สึก ทิพย์ไม่เคยแสดงความอบอุ่นให้ฝนมากพอ ทำให้ฝนเองก็ไม่สนิทใจที่จะไปไหนมาไหนด้วย แต่สิ่งที่ทั้งคู่ยังคงยึดถือไว้คือคำพูดของพ่อที่อยากให้พี่น้องรักกัน ซึ่งตอนนี้คำพูดนั้นก็เหมือนเป็นแค่หน้าที่ที่ต้องทำร่วมกันมากกว่าจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริง
ความสงสัยของทิพย์
ขณะที่ทุกคนกำลังทานข้าว ทิพย์ตั้งคำถามถึงเรื่องเอกขึ้นมา “แม่คะ ทำไมเอกถึงได้มาเช่าบ้านที่พ่อสร้างให้ฝนคะ?”
"พ่อรู้จักกับเอกในงานแต่งฟ้าเขารู้สึกถูกชะตา และเมื่อเอกย้ายมาทำงานต่างจังหวัด พ่อเลยชวนให้มาเช่าบ้านหลังนี้ คำถามของทิพย์ทำให้ฝนรู้สึกแปลกใจกับการเรียกชื่อ "เอก" เหมือนกับว่าเคยรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน ในขณะที่ทิพย์กลับแสดงสีหน้าครุ่นคิดและหันไปมองน้องสาวของเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
การเผชิญหน้าของทิพย์และเอก
ณ หน้าบ้านของเอก ทิพย์เดินเข้ามาหาเอกด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยนัยยะ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ สบายดีไหม?”
เอกถึงกับตกใจ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “สบายดีครับ แต่คุณมาที่นี่ทำไม? นี่คุณเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดใช่ไหม?”
ทิพย์ยิ้มเยาะแล้วเดินเข้าใกล้เอกมากขึ้น ก่อนจะใช้มือลูบไล้ไปตามใบหน้าคมของเอกอย่างยั่วยวน “เปล่านะคะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คุณเองต่างหากที่ดั้นด้นมาที่นี่... หรือว่าคุณตามหาฉันกันแน่?”
แผนการชั่วร้ายของด้วงและวัด
ด้วงและวัดแอบซุ่มดูอยู่ไม่ไกล วัดอุทานเป็นภาษาอีสานด้วยความตกใจ
"โห... บักอั่นนี่มันเฮ็ดบุญย้อนอิหยังวะ คือได้แต่เมียงามๆ แท่วะ" (หมอนี่มันทำบุญด้วยอะไรวะ ทำไมได้ผู้หญิงสวยๆ มาเป็นแฟนตลอด!)
ด้วงชี้ให้วัดดูว่าผู้หญิงคนนั้นคือ ทิพย์ พี่สาวของฝน วัดเห็นดังนั้นก็วางแผนทันที
"ลูกพี่! เฮาเอาเรื่องนี้ไปบอกน้องฝนปะ รับรองว่าน้องฝนตัดใจจากมันแท้ล่ะ" (เราเอาเรื่องนี้ไปบอกน้องฝนเถอะ รับรองน้องฝนตัดใจจากมันแน่ๆ)
ด้วงเห็นด้วยกับแผนการชั่วร้ายนี้
เดี๋ยว! "ไปบอกซือๆ ไผสิเซือ ถ่ายรูปกับคลิปไปให้น้องฝนเบิ่งดีกว่า555!" (บอกปากเปล่าใครจะเชื่อ ถ่ายรูปถ่ายและคลิปไปให้ฝนดูดีกว่า555!)
พวกเขาสองคนวางแผนอย่างสนุกสนานว่าจะใช้หลักฐานทั้งหมดที่ได้มา เพื่อให้ฝนเข้าใจผิดและเปิดโอกาสให้ด้วงได้สานสัมพันธ์กับเธอแทน
ความจริงที่ว้าวุ่นใจความหึงหวงของฝน
วันต่อมา ฝนขับมอเตอร์ไซค์มาซื้อของที่ร้านชำ ด้วงและวัดจึงเข้ามาดักหน้าและโชว์คลิปที่ถ่ายไว้ให้ฝนดู เป็นคลิปที่ทิพย์ลูบไล้ที่ใบหน้าของเอกและใกล้ชิดกันอย่าสนิทสนม
ฝนรู้สึกวู่วามในใจทันทีที่เห็นภาพนั้น ความรู้สึกหึงหวงและเสียใจเริ่มก่อตัวขึ้น แม้จะพยายามเก็บอาการและทำเป็นไม่สนใจ “แล้วจะเอามาให้ฉันดูทำไม ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย”
ด้วงยิ้มเยาะและพูดประชดประชัน “ก็เอาให้ดูเฉยๆ สงสัยจะเป็นว่าที่พี่เขยหรือเปล่า... ทีแรกก็นึกว่าจะมาจีบน้องฝน ที่ไหนได้แอบคบกับพี่สาวน้องฝนนี่เอง” คำพูดของด้วงยิ่งทำให้ฝนโกรธและสับสน
ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
หลังจากถูก ด้วงและวัด ยุแหย่ด้วยคลิปวิดีโอ ฝนกลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวทันทีที่เห็นหน้า ทิพย์ พี่สาว ฝนจึงตั้งคำถามแบบไม่ทันให้ทิพย์ตั้งตัว “พี่ทิพย์จะกลับเมื่อไหร่คะ?”
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว” ทิพย์ตอบสั้นๆ และนั่นทำให้ฝนไม่มีความกล้าพอที่จะถามเรื่องเอกต่อ เธอจึงตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์ไปยังกระท่อมริมบึงที่คุ้นเคย และกดโทรศัพท์หา ฟ้า พี่สาวคนกลาง
“พี่ฟ้า… ตอนที่พี่คบกับพี่เอก ใครเป็นคนแนะนำให้รู้จักกันคะ?” ฝนถามตรงๆ
“ก็พี่ทิพย์ไง… พี่ทิพย์เป็นคนฝากงานให้พี่” ฟ้าเล่าถึงความสัมพันธ์ในอดีตที่ไม่ได้จริงจังนัก ทั้งคู่คบกันเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่เอกจะย้ายไปต่างประเทศ
“ถ้าอยากรู้จริงๆ ลองถามพี่ทิพย์ดูสิ… หรือไม่ก็ถามพี่เอกเลย ก็อยู่บ้านใกล้กันแค่นั้น”
คำตอบของฟ้าทำให้ฝนยิ่งสงสัย เธอวางสายไปอย่างเงียบๆ และเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวในใจ 'พี่ทิพย์รู้จักกันกับเขามาตั้งแต่แรกจริงๆ เหรอ? แล้วทำไมถึงทำแบบนั้น?'
ณ กระท่อมน้อยริมน้ำ
ในขณะที่เอกกำลังยืนงงอยู่หน้ากระท่อมริมน้ำ ทันใดนั้นประตูไม้ก็เปิดออกอีกครั้ง พร้อมกับร่างของฝนที่เดินออกมาด้วยสีหน้าโกรธจัดและมีน้ำตาคลอเบ้า
“ที่พี่มาที่นี่… ไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม! พี่ตั้งใจมาหาพี่ทิพย์! พี่รู้อยู่แล้วว่าพี่ทิพย์เป็นพี่สาวของฝน… พี่ก็เลยแกล้งเข้ามาในชีวิตฝน!”
เอกตกใจกับคำกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง เขาพยายามจะอธิบายแต่ฝนก็พูดต่อด้วยความเจ็บปวด
“พี่กำลังเล่นอะไรอยู่ ฝนไม่ใช่ตัวตลกของใครนะ! ต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งกับฝนอีก! อยากจะทำอะไรก็ทำ อย่าใช้ฝนเป็นเครื่องมือ หรือเป็นสะพานให้พวกพี่!”
“ฝน... นี่มันเรื่องอะไรกันไปกันใหญ่แล้วนะ! คุยกันก่อนได้ไหม? ฟังพี่ก่อนได้ไหม? อย่าเพิ่งตัดสินทุกอย่างไปเองสิ เราโตแล้วนะ” เอกพยายามอ้อนวอน
“เออ! ฝนมันเด็ก! ฝนมันไม่โตสักที! พี่ก็อย่ามายุ่งกับเด็กน้อยอย่างฝนสิ! ไปยุ่งกับคนที่โตๆ ด้วยกันจะได้คุยกันรู้เรื่อง!”
เสียงของฝนสั่นเครือเต็มไปด้วยความน้อยใจและตัดพ้อ เธอเดินกลับเข้ากระท่อมไปและทิ้งให้เอกยืนอยู่คนเดียวอย่างสับสน
เอกได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง เขาสับสนและไม่เข้าใจในความคิดของฝนเลยแม้แต่น้อย ฝนได้ตัดสินไปแล้วว่าเขาเข้ามาในชีวิตเธอและพ่อเป็นเพราะพยายามตามหาทิพย์ โดยใช้เธอเป็นเครื่องมือ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลย เอกยืนมองประตูที่ปิดลงอย่างช้าๆ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับเธอได้ถูกเข้าใจผิดจนเกิดรอยร้าวที่ยากจะประสานแล้ว
กลับเป็นเหมือนทุกอย่างจบลงตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น เอกได้แต่ยืนถอนหายใจแล้วเดินกลับไปยังบ้านพัก...
นพพลเริ่มสงสัยตอนไหน?เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในงานแต่งงานของฟ้า ลูกสาวคนกลางของนพพล ที่นั่นนพพลได้เจอกับเอกเป็นครั้งแรก และรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู เขาจึงแลกช่องทางการติดต่อกับเอกไว้เมื่อรู้ว่าเอกต้องย้ายมาทำงานที่สาขาต่างจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นพพลจึงชวนเอกให้มาเช่าบ้านใกล้ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความสงสัยใดๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อน้ำที่บ้านแตก เอกได้เข้ามาช่วยซ่อมจนเสื้อผ้าเปียก นพพลจึงให้ฝนนำเสื้อมาให้เอกเปลี่ยน ขณะที่เอกถอดเสื้อ นพพลได้เห็นปานรูปใบหม่อนใต้ราวนมของเอก ซึ่งทำให้เขาตกใจและเริ่มสงสัยในตัวเอกอย่างมากหลังจากนั้น ในวันที่ฝนหมดสติและเอกโทรศัพท์ให้นพพลไปหาที่บ้าน ขณะที่เอกกำลังอุ้มฝนไปวางบนที่นอน นพพลได้แอบเข้าไปในห้องน้ำและเก็บเส้นผมรวมถึงแปรงสีฟันของเอกมา เพื่อนำไปตรวจ DNAนพพลจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เพราะเขาไม่อยากให้ประทินต้องผิดหวังหากผลตรวจออกมาไม่ใช่พ่อลูกกัน เขาอยากจะแน่ใจก่อนถึงจะบอกทุกคน เขาพยายามหาโอกาสให้ประทินได้พบกับเอกที่เขื่อน และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ประทินฟัง แต่โชคร้ายที่นพพลกลับพลัด
บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพ
เปลือกตาสีไข่ค่อยๆ ขยับ ก่อนที่นิ้วกลางจะกระตุกขึ้นอย่างแผ่วเบา พลอยใสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอกำลังจะฟื้น ฝนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นพลอยใสนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความสงสัยและความงุนงง ในใจเธอยังคงตั้งคำถาม "ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ?" ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนหมดสติคือภาพของเอกกับแม่ที่อยู่ข้างๆฝนหันไปถามพลอยใส "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วแกมาได้ยังไง?"พลอยใสไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดขึ้นเสียงสั่นเครือ "ฝน แกเป็นอะไร ทำไมแกไม่บอกฉัน! ทำไมถึงคิดแบบนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าถ้าแกเป็นอะไรไป จะมีคนอีกตั้งหลายคนที่เสียใจ...ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!" พลอยใสโผเข้ากอดเพื่อนรักที่กำลังอ่อนเพลียจนพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆทันใดนั้น ฟ้าเปิดประตูเข้ามา "ฝน! เป็นยังไงบ้าง? พี่ได้ข่าวก็รีบมาเลย ทำไมทำแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่!" ฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวแล้วร้องไห้ ฝนร้องไห้ตามอีกครั้ง กอดพี่สาวด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่ตัวเองต้องเผชิญ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร พลอยใสทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจ ก่อนจะหันไปมองฟ้าด้วยความไม่เข้า
ฝนกอดรองเท้าข้างน้อยของพ่อไว้แน่น ความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวด ด้วยความสิ้นหวัง รู้ตัวอีกที เธอก็ไปยืนอยู่ริมตลิ่งของเขื่อนชลประทาน สายตาเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างที่นิ่งสงบ ราวกับกำลังรอคอยที่จะกลืนกินความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอลงไป"พ่อ...หนูจะตามพ่อไป..." เธอพึมพำ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับพ่อฉายชัดขึ้นในหัว ภาพที่พ่อเคยยิ้มให้เธอ เคยโอบกอดเธออย่างอบอุ่น และภาพที่พ่อบอกว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแต่ตอนนี้...พ่อไม่อยู่แล้ว...และคนที่เธอรักก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดฝนค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปล่อยรองเท้าข้างน้อยของพ่อให้ร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำช้า ๆ ราวกับกำลังปล่อยความหวังสุดท้ายในชีวิตให้จมหายไปกับสายน้ำนั้น"ลาก่อน...ทุกอย่าง..."ในวินาทีนั้นเอง...เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทนต่อความเจ็บปวดอีกต่อไป ร่างของเธอค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปในน้ำอย่างเชื่องช้า น้ำที่เย็นเยียบไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกที่ร้อนรุ่มในหัวใจได้ เธอเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผืนน้ำค่อย ๆ กลืนร่างของเธอไปจนมิดและในตอนนั้นเอง...ทุกอย่างก็ดับลง...เธอรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้
"ผมไม่เข้าใจเลยครับคุณอา ท่าทีของนวลในตอนนั้น..."นวล มองซ้ายมองขวา เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ไม่ควรใช้เสียง นวลจึงรากเอกออกมา ยังบริเวณข้างนอกวอร์ด จาก สถานที่ ที่ห้ามรบกวนผู้ป่วยและ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกมองหน้าอาด้วยความสับสน ทั้งที่เขาชื่อเอก แต่ทำไมทุกคนถึงเรียกเขาว่า 'นนท์' นนท์เป็นใคร แล้วเอกคือนนท์ นนท์คือเอกจริงหรือ? ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ"ภาพความทรงจำเมื่อ 28 ปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในหัวนวล"วันนั้น เอก หรือ นนท์ ในวัยเด็กกำลังจะไปเยี่ยมน้องสาวคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนพร้อมกับพ่อ ขณะที่พ่อกับอาขอตัวไปทำธุระ เอกจึงต้องอยู่กับนวลที่โรงพยาบาลนวลพาน้องสาวตัวน้อยมาฉีดวัคซีน เอกเลยตามมาด้วย แต่แล้วพ่อของเอกก็ขอตัวไปทำธุระอีก ปล่อยให้เอกอยู่กับนวลและน้องสาวตัวน้อยลำพังขณะที่นวลกำลังติดต่อชำระเงินค่าบริการโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวเสียสติคนหนึ่งเดินมาอุ้มน้องสาวตัวน้อยไป เธอคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เอกเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามออกไปนั้นเอง รถคันหนึ่งก็เฉี่ยวเข้าที่ร่างของเอ
ฝนตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเอก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยังคงหลับใหลอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขาฝนเดินไปที่ระเบียงและมองออกไปยังวิวทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ความเหงาที่เคยมีในใจมาตลอด ฝนยืนมองวิวอยู่นาน ก่อนที่วงแขนแข็งแรงของเอกจะเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตที่ท้ายทอยแผ่วเบา"ฝนไม่หนีไปจากพี่จริงๆ ด้วย..." เอกพึมพำด้วยเสียงแหบพร่าในยามเช้า ฝนจึงหันไปมองเขาแล้วซบหน้าลงกับแผงอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างออดอ้อน"จะให้ฝนหนีไปจากความโรแมนติกของพี่เอกได้ยังไงคะ" เธอกระซิบตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เอกหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่นขึ้น"พี่รักฝนนะครับ""ฝนก็รักพี่เอกค่ะ...รักหมดหัวใจเลย"เอกก้มลงจูบฝนอย่างดูดดื่มอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่"พี่เอกคะ... กลับจากที่นี่ เราเข้าไปหาแม่ของฝนดีไหมคะ"เอกที่กำลังกอดเธออยู่จากด้านหลังคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธออย่าง







