Share

กลที่ 5

last update Last Updated: 2025-12-02 17:59:50

เวลาดึกสงัดคืนนั้น

ณ เพิงเล็กๆ บนต้นไม้ในป่าท้ายไร่เศรษฐกร

เตชทัตพาพวกตนุภัทรมาถึงไม่นาน เสียงผิวปากก็ดังมาจากข้างล่างสองครั้ง นี่เป็นสัญญานที่คนของเขาต้องส่งให้ก่อนจะขึ้นมา พอเขาผิวปากยาวๆ ตอบกลับไป ชายสี่คนก็ไต่บันไดขึ้นมาทันที ที่เพิงนี้ไม่มีไฟสว่าง อาศัยแสงจันทร์พอมองเห็นกันรางๆ คนมาใหม่หน้าตาดูธรรมดามาก แต่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย รับหน้าที่จับตาดูเสี่ยวงศกรมาสักพักแล้ว

เมื่อมากันครบแล้ว เตชทัตจึงถามเข้าเรื่องอย่างไม่เสียเวลา “มีข่าวอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้พวกมันเคลื่อนไหวบ้างไหม”

หนึ่งในสี่คนนั้นตอบทันที “ไม่มีเลยครับ เหมือนทางนั้นจะระวังตัวมากขึ้น อาจเริ่มสงสัยอะไร หรือไม่ก็กำลังจะทำงานใหญ่”

“อย่าประมาท จับตาดูไว้ให้ดี มันนิ่งมานานแล้ว คงจะเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้แน่นอน” เขาสั่งกำชับ พอนึกถึงเรื่องในวันนี้จึงเสริมไปอีก “บางทีมันอาจจะยุ่งเรื่องที่ดินท้ายไร่รุ่งรวินท์ บ่ายนี้เกิดเรื่องไม่ค่อยดีกับคนของไร่นั้นด้วย”

คนบางคนได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคนของไร่รุ่งรวินท์ก็มุ่นคิ้วถามทันที

“เกิดเรื่องไม่ดีกับคนของไร่รุ่งรวินท์? เรื่องอะไรวะ”

เตชทัตปรายตามองน้องชายแวบหนึ่ง ก่อนบอก “ขิงหอมเกือบโดนวายุฉุดไปกลางทาง”

“อะไรนะ!”

“ไม่ต้องห่วง กูผ่านไปช่วยไว้ทันพอดี”

“อ้อ แล้วมันทำอะไรยายนั่นหรือเปล่า เป็นอะไรมากไหม” ตนุภัทรถามแบบเก็บสีหน้า

“น่าจะตกใจกลัวอยู่” ทั้งที่พูดถึงพิชานันท์ แต่เตชทัตกลับไม่ได้นึกถึงหน้าเธอเลย ดันนึกถึงหน้าหวานๆ ของผู้หญิงอีกคนที่ฝีมือไม่หวานเหมือนหน้าคนนั้น

“ไอ้เหี้ยนั่น!”

เตชทัตส่ายหน้ามองน้องชายที่หลุดสบถด่าออกมา เพราะรู้ว่ามันจะออกอาการแบบนี้ เขาจึงให้มันตามมาด้วย จะพูดให้จบทีเดียว คิดแล้วก็เอ่ยกับตนุภัทร “อีกไม่กี่วันลุงสินจะไปต่างประเทศ ไม่รู้ทางนั้นจะวางแผนดูแลไร่กันยังไง เดี๋ยวกูคงต้องเข้าไปคุยกับลุงสินสักหน่อย เผื่อให้แกยืมคนไปช่วยดูแล”

“เข้าท่านะ” ตนุภัทรพยักพเยิดบอก “แต่คนของเราจะพอเหรอ”

“กูเรียกขึ้นมาหมดแล้ว พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมไปรับคนที่สนามบิน”

ประโยคหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มหันไปบอกพวกพยัคฆ์หมอบทั้งสี่คนที่ขึ้นมาทำงานให้ก่อน ส่วนคนอื่นๆ เพิ่งถูกเรียกตามมาตอนนี้

ในเมื่อยังไม่มีความคืบหน้า คืนนี้ก็คงไม่มีเรื่องให้ทำแล้ว เตชทัตโบกมือไล่ลูกน้อง “แยกย้ายกันไปพักเถอะ มีอะไรคืบหน้าให้รายงานเข้ามาทันที”

สี่คนนั้นค้อมหัวรับคำสั่งแล้วไต่บันไดหายลงไปกับความมืดอย่างรวดเร็ว

“โห ไปไวมาไวจริงๆ” ตนุภัทรเพิ่งจะห่อปากพูดขึ้น หางตาก็เห็นเตชทัตกับคนสนิทตามสี่คนนั้นลงไปติดๆ “อ้าว! รอกูด้วยสิ! ให้ตาย! แม่งเหมือนกันทั้งนายทั้งลูกน้อง!”

สามวันแล้วที่ชญานินมาพักอยู่ในไร่รุ่งรวินท์

ในที่สุดวันนี้เจ้าถิ่นก็พาเธอออกมาเที่ยวสักที โดยได้ชาติชายเป็นคนขับรถและคนดูแลความปลอดภัยให้เอง

จุดหมายแรกของพวกเธอคือวัดพระธาตุดอยตุง ปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย ภายในพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้ายหรือกระดูกไหปลาร้าของพระพุทธเจ้าเอาไว้

พิชานันท์ทำหน้าที่ไกด์พาเดินชมความเก่าแก่รอบๆ วัดเอง กว่าจะออกมาก็เกือบเที่ยงวัน พวกเธอตัดสินใจไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านดังริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นร้านของรุ่นพี่ที่พิชานันท์รู้จักด้วย บรรยากาศแบบล้านนาผสานความเป็นยุคสมัยใหม่ สร้างความพึงพอใจให้ชญานินไม่น้อย โต๊ะที่นั่งก็ติดแม่น้ำ รับลมเย็นๆ ได้เต็มที่เลย

เข้ามานั่งได้สักพัก เจ้าของร้านก็เดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง

“มาไม่บอกเลยนะ” ไตรภพยีผมนุ่มของพิชานันท์เบาๆ ก่อนจะทักทายชาติชายที่ถูกสองสาวบังคับให้มาร่วมโต๊ะด้วยอย่างคุ้นเคย แล้วนั่งลงข้างๆ เสียเลย

เมื่อเห็นรุ่นพี่มองชญานินอย่างสนใจ พิชานันท์จึงแนะนำยิ้มๆ “นี่เพื่อนขิงเองค่ะ ชื่อนิน พี่ไตรรู้จักไว้สิ มาคราวหน้าก็ให้ส่วนลดเยอะๆ เลย”

“ขอให้มาจริงๆ เถอะ” ไตรภพยิ้มแนะนำตัวกับชญานิน “ไตรภพครับ ยินดีที่ได้รู้จัก หิวก็แวะมาร้านพี่ได้ตลอดนะ”

ชญานินยิ้มรับ “ร้านบรรยากาศดีน่านั่งแบบนี้ ถ้ามีโอกาส ต้องมาอีกแน่นอนค่ะ”

“ร้านเราบรรยากาศเป็นแบบล้านนาประยุกต์ครับ เน้นให้ลูกค้าได้สัมผัสกับธรรมชาติของที่นี่” พูดถึงตรงนี้ พนักงานก็เดินมารับรายการอาหาร เขาจึงไม่อยู่กวนพวกเธออีก “สั่งตามสบายเลยนะ พี่ไม่กวนแล้ว”

พิชานันท์เห็นไตรภพลุกขึ้นก็ทำหน้างอถาม “อะไรกัน จะไปแล้วเหรอคะ ไม่นั่งคุยกับขิงก่อนล่ะ”

“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวมีข่าวหลุดไปละยุ่งเลย”

“ข่าวหลุดอะไรคะ?”

“ช่างเถอะ พอดีพี่ต้องไปดูโต๊ะอื่นด้วย ไปก่อนนะ” ไตรภพตัดบทยิ้มๆ ไม่รู้อะไรก็เชิญไม่รู้ต่อไปเถอะ ชายหนุ่มคิดอย่างระอาใจ ก่อนหันไปยิ้มลาชญานินกับชาติชายง่ายๆ แล้วค่อยเดินหนีมา

“อะไรของเขา” พิชานันท์บ่นตามหลังรุ่นพี่งงๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะอยากรู้อีกเรื่องมากกว่า ร่างเล็กนั่งลงยิ้มถามชญานิน “เป็นไง รุ่นพี่เรา งานดีมะ?”

“นี่จะเชียร์รุ่นพี่ให้นินเหรอ” ชญานินเห็นสายตาคนถามแล้วพอจะเดาออกว่าคิดอะไรอยู่ จึงส่ายหน้าบอก “ไม่ต้องมาจับคู่ให้เลยค่ะ”

“ชิ! ถ้าได้พี่ไตรหรือพ่อเลี้ยงแถวนี้เป็นแฟนนะ วันหน้านินอาจจะได้ย้ายมาอยู่ทางนี้ เราก็จะได้เจอกันบ่อยๆ เลยไง”

“เรื่องแบบนี้มันบังคับกันได้ที่ไหน แล้ววันหน้าน่ะ ไม่มีหรอก แค่มาเที่ยวนี่ คุณชายที่บ้านยังวีนแตก”

นึกถึงพี่ชายขี้หวงของชญานิน พิชานันท์ก็ได้แต่หน้ามุ่ย อยากรู้จริงๆ ถ้าชญานินหาแฟนทางนี้ไปฝาก เมวินจะทำยังไง

คิดแล้วสาวตัวเล็กก็หัวเราะคิก พยักพเยิดบอกเพื่อน “ช่างเถอะๆ เราสั่งอาหารกันดีกว่า”

ชญานินตอบรับทันที “มีเมนูแนะนำอะไรบ้าง สั่งมาเลย หิวไส้จะขาดแล้วเนี่ย”

“งั้นเอาแกงอ่อม คอหมูย่าง น้ำพริก...”

หลังจากสั่งไปครู่ใหญ่ อาหารมากมายก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟ คนที่รออยู่เห็นจำนวนอาหารทั้งหมดแล้วพากันกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ทั้งอยากกินและนึกหวั่นว่าจะจัดการพวกมันหมดหรือเปล่า

“สั่งมาเยอะแบบนี้จะไหวเหรอเรา”

“ไม่ต้องห่วง ถึงขิงหอมคนนี้จะตัวเล็ก แต่เรื่องกินถึงไหนถึงกัน!”

หลังใช้เวลาอยู่ในร้านอาหารไปเกือบชั่วโมง พวกเธอจึงเดินทางไปยังพระตำหนักคอยตุง ที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวงต่อ

พอมาถึงพระตำหนักนี้ พิชานันท์ไม่ต้องทำหน้าที่ไกด์แล้ว เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการแนะนำว่าพระตำหนักที่ผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ เคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ หรือสมเด็จย่าของคนไทยมาก่อน ตามเชิงชายและขอบหน้าต่างของพระตำหนักแกะสลักแบบกาแลเป็นลวดลายต่างๆ เอาไว้อย่างสวยงามทีเดียว

พอเจ้าหน้าที่พาไปถึงระเบียงด้านหลัง พวกเธอก็เห็นทัศนียภาพของดอยตุงที่เต็มไปด้วยธรรมชาติงดงาม เดินจากส่วนนั้นมาด้านหน้าก็จะเป็นสวนแม่ฟ้าหลวง มีดอกไม้เมืองหนาวอยู่มากมาย ทั้งดอกซัลเวีย ดอกพิทูเนีย ดอกบีโกเนีย ดอกกุหลาบ และดอกลำโพง ยิ่งเป็นฤดูหนาวแบบนี้ พวกดอกไม้ต่างๆ ยิ่งเบ่งบานชูช่อสวยงามแข่งกัน

พิชานันท์เองถึงแม้จะอยู่ไม่ไกล แต่กลับไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาเที่ยวเลย พอได้มาเห็นภาพดอกไม้ชูช่อออกดอกสวยแบบนี้ ก็อดนึกไม่ได้ ว่าถ้ามากับคนรักคงจะโรแมนติกน่าดู

พอคิดว่ามากับคนรัก ใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งก็โผล่มาในหัว เธอรีบสะบัดหน้าไล่ออกไปอย่างตกใจ

ชญานินเห็นเข้าก็ถามอย่างแปลกใจ “เป็นอะไร แมลงเหรอ แล้วทำไมหน้าแดงแบบนั้น โดนกัดเหรอ”

“เปล๊า!”

“เปล่าก็เปล่าสิ ปฏิเสธเสียงสูงแบบนี้ เธอมีพิรุธนะ”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่เผลอคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ” พิชานันท์ว่าพลางดึงเพื่อนไปขึ้นรถที่ชาติชายขับมาจอดรอ ทำเป็นถามเปลี่ยนเรื่องว่าอยากไปที่ไหนอีก

“นี่ก็บ่ายแก่เต็มที นินว่าเรากลับกันเลยดีกว่า ค่อยมาเที่ยวต่อกันวันหลังก็ได้ นินยังอยู่อีกหลายวันนะ”

เมื่อชญานินพูดมาเช่นนี้ พิชานันท์จึงไม่ได้หาที่เที่ยวต่อ บอกให้ชาติชายกลับไร่เลย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 6

    เมื่อกลับมาถึงไร่ก็พอดีกับสินธร พ่อของพิชานันท์กลับจากทำงานในไร่ แม้เรื่องดักฉุดจะผ่านมาสองสามวันแล้ว แต่สินธรยังอดห่วงไม่ได้จริงๆ จึงเรียกสองสาวไปถามไถ่“ไปเที่ยวกันมาสนุกไหมลูก ไม่มีใครมาวุ่นวายด้วยอีกนะ”“ไม่มีเลยค่ะ” พิชานันท์ส่ายหน้าบอกทันที “พวกมันไม่ทำเรื่องเดิมๆ หรอก น่าจะคิดได้ ว่าถ้ามีอะไรขึ้นกับพวกเรา ตัวเองจะถูกสงสัยเป็นคนแรก”“ไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้ว อีกไม่กี่วันพ่อต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่รู้พวกมันจะฉวยโอกาสมาเล่นงานเราตอนนั้นไหม ถ้าไม่ใช่งานสำคัญจริงๆ พ่อคงเลื่อนออกไปแล้ว” พ่อเลี้ยงวัยกลางคนพูดอย่างกังวล แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ ไม่ง่ายเลยที่จะนัดเจรจากับคู่ค้าคนนี้ ถ้าเจรจาตกลงร่วมงานกันได้ ไร่รุ่งรวินท์จะได้ทั้งกำไรและช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น เขาเลยเลื่อนนัดออกไปไม่ได้จริงๆพิชานันท์ไม่อยากทำให้บิดาเป็นห่วง รีบบอกด้วยสีหน้าขึงขังเลยทีเดียว “พ่อไม่ต้องห่วง ขิงรับรองว่าช่วงที่พ่อไม่อยู่ ขิงจะไม่ดื้อไม่ซนเลย”“ให้มันจริงเถอะ เราน่ะตัวดี!” สินธรว่าอย่างรู้นิสัยกันดี “พ่อไปตั้งหลายวัน ไม่มีคนคุมแบบนี้ จะก่อเรื่องอะไรบ้างก็ไม่รู้”“โธ่! ขิงไม่ก่อเรื่องหรอกน่า”“สัญญากับพ่อก่อนว

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 5

    เวลาดึกสงัดคืนนั้นณ เพิงเล็กๆ บนต้นไม้ในป่าท้ายไร่เศรษฐกรเตชทัตพาพวกตนุภัทรมาถึงไม่นาน เสียงผิวปากก็ดังมาจากข้างล่างสองครั้ง นี่เป็นสัญญานที่คนของเขาต้องส่งให้ก่อนจะขึ้นมา พอเขาผิวปากยาวๆ ตอบกลับไป ชายสี่คนก็ไต่บันไดขึ้นมาทันที ที่เพิงนี้ไม่มีไฟสว่าง อาศัยแสงจันทร์พอมองเห็นกันรางๆ คนมาใหม่หน้าตาดูธรรมดามาก แต่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย รับหน้าที่จับตาดูเสี่ยวงศกรมาสักพักแล้วเมื่อมากันครบแล้ว เตชทัตจึงถามเข้าเรื่องอย่างไม่เสียเวลา “มีข่าวอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้พวกมันเคลื่อนไหวบ้างไหม”หนึ่งในสี่คนนั้นตอบทันที “ไม่มีเลยครับ เหมือนทางนั้นจะระวังตัวมากขึ้น อาจเริ่มสงสัยอะไร หรือไม่ก็กำลังจะทำงานใหญ่”“อย่าประมาท จับตาดูไว้ให้ดี มันนิ่งมานานแล้ว คงจะเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้แน่นอน” เขาสั่งกำชับ พอนึกถึงเรื่องในวันนี้จึงเสริมไปอีก “บางทีมันอาจจะยุ่งเรื่องที่ดินท้ายไร่รุ่งรวินท์ บ่ายนี้เกิดเรื่องไม่ค่อยดีกับคนของไร่นั้นด้วย”คนบางคนได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคนของไร่รุ่งรวินท์ก็มุ่นคิ้วถามทันที“เกิดเรื่องไม่ดีกับคนของไร่รุ่งรวินท์? เรื่องอะไรวะ”เตชทัตปรายตามองน้องชายแวบหนึ่ง ก่อนบอก “ขิงหอมเกือบโดนวายุฉุ

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 4

    ‘ไร่เศรษฐกร’ เป็นไร่ชาเก่าแก่ของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนเขาที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ในไร่ส่วนใหญ่ปลูกต้นชาเป็นทิวแถว อีกส่วนหนึ่งยังมีสภาพเป็นป่าเขาเหมือนเดิม ด้วยมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ชาของไร่นี้จึงมีคุณภาพดีมาก เป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบชาทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ ‘ชาเศรษฐกร’ หรือที่คนเก่าแก่ละแวกนี้เรียกกันว่า ‘ชาเศรษฐี’ นั่นละปัจจุบันไร่เศรษฐกรคือผู้ผลิตชาที่ดีที่สุดของเมืองไทย แต่ละปีทำยอดสั่งซื้อทั้งในและนอกประเทศได้หลายสิบล้านบาท โดยการบริหารจัดการของพ่อเลี้ยงเตชทัต เศรษฐกร ชายหนุ่มหน้าเข้มวัย 32 ปีหลังก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนบิดาอย่างเต็มตัว เตชทัตได้บุกเบิกการทำไร่ชาแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา ขยายพื้นที่นำชาสายพันธุ์ดีๆ มาลงปลูก แปรรูปส่งออกไปตีตลาดชาฝรั่ง สร้างชื่อเสียงและเม็ดเงินมาสู่ไร่แบบทวีคูณ เมื่อขยายตลาดชาประสบความสำเร็จแล้ว เขายังหันมาสนใจเรื่องการทำไร่หมุนเวียน แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวหมุนเวียนไปตามฤดูกาล แบ่งเอาผลผลิตส่วนหนึ่งมาใช้บริโภคภายในไร่เอง อีกส่วนส่งออกไปขาย สร้างรายได้อีกทาง ทุกวันน

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 3

    เจอกระสุนเฉียดหูไป วายุรู้เลยว่าอยู่ต่อก็ไม่ได้อะไร เขาจึงถลึงตาตวาดบอกคนยิงใส่ว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” แล้วหมุนตัวเดินกลับมาขึ้นรถทันที ฝ่ายลูกน้องรีบพยุงกันเดินตาม แต่เดินยังไม่ถึงรถ เสียงเย็นชาก็ดังไล่หลังมา“อย่าฝากไว้นานนะ เดี๋ยวจะขึ้นสนิม”“...!”คล้อยหลังพวกวายุจากไป ชญานินพลันได้สติ รีบสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดของคนหน้าเข้มที่แล่นออกไปให้แน่ใจว่าจะไม่ย้อนมาอีก เขาก้มมองเธอเล็กน้อย ก่อนคลายแขนออกให้“ไม่อยากจะจับนักหรอก”ชญานินแค่นยิ้มลูบแขนตัวเองป้อยๆไม่อยากจับ?แต่จับซะแขนเธอเป็นจ้ำเลยนะ!ท่าทางของเธอทำให้พิชานันท์เข้ามาถามเสียงร้อนรน “เจ็บเหรอ!”“นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”พิชานันท์ยังคงกวาดตามองจนแน่ใจว่าเพื่อนไม่เป็นไรจริงๆ จึงหันไปพูดกับคนมาช่วยพวกตนเอาไว้ “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ได้ผ่านมาช่วยไว้ พวกเราคงแย่แน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพยักหน้าบอก “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”“เกือบเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะหันมาแนะนำให้เพื่อนรู้ว่าเขาเป็นใคร “นินสงสัยแย่แล้วใช่ไหม นี่คือพ่อเลี้ยงเตชทัต เจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยเลยนะ” ว่าแล้วก็หันไปเอ่ยกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม “นี่เพื่อนของขิงเองค่

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 2

    จากตรงนี้ไปหาไร่รุ่งรวินท์ห่างกันไม่ไกล ถ้าขอความช่วยเหลือจากคนที่ไร่ น่าจะทันอยู่ พิชานันท์จำได้ว่าพ่อไปติดต่องานในเมือง แต่ยังมีหัวหน้าคนงานอยู่ติดไร่เสมอ เธอจึงกดมือถือโทรหาอีกฝ่ายทันที พอเขารับสายก็รัวบอกเลย “น้าชาติรีบออกมาหาขิงด่วนเลยค่ะ ตอนนี้ขิงอยู่ก่อนถึงไร่เราไม่มาก วายุมันพาคนมาดักรออยู่ ไม่รู้คิดจะทำอะไร รีบออกมาเลยค่ะ!”(“อะไรนะครับ! คุณหนูไม่ต้องห่วง ผมจะรีบพาคนไปเดี๋ยวนี้!!”)“เร็วๆ นะคะ” บอกแค่นั้นแล้วพิชานันท์ก็วางสายทันที หันมาพูดกับชญานินด้วยความไม่แน่ใจ “อีกเดี๋ยวคนที่ไร่จะมารับ เราต้องยื้อเวลาไว้ จะไหวไหมเนี่ย”ไหวหรือเปล่าไม่รู้ แต่พอวายุเดินนำลูกน้องมาหา และส่งนักเลงคนนั้นมาบอกให้พวกเธอลงจากรถได้แล้ว พวกเธอก็ทำได้สูดหายใจเข้าลึกๆ สบตาให้กำลังใจกันแวบหนึ่ง ก่อนจะลงจากรถแบบนิ่งๆการออกมาเผชิญหน้ากับผู้ชายตัวใหญ่สี่ห้าคนกลางถนนโล่งๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี แต่อยู่ในรถก็ไม่ดีเช่นกัน ถ้าพวกมันเข้ามาทุบหรือขับรถชน แล้วลากไปทั้งรถทั้งคนก็น่ากลัวเหมือนกัน ฉะนั้นลงมาคุยถ่วงเวลารอคนมาช่วยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นยังวิ่งหนีได้...จะหนีรอดหรือเปล่าก็อีก

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 1

    “หมายความว่าไง ลาพักร้อนอย่างนั้นเหรอ!” เสียงลูกชายคนโตของบ้านกฤตพัฒน์ดังลั่น เมื่อได้ฟังน้องสาวคนเดียวบอกว่าต้องการลาไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่เชียงราย“พี่วินจะตะโกนเสียงดังทำไมคะ” ชญานินมองค้อนขวับใส่พี่ชายด้วยใบหน้าแสนงอน แค่เธอจะลาไปเที่ยวนี่มันเรื่องใหญ่ขนาดต้องตะโกนลั่นบ้านเลยหรือไงเมวินขึงตาบอก “ไม่ให้ลา!”“นินจะลา”“ชญานิน”“เอาน่า วินจะอะไรกับน้องนักหนา ปล่อยน้องไปบ้าง” คุณชลวิภาที่นั่งมองอยู่เอ่ยขัดด้วยสีหน้าอ่อนใจ ทำให้คุณอิทธิราชพยักหน้าว่าตามทันที“นั่นน่ะสิ แกก็ปล่อยๆ น้องไปบ้างเถอะ”เมวินทำตาโตมองพ่อ “แต่น้องจะไปเที่ยวถึงเชียงรายเลยนะครับ ไปคนเดียวด้วย จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง น้องเป็นผู้หญิงนะครับพ่อ!”“พ่อก็ห่วงน่า”“แม่ก็ห่วง แต่เราต้องให้น้องได้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง จะไปกำหนดชีวิตน้องไม่ได้นะลูก น้องมีชีวิตของน้อง วินเข้าใจที่แม่พูดหรือเปล่า” คุณชลวิภาไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงหวงน้องหนักแบบนี้ หวงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนตอนนี้ชญานินโตเป็นสาวแล้วก็ยังหวง น้องสาวเลยโสดสนิท ทั้งที่หน้าตาฐานะก็ออกจะเพรียบพร้อม“...” พอไม่มีใครเข้าข้าง เมวินก็ได้แต่ทำหน้าบูด ไม่พูดไม่จาชญานิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status