แชร์

บทที่ 12 ตอบแทน

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 10:07:07

บทที่ 12 ตอบแทน

หลังจากนั้นยูร์เหยาได้เอ่ยถามเรื่องราวระหว่างที่นางถูกจับโยนทิ้งหน้าผาเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมใบหน้าของนางถึงเปลี่ยนไป ยามนี้เจียวเหมยมั่นใจแล้วว่ายูร์เหยาสามารถเชื่อใจได้จึงเล่าทุกอย่างให้นางได้รับรู้จนหมดและแผนการที่นางกลับมาในครั้งนี้ ยูร์เหยานางจงรักภักดีจึงรับปากจะช่วยเหลือเจียวเหมยทุกอย่างไม่ว่านางจะทำอันใดนางจะอยู่ข้างกายแม้ตายก็ไม่กลัวเช่นกัน

เมื่อทั้งสองพูดคุยกันจนตะวันเริ่มคล้อยต่ำจวนจะถึงมื้ออาหารเย็นยูร์เหยาจึงแจ้งเรื่องที่เยว่เผิงออกไปตลาดวันนี้

“จริงสิ!วันนี้ข้าได้ยินสาวใช้นางอื่นเอ่ยกันว่าฮูหยินออกไปด้านนอกเพราะไปซื้อยาต้มบำรุงร่างกายให้ตนเองตั้งครรภ์ด้วยล่ะ”

“ฮื้ม! นางอยากตั้งครรภ์หรือ? ไม่ได้ข้าจะให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ เจ้าช่วยไปหาปาโต๊ว เซียนหนิว เหยียนฮวา ซานหลิง ชนิดใดชนิดหนึ่งมาให้ข้าทีเอาที่ตากแห้งไว้แล้ว ข้าจะนำมาบดให้ละเอียดและช่วยนำไปสลับเปลี่ยนกับยาที่นางต้มดื่ม” เจียวเหมยจำได้ดีคำพูดของไป๋ฉีที่บอกนางเกี่ยวกับยาสมุนไพร และยาพิษบางตัวอาจจะใช้รักษาร่างกายได้แต่ถ้ามากเกินไปอาจจะเป็นพิษต่อร่างกาย โชคดีอีกอย่างคือหญ้าสมุนไพรนี้เสมือนหญ้าตัวเดียวกับที่เยว่เผิงนำมาต้มดื่ม หากไม่มีความรู้มิอาจจะรู้ได้ว่ามิใช่หญ้าสมุนไพรตัวเดียวกัน นางกระซิบข้างหูของยูร์เหยาเมื่อนางได้ยินก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินออกไปหาหญ้าตามที่เจียวเหมยสั่ง

“ข้าคิดว่าข้าจะเข้าหาหยางตงฉวนอย่างช้า ๆ แต่ดูท่าเยว่เผิงคงคิดเช่นเดียวกันว่าข้าจะต้องเข้ามาเป็นอนุของหยางตงฉวนแน่ ๆ นางถึงอยากตั้งครรภ์เพื่อมัดใจและให้บุตรของนางมารับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล ฮึ! ข้าไม่มีทางยอมให้แผนของเจ้าสำเร็จหรอก คืนนี้ข้าจะต้องไม่ให้เจ้ากับหยางตงฉวนได้อยู่ด้วยกัน” ดวงตาดำควับแสยะยิ้ม ก่อนจะเดินไปที่ห้องอาบน้ำเตรียมแช่น้ำล้างกายโรยดอกไม้นานนาชนิดที่ส่งกลิ่นหอมให้แก่ร่างกาย ก่อนจะลงไปแช่นางพลางครุ่นคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

ยามโหย่ว (18.00)

หลังจากที่ยูร์เหยากลับมานางแจ้งเรื่องหญ้าที่เจียวเหมยให้หามายามนี้ถูกส่งไปยังห้องครัวแล้ว และได้ยินจากสาวใช้ของเยว่เผิงว่าคืนนี้นางจะไปตามท่านใต้เท้าให้มาหาฮูหยินที่ห้องของนาง เมื่อเจียวเหมยได้ยินจึงได้เอ่ยถาม

"ยามนี้หยางตงฉวนอยู่ที่ใด"

"ยามนี้นายท่านยังอยู่ที่ห้องอ่านตำราเจ้าค่ะ "

"ข้าจะไปที่นั่นก่อนที่ซูหยวนจะไปที่นั่นวันนี้เจ้าทำดีมากไปพักผ่อนเถิดต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของข้า "

"เจ้าค่ะ " เอ่ยจบเจียวเหมยลุกขึ้นเดินตรงไปที่ห้องอ่านตำราทันที

ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นหยางตงฉวนเงยหน้าขึ้นจากตำรา เหลียวมองไปยังประตู

"คงเป็นเยว่เผิงสินะ! ข้ามัวแต่อ่านตำราทำงานที่ฝ่าบาทมอบหมายมาจนลืมไปกินอาหารเย็นกับนาง " เขาปิดหนังสือลงเดินไปหน้าประตูเพื่อเปิดประตูให้แก่ผู้ที่มาเยือนเพราะยามที่เขาทำงานมักจะไม่ให้ผู้อื่นมารบกวนมักจะลงกลอนประตูไว้เสมอ

ครั้นประตูเปิดออกกลับมิใช่เยว่เผิงแต่เป็นใบหน้าหวานหยดย้อยยิ้มระเรื่อของเจียวเหมยต่างหาก

"เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าให้พักอยู่แต่ที่ห้องไม่ให้ออกไปทางใดจนกว่าเท้าเจ้าจะหาย"

"ท่านใต้เท้าข้าไม่เจ็บสักนิด ข้ามาหาท่านที่นี่เพราะข้าคิดถึงท่าน คิดถึงเรื่องตอบแทนบุญคุณจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ " เจียวเหมยใช้นิ้วชี้จิ้มเข้าไปที่อกแกร่งค่อย ๆ ไล่ลงต่ำไปเรื่อย ๆ เขาเห็นสีหน้าท่าทางรู้ได้ในทันทีว่านางมาหาเขาครั้งนี้ด้วยเจตนาใด หยางตงฉวนเฝ้ารอเวลานี้มานานอีกอย่างนางเป็นผู้เข้าหาเขาเองมิใช่เขาที่ข่มขู่หรือขืนใจ คนมักมากในกามอย่างเขาหรือจะทนไว้ที่ถูกสตรีงดงามยั่วยวนเขารีบดึงร่างกายของนางเข้ามาด้านในก่อนจะลงกลอนประตูอย่างแน่นหนาอีกครั้ง พลางดึงร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนมิให้นางได้ดิ้นหนี

"อุ้ย! ทำไมท่านใต้เท้าถึงได้โอบกอดข้าแน่นอย่างนี้เจ้าคะ"

"ข้ากลัวว่าเจ้าจะหนีข้านะสิ เจ้าเข้ามาหาข้าอย่างนี้คงไม่กลัวหรอกใช่มั้ย? ดูท่าเจตนาของเจ้าคงเป็นอย่างที่ข้าคิดสินะ" เจียวเหมยยิ้มหวานใช้นิ้วมือแตะที่ริมฝีปากของเขายอย่างเบามือค่อย ๆ ลูบไล้ไปมาพร้อมจ้องมองด้วยสายตายั่วเย้า

"ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้ามิกลัวและจะไม่หนีท่านไปทางใดแน่นอนคืนนี้ข้าตั้งใจมาตอบแทนท่านช่วยเมตตาข้าด้วยนะเจ้าคะ" หยางตงฉวนอารมณ์พลุ่งพล่านเมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบานิ้วมือที่แตะอยู่ที่ริมฝีปากของเขา

"ได้สิข้าจะทะนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดี" มือข้างซ้ายของเขากอดรัดเอวของนางแน่นขึ้นมากกว่าเดิมก่อนจะใช้มือข้างขวาจับท้ายทอยของนางไม่ให้ดิ้นหนีค่อย ๆ ก้มมาจุมพิตอย่างดูดดื่มสัมผัสปลายลิ้นตวัดชิมรสหวานหอมหวานของนางจนทำให้นางแทบขาดใจไม่คิดว่ารสสวาทของหยางตงฉวนจะรุนแรงเช่นนี้ จนนางต้องใช้มือผลักกายของเขาออกก่อนที่นางจะหายใจไม่ออก

“แฮ่ก ๆ ไหนท่านใต้เท้าบอกว่าจะทะนุถนอมข้าอย่างไรเจ้าคะเพียงแค่จูบของท่านทำให้ร่างกายของข้าร้อนรุ่มยิ่งกว่าถูกเปลวไฟเผาไหม้เสียอีก”

“ไม่รู้สิเพราะเจ้าเย้ายวนข้าเสียจนตั้งสติควบคุมตนเองไม่ได้ เจียวเหมยข้าทนไม่ไหวแล้ววันนี้ข้าจะมอบความสุขความหอมหวานและเปลวเพลิงของแท้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นต่อจากนี้” พูดจบเขาประกบจูบนางอย่างเร้าร้อนรุนแรงร่างบางไร้เรี่ยวแรงอ่อนระทวยมือของเขาไม่อยู่นิ่ง ค่อย ๆ คืบคลานปลดอาภรณ์ของนางออก ใช้มือลูบไล้ตั้งแต่บ่าไหล่ลงต่ำไปเรื่อย ๆ จนถึงเนินเขาที่งดงามภายใต้เสื้อตู้โต้ว ร่างกายของทั้งสองเริ่มร้อนระอุจากไฟราคะที่กำลังก่อตัว

ภายในห้องมีเพียงเสียงหอบเหนื่อยกระเส่าเสียงครวญครางออกมาจากลำคอของนาง เขาถอดถอนริมฝีปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มหายใจติดขัดอีกครั้ง

“แฮ่ก แฮ่ก”

“เจ้างดงามเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือแม้แต่ร่างกายผิวพรรณของเจ้าช่างแตกต่างจากสาวใช้ในเรือนด้วยซ้ำหากข้าไม่รู้คิดว่าเจ้าเป็นบุตรสาวของขุนนางเสียอีก” แม้ปากจะเอ่ยแต่ทว่ามือของกำลังถอดเสื้อตู้โต้วของนางอย่างช่ำชอง

“ท่านใต้เท้าเอ่ยชมข้าเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” เจียวเหมยใบหน้าแดงระเรื่อสองมือยกขึ้นโอบกอดคอของเขาส่งยิ้มอย่างเขินอาย

“ข้าเอ่ยมาล้วนเป็นความจริง วันนี้ข้าขอเชยชมเจ้าให้หนำใจ” เอ่ยจบอุ้มเจียวเหมยไปยังเตียงนอนที่อยู่ในห้องอ่านตำรา และพานางเสพสุขอย่างที่ใจหวัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 30 หวนคืนที่เดิม

    บทที่ 30 หวนคืนที่เดิมหลายวันต่อมาร่างกายของทั้งคู่เริ่มอ่อนล้าความเจ็บปวดที่ถาโถมทุกวัน บาดแผลเริ่มเน่าเปื่อยกลิ่นในห้องเหม็นเน่าของเนื้อ แมลงที่บินมาตอมจนแผลเกิดหนอนซอนไซ ทั้งสองเจ็บร้าวไปจนถึงกระดูกจนกระทั่งเยว่เผิงนางไม่สามารถทนความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้หมดลมหายใจในที่สุด ส่วนเจียวเหมยนางได้กลับไปพักอยู่ที่ห้องเดิมของนาง เมื่อเข้ามาด้านในเห็นว่าเยว่เผิงหมดลมไปแล้วนางไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย ในที่สุดนางก็ได้แก้แค้นอย่างสาสมเหลือเพียงหยางตงฉวนที่ยังนอนพะงาบ พะงาบเน่าเปื่อยอยู่บนเตียง เจียวเหมยสั่งการให้ยูร์เหยาเรียกบ่าวรับใช้มานำร่างของเยว่เผิงนำออกไปทิ้งใช้ผ้าคุมร่างและบอกให้แพร่งพรายออกด้านนอกว่าฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลจางติดเชื้อโรคตายอย่างฮูหยินคนก่อน ทุกคนไม่แปลกใจเพราะเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นครั้งเมื่อท่านใต้เท้าจางกับจางหนิงเซียนส่วนหยางตงฉวนที่นอนพะงาบ ๆ เจียวเหมยได้ให้บ่าวรับใช้จัดเตรียมรถม้าเพื่อจะพาเขาออกไปที่หน้าผาตรงจุดที่นางเคยโดนนำร่างเอาไปทิ้ง ยามนี้หิมะเริ่มตกโปรยปรายเมื่อออกเดินไปทางด้านนอกจึงไม่ค่อยมีใครสังเกตบ่าวรับใช้ที่นางสั่งการให้ปิดปากทุกคนหากผู้ใดไม่ทำตามนา

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 29 สะสางแค้น

    บทที่ 29 สะสางแค้นภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง ร่างของซูหยวนนอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตู กายของหยางตงฉวนนอนอยู่บนเตียงกับเยว่เผิงเมื่อนางเห็นใบหน้าของเยว่เผิงยิ่งสยดสยองไม่คิดว่าฮูหยินจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ก่อนที่นางจะตั้งสติรีบเข้ามาถามด้วยเป็นห่วง"ฮูหยินได้รับบาดเจ็บตรงไปไหนหรือไม่เจ้าคะ""นางซูหยวนใช้ไม้ตีหัวของข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนเลือดที่เจ้าเห็นมากมายมิใช่เลือดข้า ไปเรียกบ่าวรับใช้มาลากศพของซูหยวนออกไปห่อเอาไว้ก่อนเมื่อฟ้ามืดเมื่อไหร่ค่อยเอาร่างนางไปทิ้ง เจ้าช่วยเก็บกวาดห้องให้ข้าด้วยอย่าให้สาวใช้เข้ามาในนี้ ส่วนหน้าต่างไม่ต้องปิดข้าจะให้แมลงมาตอมแผลของทั้งสอง แต่ก่อนจะทำอันใดเตรียมน้ำให้ข้าล้างกายเสียก่อน ข้าเหนียวไปทั้งตัวใช้แรงไปมากต้องให้พ่อครัวทำอาหารอร่อย ๆ ให้กินเสียแล้ว อ้อ..จริงสิ เจ้าเห็นเนื้อบนโต๊ะหรือไม่ช่วยเอาไปให้พ่อครัวย่างให้ข้าที ข้าจะนำมาป้อนเป็นอาหารกลางวันให้ทั้งสองได้กิน" นางชี้ไปที่ชิ้นเนื้อใบหน้าของเยว่เผิงที่นำมาวางไว้ เยว่เผิงได้ยินส่งเสียงร้องออกมาจากลำคอเพื่อคัดค้าน"อื้อ อื้อ " เจียวเหมยยิ้มกว้างหันไปหาเยว่เผิงพร้อมเอ่ยบอกแก่นาง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริง

    บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงเจียวเหมยยืนขึ้นหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง"ฮ่า ฮ่า ต่อให้พวกเจ้าตะโกนขอความช่วยเหลือไม่มีผู้ใดสามารถช่วยพวกเจาได้หรอก! เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าเจ้าต้องการฆ่าข้ามิใช่หรือ? ข้าพร้อมรอรับความตายแล้วแต่ถ้าเจ้าฆ่าข้ามิได้ จะเป็นข้าเองที่ฆ่าพวกเจ้า" น้ำเสียงเย็นยะเยือกผู้ที่ได้ยินถึงกับสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ เยว่เผิงหวาดกลัวจนตัวสั่นจะหนีก็หนีมิได้ยิ่งคิดถึงเรื่องชายฉกรรจ์สองคนที่นางส่งมาจัดการยังถูกเจียวเหมยจัดการได้อย่างง่ายดายแล้วนางเป็นเพียงสตรีจะสู้นางได้อย่างไรกัน"ท่านพี่ช่วยข้าด้วยท่านเห็นหรือยังเจ้าคะสตรีที่ท่านรักนางมิได้เป็นอย่างที่ท่านเห็น ท่านเห็นหรือยังว่าผู้ใดกันแน่ที่รักท่านจริง ๆ ช่วยข้าด้วยนางบ้าไปแล้วนางจะฆ่าข้าเจ้าค่ะ ""ฮ่า ฮ่า ต่อให้เจ้าเรียกหยางตงฉวนอย่างไรเขาก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ขนาดตัวของเขาเองยังช่วยตนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ" เจียวเหมยค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ทั้งสองอย่างช้า ๆส่วนหยางตงฉวนทำได้เพียงนอนฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเขาอยากจะช่วยเหลือเยว่เผิงแต่ทว่าแค่ขยับแขนเขายังทำไม่ได้ซูหยวนเห็นท่าไม่ดีนางยืนบังหน้าเยว่เผิงเอาไว้หวังปกป้องนายหญิงของตนมิ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 27 เจ้าของเรือนผู้ใหม่

    บทที่ 27 เจ้าของเรือนผู้ใหม่ยามเหม่า (06.00)เสียงบ่าวรับใช้ในเรือนพากันเอ่ยซุบซิบกันกระฉ่อน เมื่อจู่ ๆ ถูกเรียกให้มารวมตัวกันที่หน้าของนายท่านแต่มิใช่นายท่านเป็นคนเรียกแต่กลับเป็นฮูหยินรอง เมื่อทุกคนมาครบยูร์เหยาได้เข้ามาเรียกเจียวเหมยออกไปพบทุกคน"ฮูหยินยามนี้ทุกคนมาพร้อมหน้าแล้วเจ้าค่ะ ""ดีอย่างนั้นออกไปข้างนอกกันเถอะ" เจียวเหมยเดินออกไปข้างนอกอย่างสง่าผ่าเผยทุกสายตาจ้องมองมาที่นาง"ทุกคนในเรือนจงฟังข้าให้ดีข้ามีเรื่องที่จะต้องแจ้งพวกเจ้าให้ได้รับรู้ ต่อจากนี้ท่านใต้เท้าหยางตงฉวนเจ็บป่วยร่างกายทรุดตัวไม่สามารถดูแลงานในเรือนรวมทั้งงานราชการ ท่านใต้เท้าจึงมอบหมายให้ข้าเจียวเหมยสตรีที่เขารักดูแลทุกอย่างในเรือนแห่งนี้ ต่อจากวันนี้ข้าคือผู้ดูแลเรือนตระกูลจาง ต่อจากนี้พวกเจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า เพราะข้าคือเจ้าของเรือนหากผู้ใดไม่เชื่อและขัดคำสั่งข้าจะลงโทษอย่างไม่ปราณี" เอ่ยจบนางได้ชูหนังสือประจำตระกูลให้ทุกคนได้ดูแม้บางคนจะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แต่ก็พอรู้ว่าหนังสือเช่นนี้เป็นหนังสืออะไร เมื่อทุกคนเห็นต่างพากันแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอันใดเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษ หลังจากที่ทุกคนรับรู้นาง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 26 รักข้ามั้ยเจ้าคะ

    บทที่ 26 รักข้ามั้ยเจ้าคะหลายวันต่อมาร่างกายของหยางตงฉวนเริ่มไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เขาไอหนักมากกว่าเดิมสติเริ่มฟั่นเฟือนเลอะเลือน แต่เขายังคงรักเจียวเหมยหนักมากกว่าเดิม นางเฝ้าคอยดูแลเขาเอาอกเอาใจ“เจียวเหมยช่วงนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ข้าได้เห็นความรักที่เจ้ามีให้ข้า ข้าอยากหายกลับไปเป็นปกติทำไมท่านหมอมาตรวจข้าหลายต่อหลายคนต่างพากันบอกว่าข้ามิได้เป็นอะไรทำไมร่างกายของข้าถึงซูบผอมไร้เรี่ยวแรงอย่างนี้กันนะ”“ท่านพี่คิดมากไปเองเจ้าค่ะ ท่านพี่เป็นกังวลเกินไปเลยทำให้ร่างกายของท่านซูบผอม ข้ารักท่านพี่นะเจ้าคะข้าเคยสัญญาว่าจะอยู่กับท่านจนกว่าจะถึงวันตายข้าไม่มีทางหนีท่านไปไหนเจ้าคะ ดื่มนี่สักหน่อยนะเจ้าคะข้าให้ยูร์เหยาต้มยาสมุนไพรบำรุงร่างกายให้ท่าน อีกไม่กี่วันร่างกายท่านอาจจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ” เจียวเหมยประคองร่างไร้เรี่ยวแรงของหยางตงฉวนขึ้นมานั่งคว้าหมอนมาหนุนหลังของเขาเอาไว้ ยามนี้ร่างกายของเขาซูบผอมจริง ๆ งานราชการเจียวเหมยได้จัดการให้เขาเมื่อมีสารมาที่เรือนนางได้ตอบกลับพร้อมประทับตราของหยางตงฉวนให้บอกว่าช่วงนี้เขาไม่สบายไม่สามารถทำงานได้นางยกยาสมุนไพรเมื่อครู่ให้เขาดื่มจนหมดก่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 25 เจ้ามันน่าเบื่อ

    บทที่ 25 เจ้ามันน่าเบื่อยามโหย่ว (17.00)ฝั่งด้านเยว่เผิงหลายวันมานี้นางเก็บตัวเงียบเสียใจที่หยางตงฉวนเมินเฉยต่อนางความเย็นชาที่นางไม่เคยพบเจอก็ได้เจอ นางเคยขอพบเขาที่ห้องแต่เขากลับให้บ่าวออกมาบอกว่าเขาไม่ต้องการพบนางทำให้นางเสียใจมากกว่าเดิม"ฮูหยินเจ้าคะถึงเวลากินอาหารเย็นแล้วเจ้าค่ะ ช่วงนี้อาหารไม่ถูกปากฮูหยินอยากกินอะไรหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยจะให้พ่อครัวทำให้""ไม่ข้าไม่อยากอะไรทั้งนั้น " แววตาเหม่อลอยจ้องมองไปนอกหน้าต่างเอ่ยตอบสาวใช้ด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยไร้ชีวิตชีวา ซูหยวนสงสารนายหยิงจับใจครั้นนั้นนางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามานางรีบหันไปมองเห็นว่าเป็นนายท่านใบหน้าของนางเริ่มปรากฏรอยยิ้มรีบแจ้งนายหญิงทันที"ฮูหยินเจ้าคะนายท่านมาเจ้าค่ะ " เยว่เผิงคิดว่าตนเองหูแว่วจึงคิดจะหันกลับมาต่อว่าสาวใช้แต่เมื่อเห็นชายที่ตนรักและคิดถึงรีบเดินไปหาเขาด้วยความดีใจ"ท่านพี่มาหาข้าหรือเจ้าคะ" น้ำเสียงระรื่นเอ่ยถามเขาทันทีพลางเดินเข้าไปใกล้หวังโอบกอดแต่ก็ต้องถูกเขาผละกายนางออก"ข้ามิได้มาเพราะคิดถึงเจ้า แต่ว่าเจียวเหมยของข้าให้ข้ามาหาเจ้า นางทั้งเห็นใจเจ้าหวังดีต่อเจ้ากลัวเจ้าจะน้อยใจข้าจึงได้มาหา ซู

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status