หนึ่งเดือนผ่านไป
เอวาถูกจับขังคุกใต้ดินอยู่เป็นอาทิตย์และเมื่อครบกำหนดหญิงสาวก็ถูกปล่อยตัวออกมา คาร่าไม่ได้ให้เอวารับงานอะไรเลยหลังจากนั้น เนื่องจากเป็นงานที่ไม่ได้ใหญ่หรือสำคัญมากนัก หญิงแก่จึงให้รุ่นน้องในสังกัดรับงานไปแทน
หลังจากที่เอวาถูกปล่อยตัวออกมา หญิงสาวก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องพักของตัวเอง ในช่วงกลางวันเธอก็ออกมาฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยและนอนหลับไปโดยที่เธอไม่ต้องคิดอะไร แต่ทุกครั้งที่เธอหลับตาลง เธอก็ยังคงเห็นภาพของชายหนุ่มคนนั้นที่วนเวียนเข้ามาในความทรงจำของเธออยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งเธอก็รู้สึกหงุดหงิดตัวเอง
ร่างอรชรเดินเข้ามาในห้องฝึกซ้อมที่มีอุปกรณ์มากมายหลายอย่างเพื่อเอาไว้ให้สปายสาวได้ฝึกฝนความแข็งแรงของร่างกายพวกเธอ เอวาสวมชุดสีดำแขนยาวขายาวรัดรูป หญิงสาวก้าวเดินตรงไปยังกระสอบทรายที่แขวนห้อยลงมาจากเพดานสูง มือบางเอื้อมไปหยิบนวมต่อยกระสอบทรายสีดำที่วางอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาสวมใส่ที่มือของเธอ
เอวาตั้งท่าจะออกหมัดต่อยกระสอบทรายเหมือนอย่างเช่นทุกวัน แต่ทว่าอยู่ดีๆ หญิงสาวก็รู้สึกเหมือนโลกมันหมุนติ้วจนเธอเซเล็กน้อย
“รุ่นพี่ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” สปายสาวรุ่นน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เธอเห็นความผิดปกติของรุ่นพี่คนสวยจึงเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เอวาเพื่อดูอาการของเธอ
เอวาส่ายหน้าให้รุ่นน้องเล็กน้อย เธอพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ล้มแต่ทว่าเธอก็ไม่สามารถทำได้ ร่างอรชรค่อยๆ เซล้มลงไปสู่พื้นอย่างช้าๆ พร้อมกับสติของเอวาที่ดับวูบไปทีละนิด ยังดีที่รุ่นน้องของเธอมารับร่างอวบอิ่มของเอวาเอาไว้ได้ทัน
“รุ่นพี่! รุ่นพี่คะ!”
ด้านราฟาเอล
ชายหนุ่มลืมตาตื่นเช้ามาในวันใหม่ เป็นเวลาหนึ่งเดือนที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับเขา เพราะไม่ว่าเขาจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ภาพของสปายสาวที่ปรากฏขึ้นมาในสมองของเขา ราฟาเอลมองไปทางม่านสีดำทึบที่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เล็ดลอดเข้ามาภายในห้องของชายหนุ่มเล็กน้อย
ราฟาเอลยันกายลุกขึ้นมาที่นอนอย่างช้าๆ ร่างกำยำสมบูรณ์แบบท่อนบนเปลือยเปล่าและมีเพียงช่วงล่างของเขาที่สวมกางเกงนอนขายาวสีดำผ้าเบาสบายเพียงเท่านั้น ชายหนุ่มก้าวลงมาจากเตียงนอนใหญ่ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ร่างกำยำสมบูรณ์แบบที่มีรอยสักลายงูใหญ่อยู่ตรงอกแกร่งย่างกรายเดินไปเข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำชำระร่างกายไม่นานสักเท่าไหร่
ราฟาเอลสวมชุดเสื้อเชิ้ตสีกรมกับกางเกงสแล็คสีดำก้าวเดินออกมาจากห้องแต่งตัวในเวลาต่อมา ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเดินลงมาจากชั้นสองอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคง จนกระทั่งราฟาเอลมาถึงห้องอาหารของคฤหาสน์
มาเฟียหนุ่มเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะ อองโซเดินมาเสิร์ฟอาหารเช้ากับกาแฟดำให้กับเจ้านายทันที ดวงตาคมกริบของราฟาเอลมองไปยังเก้าอี้ตรงที่สปายสาวชอบนั่งตรงนั้น แต่ทว่าในตอนนี้มันกลับว่างเปล่ามาเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว
“วันนี้ต้องบินไปอิตาลีครับนาย” ลูกาที่ยืนอยู่ด้านหลังของราฟาเอลเอ่ยขึ้นมา
“อือ” ราฟาเอลยกกาแฟดำขึ้นมาจิบพลางขานรับในลำคอ
ภายใต้ใบหน้าที่นิ่งเรียบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นของมาเฟียหนุ่ม แต่ทว่าคนในคฤหาสน์ก็รู้ดีว่าเจ้านายของพวกเขาไม่ได้มีแววตาที่ดูขี้เล่นและผ่อนคลายเหมือนกับช่วงที่สปายสาวอยู่เลยสักนิด นัยน์ตาคมกริบดูว่างเปล่าและไม่มีชีวิตชีวาโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
ราฟาเอลใช้เวลากินอาหารเช้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นชายหนุ่มก็ออกมาจากคฤหาสน์และตรงไปยังสนามบินทันที
มาเฟียหนุ่มย่างกรายขึ้นมาบนเครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่ด้วยใบหน้าและสายตาที่เย็นชา เขาพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติเหมือนก่อนหน้าที่เขาจะพบเจอกับสปายสาว แต่ทันทีที่ชายหนุ่มขึ้นมาบนเครื่องบิน ภาพจำที่เขาเคยนอนกอดกับหญิงสาวบนที่นั่งตรงนั้นก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง…ภาพในวันนั้นที่เขากับเธอดูเหมือนจะค่อยๆ ทลายกำแพงของตัวเองลง
ราฟาเอลยืนนิ่งพร้อมกับตกอยู่ในภวังค์สักพักหนึ่ง ลูกาที่เดินตามหลังเจ้านายมาติดๆ เห็นอาการที่แปลกไปของราฟาเอล
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” มือขวาของราฟาเอลเอ่ยถามขึ้นมาจึงทำให้ชายหนุ่มหลุดออกมาจากภวังค์ทันที
“เปล่า” ราฟาเอลตอบกลับสั้นๆ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งลงบนที่นั่งนุ่มๆ ของเครื่องบินลำนี้พร้อมกับหันหน้าออกไปมองด้านนอกของเครื่องบินผ่านกระจกเล็ก
เครื่องบินลำใหญ่ค่อยๆ ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆ ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงเพราะต้องการพักผ่อนสายตาสักเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ตัวเองดีว่าทุกครั้งที่เขาหลับตาลงเขาเห็นแต่ภาพของหญิงสาวตลอด แต่เขาก็ต้องพยายามฝืนนอนให้ได้
เวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเฟียหนุ่มมาถึงประเทศอิตาลี เมื่อลงมาจากเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ลูกาก็ขับรถพาราฟาเอลไปที่คฤหาสน์ของคามิลโลทันที
“มาแล้วเหรอ” เสียงทุ้มทรงพลังของคามิลโลเอ่ยทักทายราฟาเอลทันที เมื่อราฟาเอลก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ของคามิลโล
“อือ” ราฟาเอลพยักหน้าให้เพื่อนเบาๆ แต่ด้วยสีหน้าและแววตาของเขาที่ดูเหมือนมีเรื่องอะไรในใจอยู่ คามิลโลจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า” ชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าครามตอบกลับสั้นๆ
“อือ ไปห้องประชุมกันเถอะ พวกมันรออยู่” คามิลเอ่ยก่อนที่เขาจะใช้มือล้วงกระเป๋าและหันหลังเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์ ราฟาเอลจึงก้าวเดินตามเจ้าของบ้านไปอย่างช้าๆ
คามิลโลและราฟาเอลเดินเข้ามาในห้องประชุมที่มีลูเซียโน่กับวินเซนต์นั่งรอพวกเขาอยู่ ทั้งสองคนหันหน้ามามองชายหนุ่มที่กำลังเดินมานั่งลงทั้งสองคนด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบกันทุกคน และเมื่อพวกเขานั่งลงเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องงานของพวกเขาทันที
“เดือนหน้ามีงานประมูลรถใต้ดินที่ไทย ใครจะไป” วินเซนต์ใช้มือแกร่งควงปากกาเล่นพลางเอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่พวกเขากำลังประชุมกันอยู่
“ลูเซียน” คามิลโลหันไปเอ่ยถามลูเซียโน่ที่นั่งอยู่ข้างราฟาเอล
“เดือนหน้ากูไม่ว่าง” ลูเซียโน่ตอบกลับ
“เดี๋ยวกูไปเอง” เมื่อเพื่อนไม่ว่าง ราฟาเอลจึงเสนอตัวที่จะไปเองเพราะเดือนหน้าเขาไม่ได้บินไปที่ไหน
“เดี๋ยวกูไปคุยกับกลุ่มมาเฟียของไทยให้ก่อน ถ้าเข้าไทยไม่บอกพวกมันก่อน เดี๋ยวแม่งมีปัญหาตามมาอีก” คามิลโลดูเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผลมากกว่าทุกคนในกลุ่ม เขาเอ่ยออกมา เนื่องจากการเข้าไปที่ประเทศไทยหรือประเทศญี่ปุ่น ต้องมีการตกลงและพูดคุยกับมาเฟียทางฝั่งนั้นเพราะถ้าพวกเขาเข้าไปโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวให้มาเฟียเจ้าถิ่นได้รับรู้ก็อาจจะทำให้เกินปัญหาตามมาได้ และแน่นอนว่าถ้ามาเฟียของไทยกับญี่ปุ่นเข้ามาที่ประเทศของพวกเขา ฝั่งนั้นก็ต้องแจ้งพวกเขาก่อนเช่นกัน
“งั้นก็ตามนั้น” วินเซนต์สรุป
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสี่คนก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาประชุมกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มรูปงานทั้งสี่คนก็เดินออกมาจากห้องประชุมอย่างช้าๆ ลูเซียโน่กับราฟาเอลแยกตัวมายังรถคันหรูของพวกเขาที่จอดอยู่ข้างกัน
“มึงปล่อยสปายสาวสวยของมึงไปง่ายๆ แบบนั้นโดยที่ไม่สืบหาเลยเหรอวะว่าใครจ้างเธอมา” เสียงของลูเซียโน่ดังขึ้นมา ทำให้ราฟาเอลชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะหันมาตอบกลับเพื่อนด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
“มันเป็นข้อตกลงของผู้ใหญ่..แล้วมึงเอาน้องเธอไปปล่อยที่ไหน” ราฟาเอลตอบกลับพลางเอ่ยถามลูเซียนต่อ
“กูก็ไม่รู้ มึงบอกให้กูปล่อย กูก็แค่เอาตัวเธอไปทิ้งไว้ในเมืองแค่นั้น” ลูเซียโน่ตอบกลับอย่างไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก เขาไม่ได้สนใจว่าเธอจะไปไหนหรือทำอะไรต่อทั้งนั้น
“หลังจากนั้นล่ะ”
“กูก็ไม่รู้แล้ว ไม่ได้สนใจ”
“อือ” ราฟาเอลขานรับในลำคอ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องมาถามเรื่องแบบนี้กับลูเซียโน่ด้วย แต่เขารู้แค่ว่าสำหรับสปายสาวคนนั้นแล้ว เธอเป็นห่วงน้องสาวของตัวเองมากกว่าทุกสิ่ง
“พักผ่อนบ้างนะ หน้าตามึงดูไม่ค่อยดีเลยนะ” ลูเซียโน่มองจ้องเข้าไปในดวงตาคมกริบของเพื่อนที่ดูเศร้าหมองและแววตาที่ว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“อือ” ราฟาเอลพยักหน้าให้เพื่อนเล็กน้อย
“ไว้เจอกัน” พูดจบ ลูเซียโน่ก็ก้าวเดินไปขึ้นรถของตัวเองทันที
มาเฟียหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่หน่วงๆ ในใจมาตลอดทั้งเดือน ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปขึ้นรถของตัวเองเช่นกัน ลูกาตามเจ้านายขึ้นมาบนรถและประจำตำแหน่งคนขับรถเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง มือขวาคนสนิทของราฟาเอลมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลังด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงอยู่ชั่วครู่ จากนั้นรถคันหรูก็ค่อยๆ ขับเคลื่อนออกมาจากคฤหาสน์ของคามิลโลด้วยความเร็วที่ไม่ได้มากนัก
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของอดีตสปายสาวสวมชุดเดรสสั้นสีครีมสายเดี่ยวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโถงใหญ่ ในช่วงเวลาบ่ายกว่าเป็นเวลาที่ลูกชายของเขา โรลองด์ เด็กชายวัยหกเดือนกว่ากำลังหลับใหลอยู่ จึงทำให้ภายในคฤหาสน์ของราฟาเอลเงียบสงัดในช่วงเวลานี้ ในขณะที่เอวากำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่เลี้ยงของลูกชายเธอก็ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ เอวาจึงผละสายตาออกจากหนังสือและช้อนดวงตากลมโตขึ้นไปมองหน้าพี่เลี้ยงอย่างช้าๆ“มาดามค่ะ คุณชายตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงที่ดูอายุประมาณสามสิบนิดๆ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“ฝากไปอุ้มเขามาให้หน่อยได้ไหมคะ” เอวาตอบกลับไปอย่างสุภาพ ต่อให้เธอจะเข้ามาเป็นมาดามในคฤหาสน์หลังนี้ได้เป็นปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติกับสาวใช้หรือบอดี้การ์ดไม่ดีเลยสักคน เพราะเธอไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน“ค่ะมาดาม” พี่เลี้ยงตอบกลับพลางก้มศีรษะให้มาดามหนึ่งครั้ง ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไปจากห้องโถงทันทีหลังจากที่พี่เลี้ยงเดินออกไปจากห้องแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำสง่างามหรือก็คือราฟาเอลนั่นเอง มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในห้องโถงทันที“กลับมาไวจัง” เอวาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลังจากพิธีวิวาห์ของมาเฟียหนุ่มกับอดีตสปายสาวจบลง พวกเขาก็เปลี่ยนชุดและตรงมายังเรือสำราญเพื่อพาหญิงสาวมาฮันนีมูนต่อทันที ราฟาเอลโอบไหล่บางของภรรยาป้ายแดงที่สวมชุดเดรสสั้นสีขาวดูเรียบหรู เขาพาเอวาเดินขึ้นไปยังเรือสำราญส่วนตัวของตัวเองอย่างช้าๆ จนกระทั่งคู่สามีขึ้นมาบนเรือสำราญเรียบร้อยแล้ว เรือสำราญค่อยแล่นออกจากท่าเรือขนาดใหญ่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ราฟาเอลต้องการความเป็นส่วนตัว ชายหนุ่มจึงให้เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดของเขานั่งเรือสำราญอีกลำหนึ่งตามเขามา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้เขากับภรรยา“ชอบไหม” ชายหนุ่มพาเอวาเดินมาตรงหัวเรือพลางเอ่ยถามหญิงสาวที่เขากำลังโอบไหล่บางของเธออยู่ “ฉันชอบ” เจ้าสาวป้ายแดงตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ชายหนุ่มเบาๆ ลมทะเลพัดผ่านร่างกายพวกเขาไป ยิ่งทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น“ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวของเธอนะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” ราฟาเอลหันมาจับไหล่หญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้างและจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อแสดงออกทางสายตาให้เธอได้รับรู้ “ขอบคุณมากๆ เลย ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย” เอวาส่งยิ้มให้สามี “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม” ราฟาเอลตอบกลับด้
หนึ่งเดือนต่อมา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถึงวันที่ราฟาเอลกับเอวาต้องเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น งานแต่งงานสุดแสนใหญ่โตหรูหราถูกจัดขึ้นภายในสวนของคฤหาสน์ของราฟาเอล ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อย ดอกกุหลาบสีขาวกับสีชมพูประดับไปทุกพื้นที่ของงานในวันนี้ แขกเหรื่อและนักธุรกิจในวงการสีเทาต่างพากันมาแสดงความยินดีกับมาเฟียหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ หญิงสาวภายในงานสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนๆ กับผู้ชายที่สวมชุดทักซิโด้หรือชุดสูทสีดำ ราฟาเอลสวมชุดทักซิโด้ดูหล่อเหลาที่สุดในงานวันนี้ เขาทั้งดูสง่างาม สุขุมและน่าหลงใหล ชายหนุ่มยืนอยู่หน้าแท่นพิธีกับบาทหลวงเพื่อรอว่าที่เจ้าสาวของเขา ดวงตาคมกริบดุดันมองไปรอบๆ งานแต่งของตัวเอง เหล่าบรรดากลุ่มเพื่อนกับพ่อแม่ของเขานั่งอยู่แถวหน้าสุดกำลังจ้องมองมาที่ราฟาเอลอยู่มาเฟียหนุ่มยืนรอว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่สักพักหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเหลือเกิน เขาอยากจะเห็นเจ้าสาวแสนสวยของเขาเต็มที่แล้วไม่นานสักเท่าไหร่ ร่างอรชรของอดีตสปายสาวที่สวมชุดสีขาวสะอาดตา ท่อนบนชุดเจ้าสาวเป็นเกาะอกและถูกปร
หลังจากที่ชายหญิงคุยกับเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลพาหญิงสาวกลับขึ้นมายังชั้นแรกของตัวอาคาร และทันทีที่ประตูของลิฟต์เปิดออกมา พวกเขาก็เดินออกมาจากลิฟต์กันอย่างช้าๆ “นายท่านคะ!” ร่างของหญิงสาวชุดดำรัดรูปปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับเดินปรี่เข้ามาหาราฟาเอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ราฟาเอลมองชาร์ลอตต์สลับกับหันมามองว่าที่เจ้าสาวของเขาที่กำลังมองชาร์ลอตต์ด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ทว่ามันกลัวดูน่ากลัวสำหรับเขายิ่งนัก “ชาร์ลอตต์คิดถึงจังเลยค่ะ นายท่านหายไปตั้งนาน” ไม่พูดเปล่า ชาร์ลอตต์พยายามที่จะเข้ามาคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้ ราฟาเอลจึงถอยหลังหลบเธอไปหนึ่งก้าว “อย่ามาโดนตัวฉัน” เสียงทุ้มของราฟาเอลบอกกล่าวชาร์ลอตต์ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมจนสาวชุดดำสัมผัสได้“ทะ..ทำไมล่ะคะ” ยังไม่ทันที่ราฟาเอลจะได้ตอบกลับอะไรออกไป เอวาก็ก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอไม่จำเป็นต้องมาทนฟังสองคนนั้นคุยกัน ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ราฟาเอลเคยกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าของเธอฉายขึ้นมาในสมองของเอวาอีกครั้ง“อันนา! อันนา!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกหญิงสาวเอาไว้ แต่อดีตสปา
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนนิ่งเงียบและหันมองหน้ากันอยู่สักพักหนึ่ง จนเอวาเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ใบหน้าสวยคมและมือเล็กของหญิงสาวเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ราฟาเอลเหลือบตามามองหญิงสาวข้างกาย เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด มือแกร่งจึงเลื่อนลงไปกอบกุมมือเล็กเอาไว้แน่น เอวาจึงหันมาสบตากับชายหนุ่มทันที นัยน์ตาคมเข้มดุดันจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อเป็นการบอกหญิงสาวเป็นนัยว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอเด็ดขาด“ผมไม่ได้มาขออนุญาตหรืออะไรทั้งนั้น ผมแค่พาว่าที่เจ้าสาวของผมมาแนะนำตัวให้ครอบครัวได้รู้จัก” ราฟาเอลหันกลับมามองหน้าพ่อแม่พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงและเด็ดเดี่ยวโรดอลฟ์ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านเดินมาหาราฟาเอลกับเอวา ชายแก่หยุดอยู่ตรงหน้าชายหญิงทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะมองหน้าราฟาเอลกับเอวาสลับกัน ชายแก่ถอนหายใจออกมาเบาๆ“ไปคุยกันต่อที่ห้องอาหาร” โรดอลฟ์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบสิ้นเสียงโรดอลฟ์ ชายแก่ก็ปลีกตัวเดินไปยังห้องอาหารก่อนคนอื่นอย่างช้าๆ พ่อกับแม่ของราฟาเอลมองหน้ากันเล็กน้อย ซึ่งชายหนุ่มกับหญิงสาวเองก็เช่นกันราฟาเอลรู้จ
หลังจากที่ราฟาเอลกับเพื่อนๆ ประชุมกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็รีบกลับมายังคฤหาสน์ของตัวเองทันที ร่างกำยำสมบูรณ์แบบลงมาจากรถยนต์คันหรู และตามมาด้วยลูกาที่ลงจากรถฝั่งคนขับตามราฟาเอลมา ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านในช่วงสี่ทุ่มของวัน“กลับมาแล้วเหรอครับนายท่าน” อองโซที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทักทายเจ้านายเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง“อันนาล่ะ” ราฟาเอลเอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าสาวของเขาทันที “หลับแล้วค่ะท่าน ดิฉันทำอาหารให้ทานเรียบร้อย แล้วมาดามก็ขึ้นไปนอนค่ะ แต่ดูเหมือนอาหารจะไม่ค่อยถูกปากมาดามสักเท่าไหร่นะคะ” เสียงของสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงด้านหลังของอองโซก้าวขามาข้างหน้าพลางตอบกลับเจ้านาย“พรุ่งนี้ให้เชฟไทยที่ฝีมือดีที่สุดมาทำอาหารไทยให้เธอ อันนาชอบทานอาหารไทย” ราฟาเอลบอกกล่าวกับสาวใช้“ได้ค่ะ” สาวใช้ชุดดำก้มศีรษะให้เจ้านายอย่างนอบน้อม ราฟาเอลไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ เมื่อเขาสั่งสาวใช้เรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ก้าวเดินไปยังในคฤหาสน์และตรงไปยังชั้นสองทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองออกมาอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะหลับอยู่ แล้วเขาจะรบกวนการนอนของเธอ ดวงตาคมกริบมองไปยังบนเตียงใหญ่ เ