Beranda / โรแมนติก / ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก / บทที่ 1 เจ้าสาวของอสูร02 -03

Share

บทที่ 1 เจ้าสาวของอสูร02 -03

Penulis: r.mustang
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-22 11:01:01

โรสตวัดใบหน้ากลับมาแล้วส่งค้อนวงโตให้สามีที่ชอบพูดเข้าข้างลูกชาย รวมทั้งพูดถึงว่าที่ลูกสะใภ้อย่างช้องนาง

ช้องนาง ชินนุรัตน์คือหญิงสาวใบหน้าคมอายุยี่สิบห้าปี ลูกสาวคนโตของอนุวัต เพื่อนของโรสในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผู้ซึ่งมาหยิบยืมเงินไปจุนเจือครอบครัว

เนื่องจากบริษัทของครอบครัวล้มละลาย ทำให้ครอบครัวชินนุรัตน์สิ้นเนื้อประดาตัว และนี่ก็เป็นจุดที่ทำให้โรสได้รู้จักกับช้องนาง เพราะเจ้าหล่อนมาขอทำงานที่บริษัทเพื่อชดใช้หนี้ที่เกิดขึ้น

แต่จุดพลิกผันสำหรับครอบครัวชินนุรัตน์ ก็คืออุบัติเหตุครั้งสำคัญ ที่ทำผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวนั้นสูญเสียขาไป ทำให้ช้องนางต้องแบกรับทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแทน ต้องหาเงินส่งเสียน้องทั้งสองเรียนต่อ และยังต้องหาเงินมารักษาผู้เป็นพ่อ โรสนั้นเห็นในความขยันและรักครอบครัว

หล่อนจึงยื่นข้อเสนอให้ ซึ่งก็คือการแต่งงานกับลูกชายหัวดื้อเพื่อแลกกับเงินค่ารักษาอนุวัตและส่งน้องชายน้องสาวของช้องนางเรียนจนจบ ซึ่งฝ่ายช้องนางก็ยอมตกลง

“โธ่คุณ!! ไม่สงสารหนูนางบ้างหรือไงที่ต้องมารองรับอารมณ์ดิบเถื่อนของลูกเรา” ถึงจะรู้ดีว่าสิ่งที่ภรรยาทำลงไปนั้นก็เพื่อให้ลูกชายหลุดพ้นจากความเศร้า กลับมาเป็นคนเดิม ลืมเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิต แต่เขาก็ไม่อยากใช้วิธีนี้ ชีวิตคู่มันจะมีความสุขได้อย่างไรหากไม่ได้เกิดจากความรัก

แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นสายตาของโรสที่ส่งมาให้ ราเชนกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดคอ เพราะมันเป็นสายตาแม่เสือที่กำลังไม่พอใจ

“หยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว ยังไงฉันก็ไม่เปลี่ยนใจ” เธอตอกย้ำความคิดเช่นเดิม พลางเชิดหน้าใส่แล้วเดินหนี

ฝ่ายราเชนก็ได้แต่ส่ายศีรษะกับความดื้อของเมียรัก ซึ่งไม่ต่างจากลูกชายตัวดีของเขาเลยสักนิด

“เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก แล้วยังมาถามอีกว่าลูกชายของเราเอานิสัยมาจากใคร เฮ้อ ก็มาจากคุณเต็มๆ”

ห้องบอลรูมสุดหรูในโรงแรมระดับห้าดาวถูกเนรมิตตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน ขาว ชมพู แดงให้เหมาะสมกับงานวิวาห์สุดยิ่งใหญ่ที่ถูกจัดขึ้นในครั้งนี้ บรรดาแขกเหรื่อต่างทยอยมาร่วมงาน ใบหน้าทุกคนต่างมีรอยยิ้มประดับไว้ ต่างจากแม่งานคนสำคัญซึ่งกำลังทำสีหน้าเคร่งเครียด กระวนกระวายใจ เดินไปเดินมาไม่หยุด

“คุณ ทำไมเจ้ารามันยังไม่มาอีก นี่จะได้เวลาทำพิธีแล้วนะ” โรสเอ่ยถามสามีพลางชะเง้อคอมองหา

ราเชนได้แต่ส่ายศีรษะออกมาเป็นคำตอบ เพราะไม่รู้เลยว่าลูกชายจะมาหรือไม่ ก็เล่นไปบังคับกันซะขนาดนั้น เป็นเขาก็คงไม่มา ใครจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก แถมยังไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง และไม่รู้ว่าหากลูกชายมา แล้วงานแต่งนี้จะเป็นอย่างไร เพราะลูกชายก็หัวดื้อไม่แพ้คนเป็นแม่ คงมีอะไรเซอร์ไพรส์ให้มารดาตกใจแน่นอน

“คุณหญิง ดิฉันแต่งหน้าเจ้าสาวเสร็จแล้วนะคะ ไหนล่ะคะเจ้าบ่าวที่จะให้แต่ง” ช่างแต่งหน้าช่างเจรจาเอ่ยถามขณะจูงมือเจ้าสาวมาให้ทุกคนชม

“ฉันก็รอมันอยู่นี่ละ ไม่รู้ว่ามันจะมาไหม” โรสกล่าวเสียงกังวล แล้วหันมาส่งยิ้มให้กับว่าที่ลูกสะใภ้คนสวย ซึ่งอยู่ในชุดไทยประยุกต์สีทอง เปิดไหล่กว้างด้านซ้าย ส่วนอีกด้านมีสไบยาวสลวย

“สวยมากหนูนาง สวยจริงๆ แม่เลือกคนไม่ผิดเลย”

เจ้าสาวก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ให้ แอบแสดงสีหน้ากังวลกับงานแต่งงานวันนี้ ก็หล่อนนั้นยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าบ่าวเลยสักครั้ง เคยได้ยินแต่กิตติศัพท์ความร้ายกาจ ถ้าเจอกันแล้ว หล่อนจะต้องทำตัวอย่างไร จะพูดกับเขาแบบไหนช้องนางกังวลไม่น้อยในเรื่องนี้

ก่อนที่จะทำใจฮึดสู้ ในเมื่อหล่อนตัดสินใจยอมรับข้อเสนอของโรสแล้ว หล่อนก็ต้องทำให้ได้ พลันหันไปส่งยิ้มให้น้องชายและน้องสาวที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา

“พี่นางของนุช สวยจังเลยค่ะ” นุชนาถเอ่ยเสียงหวาน เข้ามากอดพี่สาวไว้แน่น ก่อนที่จะเอ่ยถึงบิดาที่ไม่สามารถมาร่วมยินดีด้วยได้ เพราะต้องรักษาตัวจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ครั้งที่เกือบทำให้พวกเธอสามคนสูญเสียผู้เป็นพ่อไป

“เสียดายนะคะที่คุณหมอยังไม่อนุญาตให้พ่อออกจากโรงพยาบาล ไม่งั้นพ่อก็คงชมพี่นางเหมือนที่นุชชม ใช่ไหมชิน” เธอเอ่ยพร้อมกับผละออกห่างแล้วหันไปถามอชิน น้องชายคนสุดท้อง

“ใช่ พี่นางสวยมากๆ” อชินตอบเสียงเข้ม

“พี่ก็อยากให้พ่อมา” ช้องนางตอบเสียงเศร้า เพราะใครๆ ก็ต้องอยากให้บุพการีมาอวยพรในวันที่มีคู่ครองและกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่กันทั้งนั้น

เมื่อเห็นสีหน้าของน้องชายและน้องสาวแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าเพราะคำพูดของตน เจ้าหล่อนก็รีบเอ่ยขึ้นทันที

“แต่ไม่เป็นไร แค่มีชินกับนุชพี่ก็ดีใจแล้ว แล้วอีกอย่างพ่อก็กำลังรักษาตัวอยู่ พี่ไม่อยากให้พ่อต้องลำบากมาที่นี่ ชินกับนุชออกไปช่วยรับแขกข้างนอกเถอะ อีกไม่นานพิธีก็เริ่มแล้ว”

“ได้ครับ/ได้ค่ะ” ทั้งสองตอบรับและหันหลังกลับเดินออกไปบริเวณหน้างาน

“เอ้า! คุณหญิง ตกลงจะให้ดิฉันแต่งหน้าเจ้าบ่าวไหมคะ ถ้าไม่ งั้นดิฉันจะได้ขอตัวกลับ ดิฉันก็มีงานเยอะนะคะ” ช่างแต่งหน้าเอ่ยถามพลางยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดู เพราะเจ้าตัวนั้นรับงานเอาไว้แน่นเอี๊ยด วันๆ หนึ่งสี่ถึงห้างาน ทำให้ต้องรีบไปงานอื่นต่อ

“รออีกสักแป๊บสิ เดี๋ยวลูกชายของฉันก็มา” โรสพูดด้วยอาการร้อนรน กลัวว่าลูกชายจะไม่มาจริงๆ

เข็มนาฬิกาเดินหมุนไปเรื่อยๆ จนเวลาเหลืออีกเพียงสิบนาทีก็จะถึงเวลาเริ่มพิธี แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของเจ้าบ่าว ทำให้โรสแสนจะหงุดหงิดใจ แถมพอกดโทรศัพท์ไปหาก็ดันได้ยินแต่เสียงให้ฝากข้อความ

“นั่งก่อนเถอะคุณ เดี๋ยวเจ้ารามันก็มาเอง” ราเชนต้องเอ่ยบอกให้ภรรยาใจเย็น หยุดเดินวนไปวนมาแล้วนั่งลง เพราะกลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อนที่จะได้เริ่มพิธี

“คุณจะให้ฉันนั่งลงได้ไงคะ ป่านนี้แล้วมันยังไม่มาเลย เจ้าลูกชายของคุณ ดูสิ เหลือเวลาไม่ถึงห้านาทีแล้ว”

“คุณจะให้ฉันนั่งลงได้ไงคะ ป่านนี้แล้วมันยังไม่มาเลย เจ้าลูกชายของคุณ ดูสิ เหลือเวลาไม่ถึงห้านาทีแล้ว” โรสถึงกับนั่งไม่ติด ต้องเดินไปชะเง้อคอมองว่าลูกชายจะมาเมื่อไร เวลาก็เดินผ่านไป เดินไปเรื่อยๆ และแล้วในที่สุดเวลาก็เดินมาถึงฤกษ์พิธีหมั้นหมาย ฝ่ายผู้ดำเนินงานต้องเดินมาสอบถามเมื่อเห็นว่าเลยฤกษ์มาพอสมควรแล้ว

“โอ๊ย!! คุณฉันจะทำไงดี เจ้ารามันจะมาไหม นี่มันจะไม่นับว่าฉันเป็นแม่ของมันหรือไง” เธอถามเสียงสั่น รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา จนจะเซล้ม

“คุณหญิงไหวไหม ผมก็บอกคุณแล้วว่าอย่าไปบังคับมัน” ราเชนรีบวิ่งเข้ามาประคองภรรยาแล้วพาไปที่โซฟา พร้อมกับที่ช้องนางรีบไปหายาดมมาให้

“ดีขึ้นไหมคุณหญิง” ผู้เป็นสามีเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าสีหน้าของภรรยาเริ่มดีขึ้น จึงค่อยๆ พยุงขึ้นมาพิงที่โซฟา

คนอาการดีขึ้นพยักหน้า ก่อนที่จะหลบตาลงเพื่อทำใจประกาศยกเลิกงานแต่ง ก็จะดำเนินงานต่อได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีเจ้าบ่าว พลันหันไปบอกผู้ดำเนินงานน้ำเสียงเศร้า

“ประกาศยกเลิกงานแต่งเลยค่ะ ลูกชายของฉันคงไม่มาแล้ว ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา” แล้วหันไปหาว่าที่ลูกสะใภ้

“แม่ขอโทษนะลูกที่ทำให้หนูเสียหน้าและเสียใจ” เธอเอ่ยออกมาด้วยความเสียใจและรู้สึกน้อยใจลูกชายสุดรัก น้ำตาคลอที่หน่วยตาไม่คิดเลยว่ารามันจะไม่ยอมมา ทั้งๆ ที่ขู่ไปแล้วว่าจะตัดความสัมพันธ์แม่ลูก เจ้าหล่อนพยายามสกัดกั้นไม่ให้น้ำตาไหล ไม่อยากจะทำให้มันเศร้าไปมากกว่านี้ และดีใจไม่น้อยที่อนุวัต บิดาของช้องนางไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพราะขืนมาอาการคงทรุดหนักมากไปกว่าเก่า

“ไม่ต้องขอโทษนางหรอกค่ะคุณหญิง นางเข้าใจดี”

“ยังไงแม่ก็ต้องขอโทษ ที่ทำให้หนูหม้ายงานแต่งแบบนี้ แม่…” แต่ไม่ทันที่โรสจะเอ่ยจบ เสียงทุ้มต่ำของคนที่หล่อนรอคอยก็ดังขึ้น พร้อมกับก้าวเท้าหนาเข้ามาปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ผมมาแล้ว” เจ้าของเสียงทุ้มเดินเข้ามาพร้อมยกมือไหว้ผู้เป็นแม่และพ่อ ก่อนจะปรายตามองไปหาว่าที่เจ้าสาวด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ แสยะยิ้มให้อย่างเหยียดหยาม

รามันอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีซีด กางเกงยีนสภาพขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ซึ่งสภาพแบบนี้เขาก็จงใจทำ เพื่อทำให้เจ้าสาวที่ไม่รู้ว่าคือใครนั้นอับอาย

“จะเริ่มงานเลยไหมครับ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ” เอ่ยเสียงเหี้ยมพร้อมกับเดินไปกระชากตัวของเจ้าสาวเข้ามาหาแล้วกดริมฝีปากหนาลงไปที่แก้มนวล ทุกคนต่างตกใจทำสีหน้าเหลอหลากันไปหมด

“ว้าย!!” ช้องนางร้องลั่นเมื่อโดนกระชากอย่างแรงแถมยังโดนหอมแก้มทั้งซ้ายและขวา

“หอมแบบนี้ นี่เอง แม่ฉันถึงต้องจ่ายเงินไปเป็นสิบล้านกับค่าตัวของเธอ ว่าแต่หากินแบบนี้มากี่รายแล้วแม่โสเภณี”

รามันสาดกระหน่ำความร้ายกาจให้เห็นทันที คำพูดของเขาทำให้ทุกคนต่างอึ้ง ขนาดโรสยังยกมือขึ้นมาทาบอก ไม่คิดว่าลูกชายจะพูดแรงและไม่ให้เกียรติผู้หญิงถึงขนาดนี้

“ทำไมพูดแบบนี้เจ้ารามัน พ่อไม่เคยสอนให้แกพูดดูถูกผู้หญิงแบบนี้นะ ขอโทษหนูนางซะ” น้ำเสียงเหี้ยมเอ่ยสั่งพร้อมกับจ้องมองลูกชายตาเขม็ง ไม่พอใจในการกระทำและคำพูด

“ไม่จำเป็นครับพ่อ ผมไม่เห็นความจำเป็นต้องขอโทษ ในเมื่อมันจริงทุกอย่าง แล้วนี่จะเริ่มงานเลยไหมครับ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ” มือหนาบีบรัดข้อมือสวยแน่น ก่อนจะกระชากให้เดินตามไปหน้างาน

โรสส่ายหน้าอออกมากับการกระทำของลูกชาย ก่อนจะร้องห้ามสามีไม่ให้ตามไปเอาเรื่องลูกชาย รู้ดีว่านิสัยลูกชายเป็นอย่างไร ห่าม เถื่อน เย็นชา แต่ไม่ได้ใจร้ายอย่างที่แสดงออกมา แต่ลูกชายหล่อนนั้นแสดงความอ่อนโยนไม่เป็น

และยังคงช้ำกับความรักครั้งเก่า ที่ทำให้เกือบไม่เป็นผู้เป็นคน เพราะถูกหลอกถึงสองครั้งสองครา หล่อนก็หวังว่าลูกสะใภ้จะช่วยบำบัดรักษาจิตใจของลูกชายให้กลับมาเป็นเช่นเดิม

และเมื่อเห็นว่ารามันกำลังก้าวลิ่วๆ เข้าไปในงาน ทั้งที่ยังคงแต่งตัวแบบนั้น โรสก็ร้องถามเสียงดังลั่น

“เจ้ารามันแกจะไม่แต่งตัวก่อนหรือไง” รู้อยู่แล้วว่าลูกชายตัวดีคงแต่งแบบนี้มาเพื่อประชดประชัน แต่หล่อนก็ไม่ใส่ใจ ในเมื่ออยากแต่งแบบนี้ก็ตามสบาย หล่อนก็ไม่ขัด

และเมื่อเริ่มพิธี โรสก็ลมแทบจับอีกหน เมื่อลูกชายโยนแหวนหมั้นราคานับสิบล้านทิ้ง แล้วหยิบแหวนดอกหญ้าขึ้นมาแทน

“แหวนราคานับสิบล้านแบบนี้ มันไม่เหมาะกับผู้หญิงหากินแบบนี้หรอกครับ มันต้องแหวนดอกหญ้า ถึงจะเหมาะสมกัน”

มุมปากเหยียดตรง แววตานั้นส่อถึงความรู้สึกที่มีได้เป็นอย่างดี มันทั้งชิงชัง เหยียดหยาม และรังเกียจ

ฝ่ายเจ้าสาวนั้นก็ได้แต่ก้มหน้ารับคำพูดที่โหดร้าย ช้องนางไม่รู้ว่าจะตอบโต้ไปอย่างไร ยิ่งเห็นสายตาที่มีแต่ความเย้ยหยันคู่นั้น ก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่น ข่มความรู้สึกเศร้าและอายเอาไว้ ที่สำคัญหล่อนไม่อยากทำให้โรสและราเชน ต้องเสียหน้าไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้แขกผู้ร่วมงานต่างก็ซุบซิบนินทากันหนาหูแล้ว

ขนาดอชินและนุชนาถ ที่ต่างอยากเห็นใบหน้าของพี่เขยต่างก็ยืนอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก มองหน้ากันแล้วลอบกลืนน้ำลายก้อนเหนียวแทบไม่ลงคอ ไม่คิดเลยว่าว่าที่สามีของพี่สาวจะเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้ ไม่ให้เกียรติกันเลย นุชนาถเม้มริมปากแน่นอย่างขุ่นเคืองใจ

อยากจะเข้าไปต่อว่า แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในเมื่อพี่สาวขยับริมฝีปากบอกออกมาว่าไม่เป็นไร ที่สำคัญหล่อนรู้สึกเกรงใจโรส

ความบ้าบิ่นและป่าเถื่อนของรามัน ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ พอสวมแหวนหมั้นเสร็จ มือหนาก็กระชากตัวเจ้าสาวเข้ามาใกล้ พลันประกบปากจูบอย่างรุนแรง สั่งสอนที่บังอาจกล้ามาแต่งงานกับตน แล้วกระซิบชิดริมหูขาว

“นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะแม่เศษดิน เธอต้องเจอความร้ายกาจของฉันอีกเยอะ” เอ่ยเสียงเข้ม ผลักให้เจ้าสาวออกห่าง ก่อนจะร้องถามหาทะเบียนสมรส

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก    บทที่ 2 ความร้ายกาจของอสูร 07

    “แกจะถามอะไรมากมายวะไอ้กิจ แค่รู้ว่ายัยนี่เป็นเมียที่ฉันไม่ต้องการก็พอแล้ว”“ไม่ถามก็ได้วะ งั้นฉันขอไปดูคนไข้รายอื่นก่อนนะ ส่วนแกน่ะเฝ้าเมียแกไป” พูดจบก็เดินออกมาจากห้อง ส่ายหน้ากับความเย็นชาและใจดำของเพื่อนรัก ขนาดเมียตัวเองแท้ๆ ยังใจดำได้ขนาดนี้ แล้วนึกถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้รามันเป็นเช่นนี้“ลินินเธอไม่น่าทำให้เพื่อนฉันกลายเป็นคนเย็นชาแบบนี้เลย เธอช่างเป็นคนใจดำเหลือเกิน กล้าทิ้งคนที่รักเธอสุดหัวใจไปได้ยังไง” เขาเอ่ยถึงหญิงสาวผู้ที่เคยเป็นคนรักของรามันอย่าง ลินิน ดำรงเวชลินิน ดำรงเวชคือ ดาวเด่นคณะบริหาร สาวไฮโซหน้าตาดี หนุ่มๆ ต่างหมายปอง รวมไปถึงรามัน ที่คอยตามจีบ ทั้งส่งดอกไม้ ทั้งแมสเสจไปหา และไม่นานก็สามารถควงแขนลินินมาเป็นแฟนจนได้ รามันทั้งรักทั้งบูชาเจ้าหล่อน ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ขนาดกิจต้องคอยเตือนอยู่บ่อย ๆ กลัวว่าเพื่อนรักจะผิดหวัง เพราะได้ยินข่าวเสียๆ ของลินินมาไม่น้อยเช่นกันความรักที่คิดว่ามันกำลังจะไปได้สวย กลับต้องพังทลาย เมื่ออยู่ดีๆ ลินินก็ทิ้งรามันไป แถมหนำซ้ำยังมาหลอกให้ช้ำใจอีกรอบ โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก    บทที่ 2 ความร้ายกาจของอสูร 06

    “อย่ามัวแต่มองอยู่เลยมึง เดี๋ยวก็ตายห่าพอดี ถ้าอยากมองนัก เดี๋ยวกูจะให้มองหรือยกให้เลย แต่ตอนนี้รักษาให้กูก่อน” รีบส่งช้องนางให้กิจ เมื่อรับตัวคนไข้มา กิจก็รู้ได้เลยทันทีว่าอาการหนักพอดู เพราะตัวร้อนราวกับไฟ“ออกไปก่อน ฉันขอตรวจคนไข้โดยละเอียดก่อน”เขาหันมาบอก รามันพยักหน้าเข้าใจ แล้วเดินออกมานั่งรอหน้าห้องตรวจ จากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง กิจก็เดินออกมาพร้อมกับนางพยาบาลที่เข็นร่างเล็กซึ่งยังไมได้สติไปยังห้องพักฟื้น“เธอเป็นอะไรวะไอ้กิจ” รามันรีบเอ่ยถาม“ถามได้ ก็เป็นไข้น่ะสิ ว่าแต่เธอเป็นใครวะ ทำไมแกถึงอุ้มมา”เมื่อเห็นแววตาของกิจมองมาอย่างสงสัย และแววตานั้นก็มีประกายความสนใจในตัวของคนป่วย หัวใจแกร่งรู้สึกตงิด ๆ อย่างไม่พอใจ รีบเอ่ยขัดออกมาหยุดความคิดเพื่อนรัก เพราะยังไงเจ้าหล่อนก็ได้เจ้าชื่อว่าเมียเขา แต่ก็คงวางฟอร์มตอบเสียงแข็งทำเหมือนไม่สนใจ“เมียกูเอง”“เมียแก อย่ามาล้อเล่นน่า แกจะมีเมียได้ไง ฉันกับแกเป็นเพื่อนกันมาอายุเกือบจะสี่สิบอยู่แล้ว ฉันไม่เห็นแกจะสนใจผู้หญิงคน

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก    บทที่ 2 ความร้ายกาจของอสูร 05

    “ถอดเสื้อออก”“…”คนได้ยินคำสั่งก็อ้าปากค้าง ไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังจะทำอะไร ทำไมต้องสั่งให้ถอดเสื้อออกอีกแล้วเมื่อเจ้าหล่อนยังคงนิ่ง คราวนี้รามันก็กระชากมันออกเสียเอง ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว หญิงสาวรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดกาย แต่ก็โดนมือหนากระชากมันออก และขว้างทิ้งไปรามันไม่ยอมบอกสักนิดว่าจะทำอะไร ได้แต่ตรึงร่างเล็กไว้กับเตียง พลันส่งสายตาคมมาสั่งให้นอนนิ่งๆคนตัวเล็กดีดดิ้นเต็มที่ ใครที่ไหนกันจะทนนอนนิ่งๆ ได้ในเมื่อร่างกายเกือบจะเปลือยเปล่า แถมเขายังขึ้นมาคร่อมร่างไว้แบบนี้อีก แต่ออกแรงดิ้นเท่าไร ก็ไม่ทำให้รามันขยับเขยื้อนได้สักนิด จนในที่สุดก็หมดแรงเสียเอง นอนนิ่งแล้วหลับตาแน่น ยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น หล่อนคิดว่าคนใจร้ายนั้นจะลงมือปลุกปล้ำตน แต่พอเวลาผ่านไปได้สักพักก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะรับรู้ก็ถึงแรงจากมือหนาซึ่งค่อยๆ ลูบไล้ไปที่รอยแผลช้ำ ดวงตาสวยลืมขึ้นมอง เจ้าหล่อนถึงกับทำสีหน้าอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อ‘พระเจ้า ไม่น่าเชื่อ!! อสูรไร้หัวใจคนนี้ลงทุนทายาให้เธอเอง’“ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก    บทที่ 2 ความร้ายกาจของอสูร 04

    “มาไม่นานก็ก่อเรื่องเลยนะ” เอ่ยเสียงเข้มต่อว่า ทั้งๆ ที่จริงแล้วมันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด ถ้าชายหนุ่มไม่ลืมว่าต้องมารับ หญิงสาวก็คงไม่ต้องตัดสินใจเดินกลับมาเองแบบนี้คนที่ถูกต่อว่าก็ร้องไห้สะอื้นดังกว่าเดิม เม้มริมฝีปากแน่น ไม่คิดว่ารามันจะใจร้ายและเย็นชาได้ถึงขนาดนี้“จะร้องไห้ไปทำไม เธอทำตัวเองทั้งนั้น อยากออกมาจากฟาร์มทำไม ทำไมไม่รอ เดี๋ยวฉันก็ไปรับ” ทั้งที่ตัวเองผิด แต่ยังไม่ยอมรับ ยังคงตีหน้าตาย ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นช้องนางต้องเบือนหน้าหนี ไม่อยากจะเห็นหน้าคนใจร้าย ยิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บ แต่ไม่นานใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาก็ต้องรีบหันกลับมา ดวงตาเบิกกว้างกอบกุมเสื้อตัวนอกไว้ เพราะตอนนี้มือร้อนๆ ของรามันกำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออก“จะทำอะไรนาง อย่าทำอะไรนางนะ”ถามเสียงสั่น แววตาฉายชัดความหวาดกลัว พยายามปัดมือหนาออก แต่เพียงเริ่มปัด รามันก็ส่งสายตาดุดันมาให้ แถมยังตวาดใส่“อยู่เฉยๆ อย่ามาทำเป็นดีดดิ้น ทำเหมือนกับว่าฉันจะทำอะไรเธอ ฉันพิศวาสเธอไม่ลงหรอกช้องนาง”เมื่

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก    บทที่ 2 ความร้ายกาจของอสูร 02

    “หรือว่าจะลืมมารับเรา…เฮ้อ”เธอพ่นลมหายใจผ่านจมูกสวยโด่ง เพราะคิดว่าสามีหน้ามึนฝีปากกล้า ต้องลืมมารับเป็นแน่ หรือไม่ก็จงใจไม่มารับ แต่เจ้าหล่อนก็ยังคงนั่งรอ เพราะคิดว่าเขาคงไม่ใจร้ายขนาดนั้น จนเจ้าหล่อนทนรอไม่ไหว ตัดสินใจจะเดินกลับมาที่บ้านเอง ช้องนางพยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินตรงกลับบ้าน เท้าบางรีบจ้ำอ้าว เพราะยิ่งเดินออกมาไกลจากฟาร์มเท่าไร ทางก็ยิ่งมืด ไร้ซึ่งแสงไฟ แถมมีแต่หมอกลง จนแทบมองไม่เห็นเส้นทางเมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง ช้องนางรับรู้ถึงความผิดปกติ ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังเดินตาม ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะทำใจกล้าหันกลับไปมอง ก็พบกลุ่มชายสามคน กำลังเดินตามมาด้วยอาการเมามาย เจ้าหล่อนรีบเร่งฝีเท้าทันที รับรู้ได้ถึงภัยที่จะเกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มชายพวกนั้นก็รีบวิ่งมาขวางหน้าเอาไว้“คุยกันก่อนสิครับนางฟ้า ตกมาจากสรรค์ชั้นไหนหรือครับ” เสียงเมามายเอ่ยถาม พลางมองสำรวจไปทั่วร่างนวล แล้วคว้าข้อมือเล็กพร้อมกับดึงให้เข้ามาใกล้“ฮ่าฮ่า กูว่าสวรรค์คงประทานนางฟ้ามาให้เรา” ชายอีกคนพูดเสริม“ประทานมาให้เราปู้ยี่ปู้ย

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก    บทที่ 2 ความร้ายกาจของอสูร

    “นางทำอะไรให้คุณลำบากใจคะ ถ้าเป็นเรื่องแต่งงาน นางขอโทษ แต่นางจำเป็นที่ต้องแต่งงานกับคุณ นางต้องเอา...” ไม่ทันที่ถ้อยคำจะถูกถ่ายทอดออกมาหมด เสียงห้วนอันเย้ยหยันก็เอ่ยขัดขึ้นมา“จำเป็นหรือว่าหิวเงินกันแน่ ผู้หญิงที่แต่งงานได้เพื่อเงินอย่างเธอ มันน่าขยะแขยงที่สุด จำใส่กะโหลกเอาไว้นะ ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ ฉันไม่มีวันแตะต้อง” พูดจบเขาก็สะบัดมือออก ราวกับว่าเจ้าหล่อนเป็นสิ่งของที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงช้องนางต้องทำใจเย็นข่มความโกรธเอาไว้ รู้ดีว่าหากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ก็คงคิดแบบนี้เช่นกัน จะมีผู้หญิงที่ไหนยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก นอกจากจะเห็นแก่เงิน รู้ดีว่าเขาคงคิดว่าเธอนั้นเห็นแก่เงินใช่! เธอเห็นแก่เงิน ก็ในเมื่อเงินจำนวนนี้มันช่วยต่อชีวิตครอบครัวของเธอได้ หล่อนรู้ดีว่าตัวเองนั้นผิด แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เกียรติกันบ้าง ไม่ใช่ทำราวกับหล่อนเป็นสิ่งของไร้ค่าแบบนี้“โกรธหรอ แต่ช่วยไม่ได้นะ เพราะที่ฉันพูดมามันคือความจริง”“นางมีความจำเป็นที่ต้องแต่งานกับคุณ แล้วนางก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status