เช้าวันใหม่บัวบงกชรีบตื่นมาแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวและลงมารอเธียรธวัชที่บริเวณห้องรับประทานอาหาร
“ทำไมนั่งอยู่คนเดียวล่ะแล้วธัญญ่าไปไหน”
“พี่ธัญญ่ายังไม่ตื่นค่ะ บัวไม่อยากปลุกเมื่อคืนเราคุยกันค่อนข้างดึก”
“แต่เธอก็ยังตื่นไหวนี่”
“ก็บัวกลัวไม่ทันไปทำบุญให้ยายค่ะ”
“ถ้างั้นรีบกินข้าวกันเถอะจะได้รีบออกแต่เช้าฉันเองก็กลัวจะไปไม่ทันเลี้ยงเพลพระเหมือนกัน”
ทั้งสองคนรีบรับประทานอาหารอย่างรวดเร็วจากนั้นก็พากันไปที่รถ
“เราไปกันแค่สองคนเหรอคะ” หญิงสาวรู้สึกเกร็งที่จะต้องนั่งรถทางไกลกับเธียรธวัชแค่สองคนเพราะครั้งแรกที่เดินทางจากนครสวรรค์มากรุงเทพก็มีลุงอ่ำคนขับรถและคุณชุติมาเลขาของชายหนุ่มนั่งมาด้วย
“ก็มีแค่เราสองคนนั่นแหละ แต่ถ้าไปถึงที่วัดแล้วก็คงจะมีคนรออยู่ ฉันบอกผู้ใหญ่ไปแล้วว่าให้ช่วยจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงเพลและอาหารเลี้ยงชาวบ้านไว้ด้วย”
“ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทำบุญร้อยวันของคุณยายเท่าไหร่คะ”
“ถามทำไม”
“บัวอยากเป็นคนจ่ายเองทั้งหมดค่ะ”
“ได้ยังไงล่ะเธอยังเป็นเด็กอยู่นะ”
“แต่บัวก็มีพอมีเงินเก็บนะคะให้บัวจ่ายเถอะค่ะ” บัวบงกชเกรงใจชายหนุ่มมาก
“ถ้าอยากทำบุญก็เอาเงินใส่ซองให้พระที่วัดก็แล้วกันจะ ใส่เท่าไหร่ก็ลองถามผู้ใหญ่บ้านดูนะเพราะฉันเองก็ไม่รู้ธรรมเนียมที่นั่นเหมือนกันได้”
“ได้ค่ะ” เด็กสาวรับปากจากนั้นเสียงคุยก็เงียบไปเธียรธวัชหันมามองแล้วยิ้มเมื่อเห็นว่าตอนนี้บัวบงกชนอนคอพับไปแล้ว
เมื่อรถเข้าเขตจังหวัดนครสวรรค์เขาก็แวะจอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพื่อให้เด็กสาวลงมาล้างหน้าล้างตาเพราะอีกไม่นานก็จะถึงตัวอำเภอที่เป็นบ้านเกิดของเธอแล้ว
“ขอโทษนะคะคุณเธียรบัวง่วงมากก็เลยเผลอหลับ”
“ไม่เป็นไรหรอกฉันว่าลงไปล้างหน้าล้างตาก่อนเดี๋ยวจะเข้าเขตอำเภอบ้านเกิดของเธอแล้ว”
“ค่ะ” เด็กสาวลงจากรถและรีบจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อขนมขบเคี้ยวสำหรับตัวเองจากนั้นก็ซื้อกาแฟให้เธียรธวัชอีกแก้ว
“ขอบใจมากนะ แล้วเธอล่ะไม่กินกาแฟเหรอ”
“บัวไม่ชอบกินกาแฟค่ะ ไม่เห็นว่ามันจะอร่อยตรงไหนเลยขมก็ขมไม่อร่อยเลยสักนิด”
“ตอนนี้เธออายุยังน้อยก็พูดแบบนี้แหละ อีกหน่อยฉันเชื่อว่าเธอจะชอบเราก็จะกินทุกวัน”
“ไม่มีทางหรอกค่ะบัวว่ากินขนมหรือกินชาเขียวอร่อยกว่าตั้งเยอะ”
“แล้วทำไมไม่ซื้อชาเขียวของตัวเองมาล่ะ”
“บัวกลัวคุณเธียรจะรอนานค่ะ"
"ฉันรอได้เราไม่ได้รีบอะไรจากตรงนี้ไปบ้านเถอะก็อีกไม่ถึงยี่สิบนาทียังไงก็ทันเลี้ยงเพลพระอยู่แล้วจะลงไปซื้ออีกไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะบัวกินขนมตรงนี้ดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเธอนะ”
เขาออกรถอีกครั้งและสังเกตว่าเด็กสาวจะมีความสุขกับการกินขนมมากๆ
“เธอชอบกินขนมพวกนี้เหรอ”
“ค่ะ”
“แต่กินเยอะไม่ดีนะโซเดียมมันค่อนข้างสูงมากๆ”
“กินน้ำตามเยอะๆ ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ แต่บริษัทคุณเธียรผลิตขนมไม่ใช่เหรอแล้วทำไมห้ามบัวกินล่ะ”
“ไม่ได้ห้ามแค่เตือนว่าอย่ากินเยอะ ถ้าเธอได้รับโซเดียมจากขนมไปแล้ววันนี้เวลากินอาหารก็ลดเค็มลงหน่อยก็น่าจะดี”
“ขนมที่กินอยู่เป็นของบริษัทคุณเธียรไหมคะ”
“ก็ลองอ่านชื่อบริษัทผลิตหลังซองดูสิ” เด็กสาวหยิบขนมที่ตนเองซื้อมาหลายถุงจากนั้นก็ดูรายชื่อบริษัทด้านหลังแล้วก็ยิ้มเพราะขนมทุกถุงที่เธอซื้อมาเป็นชื่อบริษัทฟของชายหนุ่มทั้งนั้น
“โอ้โห มีแต่บริษัทคุณเธียรทั้งนั้นเลยค่ะคุณเธียรยังจำได้ไหมว่าบริษัทของตัวเองผลิตขนมอะไรบ้าง”
“ฉันจำได้ไม่ทั้งหมดหรอกนะ ที่จำได้ก็คือขนมที่ขายดีและขนมออกใหม่เท่านั้น ขนมที่บริษัทก็ออกใหม่อยู่บ่อยๆ”
“คุณเธียรคะถ้ามีวันหยุดแล้วคุณเธียรต้องเข้าไปที่โรงงานผลิตขนมบัวขอตามไปด้วยได้ไหมคะ”
“อือ แต่ฉันขอถามหน่อยว่าถ้าอยากจะเข้าไปทำไม”
“ก็อยากเข้าไปดูว่าเขาผลิตขนมยังไง”
“ฉันก็นึกว่าเธออยากจะเข้าไปเอาขนมออกมากิน”
“บัวเอาขนมออกมากินได้ด้วยเหรอคะ"
“ได้สิอยากเอาไปกินที่หอไหมฉันจะให้เลขาจัดการให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะบัวซื้อกินเองดีกว่า”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกเพราะบางครั้งฉันก็ส่งขนมไปให้เด็กๆ ตามสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือไม่ก็ตามโรงเรียนต่างๆ ที่จัดกิจกรรม เดี๋ยวฉันจะให้เลขาประสานงานกับคุณครูที่หอพักให้”
“อย่าเลยค่ะบัวเกรงใจคุณเธียร”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เพราะขนมที่ออกจากโรงงานราคามันไม่ได้เท่าขนมที่เธอซื้อตามร้านค้าหรอกนะ”
ทั้งสองนั่งคุยกันมาด้วยจนกระทั่งมาจอดรถที่หน้าวัดซึ่งตอนนี้มีชาวบ้านบางส่วนกำลังช่วยกันจัดข้าวปลาอาหารสำหรับถวายเพลพระอยู่ในศาลา
“สวัสดีค่ะผู้ใหญ่ สวัสดีค่ะป้าจวน” เด็กสาวยกมือไหว้ผู้ใหญ่บ้านและคุณป้าที่อยู่ข้างบ้านซึ่งเดินออกมาต้อนรับเมื่อเห็นรถจอดบริเวณข้างศาลา
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะบัวไปอยู่กรุงเทพสนุกไหม”
“สนุกค่ะ บัวขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะที่มาช่วยทำบุญให้คุณยาย”
“เดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่านะตอนนี้ก็น่าจะใกล้ถึงเวลาถวายเพลพระแล้วเข้าไปข้างในกันดีกว่า”
บัวบงกชและเธียรธวัชเดินตามผู้ใหญ่เข้าไปในศาลาหลังจากที่พระฉันท์เพลและให้ศีลให้พรเสร็จชาวบ้านก็ร่วมวงกันรับประทานอาหารกลางวัน
เธียรธวัชและบัวบงกชก็รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับชาวบ้านจากนั้นเด็กสาวก็ช่วยชาวบ้านเก็บล้างทำความสะอาดก่อนจะกลับเข้ามาในศาลาอีกครั้ง
ตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านป้าจวนและชาวบ้านอีกบางส่วนกำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่ เมื่อบัวบงกชนั่งลงข้างป้าจวนกก็มีเสียงถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ของเด็กสาวที่ต้องไปอยู่กรุงเทพกับผู้ปกครองคนใหม่ บัวลงกชเล่าให้ทุกคนฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เธอบอกทุกคนว่าความเป็นอยู่ที่กรุงเทพสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง
“หนูบัวสบายดีใช่ไหม” ผู้สูงวัยคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนของยายพิกุลถามด้วยความห่วงใยเพราะเคยเห็นเด็กสาวมาตั้งแต่เด็ก
“หนูสบายดีค่ะคุณยาย คุณเธียรเขาดูแลหนูดีมากๆ ตอนนี้หนูก็เริ่มเข้าไปเรียนที่โรงเรียนใหม่แล้ว”
“โรงเรียนใหม่เป็นยังไงบ้างดีไหม” เพื่อนโรงเรียนเดียวกันที่ทำคุณยายมาทำบุญที่วัดถามขึ้น
“ดีมากๆ เลยแหละ”
“เล่าให้เราฟังหน่อยสิเราอยากรู้ว่าโรงเรียนที่กรุงเทพกับโรงเรียนแถวบ้านเราแตกต่างกันยังไง”
บัวบงกชปลีกตัวไปคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันขณะที่เธียรธวัชก็นั่งคุยกับผู้ใหญ่บ้าน
“บัวไม่ได้สร้างความลำบากใจอะไรให้คุณใช่ไหมครับคุณเธียร”
“ไม่ครับ บัวเขาเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนมากๆ”
“แล้วคุณจะส่งให้บัวเรียนจนจบใช่ไหมครับ” ผู้ใหญ่บ้านถามด้วยความห่วงใยเพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มตั้งใจจะส่งเสียบัวบงกชถึงชั้นไหนแต่ถ้าเป็นไปได้ผู้ใหญ่ก็อยากจะให้เขาส่งเสียเรียนจนจบระดับชั้นปริญญาตรี
“เท่าที่ผมคุยกับยายพิกุลไว้ผมจะส่งบัวเรียนไปเรื่อยๆ ครับเขาอยากเรียนอะไรผมก็จะให้เขาเรียนถ้าเรียนจบปริญญาตรีแล้วอยากจะเรียนต่ออีกผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร”
“หนูบัวโชคดีมากที่มาเจอคนดีๆ อย่างคุณ ผมและชาวบ้านก็หวังว่าคุณจะดูแลบัวได้อย่างที่พูดจริงๆ นะครับ”
“ผมจะดูแลตบัวอย่างดี ผมให้สัญญากับยายพิกุลมาแล้วผมไม่ผิดสัญญาแน่นอน”
หลังจากคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านเธียรธวัชพาบัวบงกชกลับที่บ้านของเธอซึ่งตอนนี้บริเวณบ้านของนั้นหญ้าขึ้นเขียวครึ้มไปหมด
เย็นวันศุกร์เธียรธวัชมารับบัวบงกชที่มหาวิทยาลัยจากนั้นก็ตรงไปที่บ้านระหว่างทางชายหนุ่มก็จับมือของเธอไว้แน่น“บัวทำไมมือเย็นเจี๊ยบแบบนี้ล่ะ”“บัวกลัวนี่คะ”“ฉันก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรต้องกลัว กินขนมก่อนนะ”บัวบงกชยิ้มก่อนจะหยิบขนมด้านหลังรถขึ้นมากินอย่างเคย“คุณเธียรรู้มั้ยว่าบัวหลงรักคุณเธียรตั้งแต่ตอนไหน”“ตอนไหนล่ะ”“ตอนที่คุณเธียรมารับบัวและคุณเธียรซื้อขนมมาให้บัวค่ะ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มันทำให้บัวรู้สึกว่าคุณเธียรใส่ใจบัว บัวมีความสุขมากๆ”“แต่นั่นมันตั้งแต่เธอเรียนอยู่ม. 4 แล้วนะ แก่แดดเกินไปหรือเปล่าเนี่ย”“บัวยอมรับค่ะ ว่าแก่แดดจริงๆ แล้วคุณเธียรล่ะชอบบัวตั้งแต่ตอนไหน”“ถ้าถามว่าตั้งแต่ตอนไหนมันก็ตอบไม่ได้หรอกรู้แค่ว่าเวลาเธอคุยกับฉันตอนที่นั่งรถมาด้วยกันมันทำให้ฉันผ่อนคลายน่ะ เธอช่างพูดทำให้ฉันยิ้มได้และคิดว่าถ้ามีเธออยู่ข้างๆ แบบนี้ไปตลอดก็คงจะดีมากๆ คิดไม่ผิดเลยที่ฉันรับเธอมาอุปการะ ถ้าคุณยายของเธอมองลงมาท่านก็อาจจะโกรธนะที่ฉันทำเกินเลยกับเธอ แต่ฉันเชื่อว่าในอนาคตท่านจะดีใจถ้าเห็นเราสองคนรักใคร่กันไปแบบนี้ตลอด”“บัวขอบคุณนะคะคุณเธียรที่รับบัวมาเลี้ยงดูตั้งแต่วันนั้น จากนี้
“คุณเธียรกินของบัวไปแล้วอยากให้บัวกินของคุณเธียรไหม” บัวบงกชถามพลางยิ้มยั่ว“ได้สิเธอรู้ใจฉันที่สุดเลยนับ”เธียรธวัชตอบด้วยเสียงแหบต่ำก่อนจะขึ้นมานั่งบนโซฟาจับให้คนรักคุกเข่าอยู่ตรงหน้าบัวบงกชเงยหน้าขึ้นมองมือเล็กจับความแข็งร้อนที่ตั้งตระหง่านตรง ค่อยๆ ประคองอย่าเบามือ“อื้อ...อ้าห์..บัวจ๋าดีมากมันดีมากจริงๆ”เขามองคนที่เงยหน้าสบตาแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าบัวบงกชนี่แหละคือผู้หญิงที่เขาตามหาและจะใช้ชีวิตกับเธอตลอดไปคิดไม่ผิดเลยที่รับเธอมาอุปการะและไม่มีทางจะปล่อยให้เธอออกไปจากชีวิตของเขาอย่างเด็ดขาด“กินฉันเลยสิบัวอย่าช้า”ชายหนุ่มเร่งเร้าทำให้หญิงสาวยิ้ม“อย่าใจร้อนสิคะ”เธอมองหน้าเขาก่อนจะก้มลงใช้ปลายลิ้นสัมผัสรอยบุ๋มตรงกลางแท่งร้อน“อ้าห์......”เพียงแค่นี้เขาก็ครางสะท้านตาคมมองภาพหญิงสาวตวัดปลายลิ้นเลียวนมาส่วนปลายหยักคอดก่อนจะลากต่ำลงมาหยอกเย้ากับลูกตุ้มสองเม็ดดูดมันเข้าปากจนเกิดเสียงดังน่าเกลียดหากแต่กระตุ้นอารมณ์ของทั้งสองได้เป็นอย่างดีบัวบงกชหยอกล้อกับพวงสวรรค์จนพอใจก็ลากปลายลิ้นขึ้นมาก่อนจะครอบครองความเป็นชายของเขาเข้าปากจนมิด เธอรู้สึกว่ามันชนคอหอยแต่ก็เต็มใจที่จะทำให้เขาเรียวล
หลังจากคุยกับน้องสาวแล้วเธียรธวัชก็รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะธัญวดีดูเหมือนจะเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ ชายหนุ่มรีบโทรศัพท์ไปหาบัวบงกชเพื่อบอกให้เธอรู้เรื่องนี้“อะไรนะคะคุณเธียรไหนเราคุยกันแล้วไงว่าเราจะบอกเรื่องนี้กับพี่ธัญญ่าหลังจากบัวเรียนจบแล้ว”“แต่อีกตั้งหนึ่งปีเลยนะบัวถึงจะเรียนจบ ฉันไม่อยากเก็บความลับไว้แบบนี้หรอก ตั้งแต่ธัญญ่ามาเราไม่เคยไปนอนค้างด้วยกันเลย บัวไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ”“คิดถึงสิคะบัวคิดถึงคุณเธียรมากๆ”“ฉันอยากไปหาเธอนะบัว อยากไปนอนกอด สองเดือนแล้วมันทรมานมากๆ ฉันก็เลยคิดว่าน่าจะบอกเรื่องนี้กับธัญญ่าจากนั้นเราสองคนก็จะได้มีเวลาให้กันมากขึ้น”“แต่บัวกลัวค่ะ คุณเธียรบัวกลัวว่าพี่ธัญญ่าจะโกรธ”“อย่ากลัวไปเลย”“ถ้าพี่ธัญญ่าโกรธขึ้นมาจะทำยังไงล่ะคะบัวคงไม่เหลือใครอีกแล้ว”“บัวก็รู้จักธัญญ่ามาก็น่าจะรู้นะว่าพี่ธัญญ่าของบัวน่ะเป็นคนคนจิตใจดีและเข้าใจอะไรง่ายๆ ฉันเชื่อว่าถ้าเขารู้ว่าเราสองคนคบกันเขาอาจจะดีใจก็ได้”“มันไม่เหมือนกันนะคะตอนนี้พี่ธัญญ่ารักและเอ็นดูบัวเหมือนน้องสาว แต่ถ้าเกิดเราคบกันสถานะมันก็เปลี่ยนไปบอกตรงๆ นะคะคุณเธียรว่าบัวกลัวมากๆ ค่ะถ้าพี่ธัญญ่าโกรธบัวขึ้นมาบัวก็ไ
ตั้งแต่ธัญวดีกลับมาอยู่ที่บ้านเธียรธวัชก็ไม่มีโอกาสไปค้างที่คอนโดเลยสักครั้งไม่ว่าจะเป็นคอนโดของเขาเองหรือคอนโดของบัวบงกชเพราะไม่อยากให้น้องสาวต้องสงสัยแต่ชายหนุ่มก็รู้สึกอึดอัดมากๆ แม้บัวบงกชจะมาค้างที่บ้านของเขาแต่เธอก็นอนกับธัญวดีทุกคืนเขาไม่ได้ใกล้ชิดหญิงสาวมานานเกือบสองเดือนแล้ว นอกจากจะไม่ได้ชิดกับบัวบงกชแล้วธัญวดียังพยายามชวนเพื่อนๆ มาทานข้าวที่บ้านและแนะนำให้เขารู้จักอยู่หลายคนเขาก็ปฏิเสธไปทุกครั้งและไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนผู้หญิงที่ธัญวดีพามาแนะนำให้เขารู้จักแต่เธอยังพาเพื่อนผู้ชายมารับประทานอาหารเย็นที่บ้านและดูเหมือนว่าเพื่อนของธัญวดีมีความสนใจในตัวของบัวบงกชมากๆ ถ้าหากเขาไม่ทำอะไรเรื่องมันก็อาจจะเลยเถิดไปกันใหญ่เพราะบัวบงกชก็ไม่กล้าปฏิเสธเวลาที่ธัญวดีชวนออกไปทานข้าวกับเพื่อน เขากลัวเหลือเกินว่าผู้ชายคนนี้จะเข้ามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของเขากับบัวบงกชแต่สำหรับเขาเองไม่เคยคิดกับเพื่อนของธัญวดีเลยไม่ว่าจะเป็นเพื่อนคนไหนก็ตามและวันนี้เธียรธวัชก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องพูดกับน้องสาวให้รู้เรื่อง ชายหนุ่มถือโอกาสที่วันนี้บัวบงกชไม่ได้มาค้างที่บ้าน ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นจึงเหลือแค่
หลังจากวางสายจากธัญวดีแล้วบัวบงกชก็รีบโทรศัพท์ไปหาเธียรธวัชอีกครั้ง “ว่าไงจ๊ะ บัวคิดถึงฉันใช่ไหมเปลี่ยนใจจะให้ฉันไปหาตอนนี้ก็ยังทันนะ” “เปล่าค่ะคุณเธียรบัวมีเรื่องจะเล่าให้คุณเธียรฟัง” “เรื่องอะไร” “เมื่อกี้พี่ธัญญ่าโทรมาบัวค่ะ” “เธอสองคนก็คุยกันเป็นปกติอยู่แล้วนะไม่แปลกตรงไหนเลย” “ครั้งนี้ไม่ปกติค่ะ พี่ธัญญ่ากำลังสงสัยว่าคุณเธียรพาผู้หญิงที่ไหนไปอยู่ในห้อง” “แล้วธัญญ่ารู้ได้ยังไงล่ะ” “คุณเธียรจำได้ไหมวันนั้นบัวซักชุดนักศึกษาไว้ในเครื่องแล้วลืมเอาออกแม่บ้านก็เลยโทรไปหาพี่ธัญญ่าเพราะคิดว่าพี่ธัญญ่ากลับมาแล้วค่ะ เราจะเอายังไงกันดีคะคุณเธียรบัวกลัวพี่ธัญญาจะรู้แล้วจะโกรธบัว” “บัวอย่าคิดมากสิอีกเป็นปีกว่าธัญญ่าจะกลับ เธอน่ะคิดมากเกินไปจนไม่เป็นตัวของตัวเองแล้วอย่าแคร์คนอื่นให้มากเลย” “เราไม่ควรเจอกันอีกนะคะคุณเธียรบัวกลัวว่านอกจากพี่ธัญญ่าจะสงสัยแล้วคนที่คอนโดคุณเธียรก็จะสงสัยถ้าเกิดเขาเอาเรื่องไปบอกพี่ธัญญ่าขึ้นมาบัวต้องซวยแน่ๆ บัวคิดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบัวจะไม่ไปที่คอนโดของคุณเธียรเด็ดขาด” “เธอไม่มาคอนโดของฉันก็ไม่เป็นไรฉันไปหาเธอที่นั่นเองก็ได้” “คุณเธียรเรา
บัวบงกชรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากเมื่อเช้าวันจันทร์เธอตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองมีรอบเดือน หญิงสาวไปเรียนได้ใช้ชีวิตตามปกติพอตอนเย็นก็โทรศัพท์คุยกับเธียรธวัช ซึ่งตอนนี้เขามักจะโทรศัพท์หาเธอทุกวัน การไม่ได้เจอกันแต่ได้คุยกันมันก็ทำหายคิดถึงไปได้มากๆ บัวบงกชไม่เคยคิดมาก่อนว่าเมื่อมีความสัมพันธ์กับเขาแล้วตนเองจะคิดถึงเขามากขนาดนี้เธียรธวัชเองก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ ตอนนี้เขาโทรหาเธอตอนเช้าส่วนตอนกลางวันก็ไลน์มาหาและโทรอีกครั้งในตอนเย็น วันนี้หญิงสาวกลับมาถึงคอนโดมิเนียมในเวลาห้าโมงเย็นก็มีพัสดุมาถึงเธอหนึ่งกล่อง เมื่อขึ้นมาถึงบนห้องหญิงสาวก็รีบเปิดกล่องออกด้านไหนเป็นที่คาดผมแต่มันไม่ใช่ที่คาดผมธรรมดาเพราะเธอเคยเห็นรีวิวตามโซเชียลแล้วว่าที่คาดผมอันนี้มันเป็นที่คาดผมแบรนด์ดังราคาไม่ต่ำกว่าหมื่นบาทซึ่งหญิงสาวคิดว่ามันแพงเกินไปเธอจึงรีบโทรศัพท์ไปหาเธียรธวัชทันที “คุณเธียรคะที่คาดผมนี่มันคืออะไร” “ฉันเห็นว่ามันสวยดีก็เลยซื้อมาให้เธอ” “คุณเธียรไปซื้อเองเหรอ” “วันนี้ฉันมีโอกาสไปตรวจสินค้าที่ห้างเห็นมันกำลังลดราคาก็ ก็เลยเข้าไปซื้อ” “แล้วใครเป็นคนเอามาให้บัวที่คอนโดพี่ชุหรือเปล่า” หญิงสาวถาม