“แล้วแกจะเอาไง จะเลิกกันทั้งที่มีลูกด้วยกันแบบนี้เหรอ”
คำถามนั้นมิรันดาก็ถามตัวเองตั้งแต่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว แต่กลับไม่มีคำตอบอื่นใดนอกจาก...
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะฉันคงไม่เอาลูกออกแน่ เขาไม่อยากได้ก็ช่าง ลูกฉันทั้งคน ฉันเลี้ยงเองก็ได้”
“แต่เลี้ยงลูกคนเดียวมันเหนื่อยนะเว้ย กว่าจะโตต้องใช้เงินเท่าไหร่ แกดูฉันสิ ขนาดมีคนช่วยเลี้ยงทั้งผัว ทั้งพ่อแม่ผัว พ่อแม่ตัวเอง ไหนจะจ้างพี่เลี้ยงอีก ฉันยังแทบสลบเลย ตั้งแต่มีลูกมาฉันแทบไม่รู้จักคำว่านอนตื่นสาย ไม่ได้ช็อปปิ้งเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าเลยเพราะต้องเก็บเงินให้ลูก ฉันว่าแกลองคุยกับผัวแกอีกทีดีกว่า เป็นซิงเกิ้ลมัมมันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะแก”
มิรันดาคิดภาพตามที่เพื่อนสาธยายก็แอบนึกหวั่นใจ แต่เมื่อนึกถึงผัวเฮงซวยที่ตัดรอนเธออย่างเลือดเย็นในวันนั้นขึ้นมา หญิงสาวก็ถอนใจ
“ไม่คุยแล้วล่ะ แกมาช่วยฉันหาที่อยู่ใหม่ดีกว่า”
“อะไร แกจะย้ายออกจากคอนโดนี้งั้นเหรอ” คนเป็นเพื่อนถามเสียงดังลั่น
“ก็นี่มันคอนโดเขา ชื่อเขา เขาเป็นคนดาวน์คนผ่อนนี่นา เลิกกันแล้วฉันจะหน้าด้านอยู่ที่นี่ได้ไง เกิดเขามีเมียใหม่แล้วพาเข้ามา ฉันจะทำไงล่ะ อยู่แบบเป็นส่วนเกินงี้”
พูดเองก็เจ็บเอง เมื่อคิดว่าผัวเฮงซวยนั่นจะพาผู้หญิงอื่นเข้ามาทับที่เธอ หากวันนั้นมาถึงแล้วเขาไล่เธอออกจากบ้านต่อหน้าเมียใหม่คนนั้นล่ะ เธอจะเอาหน้าไปไว้ไหน
สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า
“เออๆ เดี๋ยวฉันถามผัวฉันให้แล้วกัน เพื่อนเขาเป็นเซลล์ขายคอนโดอยู่คนหนึ่ง”
“แพงไหมแก ฉันว่าแค่อยู่ห้องเช่าหรืออะพาร์ตเมนต์ไปก่อน พอเก็บเงินได้ค่อยย้ายน่าจะเข้าท่ากว่านะ”
“งั้นไปอยู่บ้านฉันก่อนไหมล่ะ” คนเป็นเพื่อนบอกอย่างใจป้ำ
มิรันดาส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ ฉันเกรงใจแก ฉันต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง เมื่อก่อนฉันเอาแต่พึ่งพี่ดิวทุกอย่าง ต่อไปนี้ฉันต้องพยายามพึ่งตัวเอง และเป็นที่พึ่งให้ลูกที่จะเกิดมาด้วย”
หญิงสาวลูบหน้าท้องของตนเบาๆ เมื่อคิดถึงสิ่งมีชีวิตที่นอนในนั้น ความรู้สึกตื้นตันก็จู่โจมเข้ามาในหัวใจเต็มรัก
ลูกแม่...แม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุด ถึงไม่มีพ่อ แต่หนูจะมีแม่คนนี้ที่เป็นทุกอย่างให้เองนะลูกนะ แต่หนูก็อย่าทรมานให้แม่แพ้ท้องหนักแล้วกันนะคะ ถ้าหนูอยากเล่นงานก็ไปทรมานพ่อบ้างก็ได้ เอาให้หนักจนคลานไปเลยจะได้สาสมกับที่เขาใจร้ายทิ้งเราสองคนไป
หลังจากตัดสินใจย้ายออกจากคอนโด มิรันดาก็ตรวจดูเงินเก็บที่เธอสะสมมา แต่ยังมีอีกบัญชีที่เธอและเขาร่วมกันฝากเงินสำหรับอนาคต แต่ตอนนี้เธอและเขาคงไม่มีอนาคตร่วมกันแล้ว เงินนี่ควรจะทำยังไงดีล่ะ ถ้าจะถอนแบ่งครึ่งมาก็ต้องมีเขาเซ็นชื่อร่วมกันถึงถอนได้ เอทีเอ็มเขาก็เป็นคนถืออีก
แต่ตอนนี้เธอจะไปหาเขาได้ที่ไหนล่ะ ในเมื่อเขาตัดขาดการติดต่อแล้วก็ล่องหนไปดื้อๆ ติดต่อที่ทำงานของเขาก็ไม่ได้เรื่องได้ราว พอโทรไปหาพิรามเพื่อนสนิทของเขาที่ดิฐกรบอกว่าจะไปพักด้วย อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือได้แต่บอกว่าไม่รู้ท่าเดียว
งั้นก็ช่างแม่ง หาไม่เจอก็ไม่หาแล้ว เงินเก็บเธอถึงมันจะไม่มากเท่าไหร่ แต่มันก็มากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อสักระยะถ้าเธอไม่งอมืองอเท้า หรือไม่ก็คงต้องหาทางเอามันไปต่อยอดให้งอกเงย
แต่ทำยังไงล่ะ
“ลอตเตอรี่จ้า ลอตเตอรี่...พรุ่งนี้รวยๆ”
ขณะที่กำลังงมหาทางอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงสวรรค์ก็แทงทะลุเข้ามาในหู
“รับโชคสักใบไหมคะคุณ พรุ่งนี้หวยออกแล้วนะ”
“คะ...” มิรันดามองแผงลอตเตอรี่ตรงหน้าอย่างครุ่นคิด พลางลูบหน้าท้องเบาๆ แล้วส่งโทรจิตผ่านสายสะดือไปถึงคนในท้องว่า...
ลูกแม่...ใบไหนดี!
พลันสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นเลขหนึ่งในแผงที่สะดุดตาโดนใจ จึงรีบชี้ให้แม่ค้าดึงออกจากแผงให้
“เอาใบนี้ค่ะ”
หญิงสาวมองลอตเตอรี่ในมืออย่างงงๆ ปกติเธอเป็นคนไม่มีดวงด้านนี้ ซื้อหวยทีไรก็ถูกกินตลอด ขนาดจับฉลากตอนวันครบรอบบริษัทถ้าไม่ได้หม้อไห อย่างดีก็ได้ถ้วยจาน ไม่เคยได้หรอกรางวัลใหญ่ๆ กับเขาน่ะ
แต่งวดนี้เธอซื้อหวยถึงสองใบ หากถูกรางวัลที่หนึ่งล่ะก็ มันจะได้เท่าไหร่นะ
หนึ่งใบก็หกล้าน ถ้าสองใบก็...สิบสองล้าน!
ไม่เลวแฮะ ถึงไม่มีดิฐกรแต่ถ้าเธอมีสิบสองล้านในกระเป๋าล่ะก็ คงเลี้ยงลูกได้สบายๆ ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ
“เพ้อเจ้อละแก เอาสองตัวให้ถูกก่อนไหมอีมี่เอ๊ย...”
ว่าที่คุณแม่บอกตัวเองอย่างขำๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น
ไม่ใช่ดิฐกรตามเคย ตอนนี้เธอเริ่มจะชินแล้วที่อีกฝ่ายหายหัวไปจากชีวิต ทั้งที่ตอนแรกเธอเคยกลัวว่าหากไม่มีเขาเธอจะอยู่ได้อย่างไร แต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่ตายนี่นา ถ้าไม่คิดสั้นโดดตึกไปเสียก่อน เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ได้นี่นา
“ว่าไงนิ”
“แกอยู่ไหนน่ะ”
“ออกมาหาข้าวเที่ยงกินน่ะ กำลังจะกลับไปทำงานต่อแล้วล่ะ แกมีอะไรหรือเปล่า”
“เรื่องห้องเช่าที่แกอยากได้น่ะ ฉันหาให้ได้แล้วนะเป็นคอนโดญาติผัวฉัน เขาปล่อยเช่า พอรู้ว่าแกเป็นเพื่อนฉันก็เลยลดราคาให้ถูกๆ พอดีเขาจะย้ายไปทำงานที่เมืองนอกน่ะ”
“ถูกของแกนี่มันเท่าไหร่”
“ก็เดือนละสี่พันห้า ค่าน้ำค่าไฟก็คิดตามที่แกใช้ คอนโดอยู่ไม่ไกลที่ทำงานแกด้วยนะ”
พอได้ฟังมิรันดาก็สนใจ คอนโดใกล้ที่ทำงานเธอหาราคานี้ได้ที่ไหนล่ะ อย่างถูกก็ปาไปเจ็ดแปดพันต่อเดือนแล้ว
“สนสิแก งั้นเดี๋ยวเลิกงานฉันเข้าไปดูเลยได้ไหม จะได้รีบทำสัญญาเช่ากันเลย”
“ได้ๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปรับแกที่ทำงานเย็นนี้แล้วกัน”
“ยิ้มปลื้มเมีย”“หา...”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาโอบเอวเธอเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ“ขอบคุณแทนน้องมิวด้วยนะครับ”ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันใด“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ น้องมิวก็ลูกแคทเหมือนกันนี่นา”นี่ก็อีก หลังจากที่เขาจดทะเบียนสมรสกับเธอ แคทรียาก็กลายเป็นแม่แคทของหนูน้อยของขวัญไปอีกคน แถมยังเข้ากับมิรันดาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียด้วย ซึ่งทำให้เขาสบายใจไปได้อีกเปราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงตามมาในภายหลังภาพความหวานชื่นระหว่างสองสามีภรรยาทำให้ใครต่อใครที่เห็นแอบชื่นชมในความเหมาะสม ยกเว้นก็เพียงแต่...เจนิสาชะงักไปนิดๆ เมื่อมองเห็นภาพสวีตของทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันผ่านไป โดยไม่ทันเห็นเธอที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ดิฐกรในวันนี้ทั้งภูมิฐานและดูมีฐานะดีเธอมันตาต่ำสิ้นดี!หากในวันนั้นเธอไม่คิดสั้นทิ้งดิฐกรมา วันนี้คนที่เดินควงแขนเขาก็คงเป็นเจนิสาคนนี้ เธอคงสุขสบายมีสามีรวย ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากน่าสมเพชต้องคอยรองมือรองเท้าให้ไอ้ผู้ชายสารเลวอย่างวรพลนั่นหญิงสาวกุมใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแมสก์และแว่นสีดำไว้ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยฟกช้ำท
หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแลอาการบาดเจ็บของดิฐกรก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอร้องให้คุณเมธาและคุณดารณีไปเจรจาสู่ขอแคทรียาถึงบ้าน“แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวอาจริงๆ” คุณราเมศร์ถามด้วยน้ำเสียงเข้มจนคนรอบข้างแอบลุ้นปนหวาดผวาแทนคนถูกถาม“แน่ใจครับ”“ไม่ใช่แค่อยากรับผิดชอบ”“ไม่ใช่ครับ”“ไม่ได้รักแบบน้องสาว”“ผมรักแคทแบบคนรักครับ ไม่ใช่น้องสาว” แคทรียาหันไปสบตากับคนพูดด้วยหัวใจที่พองโตคับอกคุณเมธาหันไปสบตากับภรรยาที่ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อได้ยินลูกชายตัวดีสารภาพรักสาวแบบเต็มปากเต็มคำ เห็นทีว่างานนี้เธอจะได้ลูกสะใภ้สมใจแม่สุดๆ“แล้วลูกล่ะยัยแคท อยากแต่งหรือเปล่า” คุณราเมศร์หันมาทางลูกสาว“แต่งค่ะ” หญิงสาวตอบโพล่งโดยไม่ต้องคิด ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่ค้อน“ไม่คิดอีกสักหน่อยเหรอ ถึงยังไงเราก็เป็นฝ่ายหญิงนะ” คุณราเมศร์อ่อนอกอ่อนใจกับความมั่นของลูกสาวคนเล็ก“ก็แคทคิดมาแล้ว ในเมื่อเราสองคนรักกัน แล้วยังต้องรออะไรล่ะคะ อีกอย่างถ้าแคทคิดมาก เดี๋ยวท้องโตกว่านี้ ก็แต่งชุดเจ้าสาวไม่สวยกันพอดี”“ท้องโต!” คุณราเมศร์อุทานลั่น ในขณ
“อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”ดิฐกรมองสบตาเธอนิ่ง มวลความรู้สึกมากมายอัดแน่นในอกของเขาจนแทบจะล้นทะลักออกมา เกรงว่าหากเขาไม่พูดตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก“พี่ไม่ใช่คนดี เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนโง่งี่เง่ามากๆ ด้วย”แคทรียาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่“ครั้งหนึ่งพี่เคยทำพลาดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวและกลัวการผูกมัด กลัวที่จะต้องแต่งงาน กลัวเสียอิสรภาพบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเสียคนที่พี่รักให้คนอื่นไปคนหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้พี่จะไม่ยอมเสียคนที่พี่รักไปอีก...”ราวกับเวลาหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำว่า ‘คนที่พี่รัก’ ของเขากระแทกใจเธออย่างจัง นั่นเขาหมายถึงใครกันคงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง“พี่รักแคท เราแต่งงานกันนะ”สาวมั่นถึงกับตะลึงงัน เมื่อเจอคำบอกรักแบบสายฟ้าแลบ“แล้วพี่มี่ล่ะ พี่ดิวลืมพี่มี่ได้แล้วเหรอ”“หึงเหรอ” คนเจ็บแกล้งตีหน้านิ่งถาม“หึงอะไร อย่ามาหลงตัวเองนะ”“งั้นพี่หลงเมียแทนได้ไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง“ไม่ต้องหึงแล้วตัวแสบ ระหว่างพี่กับมี่ เราเหลือแค่สถานะพ่อแม่ของน้องมิวเท่านั้น”เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากเขา ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่เคยได้ยินจากปากมิรัน
“ไม่! อย่าไปนะ อย่าทิ้งพี่...” ชายหนุ่มรีบรั้งเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กลัวว่าหากปล่อยให้เธอไป เขาจะไม่ได้พบเธออีก เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปต่อหน้า อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันทำให้เขารู้แล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้เสียชีวิตไป โชคดีแค่ไหนที่เขายังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาพบเธออีกครั้ง ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนมีค่า และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับความกลัวอย่างงี่เง่าของตัวเองอีก แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแคทรียามองสบสายตาเขานิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจหายตัวไปก็คิดว่าจะตัดใจและตัดเขาออกไปได้ เธออยากจะทำใจแข็งให้มากกว่านี้ อยากจะโกรธ อยากจะงอน อยากจะเล่นตัวให้มากกว่านี้ อยากจะหนีไปให้เขาร้อนรนตามหาให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องพังครืน เมื่อได้รู้ข่าวจากมิรันดาว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล เธอก็ลืมความขุ่นเคืองก่อนหน้าไปเสียสิ้น ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพของเขาที่เป็นตายเท่ากัน หัวใจก็เจ็บปวดแทบแหลกสลาย“พี่...” เสียงเขาเบาหวิวทำให้เธอต้องขยับเอียงหูเข้าไปใกล้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร“พี่ขอโทษ...” หญิงสาวชะงักเมื่อได้ยินคำเดียวกับใ
“จริงสิคะ มี่เลยรีบโทรมาบอกพี่ดิวก่อนนี่ไง พี่ดิวก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”ดิฐกรอยากจะโห่ร้องดังๆ กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน แคทรียากำลังจะกลับมา และในตอนนี้เขาก็มีคำตอบกับตัวเองแล้วเขารักเธอ! และจะไม่ยอมเสียเธอกับลูกไปเหมือนผู้ชายคนเมื่อกี้เด็ดขาดชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินดิฐกรรีบขึ้นรถและขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนขามาลิบลับ ตอนนี้เขามีความสุขล้นปรี่ มีความหวังเต็มเปี่ยม โลกที่มืดมนกลับสว่างไสวขึ้นเพียงคิดว่าจะได้พบแคทรียา ผู้หญิงที่เขารู้ตัวแล้วว่ารัก และไม่อยากเสียเธอไปไม่ว่าอย่างไรปรี๊น!!!ชายหนุ่มคิดเพลินจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีเสียงแตรดังลั่นมาจากที่ไกลๆ เขาจึงได้สติรีบหันไปมอง ก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ากำลังพุ่งตรงเข้ามา ดิฐกรตกใจสุดขีดจึงรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้จนรถแน่นิ่งไป พร้อมกับสติสัมปชัญญะของเขาที่ดับวูบไปในนาทีนั้นพร้อมกับสิ่งที่ติดค้างในหัวใจอยากเจอเธออีกสักครั้งหรือเขาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว...“พี่ดิว...พี่ดิว...” ดิฐกรได้ยินเสียงหวานคุ้นหูของใ
‘ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้มีความสุขกับเขาเสียที หรือต้องรอให้สูญเสียก่อนอีกครั้ง พี่ถึงจะคิดได้ว่าอะไรที่มีค่ากับชีวิต...’เท้าของเขาค่อยๆ ก้าวฝ่าทุกคนไปจนถึงร่างอันไร้วิญญาณที่นอนนิ่งคลุมผ้าขาวตรงหน้า“เข้าไม่ได้นะครับ คุณเป็นอะไรกับผู้เสียชีวิตครับ”คำว่าผู้เสียชีวิตทำให้เขารู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันใด ก่อนที่น้ำใสๆ จะรื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนทุกอย่างรอบกายพร่าเลือน หัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเขามันโง่! โง่ที่สุดในที่สุดความโง่งี่เง่านั่นก็พาให้เขาต้องพบกับจุดจบที่ต้องสูญเสียอีกครั้ง ครั้งแรกเป็นการจากเป็นที่ว่าเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า เพราะเขาจะไม่ได้พบเธออีกต่อไปแล้ว เพียงคิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนพร่าไปหมด‘แล้วถ้าแคทบอกว่าต้องการความรักจากพี่ ต้องการให้พี่แต่งงานกับแคท ต้องการให้พี่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแคท พี่ดิวทำได้ไหมล่ะ’คำถามนั่นย้อนกลับเข้ามาเล่นงานเขาในวันที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว“ผม...ผมเป็นสามีของเธอครับ” ริมฝีปากแห้งผากบอกออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบ