“อ๋อ อย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
“แล้วตอนนี้คุณแววดาวออกมาจากมหา’ลัยหรือยังคะ”
“ตอนนี้แววอยู่คอนโดค่ะ กำลังแต่งตัว”
“คอนโดไหนคะ พี่จะได้รีบไปรอรับ”
“คอนโด...”
แววดาวบอกชื่อคอนโดของตัวเองให้กับคู่สนทนาที่ตนเองคิดว่าเป็นลูกน้องของผู้ว่าจ้างให้ตัวเองไปอุ้มบุญให้
“งั้นพี่จะไปรอคุณแววดาวอยู่ที่ล็อบบี้นะคะ แต่งตัวให้สวยที่สุดนะคะ เพราะถ้าเจ้านายพี่ถูกใจ คุณแววดาวอาจจะได้ทริปเพิ่มที่นอกเหนือจากค่าจ้างอีกนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะ แววจะแต่งตัวให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”
เมื่อแววดาววางสายไปแล้ว กานติมาก็บิดปากกับโทรศัพท์มือถืออย่างเหยียดหยาม
“ถึงแกจะแต่งตัวสวยแค่ไหน แต่แกก็จะได้แค่นอนแห้งอยู่ข้างถนนเท่านั้นแหละ”
กานติมาเหยียบคันเร่ง บังคับรถญี่ปุ่นป้ายแดงของตัวเองให้แล่นกลับขึ้นไปบนถนน เพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดของแววดาว
‘ดูสิว่าแกจะแก้ปัญหานี้ยังไง’
กานติมาหัวเราะร่วนอย่างสะใจ เพราะมั่นใจว่าอองเดรจะต้องโกรธมาก หรือบางทีอาจจะไล่ชมพูแพรออกจากงานเลยก็ได้
หึ... ถ้าเป็นเช่นนั้น หล่อนคงจะต้องไปรำแก้บนหลายวัดเลยทีเดียว
ตัวเลขแสดงเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ บอกให้หล่อนรู้ว่าตอนนี้เลยเวลาสองทุ่มตรงมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง
น้ำตาเม็ดโตๆ ที่พยายามห้ามเอาไว้ไหลลงอาบแก้มนวล และไหลเลยเรื่อยลงใส่แก้วเหล้าที่กำเอาไว้ในมือ
เหล้า...
ไหนมีคนเคยบอกว่าเหล้าจะทำให้ลืมความทุกข์ ความเจ็บปวด แต่ทำไมหล่อนถึงยังคงเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ดื่มมันเข้าไปเกือบหมดแก้วแล้ว
มือเรียวยกขึ้นดึงแว่นหนาออกจากใบหน้า เพื่อที่จะได้เช็ดน้ำตาที่กำลังไหลหลากราวกับน้ำป่าออกจากแก้มได้ง่ายขึ้น
หล่อนเจ็บปวด เมื่อคิดว่าตอนนี้กำลังมีผู้หญิงโชคดีคนหนึ่งกำลังได้อยู่ใต้ร่างของอองเดร ท่านประธานที่หล่อนแอบรักมานาน
“หยุดร้องไห้ได้แล้วชมพูแพร เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะร้องไห้ด้วยซ้ำ”
หญิงสาวบอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมาในอกด้วยความปวดร้าว และก็บอกตัวเองให้ชินสักทีกับการที่อองเดรมีผู้หญิงคนอื่นข้างกาย
แต่ให้ตายเถอะ หล่อนไม่อาจจะทำใจให้ชินได้สักที
หล่อนร้องไห้เสียใจทุกครั้งที่รู้ว่าอองเดรกำลังทำกิจกรรมกับผู้หญิงคนอื่น ผู้หญิงที่หล่อนเป็นคนคัดเลือกให้กับเขาด้วยมือตัวเอง
ดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำแห่งความเสียใจจับจ้องมองที่แก้วเหล้า
สงสัยหล่อนคงยังดื่มไม่พอ ต้องดื่มให้มากกว่านี้สินะ ถึงจะลืมความทุกข์ได้
มือขาวสะอาดสวมแว่นหนากลับคืนสู่ใบหน้า ก่อนจะยกแก้วเหล้าเทกรอกลงไปในลำคอ ใบหน้านวลบิดเบี้ยวเพราะรสชาติของแอลกอฮอล์บาดลึกถึงจิตวิญญาณ
“น้องเอามาอีกแก้ว”
หล่อนกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟที่เพิ่งเดินผ่านไปและสั่งเหล้าเพิ่ม
แก้วเหล้าใบใหม่ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าตามที่หล่อนต้องการ
ชมพูแพรยื่นมือไปจับแก้วเหล้าเอาไว้ กำลังจะยกขึ้นดื่ม แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังขึ้นเสียก่อน
แก้วเหล้าใบสวยถูกวางลงบนโต๊ะที่เดิมในฉับพลัน ดวงตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาเปื้อนเปรอะต้องรีบกะพริบถี่ๆ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือหล่อนตั้งเอาไว้เฉพาะบุคคล และเสียงเรียกเข้านี้ก็คือเบอร์ของอองเดรนั่นเอง
เขาโทรมาหาหล่อนทำไมตอนนี้ หรือว่ากิจกรรมอุ้มบุญของเขากับแววดาวสิ้นสุดลงแล้ว
หญิงสาวอดที่จะเหลือบมองเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้ และก็ต้องแปลกใจจนคิ้วขมวดมุ่นพันกัน
เพิ่งสองทุ่มสามสิบแปดนาที ทำไมอองเดรทำเสร็จเร็วนัก ปกติเขาทำทั้งคืนนี่นา...
หรือว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น?
ชมพูแพรลนลานกดรับสายของเจ้านายหนุ่มสุดหล่อด้วยความร้อนอกร้อนใจ และก็ยิ่งตกใจมากขึ้นจนแทบสร่างเมา เมื่อได้ยินเสียงของคนปลายสาย
“คุณรีบมาหาผมที่โรงแรมเดี๋ยวนี้เลยนะ คุณชมพูแพร”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะท่านประธาน”
“ไม่ต้องมาถาม! รีบมาด่วน”
“ค่ะ... ค่ะ แพรจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
หล่อนกำลังจะวางสาย แต่เสียงคนปลายสายหยุดยั้งเอาไว้เสียก่อน
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนน่ะ”
“เอ่อ...”
“ไม่ใช่ที่คอนโดใช่ไหม”
“เอ่อ... พอดีแพรออกมาเที่ยวน่ะค่ะ”
“ปกติคุณไม่เคยเที่ยวกลางคืนนี่ชมพูแพร ทำไมตอนนี้ถึงอยากเริ่มเที่ยวขึ้นมาล่ะ”
หล่อนไม่เข้าใจนักว่าทำไมอองเดรจะต้องไม่พอใจเมื่อรู้ว่าหล่อนไม่ได้อยู่คอนโดด้วย
“แพร... ก็แค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ น่ะค่ะ”
หล่อนได้ยินเสียงคำรามคล้ายไม่สบอารมณ์ของคนปลายสาย ก่อนที่เขาจะเค้นเสียงกระด้างที่น้อยครั้งนักที่จะได้ยินดังมาเข้าหู
“ผมขอเตือนว่า คุณไม่เหมาะกับสถานที่แบบนั้นหรอก ชมพูแพร”
เขาจะต้องมาใส่ใจอะไรหล่อน ในเมื่อหล่อนมันก็แค่เลขาฯ หน้าห้องที่เขาเชิดชูว่าทำงานได้ยอดเยี่ยมเท่านั้นเอง
“ทำไมท่านประธานถึงคิดว่าผับบาร์ไม่เหมาะกับแพรล่ะคะ”
“ก็เพราะในสายตาของผม คุณเหมาะที่สุดที่จะอยู่หน้าห้องทำงานของผมยังไงล่ะ เอาล่ะ เลิกถามอะไรเซ้าซี้ได้แล้ว รีบมาหาผม”
หล่อนควรจะตอบ ‘ค่ะ’ ‘รับทราบค่ะ’ เหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่แอลกอฮอล์ที่วิ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือด ทำให้หล่อนรู้สึกแกร่งกล้ามากกว่าปกติ
“แล้ว... คุณแววดาวล่ะคะ”
“ก็ที่ผมโทรหาคุณ ก็เรื่องนี้แหละ”
“ทะ... ทำไมคะ หรือว่าท่านประธานไม่ถูกใจคุณแววดาว”
แต่เขาเป็นคนเลือกเองกับมือ ตอนที่หล่อนนำประวัติเข้าไปให้เลือกในห้องทำงานนี่นา
“ไม่ใช่ว่าผมไม่ถูกใจ”
“อ้าว แล้วเรื่องอะไรคะท่านประธาน”
คนปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะเค้นคำพูดที่ทำให้หล่อนตื่นตกใจจนช็อกออกมาอย่างชัดเจน
“แววดาวไม่มาตามนัด”
“คะ? ท่านประธาน”
หล่อนตกใจจนต้องรีบผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ หน้านวลซีดเผือด
หล่อนรีบวางเงินลงกับโต๊ะ โดยไม่คิดจะรับเงินทอน จากนั้นก็รีบเดินออกไปจากสถานบันเทิงด้วยความรีบร้อน
“ผู้หญิงคนนั้นไม่มา ผมนั่งรออยู่ในห้องมาเกือบสี่สิบนาทีแล้ว”
“ทำไม เป็นอย่างนั้นละคะ เอ่อ... เดี๋ยวแพรจะรีบโทรตามให้นะคะ”
“ผมไม่สนว่าคุณจะทำอะไรต่อจากนี้ แต่คุณต้องมาหาผมที่นี่ เดี๋ยวนี้ ชมพูแพร”
“ค่ะ ท่านประธาน แพร... กำลังรีบไปค่ะ”
ชมพูแพรก้าวขึ้นรถของตัวเอง ติดเครื่องยนต์และขับออกไปด้วยความเร็ว ในระหว่างที่จอดติดไฟแดงก็รีบโทรหาแววดาว
“ทำไมไม่รับนะ”
แต่ปลายสายไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะกดโทรหาสักกี่ครั้งก็ตาม
“รับปากแล้วก็ไม่มา ท่านประธานคงกำลังโกรธเรามากแน่ๆ”
นี่หล่อนจะทำยังไงดีนะ
ชมพูแพรเต็มไปด้วยความร้อนใจ หวาดวิตก เพราะนี่คือการทำงานผิดพลาดครั้งแรก ตั้งแต่ทำงานในฐานะเลขาฯ ของอองเดรมา
ตอนที่ 28. ตอนอวสาน “ท่านประธาน... จะทำอะไรคะ” หล่อนกระซิบกระซาบถามเขาเบาๆ แต่อองเดรเพียงแค่ยิ้มหวานตอบมาเท่านั้น “ผมมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนทราบ” น้ำเสียงของอองเดรทรงพลัง มีอำนาจ และเต็มไปด้วยความเป็นผู้นำ ชมพูแพรมองเหล่าพนักงานที่นั่งนิ่งบนเก้าอี้สีน้ำเงินที่ตั้งเรียงรายเบื้องหน้าด้วยความหวาดหวั่นไม่น้อย “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ชมพูแพรจะสิ้นสุดหน้าที่ในตำแหน่งเลขาฯ ของผม” ชมพูแพรเงยหน้าขึ้นมองคนที่สูงกว่ามากด้วยดวงตาที่เบิ่งกว้างตกใจ เสียงฮือฮาเซ่งแซ่ดังกังวานในกลุ่มของพนักงานเหล่านั้น แต่ไม่ช้าก็ต้องเงียบกริบลง เมื่ออองเดรพูดออกมาอีก “แต่เธอจะถูกเลื่อนขั้นให้ขึ้นมาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผมแทน” คราวนี้เสียงเซ่งแซ่ดังกังวานยิ่งกว่าเดิม ทุกคนคงตกใจ แปลกใจ และเหลือเชื่อ ซึ่งก็ไม่ต่างจากหล่อนเลยสักนิด “ท่าน... ประธานพูดอะไรคะเนี่ย” อองเดรมองหน้าหล่อน เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วก็หยิบแหวนเพชรออกมา “แต่งงานกับผมนะ ชมพูแพร” คราวนี้เสียงเซ่งแซ่เปลี่ยนเป็นเสียง
ตอนที่ 27. “ไม่ใช่แค่เลขาฯ แต่คุณเป็นมากกว่านั้น” “ท่านประธาน... พูดอะไรคะ...” หล่อนถามกลับเสียงเบาหวิว หัวใจเต้นโครมครามลั่นอก “แม้ผมจะรู้ตัวช้าไปสักนิดว่าคุณมีค่ากับผมแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้สายเกินไป จริงไหม...” คราวนี้เป้าหมายของอองเดรคือปากของหล่อน เขาจูบอย่างดูดดื่ม จูบราวกับต้องการถ่ายทอดความรู้สึกที่มีอยู่ล้นอกให้หล่อนรู้ “อย่าแม้แต่จะคิดไปจากผม... จำเอาไว้นะชมพูแพร ตั้งแต่วันแรกที่คุณเข้ามาทำงานกับผม ชีวิตของคุณก็เป็นของผมแล้ว...” “ท่านประธาน...” นี่เขากำลังทำให้หล่อนหัวใจเต้นแรงมาก และก็ทำให้หล่อนคาดหวังในสิ่งที่ยากจะเป็นไปได้ “ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปไหน เพราะคุณเป็นของผม ผู้หญิงของผม...” “ถึงท่านประธานไม่พูดแบบนี้ แพร... ก็จะทำหน้าที่อุ้มบุญให้ดีที่สุดค่ะ” “มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย เพราะสิ่งที่ผมกำลังพูด มันคือความรู้สึกที่อยู่นอกเหนือจากหน้าที่ใดๆ ทั้งปวง” หัวใจของหล่อนเต้นแรงมากจนแทบจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว “ผมพูดขนาดนี้แล้ว คุณยังต้องให้ผมพูดอะไรต่ออีกไหม”
ตอนที่ 26.“มันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมเอาคุณแทบจะครบร้อยครั้งแล้วมั้ง ถ้ายังไม่ท้อง ไม่คุณก็ผมคงมีใครเป็นหมันแน่ๆ”“แพร... คิดว่า... แพรจะหาผู้หญิงคนใหม่มาอุ้มบุญให้กับท่านประธาน”“โน หยุดพูดเรื่องนี้เลย เพราะผมไม่ต้องการใครนอกจากคุณ”“แต่คุณแววดาวเธอยังพร้อมจะทำงานอยู่นะคะ แพรเพิ่งคุยกับเธอไป...”หล่อนยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกอองเดรเค้นเสียงเหี้ยมเกรียมใส่“ผมบอกแล้วไง ว่านอกจากคุณแล้วผมไม่ต้องการใครอีก”เพราะดวงตาของเขาดุมาก และน้ำเสียงก็เดือดดาล ทำให้ชมพูแพรไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกอองเดรสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ข่มโทสะ ก่อนจะพูดออกมา“เจอกันเย็นนี้นะ”“ค่ะ”อองเดรเดินจากไปโดยไม่จูบล่ำลาใดๆ คงเพราะเขาโมโหกับคำพูดของหล่อนนั่นเองชมพูแพรขยับตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกทรมานเหลือเกิน น้ำตาเอ่อล้นขอบตา“แพร... ไม่คู่ควรกับท่านประธานหรอกค่ะ”หล่อนก้าวลงจากเตียง เดินไปหยุดที่หน้าต่างห้อง มองท้ายรถหรูของอองเดรที่หายวับออกไปนอกรั้วใหญ่ผ่านม่านน้ำตา บริษัทที่หล่อนถูกเรียกมาสัมภาษณ์เป็นบริษัทเล็กหากเทียบกับบริษัทของอองเดร ชมพูแพรก้าวเดินตรงเข้าไปในห้องประชุม ซึ่งมีผู้ชายวัยใกล้เคียงกันกับอองเด
ตอนที่ 25. “ไม่... เป็นไรค่ะ แพรค่อยยังชั่วแล้ว” หล่อนเดินไปหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน โดยมีเขาเดินตามมาประชิดตัว “อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้สิ” มือใหญ่ดึงแว่นหนาออกจากใบหน้าของหล่อน และจ้องมองเข้ามาในดวงตาอย่างพิจารณา “ยิ้มให้ผมหน่อยสิ ผมจะได้มีแรงทำงานต่อ” หล่อนฝืนยิ้มให้กับอองเดร พยายามที่จะยิ้มให้เป็นธรรมชาติที่สุด และก็ทำได้เยี่ยมเลยทีเดียว อองเดรระบายยิ้ม เอามือหนาสอดใต้ท้ายทอยของหล่อน ก่อนจะประกบปากลงมาหา บดจูบอย่างดูดดื่มเต็มไปด้วยอารมณ์หวาม ความเศร้าใจค่อยๆ จางหายไป เมื่อถูกความหวานฉ่ำของอองเดรเติมเต็มเข้ามาในความรู้สึก มือเล็กยกขึ้นโอบลำคอแกร่ง และหล่อนก็ลุกขึ้นยืน เผยอปากจูบตอบเขาด้วยอารมณ์เดียวกัน “อืมมม...” อองเดรจูบจนปากหล่อนบวมช้ำ ก็ผละออกห่าง ก่อนจะพูดเสียงพร่า “ต้องแบบนี้สิ ถึงจะเป็นเลขาคนเก่งของผม” หล่อนแก้มแดงก่ำ เม้มปากเบาๆ กำลังจะนั่งลง แต่ก็ถูกอองเดรเอื้อมมือมากุมเอวคอดเอาไว้ พร้อมกับยกหล่อนลอยข้ามโต๊ะทำงานไปเลยทีเดียว “อ๊ะ... ท่านประธาน” เขา
ตอนที่ 24. “ไม่ต้องมาทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อนเลย เป็นอะไร ไหนบอกผมสิ” “แพรสบายดีจริงๆ ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรเลย” หล่อนพยายามยิ้มกว้างขึ้น แต่กระนั้นคนตัวโตก็ยังคงไม่เชื่อ “หรือว่าเพราะผมเข้าประชุมนานไป คุณก็เลยคิดถึงมาก...” “อาจ... จะเป็นอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” หล่อนคิดว่าหากตัวเองยอมรับออกไปตามที่เขาคิด จะทำให้อองเดรเชื่อง่ายขึ้น แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะมันยิ่งทำให้อองเดรแคลงใจมากขึ้นต่างหาก “คุณเอาน้ำอะไร ผมจะไปซื้อให้” “แพร... ไปซื้อให้ท่านประธานดีกว่าค่ะ” หล่อนจะลุก แต่เขาเอามือวางบนฝ่ามือของหล่อนและกดเอาไว้ “ผมไปเองดีกว่า” ชมพูแพรหันมองไปรอบๆ ก็พบว่าตอนนี้สายตาของพนักงานทุกคนในโรงอาหาร ไม่เว้นแม้แต่คนขายอาหารก็มองมาที่หล่อน หล่อนจำต้องรีบดึงมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของอองเดรเร็วที่สุด “เอา... น้ำเปล่าค่ะ” “แต่ผมว่าคุณควรจะดื่มน้ำส้มนะ” “ก็... ได้ค่ะ” อองเดรยิ้มใส่ตาของหล่อน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและเดินตรงไปยังร้านน้ำ หล่อนก้มหน้าซ่อนความอดสูเอาไว
ตอนที่ 23. “แม้คนพวกนั้นจะทำได้แค่มอง แต่ผมก็ไม่ต้องการให้ใครมองคุณ” คำพูดของคนที่เพิ่งเดินออกไป มันทำให้หล่อนรู้สึกราวกับกำลังลอยสูงขึ้นไปสัมผัสกับปุยเมฆขาวสะอาดบนท้องฟ้า มือเล็กยกขึ้นทาบหน้าอกเอาไว้ เพื่อไม่ให้ก้อนเนื้อที่กำลังเต้นระส่ำโครมครามกระดอนตกลงมากระแทกพื้นห้อง “ทำไมท่านประธาน... พูดเหมือนหวงแพรแบบนี้นะ...” หากเขาหวงหล่อนจริงๆ ก็คงจะดีไม่น้อย หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ ออกมา ก่อนจะรีบดึงตัวเองกลับไปในโลกของความจริง เสียงโทรศัพท์พื้นฐานบนโต๊ะทำงานดังขึ้น หล่อนจำต้องรีบเอื้อมมือไปคว้ามาแนบหู “สวัสดีค่ะ ชมพูแพรพูดค่ะ” “พี่นกเองนะ มีเรื่องจะถามหน่อยน่ะ” นก หรือ นวรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัท ซึ่งก็ค่อนข้างจะสนิทกับหล่อน “พี่นกมีอะไรเหรอคะ” “คืออย่างนี้นะ ในกรุ๊ปไลน์ของบริษัทน่ะ มีคลิปของแพรอยู่ในนั้น”น้ำเสียงของคนพูดดูกระอักกระอ่วนไม่น้อย และก็ทำให้ชมพูแพรแปลกใจมาก “คลิป? คลิปอะไรเหรอคะพี่นก” “แพรก็ลองเข้าไปในกรุ๊ปไลน์สิ” “แปบนะคะพี่นก”