ตอนที่ 19 รางวัลที่ว่างเปล่า
ลลินกลับมาทำงานในเช้าวันต่อมาด้วยสภาพจิตใจที่บอบช้ำเกินกว่าจะเยียวยาได้ เธอพยายามฝังตัวเองลงในกองงานออกแบบที่สุมอยู่เต็มโต๊ะ ใช้ความวุ่นวายเป็นเกราะกำบังจากความทรงจำอันเลวร้ายที่คฤหาสน์หลังนั้น เสียงหัวเราะเยาะและสายตาดูแคลนยังคงตามหลอกหลอนเธอไม่หยุดหย่อน
“ลิน! พี่มีข่าวดีจะบอก!”
เสียงของผู้จัดการฝ่ายที่ดังขึ้นอย่างตื่นเต้น ทำให้เพื่อนร่วมงานทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว ลลินเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความงุนงง
“ข่าวดีอะไรเหรอคะพี่ตา”
“งานออกแบบโปรเจกต์ ‘The Urban Oasis’ ที่เราส่งเข้าประกวดของ ‘แกรนด์ดีไซน์ อวอร์ด’ น่ะ...กรรมการประกาศผลมาแล้วนะ” พี่ตาเว้นจังหวะ พูดพลางยิ้มกว้าง “เราได้รางวัลชนะเลิศ!!!”
สิ้นเสียงประกาศ เสียงเฮและเสียงปรบมือก็ดังขึ้นรอบตัวเธอ ทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมแสดงความยินดีกับเธออย่างจริงใจ เพราะรู้ดีว่าลลินคือหัวเรือใหญ่ของโปรเจกต์นี้ เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับมันมาตลอดหลายเดือน
“สุดยอดไปเลยลิน!”
“เก่งมากเลยค่ะพี่ลิน!”
ลลินยกมือไหว้ขอบคุณทุกคนอย่างนอบน้อม ริมฝีปากของเธอฉีกยิ้มออกมา แต่เป็นรอยยิ้มที่เศร้าสร้อย แม้ว่านี่จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอ แต่ความยินดีกลับไม่สามารถแทรกซึมผ่านความเจ็บปวดที่เกาะกุมหัวใจของเธอได้เลยแม้แต่น้อย
ช่วงค่ำของวันเดียวกัน ณ โรงแรมหรูใจกลางเมือง
งานประกาศรางวัล ‘แกรนด์ดีไซน์ อวอร์ด’ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ แขกเหรื่อในงานล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ สังคม และเหล่าไฮโซที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี แสงไฟจากสปอตไลท์และแสงแฟลชจากกล้องนักข่าวกระจายไปทั่วทั้งห้องบอลรูม
คุณหญิงประภาคือหนึ่งในแขกคนสำคัญที่ได้รับเชิญมาร่วมงาน เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะ VIP ร่วมกับเพื่อนสนิทในแวดวงสังคมชั้นสูง พูดคุยและจิบไวน์ด้วยท่าทีสง่างามตามแบบฉบับ
จนกระทั่งพิธีกรบนเวทีได้ประกาศมาถึงรางวัลที่สำคัญที่สุดของค่ำคืนนี้...
“และรางวัลชนะเลิศ โครงการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่...โปรเจกต์ ‘The Urban Oasis’ จากบริษัท อินสไปร์ ดีไซน์ ครับ! ขอเรียนเชิญหัวหน้าทีมผู้ออกแบบ คุณลลิน วงศ์สุวรรณ ขึ้นรับรางวัลบนเวทีด้วยครับ!”
สิ้นเสียงประกาศชื่อ คุณหญิงประภาถึงกับชะงักค้างไปในทันที ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยิน ‘ลลิน วงศ์สุวรรณ’ ชื่อของลูกสะใภ้ที่ท่านแสนชิงชังดังชัดเจนไปทั่วทั้งฮอลล์
แล้วท่านก็ได้เห็น...ร่างระหงในชุดเดรสยาวสีน้ำเงินเข้มที่ดูเรียบหรูและสง่างาม ก้าวขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง แสงไฟทุกดวงจับจ้องไปที่เธอเพียงคนเดียว ภาพของลลินในตอนนั้นดูมั่นใจและเปล่งประกายอย่างที่คุณหญิงไม่เคยเห็นมาก่อน
มันคือภาพของผู้หญิงที่มีความสามารถและได้รับการยอมรับจากคนในแวดวงสังคม ไม่ใช่ภาพของลูกสะใภ้จนๆ ที่เอาแต่เกาะลูกชายของท่านกินเหมือนที่เคยตีตราไว้ ความคิดที่เคยเชื่อมั่นมาตลอดสามปีเริ่มสั่นคลอนอย่างรุนแรง
หลังรับรางวัลเสร็จ ลลินก็ถูกนักข่าวรุมล้อมเพื่อขอสัมภาษณ์ เธอตอบทุกคำถามด้วยท่าทีที่เป็นมืออาชีพ โดยมีคีรินทร์ เจ้านายของเธอคอยยืนอยู่เคียงข้างอย่างภาคภูมิใจ
“ลินเก่งที่สุดเลย” คีรินทร์กระซิบบอก
“ขอบใจมากค่ะพี่คีย์ ที่ให้โอกาสลิน” ลลินยิ้มบางๆ
ในจังหวะนั้นเอง ลิษาก็ฝ่าวงล้อมนักข่าวเข้ามาพร้อมกับช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ “ยินดีด้วยนะคะพี่ลิน!”
ลลินรับช่อดอกไม้จากน้องสาว “ขอบใจนะ” ก่อนจะดึงมือน้องสาวมาถ่ายรูปด้วยกัน
นักข่าวกดชัตเตอร์กันไม่หยุด แต่สำหรับคุณหญิงประภาที่มองมาจากไกลๆ มันกลับเป็นภาพที่ดูขัดตาและทำให้ท่านรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ท่านหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทรออกหาลูกชายของตัวเองทันที
ธามเพิ่งกลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า เขาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ แต่ความเงียบนั้นกลับทำให้เขารู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เขาหลุดจากภวังค์
“ครับคุณแม่”
“แกอยู่ที่ไหนธาม!” น้ำเสียงที่ลอดผ่านสายมานั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ผมเพิ่งกลับถึงบ้านครับ มีอะไรรึเปล่าครับ”
“มีอะไรเหรอ...แม่ต่างหากต้องถามว่าทำไมแกไม่อยู่ที่นี่กับลลิน!”
ธามขมวดคิ้วด้วยความงุนงง “เรื่องอะไรกันแน่ครับคุณแม่”
คุณหญิงประภาแค่นเสียงหยันในลำคอ “ก็เรื่องที่เมียแกเพิ่งขึ้นรับรางวัลชนะเลิศการออกแบบบนเวทีใหญ่โตน่ะสิ! คนทั้งงานเขารู้กันหมด สื่อทุกสำนักก็ทำข่าว มีแต่แกสินะ...สามีของเขาแท้ๆ แต่กลับไม่รู้อะไรเลย!”
คำพูดของแม่เหมือนค้อนปอนด์ที่ทุบลงกลางใจของธาม ลินได้รับรางวัลชนะเลิศงั้นเหรอ ทำไมเขาถึงไม่รู้ ทำไมเธอถึงไม่เคยบอกเขาสักคำ
ความรู้สึกน้อยใจแล่นปราดเข้าโจมตีหัวใจของเขาอย่างรุนแรง ทำไมเธอถึงเลือกผลักไสเขาออกมาเป็นคนนอกได้อย่างเลือดเย็น
“รีบมาที่งานเดี๋ยวนี้เลยนะธาม!”
คุณหญิงประภาพูดจบก็ตัดสายไปทันที ทิ้งให้ธามนั่งนิ่งอยู่กับความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งน้อยใจ เสียใจ และโกรธตัวเอง เขาหยิบกุญแจรถบนโต๊ะ แล้วรีบออกจากบ้านไปทันที
บทอวสาน ของขวัญล้ำค่าห้าเดือนผ่านไป...หลังจากเรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายลง ลลินก็ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นการถาวร เธอกลับเข้าไปทำงานที่บริษัท "Architect Life" อีกครั้ง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้านายอย่างคีรินทร์กลับไม่เหมือนเดิม...มันมีกำแพงบางอย่างที่มองไม่เห็นคั่นกลางอยู่เสมอกำแพงที่ชื่อว่า ‘ความลับ’ ของลิษา...ตลอดห้าเดือนที่ผ่านมา ลลินต้องเก็บงำเรื่องที่น้องสาวของเธอกำลังตั้งท้องไว้เพียงลำพัง แม้ว่าเธอจะต้องเผชิญหน้ากับคีรินทร์ที่ทำงานแทบทุกวันก็ตาม“ลิน”เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ลลินที่กำลังจะเดินออกจากออฟฟิศต้องหยุดชะงัก“พี่คีย์...มีอะไรรึเปล่าคะ”“พี่...” คีรินทร์มีท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด “พี่แค่อยากจะถามว่า...ลิษา...เขาเป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่พยายามเก็บอาการอย่างที่สุดลลินมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา...แววตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและรู้สึกผิด เธอสงสารเขาจับใจ...เขาเองก็เป็นเหยื่อในเกมนี้ไม่ต่างจากน้องสาวของเธอ แต่คำสัญญาที่ให้ไว้กับลิษามันค้ำคออยู่“ลิษาสบายดีค่ะ” เธอตอบได้เพียงเท่านั้น ก่อนจะรีบหาทางปลีกตัว “ลินต้องขอต
ตอนที่ 28 วันที่ทุกอย่างคลี่คลายธามจับมือของลลินเบาๆ แล้วพาเธอเดินเข้าไปหาคุณหญิงประภาและเจ้าสัวธำรงที่กำลังนั่งรออยู่ด้วยสีหน้าใจดี...เป็นภาพที่ลลินไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน“หนูลิน” คุณหญิงประภาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างแท้จริงลลินยังคงทำตัวไม่ถูก เธอทำได้เพียงยกมือไหว้สวัสดีท่านทั้งสองตามมารยาท “สวัสดีค่ะคุณท่าน”“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ” ลลินตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เมื่อเห็นว่าบรรยากาศมันดูแปลกไปหมด“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ” คุณหญิงประภาส่ายหน้าช้าๆ พร้อมกับส่งยิ้มสำนึกผิดมาให้ “แม่แค่อยากจะขอโทษหนู...แม่ผิดเองที่ตัดสินหนูผิดไปมาตลอด”“พ่อก็เหมือนกัน” เจ้าสัวธำรงเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พ่อต้องขอโทษหนูด้วยจากใจจริง”คำขอโทษที่ไม่คาดคิดทำให้ลลินประหลาดใจ แต่เธอก็เลือกที่จะปล่อยวางอดีต “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มให้กับท่านทั้งสองอย่างจริงใจ“ถ้าอย่างนั้น...กลับไปอยู่บ้านเราเถอะนะลูกนะ” คุณหญิงประภาเอ่ยชวนอย่างมีความหวัง“ตอนนี้คงยังกลับไม่ได้หรอกค่ะ โปรเจกต์ที่สิงคโปร์ยังไม่เสร็จ” ลลินปฏิเสธอย่างนุ่มนวล “และอีกอย่าง...หนูกับคุณธาม เราหย่ากันแล้วค่ะ”“อ๋อ! เรื่องใบหย่านั่นน
ตอนที่ 27 โอกาสครั้งสุดท้ายเมื่อธามถอนจูบออกมา ลลินก็หอบหายใจอย่างหนัก เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา...แววตาที่เคยเย็นชา บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโหยหาอย่างปิดไม่มิด“ทำแบบนี้ทำไมคะ...ในเมื่อคุณกำลังจะแต่งงาน” เธอเอ่ยถามเสียงสั่น พยายามใช้ความจริงที่เธอเชื่อมาตลอดเป็นเกราะป้องกันหัวใจที่กำลังสั่นไหว“ไม่จริง!” ธามปฏิเสธเสียงดังฟังชัด “ลิน...คุณคือภรรยาของผม เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมรัก แล้วผมจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง! ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”เขาเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้เธอฟังอย่างรวดเร็ว เรื่องที่ปาริฉัตรจัดฉาก และหลักฐานที่เขาเพิ่งได้มาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองลลินนิ่งฟัง...ส่วนลึกในใจของเธอเชื่อเขา “...ฉันเชื่อคุณค่ะ”แววตาของธามเป็นประกายขึ้นมาด้วยความดีใจ แต่ประโยคต่อมาของเธอก็ดับความหวังนั้นลงจนหมดสิ้น“แต่ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม...ว่าเราควรจะหย่ากัน”“ทำไมล่ะลิน...ทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนใจจะสลาย“เพราะฉันเหนื่อยแล้วค่ะ” เธอบอกเหตุผลง่ายๆ ที่กรีดลึกไปถึงหัวใจ“ต่อให้ไม่มีเรื่องของคุณปาริฉัตร...มันก็ยังมีเรื่องพ่อแม่ของคุณที่ไม
ตอนที่ 26 ปลายทางที่สิงคโปร์ตอนนี้แยมรู้สึกเหมือนคนน้ำท่วมปาก เธอมองหน้าผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม คนหนึ่งคือเจ้านาย อีกคนคือสามีของเพื่อนรัก ทั้งคู่มีแววตาเหมือนคนอมทุกข์ที่น่าสงสารจับใจ แต่เธอก็รับปากกับลลินไว้แล้วว่าจะไม่บอกเรื่องของพวกเธอให้ใครรู้เด็ดขาดไม่ได้...เธอต้องใจแข็งเข้าไว้!“ก่อนจะมาถามหาคนอื่น พวกคุณช่วยเคลียร์ปัญหาในชีวิตของตัวเองกันก่อนดีไหมคะ” แยมเปิดฉากสวนกลับ “คุณธาม พ่อแม่ของคุณยอมรับลินแล้วเหรอคะ แล้วที่ฉันได้ข่าวว่า คุณกำลังจะจัดงานแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่ชื่อปาริฉัตร มันเรื่องจริงรึเปล่า!”“ลินรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ!” ธามถามสวนขึ้นมาทันทีด้วยความร้อนใจ“รู้สิคะ! รู้ทุกอย่าง!”คำตอบนั้นทำให้ธามแทบจะเป็นบ้า “ไม่จริง! ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”เขาไม่รอช้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้แยมฟังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเปิดคลิปวิดีโอที่เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองให้เธอดู“ได้โปรดบอกผมเถอะ ว่าตอนนี้ลินอยู่ที่ไหน” เขามองหน้าเธอด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนแยมเห็นแววตาที่จริงใจและเจ็บปวดของเขาแล้วก็ใจอ่อน บางทีสองคนนี้ก็ควรจะได้คุยกันจริงๆ
ตอนที่ 25 ชีวิตใหม่ที่สิงคโปร์สามเดือนแล้ว นับตั้งแต่วันที่ลลินตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วพาน้องสาวหนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สิงคโปร์ โชคดีที่ผลงานดีไซน์ที่ชนะรางวัลของเธอไปเข้าตาบริษัทสถาปนิกชื่อดังที่นี่ พวกเขาจึงติดต่อและชักชวนให้เธอมาร่วมงานด้วยทันทีทุกอย่างดูเหมือนจะค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ลลินใช้การทำงานหนักเป็นเครื่องมือในการเยียวยาตัวเอง หลังเลิกงาน เธอก็แวะซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อของสดเพื่อกลับไปทำอาหารเย็นให้น้องสาวเหมือนอย่างเช่นทุกวันในขณะเดียวกัน ที่อพาร์ตเมนต์วิวสวยใจกลางเมือง ลิษานั่งมองรูปถ่ายในกลุ่มไลน์ของเพื่อนๆ วันนี้คือวันรับปริญญาของเธอ...วันที่เธอควรจะมีความสุขและได้เฉลิมฉลองกับเพื่อนๆ แต่เหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นมันได้พรากทุกอย่างไป เธอยังไม่พร้อมที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะพ่อแม่ และคุณคีรินทร์คลิกเสียงไขกุญแจดังขึ้น พร้อมกับร่างของพี่สาวที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงพะรุงพะรัง“พี่ลิน! ซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้คะ”“วันนี้เรามีแขกคนสำคัญ พี่เลยจะทำหมูกระทะเลี้ยงต้อนรับซะหน่อย” ลลินพูดพลางยิ้มบางๆ“ใครเหรอคะ”ยังไม่ทันที่ลลินจะได้ตอบ เสียงเคาะประตู
ตอนที่ 24 วันพิพากษาณ คลับหรูที่โรงแรมธามนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ตัวเดิม จ้องมองแก้วในมือแต่ไม่ได้ดื่มมัน สามเดือนที่ผ่านมา เขายอมปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกผิดและความสิ้นหวัง“ดูท่าทางคุณจะเครียดน่าดูนะ”เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ ธามหันไปมอง ชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดแบรนด์เนมกำลังส่งยิ้มมาให้เขา เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจ แต่ในมือของชายคนนั้นกลับมีแท็บเล็ตเครื่องหนึ่งที่กำลังเปิดคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในโรงแรมคืนนั้น!“คุณเป็นใคร” ธามถามเสียงเรียบ“ผมเป็นใครไม่สำคัญ แต่สิ่งที่ผมมี...น่าจะสำคัญกับคุณมากกว่า” ชายคนนั้นเลื่อนแท็บเล็ตมาตรงหน้าเขา “หลักฐานที่คุณตามหาแทบตาย ตอนนี้มันอยู่ในมือผมแล้ว”ธามก้มลงมองจอ...คลิปวิดีโอเผยให้เห็นทุกอย่าง! ตั้งแต่ปาริฉัตรจ้างพนักงานโรงแรมให้ช่วยพยุงร่างที่ไร้สติของเขาเข้าไปในห้อง ไม่นานนักผู้ชายคนนี้ก็เข้าไปในห้องเหมือนกัน และเขาก็ออกมาก่อนหน้าที่เขาจะตื่นไม่กี่นาที“แปลว่าผมไม่ได้อยู่กับปาริฉัตรแค่สองคน”“ใช่ ผมอยู่ด้วย และเป็นคนห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นปล้ำคุณ” แต่ธีภพไม่ได้บอกว่าเขาสั่งสอนผู้หญิงร้ายอย่างปาริฉัตรทั้งคืนทุกอย่างชัดเจน