Share

ตอนที่2.2 แผนรับมือ

last update Last Updated: 2025-02-18 21:52:09

“อย่าฝากความหวังไว้กับคนตายเลย เจ้าหาท่อนไม้มาถือเอาไว้ดีกว่า หากมีคนเข้ามาไม่ว่าใครก็ตีได้เลย แต่ไม่ต้องเผยวรยุทธ์ให้พวกเขารู้” จ้าวฉือลี่เอ่ยเสียงเบา ๆ ราวกับกระซิบ เพราะคนถือคบเพลิงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว

เรื่องที่คนรับใช้ทั้งสามของเผยตั้นเยี่ยนมีวรยุทธ์นั้นมิมีผู้ใดรู้ นอกจากเผยตั้นเยี่ยนกับคหบดีหลิว หลิวชิงเยี่ยนท่านตาของนางเท่านั้น แต่จ้าวฉือลี่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้มามีหรือนางจะไม่รู้

ทั้งสามคนล้วนเป็นคนที่หลิวชิงเยี่ยนคัดเลือกมาด้วยตนเองก่อนจะส่งมาเพื่อคอยดูแลเผยตั้นเยี่ยน หลังจากที่หลิวชิงเยี่ยนนั้นสืบทราบสาเหตุการตายที่แท้จริงของบุตรสาวตนเองได้ว่าที่จริงแล้วนางนั้นมิได้ตายเพราะร่างกายอ่อนแอ แต่ทว่าตายเพราะถูกวางยา แต่หลิวชิงเยี่ยนยังไม่รู้ว่าใครคือคนวางยาบุตรสาวของตนจึงส่งคนมาอารักขาหลานสาวเอาไว้ก่อน

อย่าว่าแต่หลิวชิงเยี่ยนเลยที่ไม่รู้ตัวคนร้าย แม้แต่จ้าวฉือลี่เองก็ยังไม่รู้ว่าใครคือคนวางยา เพราะนักเขียนเทนิยายไปเสียก่อน

เพียงไม่นานนักแสงไฟจากคบเพลิงก็เข้ามาใกล้จุดที่พวกนางซ่อนตัวอยู่ เมื่อฉุยฉุยเห็นว่าระยะห่างจากแสงไฟนั้นเข้ามาใกล้ไม่ถึง5ก้าวแล้ว นางก็พุ่งตัวออกมาจากที่ซ่อนเพื่อตีคนที่มาเยือนตามที่คุณหนูของนางสั่ง

เมื่อทหารของเว่ยเหวินเซียนโดนฉุยฉุยที่เป็นเพียงสาวใช้โจมตีมีหรือจะหลบไม่ได้ ทหารผู้นั้นทิ้งคบเพลิงในมือแล้วรีบคว้าท่อนไม้เอาไว้ ก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของฉุยฉุยไขว้ไปทางข้างหลัง

“เจอตัวสาวใช้ของคุณหนูเผยแล้ว พวกเจ้าไปทูลท่านอ๋องที”

ทหารผู้นั้นรีบตะโกนบอกสหายที่อยู่ใกล้ ๆ ให้ไปแจ้งผู้เป็นนาย แต่ว่าเว่ยเหวินเซียนกลับได้ยินโดยที่ไม่ต้องให้ผู้ใดมาแจ้ง เขากระโดดลงจากหลังม้าเข้ามาในป่าไผ่แล้วเดินไปตามเสียงของนายทหารผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินเสียงของทหารจ้าวฉือลี่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังกอไผ่ใหญ่ก็แสร้งเดินออกมาแบบไม่มั่นใจว่าผู้ที่มาเยือนคือใคร พร้อมเอ่ยกับทหารผู้นั้นด้วยท่าทางหวั่นกลัว แต่ท่าทางที่กำลังหวาดกลัวนี้นางนั้นหาได้แสดงไม่ เพราะมันออกมาจากใจจริงของนางในยามนี้

“เจ้าคือทหารของชินอ๋องอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย

“เจอคุณหนูเผยแล้ว มาช่วยจับนางที” ทหารผู้นั้นไม่ตอบคำถามของจ้าวฉือลี่ แต่กลับตะโกนเรียกทหารคนอื่นมาช่วยจับตัวเผยตั้นเยี่ยน

แต่ยังไม่ทันที่ทหารคนอื่นจะมาถึง เว่ยเหวินเซียนก็มาถึงยังจุดที่คนทั้งสามคนยืนอยู่แล้ว เพียงแค่เห็นใบหน้าของเผยตั้นเยี่ยน เขาก็ชักกระบี่ออกมาพร้อมกับใช้ปลายกระบี่ชี้ไปยังลำคอขาวของเผยตั้นเยี่ยนทันที

ใบหน้าของจ้าวฉือลี่เวลานี้ซีดเสียยิ่งกว่าไก่ที่ถูกต้มเสียอีก เพราะปลายกระบี่นั้นห่างจากลำคอนางไม่ถึง10แผ่นกระดาษกั้นเท่านั้น หากนางเผลอกลืนน้ำลายตอนที่เขาชี้ปลายกระบี่มายังลำคอของนาง ป่านี้ลำคอของนางคงโดนปลายกระบี่นั้นทิ่มเข้าให้แล้ว

นางใช้ฝ่ามือทาบลงบนหน้าอกตนเอง พร้อมก้าวเท้าถอยหลังให้ห่างจากปลายกระบี่เล็กน้อยก่อนจะระบายลมหายใจออกมา แล้วจึงพยายามเรียกสติของตนเอง

“ท่านอ๋องเพคะ ไยจึงหันปลายกระบี่มาที่หม่อมฉันเช่นนี้เพคะ แล้วคนของท่านอ๋องจับคนของหม่อมฉันทำไมกันเพคะ

เหล่าทหารที่วิ่งมาพร้อมคบเพลิงวิ่งมาหาผู้เป็นนาย แสงจากคบเพลิงทำให้จ้าวฉือลี่เห็นใบหน้าและวรกายของบุรุษเจ้าของกระบี่ได้ชัดเจนขึ้น

ใบหน้าของเขาคมเข้มดุดัน จมูกเป็นสันรับกับใบหน้า ดวงตาของเขาเรียวยาวคล้ายกับนัยน์ตาเหยี่ยวดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ชวนให้คนมองใจสั่นด้วยความหวาดกลัว วรกายสูงไหล่กว้าง ดูจากเส้นเลือดหลังฝ่ามือก็คาดว่าเรือนร่างของเขาคงเต็มไปด้วยมัดกล้าม จ้าวฉือลี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อนึกถึงเรือนร่างภายใต้อาภรณ์ของเว่ยเหวินเซียน

แต่เมื่อสายตาของนางเหลือบไปเห็นสายตาคมกริบของเว่ยเหวินเซียนก็รีบหลบตาหนีทันที ‘บ้าไปแล้วหรือจ้าวฉือลี่ จะตายอยู่แล้วยังบ้าผู้ชายอยู่ได้’

ก็ไม่แปลกที่จ้าวฉือลี่นั้นจะจิตใจล่องลอยไปกับรูปลักษณ์ของเว่ยเหวินเซียน เพราะปกตินางนั้นก็เป็นพวกบ้าดาราจีนในซีรีส์อยู่แล้ว ยามนี้ได้มาเห็นความหล่อของเว่ยเหวินเซียนที่นักเขียนนั้นได้บรรยายไว้ว่าหล่อราวเทพแห่งสงครามลงมาจุติ นางนั้นก็อดที่จะเผลอหลงใหลไปกับรูปโฉมของเขาไม่ได้

เว่ยเหวินเซียนที่ยืนอ่านสีหน้าท่าทางของเผยตั้นเยี่ยนอยู่นั้นถึงกับสับสน เพราะท่าทางของนางนั้นถึงจะดูเหมือนหวาดกลัวเขาถึงสิบส่วนก็จริง แต่ดวงตาของนางกลับมองเขาด้วยสายตาที่หลงใหล เหมือนสตรีที่เห็นบุรุษที่ตนเองรักใคร่ มิได้มีสายตาที่หวาดกลัวเหมือนคนอื่น ๆ ที่กลัวว่าเขานั้นจะมาเอาชีวิตเพราะถูกเขาจับได้ว่าทำความผิด

“ตราพยัคฆ์ของข้าอยู่ที่ไหน หากเจ้ากล้าหลอกข้าคงรู้ใช่หรือไม่ว่าจะมีจุดจบเช่นใด” เว่ยเหวินเซียนถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยใบหน้านิ่งจนคนรอบกายไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขานั้นกำลังคิดเช่นใดอยู่

จ้าวฉือลี่มิได้ตอบทันท่วงที นางเพียงขมวดคิ้วทำทีว่าสงสัย เพราะจากประสบการณ์ดูซีรีส์อ่านนิยายมานั้น หากตอบทันควันอาจจะแสดงพิรุธให้อีกฝ่ายรู้

“เจ้าเงียบเช่นนี้ หมายความว่าเช่นไร” เว่ยเหวินเซียนเอ่ยด้วยท่าทีและน้ำเสียงเช่นเคย

จ้าวฉือลี่จึงรีบแสดงละครใส่เว่ยเหวินเซียนทันที “ตราพยัคฆ์ของท่านอ๋องหายไปอย่างนั้นหรือเพคะ แล้วไยท่านอ๋องจึงมาถามหากับหม่อมฉันเพคะ หรือท่านอ๋องคิดว่าหม่อมฉันขโมยไปอย่างนั้นหรือ” จ้าวฉือลี่พยายามตีหน้าใสซื่อปนน้อยใจที่ถูกใส่ร้าย

ใบหน้าของเว่ยเหวินเซียนแสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมา เพราะยามนี้เขาไม่รู้เลยว่านางนั้นพูดจริงหรือเสแสร้งกันแน่ เนื่องจากที่เขาเคยสอบสวนคนร้ายมานั้น มิมีใครที่จะโกหกต่อหน้าเขาได้โดยที่สายตาไม่มีความหวั่นกลัวเผยให้เขาเห็นเช่นนางเลย แต่จะให้เขาเชื่อว่านางพูดความจริง เขาก็ไม่อาจตัดสินใจเชื่อได้โดยไร้ข้อกังขาไปเสียทีเดียว

เพราะด้วยท่าทีของเผยตั้นเยี่ยนที่ราวกับเสียใจและน้อยใจที่เขาเข้าใจนางผิดไปนั้นทำให้เขาสับสน เนื่องจากปกติเผยตั้นเยี่ยนเป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งทะนงไม่ค่อยจะเผยความอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น ถึงนางจะเป็นสตรีย่อมมีด้านนี้อยู่แล้ว แต่ทว่าที่ผ่านมาเขานั้นก็ยังมิเคยเห็นด้านเช่นนี้ของนาง จึงทำให้เขารู้สึกว่านางแปลกไปจากปกติ

“ในเมื่อเจ้าไม่ได้เอาไป คงไม่ถือสาถ้าหากข้าจะค้นตัวเจ้า” เว่ยเหวินเซียนเอ่ยพร้อมกับจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะก้าวเท้ายาวมาใกล้เผยตั้นเยี่ยน แล้วใช้มือจับที่เชือกผ้าคาดเอวของนางเอาไว้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่11 ช่วงเวลาแห่งความสุข

    ในเมื่อพระชายาของเขาจัดการเรื่องหลินเยว่ฉีแล้ว เขาก็ไม่อยากรบเร้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว ดังนั้นเรื่องที่จะทำให้พระชายาของเขาไม่สบายใจในยามนี้ก็คงไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ดังนั้นเว่ยเหวินเซียนจึงหันหน้าไปยังหลานชายของตนเพราะแน่นอนว่าเรื่องมงคลนี้เขามีหรือจะเก็บงำเอาไว้เพียงคนเดียว ถ้าหากเป็นไปได้เขาอยากจะประกาศให้รู้กันทั่วใต้หล้าเสียด้วยซ้ำ บุรุษเจ้าของจวนมิรอช้าตะโกนบอกหลานชายของตนเสียงดังจนคนทั่วทั้งงานเลี้ยงได้ยิน ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนก่อนโค้งตัวลงพร้อมกับเอ่ยแสดงความยินดีที่เว่ยชินอ๋องกำลังจะมีซื่อจื่อน้อยหลังจากเอ่ยแสดงความยินดีจบเผิงเจียวเจี๋ยกับเว่ยหลิงเฮ่อต่างจ้องมองหน้ากัน เหมือนทั้งคู่กำลังคิดบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกัน ก่อนที่เจ้าของตำหนักบูรพาจะหันไปยังเหล่าคุณชายพร้อมกับตรัสขึ้นเสียงดัง“ในเมื่อมีเรื่องมงคล เช่นนั้นพวกเราก็มาดื่มสุราฉลองกันดีหรือไม่” เว่ยหลิงเฮ่อรีบเปลี่ยนงานเลี้ยงดูตัวให้เป็นงานเลี้ยงฉลองที่พระชายาชินอ๋องตั้งครรภ์“ดีพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นด้วย” คุณชายรองตระกูลเผิงรีบเอ่ยเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาคิดไว้เช่นกัน“พ่อบ้านนำสุราออกมา” เว่ย

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่10 คนที่ท่านต้องใส่ใจ

    ความจริงเผยตั้นเหม่ยเห็นเผิงเจียวเจี๋ยเดินเข้ามาในงานเลี้ยงแล้ว เพียงแต่นางอยากทำให้เขาเห็นว่านางเองก็หาใช่สตรีไร้ค่าที่ต้องรอคอยเพียงบุรุษคนเดียว เพราะยังมีบุรุษอีกมากมายที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อนาง และต่อให้ไม่มีเขานางก็สามารถแต่งไปเป็นฮูหยินเอกในตระกูลที่ดีได้ เผยตั้นเหม่ยจึงทำทีเป็นไม่สนใจบุรุษตระกูลเผิง และแสร้งทำเป็นชื่นชอบการแสดงของบุรุษอื่นให้เขาเห็นทว่าถึงเผยตั้นเหม่ยจะคิดเช่นนั้น แต่ครั้นได้ยินเสียงของเว่ยเหวินเซียนตวาดใส่เผิงเจียวเจี๋ย หญิงสาวก็ตกใจเป็นอันมากในใจรู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาว่าเผิงเจียวเจี๋ยจะถอดใจและกลับจวนตระกูลเผิงไป แต่ทว่านางก็พยายามอดกลั้นเอาไว้ เพราะนางเชื่อว่าไม่ว่าพี่เขยและพี่สาวของนางจะทำอันใดลงไป ย่อมคิดถึงนางเป็นสำคัญ และหากเขาจะไปจริง ๆ นางจะได้รู้เอาไว้ว่าความรักที่เขามีให้นางนั้นช่างน้อยนิดนัก หญิงสาวจะได้ตัดใจจากเขาได้อย่างไม่ต้องนึกเสียใจในภายหลังขณะที่ในใจของเผยตั้นเหม่ยกำลังรู้สึกเศร้าเมื่อคิดว่าตนเองต้องตัดใจจากบุรุษที่รัก ในช่วงพริบตาเดียวที่หางตาของนางเหลือบไปเห็นบุรุษตระกูลเผิงจูงมือขององค์รัชทายาทหลิงเฮ่อเดินมา ในใจของนางก็กลับมาเบิกบานอีกคร

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่9 ไม่ผ่านการคัดเลือก

    เผิงเจียวเจี๋ยเพียงเห็นสายตาของเว่ยเหวินเซียน อีกทั้งบวกกับคำพูดก่อนหน้าก็พอจะเข้าใจสิ่งที่บุรุษตรงหน้าต้องการจะสื่อ เขาจึงคิดจะเอ่ยแก้ต่างให้ตนเองทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้น“แต่ดูจากการแต่งตัวของเจ้าแล้ว ตระกูลของเจ้าคงมิอยากให้ตั้นเหม่ยเลือกเจ้ากระมัง หรือไม่ก็เป็นเจ้าที่มั่นใจในตัวเองเกินไปว่าตั้นเหม่ยจะยอมทิ้งต้นไม้งามทั้งผืนป่า เพื่อรอเจ้าเพียงคนเดียว เจ้าจึงได้แต่งตัวมาลวก ๆ ถึงเพียงนี้” ถึงเว่ยเหวินเซียนจะไม่ได้เอ่ยเสียงดังมากนัก ทว่าน้ำเสียงของเขาบวกกับพลังงานดำมืดในตัวเขากลับแผ่ออกมาอย่างชัดเจนถึงโทสะที่มีอยู่ภายใน“ขอท่านอ๋องอย่าทรงกริ้ว กระหม่อมมิได้คิดเช่นนั้นจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ หากกระหม่อมคิดเช่นนั้นไหนเลยวันนี้จะรีบตามเสด็จองค์รัชทายาทมาเช่นนี้” เผิงเจียวเจี๋ยรีบแก้ตัวทันที“ถึงเรื่องอื่นที่เจียวเจี๋ยกล่าวมา หลานไม่อาจยืนยันได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน หลานยืนยันแทนเขาได้พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยหลิงเฮ่อที่ยืนฟังบุรุษทั้งสองคนอยู่พักใหญ่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาบุรุษทั้งสองเผิงเจียวเจี๋ยสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันตาเมื่อ

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่8 เจ้าของจวน

    แต่ถึงบุรุษหนุ่มแซ่เผิงจะรู้สึกไม่พอใจป้าสะใภ้มากเพียงไรก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้ เพราะอย่างไรนางก็อาวุโสกว่าอีกทั้งยังอยู่ต่อหน้าคนนอก เขาจึงทำได้เพียงกลืนความโกรธนั้นลงท้องไป“ขอบคุณท่านป้าสะใภ้ที่เป็นห่วง แต่ร่างกายของข้ามิได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น หากเพียงลมหนาวแค่นี้ทำให้ข้ามิอาจออกจากจวนไปที่ใดได้เลย วันหน้าไหนเลยจะเป็นขุนนางรับใช้แว่นแคว้นได้ ท่านปู่ท่านย่าว่าจริงหรือไม่ขอรับ?” เผิงเจียวเจี๋ยกล่าวกับฮูหยินใหญ่เผิงจบก็หันไปถามท่านผู้เฒ่าเผิงและฮูหยินผู้เฒ่าเผิงทันทีชายหญิงชราเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกถามอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ไม่อาจหาข้ออ้างมาปฏิเสธได้ จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับไปอย่างไม่อาจบ่ายเบี่ยงบุรุษแซ่เว่ยที่ยืนมองบุรุษหนุ่มแซ่เผิงจัดการผู้อาวุโสในเรือน ถึงกับไม่อาจซ่อนสีหน้าพึงพอใจที่มีเอาไว้ได้ จนองครักษ์ข้างกายถึงขั้นต้องสะกิดเตือนให้เจ้าของตำหนักบูรพาเก็บอาการ“ในเมื่อท่านผู้เฒ่าเผิงกับฮูหยินผู้เฒ่ามิว่ากล่าวอันใด หากเจ้าอยากตามเราไป เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” เว่ยหลิงเฮ่อกล่าวกับเผิงเจียวเจี๋ยจบก็หมุนตัวย่างก้าวเดินไปทางประตูจวนทันทีถึงเจ้าของตำหนักบูรพาจะอยากเล่นงานคนตระกูลเผิงมากกว่าน

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่7 ป้าสะใภ้

    “ท่านคิดว่าข้าโง่ใช่หรือไม่ พระชายาชินอ๋องมีเหตุผลอันใดจะต้องรีบให้ตั้นเหม่ยแต่งงานด้วย?” เผิงเจียวเจี๋ยโต้กลับทันควันองครักษ์คนสนิทขององค์รัชทายาทหัวเราะอย่างขบขันเมื่อได้ยินคำพูดของเผิงเจียวเจี๋ยเมื่อคุณชายรองเผิงได้ยินเสียงขำขันของบุรุษตรงหน้าความคับแค้นในใจก็ยิ่งมากขึ้น ครั้นจะเอ่ยถามให้หายข้องใจก็มิทันแล้ว เมื่ออีกฝ่ายได้เปิดปากเอ่ยขึ้นก่อน“คุณชายรองเผิงมัวแต่ซ่อนตัวอยู่แต่ในเรือนคงไม่รู้ข่าวคราวด้านนอก เช่นนั้นข้าจะบอกคุณชายรองเผิงเพื่อเอาบุญสักครั้ง นั่นเป็นเพราะอีกไม่นานท่านอ๋องกับพระชายาจะเสด็จไปครองแคว้นแล้ว มีหรือพระชายาจะเสด็จไปโดยไม่จัดการเรื่องทางบ้านทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องคู่ครองที่จะมาดูแลน้องสาวอันเป็นที่รัก ดังนั้นหากท่านจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงเพียงเพราะคิดว่าคุณหนูรองเผยจะไม่เลือกบุรุษอื่นแล้วละก็ ข้าว่าท่านต้องพิจารณาให้ดีแล้วล่ะ เนื่องจากก่อนหน้านี้เพราะคุณหนูรองเผยไม่เคยได้พูดคุยกับบุรุษอื่นมาก่อน แต่วันนี้นางจะได้มีโอกาสพูดคุยกับบุรุษมากหน้าหลายตา อีกทั้งทางบ้านของบุรุษเหล่านั้นก็ล้วนยินดีรับนางเป็นลูกสะใภ้เข้าตระกูล แล้วนางจะยังรอบุรุษที่เอาแน่เอานอ

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่6 เผิงเจียวเจี๋ยรู้ความจริง

    พ่อบ้านจวนตระกูลเผิงพาหมอหลวงและเติ้งจื่ออวี๋เดินมายังเรือนของเผิงเจียวเจี๋ย ใบหน้าของเขาซีดมีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุดทั้งที่ยามนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นมากแล้วแท้ ๆ แต่ทว่าคนทั้งสองที่เดินตามมาก็หาได้คิดจะเอ่ยถามให้ชายชราที่นำทางลำบากใจไม่ เพราะทั้งสองคนที่ตามมาล้วนรู้ดีว่าเป็นคำสั่งของคนเป็นนาย คนที่เป็นบ่าวหรือคนใต้บัญชาอย่างพวกเขาก็ทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้น ในเมื่อหัวอกเดียวกันทั้งสองย่อมไม่อยากให้ชายชราที่นำทางมาลำบากใจเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องนอนของเผิงเจียวเจี๋ย พ่อบ้านจวนตระกูลเผิงก็ยิ่งมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมากกว่าเก่า เขาเคาะประตูห้องนอนสองสามทีก่อนเอ่ยด้วยเสียงตะกุกตะกัก“คุณชายรองขอรับ องค์รัชทายาทเป็นห่วงอาการป่วยของคุณชายจึงได้ให้หมอหลวงมาตรวจขอรับ” ชายชราเอ่ยจบหัวใจก็เต้นรัวระส่ำ เพราะความจริงที่ว่าผู้นำตระกูลเผิงหลอกลวงองค์รัชทายาทหลิงเฮ่อคงต้องถูกคุณชายรองเผิงเปิดเผยความจริงออกมาเป็นแน่“เราใกล้หายดีแล้วไม่รบกวนท่านหมอหลวงจะดีกว่า เจ้าพาท่านหมอกลับไปเถิด แล้วขอบพระทัยองค์รัชทายาทแทนเราด้วย อีกอย่างหากไม่มีเรื่องอันใดก็อย่าให้ใครมารบกวนเราอีก เราอยากพักผ่อน” เผิงเจียวเจี๋ยตะโก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status