Share

ตอนที่3 เสือขาวกับพยัคฆ์

last update Last Updated: 2025-02-18 21:55:26

จ้าวฉือลี่ไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อถูกจู่โจมประชิดตัวก็ถึงกับไปไม่เป็น ยิ่งได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาในระยะเผาขนใบหน้าของนางก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที

‘แบบนี้นี่เองเวลาแฟนคลับเห็นศิลปินสุดหล่อของตัวเองในระยะใกล้ถึงทำตัวไม่ถูก ความหล่อนี่มันช่างมีพลังทำลายล้างสูงเสียจริง ๆ ทำให้คนหลงใหลเคลิบเคลิ้มได้ในชั่วพริบตา’

จ้าวฉือลี่รีบก้มหน้าลงเพราะกลัวสติจะกระเจิงจนเผลอตัวทำอะไรลงไปจนเว่ยเหวินเซียนนั้นจับผิดได้ แต่เมื่อนางก้มลงมาเห็นว่ามือของเขานั้นจับเชือกผ้าคาดเอวของนางเอาไว้ ก็ทำให้นางโกรธขึ้นมาทันที

ไม่ว่าเขาจะหล่อเหลามากเพียงใด แต่การที่ทำเช่นนี้ก็เท่ากับไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย ถึงนางจะไม่ได้เกิดในสมัยนี้แต่นางนั้นก็คิดว่าทุกยุคทุกสมัยบุรุษก็ควรให้เกียรติผู้หญิงเพศแม่

เพราะตอนที่นางอยู่ในภพชาติของตนเอง นางนั้นต้องเรียนหนังสือไปด้วยหาเงินเลี้ยงตัวเองไปด้วยตั้งแต่อายุ16ปี ไม่ว่างานรับจ้างอะไรจ้าวฉือลี่ก็ไม่เคยเกี่ยง และงานที่ทำเป็นประจำหลังเลิกเรียนคืองานเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหาร ถึงจะได้ทิปดีแต่เธอก็มักถูกลูกค้าแต๊ะอั๋งอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้นางเกลียดผู้ชายประเภทนี้ที่สุด

จ้าวฉือลี่หันไปมองฉุยฉุยเป็นนัยว่าต้องการความช่วยเหลือ แต่จ้าวฉือลี่นั้นก็ไม่แน่ใจหรอกว่าฉุยฉุยจะรู้หรือไม่ แต่ก็ต้องเสี่ยงดูหากฉุยฉุยไม่ช่วยนางค่อยหาทางออกเองอีกที

จ้าวฉือลี่แตะไปที่หลังมือของเว่ยเหวินเซียนที่จับเชือกผ้าคาดเอวของนางอยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาและพูดกับเว่ยเหวินเซียน

“ในเมื่อท่านอ๋องไม่เชื่อใจหม่อมฉันถึงเพียงนั้น ก็เชิญค้นตัวได้เลยเพคะ” จ้าวฉือลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความโกรธที่ถูกเหยียดหยาม

จ้าวฉือลี่คิดใช้โอกาสนี้ตัดความสัมพันธ์กับเว่ยเหวินเซียน เพราะหากนางรอดไปได้นางกับเขาก็ต้องติดต่อกันอีก หากเป็นเช่นนั้นเว่ยหลิงเฮ่อก็จะต้องหาทางบังคับนางให้ไปเอาตราพยัคฆ์มาอีก ชีวิตของนางก็จะวนเวียนอยู่กับสองคนนี้ไม่จบไม่สิ้น หัวของนางก็คงมีดาบพาดอยู่บนคอครั้งแล้วครั้งเล่า มิสู้ใช้เรื่องครั้งนี้ตัดขาดไปเลยจะดีกว่า

“ไม่ได้เพคะ ถึงอย่างไรคุณหนูก็เป็นสตรียังไม่ออกเรือน หากมีผู้ใดรู้เข้าว่าถูกบุรุษค้นตัวเช่นนี้ ชื่อเสียงของคุณหนูคงไม่อาจกู้คืนได้” ฉุยฉุยรีบเอ่ยขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเว่ยเหวินเซียนกำลังจะดึงเชือกผ้าคาดเอวของเผยตั้นเยี่ยน

จ้าวฉือลี่โล่งใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยินฉุยฉุยเอ่ยห้ามบุรุษตรงหน้าของนาง

เว่ยเหวินเซียนหยุดมือทันทีที่ได้ยินคำพูดของฉุยฉุย เพราะความโกรธที่มีทำให้เขานั้นลืมไปว่านี่คือการกระทำที่ไม่สมควร เพราะยามนี้นางนั้นเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น

“ได้ เช่นนั้นพวกเจ้ากลับไปพร้อมข้า ข้าจะให้สาวใช้ที่จวนข้าเป็นคนค้นตัวพวกเจ้า” เว่ยเหวินเซียนมองหน้าทหารที่จับตัวฉุยฉุยอยู่ราวกับบอกให้เขานั้นปล่อยนาง

เว่ยเหวินเซียนหมุนตัวเดินไปยังม้าของเขาโดยมีหานสิงเวยองครักษ์คนสนิทเดินตามมาพร้อมกับเผยตั้นเยี่ยนและฉุยฉุย ตลอดทางที่เดินมานั้นเว่ยเหวินเซียนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าบ่าวที่ให้การว่าเผยตั้นเยี่ยนเอาตราพยัคฆ์ไปนั้นพูดความจริง หรือเผยตั้นเยี่ยนพูดความจริงกันแน่ เพราะน้ำเสียงตอนที่นางอนุญาตให้เขาค้นตัวนั้นเต็มไปด้วยความโกรธที่ถูกเขาเข้าใจผิดและเหยียบหยาม หาได้มีท่าทีที่จะกลัวว่าเขานั้นจะพบตราพยัคฆ์เลยสักนิด

‘หรือนางจะทิ้งตราพยัคฆ์ไปแล้วจึงได้มั่นใจถึงเพียงนี้ แต่ต่อให้ทิ้งตราพยัคฆ์ไปแต่ขอเพียงเจ้าสัมผัสตราพยัคฆ์ยาที่ข้าเคลือบไว้ที่ตราพยัคฆ์ก็จะติดมือเจ้าอยู่ดี’

เว่ยเหวินเซียนเดินมาถึงม้าของเขาแล้ว ก็หันมาหาเผยตั้นเยี่ยน “เจ้าขึ้นม้าตัวเดียวกับข้า ส่วนสาวใช้ของเจ้าไปกับสิงเวย” แต่ยังไม่ทันที่เว่ยเหวินเซียนจะได้ขึ้นม้า ก็มีบุรุษสี่คนควบม้ามาทางพวกเขาเสียก่อน

“พวกเจ้าเป็นใครหยุดเดี๋ยวนี้” ทหารของเว่ยเหวินเซียนสั่งให้บุรุษทั้งสี่คนหยุด

“บังอาจ” บุรุษหนึ่งในสี่คนตวาดใส่ทหารของเว่ยเหวินเซียน

“กระหม่อมมิทันได้เห็นว่าเป็นองค์รัชทายาท ขอองค์รัชทายาทโปรดอภัยให้กับกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ทหารของเว่ยเหวินเซียนรีบคุกเข่าลงทันทีที่เห็นเว่ยหลิงเฮ่อ

เมื่อได้ยินทหารของเว่ยเหวินเซียนเรียกบุรุษที่มาว่าองค์รัชทายาท ในใจของจ้าวฉือลี่ก็เต้นรัว มือไม้สั่นขึ้นมาทันที ‘ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วย แค่รับมือคนเดียวข้าก็แย่แล้ว ตอนนี้ต้องรับมือสองคนพร้อมกัน ข้าจะบ้าตาย สวรรค์นะสวรรค์ทำไมท่านถึงเกลียดข้าถึงเพียงนี้’

เว่ยเหวินเซียนที่จ้องมองว่าบุรุษทั้งสี่เป็นใครอยู่นั้นเมื่อได้ยินว่าเป็นพระราชนัดดาของเขาก็หันมายังสตรีที่เขาจะพาขึ้นม้าไปด้วย แต่เมื่อเห็นใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยความตกใจ สีหน้าของเขาที่เริ่มคลายโทสะลงก็กลับมาเปี่ยมโทสะอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้มีคนคอยเตือนเขาว่าเผยตั้นเยี่ยนแอบไปพบกับเว่ยหลิงเฮ่อหลายครั้ง ถึงเขาจะไม่แน่ใจว่าเผยตั้นเยี่ยนเป็นคนที่เว่ยหลิงเฮ่อส่งมาคอยสอดแนนที่จวนของเขาจริงหรือไม่ แต่เขานั้นก็หาได้สนใจเพราะเขาคิดว่าหลานชายของเขานั้นคงไม่ได้คิดร้ายกับเขา แต่อาจจะเพียงแค่ระวังตัวเอาไว้ก่อนเพราะยามนี้อำนาจที่อยู่ในมือของเขานั้นมีมากนัก จึงไม่แปลกที่จะทำให้เว่ยหลิงเฮ่อรู้สึกกลัว

แต่ดูจากที่เผยตั้นเยี่ยนกับเว่ยหลิงเฮ่อใช้ถนนเส้นเดียวกันในคืนนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และหากเผยตั้นเยี่ยนกับเว่ยหลิงเฮ่อรวมหัวกันขโมยตราพยัคฆ์จริง เขาจะทำให้คนทั้งคู่ต้องเสียใจไปจนตายที่กล้าหักหลังเขาทั้งที่เขานั้นอุตส่าห์ให้ใจคนทั้งคู่มากถึงเพียงนี้

“เสด็จอา ทำไมจึงมาอยู่ที่นี่ในยามนี้” เว่ยหลิงเฮ่อเป็นฝ่ายทักทายเว่ยเหวินเซียนก่อน

“แล้วองค์รัชทายาทมาทำอันใดแถวนี้อย่างนั้นหรือ” เว่ยเหวินเซียนไม่ตอบแต่กลับถามกลับ

เว่ยเหวินเซียนสังเกตเห็นว่าสายตาของหลานชายของเขานั้นชายตามองคุณหนูตระกูลเผยหลายครั้ง ราวมีเรื่องอันใดที่เขานั้นไม่รู้เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง

จ้าวฉือลี่ที่ยืนอยู่ตรงกลางเหงื่อผุดออกมาทั้งตัว เมื่อเห็นสายตาของสองบุรุษที่ชำเลืองมามองนางครั้งแล้วครั้งเล่า นางพยายามคิดหาทางออกให้กับตนเอง แต่ยิ่งน้าหลานนิ่งเงียบต่างคนต่างไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายก็ทำให้นางนั้นอึดอัดและคิดอันใดไม่ออกยิ่งกว่าเก่า

แต่เมื่อเห็นใบหน้าและสายตาคมกริบราวกับคมดาบของเว่ยเหวินเซียนก็ทำให้นางนั้นนึกขึ้นมาได้ นางยอบกายให้เว่ยหลิงเฮ่อก่อนเอ่ย

 “หากวันหลังองค์รัชทายาทไปเที่ยวเล่นที่ไกล ๆ จะกลับทางนี้ก็ระวังหน่อยนะเพคะ เมื่อครู่หม่อมฉันเพิ่งถูกคนร้ายไล่ตาม โชคดีที่คนของหม่อมฉันไปตามท่านอ๋องมาช่วย ไม่เช่นนั้นป่านี้ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร”

เว่ยหลิงเฮ่อกับเว่ยเหวินเซียนต่างมองหน้าบุตรีสายตรงสกุลเผยด้วยสีหน้าครุ่นคิด เพราะเขาไม่แน่ใจว่าที่นางเอ่ยเช่นนี้เพราะอันใด

‘นางช่วยข้าปกปิดเรื่องที่ข้ามาตามหาตราพยัคฆ์ แล้วช่วยองค์รัชทายาทปกปิดเรื่องอันใดนางจึงได้เอ่ยเช่นนี้ หรือว่าพวกเขาจะนัดพบกันจริง ๆ แต่ก็ช่างเถอะหากค้นตัวนางเดี๋ยวทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง’ เว่ยเหวินเซียนไตร่ตรองอยู่ในใจ

‘นี่นางช่วยเสด็จอาปกปิดเรื่องที่ทำตราพยัคฆ์หายอย่างนั้นหรือ แถมยังช่วยข้าปกปิดเรื่องที่จะขโมยตราพยัคฆ์อีก ทำไมนางถึงได้ทำเช่นนี้หรือเพราะอยากมีชีวิตรอดจากข้าและเสด็จอาจึงประจบประแจงทั้งสองฝ่าย’ เว่ยหลิงเฮ่อใคร่ครวญอยู่ในใจแต่ก็ไม่อาจหยั่งใจของเผยตั้นเยี่ยนได้

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นให้ข้าไปส่งดีหรือไม่ อย่างไรก็ทางผ่าน” เว่ยหลิงเฮ่อเอ่ยถามเผยตั้นเยี่ยน

“ไม่เพคะ/ไม่ต้อง” จ้าวฉือลี่และเว่ยเหวินเซียนเอ่ยพร้อมกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่11 ช่วงเวลาแห่งความสุข

    ในเมื่อพระชายาของเขาจัดการเรื่องหลินเยว่ฉีแล้ว เขาก็ไม่อยากรบเร้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว ดังนั้นเรื่องที่จะทำให้พระชายาของเขาไม่สบายใจในยามนี้ก็คงไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ดังนั้นเว่ยเหวินเซียนจึงหันหน้าไปยังหลานชายของตนเพราะแน่นอนว่าเรื่องมงคลนี้เขามีหรือจะเก็บงำเอาไว้เพียงคนเดียว ถ้าหากเป็นไปได้เขาอยากจะประกาศให้รู้กันทั่วใต้หล้าเสียด้วยซ้ำ บุรุษเจ้าของจวนมิรอช้าตะโกนบอกหลานชายของตนเสียงดังจนคนทั่วทั้งงานเลี้ยงได้ยิน ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนก่อนโค้งตัวลงพร้อมกับเอ่ยแสดงความยินดีที่เว่ยชินอ๋องกำลังจะมีซื่อจื่อน้อยหลังจากเอ่ยแสดงความยินดีจบเผิงเจียวเจี๋ยกับเว่ยหลิงเฮ่อต่างจ้องมองหน้ากัน เหมือนทั้งคู่กำลังคิดบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกัน ก่อนที่เจ้าของตำหนักบูรพาจะหันไปยังเหล่าคุณชายพร้อมกับตรัสขึ้นเสียงดัง“ในเมื่อมีเรื่องมงคล เช่นนั้นพวกเราก็มาดื่มสุราฉลองกันดีหรือไม่” เว่ยหลิงเฮ่อรีบเปลี่ยนงานเลี้ยงดูตัวให้เป็นงานเลี้ยงฉลองที่พระชายาชินอ๋องตั้งครรภ์“ดีพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นด้วย” คุณชายรองตระกูลเผิงรีบเอ่ยเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาคิดไว้เช่นกัน“พ่อบ้านนำสุราออกมา” เว่ย

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่10 คนที่ท่านต้องใส่ใจ

    ความจริงเผยตั้นเหม่ยเห็นเผิงเจียวเจี๋ยเดินเข้ามาในงานเลี้ยงแล้ว เพียงแต่นางอยากทำให้เขาเห็นว่านางเองก็หาใช่สตรีไร้ค่าที่ต้องรอคอยเพียงบุรุษคนเดียว เพราะยังมีบุรุษอีกมากมายที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อนาง และต่อให้ไม่มีเขานางก็สามารถแต่งไปเป็นฮูหยินเอกในตระกูลที่ดีได้ เผยตั้นเหม่ยจึงทำทีเป็นไม่สนใจบุรุษตระกูลเผิง และแสร้งทำเป็นชื่นชอบการแสดงของบุรุษอื่นให้เขาเห็นทว่าถึงเผยตั้นเหม่ยจะคิดเช่นนั้น แต่ครั้นได้ยินเสียงของเว่ยเหวินเซียนตวาดใส่เผิงเจียวเจี๋ย หญิงสาวก็ตกใจเป็นอันมากในใจรู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาว่าเผิงเจียวเจี๋ยจะถอดใจและกลับจวนตระกูลเผิงไป แต่ทว่านางก็พยายามอดกลั้นเอาไว้ เพราะนางเชื่อว่าไม่ว่าพี่เขยและพี่สาวของนางจะทำอันใดลงไป ย่อมคิดถึงนางเป็นสำคัญ และหากเขาจะไปจริง ๆ นางจะได้รู้เอาไว้ว่าความรักที่เขามีให้นางนั้นช่างน้อยนิดนัก หญิงสาวจะได้ตัดใจจากเขาได้อย่างไม่ต้องนึกเสียใจในภายหลังขณะที่ในใจของเผยตั้นเหม่ยกำลังรู้สึกเศร้าเมื่อคิดว่าตนเองต้องตัดใจจากบุรุษที่รัก ในช่วงพริบตาเดียวที่หางตาของนางเหลือบไปเห็นบุรุษตระกูลเผิงจูงมือขององค์รัชทายาทหลิงเฮ่อเดินมา ในใจของนางก็กลับมาเบิกบานอีกคร

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่9 ไม่ผ่านการคัดเลือก

    เผิงเจียวเจี๋ยเพียงเห็นสายตาของเว่ยเหวินเซียน อีกทั้งบวกกับคำพูดก่อนหน้าก็พอจะเข้าใจสิ่งที่บุรุษตรงหน้าต้องการจะสื่อ เขาจึงคิดจะเอ่ยแก้ต่างให้ตนเองทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้น“แต่ดูจากการแต่งตัวของเจ้าแล้ว ตระกูลของเจ้าคงมิอยากให้ตั้นเหม่ยเลือกเจ้ากระมัง หรือไม่ก็เป็นเจ้าที่มั่นใจในตัวเองเกินไปว่าตั้นเหม่ยจะยอมทิ้งต้นไม้งามทั้งผืนป่า เพื่อรอเจ้าเพียงคนเดียว เจ้าจึงได้แต่งตัวมาลวก ๆ ถึงเพียงนี้” ถึงเว่ยเหวินเซียนจะไม่ได้เอ่ยเสียงดังมากนัก ทว่าน้ำเสียงของเขาบวกกับพลังงานดำมืดในตัวเขากลับแผ่ออกมาอย่างชัดเจนถึงโทสะที่มีอยู่ภายใน“ขอท่านอ๋องอย่าทรงกริ้ว กระหม่อมมิได้คิดเช่นนั้นจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ หากกระหม่อมคิดเช่นนั้นไหนเลยวันนี้จะรีบตามเสด็จองค์รัชทายาทมาเช่นนี้” เผิงเจียวเจี๋ยรีบแก้ตัวทันที“ถึงเรื่องอื่นที่เจียวเจี๋ยกล่าวมา หลานไม่อาจยืนยันได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน หลานยืนยันแทนเขาได้พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยหลิงเฮ่อที่ยืนฟังบุรุษทั้งสองคนอยู่พักใหญ่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาบุรุษทั้งสองเผิงเจียวเจี๋ยสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันตาเมื่อ

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่8 เจ้าของจวน

    แต่ถึงบุรุษหนุ่มแซ่เผิงจะรู้สึกไม่พอใจป้าสะใภ้มากเพียงไรก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้ เพราะอย่างไรนางก็อาวุโสกว่าอีกทั้งยังอยู่ต่อหน้าคนนอก เขาจึงทำได้เพียงกลืนความโกรธนั้นลงท้องไป“ขอบคุณท่านป้าสะใภ้ที่เป็นห่วง แต่ร่างกายของข้ามิได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น หากเพียงลมหนาวแค่นี้ทำให้ข้ามิอาจออกจากจวนไปที่ใดได้เลย วันหน้าไหนเลยจะเป็นขุนนางรับใช้แว่นแคว้นได้ ท่านปู่ท่านย่าว่าจริงหรือไม่ขอรับ?” เผิงเจียวเจี๋ยกล่าวกับฮูหยินใหญ่เผิงจบก็หันไปถามท่านผู้เฒ่าเผิงและฮูหยินผู้เฒ่าเผิงทันทีชายหญิงชราเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกถามอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ไม่อาจหาข้ออ้างมาปฏิเสธได้ จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับไปอย่างไม่อาจบ่ายเบี่ยงบุรุษแซ่เว่ยที่ยืนมองบุรุษหนุ่มแซ่เผิงจัดการผู้อาวุโสในเรือน ถึงกับไม่อาจซ่อนสีหน้าพึงพอใจที่มีเอาไว้ได้ จนองครักษ์ข้างกายถึงขั้นต้องสะกิดเตือนให้เจ้าของตำหนักบูรพาเก็บอาการ“ในเมื่อท่านผู้เฒ่าเผิงกับฮูหยินผู้เฒ่ามิว่ากล่าวอันใด หากเจ้าอยากตามเราไป เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” เว่ยหลิงเฮ่อกล่าวกับเผิงเจียวเจี๋ยจบก็หมุนตัวย่างก้าวเดินไปทางประตูจวนทันทีถึงเจ้าของตำหนักบูรพาจะอยากเล่นงานคนตระกูลเผิงมากกว่าน

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่7 ป้าสะใภ้

    “ท่านคิดว่าข้าโง่ใช่หรือไม่ พระชายาชินอ๋องมีเหตุผลอันใดจะต้องรีบให้ตั้นเหม่ยแต่งงานด้วย?” เผิงเจียวเจี๋ยโต้กลับทันควันองครักษ์คนสนิทขององค์รัชทายาทหัวเราะอย่างขบขันเมื่อได้ยินคำพูดของเผิงเจียวเจี๋ยเมื่อคุณชายรองเผิงได้ยินเสียงขำขันของบุรุษตรงหน้าความคับแค้นในใจก็ยิ่งมากขึ้น ครั้นจะเอ่ยถามให้หายข้องใจก็มิทันแล้ว เมื่ออีกฝ่ายได้เปิดปากเอ่ยขึ้นก่อน“คุณชายรองเผิงมัวแต่ซ่อนตัวอยู่แต่ในเรือนคงไม่รู้ข่าวคราวด้านนอก เช่นนั้นข้าจะบอกคุณชายรองเผิงเพื่อเอาบุญสักครั้ง นั่นเป็นเพราะอีกไม่นานท่านอ๋องกับพระชายาจะเสด็จไปครองแคว้นแล้ว มีหรือพระชายาจะเสด็จไปโดยไม่จัดการเรื่องทางบ้านทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องคู่ครองที่จะมาดูแลน้องสาวอันเป็นที่รัก ดังนั้นหากท่านจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงเพียงเพราะคิดว่าคุณหนูรองเผยจะไม่เลือกบุรุษอื่นแล้วละก็ ข้าว่าท่านต้องพิจารณาให้ดีแล้วล่ะ เนื่องจากก่อนหน้านี้เพราะคุณหนูรองเผยไม่เคยได้พูดคุยกับบุรุษอื่นมาก่อน แต่วันนี้นางจะได้มีโอกาสพูดคุยกับบุรุษมากหน้าหลายตา อีกทั้งทางบ้านของบุรุษเหล่านั้นก็ล้วนยินดีรับนางเป็นลูกสะใภ้เข้าตระกูล แล้วนางจะยังรอบุรุษที่เอาแน่เอานอ

  • ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า   ตอนพิเศษที่6 เผิงเจียวเจี๋ยรู้ความจริง

    พ่อบ้านจวนตระกูลเผิงพาหมอหลวงและเติ้งจื่ออวี๋เดินมายังเรือนของเผิงเจียวเจี๋ย ใบหน้าของเขาซีดมีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุดทั้งที่ยามนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นมากแล้วแท้ ๆ แต่ทว่าคนทั้งสองที่เดินตามมาก็หาได้คิดจะเอ่ยถามให้ชายชราที่นำทางลำบากใจไม่ เพราะทั้งสองคนที่ตามมาล้วนรู้ดีว่าเป็นคำสั่งของคนเป็นนาย คนที่เป็นบ่าวหรือคนใต้บัญชาอย่างพวกเขาก็ทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้น ในเมื่อหัวอกเดียวกันทั้งสองย่อมไม่อยากให้ชายชราที่นำทางมาลำบากใจเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องนอนของเผิงเจียวเจี๋ย พ่อบ้านจวนตระกูลเผิงก็ยิ่งมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมากกว่าเก่า เขาเคาะประตูห้องนอนสองสามทีก่อนเอ่ยด้วยเสียงตะกุกตะกัก“คุณชายรองขอรับ องค์รัชทายาทเป็นห่วงอาการป่วยของคุณชายจึงได้ให้หมอหลวงมาตรวจขอรับ” ชายชราเอ่ยจบหัวใจก็เต้นรัวระส่ำ เพราะความจริงที่ว่าผู้นำตระกูลเผิงหลอกลวงองค์รัชทายาทหลิงเฮ่อคงต้องถูกคุณชายรองเผิงเปิดเผยความจริงออกมาเป็นแน่“เราใกล้หายดีแล้วไม่รบกวนท่านหมอหลวงจะดีกว่า เจ้าพาท่านหมอกลับไปเถิด แล้วขอบพระทัยองค์รัชทายาทแทนเราด้วย อีกอย่างหากไม่มีเรื่องอันใดก็อย่าให้ใครมารบกวนเราอีก เราอยากพักผ่อน” เผิงเจียวเจี๋ยตะโก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status