Share

เสี่ยวไป๋

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-08-09 02:31:04

แต่สติของนางทั้งหมดยามนี้ไม่ได้อยู่ที่บาดแผลแล้ว เมื่ออยู่ ๆ ภายในถ้ำสว่างขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด นางมองไปรอบๆ อย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่แท่นหินใหญ่ ด้านในสุดของถ้ำ ที่อยู่ห่างจากนางเพียงสองจั้ง (1จั้ง = 3.33เมตร) เห็นจะได้

“กะ กรี๊ด อุ๊บ” เยี่ยนอิงตกใจจนเกือบจะกรีดร้องออกมา แต่ดีที่นางหลุดเสียงร้องออกมาเพียงเล็กน้อย ก่อนที่มือของนางจะตะครุบปิดปากเอาไว้ได้ทัน

บทแท่นหินมีร่างของพยัคฆ์สีขาว นอนหลับนิ่งอยู่ นางได้แต่มองจ้องอยู่นาน มันไม่ได้ขยับตัว ทั้งยังเหมือนไม่ได้สนใจการมีอยู่ของเยี่ยนอิงอีกด้วย

นางเห็นบ่อน้ำที่อยู่ใกล้กับที่พยัคฆ์ขาวนอนอยู่ พอเห็นว่ามันไม่ขยับตัวเยี่ยนอิงคิดว่ามันตายแล้ว นางจึงเดินเข้าไปอย่างใจกล้าด้วยกระหายอยากจะดื่มน้ำที่อยู่ในบ่อ และคิดจะล้างบาดแผลของนาง

“ตายแล้วเหรอ” นางมองร่างของมันอย่างสนใจ

ทั้งยังไม่อาจหาเหตุผลมาหักล้างได้ว่า เหตุใดแสงสว่างภายในถ้ำยังมิดับลง เยี่ยนอิงเดินเข้าไปสำรวจร่างของพยัคฆ์ขาวอย่างใจกล้า พอมองใกล้ๆ นางจึงได้ถอนหายใจออกมา

“โถ่ เพียงก้อนหินเหรอเนี่ย ทำไมถึงได้เหมือนของจริงเลย” นางใช้มือตบลงไปที่หินเบาๆ ราวกับลงโทษที่มันทำให้นางตกใจก่อนหน้านี้

แต่แล้วสิ่งประหลาดก็เกิดขึ้นกับเยี่ยนอิงอีกครั้ง เมื่อก้อนหินที่นางใช้มือข้างที่เปื้อนเลือดตีลงไป มันสั่นสะท้านจนปริแตกออก ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมา

“นายหญิง ท่านปลดปล่อยข้าน้อยรึ” ร่างพยัคฆ์ที่เมื่อครู่ยังเป็นเพียงก้อนหิน ตอนนี้กลายเป็นพยัคฆ์ขาว จ้องมองมาทางนางอยู่ ทั้งมันยังพูดสื่อสารกับนางได้ด้วย

“หะ เฮ้ยยยยย” เยี่ยนอิงตกใจจนก้าวถอยหลัง เท้าของนางเหยียบพลาดจนล้มลงไปอยู่ภายในบ่อน้ำ

พยัคฆ์ขาวที่เห็นเช่นนั้น มันกระโจนเพียงครั้งเดียวก็ถึงตัวนาง ทั้งยังคาบคอเสื้อของเยี่ยนอิงไว้พาขึ้นมาวางไว้บนแท่น

“แค่ก แค่ก” นางไอสำลักน้ำออกมาจนใบหน้าแดงก่ำ พยัคฆ์ขาวที่เห็นว่าดุร้ายมันกำลังตบลงที่หลังของนางเบาๆ

จะบอกว่าเบาแล้ว แต่น้ำหนักมือของมัน ความใหญ่โตเมื่อเทียบกับเยี่ยนอิงที่อยู่ในร่างของสตรีวัยสิบห้าหนาว ที่เหมือนเด็กเพียงสิบสองหนาวก็เจ็บจนจุกไปเลย

“พะ พอแล้ว” นางยกมือขึ้นห้าม หากมันยังช่วยตบหลังให้นางอยู่ นางคงได้ตายอีกครั้งด้วยมือของมันเป็นแน่

“ดีขึ้นแล้วรึขอรับ” มันชะโงกหน้าเข้ามาหาเยี่ยนอิงใกล้ๆ แต่เห็นใบหน้าของนางยังแดงอยู่จึงได้เอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“ดะ ดีแล้ว” นางถอยห่างด้วยความหวาดกลัว

“นายหญิง ท่านเป็นผู้ปลดปล่อยข้า ท่านไม่ต้องกลัวข้าขอรับ ข้าจะเป็นสัตว์เทพในปกครองของท่าน คอยดูแลท่านขอรับ” มันก้มหัวลงอย่างนอบน้อม

“หะ ห๊ะ!!! สัตว์เทพ สัตว์อะไร แล้วฉันไปปลดปล่อยตอนไหน” เยี่ยนอิงร้องเสียงหลงออกมา

“อะแฮ่ม ข้าน้อยลืมแนะนำตัว ข้าน้อยมีนามว่า เสี่ยวไป๋ เป็นสัตว์เทพที่ดูแลพื้นที่ทางตอนเหนือของแคว้นต้าหลี่ทั้งหมด” เสี่ยวไป๋ก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างเขินอาย ก่อนจะเล่าเรื่องที่มันทำผิดไว้จนต้องถูกกักขังอยู่บนแท่นหิน จนกว่าจะพบผู้เป็นนายมาปลดปล่อยมันให้กลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิมอีกครั้ง

“ข้าน้อยแอบไปกินผลท้อสวรรค์ เมื่อครั้งที่เดินทางไปร่วมส่งเทพสงครามลงมาเวียนว่ายที่โลกมนุษย์ขอรับ” เสี่ยวไป๋เผลอเลียริมฝีปากของมัน เมื่อนึกถึงรสชาติที่หอมหวานของผลท้อ ที่นับพันปีถึงจะสุกได้สักผล

“อร่อยมากเลยเหรอ” เยี่ยนอิงเห็นสีหน้าที่เคลิบเคลิ้มของมันเลยยื่นหน้าเข้าไปถาม

“ดียิ่งขอรับ นายหญิงท่านควรจะพูดให้เหมือนคนยุคโบราณเสียหน่อย หากท่านกลับเข้าไปในหมู่บ้านน้องชายท่านได้สงสัยแน่ ว่าท่านมิใช่พี่สาวของตน”

“รู้เหรอว่าฉันไม่ใช่ฟู่เยี่ยนอิง”

“เหอะ ข้าเป็นสัตว์เทพขอรับ ตัวท่านมาจากที่ใด ทำสิ่งใดมาก่อน สัตว์เทพเช่นข้าน้อยที่ผูกพันธะกับท่านแล้ว ย่อมรับรู้และเห็นได้เช่นกัน” มันเชิดหน้าขึ้นอย่างโอ้อวด

“ว้าววว สุดยอด” เยี่ยนอิงยกนิ้วหัวแม่มือชื่นชมเสี่ยวไป๋

แม้มันไม่รู้ว่าสิ่งที่เยี่ยนอิงทำหมายความเช่นไร แต่มันก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างภูมิใจที่ได้รับคำชื่นชม

“นายหญิง ท่านลงไปแช่ตัวในบ่อก่อนขอรับ พันธสัญญาระหว่างท่านและข้าจะได้สมบูรณ์”

“บ่อนั้นรึ” เยี่ยนอิงใช้ความทรงจำของฟู่เยี่ยนอิง ในเรื่องภาษาพูดให้เข้ากับยุคของโบราณตามคำเตือนของเสี่ยวไป๋

“ใช่ขอรับ หะ หากว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ท่านห้ามขึ้นมาจากน้ำก่อนเด็ดขาด” มันหลบสายตาที่จ้องมองมาของเยี่ยนอิง

“เพราะอันใด”

“ประเดี๋ยวท่านก็จะรู้ขอรับ รีบลงไปเร็วเข้า ข้ายังต้องช่วยท่านอีกหลายสิ่ง” มันใช้อุ้งเท้าดันตัวของเยี่ยนอิงให้เคลื่อนไหวตัวเสียที

นางจำต้องลงมาจากแท่นหิน แล้วมาหยุดที่หน้าบ่อน้ำ เมื่อครู่ก็เหมือนว่านางได้ลงมาแล้ว ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรสักอย่าง เยี่ยนอิงจึงเริ่มที่จะถอดเสื้อผ้าออกจากร่างช้าๆ

“มะ ไม่ต้องถอด ท่านลงไปเลย ประเดี๋ยวขึ้นมา ข้าจะใช้พลังปราณทำให้ชุดของท่านแห้งเองขอรับ” เสี่ยวไป๋ยกอุ้งเท้าขึ้นปิดตา เมื่อเห็นว่าเยี่ยนอิงนางเริ่มจะเปลื้องผ้าออก

“แล้วไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า” เยี่ยนอิงหันไปมองค้อนเสี่ยวไป๋ มือของนางก็ผูกเชือกรัดเอวไปด้วย

เท้าน้อยๆ ที่เปื้อนดินโคลน ทั้งยังมีรอยแผลเก่าใหม่ปรากฏออกมาให้ได้เห็น เดินลงไปในบ่อน้ำโดยไม่ลังเล ก่อนจะนั่งแช่ตามคำแนะนำของเสี่ยวไป๋

“ฮึก...” เยี่ยนอิงเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตื่นตระหนก

เมื่อความเจ็บปวดวิ่งตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จากที่เจ็บทนได้ ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นเจ็บร้าว ราวกับว่าหากแช่ต่ออีกเพียงแค่อึดใจเดียวนางคงได้ขาดใจเป็นแน่

“อย่า!!! ขึ้นมานะขอรับ อดทนอีกเพียงครู่เดียวเท่านั้น” เสี่ยวไป๋กระโจนพรวดเดียวมาอยู่ด้านหลังของเยี่ยนอิง

มันใช้อุ้งเท้าสองข้างกดบ่าเล็กของนางไว้ให้นั่งลงกลับไปเช่นเดิม ก่อนจะเอ่ยพูดให้กำลังใจนางไม่ขาดปาก

“กรี๊ดดดดด” เยี่ยนอิงเชิดหน้าขึ้นกรีดร้องออกมาเสียงดัง

นางเจ็บเหมือนว่าร่างกายตอนนี้ได้ถูกแยกชิ้นส่วนออกจากกันแล้ว สติที่เริ่มจะพร่ามัว ก็ถูกเสี่ยวไป๋ใช้อุ้งเท้าตบลงมาเพื่อเรียกให้นางรู้สึกตัวอยู่ตลอด

เพียงครู่เดียวที่เสี่ยวไป๋บอก เห็นจะไม่มีจริง เมื่อเยี่ยนอิงนางต้องแช่ตัวนานนับกว่าชั่วยาม (1ชั่วยาม=2ชั่วโมง) ดวงตาของเยี่ยนอิงปิดสนิท มีเพียงสติที่ยังรับรู้ได้ว่า ความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ได้ทุเลาลงไปมากแล้ว

ดวงตาของเยี่ยนอิงค่อยๆ หรี่ขึ้น เมื่อเสี่ยวไป๋ใช้อุ้งเท้าของมันสะกิดเรียกนาง

“อืม...” ตอนนี้ภายในถ้ำมิได้สว่างเช่นก่อนหน้าที่นางจะลงมาแช่น้ำ แต่สายตาของเยี่ยนอิงก็ยังมองเห็นทุกอย่างได้แจ่มชัดเช่นในตอนฟ้าสว่าง

“ร้ายกาจ” นางร้องออกมาเบาๆ อย่างชอบใจ

“นายหญิงท่านขึ้นมาได้แล้วขอรับ ยังมิเรียบร้อยดี” เสี่ยวไป๋เอ่ยเร่งให้เยี่ยนอิงขึ้นมาจากน้ำ

พอนางขึ้นมาอยู่ริมบ่อน้ำ เสี่ยวไป๋ใช้อุ้งเท้าหน้าของมันโบกพัดเบาๆ ชุดที่เยี่ยนอิงสวมใส่อยู่ก็แห้งอย่างรวดเร็ว

“อ๊า...” นางร้องออกมาอย่างตื่นตะลึง

“ท่านอย่าได้ไปร้องเช่นนี้ที่อื่นเล่า” เสี่ยวไป๋ถลึงตามองนายหญิงของมัน

ยังดีที่ตัวมันเป็นสัตว์เทพ หากบุรุษใดได้มาฟังเสียงร้องของเยี่ยนอิงยามนี้ คงได้สติไม่อยู่กับตัวเป็นแน่

“แล้วต้องทำสิ่งใดต่อ” นางเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องอื่นแทน

“ยื่นมือมาขอรับ” นางยื่นมือไปตรงหน้าของเสี่ยวไป๋อย่างว่าง่าย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ภรรยาตัวน้อยของข้า

    หลิวเลี่ยงเฟิ่งเชยคางของฟู่จูอิ๋งขึ้น ก่อนจะประทับจุมพิตไว้แน่น จุมพิตครั้งนี้ของเขา ราวกับอยากจะเผยความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีเอาไว้ให้นางได้รู้ ความหวาดกลัวที่จะสูญเสียนางไปอีกครั้ง ความคิดถึงทั้งหมดของภพที่แล้วที่มี อยู่ในจุมพิตที่เขาบรรจงมอบให้นาง“แล้วท่านเข้ามาได้อย่างไร มิใช่ว่าท่านพ่อเพิ่มองครักษ์แล้วรึ” นางเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างสงสัย“ข้าย่อมมีหนทาง นอนพักเถิด ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”“หากมีคนมาเห็นเล่า”“ข้าจะออกไปก่อนฟ้าสว่าง อาม่านให้ข้าได้นอนพักหน่อยเถิด ข้ามิได้นอนดีๆ มาหลายวันแล้ว” เขาถอดเสื้อตัวนอกออก ก่อนจะดึงตัวนางเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่นพอเห็นคนในอ้อมแขนหลับไปแล้ว หลิวเลี่ยงเฟิ่งได้แต่นอนมองนางอย่างเป็นสุข เมื่อชาติก่อน แม้แต่หลับฝันยังไม่กล้าจะคิด เขาต้องขอบคุณสวรรค์เพียงใด ที่ยอมให้เขาได้กลับมาก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นผ่านเรื่องร้ายมาได้สองเดือน จวนตระกูลฟู่และตระกูลหลิวก็มีงานมงคลเกิดขึ้นผู้ตรวจการหลิวอยู่ในชุดมงคลนั่งบนหลังม้าสง่ามารับเจ้าสาวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ภาพความทรงจำตอนที่ไปรับสวีอวี้หรันเข้าจวน ตัวเขาเองก็แทบจะจำไม่ได้แล้ว และไม่คิดจะจำอีกด้วยตอนกราบลาบิด

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ไม่มีวันเกิดขึ้น

    หลิวเลี่ยงเฟิ่ง มิกล้าพูดออกมา ว่าเป็นเพราะตัวเขา ตระกูลสวีคงต้องการให้สวีอวี้หรันแต่งเข้าตระกูลหมาน ผู้ใดเล่าจะไม่ต้องการบุตรเขยที่เป็นถึงผู้ตรวจการนครหลวงไปเสริมบารมีให้จวนตนเอง“อีกหนึ่งชั่วยาม ท่านไปรอที่ว่าการได้เลยขอรับ ข้าน้อยคงต้องออกไปช่วยตามหาคุณหนูสวีอีกแรง อาชวี่เจ้าไปกับข้า”“เหตุใดข้าต้องไปด้วยเล่า” ฟู่ชวี่ไม่เข้าใจ เขามีเหตุผลอะไรถึงต้องไปช่วยตามคนที่คิดร้ายกับน้องสาวของเขาด้วย“ประเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้เอง”นายท่านฟู่ยังไม่ทันถามเลยว่า แล้วเหตุใดสวีอวี้หรันนางถึงได้ถูกลักพาตัวไปแทนบุตรสาวของตนได้ หลิวเลี่ยงเฟิ่งก็พาฟู่ชวี่เดินออกจากห้องโถงไปเสียแล้ว“เจ้าจะพาข้าไปที่ใด” ฟู่ชวี่เอ่ยถามออกมาเมื่อทางที่หลิวเลี่ยงเฟิ่งพาเดินมา เป็นป่าที่อยู่ด้านหลังทิศตะวันตก มิใช่เส้นทางที่จะออกนอกเมือง เช่นนี้แล้วจะเรียกว่าออกมาตามหาคนได้อย่างไร ด้วยคนร้ายก็คงไม่โง่จับตัวคนมาซ่อนเอาไว้ใกล้หูใกล้ตาเช่นนี้แน่“ข้าสั่งให้คนจับตัวคุณหนูสวีนางมาซ่อนเอาไว้ ข้าอยากให้นางได้รับรู้ว่าหากอาม่านนางถูกจับตัวไป นางจะต้องหวาดกลัวมากเพียงใด” ฟู่ชวี่เข้าใจสหายของตนได้ทันทีเพียงเดินเข้าไปในป่าไม่ได้ไกลมากน

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   จับตาดูนางเอาไว้

    ครั้งนี้เขารุนแรงกับนางไปหน่อย ด้วยโมโหที่คิดว่านางจะต้องไปเป็นสตรีของผู้อื่นเช่นชาติที่แล้ว หน้าของอู๋หยวนก็ไม่เคยได้พบเห็น แต่รู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูกรถม้าของฟู่จูอิ๋งเคลื่อนตัวได้ช้า ทำให้หลิวเลี่ยงเฟิ่งได้ลงโทษนางจนพอใจ“บวมหมดแล้ว” หลิวเลี่ยงเฟิ่งมองริมฝีปากบางที่บวมเจ่ออย่างสงสาร“ก็ท่านมิใช่รึ ที่ทำข้า” ฟู่จูอิ๋งต้องใช้ผ้าปิดหน้าที่นางเตรียมมาแต่ไม่คิดว่าจะใช้ ปิดบังสิ่งที่หลิวเลี่ยงเฟิ่งทำไว้หลิวเลี่ยงเฟิ่งลงจากรถม้าก่อนที่รถม้าจะมาหยุดลงที่หน้าโรงน้ำชา สถานที่ ที่ฟู่จูอิ๋งนัดพบกับสวีอวี้หรันพอหลิวเลี่ยงเฟิ่งเห็นสวีอวี้หรันมองมาทางตนอย่างหลงใหล เขาก็มองตอบนางอย่างรังเกียจโดยไม่ปิดบังเมื่อชาติที่แล้ว เขามิได้สังเกตการณ์กระทำของนาง พอมาตอนนี้จึงได้เข้าใจว่าทุกครั้งที่นางต้องการพบเจอเขา จะใช้ฟู่จูอิ๋งมาเป็นข้ออ้าง“คารวะพี่เฟิ่งเจ้าค่ะ”“เรียกข้าผู้ตรวจการหลิวเถิด หากผู้อื่นมาได้ยินจะเข้าใจผิดได้ คำเรียกขานนี้ ข้าให้อาม่านนางเรียกข้าได้เพียงผู้เดียว” ใบหน้าของสวีอวี้หรันซีดเผือดทันที ยิ่งสายตาของเขาที่มองนางอย่างโกรธแค้น หรือว่าจะรู้แผนการที่นางวางเอาไว้แล้ว“พี่เฟิ่ง ท่านพ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ตอนพิเศษ ฟู่จูอิ๋ง

    “คุณชาย คุณชายขอรับ หากตื่นสายกว่านี้ จะไม่ทันไปรับคุณหนูฟู่นะขอรับ”เสียงบ่าวร้องเรียกอยู่ที่หน้าห้อง พร้อมทั้งเสียงเคาะประตูระรัว ปลุกให้หลิวเลี่ยงเฟิ่ง ที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนที่นอนตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงงเขามองไปรอบห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นเรือนพักเก่า ที่เขาใช้อยู่ก่อนที่จะแต่งสวีอวี้หรันเข้ามาในจวนเขานั่งพิงหัวเตียงนวดขมับอย่างไม่เข้าใจ เขาจำได้ดีว่า ก่อนหน้านี้ตนเองยังนอนรอความตายอยู่บนเตียงอยู่เลยหลิวเพ่ยหมินผู้เป็นบุตรชาย ยังจับมือเขาไม่ห่าง และสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะฝังร่างของเขาใกล้สุสานตระกูลฟู่ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ความปรารถนาสุดท้ายที่จะได้พบเจอ ฟู่จูอิ๋งในภพชาติหน้าเป็นจริงหลิวเลี่ยงเฟิ่ง ยังจำคำพูดสุดท้ายที่เยี่ยนอิงนางมาพบเขาก่อนตายได้ดี“ผู้ตรวจการหลิว ภพหน้าที่ท่านปรารถนามีจริง ข้าหวังว่าท่านจะตามหาท่านแม่ข้าเจอ แต่ท่านคงไม่เชื่อ ว่าข้า...คือคนที่ข้ามภพมาจากภพอื่น”เยี่ยนอิงเพียงต้องการให้เขาเชื่อว่าชาติภพมีจริง หากแรงปรารถนาของเขาแข็งแกร่งมากพอ นางเชื่อว่าเขาจะต้องได้ย้อนกลับมาแก้ไขเรื่องราวในอดีตหลิวเลี่ยงเฟิ่ง ใช้สายตาที่พร่ามัว จ้องมองภาพของเยี่ยนอ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   บทสรุป

    วันที่สามของการแต่งงาน เยี่ยนอิงกลับบ้านเดิม พร้อมข้าวของที่ตระกูลหมานจัดเตรียมเอาไว้ให้นางหลายคันรถม้า แม้จะบอกแล้วว่าที่จวนตระกูลฟู่มิได้ขาดแคลนสิ่งใด แต่ในเมื่อเป็นความตั้งใจของพ่อแม่สามี นางจึงมิอยากจะปฏิเสธให้เสียน้ำใจ“พวกเจ้า กลับมาค้างที่จวนหมานบ่อยๆ เล่า” ฮูหยินหมานเอ่ยออกมาอย่างอาลัยอาวรณ์แม้จะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ทั้งสองจะย้ายไปอยู่ที่จวนตระกูลฟู่ของเยี่ยนอิง จนกว่าจวนท่านแม่ทัพจะปรับปรุงเรียบร้อย“ได้เจ้าค่ะ ข้าอยู่ห่างไปเพียงสองตรอกเท่านั้น หากท่านแม่คิดถึงท่านพี่ ข้าจะให้คนมารับท่านไปพักด้วยกันสักหลายวันหน่อย”ฮูหยินหมานรู้ในความหมายของเยี่ยนอิง นางมิได้ชวนไปพักที่จวนตระกูลฟู่ แต่ชวนเข้าไปพักในมิติต่างหาก“ท่านพี่ ไปวันนี้เลยดีหรือไม่” ฮูหยินหมานหันไปเอ่ยถามสามี“อีกสองวันเถิด ข้าจะพาเจ้าไป” นายท่านหมานถอนหายใจออกมา กับความเอาแต่ใจของผู้เป็นภรรยาเยี่ยนอิงได้แต่อมยิ้มมองแม่สามีของนางงอนพ่อสามี ก่อนจะเอ่ยลากลับจวนตระกูลฟู่คนตระกูลฟู่ล้วนแต่ไม่มีผู้ใดไปทำงาน แม้แต่ซานเซินที่ไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียนยังขอหยุดเพื่อรอรับพี่สาวอยู่ที่จวน“พี่หญิง!!!” เขาร้องเรียกอย่างยินดี พร

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว

    สายตาของหมานจื้อจ้าน จ้องมองร่างงามที่เปลือยเปล่าตรงหน้าอย่างเหม่อลอย“จะมองอีกนานหรือไม่” เยี่ยนอิงกระดิกนิ้วอย่างเชื้อเชิญ“ไม่มองแล้ว” หมานจื้อจ้านรีบถอดเสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปอยู่บนเตียงเสียงใสของเยี่ยนอิงที่หัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานที่เกิดจากความเสียวซ่านที่ได้รับเรียวลิ้นร้ายของหมานจื้อจ้านกวาดเลียไปทุกส่วนของร่างกายเยี่ยนอิง ราวกับมาจะประทับร่องรอยของเขาไว้บนเรือนร่างงามของนางนิ้วมือของเขาลูบไล้เรือนร่างของนางอย่างหื่นกระหาย เมื่อเล้าโลมนางจนอ่อนระทวยไปทั้งตัวแล้ว นิ้วร้ายของก็หยอกล้ออยู่ที่กลีบดอกไม้งามอย่างเชี่ยวชาญ“อ๊า....” เยี่ยนอิงเชิดหน้าขึ้น ยามที่หมานจื้อจ้านส่งนิ้วเข้าไปในช่องทางรักของนางลิ้นของเขาก็ตวัดดูดกลืนเนินเนื้องามอย่างที่เคยหมายเอาไว้อย่างอดยาก มือด้านล่างก็เร่งจังหวะให้นางได้เสร็จสมเร็วขึ้น ด้วยตัวเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวเสียแล้ว“ชะ ช้า หน่อย” เยี่ยนอิงกัดฟันแน่น เมื่อหมานจื้อจ้านกดลำทวนของเขาเข้ามาในช่องทางรักจนเกือบจะมิดลำทวนในคราเดียว“เจ็บหรือไม่” เขาจูบที่ขมับของนาง“มะ ไม่” เยี่ยนอิงไม่ได้มีความรู้สึกเจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status