“แม่นางเจ้าล้มลงไปแรงเช่นนั้น บาดเจ็บตรงที่ใดบ้างหรือไม่เล่า” ข้าจะรอดูว่าเจ้ามีฝีมือการเล่นงิ้วมากแค่ไหน“เอ่อ คุณชายต้องขออภัย ที่ข้าล้มขวางทางเดินของท่านเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจเพียงแค่รู้สึกหน้ามืดขึ้นมากระทันหัน ขอคุณชายอย่าได้ถือสาเลยนะเจ้าคะ” นางต้องทำท่าทางให้น่าสงสารเข้าไว้“อ่อ หน้ามืดกะ
“อ้อ สหายที่เจ้าพูดถึงน่ะรึ คงเป็นคนที่คิดจ้างวานชาวบ้าน ให้ไปเป็นผู้ช่วยพ่อครัวในกองทัพของแคว้นฉู่ใช่ไหม จากนั้นค่อยลอบวางยาพิษในอาหารของท่านอ๋อง ไอหยา! แม่นางข้าต้องขอแสดงความเสียใจด้วย ที่ต้องบอกกับเจ้าว่าสหายสองคนนั้นของเจ้า ไปนอนเล่นในหลุมทั้งเป็นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วล่ะ ป่านนี้คงไม่หายใ
เซียวชินอ๋องที่พากองทัพทหารใต้บังคับบัญชา มาทำศึกในครั้งนี้จำนวนสามแสนห้าหมื่นนาย ออกเดินทางจากเมืองหลวงได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว และตอนนี้กำลังแวะพักระหว่างทางกันอยู่ พวกเขายังต้องใช้เวลาเดินทางไปที่ชายแดน อีกเกือบสองเดือนจึงหยุดพักนานไม่ได้ขณะนั้นเสี่ยวไป๋เหยี่ยวตัวผู้ สัตว์เลี้ยงของเซียวหนิงหลงได้บ
ด้านตำบลหย่งฝูที่ตอนนี้กลับมาคึกคัก และมีชีวิตชีวาขึ้นแต่ก็ยังไม่ประมาทกับเรื่องศึกสงคราม การค้าขายเปิดทำการได้ปกติแล้ว เซียวหนิงหลงที่กลับมาถึงที่นี่เมื่อคืน ก็เข้าไปพักยังบ้านเช่าโดยก้งเยว่จัดการเช่าบ้าน หลังที่อยู่ติดกันเอาไว้เพิ่มอีกหนึ่งหลังส่วนเจียวมิ่งกับก้งคุนตามมาทีหลัง พร้อมรถม้าใส่หีบสมบ
“ไม่เป็นไรหรอกชิงเอ๋อร์ พวกเราชินกับเรื่องเช่นนี้แล้วล่ะ อีกอย่างที่มาแต่เช้าเพราะพี่มีเรื่องอยากจะปรึกษากับเจ้าและท่านน้า เจ้าพอจะมีเวลาก่อนเปิดร้านสักหน่อยไหม” เขากระดากอายเล็กน้อยที่ต้องมาขอคำปรึกษาจากนางแต่เช้าเช่นนี้“ได้สิเจ้าคะนี่ก็ใกล้ได้เวลา ที่สหายของพี่ชายจะมาถึงแล้ว คนช่วยงานมีอีกหลายคนเ
“ที่แท้ท่านพ่อกังวลเรื่องนี้เองหรือเจ้าคะ ตอนที่อยู่หมู่บ้านอันผิง ข้าก็สังเกตเห็นแปลงผักของบ้านเรา และในแปลงผักของคนอื่น ๆ ถึงแม้จะอยู่ใกล้แหล่งน้ำสามารถทำการเพาะปลูกได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผักไม่โตอย่างที่ควรจะเป็น เพราะขาดการบำรุงดินเจ้าค่ะหากเราจะทำการเพาะปลูก ครั้งนี้ต้องบำรุงดินเสียก่อน โดยการพลิก
อู๋เสียนจงผู้นี้เป็นบุตรชายคนที่สาม ของนายท่านอู๋เจียงสงกับอนุภรรยาคนที่สอง เขามีอายุห่างจากพี่ชายคนรอง อย่างลู่เวินอยู่ห้าปี เพิ่งจะมีโอกาสได้เข้ามาช่วยงานในกิจการของตระกูล หลังจากลู่เวินถูกไล่ออกจากตระกูลมาแม้เขาจะไม่ได้เก่งกาจหรือฉลาดไปเกือบทุกเรื่องอย่างลู่เวิน แต่อู๋เสียนจงถือว่ามีไหวพริบ เอาต
เลี่ยงซูที่ขี่ม้ากลับมายังตำบลหย่งฝูอีกครั้ง และเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเริ่มทยอยออกจากร้าน เขานั่งอยู่ร้านน้ำชาฝั่งตรงข้าม ซึ่งเห็นทุกอย่างที่หน้าร้านเป็นอย่างดีจนลูกค้าออกไปจนหมด ทุกคนจึงเริ่มเก็บกวาดทำความสะอาด ก่อนจะยืนส่งกลุ่มของเซียวหนิงหลงกลับบ้านเช่า พร้อมกับเถาใส่อาหารหลายชั้นเลี่ยงซูแน่ใจว่า
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”