Share

ตอนที่ 13 ถึงคราตัดใจ

last update Last Updated: 2025-02-18 11:21:57

ซูเหยาพึ่งปิดตาลงได้ไม่นานยังมิทันได้เคลิ้มหลับดีก็มีแขกมาเยือนอีก ครานี้เป็นท่านย่าที่นางรักมาเยี่ยมหลังได้ยินข่าวว่าชิงเยว่มาหาเรื่องซูเหยาถึงในเรือน

“นังหนู หลานย่าชิงเยว่ทำอันใดเจ้ารึไม่ เจ้าเด็กคนนี้เอาแต่ใจเป็นเพราะแม่นางที่ให้ท้ายตามใจตลอดสินะ” เหล่าฮูหยินได้ยินเสียงโวยวายก่อนจะเห็น     ชิงเยว่เดินฟึดฟัดออกจากเรือนเยว่หลันจึงได้รีบเดินมาดู เมื่อเห็นซูเหยายังปกติมิได้บาดเจ็บก็เบาใจ

“ท่านย่า” ซูเหยาพยายามประคองตัวลุกขึ้นสวมกอดผู้เป็นย่า ในใจนั้นอยากเล่าเรื่องร้ายกาจที่สองแม่ลูกกระทำต่อนางแต่ก็ไม่อยากให้ผู้เป็นย่าต้องเป็นห่วงจึงตัดสินใจเก็บเงียบ และเลือกเอ่ยสิ่งที่นางสงสัยและขอให้ผู้เป็นย่านั้นช่วย

“ท่านย่าเมื่อครู่ชิงเยว่นางบอกว่าท่านพ่อจะให้ข้าไปอยู่ชนบทรึเจ้าคะ ท่านย่าหลานไม่อยากไป” ซูเหยาซุกหน้าลงที่อกผู้เป็นย่าอย่างออดอ้อน

“เฮ้ยพ่อเจ้านะเสียสติไปแล้ว ซูฉีนางพูดสิ่งใดก็เชื่อไปเสียหมด เจ้าไม่ต้องห่วงนะซูเหยาเรื่องนี้ย่าไม่ยอมแน่ ย่าย่อมต้องช่วยเจ้าสุดความสามารถ”           เหล่าฮูหยินกอดกระชับอ้อมกอดเพื่อปลอบประโลมหลานรัก

สองย่าหลานอยู่พูดคุยกินข้าวด้วยกันจนถึงหัวค่ำ เหล่าฮูหยินถึงได้ขอตัวกลับไปพักผ่อน และก็ถึงคราที่ซูเหยาได้พักผ่อน นางสั่งให้เยว่ถานนำยาที่ออกไปซื้อจากร้านข้างนอกมาใช้แทนยาของที่หมอประจำตระกูลให้ไว้ แม้คราแรกที่เห็นกระปุกกระเบื้องเคลือบที่แม้สีเรียบแต่ลวดลายกลับไม่ธรรมดา แต่ก็มิได้นึกใส่ใจเท่าไหร่จึงได้ปัดความสงสัยนั้นทิ้งไป

ห้าวันต่อมาแผลของซูเหยานั้นก็ดีขึ้นจนเกือบหายขาด ยาที่เยว่ถานซื้อมาช่างดีนัก ทาเช้าครั้งเย็นครั้งเพียงห้าวันแผลก็หายดีทิ้งเพียงรอยแผลเป็นเล็กน้อยเท่านั้น ซูเหยาที่ไม่ได้ออกจากห้องนอนเสียนานจึงถือโอกาสเดินเล่นชมดอกไม้ในเรือน พร้อมกับนั่งอ่านตำราเครื่องหอมที่นางชอบอ่านด้วยใจชื่นมื่น แต่ลึก ๆ ก็ยังนึกกังวลว่าเหตุใดจดหมายที่ตนส่งไปตำหนักเทียนจื่อถึงยังมิถูกตอบกลับมา

“เยว่ถานมีจดหมายส่งมาหาข้ารึไม่”

“อ่อ นี่เจ้าค่ะคุณหนูเมื่อเช้าคนตำหนักท่านอ๋องพึ่งนำมาส่งให้เจ้าค่ะ”

“รีบส่งมาให้ข้าเร็วเข้า” ซูเหยาร้องด้วยความตื่นเต้น นางรับจดหมายมาก่อนจะรีบเปิดออกด้วยใจเต้นระรัว ครั้นเมื่อดูสิ่งที่อยู่ด้านในคิ้วกลับขมวดน้อย ๆ เมื่อด้านในนั้นหาได้มีจดหมาย และสิ่งที่นางเห็นก็ทำให้นางหมดเรี่ยวแรง มือบางค่อย ๆ วางจดหมายลงที่โต๊ะก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าเรือนมิพูดมิจา หนำซ้ำยังมิยอมให้เยว่ถานติดตามไปอีกด้วย

“ฮึก ๆ ๆ” ซูเหยากำจดหมายในมือแน่น นางกำดอกโบตั๋นแห้งจนกลายเป็นผุยผง จ้าวหยางมิเพียงมิตอบจดหมายแม้แต่ดอกไม้ก็ยังส่งคืนนี้ไม่เท่าปฏิเสธคำขอของนางหรือ หยางจวิ้นอ๋องท่านช่างไร้ใจเสียจริง หากไม่คิดมีใจแต่แรกแล้วตอบรับข้อเสนอของข้าไปใย

“คนใจร้าย ฮึก ๆ ช่างใจร้ายนัก” ซูเหยาซบหน้ากับหมอนเพื่อใช้มันดูดซับกระแสเสียงสะอึกสะอื้นเสียใจ นางร้องไห้เสียใจสะอึกสะอื้นร่างสั่นเทาแทบขาดใจ ในใจนึกเสียดายวันเวลา เสียทั้งตัว เสียทั้งเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางเพียรทำมาตั้งแต่ยังเล็กวันนี้กลับสูญเปล่าแถมความสาวยังประเคนให้เขาเชยชมเสียหมดสิ้น นางช่างโง่งมและโง่เง่านัก ซูเหยาร้องไห้จนกระทั่งเหนื่อยอ่อนและเผลอหลับไป นางสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อเยว่ถานมาเคาะประตูเรียก และพบว่าเป็นเช้าตรู่ของอีกวันเสียแล้ว

“มีอะไรรึ สูด เยว่ถาน” บัดนี้ซูเหยาไร้ซึ่งน้ำตาจะร้องไห้ ยังคงหลงเหลือเพียงเสียงสะอื้นน้อย ๆ

เยว่ถานนั้นรู้แล้วว่าคุณหนูนางผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเนื่องจากดวงตานางแดงก่ำบวมช้ำใบหน้าหมองเศร้าจึงมิได้เอ่ยถามสิ่งใดออกไป กลัวไปกระทบกระเทือนใจของผู้เป็นนาย

“นายท่านรอคุณหนูอยู่ที่สวนเจ้าค่ะ”

“อืม บอกท่านพ่ออีกสักครู่ข้าจะตามไป” ซูเหยาสูดหายใจเข้าลึก ในใจแม้ยังเศร้าสร้อยแต่กลับรู้สึกปลงตกอย่างน่าประหลาด บัดนี้นางไร้ซึ่งอารมณ์คิดอยากทำการสิ่งใด การถูกทำร้ายจิตใจคราแล้วคราเล่าทำให้นางถอดใจมิอยากไขว่คว้าสิ่งใดอีก ในใจเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายพลันสายตาเหลือบไปเห็นผ้าที่ห่อผงดอกมู่ตานที่นางขย้ำกำมันจนเป็นผุยผงแต่ยังไม่อาจตัดใจทิ้งมันลงได้ ในเมื่อตัดใจทิ้งมันมิลงเช่นนั้นนางก็จะใช้มันย้ำเตือนเสียว่าครั้งหนึ่งนางโง่งมเพียงใด

“หยางจวิ้นอ๋องก่อนหน้าข้าใช้ชีวิตเพื่อให้ท่านชอบ นับแต่นี้ข้าจะใช้ชีวิตของข้าเองเสียที ชีวิตของหลินซูเหยา”

ซูเหยาใช้เวลาจัดการตัวเองไม่นานนักก็กลายเป็นโฉมงามเฉกเช่นดังเดิม ใบหน้าที่ห่างหายจากการแต่งแต้มมาหลายวันบัดนี้กลับมามีชีวิตชีวาราวบุปผาเบ่งบาน นางเลือกสวมใส่ชุดหรูชุนสีชิงอ่อนสดใส เลือกผ้าคลุมไหล่ที่ทำจากผ้าไหมชั้นดีปักลวดลายหรูหรา เช่นนี้เวลานางเดินจะช่วยทำให้นางอ่อนช้อยงดงามอีกทั้งเย้ายวน ส่วนเครื่องประดับก็เลือกหยิบต่างหูหยกขาวรูปหยดน้ำ กำไลเลือกสวมใส่กำไลหยก และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือปิ่นหงส์คาบไข่มุกลายหรูหราที่ครั้งหนึ่งนางเคยแย่งชิงมาด้วยความยากลำบาก

ซูเหยาจำได้ดีที่งานแข่งจีจวี ด้วยความที่หยางจวิ้นอ๋องต้องขี่ม้าตีลูกไม้ นางที่นั่งอยู่ข้างสนามจึงตั้งใจแต่งให้โดดเด่นและงดงามให้เขาได้เห็น แต่เมื่อเขาเห็นแล้วกลับบอกว่านางแต่งตัวราวสตรีหอคณิกาซะอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่คนในงานทั้งหมดล้วนชื่นชมนาง

“เป็นข้าเช่นไรก็ไม่เคยดีในสายตาพระองค์” ซูเหยายิ้มขมขื่นจ้องมองตนเองในกระจก

 วันนี้ตั้งใจว่าพบบิดาแล้วจะออกไปเดินชมเมืองเสียหน่อย ในเมื่อวันนี้นางตั้งใจปลดปล่อยตนเองเช่นนั้นการแต่งกายวันนี้ไม่ใช่เพื่อเขาแต่เพื่อตัวเอง ก็ได้แต่หวังว่าการตัดใจครานี้จะพบเจอรักครั้งใหม่ที่งดงามไม่ขมขื่นรักข้างเดียวเหมือนแต่เก่าก่อน

“ท่านพ่อ”

หลินเจียงเมื่อได้ยินเสียงของบุตรสาวก็เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าชายวัยกลางคนมีสีหน้าตกตะลึงกับความงามของผู้เป็นบุตรพลอยทำให้หวนนึกถึงผู้เป็นภรรยาเอก ก่อนในใจจะรู้สึกผิดขึ้นมาแค่เพียงเสี้ยวหนึ่งก็รีบปัดทิ้งออกจากใจโดยเร็ว

“มาแล้วรึ นั่งเถอะพ่อมีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้า”

“ท่านพ่อไม่ต้องบอกลูกก็ย่อมรู้ ข้าตกลงเจ้าค่ะ”

“คุณหนู” เยว่ถานถึงกลับตกตะลึงในคำตอบ เมื่อวานคุณหนูนางยังมิยินยอม เช่นไรวันนี้ถึงได้ตกลงง่ายเช่นนี้ แล้วไหนจะลุกขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวงดงามเช่นนี้ทั้งที่ไม่ได้มีโอกาสพิเศษอื่นใดอีก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะ

“ห๊ะ เหตุใดครานี้เจ้ายอมง่ายเสียจริง นี่เจ้ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลินเจียงงงงวยด้วยนี่มิใช่นิสัยของผู้เป็นบุตรสาว คราแรกเขาตั้งใจไว้ว่าหากซูเหยานางขอร้องเขา เขาเองก็จะยอมผ่อนผันให้เพราะเขาเองก็นับว่าลงโทษนางเสียรุนแรงไปแล้ว หาใช่จะส่งไปอยู่ชนบทแต่อย่างใดคราแรกที่ตอบฮูหยินรองไปก็เพียงเพื่อตัดรำคาญก็เท่านั้น

แต่เมื่อผู้เป็นแม่มาพูดคุยด้วยครั้นเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วก็เห็นด้วยกับ     เหล่าฮูหยินอยู่หลายส่วน วันนี้จึงคิดมาสั่งสอนทั้งให้นางทำตัวเสียใหม่แม้นางไม่อยากบอกว่าบุรุษผู้นั้นคือผู้ใด ในตอนนี้ก็ไม่อยากใส่ใจเสียแล้ว ข่าวก็แพร่ไปแล้วเช่นนี้ จะแก้ไขก็ยากนักและเขานั้นก็ใช้อำนาจตระกูลหลินปิดข่าวไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ต่อไปก็คงขึ้นอยู่กับตัวนางแล้วว่าต่อไปจะใช้ชีวิตเช่นไร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าลุ่มหลง แต่พระองค์กลับไร้ใจ   ตอนที่ 44 ครรลอง ของสองเรา

    หลังจากดูถูกหยางจวิ้นอ๋องครานั้นซูเหยาก็ไม่คิดจะทำอีกเลย เขาพละกำลังล้นเหลือราวม้าศึกมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยจนซูเหยาประจักษ์แจ้งแก่ใจนัก หลังจากวันนั้นนางก็ร่างกายอ่อนแรงนี่ก็เข้าเดือนที่สองแล้วกระมังที่นางมักเวียนศีรษะอยู่บ่อย ๆ อีกทั้งยังต้องเทียวไปมาระหว่างจวนตระกูลหลินกับตำหนักป่าไผ่ทำให้หลายวันมานี้นางถึงกับทนไม่ไหวเวียนศีรษะจนสำรอกออกมาเสียกลางทาง ทั้งร่างกายมิมีแรงไหนจะทั้งรู้สึกง่วงนอนอยู่ตลอดเวลาอีกเล่าแต่อาการเหล่านี้นั้นช่างน่าประหลาดยิ่งซูเหยาค้นพบว่าอาการนางจะทุเลาลงถึงขั้นหายไปเมื่อได้สูดดมกลิ่นกายของหยางจวิ้นอ๋อง ซึ่งน่าประหลาดนักทำให้หลัง ๆ มานี้จากที่เขาติดนางกลายเป็นนางที่ติดเขาแทนไปเสียแล้ว“ท่านอ๋อง”“ซูเหยาลุกขึ้นก่อนเถิดท่านหมอมาแล้ว” ซูเหยาฝืนอาการเวียนศีรษะหน้ามืดนางพยายามมองดูจ้าวหยางแต่กลับพบว่าบัดนี้มิได้มีเพียงหมอหลวง กลับมีญาติฝั่งนางมาครบอีกแม้กระทั่งพระชายาและท่านปู่ของเขาก็ยังมาด้วย นางเห็นเช่นนั้นก็พยายามลุกขึ้นเพื่อถวายความเคารพ แต่ก็ถูกผู้ใหญ่ทัดทานเอาไว้เสียก่อนเมื่อเห็นใบหน้านางซีดเผือดมิสู้ดีนัก“ซูเหยาเจ้าไม่ต้องลุก ๆ นอนลง ๆ เดี๋ยวให้หมอหลวงตรวจให

  • ข้าลุ่มหลง แต่พระองค์กลับไร้ใจ   ตอนที่ 43 คลี่คลาย

    [จวนตระกูลหลิน]ซูเหยาบัดนี้รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากเมื่อบิดาเอาแต่จ้องตนแต่มิยอมพูดจา นางจึงได้แต่ก้มหน้าแล้วจับชายอาภรณ์พลิกไปพลิกมาแทนเมื่อเริ่มรู้ถึงสถานการณ์กดดัน และเป็นนางที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหวต้องยอมเอ่ยปากกับผู้เป็นบิดาก่อน ส่วนท่านย่านั้นมิได้ถูกเชิญออกมากลัวว่าได้ยินเรื่องราวของนางแล้วเดี๋ยวเป็นการซ้ำเติมอาการเข้าไปใหญ่“ท่านพ่อ...”“เจ้ารู้ความผิดตัวเองรึไม่!” หลินเจียงเอ่ยด้วยใบหน้าเข้มน้ำเสียงราบเรียบจนซูเหยานึกขยาดเสียวสันหลังวาบดวงตาเริ่มแดงก่ำเจือด้วยหยาดน้ำวาววับ“ทะท่านพ่อลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ขะข้าทำให้ท่านต้องเสื่อมเสีย ละลูก”“นางมิผิด หากจะผิดล้วนเป็นข้าที่ผิด” จ้าวหยางที่นึกเป็นห่วงนางหลังพูดคุยกับมารดาเสร็จก็รีบควบม้าวิ่งทะยานตรงมาหานางที่จวนในทันที“ทะท่านอ๋อง” เสนาบดีเจียงลุกขึ้นทำความเคารพตามปกติแต่บรรยากาศโดยรอบนั้นกลับเต็มไปด้วยเมฆหมอกอึมครึม“ท่านหลินเป็นข้าทั้งนั้นที่ผิดเจ้าอย่าได้โทษนาง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนถูกล่อลวงจากข้าทั้งนั้น”“ไม่ใช่นะเจ้าคะท่านพ่อ มิใช่เช่นนั้นเป็นข้าเองที่ชอบท่านอ๋องมาก” ซูเหยาที่นึกกลัวผู้เป็นพ่อที่มีท่าทางเอาจริงเอาจังอย่างที่ไม

  • ข้าลุ่มหลง แต่พระองค์กลับไร้ใจ   ตอนที่ 42 โฉมหน้าที่แท้จริิง

    การที่องค์ชายรองประคองมารดาเดินมาชมบุปผาในอีกด้านนั้นก็พอดีกับเหล่าขุนนางที่ว่าราชการจบ ไท่จื่อเฟยจึงได้ถือโอกาสเชิญพวกเขามาดื่มชา ชมบุปผางามเพื่อผ่อนคลายจากงานราชกิจ โดยทุกอย่างนั้นล้วนถูกจ้าวหยางและมารดาจัดแจงความเป็นไปไว้เสียหมดสิ้น“ท่านแม่ ๆ ท่านแม่ว่าป่านนี้พี่สาวของข้านางจะเป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ หึ!”.”ก็คงนอนตายอยู่ใต้หน้าผาลึกแล้วกระมัง ฮ่า ๆ ช่างเถอะคนมันไม่มีวาสนาก็เหมือนแม่นางนั้นแหละ ชะตาอาภัพผู้ใดจะคิดกันเล่านังเด็กซูเหยานั้นออกจะเก่งกาจจะมาตายง่ายดายถึงเพียงนี้ หึ ๆ”“แต่ท่านแม่หากท่านพ่อรู้เล่าเจ้าคะ ท่านพ่อต้องถามหานางแน่ ๆ” ชิงเยว่เมื่อนึกถึงผู้เป็นพ่อขึ้นมาก็กลับเกิดหวาดกลัวขึ้นในใจ“พ่อเจ้าหนะรึโง่สิ้นดีหนะสิ ขนาดฮูหยินใหญ่นางตายเพียงข้าโกหกเพียงนิด บีบน้ำตาเสียหน่อยเขาก็คิดเสียแล้วว่าการตายของนางเป็นอุบัติเหตุ” ซูฉีที่นางมั่นใจเพียงนี้นั้นก็เพราะตระกูลนางกว้างขวางซ้ำร่ำรวยทำสิ่งใดจึงมิต้องได้เปลืองแรงมากนัก สองแม่ลูกพูดคุยกันเพลิดเพลินโดยหารู้ไม่ว่าบัดนี้คนที่อยู่นอกห้องนั้นได้ยินถ้อยคำพวกนางเสียหมดสิ้น“ซูฉี! หลินชิงเยว่! ” เสนาบดีหลินเดินออกมาอย่างเลื่อนลอยแต่ใ

  • ข้าลุ่มหลง แต่พระองค์กลับไร้ใจ   ตอนที่ 41 กระชากหน้ากาก

    “ท่านแม่ ๆ มีเทียบเชิญเข้าเฝ้าพระชายาเช่นนั้นรึเจ้าคะ” ชิงเยว่รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาผู้เป็นมารดาที่เรือน หลายวันมานี้นางมิต้องสำรวมสิ่งใด ท่านย่าป่วย ท่านพ่ออยู่ว่าช่วยราชกิจฝ่าบาทในวัง อีกทั้งนังพี่สาวตัวดีหายสาบสูญ ดูเถิดคนในเรือนนางยังคิดว่านายหญิงพวกมันอยู่ที่ตำหนักป่าไผ่ หึ! เป็นซากศพเฝ้าหน้าผาลึกต่างหากเล่า ช่วยมิได้ใครใช้ให้เจ้ากล้ามาแย่งชิงความชอบขององค์ชายรองกับข้า“ใช่ ๆ เจ้าหนะหัดสำรวมเสียบ้าง ไม่เช่นนั้นเกิดผู้ใดทะเล่อทะล่าเข้ามาเห็นเข้าแล้วเอาไปพูดต่อละก็ไม่ดีแน่” ซูฉียิ้มปริ่มนึกปลาบปลื้มในใจที่เทียบเชิญเขียนชื่อชิงเยว่กับนางเพียงสองคน ไม่มีชื่อนังเด็กซูเหยา ใช่สิ! จะมีได้เช่นไรในเมื่อนางส่งมันไปหาแม่มันด้วยมือตนเอง หึ!“แม่นมอวิ๋นเร็วเข้าไปเตรียมรถม้าให้เร็ว ข้าจะพาลูกข้าไปซื้อหาอาภรณ์ใหม่เสียหน่อยเข้าวังครานี้จะน้อยหน้าสตรีอื่นได้เช่นไร”“เจ้าค่ะฮูหยิน”“ท่านแม่ดีที่สุด วันพรุ่งลูกต้องโดดเด่นกว่าใครในงานชมบุปผาให้ได้” ชิงเยว่ยิ้มอีกทั้งกอดแขนมารดาอย่างออดอ้อน[ตำหนักเทียนจื่อ]“ท่านอ๋องพระองค์อยู่นิ่ง ๆ เถิดเลิกกลั่นแกล้งข้าเพียงครู่ ข้าขอดูเหล่าบรรดาคุณหนูพวกนั้น

  • ข้าลุ่มหลง แต่พระองค์กลับไร้ใจ   ตอนที่ 40 พยานรัก

    “แค่ก ๆ” เสียงไอแห้ง ๆ ติดกันเรียกความสนใจให้จ้าวหยางที่อ่านฎีกาต้องรีบวางมือและเข้ามาโอบประชิดร่างบางเข้าแนบอก พร้อมฝ่ามือใหญ่ที่ลูบตามตัวนางไปมาอย่างต้องการปลอบประโลม“ซูเหยาเป็นเช่นไร ยังเจ็บส่วนใดอยู่รึไม่ ข้าขอโทษ ๆ ข้าไม่น่าเอาแต่ใจนัดเจ้าออกมาวันนี้เลยจริง ๆ ข้าขอโทษ หากว่าข้าไปช่วยไว้ไม่ทันป่านนี้ ๆ เกรงว่าข้าคงจะเสียเจ้าไปแล้ว” จ้าวหยางพูดทั้งหมดความที่มีอยู่ในใจเสียหมดสิ้นจนทำให้ซูเหยาที่ถูกกดศีรษะให้แนบชิดฝังแน่นกับอกแกร่งต้องลอบยิ้มกับแผ่นอกกว้างทั้งน้ำตา พร้อมกับมือบางที่ค่อย ๆ ยกขึ้นทำทีคล้ายจะกอดตอบ นางชั่งใจอยู่เพียงครู่ก่อนจะตัดสินใจโอบกอดร่างหนาไว้เฉกเช่นกัน“ซูเหยา” จ้าวหยางที่รับรู้ว่านางกอดตอบตนมาเช่นนั้นก็เผยยิ้มดีใจ ทั้งสองตกอยู่ในห้วงภวังค์ของกันและกันมีเพียงเสียงลมหายใจระหว่างกันให้ได้ยิน ซ้ำไร้การเอื้อยเอ่ยบทสนทนาใด ๆ ออกมาใช้เพียงใจและกายสื่อความรู้สึกถึงกันและกัน“องค์ชาย...อะเอ่อคือกระหม่อม คือกระหม่อมว่าควรออกไปดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ” เหยียนเฟิงที่บังเอิญเข้ามาถูกจังหวะก็รีบหันตัวกลับแทบจะในทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงตะกุกตะกักจนจ้าวหยางเอ่ยออกคำสั่งให้รายงานได้จึงได้

  • ข้าลุ่มหลง แต่พระองค์กลับไร้ใจ   ตอนที่ 39 ลอบทำร้าย

    หลังจากวันนั้นซูเหยาก็รู้สึกหายใจโล่งนักที่หยางจวิ้นอ๋องมิได้มาตามตื้อก่อกวนนาง แต่นั้นเพียงกลางวันกลางคืนเล่าท่านอ๋องกลับทำตัวเป็นโจร บุปผาลอบเข้าออกเรือนนางราวเรือนตน ทั้งที่นางจ้างคนมาเฝ้าเรือนนางมากขึ้นแต่นั่นก็มิได้เป็นอุปสรรค ทั้งนางข่มขู่ก็แล้ว ต่อว่าก็แล้ว นางใช้สารพัดวิธีแต่ก็มิอาจขัดขวางเขาได้ และเหตุผลที่ให้แก่นางคือ ทำลูกและวันนี้เป็นอีกวันที่นางถูกเขาเชิญให้ไปตำหนักป่าไผ่เหตุผลแกมข่มขู่คือให้หมอหลวงตรวจชีพจรว่านางนั้นท้องแล้วรึไม่ และเป็นนางเองที่เริ่มคิดแล้วว่าสรุปเป็นผู้ใดกันแน่ที่อยากมีลูกเขานั้นดูจริงจังกว่านางมากนัก ซ้ำยังน่าไม่อายกลับกางตำรากามสูตรบ้าบอนั่นให้นางดูถึงท่วงท่าทำรักที่ว่าท่าใดได้บุตรชายท่าใดได้บุตรสาวอีกทั้งให้นางเลือก องค์ชายรองผู้นี้เดิมทีสุขุมเยือกเย็นมาบัดนี้นางกลับค้นพบอีกตัวตนหนึ่งของเขาเข้าเสียอย่างนั้น“คนหน้าไม่อายชิ!” ซูเหยาที่เดินทางมาเพียงลำพังโดยเข้าใจว่าขึ้นรถม้าที่นางขึ้นนั่งนั้นเป็นของตำหนักป่าไผ่ส่งมารับ จึงได้แต่บ่นต่อว่าหยางจวิ้นอ๋องกับลมกับฟ้าโดยหารู้ไม่ว่ารถม้าที่ตนนั่งมานั้นหาใช่ของตำหนักป่าไผ่ไม่“ท่านแม่จะได้ผลแน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status