Masukท่านผู้เฒ่าหลิวมองซูเหยาด้วยความแปลกใจ นางเป็นสตรีที่งดงามเกินกว่าจะเป็นพ่อค้าทั่วไป และท่วงท่าก็สง่างามเกินกว่าจะมาขายของในตลาด
"นายหญิงซู... ท่านมาถึงที่นี่มีธุระอันใดกับหลิวผู้เฒ่าหรือ"
ซูเหยาไม่ได้กล่าวคำทักทายที่ยืดยาว นางเปิดหีบผ้าไหมออกอย่างช้า ๆ ผ้าไหมย้อมเย็นสีแดงมงคลสะท้อนแสงไฟในห้องอย่างสวยงาม สีสันที่สดใสและเนื้อผ้าที่นุ่มนวลอย่างประหลาด ทำให้ท่านผู้เฒ่าหลิวต้องลูบผ้าอย่างพิถีพิถัน
"ท่านหลิว ข้าทราบว่าสินค้าผ้าไหมในตลาดตอนนี้ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้แก่ท่านเลยแม้แต่น้อย แต่ผ้าไหม ฉื่อเยว่ ชุดใหม่นี้แตกต่างกัน" ซูเหยาเริ่มการเจรจา
"ผ้าไหมทั่วไปมีสีที่ซีดจางง่ายและไม่ทนทานต่อความชื้น แต่ผ้าไหมย้อมเย็นของข้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ข้ากล้าให้ 'การรับประกัน' แก่ท่าน หากผ้าไหมของข้ามีปัญหาเรื่องสีตกหรือความคงทนภายในหนึ่งปี ข้าจะยินดีรับคืนสินค้าทั้งหมดและชดเชยค่าเสียหายเต็มจำนวน"
ข้อเสนอการรับประกัน ในธุรกิจผ้าไหมยุคโบราณเป็นเรื่องที่ไม่มีใครกล้าทำ
"คุณภาพดีเยี่ยมจริง ๆ นายหญิงซู แต่... ราคาขายส่งของท่านสูงกว่าราคาตลาดถึงหนึ่งในสิบส่วน"
"ราคาที่สูงกว่าของข้า แต่แลกกับการที่สินค้าของท่านไม่ถูกส่งคืน แถมยังสร้างชื่อเสียงด้านคุณภาพให้กับท่าน นั่นคือความคุ้มค่าอย่างยิ่งยวดมิใช่หรือ" ซูเหยาโต้กลับอย่างฉลาดเฉลียว
นางรู้ว่าพ่อค้าใหญ่ต้องการ สร้างสมดุลระหว่างคุณภาพและราคาเพื่อเจาะตลาด นางจึงเสนอทางออกทันที
"หากท่านหลิวสามารถสั่งซื้อผ้าไหมจากฉื่อเยว่ในปริมาณสองร้อยม้วนขึ้นไปต่อเดือน ข้าจะให้ส่วนลดพิเศษจากราคาที่ข้าเสนอไป"
การนำเสนอที่ฉลาดเฉลียว ทำให้ท่านผู้เฒ่าหลิวตัดสินใจได้ในทันที เขายื่นคำสั่งซื้อผ้าไหมย้อมเย็นสีมงคลจำนวน สามร้อยม้วน ด้วยมูลค่าที่สูงมากที่สุดเท่าที่กิจการฉื่อเยว่เคยได้รับมา
นางกลับมาที่โรงงานด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากพรหมลิขิต หรือการออดอ้อนใคร แต่มาจากการวางแผนเชิงรุกและการเจรจาที่ชาญฉลาดของนาง
"ชิงหลิง... เจ้าเห็นหรือไม่ นี่คือความรู้สึกของคนที่สามารถกำหนดโชคชะตาของตัวเองได้ นี่คือความสุขที่เงินทองและอำนาจไม่สามารถซื้อได้"
ซูเหยาไม่ได้หยุดอยู่แค่การขายให้ท่านหลิว นางใช้ไหวพริบในการสร้างเครือข่ายธุรกิจ นางเลือกพ่อค้าคนสำคัญสามรายจากตลาดที่แตกต่างกัน ตลาดแคว้นใต้, ตลาดเมืองท่า, และตลาดชนบท และเสนอให้พวกเขาเป็น 'ตัวแทนจำหน่ายผูกขาด' ในพื้นที่ของตนเอง
"ข้าจะให้ผลตอบแทนแก่ท่านหนึ่งในแปดส่วนต่อการขายทุกม้วน แต่ท่านต้องรักษามาตรฐานการขายและภาพลักษณ์ของฉื่อเยว่ให้ดีที่สุด"
การใช้ระบบ ตัวแทนจำหน่าย ที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่นนี้ทำให้พ่อค้าเหล่านั้นทุ่มเทให้กับการขายผ้าไหมฉื่อเยว่อย่างเต็มที่
ภายในสิบวัน ผ้าไหมฉื่อเยว่ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดตงไห่และเริ่มขยายไปยังเมืองใกล้เคียง นางสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้อย่างคงที่ และคำสั่งซื้อก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
แม้กิจการผ้าไหมจะเริ่มเดินเครื่องไปได้ด้วยดี แต่ซูเหยารู้ดีว่าการผลิตผ้าไหมต้องใช้เวลานานกว่าจะสร้างกำไรก้อนใหญ่ได้ นางต้องการกระแสเงินสดสำรองที่รวดเร็วและต่อเนื่อง สำหรับการหมุนเวียนและขยายโรงงาน
ขณะที่กำลังสำรวจพื้นที่โดยรอบของโรงงานฉื่อเยว่ นางก็พบว่าอาคารไม้เก่าแก่ด้านข้าง ซึ่งเดิมทีคือ เรือนพักคนงานที่ว่างเปล่า และ โกดังเก็บวัตถุดิบที่ใช้การไม่ได้ มีพื้นที่กว้างขวางและอยู่ในทำเลที่ดี ติดถนนสายหลักที่เข้าสู่เมืองท่า นางเห็นโอกาสทันที
‘เมืองตงไห่เป็นศูนย์กลางการค้า ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แต่ที่พักส่วนใหญ่มีสภาพสกปรกและไม่ปลอดภัย’ นางวิเคราะห์
"ชิงหลิง" ซูเหยาเรียกสาวใช้ที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการบริหาร "เราจะปรับปรุงพื้นที่ว่างเปล่านี้ให้เป็น โรงเตี๊ยมซู"
ชิงหลิงตกตะลึง
"โรงเตี๊ยมหรือเจ้าคะนายหญิง เราจะหาคนงานและเงินทุนมาจากไหนในเวลาอันสั้น"
"เงินทุนเราใช้จากเงินสำรองที่ท่านพ่อให้มาสำหรับการซ่อมแซม ส่วนคนงาน เราจะใช้คนที่มีความซื่อสัตย์จากโรงงานผ้าไหมบางส่วนมาช่วยบริหารในช่วงเริ่มต้น"
"โรงเตี๊ยมจะทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางข้อมูลข่าวสาร และ แหล่งสร้างกระแสเงินสดรายวัน ให้กับเรา ควบคู่ไปกับกิจการผ้าไหม"
การปรับปรุงโรงเตี๊ยมดำเนินไปอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของซูเหยา
นางไม่ได้ปรับปรุงให้หรูหรา แต่เน้นที่ความสะอาดและปลอดภัย นางสั่งให้ทำความสะอาดพื้นผิวทุกซอกทุกมุม ปูเตียงด้วยผ้าปูที่สามารถซักเปลี่ยนได้ทุกวัน และจัดห้องพักให้เป็นสัดส่วน
จุดที่สร้างความแตกต่างที่สุดคือ การรับประกันความปลอดภัยของทรัพย์สิน นางสั่งให้ทำตู้เก็บของที่มีกุญแจล็อคอย่างดีในทุกห้อง และกล่าวกับแขกทุกคนว่า
"ผ้าไหมชุดนี้มีความบางเบาและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม จึงสวมใส่สบายใน หน้าร้อน ของเมืองตงไห่ แต่ในขณะเดียวกัน เนื้อผ้าที่ถูกถักทออย่างแน่นหนา ก็สามารถกักเก็บความอบอุ่นของร่างกายไว้ได้ จึงให้ความอบอุ่นที่พอเหมาะใน หน้าหนาว ที่กำลังจะมาถึง" ซูเหยาอธิบายนางกำหนดราคาขายของผ้าไหมสองฤดู ให้สูงกว่าผ้าไหมทั่วไปในตลาดตงไห่ถึงห้าในสิบส่วน แต่ยืนยันด้วยการรับประกันคุณภาพ ซูเหยาไม่ได้สนใจการขายจำนวนมากในราคาถูก แต่มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์พรีเมี่ยมที่เชื่อถือได้"ท่านอาจจ่ายแพงกว่า แต่ท่านจะได้ผ้าไหมที่ใช้งานได้ตลอดทั้งปี และไม่ต้องเปลี่ยนใหม่เพราะสีซีดจาง ซึ่งเป็นการประหยัดในระยะยาว"พ่อค้าท้องถิ่นและลูกค้าต่างทึ่งในคุณภาพและวิสัยทัศน์ของซูเหยา ลูกค้าจำนวนมากเข้ามารุมล้อมขอดูสินค้าและสัมผัสเนื้อผ้า สีสันที่สดใสและเนื้อผ้าที่นุ่มนวลแต่ทนทานทำให้พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ คำสั่งซื้อไหลเข้ามารวดเร็วจนเกินกำลังผลิตเล็กน้อย ฉื่อเยว่ กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงในตลาดตงไห่ภายในวันเดียวองค์ชายหานเย่ว์แอบมาดูการเปิดตัวสินค้าจากมุมหนึ่งของร้าน โดยมีจ้าวเหอ สายลับที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตาม ยืนอยู่ข้าง ๆ‘นางทำได้อี
เสียงมีดปอกผลไม้กระทบกับเขียงไม้ องค์ชายหานเย่ว์ ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยไร้ค่า ประจำครัวโรงเตี๊ยมซูอย่างต่อเนื่อง งานประจำของเขาคือ นั่งปอกผลท้อ และ ล้างภาชนะ ที่ใช้แล้ว ภายใต้การดูแลของแม่ครัวที่มองเขาด้วยความสงสารระคนขบขัน"พ่อค้าหาน ท่านปอกเปลือกหนาเกินไปแล้ว เนื้อผลไม้จะหายไปหมดนะเจ้าคะ" แม่ครัวเตือนองค์ชายพยายามปรับตัวให้เข้ากับงานครัวที่ต่ำต้อยที่สุดอย่างขมขื่น เขาทำตามคำสั่งของ ซูเหยา ที่อนุญาตให้เขาทำเพียงงานจิปาถะเหล่านี้ เพื่อกันไม่ให้เขามีโอกาสมายุ่งเกี่ยวกับ ธุรกิจหลัก ของนาง‘ดี ข้ามาที่นี่เพื่อลดศักดิ์ศรีของตนเองอยู่แล้ว ขอเพียงได้อยู่ใกล้ ๆ นาง ข้าก็จะยอมปอกผลไม้ไปจนกว่ามือจะพอง’ในขณะที่องค์ชายใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัว ซูเหยากำลังใช้เวลาทั้งหมดในโรงย้อมสีเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ นางใช้ความรู้ด้านเคมีพื้นฐานที่ได้รับมาจากความทรงจำในอดีต ในการทดลองผสมผสานแร่ธาตุและพืชท้องถิ่นของเมืองตงไห่เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้เม็ดสีที่แปลกใหม่และทนทานกว่าเดิม นางต้องการ สีสันเฉพาะตัว ที่คู่แข่งไม่มีวันลอกเลียนแบบได้"เจียอิง ลองเพิ่มผงทองแดงที่สกัดจากเหมืองใกล้ทะเลลงไปในน้ำย้อมคร
คำถามของซูเหยาทำเอาองค์ชายถึงกับพูดไม่ออก นางไม่ถูกหลอกด้วยคำพูดสวยหรู แต่กลับใช้หลักการทางธุรกิจที่รัดกุมในการตรวจสอบ แรงจูงใจ ที่อยู่เบื้องหลังการให้ความช่วยเหลือองค์ชายพยายามสร้างเหตุผลที่ฟังดูดีที่สุด "ข้า... ข้าเพียงสนใจใน วิสัยทัศน์ทางธุรกิจ ที่โดดเด่นของท่านซู และต้องการให้กิจการของท่านประสบความสำเร็จ เพื่อที่ข้าจะได้ร่วมลงทุนในอนาคต ข้าต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นก่อนที่จะมีการร่วมทุนจริง"ซูเหยาฟังคำแก้ตัวของเขาอย่างสงบ นางรู้ดีว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่ก็พยักหน้าอย่างสุภาพ"ข้าเข้าใจในความตั้งใจที่ดีของท่าน แต่ข้ายังคงต้องใคร่ครวญถึงความเสี่ยงของการรับความช่วยเหลือที่ไม่มีเงื่อนไขที่ชัดเจนเสียก่อน"ซูเหยาใช้เวลาใคร่ครวญข้อเสนอ นางรู้ดีว่าหากนางตอบตกลงรับข้อเสนอนั้น กิจการของ ฉื่อเยว่ จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ แต่ราคาที่ต้องจ่ายคือ การสูญเสียอิสระซูเหยาเงยหน้าขึ้นและมององค์ชายด้วยดวงตาที่ปราศจากความรู้สึกรักใคร่ แต่เต็มไปด้วยความเคารพในฐานะนักธุรกิจ"ท่านพ่อค้าหาน ข้าต้องขอขอบคุณท่านจากใจจริงในความปรารถนาดีของท่าน แต่ข้าขอปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดนี
รุ่งอรุณของวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยการหารือทางธุรกิจอันเข้มข้น ซูเหยา และ องค์ชายหานเย่ว์ นั่งเผชิญหน้ากันที่โต๊ะทำงานในห้องโถงโรงเตี๊ยมที่ยังคงเงียบสงบ การให้คำปรึกษา องค์ชายใช้เวลาตลอดเช้าในการวิเคราะห์เอกสารและให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมายการค้าและภาษี"นายหญิงซู จุดที่ท่านต้องระวังคือการจัดเก็บภาษีผ่านช่องทางทะเล พ่อค้าที่ทำการค้ากับแคว้นทางใต้ มักใช้การแจ้งมูลค่าสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง หากท่านต้องการความมั่นคง ท่านต้องใช้หนังสือสัญญาที่รัดกุมและต้องมีการประทับตราจากศาลท้องถิ่นอย่างเป็นทางการเท่านั้น"คำแนะนำของเขาเป็นประโยชน์และแม่นยำอย่างที่สุด ซูเหยาซาบซึ้งใจในความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่พ่อค้าแซ่หานผู้นี้มี นางจดบันทึกทุกคำอย่างตั้งใจ"ขอบคุณท่านพ่อค้าหานอย่างยิ่ง คำแนะนำของท่านสามารถช่วยฉื่อเยว่ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านภาษีไปได้มหาศาลจริง ๆ"แม้จะกล่าวคำขอบคุณอย่างจริงใจ แต่ซูเหยาก็ยังคงปฏิบัติต่อเขาอย่างเป็นมืออาชีพและห่างเหิน นางไม่ได้แสดงความรู้สึกส่วนตัวใด ๆ ออกมา นางมองเขาในฐานะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เท่านั้นองค์ชายมองซูเหยาที่กำลังจดบันทึกด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างปิดไม่
เขาเริ่มเห็น 'เสน่ห์' ที่มาจากอำนาจและความสามารถของนาง เป็นเสน่ห์ที่แข็งแกร่งและดึงดูดใจอย่างร้ายกาจ มันแตกต่างจากความงามที่อ่อนหวานอย่างสิ้นเชิงหลังจากจัดการกับพ่อค้าเฉินได้แล้ว ซูเหยาเดินกลับไปที่เรือนรับรองของโรงงานทันที นางนัดหมายประชุมกับ ท่านหลิว พ่อค้าส่งรายใหญ่ที่ได้สั่งซื้อผ้าไหมของฉื่อเยว่ไปในปริมาณมหาศาล เพื่อหารือเรื่องการขยายตลาดไปยังแคว้นทางใต้องค์ชายหานเย่ว์ ในนามพ่อค้าแซ่หาน ไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ จึงพยายามหาช่องทางเข้าถึงและแสดงความสามารถ เขารีบตามเข้าไปในห้องประชุมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จางซื่อจะทันขวางไว้"เรียนนายหญิงซู ในฐานะพ่อค้าที่สนใจลงทุนในธุรกิจผ้าไหม ข้าขออนุญาตเข้าร่วมรับฟังการประชุมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมงานได้หรือไม่" องค์ชายกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเป็นมืออาชีพที่สุดซูเหยาปรายตามองเขาเล็กน้อย นางรู้ว่าพ่อค้าแซ่หานผู้นี้ไม่ได้มาเพื่อลงทุน แต่มาเพื่อตามติดนาง นางไม่ได้ปฏิเสธอย่างโจ่งแจ้ง "เชิญท่านพ่อค้าแซ่หาน" นางจัดให้เขานั่งที่มุมห้องในฐานะผู้สังเกตการณ์เท่านั้นซูเหยาเริ่มนำเสนอแผนการขยายตลาดอย่างเป็นระบบ นางกางแผนที่ขนาดใหญ่ออกมา และชี้ไปยั
"พ่อค้าแซ่หาน ทางเรามีห้องพักที่สะอาดและปลอดภัยที่สุดรอท่านอยู่เจ้าค่ะ กรุณาชำระค่าห้องพักเป็นรายสัปดาห์ ท่านจะได้รับกุญแจสำหรับล็อคห้องพักและตู้นิรภัยส่วนตัวทันที" ชิงหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรตามที่ถูกฝึกฝนมา"อืม ข้าเป็นพ่อค้าที่เดินทางมาไกล ข้าหวังว่าการมาเยือนตงไห่ครั้งนี้จะได้พบปะกับพ่อค้าท้องถิ่นที่น่าสนใจ" เขาพยายามพูดให้ดูเหมือนพ่อค้าทั่วไปชิงหลิงเพียงโค้งคำนับ "แน่นอนเจ้าค่ะ ที่โรงเตี๊ยมซูแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของพ่อค้าจากหลายแคว้น หวังว่าท่านจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะเจ้าคะ" นางไม่แสดงความสนใจในตัวเขาเกินความจำเป็นองค์ชายเดินตามชิงหลิงไปยังห้องพัก เขาสำรวจทุกตารางนิ้วด้วยสายตาที่เฉียบคม ห้องพักที่ไม่หรูหรานั้นเต็มไปด้วยความใส่ใจในรายละเอียด เตียงนอนสะอาดสะอ้าน ผ้าห่มอบอุ่น ไม่มีกลิ่นอับชื้น และมีตู้เก็บของที่มีกุญแจโลหะแข็งแรงติดอยู่จริงเขาต้องยอมรับอย่างเงียบ ๆ ว่า โรงเตี๊ยมซู แห่งนี้ มีระบบจัดการที่เฉลียวฉลาดอย่างน่าตกตะลึงองค์ชายหานเย่ว์ไม่ได้พักผ่อน แต่รีบลงมายังห้องโถงหลักอย่างรวดเร็ว เขาสั่งชาสมุนไพรมาจิบ แล้วเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้กับโต๊ะทำงานของซูเหยามากที







