Share

บทที่ 1 กูไม่เอา 2

last update Huling Na-update: 2025-07-16 14:51:13

บทที่ 1

กูไม่เอา

ศศิตาเดินมาส่งเพื่อนรักที่โซนแขกวีไอพีตามที่เจ๊ระเบียบบอก ก่อนจะแยกตัวออกไปหาเสี่ยงอ๋องซึ่งเป็นลูกค้าประจำของตน

จรัสรักทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาบุนวมตัวใหญ่ มองไปรอบ ๆ อย่างสำรวจด้วยใจหวั่นกลัว มือคอยดึงชายกระโปรงที่เอาแต่ร่นขึ้นอวดต้นขา สลับกับลูบต้นแขนเปลือยซึ่งกระทบกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศจนขนอ่อนลุกชันไปทั่วทุกอณูผิว

“มาใหม่ใช่ปะมึงอะ”

ระหว่างนั่งรอก็มีสาวสวยคนหนึ่งเดินมานั่งด้วย เจ้าหล่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนแข็งกระด้าง พลางลงมือชงเหล้าที่เด็กเสิร์ฟเพิ่งเอามาวางไว้

“ค่ะ”

“ชื่ออะไรล่ะ”

“ระ...ลีฟค่ะ ชื่อไอลีฟ” จรัสรักเกือบหลุดชื่อจริงของตัวเองไป เธอลอบมองสาวสวยที่น่าจะเป็นรุ่นพี่อย่างสำรวจ เจ้าหล่อนมีโครงหน้าสวย แต่งหน้าจัดจ้าน รูปร่างดี มีอก มีเอว สะโพกผาย ด้วยชุดที่รัดรูปทำให้มองเห็นสัดส่วนได้ชัดเจน เธอที่เป็นผู้หญิงเห็นแล้วยังนึกอิจฉา

“ฉันชื่อบิวตี้ หรือจะเรียกบิวเฉย ๆ ก็ได้” อีกฝ่ายแนะนำตัวเองง่าย ๆ “ผสมไร น้ำ โซดา หรือโค้ก”

“คือ หนูไม่ดื่มค่ะ”

“เฮ้ย จะบ้าเหรอ ทำงานแบบนี้แต่ไม่ดื่มเนี่ยนะ” บิวตี้ว่าขึ้นราวกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย “แล้วแบบนี้จะเชียร์แขกได้ยังไง เจ๊รู้ปะเนี่ยว่ามึงไม่ดื่ม”

“น่าจะยัง...ค่ะ” เพราะวันที่มาสัมภาษณ์ เจ๊ระเบียบไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนเธอก็ไม่ได้บอก

อันที่จริงเธอดื่มแอลกอฮอล์เป็น เพียงแต่ถ้าเลือกได้จะไม่ดื่ม เพราะค่อนข้างคออ่อนมาก ถ้าเป็นเหล้าเพียว ๆ ดื่มแค่เพียงช็อตเดียวก็อาจจะภาพตัดไปเลย ส่วนเบียร์ดื่มได้มากสุดน่าจะแค่สองสามแก้วเท่านั้น

ยิ่งเลือกมาทำงานในที่อโคจรแบบนี้ จรัสรักจึงคิดว่าการไม่ดื่มเลยจะดีที่สุด

“ไม่ได้ ๆ มึงต้องหัดดื่มนะ แขกบางคนถ้ามึงไม่ดื่มเขาก็จะไม่ให้ติป แล้วก็อาจจะไม่ออฟออกไปด้วย เขามาเที่ยวที่นี่ก็เพราะมาหาเพื่อนกินเพื่อนดื่ม มึงจะมานั่งเฉย ๆ โดยไม่ดื่มไม่ได้” ว่าพร้อมจัดการชงเหล้าผสมโซดาและใส่โค้กปาดหน้านิดหน่อยพอให้มีรสหวาน จากนั้นก็เลื่อนไปตรงหน้าเด็กใหม่ ด้วยต้องการจะสอนวิชาโลกีย์101 ฉบับนังบิวตี้ที่ขึ้นท็อปดาวเด่นประจำร้านห้าเดือนซ้อน “ดื่มซะ”

“พี่ทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอ” จรัสรักเลื่อนแก้วมาวางใกล้ตัวเอง แต่ยังไม่ยอมยกดื่ม เธอเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการชวนสาวรุ่นพี่คุย จากการแนะนำเมื่อครู่ แม้การพูดจาจะโผงผางไปบ้าง แต่เธอคิดว่าคนคนนี้น่าจะเป็นมิตรมากกว่าศัตรู ทำความรู้จักไว้ก็คงไม่เสียหาย

“ห้าหกปีได้ละ” บิวตี้ตอบด้วยความภาพภูมิใจกับอาชีพของตน ก่อนจะทำสีหน้าขึงขังเมื่อยายเด็กใหม่ไม่ยอมดื่มเหล้า “นี่! ไม่ต้องมาทำเนียนชวนคุยเลยนะ คิดว่าฉันจะรู้ไม่ทันหรือไง รีบ ๆ ดื่มซะ ก่อนที่ฉันจะฟ้องเจ๊”

“หนูขอไม่ดื่มได้ไหมคะ คือหนูคออ่อนมาก ๆ ดื่มแค่นิดเดียวก็เมาแล้ว” ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ จรัสรักจำต้องสารภาพ

“ตอแหล” บิวตี้เบะปากไม่เชื่อ เพราะคนอะไรจะคออ่อนขนาดนั้น “ดัดจริตน่ะสิไม่ว่า”

จริสรักนั่งนิ่ง ไม่ได้โต้เถียงใด ๆ กลับไป ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอแย นั่งดื่มเหล้าในแก้วของตนต่อไปจนหมด จากนั้นก็เติมใหม่เรื่อย ๆ กระทั่งเจ๊ระเบียบเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง

“เจ๊ขา” บิวตี้รีบลุกเข้าประจบทันที น้ำเสียงก็ช่างต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับ

จรัสรักเองก็ลุกขึ้นเช่นกัน หากไม่ได้เข้าไปออเซาะ เพียงแค่โน้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการให้เกียรติชายหนุ่มที่น่าจะเป็นแขกของร้าน

“นี่จ้ะ ไอลีฟ เด็กใหม่ที่เจ๊พูดถึง” เจ๊ระเบียบเมินบิวตี้และแนะนำน้องใหม่ให้แขกหนุ่ม สาวใหญ่เชียร์ขายให้เต็มที่ “พอได้ไหมคะ น้องไม่เคยรับงานที่ไหนมาก่อนเลยนะคะ ถ้าคุณกฤษณ์สนใจก็จะได้เป็นแขกคนแรกของน้องเลย”

“หรือถ้าคุณกฤษณ์อยากได้คนเป็นงาน และดูแลแบบถึงใจ เลือกบิวตี้ก็ได้นะคะ รับรองว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ” บิวตี้รีบเสนอตัว เพราะนาน ๆ ทีจะเจอลูกค้าที่ยังหนุ่มยังแน่น อีกทั้งยังหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ของแบบนี้ใครดีใครได้ เธอเลือกไม่สนใจเจ๊ระเบียบที่จิกสายตาปราม

“ไม่เคยรับงาน แล้วเคยมีประสบการณ์ไหมครับ” กฤษณ์ถามพร้อมรอคำตอบเพื่อประกอบการพิจารณา มองเจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่สวยหมดจนอย่างครุ่นคิด

“เอ้า คุณเค้าถาม ก็ตอบสิยะ” ระเบียบดุคนที่เอาแต่ยืนเงียบ ในใจเริ่มหงุดหงิด ริอาจจะทำงานนี้แต่ช่างไม่เป็นงานเอาเสียเลย อุตส่าห์หาผู้ชายงานดี ๆ มาให้แล้วแท้ ๆ

“เอ่อ...ไม่เคยค่ะ”

แน่นอนว่าคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนแบบกฤษณ์ไม่มีทางเชื่อ ไม่มีประสบการณ์แต่ดันมาทำงานนี้เนี่ยนะ ตลกไปหน่อยไหม แต่กระนั้นเขาก็เลือกที่จะพยักหน้าคล้ายว่าเชื่อเจ้าหล่อน

ชายหนุ่มยอมรับว่าสนใจเด็กใหม่ ด้วยหน้าตาสะสวย รูปร่างก็อยู่ในไซซ์ที่กำลังดี ไม่ได้ตัวเล็กหรือว่าสูงมากเกินไป หน้าอกไม่ได้ใหญ่ถึงขั้นเต็มไม้เต็มมือ แต่ก็ถือว่ามี แต่น่าเสียดายที่บุคลิกและท่าทางเงอะงะจนเกินพอดีของเธอยังไม่ถูกใจเขาเท่าไร อีกอย่างคืนนี้เขาตั้งใจมาปลดปล่อย หาความสนุก คงไม่มีเวลามานั่งสอนงานใคร ฉะนั้นชายหนุ่มตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก

“ผมเลือกน้องบิวตี้แล้วกันครับ”

บิวตี้เป็นคนเดียวที่ยิ้มร่าด้วยความดีใจ รีบขยับเข้าไปเกาะแขนชายหนุ่มซึ่งเป็นลูกค้าตนนั่งบนโซฟา พร้อมเบียดกายแนบชิด เรียกพนักงานมาแล้วเปิดเหล้าชุดใหม่ จากนั้นก็บริการแขกสุดหล่ออย่างถึงเนื้อถึงตัวสุดฤทธิ์

เมื่อลูกค้าเลือกแล้วเจ๊ระเบียบก็ไม่ขัด มองหน้าจรัสรักที่ยังยืนบื้ออยู่ที่เดิม ก่อนจะส่ายหน้าระอา ในใจนึกตำหนิ ไม่ได้เรื่อง “ไป ไปนั่งรอโต๊ะอื่น”

จรักรักกำลังจะเดินออกไป แต่จู่ ๆ กฤษณ์ที่นึกอะไรสนุก ๆ ได้ก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“เดี๋ยวครับเจ๊”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 3

    ตอนพิเศษ 3“เกรซซี่!”เจ้าของชื่อซึ่งกำลังนอนคว่ำกระดิกปลายเท้าระบายสีอยู่กลางห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เงยหน้าขึ้นไปมองน้าสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน ในมือมีกระดาษอะไรสักอย่างติดมาด้วยฟังจากน้ำเสียงที่เรียกเมื่อกี้เกรซซี่รู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ เพราะปกติเวลาน้ากิ๊ฟต์กลับบ้าน น้ากิ๊ฟต์จะเรียกหาเกรซซี่ด้วยเสียงที่นุ่มนวลหรือไม่ก็ร่าเริงกว่านี้ แต่วันนี้แค่เรียกเสียงเข้มไม่พอ ยังทำสีหน้ายุ่งใส่กันอีกเกรซซี่ไปทำอะไรของน้ากิ๊ฟต์พังหรือเปล่านะ...ก็ไม่นี่นา ไม่ได้เข้าไปในห้องของน้ากิ๊ฟต์เลยด้วยซ้ำใจจริงอยากวิ่งเข้าไปรับอย่างที่เคยทำ ทว่าวันนี้เกรซซี่สังหรณ์ใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังขานรับน้าสาวเสียงหวาน “...ขาน้ากิ๊ฟต์”จารวีหันหน้าไปไหว้แม่และยายของตนที่นั่งเอนกายบนตั่งไม้อีกฝั่งของบ้าน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างแรง จากนั้นก็ยื่นเอกสารรายงานผลการเรียนชั้นอนุบาลไปตรงหน้าหลานสาวสุดที่รัก “อันนี้คืออะไรเนี่ย ทำไมเป็นแบบนี้”กนกนุชขยับนั่งขัดสมาธิ มองน้ากิ๊ฟต์กับกระดาษเอสี่ที่ถูกยื่นออกมาตรงหน้าด้วยความงุนงง ก่อนจะหันไปมองผู้เป็นแม่ซึ่งเดินตามหลังน้องสาวตัวเองเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2โชคดีที่จิณณ์ฝึกลูกให้นอนคนเดียวตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงแรกที่ยังไม่เปิดเทอมอาจจะมีร้องไห้โยเยบ้าง เพราะตื่นมาแล้วไม่เจอใครอยู่ในระยะสายตา แต่พอค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอนว่าตื่นแล้วไปหาพ่อหรือหายายกับทวดได้ที่ไหน แกก็เริ่มเรียนรู้และเข้าใจ จากนั้นมาก็ไม่มีเสียงร้องไห้ตอนเช้าอีกเลยฉะนั้นหลังเล่านิทานส่งลูกเข้านอนเสร็จ คนเป็นพ่อเป็นแม่จึงได้มีเวลาสวีตหวานในห้องส่วนตัวกันบ้าง“เรียนทำขนมวันนี้เป็นไงบ้าง” จิณณ์เอ่ยถามภรรยาที่กำลังใช้สำลีลบเครื่องสำอางซึ่งแต่งแต้มเพียงบางเบา เตรียมตัวเข้าไปอาบน้ำ ส่วนเขาก็กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองเพื่อจะเข้าไปอาบพร้อมกันจรัสรักมองเรือนร่างของสามีผ่านกระจก ใบหน้าสวยร้อนผะผ่าวพร้อมกับหัวใจที่จู่ ๆ ก็สั่นรัวขึ้นมา หญิงสาวรีบเลื่อนสายตาไปโฟกัสจุดอื่น แม้จะเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าเธอก็ไม่เคยทำใจให้ชินได้เสียที“กะ...ก็ดีค่ะ พี่ฟางใจเย็นและสอนดีมาก” เธอตอบเสียงกะตุกกะตัก เกร็งตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเดินเข้ามายืนใกล้ ๆ จิณณ์ดึงชุดคลุมอาบน้ำช่วงไหล่ของภรรยาลง ก่อนจะประทับจูบร้อน ๆ ลงบนไหล่เปลือย จากนั้นก็พูดต่อ“คุณอยากได้สูตรไหนหรือ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1หลังจากงานแต่งงานและทำบุญขึ้นบ้านใหม่ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นงานเล็ก ๆ แต่อบอุ่นเสร็จสิ้นไป จิณณ์ก็ขอให้ทุกคนย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หญิงมากวัยทั้งสองคนมีอาการงอแงเล็กน้อย ด้วยไม่อยากละทิ้งบ้านของตนที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายจรัสรักพยายามเกลี้ยกล่อมพร้อมทั้งอธิบายให้แม่และยายของตนเข้าใจ เธอเองก็ไม่ได้จะทิ้งบ้านหลังนั้น แต่ด้วยสภาพที่เก่าและทรุดโทรมตามกาลเวลา อีกทั้งยังมีข้าวของเก็บไว้มากมาย ซึ่งบางอย่างก็เป็นของที่ไม่ได้ใช้แล้ว หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้เคลียร์ของและจะทำการรีโนเวตบ้านใหม่ จากนั้นจะยกให้เป็นชื่อของจารวีจิณณ์ถามน้องสาวภรรยาว่าอยากรื้อแล้วสร้างใหม่เลยหรือไม่ จะได้บ้านในแบบที่ต้องการ ทว่าจารวีปฏิเสธพร้อมบอกว่าเอาไว้ก่อน เพราะล่าสุดพี่เขยก็เพิ่งจะถอยรถมินิคูเปอร์คันละสามล้านให้เป็นของขวัญเรียนจบแบบสด ๆ ร้อน ๆ โดยให้เหตุผลว่าระบบเซฟตีมันดีมากกว่ารถอีโคคาร์ทั่วไป ยังไม่นับคอนโดมิเนียมที่กำลังเลือกดูเพื่อจะซื้อให้พักอาศัยระหว่างที่เรียนต่อเนื่องจากสองพี่น้องมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นหมอ แต่ขาดแรงสนับสนุนจึงไม่ได้ไปต่อ ทำให้ต้องเลือกเดินในเส้นทางอ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)

    บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)“แต่งงานกับผมนะครับ”ในเมื่อเขาดีและทำเพื่อเธอขนาดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องปฏิเสธ ถึงจะเป็นการขอครั้งที่สอง แต่เธอก็อดตื่นเต้นไม่ได้ จรัสรักพยักหน้า ตอบรับคำขอของเขาด้วยรอยยิ้มยินดี“ค่ะ รักจะแต่งงานกับคุณ”จบประโยคนั้นร่างบางก็สะดุ้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อไฟที่ประดับประดาอยู่รอบ ๆ ตัวบ้านสว่างขึ้นพร้อมกันทุกดวง พร้อมกับเสียงโห่ร้องจากผู้คนมากมายดังขึ้นด้วยความยินดีใบหน้าสวยมองไปตามเสียงก็เจอกับเด็กหญิงกนกนุชในชุดสวยถือช่อดอกไม้วิ่งเข้ามาหา เลื่อนสายตาไปข้างหลังอีกก็เจอแม่และยายที่นั่งอยู่บนรถเข็น โดยมีปรานกับกฤษณ์เข็นให้ พร้อมทั้งพีรัช ภริตา จารวี และคุณหญิงพรรษา ยืนอยู่ข้าง ๆ กันทุกคนกำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มจรัสรักรู้ว่าวันนี้มีนัดรับประทานอาหารร่วมกัน แต่ไม่รู้ว่าทุกคนจะมารวมตัวกันที่บ้านของเธอก่อน พวกเขามาตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงรถเลย“ป้อจิน เอาให้แม่” เสียงของลูกสาวดึงสายตาเธอให้กลับมาสนใจคนตรงหน้าอีกครั้ง เด็กหญิงกนกนุชยื่นช่อดอกทานตะวันให้คุณพ่อตามที่พ่อปรานบอก“ขอบคุณครับ” จิณณ์รับดอกไม้มาถือ ก่อนจะคว้าตัวลูกสาวเข้ามากอดและกดจมูกหอมแก้มแ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 32 รัก

    บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)หลังจากหมูกระทะมื้อค่ำสิ้นสุดลง ทุกคนก็ช่วยกันเก็บจานไปล้างและทำความสะอาดสถานที่ จิณณ์รับหน้าที่พาเด็กหญิงกนกนุชไปอาบน้ำ เนื่องจากหนูน้อยเริ่มตาปรือเพราะใกล้ถึงเวลาเข้านอนเมื่อบรรยากาศภายในบ้านเริ่มเงียบสงบ จารวีนั่งเล่นกับหลาน พูดคุยกับแม่และยายสักพักก็เข้าห้องส่วนตัวของตัวเอง ส่วนอ้อมใจก็จัดที่นอนเตรียมพักผ่อน หน้าที่พยาบาลพิเศษในบ้านหลังนี้ไม่ได้หนัก และคนป่วยก็ไม่ได้จู้จี้จุกจิก พอทำหน้าที่หลักเสร็จก็สามารถนอนพักผ่อนได้ แต่ข้อเสียคือไม่มีห้องนอนส่วนตัวให้ ต้องนอนรวมกันที่ห้องโถงจรัสรักเดินมาเช็กความเรียบร้อยที่ครัวหลังร้าน เพราะพรุ่งนี้ต้องเปิดร้านขายของตามปกติหลังจากหยุดไปทำธุระหนึ่งวัน“อุ๊ย!” ทว่ายังไม่ทันได้หยิบจับสิ่งใด ร่างบางก็ถูกสวมกอดจากคนที่เดินตามเข้ามาติด ๆ หญิงสาวยิ้มและเอ่ยถามกลั้วขำ “อะไรคะเนี่ย”“อยากกอด” จิณณ์คลายวงแขนแล้วหมุนตัวเธอให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบหน้าผากเธอแผ่วเบา “เมื่อไหร่บ้านจะเสร็จ”จรัสรักหลุดขำ นึกเอ็นดูคนตัวโตที่เริ่มงอแง นับวันก็ยิ่งเหมือนลูกมากขึ้นทุกที “คงอีกนานค่ะ ยังไม่ได้ลงเสาเลย”“รู้งี้ผมให้

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 31 คนพิเศษ 2

    บทที่ 31 คนพิเศษ“แม่แค่เป็นห่วงครับ ไม่ได้ดุ”“ดุ” ใบหน้าน้อย ๆ เอียงซบไหล่แกร่ง พยายามหลบสายตาแม่ แต่กระนั้นก็ยังแอบเหล่มอง“รับปากแม่ได้ไหมว่าครั้งหน้าเกรซซี่จะใส่รองเท้าก่อนออกบ้านทุกครั้ง” จรัสรักยังคงเสียงแข็งแต่ก็ยังฟังดูอ่อนโยนอยู่ในที เธอไม่ได้อยากเป็นแม่ใจร้ายหรอก แต่บางทีก็ต้องบอกต้องสอนกันบ้าง“รับปากแม่เร็ว คนเก่งของพ่อทำได้อยู่แล้ว” จิณณ์ให้กำลังใจ พร้อมเบี่ยงร่างเล็กในอ้อมแขนให้หันไปหาคนเป็นแม่“ต่อไปนี้เกรซซี่จะใส่รองเท้าก่อนทุกครั้งค่ะ” หนูน้อยยอมพูดแต่โดยดี ซึ่งผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก ส่งยิ้มให้พร้อมยกมือขึ้นมาลูบศีรษะอย่างชื่นชม“เก่งมากค่ะ”กลายเป็นคุณพ่อที่ทวนความจำให้ลูกแทน “จำได้ไหมครับ ที่คุณแม่บอกว่าถ้าไม่ใส่รองเท้าจะเกิดอะไรขึ้น”“จะเหยียบปะตู เลือดไหล ต้องไปหาหมอ แล้วก็ร้องไห้แง ๆ” จิณณ์ไม่แก้ไขที่ลูกพูดผิด รู้ดีว่าความเข้าใจของแกก็คือตะปูนั่นแหละ“ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้เกรซซี่ต้องใส่รองเท้าทุกครั้งนะ โอเคไหม”“โอเคค่า” เมื่อเคลียร์กันลงตัว หนูน้อยก็กลับมายิ้มแย้มแจ่มใส“หาแม่ไหม พ่อจะขนของลงรถ” ชายหนุ่มบอกพร้อมส่งลูกให้คนเป็นแม่อุ้ม ซึ่งมือเล็ก ๆ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status