Share

บทที่ 3 ร้องไห้ให้พอ

Author: Lovedee
last update Last Updated: 2025-10-26 15:17:34

ทั้งหมดพากันเข้าไปในห้องโถงภายในเรือนหลักของจวนแม่ทัพ

“ เอาละ ยังไม่ต้องพูดอะไรกันหรอก ไว้เจ้าไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวกันก่อน ย่าสั่งให้เขาเตรียมอาหารให้เจ้ามากมายเต็มไปหมด ล้วนมีแต่ของที่เจ้าชอบกินทั้งนั้น ”   ท่านย่าเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนเข้าไปรวมกันในห้องโถงแล้ว

“ท่านย่า ช่วยสั่งให้คนจัดเรือนให้กับหนิงอันด้วยเถิดขอรับ เอาที่ใกล้ ๆ เรือนของข้าหน่อย ไปมาหาสู่กันจะได้สะดวกขอรับ หนิงอัน เจ้าตามสาวใช้ไปนะ ไปอาบน้ำแล้วก็มากินข้าวด้วยกันที่เรือนนี้เข้าใจหรือไม่”

แม่ทัพมู่หยางหันไปสั่งคนรักใหม่ของเขา ที่หันมารับคำอย่างว่าง่ายด้วยท่าทางอ่อนหวานน่ารัก พอสาวใช้เดินมาที่นางแล้ว หนิงอันก็ลุกขึ้นนางหันไปย่อกายทำความเคารพท่านย่าของคนรักอย่างอ่อนช้อย

“หนิงอันคารวะท่านย่ากับแม่นมหวังใช่หรือไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่พูดถึงพวกท่านอยู่บ่อย ๆ เจ้าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นหลานสาวด้วยคนนะเจ้าค่ะ”

นางหันไปยิ้มให้กับผู้อาวุโสทั้งสองและย่อกายความเคารพอย่างอ่อนช้อย ใบหน้ายิ้มละไมให้กับทั้งผู้อาวุโสและให้กับมู่หลันที่เป็นน้องสาวของคนรักอีกด้วย แม้มู่หลันจะเมินไปทางอื่นทันทีนางก็ไม่ได้สนใจ

“เอาละ เจ้าช่วยจัดเตรียมอาภรณ์ให้กับหนิงอันว่าที่ฮูหยินของข้าด้วยนะ จัดการให้คนทำความสะอาดจัดเตรียมทุกอย่างในเรือนให้นางเป็นอย่างดีด้วย แล้วไปบอกพ่อบ้านให้ส่งคนไปซื้ออาภรณ์ที่ตลาดมาให้นางใช้ก่อนหลาย ๆ ชุดด้วย” 

เขาสั่งสาวใช้ที่มารับหนิงอันไปที่เรือนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะมากินอาหารร่วมกันที่เรือนนี้

“เจ้าไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วมากินข้าวด้วยกัน เรื่องอาภรณ์กับข้าวของส่วนตัวของเจ้า ไว้ค่อยไปซื้อหาใหม่ที่ตลาดนะ พี่จะพาไป”

เขาหันไปบอกกับหนิงอันคนรักของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หนิงอันรับคำแล้วก็เดินตามสาวใช้ไปอย่างสงบเสงี่ยม ส่วนมู่หลันเบ้ปากเพราะความหมั่นไส้ทั้งพี่ชายของตนและสตรีนางนั้น ที่ทำท่ารักกันจะเป็นจะตาย โดยพี่ชายก็ช่างใจดำเหลือเกิน ลืมเลือนคนรักเก่าที่เฝ้ารอเข้าอย่างซื่อตรงมาตลอดห้าหนาว

มู่หลันเสียใจแทนจินเยว่จริงๆ ที่มีคนรักเช่นพี่ชายของตนเอง ที่เป็นชายใจโลเล รักง่ายหน่ายเร็วเช่นนี้ หากเป็นนางวันนี้คงแทบจะปลิดชีพตัวเองเพราะความอับอายและเสียใจจนมิอาจจะทนอยู่ได้ ยังดีที่จินเยว่นั้นเข้มแข็งกว่านาง มู่หลันครุ่นคิดเพราะความเป็นห่วงสหายรัก

ส่วนแม่ทัพมู่หยางก็ลุกขึ้นบ้าง แล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ห้องพักของตัวเองที่อยู่ทางด้านหลังเรือนนี้ พอแม่ทัพหนุ่มคล้อยหลังไป คนสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะกลมกลางห้องด้วยกันก็หันหน้ามาสนทนากันทันที

“ แล้วนี่ จินเยว่เป็นเช่นไร นางคงไม่มากินข้าวร่วมสำรับกับพวกเราในวันนี้แน่ ๆ แต่เป็นข้าก็ไม่มาหรอก ถึงมาก็คงจะกินอะไรไม่ลง เกิดเรื่องเช่นนี้ นางคงจะตั้งรับไม่ทัน นางเป็นเช่นไรบ้าง ”  ท่านย่าเอ่ยขึ้นก่อน แล้วหันไปถามมู่หลัน

“ ข้าตามนางไปที่เรือนแล้วเจ้าค่ะ นางบอกว่าขออยู่คนเดียวตามลำพัง ไม่ต้องเป็นห่วงนาง นางดูแลตัวเองได้ แล้วก็ไล่ข้าให้มากินข้าวและต้อนรับพี่ชายทรยศนั่นที่นี่  "

มู่หลันบอกเล่ากับท่านย่าและแม่นมหวัง ดวงตาของนางพลอยหม่นหมองและก็เสียใจแทนจินเยว่ไม่น้อยเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยสหายรักได้อย่างไร

เพราะอยู่ ๆ พี่ชายก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ไม่ได้แยแสจินเยว่ซักนิด แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากอย่างนี้ ดูจะรักใคร่สตรีนางนั้นมาก จนแทบไม่ได้สนใจจินเยว่เลยว่านางจะรู้สึกเช่นไรที่เขาเปลี่ยนใจไปจากนางแล้วพาสตรีคนอื่นเข้ามาอยู่ในจวนอย่างนี้ แถมยังบอกว่าจะแต่งงานกับสตรีนางนั้นอีกด้วย

แม่นมหวังก็ไม่รู้จะพูดเช่นไร นางผ่านโลกมามาก เห็นความสมหวังและผิดหวังมาก็มากมาย ชีวิตคนเรานั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางครั้งทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวัง หัวใจชายนั้นบางเปลี่ยนแปลงได้ง่ายดายนัก และชายนั้นก็ได้เปรียบหญิง ตรงที่เขามีความรักได้หลายครั้งและบางครั้งก็หลาย ๆ คนพร้อมกัน

ในเรือนหลังของเหล่าขุนนางยุคนี้ ก็ใช่ว่าจะมีสตรีเพียงนางเดียวเสียเมื่อไหร่ นางเป็นเพียงบ่าว และหลานสาวและนางก็มาอาศัยใบบุญของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ภายในจวนสกุลเฉินแห่งนี้ และบัดนี้หลานสาวกับหลานชายของเจ้าของจวนนั้น ไม่ได้เป็นคู่หมายที่จะตกร่องปล่องชิ้นกันอีกแล้ว

หากนางพูดมากไปก็อาจจะมีคนว่าได้ว่านางกับหลานสาวทะเยอทะยานอยากจะเกี่ยวดองกับเจ้าของจวน อยากจะยกฐานะตัวเองขึ้นเสมอนาย แม้ในใจของแม่นมหวังจะนึกเป็นห่วงหลานสาวเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ป่านนี้นางจะเป็นเช่นไรบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะช่วยหลานสาวได้อย่างไร

ที่เรือนของจินเยว่ นางมีเรือนหลังเล็กอยู่ภายในจวนของสกุลเฉินดังเช่นคุณหนูคนหนึ่งของเจ้าของจวน ก็เพราะท่านย่าเอ็นดูนาง และเห็นว่านางคือหลานสาวอีกคนหนึ่ง จึงมอบเรือนหลังเล็กให้พำนักเป็นสัดส่วนดังเช่น มู่หลันเอง ที่ก็มีเรือนเป็นของตัวเอง ทั้งสองมีเรือนอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่จินเยว่ไม่ได้มีสาวใช้ เพราะนางไม่อยากจะให้ผู้อื่นมาว่าได้ว่านางทะเยอทะยาน เพราะนางเป็นเพียงหลานสาวของแม่นมหวังเท่านั้น เพียงฮูหยินผู้เฒ่าเอ็นดูนางมากเช่นนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

ในตอนนี้จินเยว่ทรุดนั่งอยู่ด้านหลังประตูห้องนอนของตัวเอง นางกำลังนั่งพิงประตูห้องนอนที่บัดนี้ปิดสนิทลง และกำลังร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ อย่างไม่ต้องเกรงว่าผู้ใดจะเห็นอีกแล้ว เพราะนางไม่อยากจะให้ผู้อื่นมาสมเพชนาง ที่อยู่ ๆ ก็เหมือนตกสวรรค์อย่างกระหันทัน น้ำตาของสตรีน้อยไหลรินลงมาไม่ขาดสาย

นางแทบไม่เชื่อเลยว่าบุรุษผู้นั้นที่เคยเอ่ยคำหวานออดอ้อนนาง พร่ำวอนนางอยู่ตลอด ว่ารักนางมากเพียงใด พวกเขาแทบจะตัวติดกัน เพราะบุรุษผู้นั้นมักจะมาขลุกอยู่ที่เรือนของนางเสมอ จนท่านย่าของเขาดุ เพราะเกรงผู้อื่นจะครหาเอาได้ เพราะทั้งสองแม้จะเป็นคนรักกันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แต่งงาน

เพราะท่านย่าเห็นว่ายังไม่ถึงเวลา จินเยว่กับมู่หลันเพิ่งจะปักปิ่นในปีเดียวกันนั้นเอง และต่างก็ยังไม่ถึงเวลาออกเรือน ท่านย่าอยากจะให้รออีกสักสองปีก่อน ค่อยว่ากัน แต่พอดีเกิดสงครามขึ้นเสียก่อน คนรักของนางรองแม่ทัพเฉินมู่หยางในขณะนั้น เขาเพิ่งจะขึ้นเป็นรองแม่ทัพได้ใหม่ ๆ ก็ได้เดินทางไปออกศึกและเมื่อห้าปีผ่านไปแล้ว

เขากลับมาพร้อมกับตำแหน่งใหม่คือแม่ทัพเต็มตัว เพราะเมื่อยามอยู่ชายแดนเขาทำผลงานเอาไว้มาก มีผลงานโดดเด่นจึงได้รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วตามลำดับ

เสียงสะอื้นไห้ภายในห้องนอนของจินเยว่เริ่มจะดังขึ้นทุกที นางทุ่มกายลงนั่งอยู่บนพื้นแล้วร้องไห้ออกมาจนตัวโยน นางร้องออกมาจนสาแก่ใจ กรีดร้องออกมาเพราะหัวใจของนางมันเจ็บปวดจนเกินจะทานทนได้ นางทั้งความผิดหวังและเสียใจจนแทบทนทานไม่ไหว นางร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล เหลือเพียงเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเป็นระยะ

ใบหน้างามซบลงที่หัวเข่าของตัวเอง แต่นางก็ยังคงร้องไห้ต่อไปจนกระทั่งหมดสติและไถลตัวลงนอนนิ่งอยู่บนพื้นห้อง นางนอนนิ่งอยู่บนพื้นหน้าประตูห้องนอนของตนเองเช่นนั้นจนกระทั่งเข้าสู่เช้าวันใหม่

และผู้ที่เข้ามาเขย่าให้นางตื่นขึ้นก็คือมู่หลันกับสาวใช้ ที่เป็นห่วงจินเยว่ที่เก็บตัวอยู่แต่ในเรือนไม่ยอมออกไปกินข้าวกินปลาจนกระทั่งมื้อเช้าก็ยังไม่เห็นหน้าของนาง จึงได้พากันมาตาม

“ เยว่เอ๋อ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เหตุใดมานอนที่ตรงนี้ เจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่ เป็นเพราะพี่ใหญ่แท้ ๆ เลย ทำร้ายจิตใจเจ้าจนกลายมาเป็นเช่นนี้ เยว่เอ๋อ ได้ยินข้าหรือไม่ ”  มู่หลันเขย่าตัวของจินเยว่จนนางเริ่มจะรู้สึกตัวขึ้นมา

“ข้าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเผลอหลับไปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก”

จินเยว่ค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น ใบหน้าของนางซีดเซียว เสียงที่เอ่ยออกมานั้นแหบพร่า แทบจะไม่มีเสียง นางพยายามพูดว่าไม่ต้องเป็นห่วงนาง มู่หลันกับสาวใช้ช่วยกันประคองจินเยว่ไปนั่งเอนกายบนเตียงนอนของนาง

“ มุ่ยเอ๋อ เจ้าไปเอาน้ำมาเช็ดตัวเยว่เอ๋อหน่อย นางจะได้สบายตัวขึ้น แล้วก็ไปยกโจ๊กร้อน ๆ มาให้นางกินสักหน่อยจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้นกว่านี้ เอาน้ำชาร้อนใส่กามาด้วยนะ "

มู่หลันหันไปร้องสั่งสาวใช้ของนาง ที่รับคำแล้วก็เดินออกไปจากห้องนอนของจินเยว่ทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 4 ผ้าเช็ดหน้าเก่า ๆ เขาคงไม่ต้องการหรอก

    หลายวันต่อมา ว่าที่ฮูหยินคนใหม่ของท่านแม่ทัพก็เข้าพำนักในเรือนหลังเล็กที่อยู่ไม่ห่างจากเรือนหลักมากนัก บัดนี้ท่านย่าพอจะทำใจได้บ้างแล้ว และด้วยจินเยว่นั้นมาบอกว่านางไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว หากท่านแม่ทัพไม่ต้องการนาง ก็ไม่อยากจะฝืนใจเขา ต่างคนต่างไปมีหนทางของตนเองเช่นนี้ก็ดีแล้ว นั่นทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าสบายใจขึ้นแม้จะไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันกลับกลายมาเป็นเช่นนี้เลย แต่ด้วยไม่อยากจะบังคับใจหลานชาย จึงได้แต่เฝ้าดูเหตุการณ์ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป และก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้การแต่งงานของหลานชายเกิดขึ้นเร็วนัก เพราะอยากให้เขาแน่ใจตัวเองจริง ๆ ว่าต้องการสตรีนางนั้นเป็นฮูหยินของเขาจริง ๆ ก่อน จึงจะจัดการแต่งงานให้กับหลานชายเพียงคนเดียว แม้ในใจส่วนลึกก็ยังอยากจะได้จินเยว่กลับมาเป็นหลานสะใภ้ของตัวเองเช่นเดิม แต่เมื่อมองดูแล้วความฝันนี้ก็ช่างเลือนลางเหลือเกิน เพราะวัน ๆ เห็นแต่หลานชายเฝ้าเอาอกเอาใจสตรีคนใหม่ของเขา เหมือนรักใคร่นางเสียมากมาย วันหนึ่งจินเยว่เดินออกจากเรือนของตนเองเพื่อจะไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อจะอ่านหนังสือยามบ่ายให้กับฮูหยินผู้เฒ่าฟังเช่นปกติ ขณะเดินตัดผ่าน

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 3 ร้องไห้ให้พอ

    ทั้งหมดพากันเข้าไปในห้องโถงภายในเรือนหลักของจวนแม่ทัพ“ เอาละ ยังไม่ต้องพูดอะไรกันหรอก ไว้เจ้าไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวกันก่อน ย่าสั่งให้เขาเตรียมอาหารให้เจ้ามากมายเต็มไปหมด ล้วนมีแต่ของที่เจ้าชอบกินทั้งนั้น ” ท่านย่าเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนเข้าไปรวมกันในห้องโถงแล้ว“ท่านย่า ช่วยสั่งให้คนจัดเรือนให้กับหนิงอันด้วยเถิดขอรับ เอาที่ใกล้ ๆ เรือนของข้าหน่อย ไปมาหาสู่กันจะได้สะดวกขอรับ หนิงอัน เจ้าตามสาวใช้ไปนะ ไปอาบน้ำแล้วก็มากินข้าวด้วยกันที่เรือนนี้เข้าใจหรือไม่”แม่ทัพมู่หยางหันไปสั่งคนรักใหม่ของเขา ที่หันมารับคำอย่างว่าง่ายด้วยท่าทางอ่อนหวานน่ารัก พอสาวใช้เดินมาที่นางแล้ว หนิงอันก็ลุกขึ้นนางหันไปย่อกายทำความเคารพท่านย่าของคนรักอย่างอ่อนช้อย“หนิงอันคารวะท่านย่ากับแม่นมหวังใช่หรือไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่พูดถึงพวกท่านอยู่บ่อย ๆ เจ้าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นหลานสาวด้วยคนนะเจ้าค่ะ”นางหันไปยิ้มให้กับผู้อาวุโสทั้งสองและย่อกายความเคารพอย่างอ่อนช้อย ใบหน้ายิ้มละไมให้กับทั้งผู้อาวุโสและให้กับมู่หลันที่เป็นน้องสาวของคนรักอีกด้วย แม้มู่หลันจะเมินไปทางอื่นทันทีนางก็ไม่ได้สนใจ“เอาละ เจ

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 2 ข้าหมดรักในตัวของนางแล้ว

    แล้วแม่ทัพหนุ่มก็หันมายกมือคารวะท่านย่าของเขาที่ตอนนี้ก็ชะงักนิ่งงันจ้องมองเขากับสตรีน้อยนางนั้นเช่นเดียวทุกๆ คนในจวน ใบหน้าของทั้งท่านย่าแม่นมหวังนั้นไม่ต่างกันมากนัก“ คารวะท่านย่าขอรับ ข้าคิดถึงท่านย่าและทุกคน ๆ ที่จวนมาก ๆ เลยขอรับ ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว การศึกที่ยืดเยื้อมาตลอดห้าปีจบสิ้นลงแล้ว ต่อไปข้าคงจะได้อยู่ที่จวนกับท่านย่าและแม่นมหวังได้นาน ๆ แล้วขอรับ ”เขาหันมาคารวะท่านย่ากับแม่นมหวังแล้วก็ร้องทักทายอย่างดีใจส่วนทั้งมู่หลันและเยว่ซินที่ยืนอยู่ข้างกันก็นิ่งมองแม่ทัพหนุ่มตาค้าง ใบหน้างามของเยว่ซินนั้นหม่นแสงลงเล็กน้อย แต่นางก็พยายามคิดในแง่ดีว่า สตรีที่นั่งม้าตัวเดียวกันกับพี่มู่หยางของนางมานั้น อาจจะไม่ได้เป็นอะไรกับเขาก็ได้ นางอาจจะเพียงแค่จำต้องนั่งม้ามาด้วยกันเพราะขี่ม้าไม่เป็นก็เป็นได้“ ท่านพี่มู่หยาง ท่านพาใครมาด้วยเจ้าคะ ”แต่เป็นมู่หลันที่อดใจไม่ไหว เอ่ยถามในทันที ดวงตากลมจ้องมองสตรีที่ยืนอยู่ข้างกายของพี่ชายนิ่ง ด้วยใบหน้างุนงงเป็นอย่างมาก“ ข้าลืมแนะนำไป นางคือ หลู้หนิงอัน นางเป็นคนรักของข้า กลับมาครั้งนี้ ข้าจะขอท่านย่าแต่งงานกับนางรับนางเป็นฮูหยินของข้า ”สิ้น

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 1 สิ่งตอบแทนของการรอคอย

    เช้าวันอันสดใสที่ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างก็พากันโห่ร้องยินดี เมื่อม้าเร็ววิ่งเข้ามารายงานว่าขบวนของกองทัพของแม่ทัพเฉินมู่หยางนั้นได้เดินทางกลับมายังเมืองหลวงแล้ว อีกไม่กี่ชั่วยามก็จะเดินทางเข้าสู่ประตูเมืองหลวง ทั่วทั้งเมืองล้วนตื่นเต้นยินดี ทางวังหลวงฮ่องเต้มีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเขาทันที หลังจากที่พวกเขาเข้ามาถึงเมืองหลวงแล้วภายในวังหลวงนั้นมีการจัดเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับเหล่าทหารที่กลับมาจากการสู้ศึกที่ชายแดนที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่าห้าปีแล้ว และตอนนี้ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด แม่ทัพเฉินมู่หยางแม่ทัพใหญ่ของกองทัพนี้ได้เดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเป็นทัพแรก ส่วนกองทัพในบังคับบัญชาของแม่ทัพอื่น ๆ ก็กำลังทยอยกันเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงประชาชนทั่วทั้งเมืองหลวงต่างพากันตื่นเต้นดีใจ และพากันออกมารอต้อนรับขบวนทหารตั้งแต่เช้าตรู่ ผู้คนพากันออกมายืนรออยู่สองข้างทางตั้งแต่ประตูใหญ่ด้านหน้าเมืองจนกระทั่งสุดถนนที่มุ่งหน้าเข้าสู่วังหลวงส่วนที่จวนสกุลเฉินที่เป็นจวนของแม่ทัพเฉินมู่หยางก็ล้วนแต่ตื่นเต้นยินดีนัก ที่ได้รับข่าวดีเช่นนี้ คนทั้งจวนพากันดีใจ โดยเฉพาะท่านย่าและแม่นมหวังพากันดีใจจนน้ำ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status