CHAPTER 4
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มท่ามกลางค่ำคืน พิรดานั่งซ้อนท้ายเวธัสด้วยท่าทางเกร็ง ๆ ขาเรียวแนบไปกับต้นขาแกร่งของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเบาะมันแคบเกินกว่าจะนั่งห่างกันได้สบาย ๆ
“จับไว้สิ จะร่วงอยู่แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยเตือนคล้ายรำคาญ ๆ แต่คนฟังกัดริมฝีปากแน่นด้วยความอาย ใบหน้าร้อนวูบ เพราะภายใต้กระโปรงนั้น กางเกงในของเธอยังเปียกแฉะจากเหตุการณ์ในห้องทำงาน ความเหนอะหนะมันเสียดสีกับผิวจนใจสั่นระริก “ขับช้า ๆ หน่อยได้ไหม พี่ไม่ค่อยถนัดนั่งแบบนี้” เสียงเธอสั่นระคนหอบนิด ๆ เพราะต้องเกร็งตัวไม่ให้แนบแน่นกับเขาเกินไป แต่พระเอกเหมือนจะจงใจเบรกกระทันหันเป็นช่วง ๆ จนเธอต้องโอบเอวเขาไว้แน่น “แล้วคิดว่าอยู่ในฐานะจะต่อรองอะไรกับผมหรือป้า” น้ำเสียงกวนประสาทสวนกลับมา ลมยามค่ำตีขึ้นมาจนชายกระโปรงปลิวไหว เธอพยายามกดมันไว้ แต่ยิ่งขยับก็เหมือนยิ่งไปกระตุ้นความรู้สึกของตัวเอง เพราะเนื้อผ้าเปียกชื้นที่แนบผิว กำลังเสียดสีกับก้นเย็น ๆ เวธัสหัวเราะในลำคอเมื่อเหลือบกระจกมองเห็นสีหน้าของเธอที่ทั้งแดง ทั้งกระสับกระส่าย “หรือว่าข้างล่างป้ามัน ยังไม่หายร้อน?” “อะ…อะไรนะ?” พิรดาหน้าตื่นตกใจกับคำพูดของเวธัส หรือว่าในห้องทำงานเขาจะเห็นสิ่งที่เธอทำ “หยะ…อย่าบอกนะว่า…” “ว่าอะไร” “นายเห็นพี่…” “เห็นอะไรป้า ผมแค่แกล้ง” “บ้าจริง!” มือเรียวเล็กของพิรดาทุบลงหลังเวธัสเบา ๆ ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เวธัสจอดรถหน้าบ้าน เสียงเครื่องยนต์ดับลงทิ้งความเงียบไว้แทน พิรดาก้าวลงจากรถรีบจัดชายกระโปรงที่ปลิวไหวอย่างลวก ๆ ก่อนจะหันมาหาเด็กหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่บนรถด้วยสีหน้ากวน ๆ “กลับดี ๆ ล่ะ ไอ้หมาเด็ก” “ป้าก็พักดี ๆ อย่าลืมเปลี่ยนกางเกงในก่อนนอนด้วยล่ะ เดี๋ยวจะอับจนคัน” เวธัสหัวเราะในลำคอ จ้องเธอด้วยสายตารู้ทันที่ทำเอาคนโดนมองหน้าเห่อร้อนขึ้นมาอีกหน “ไอ้เด็กเวร!” พิรดาเสียงหลง หน้าแดงจัดจนถึงหู ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินหนีแทบจะวิ่งเข้าบ้าน ทิ้งเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเขาไว้ข้างหลัง พูดแบบนี้ ไอ้หมาเด็กมันต้องรู้ต้องเห็นสิ่งที่เธอทำในห้องทำงานแน่ ๆ พิรดาเปิดประตูบ้านเงียบ ๆ แสงไฟสลัวจากห้องครัวเผยให้เห็นร่างเล็ก ๆ ของลูกชายที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนที่นอนกับยายสายพิณซึ่งคงเผลอหลับไปด้วยกันตั้งแต่หัวค่ำ พิรดาถอดรองเท้าอย่างเงียบเชียบ แล้วเดินเข้าไปมองลูกชายด้วยความรัก ริมฝีปากสวยยิ้มบาง ๆ ผ่อนคลายลงได้สักที เมื่อเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของไททัน ที่กำลังหลับสบาย “ฝันดีนะลูกชาย” เธอพูดพึมพำพลางลูบศีรษะลูกชายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินไปหยิบมุ้งครอบขนาดใหญ่มาครอบยายหลานเอาไว้ เพื่อป้องกัดยุงมากัด ที่จริงก็ไม่ได้มียุงหรอก แต่พิรดาอยากป้องกันเอาไว้ นี่ไม่ใช่การนอนหลับข้างล่างครั้งแรก มารดาของพิรดากับหลานชายเผลอหลับหลายครั้ง ท่านไม่ต้องการให้ปลุก หากท่านกับหลานหลับไปแล้ว แต่ให้พิรดาขึ้นไปนอนข้างบนเลย เสียงน้ำจากฝักบัวดังกระทบพื้น พิรดาใช้เวลานานกว่าปกติในการชำระล้างร่างกาย เพราะไม่ว่าเธอจะสัมผัสตรงไหน ในหัวก็ยังวนเวียนกับเสียงทุ้มต่ำของเด็กหนุ่มคนนั้นอยู่ดี ‘อย่าลืมเปลี่ยนกางเกงในก่อนนอนด้วยล่ะ เดี๋ยวจะอับจนคัน’ ให้ตายสิ…แค่คำพูดของไอ้หมาเด็ก ก็ทำเอาเธอขาอ่อนแทบทรุดในห้องน้ำแล้ว “เด็กบ้า ปากหมา” หล่อนพึมพำ แต่ทำไมใจเธอมันถึงเต้นแรงนักล่ะคืนนี้ —- เวธัสนั่งทำงานอย่างเงียบ ๆ กับงานที่พิรดามอบหมายให้เขาทำงาน งานกองท่วมหัว เยอะแยะไปหมด เล่นเอาเขาตาลาย ป้าหัวหน้านี่จงใจแกล้งเขาหรืออย่างไรกัน วันนี้งานถึงได้เยอะขนาดนี้ ติ๊ง! เสียงข้อความดังขึ้น ทำให้เวธัสต้องละสายตาไปมอง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดอ่านก่อนจะถอนหายใจออกมาแรง ๆ (“งานพอไหม หรือให้พี่ต้องเอาไปเพิ่ม”) “พอเลยนะป้า” เขากดส่งกลับ แต่หล่อนกลับส่งสติ๊กเกอร์แลบลิ้นปลิ้นตากลับมาให้ (“ทำหน้าให้มันดีหน่อย ไอ้หมาเด็ก ทำหน้าเหมือนโดนเมียทิ้งได้ทุกวัน”) “อย่าก่อกวน ถ้าว่างมากก็ไปถ่างขาช่วยตัวเองเถอะไป!” เขาส่งข้อความตอบกลับ (“อยากมาช่วยพี่ไหมล่ะ มาช่วยตัวเองเป็นเพื่อนกัน”) เวธัสจะบ้า ป้าจอมวายร้ายส่งข้อความมาแกล้งเขาไม่หยุด หน้าไม่อายจริง ๆ “อย่าเล่นกับไฟนะป้า!” เวธัสปิดเสียงแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด รีบเคลียร์งานของตัวเอง กว่าจะเสร็จก็ลากยาวไปถึงเที่ยง “อ้ะ ข้าว” พิรดาวางกล่องอาหารลงบนโต๊ะทำงานให้เวธัส “ผมสั่งมากินเองได้” “งั้นเรากินด้วยกันเนาะ” “เฮ้ย ป้าจะมากินข้าวตรงนี้ทำไมครับ” เวธัสถามตอนเห็นพิรดายกกล่องข้าวมานั่งกินข้าวด้วย “หัวหน้าต้องดูแลลูกน้อง” “ผมไม่ได้ขอ” “แต่นายดูเงียบไปอะ กินข้าวคนเดียวมันหดหู่” “เฮ้อ ผมไม่ได้หดหู่อะไรเลยนะป้า!” “พี่เห็นว่านายหดหู่ อย่าเถียง” เวธัสทำหน้าเอือมระอา พิรดาเปิดกล่องข้าวของตัวเอง แล้วเปิดกล่องข้าวให้เวธัส “ร้านนี้อร่อยนะ รีบกินสิ เดี๋ยวปวดท้อง” “ป้านี่จุ้นจ้านไม่เลิก” เวธัสบ่นอุบแต่ก็ยอมกินข้าวที่พิรดาเอามาให้ เธอยิ้มบาง ๆ แบบคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังแกล้งเด็กหนุ่มแล้วมันสนุก ผ่านไปสามวัน เสียงคีย์บอร์ดดังเป็นจังหวะ เครื่องปรินต์กำลังพ่นกระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่า มุมหนึ่งของโต๊ะทำงานกลับมีเด็กหนุ่มนั่งหน้าตึง คิ้วขมวดอยู่เงียบ ๆ เวธัสนั่งจ้องหน้าจอคอมที่เปิดหน้าตาราง Excel อย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่จริง ๆ สมาธิไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ พิรดาจะเดินมาจิ้มไหล่เขา บ่นเสียงดุ ๆ ว่า “ทำหน้าเหมือนหมาโดนเมียทิ้งไปได้ทุกวันเลยนะ เด็กฝึกงาน” “อย่าขยับไฟล์มั่ว ให้พี่ต้องไล่แก้” วันนี้ไม่มีเสียง ไม่มีข้อความพวกนั้น ไม่มีแม้แต่เงา สามวันแล้วที่เขาไม่ได้เห็นหน้าป้าบ้า ๆ คนนั้น เขาไม่ได้ถามใครตรง ๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นจับได้ว่าเขาสนใจ แต่ในใจก็พาลหงุดหงิดไปหมด “น้องเวธัส ๆ วันนี้พี่ช่วยสอนเรื่องรายงานยอดให้นะจ๊ะ พี่พิมพ์ไฟล์เตรียมไว้แล้ว เดี๋ยวสอนทีละขั้นเลย” เสียงจุ๊บแจงสาวรุ่นพี่จากฝ่ายเดียวกันเอ่ยขึ้น พร้อมยื่นแฟ้มเอกสารมาให้ด้วยรอยยิ้มหวาน “อันนี้พี่พิรดาฝากไว้ก่อนลางานนะจ๊ะ เห็นว่าเธอไม่ค่อยเข้าใจสูตรพวกนี้” ฝากไว้ก่อนลางาน หมายความว่าอะไร หรือก่อนจะหายหัวไป เธอคิดแต่เรื่องงาน “ขอบคุณครับ” เขาตอบรับไปนิ่ง ๆ จุ๊บแจงเริ่มอธิบายงานอย่างใจดี นั่งใกล้เขาเกินกว่าที่ควรจะเป็นหน่อย มือบาง ๆ เอื้อมมาแตะเมาส์ในมือเขาเพื่อนำเสนอวิธีทำงาน “ตรงนี้เราต้องระวัง ไม่งั้นข้อมูลจะรวนหมดเลย” กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยมากระทบจมูก เวธัสเบี่ยงหน้าหนีอย่างไม่รู้ตัว ไม่ใช่ว่าเขารังเกียจผู้หญิง แต่เขาชินกับกลิ่นของพิรดาที่มันไม่ใช่น้ำหอม แต่มันเป็นกลิ่นผู้หญิงจริง ๆ แบบที่เขาไม่รู้จะอธิบายยังไง “น้องเวธัสโอเคไหม? ทำหน้าตึงอีกแล้วนะ” หญิงสาวหัวเราะนิด ๆ คิดว่าเขาคงเครียดเรื่องงาน แม้เจ้าตัวแค่พยักหน้าเงียบ ๆ ในใจกลับมีคำถามวนเวียนไม่หยุด ไปไหนของป้าวะ หายหัวไปสามวัน ไม่บอก ไม่ลา ไม่ส่งข้อความ ไม่แม้แต่แกล้งเขาเล่นเหมือนทุกวัน คิดจะหายก็หาย ไม่บอกไม่กล่าวกัน “งั้นวันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ พี่ต้องไปประชุมต่อ ฝากเวธัสทวนไฟล์เองด้วยล่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานแล้วขอตัวไป ทิ้งให้เวธัสนั่งถอนหายใจคนเดียว มือใหญ่กดเมาส์ไถหน้าจอไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายเปิดอีเมลที่พิรดาส่งงานมาไว้ก่อนลาออก ประโยคง่าย ๆ ที่เธอแนบมาใต้ไฟล์มันเหมือนมีอะไรทิ่มอกอยู่ลึก ๆ “เด็กฝึกงาน อย่าทำงานมั่ว ฉันไม่อยู่ช่วยหลายวัน” “เออ ผมก็ไม่ได้อยากให้ป้าอยู่ช่วยนักหรอก” เขาพึมพำ แต่สายตายังจ้องข้อความนั้นไม่กะพริบ แล้วพิรดาไปไหน คำถามวิ่งวนในหัว จนเขาทำงานแทบไม่ได้ เพราะเอาแต่คิดเรื่องยัยป้านี่ทั้งวัน เขาจะบ้า!CHAPTER 5เสียงส้นรองเท้าสาวกระทบพื้นดังแก่ก ๆ เป็นสัญญาณชัดเจนว่า พิรดากลับมาทำงานแล้ว หลังจากหายหน้าไปทั้งสามวัน“พี่พีช กลับมาแล้วเหรอคะ! ไปเที่ยวสนุกไหมเอ่ย” ทุกคนในแผนกก็ยิ้มทักทายเธอปกติ ไม่มีใครสงสัยอะไร“สนุกสิจ้ะ” เธอหัวเราะพลางตอบน้องในทีม ก่อนจะเดินมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเองที่เงียบ ๆเธอปรายตามองไปที่โต๊ะอีกมุมของออฟฟิศ เวธัส กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานเหมือนไม่รับรู้โลกภายนอก แต่หางตาเขาขยับเล็กน้อยตอนเธอหันไปมอง“หึ แอบเนียนนะเรา” พิรดาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เดินตรงไปหา “ทำงานเก่งขึ้นหรือยังเอ่ย?” “จะเก่งอะไร ป้าอยู่สอนงานผมหรือไง” เสียงเขาเรียบ ไม่มีแววแปลกใจหรือดีใจที่เห็นเธอกลับมา“ปากดีเหมือนเดิมนะเรา แปลว่าช่วงที่พี่ไม่อยู่ คงเหงาน่าดูสิ” พิรดายิ้มบาง ๆ โน้มตัวพิงโต๊ะเขา จงใจเอียงตัวให้น้ำหอมบางเบาลอยกระทบจมูกอีกฝ่าย ปลายนิ้วเรียวสวยไล้วนบนขอบแฟ้มเอกสารของเวธัสเล่น ๆ ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ เวธัสเหลือบตามองข้อมือบางที่วางอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนจะตอบเสียงต่ำ“ป้าหายไปไหนมา” พิรดาชะงัก ก่อนจะยิ้มยั่วกลับ“ไปเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศนิดหน่อย ก็แค่ไปหาของอร่อย ๆ ของร้อน ๆ กินให้
CHAPTER 4เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มท่ามกลางค่ำคืน พิรดานั่งซ้อนท้ายเวธัสด้วยท่าทางเกร็ง ๆ ขาเรียวแนบไปกับต้นขาแกร่งของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเบาะมันแคบเกินกว่าจะนั่งห่างกันได้สบาย ๆ“จับไว้สิ จะร่วงอยู่แล้ว”เสียงทุ้มเอ่ยเตือนคล้ายรำคาญ ๆ แต่คนฟังกัดริมฝีปากแน่นด้วยความอาย ใบหน้าร้อนวูบ เพราะภายใต้กระโปรงนั้น กางเกงในของเธอยังเปียกแฉะจากเหตุการณ์ในห้องทำงาน ความเหนอะหนะมันเสียดสีกับผิวจนใจสั่นระริก“ขับช้า ๆ หน่อยได้ไหม พี่ไม่ค่อยถนัดนั่งแบบนี้”เสียงเธอสั่นระคนหอบนิด ๆ เพราะต้องเกร็งตัวไม่ให้แนบแน่นกับเขาเกินไป แต่พระเอกเหมือนจะจงใจเบรกกระทันหันเป็นช่วง ๆ จนเธอต้องโอบเอวเขาไว้แน่น“แล้วคิดว่าอยู่ในฐานะจะต่อรองอะไรกับผมหรือป้า” น้ำเสียงกวนประสาทสวนกลับมาลมยามค่ำตีขึ้นมาจนชายกระโปรงปลิวไหว เธอพยายามกดมันไว้ แต่ยิ่งขยับก็เหมือนยิ่งไปกระตุ้นความรู้สึกของตัวเอง เพราะเนื้อผ้าเปียกชื้นที่แนบผิว กำลังเสียดสีกับก้นเย็น ๆ เวธัสหัวเราะในลำคอเมื่อเหลือบกระจกมองเห็นสีหน้าของเธอที่ทั้งแดง ทั้งกระสับกระส่าย “หรือว่าข้างล่างป้ามัน ยังไม่หายร้อน?”“อะ…อะไรนะ?” พิรดาหน้าตื่นตกใจกับคำพูดของเวธัส
CHAPTER 3พิรดาเดินออกมาจากห้องทำงานในมือมีเอกสารปึกใหญ่ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะทำงานของเด็กหนุ่ม เขาขมวดคิ้วเงยหน้้าขึ้นมองเธอ“เวธัส เอานี่ไปช่วยทีมจัดเรียงข้อมูลให้พี่หน่อย” เธอจงใจเน้นคำว่า ‘พี่’ ชัดถ้อยชัดคำ เธอต้องการประกาศให้เขารู้ว่าเธอเป็นพี่ ไม่ใช่ป้าอย่างที่เขาพยายามเรียกเธอ“ครับ ป้า” เวธัสเน้นย้ำคำนั้นอย่างจงใจ เล่นเอาพิรดาถลึงตาใส่ เธอไม่ใช่ยัยป้าสักหน่อย ทำไมต้อมาเรียกป้าด้วย“ได้ งั้นป้าจะให้งานเยอะ ๆ จนนั่งไม่ติดโต๊ะเลยดีไหมล่ะ หืม?”“แค่เอกสาร ไม่ได้หนักอะไรนี่ครับ” เวธัสยักไหล่น้อย ๆ อย่างไม่ยี่หระ พิรดาเม้มปากรู้สึกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้า พูดจากวนอวัยวะเบื้องล่างอยู่ไม่น้อยร้ายกับใครก็ร้ายไป แต่กับพี่นะหนุ่มน้อย เดี๋ยวรู้เลยว่าใครจะยอมก่อน“ระวังตัวไว้ให้ดีนะ เวธัส เด็กดื้อแบบนี้ พี่ไม่ปล่อยให้ลอยนวลแน่” หญิงสาวก้าวเข้าไปใกล้ กระซิบข้างหูเด็กหนุ่มเสียงหวานจัด เวธัสหันขวับมา แต่พิรดาก็เดินจากไปแล้ว เหลือไว้แค่กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ กับรอยยิ้มมุมปากที่เขาเผลอยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว…ใครกันแน่! ที่จะไม่ปล่อยให้ลอยนวล—-เสียงหัวเราะของเด็กชายตัวน้อยดังออกมาจากบ้านหลังเล็ก ๆ พิรดาเปิดปร
CHAPTER 2 ป้าเสียงส้นสูงกระทบพื้นดังไปตามโถงทางเดินหน้าตึกเรือนผมยาวปล่อยยาวสลวย เสื้อเชิ้ตขาวเรียบเนี้ยบ กระโปรงดินสอเข้ารูปสีดำสูงเหนือเข่าเล็กน้อย สูทเข้ารูปพาดบ่า มือข้างหนึ่งถือเอกสาร อีกข้างกดมือถือแนบนิ่งบนหน้าจอสนทนา“หัวหน้า วันนี้แต่งตัวสวยจังค่ะ” เสียงแซวเบา ๆ จากจุ๊บแจง พนักงานฝ่ายเดียวกันที่เดินสวนมา“ค่ะ วันนี้น้องแจงก็สวยมาก” พิรดาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ยิ้มสุภาพ“ขอบคุณค่ะ” จุ๊บแจงส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวที่ใครต่อใครในบริษัทล้วนรู้จักดีในชื่อ พิรดา หัวหน้าฝ่ายการตลาดที่ทั้งแซ่บ ทั้งโหด และทำงานเก่งจนผู้ชายยังต้องหลบ“วันนี้มีประชุมใหญ่นะ เตรียมทุกอย่างให้พร้อม”“ค่ะ มีเวลาอีกสิบห้านาทีก่อนเข้าประชุม จุ๊บแจงเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วค่ะ”ห้องประชุม“ฝ่ายการตลาด ขอสรุปภาพรวมแคมเปญใหม่ กับตัวเลขครึ่งปีหลังให้ชัดเจนหน่อย” CEO ชายวัยกลางคนเอ่ยด้วยสายตาจริงจัง“ค่ะ ปัจจุบันยอดลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนสิบแปดเปอร์เซ็นต์เกินกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ค่ะ” พิรดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง มั่นใจ พูดฉะฉาน โดยไม่ต้องเปิดสคริปต์ พร้อมกดรีโมต เปลี่ยนสไลด์ขึ้นกราฟชัดเ
บทที่ 1 ชั่วโมงเร่งด่วนครืด~ ครืด~ “อ๊าซี๊ดดดด” ส่วนครางในวกระเส่าดังลอดตัวเองเล็ก ๆ พิรดาหอบควบคุมสะท้านดิลโด้คู่ใจในร่องลึกเข้มข้นแน่นแน่นด้วยของเล่นที่มีความสำคัญมากขึ้นในการค้นหาส่วนประกอบของการเลิกรากับอดีตสามีในห้องนอนไป ตรวจสอบอุปกรณ์ตรวจใจนี้รีวิวนี้ทุกคืนไหนจะงานไหนจะลูกไหนจะปัญหาชีวิตที่โดดเด่น ค้นหาหนุ่มๆ ใหม่ ๆ และซื้อกิน“อ๊า” เอเอวเล็ก ๆ หงึกๆ หัวสวยแหงนหงายมักจะกดเพื่อเพิ่มแรงระบบสั่นพิรดายิ่งเสียดกลิ่นขึ้นสมองเรียวบีคึงหม้อน้ำสวยมืออีกข้างก็รัวเจ้าดิลโด้อย่างเมามัน“อ๊าออร่าร้องไห้! กัดจัง” เส้นเลือดหวานครางกระเส่าใบหน้าแดงก่ำอินเดียเพิ่มความเร็วมันยิ่งเสียวขนลุกเกรียวไปทั้งร่างดิลโด้สืบสวนสอบสวนเป็นเครื่องยนต์แรกรัวยิ่งเสียดสีเป็นหลักให้พลุ่งพล่าน น้ำหวานไหลเยิ้มเปื้อนผ้าปูยับย่นใต้ร่าง“อ๊า…อ๊าอ๊า” ร่างพิรดาตัวอย่างแหงนหงายรัวของเล่นจนกายสั่นระริกด้วยสะท้านเมื่อเจ้าดิลโด้ส่งถึงสวรรค์จนน้ำหวานทะลักทะลายพิรดาหอบหายใจรัวๆแผ่นย่นจากแรงเคลื่อนตัวเมื่อครู่วิจัยยังเต้นระส่ำสตรีมมิ่งยังร้อนผ่าวริศมีไฟซ่อนผิวทุกมุมนี้… เธอต้องการและต้องการอย่างมากทุกวัน มองมุมที่มองไปข