Short
น้ำตาร่วงกลางบุปผา รักลับไม่หวน

น้ำตาร่วงกลางบุปผา รักลับไม่หวน

By:  โย่วโย่วCompleted
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
8Chapters
2views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย คู่หมั้นของฉัน ซูซินอวี่ ก็ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะถอนหมั้นกับฉัน เลือกฮันโม่หราน เป็น ฉีถิงสือ ที่ช่วยฉันใช้หนี้จนหมด จัดการงานศพของพ่อฉัน และช่วยฉันออกมาจากความทุกข์ยากราวกับช่วยขึ้นจากกองไฟและสายน้ำ ตลอดสามปีถัดมา เขายิ่งอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด แต่พอฉันคิดว่าตัวเองได้พบกับการเยียวยาแล้ว แต่กลับได้ยินเขาคุยกับเพื่อนสนิทของเขาในวันก่อนพิธีแต่งงาน “นายตั้งใจจะแต่งงานกับเฉิงซวงจริง ๆ เหรอ นายไม่กลัวหรือว่าในอนาคตเธอจะรู้ว่า การตายของพ่อเธอ รวมถึงการล้มละลายของตระกูลเฉิง เป็นฝีมือของนายเอง?” “โม่หรานแต่งงานกับซูซินอวี่ไปแล้ว จะแต่งกับเธอก็แต่งไปเถอะ ต่อให้เธอรู้แล้วจะทำไม หนี้ฉันก็ช่วยใช้ให้แล้ว พ่อของเธอก็ถูกฝังเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ถือว่าทำดีกับเธอมากพอแล้ว” ตอนนั้นเองฉันถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ฉีถิงสือ ก็หลอกฉันเช่นกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ คนที่หลงเข้าไปในบทบาทนั้น มีเพียงฉันคนเดียว

View More

Chapter 1

บทที่ 1

หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย คู่หมั้นของฉัน ซูซินอวี่ ก็ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะถอนหมั้นกับฉัน

เลือกฮันโม่หราน

เป็น ฉีถิงสือ ที่ช่วยฉันใช้หนี้จนหมด จัดการงานศพของพ่อฉัน และช่วยฉันออกมาจากความทุกข์ยากราวกับช่วยขึ้นจากกองไฟและสายน้ำ

ตลอดสามปีถัดมา เขายิ่งอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด

แต่พอฉันคิดว่าตัวเองได้พบกับการเยียวยาแล้ว

แต่กลับได้ยินเขาคุยกับเพื่อนสนิทของเขาในวันก่อนพิธีแต่งงาน

“นายตั้งใจจะแต่งงานกับเฉิงซวงจริง ๆ เหรอ นายไม่กลัวหรือว่าในอนาคตเธอจะรู้ว่า การตายของพ่อเธอ รวมถึงการล้มละลายของตระกูลเฉิง เป็นฝีมือของนายเอง?”

“โม่หรานแต่งงานกับซูซินอวี่ไปแล้ว จะแต่งกับเธอก็แต่งไปเถอะ ต่อให้เธอรู้แล้วจะทำไม หนี้ฉันก็ช่วยใช้ให้แล้ว พ่อของเธอก็ถูกฝังเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ถือว่าทำดีกับเธอมากพอแล้ว”

ตอนนั้นเองฉันถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ฉีถิงสือ ก็หลอกฉันเช่นกัน

ตั้งแต่ต้นจนจบ คนที่หลงเข้าไปในบทบาทนั้น มีเพียงฉันคนเดียว

……

ฉันยืนอยู่นอกประตู และได้ยินบทสนทนาระหว่างฉีถิงสือกับฉินชวนอย่างชัดเจน

ถาดผลไม้ในมือของฉันสั่นไหวไปตามแรงสั่นสะเทือนเบา ๆ ของร่างกายฉัน

“นายไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยเหรอ?”

เมื่อได้ยินความลังเลสงสัยของฉินชวน ในใจของฉันกลับพลันเกิดความคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย

“ทุกอย่างก็เพื่อโม่หราน ฉันไม่มีวันเสียใจ”

ฉินชวนได้ยินแล้วก็ยกมือกุมหน้าผากอย่างจนใจ พยายามเกลี้ยกล่อมว่า “ต่อให้นายช่วยฮันโม่หรานให้ยืนหยัดในตระกูลฮันได้แล้วจะอย่างไร สุดท้ายเธอก็เลือกซูซินอวี่อยู่ดี! นายจะยอมทำร้ายคนที่รักนาย เพื่อคนที่ไม่รักนายจริง ๆ เหรอ?”

ฉีถิงสือฟังแล้วสีหน้าไร้อารมณ์ เขามองฉินชวนและพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่า โม่หราน จะเลือกใคร นั่นก็เป็นเสรีภาพของเธอ ฉันแค่อยากช่วยเธอเท่านั้น ส่วนเฉิงซวง เธอรักฉันมากขนาดนี้ ถ้าฉันไม่แต่งงานกับเธอ นั่นแหละถึงจะเป็นการทำร้ายเธอ ตราบใดที่เธอไม่รู้ความจริงเหล่านี้ เธอก็จะไม่เจ็บปวด ฉันเองก็แค่กำลังปกป้องเธออยู่”

เมื่อฉินชวนได้ยินคำแก้ตัวบิดเบือนของฉีถิงสือ ก็จนคำพูด ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร

ส่วนฉัน กลับอดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้มออกมาบาง ๆ

หัวเราะเยาะความตาบอดของตัวเอง หัวเราะเยาะความโง่ของตัวเอง และหัวเราะเยาะสามปีที่ผ่านมาในชีวิตของตัวเอง

ตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันมองฉีถิงสือเป็นผู้มีพระคุณ เป็นการเยียวยาเพียงหนึ่งเดียวของฉัน

เพียงเพราะในวันที่ทั้งเมืองไห่เฉิงต่างพากันหัวเราะเยาะฉัน เขาได้ยืนออกมาปกป้องฉันอยู่ตรงหน้า

เขาไม่เพียงช่วยฉันใช้หนี้จนหมด แต่ยังช่วยจัดการฝังศพพ่อของฉันอีกด้วย

เพราะเขา ตัวฉันที่ตกต่ำสิ้นไร้ไม้ตอก จึงได้พบที่พึ่งพิงใหม่อีกครั้ง

ก็เพราะมีเขา ฉันจึงไม่เกิดความคับแค้นใจจากการถูกซูซินอวี่ทอดทิ้ง

แต่บทสนทนาระหว่างเขากับฉินชวนในตอนนี้ กลับบอกฉันว่า ทุกสิ่งที่ผ่านมา ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมด

และฉันยังคิดจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ ผู้ที่เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของฉันพังพินาศและสูญสิ้นทุกอย่าง

เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากภายในห้อง

ฉันไม่อาจคิดถึงอย่างอื่นได้ ได้แต่รีบหนีกลับไปที่ห้องของตัวเอง

หลังจากฉินชวนจากไป ฉีถิงสือก็กลับเข้ามาในห้อง ยืนอยู่ตรงหน้าฉันและกุมมือฉันไว้

“มือเย็นขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่า?”

เขาพูดไปพลางวางมือแนบลงบนหน้าผากของฉันเพื่อตรวจดูอุณหภูมิ “ไม่ร้อนนะ ซวงเอ๋อร์ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

เมื่อมองฉีถิงสือตรงหน้าที่เต็มไปด้วยสีหน้ากังวล ฉันกลับรู้สึกได้เพียงความน่าหวาดกลัว

ทั้งที่เขาไม่ได้รักฉันเลย แต่กลับสามารถแสดงออกได้ราวกับรักฉันจนสุดหัวใจ

ฉันส่ายหน้าเบา ๆ สะบัดมือออกจากมือของเขา ก่อนจะยิ้มจาง ๆ แล้วพูดว่า “เปิดหน้าต่างไว้อยู่ คงเป็นเพราะลมพัดน่ะ”

ฉีถิงสือได้ยินแล้วก็ยกเท้าเดินไปทางหน้าต่าง พลางปิดหน้าต่างไปด้วยและกำชับว่า “ร่างกายเธออ่อนแอ อย่าโดนลมบ่อย ๆ ถ้าป่วยขึ้นมาจะทำยังไง ฉันจะเป็นห่วงนะ”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พอฉันได้ยินคำพูดแบบนี้จากฉีถิงสือ ฉันคงยิ้มอย่างสดใส และยังจะโผเข้าไปกอดเขาออดอ้อนอีกด้วย

แต่ตอนนี้ ฉันได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไรเลย

เขาสังเกตเห็นอารมณ์ที่หดหู่ของฉัน จึงย่อตัวลงสบตากับฉัน “พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแต่งงานของพวกเราแล้ว ซวงเอ๋อร์ ไม่ดีใจที่จะได้แต่งงานกับฉันเหรอ?”

หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับฉินชวนเมื่อครู่ ฉันทั้งคนก็ตกอยู่ในความสับสน ไม่รู้เลยว่าควรทำอย่างไรดี

คำพูดของฉีถิงสือทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมา ฉันจะไม่แต่งงานกับเขาแล้ว

ฉันต้องไปจากที่นี่

กลัวว่าเขาจะสังเกตเห็นความผิดปกติของฉัน ฉันจึงรีบปลอบเขาอย่างลนลาน “อาการกังวลก่อนแต่งงานน่ะเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไหว”

ฉีถิงสือยิ้มแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ อย่ากังวลไปเลย ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ”

เมื่อสามปีก่อนเขาก็พูดแบบนี้ และตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ

แต่ฉันเคยคิดว่าสิ่งนั้นเป็นเพราะเขารักฉัน ที่แท้แล้วเป็นเพียงการไถ่บาป และเป็นการพันธนาการฉันเอาไว้เท่านั้น

“ซวงเอ๋อร์ พวกเราไปจัดเตรียมห้องหอที่บ้านใหม่กันเถอะ”

คำพูดของฉีถิงสือขัดจังหวะความคิดของฉัน ฉันจึงได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจ

บ้านหลังใหม่ตั้งอยู่ในย่านฝั่งตะวันตก เป็นคฤหาสน์หรูหรามากหลังหนึ่ง

เพียงแค่เห็นครั้งแรก ฉันก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที

ฉีถิงสือบอกฉันว่า เขาเลือกบ้านหลังนี้ตามความชอบของฉัน

ต่างจากความรู้สึกดีใจในครั้งที่แล้วที่ฉันมาที่นี่ เมื่อก้าวเข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้อีกครั้ง ฉันกลับรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว

คนตรงหน้าคือศัตรู คนที่อยู่ในหัวใจก็คือผู้บงการให้ครอบครัวฉันพังพินาศ ฉันจะยังรู้สึกว่าบ้านหลังนี้อบอุ่นได้อย่างไรกัน

ในขณะที่ฉันกำลังพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองอยู่ โทรศัพท์มือถือของฉีถิงสือก็ดังขึ้น

เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของฮันโม่หราน

ฉันเคยงอนฉีถิงสือเพราะเสียงเรียกเข้านี้มาก่อน แต่ฉีถิงสือบอกฉันว่า นั่นเป็นเพราะฮันโม่หรานเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา

ตอนที่เขาพูดคำนี้ แววตาของเขาจริงจังอย่างยิ่ง จนทำให้ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อ

ถึงแม้ในใจฉันจะไม่เต็มใจ แต่ฉันก็ไม่เคยบอกความไม่พอใจของตัวเองกับฉีถิงสืออีกเลย เพราะกลัวว่าเขาจะมองว่าฉันเรื่องมาก

แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้านี้อีกครั้ง ฉันกลับรู้สึกว่ามันคือเสียงสัญญาณช่วยชีวิต

ฉีถิงสือเผยสีหน้าอึดอัด มองฉันแวบหนึ่ง ก่อนจะรับสายแล้วเดินออกไปไกลจากตรงนั้น

ไม่นานนัก เมื่อเขากลับมาอีกครั้ง สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความร้อนรนกระวนกระวาย

“ซวงเอ๋อร์ บริษัทมีเรื่องด่วน ฉันต้องไปก่อน เธอจัดการเก็บของไปก่อนนะ ที่เหลือรอฉันกลับมาแล้วค่อยทำด้วยกัน”

พูดจบเขาก็ไม่รอให้ฉันตอบ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปนอกประตูทันที

เมื่อมองแผ่นหลังของเขาที่จากไปโดยไม่หันกลับมา ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก พร้อมกันนั้นหัวใจก็เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

ที่ผ่านมาเป็นเพราะฉันโง่เขลาเอง และก็เป็นเพราะฉันตั้งใจทำเป็นมองไม่เห็น

สำหรับสายโทรศัพท์จากฮันโม่หราน ฉีถิงสือไม่เคยพลาดเลย ไม่ว่าในตอนนั้นเขากำลังทำอะไรอยู่

ถึงกับเคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่ฉันกับฉีถิงสือกำลังใกล้ชิดกัน

เขายังรับสายของฮันโม่หราน และในวินาทีที่เสียงร้องไห้ดังออกมาจากปลายสาย เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจากไปทันที

ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่เคยมองฉันสักแวบ และก็ไม่ได้พูดอะไรกับฉันเลยสักคำ
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
8 Chapters
บทที่ 1
หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย คู่หมั้นของฉัน ซูซินอวี่ ก็ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะถอนหมั้นกับฉันเลือกฮันโม่หรานเป็น ฉีถิงสือ ที่ช่วยฉันใช้หนี้จนหมด จัดการงานศพของพ่อฉัน และช่วยฉันออกมาจากความทุกข์ยากราวกับช่วยขึ้นจากกองไฟและสายน้ำตลอดสามปีถัดมา เขายิ่งอยู่เคียงข้างฉันมาตลอดแต่พอฉันคิดว่าตัวเองได้พบกับการเยียวยาแล้วแต่กลับได้ยินเขาคุยกับเพื่อนสนิทของเขาในวันก่อนพิธีแต่งงาน“นายตั้งใจจะแต่งงานกับเฉิงซวงจริง ๆ เหรอ นายไม่กลัวหรือว่าในอนาคตเธอจะรู้ว่า การตายของพ่อเธอ รวมถึงการล้มละลายของตระกูลเฉิง เป็นฝีมือของนายเอง?”“โม่หรานแต่งงานกับซูซินอวี่ไปแล้ว จะแต่งกับเธอก็แต่งไปเถอะ ต่อให้เธอรู้แล้วจะทำไม หนี้ฉันก็ช่วยใช้ให้แล้ว พ่อของเธอก็ถูกฝังเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ถือว่าทำดีกับเธอมากพอแล้ว”ตอนนั้นเองฉันถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ฉีถิงสือ ก็หลอกฉันเช่นกันตั้งแต่ต้นจนจบ คนที่หลงเข้าไปในบทบาทนั้น มีเพียงฉันคนเดียว……ฉันยืนอยู่นอกประตู และได้ยินบทสนทนาระหว่างฉีถิงสือกับฉินชวนอย่างชัดเจนถาดผลไม้ในมือของฉันสั่นไหวไปตามแรงสั่นสะเทือนเบา ๆ ของร่างกายฉัน“นายไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยเหรอ?”เม
Read more
บทที่ 2
ทันทีที่ฉีถิงสือออกไป ฉันก็ไปที่โรงพยาบาลที่สองทันทีในความทรงจำของฉัน แม้บริษัทที่บ้านจะเผชิญวิกฤต และพ่อของฉันต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเรื่องนั้นก็ตามแต่ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่เคยมีแพทย์คนไหนบอกฉันเลยว่า อาการของพ่อจะอยู่ในภาวะอันตรายจากโรคนี้มีเพียงบอกฉันว่า พ่อของฉันจำเป็นต้องพักผ่อนเท่านั้นเมื่อสามปีก่อน ฉันยังอ่อนประสบการณ์เกินไป พอเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกะทันหัน ก็ได้แต่ตื่นตระหนกและร้อนใจเท่านั้นแต่พอมาคิดทบทวนอย่างละเอียดในตอนนี้ ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในตอนนั้น ล้วนผ่านไปเร็วเกินไปฉันไปพบคุณหมอหลี่ ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ของพ่อฉันในตอนนั้น“คุณหมอหลี่คะ สาเหตุการเสียชีวิตของพ่อฉันในตอนนั้นคืออะไรกันแน่?”คุณหมอหลี่ดูตกใจมากเมื่อเห็นฉัน และยิ่งงุนงงเข้าไปอีกเมื่อได้ยินคำถามของฉัน “คุณไม่รู้เหรอ?”ฉันยืนนิ่งงัน ก่อนจะส่ายศีรษะช้า ๆ“พ่อของคุณในตอนนั้นฆ่าตัวตายนะ ไม่มีใครเคยบอกคุณเลยเหรอ?”คำพูดของคุณหมอหลี่ราวกับสายฟ้าฟาดกลางวันแสก ๆ ทำให้ฉันช็อกยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้นฉันอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้คุณหมอหลี่ถอนหาย
Read more
บทที่ 3
ฉันเรียกรถแท็กซี่ขับตามรถของฉีถิงสือไป ทั้งที่เขาไม่ได้อยากเห็นหน้าฉันเลยฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าฮันโม่หรานจะตั้งครรภ์จริง ๆ และที่ฉันตามมาด้วย ก็เพียงอยากอธิบายว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลยแต่พอฉีถิงสือส่งหานโม่หรานเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว เขาก็หันมามองฉันอย่างเย็นชา “เฉิงซวง ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายได้ขนาดนี้ โม่หรานแค่อยากมาดีใจและอวยพรงานแต่งของเธอด้วยตัวเอง ทำไมเธอต้องทำกันถึงขั้นนี้ด้วย?!”พอได้ยินเสียงคำรามที่เขาพยายามกลั้นอารมณ์เอาไว้ ฉันก็หมดแรงจะอธิบายอะไรอีกต่อไป“ถ้าเด็กในท้องของโม่หรานไม่รอด เงินค่าสินสอดที่ฉันเตรียมไว้ให้เธอ ฉันจะยกให้โม่หรานทั้งหมด ถือเป็นการชดเชย”พอได้ยินถึงตรงนี้ ฉันก็มองไปที่ฉีถิงสือด้วยความตกตะลึงฉีถิงสือเคยบอกว่า การแต่งงานก็ต้องมีขั้นตอนแบบการแต่งงาน คนอื่นมีอะไร ฉันก็ต้องมีเหมือนกัน แถมอาจจะได้มากกว่าด้วยซ้ำเขาเคยเสนอว่าจะโอนหุ้นของบริษัทครึ่งหนึ่งมาไว้ในชื่อของฉัน เพื่อใช้เป็นค่าสินสอดแต่พอคำพูดพวกนี้หลุดออกมาจากปากเขา ไม่ว่าเด็กในท้องของฮันโม่หรานจะยังอยู่หรือไม่ สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่เป็นของฉันอีกแล้วในใจ
Read more
บทที่ 4
ตอนตีห้า ฉีถิงสือถูกสายโทรศัพท์จากช่างแต่งหน้าปลุกให้ตื่น ก่อนจะรับสาย เขายังเหลือบมองดูอาการของฮันโม่หรานอย่างระมัดระวังอีกด้วยพอเห็นว่าเธอหลับสนิทดีแล้ว เขาก็หันตัวออกไปรับสายโทรศัพท์อยู่นอกห้อง“เกิดอะไรขึ้น?”“คุณฉีคะ พวกเรากดกริ่งแล้วแต่ไม่มีใครมาเปิดประตู ไม่อย่างนั้นรบกวนคุณช่วยติดต่อเจ้าสาวให้หน่อยได้ไหมคะ?”ฉีถิงสือขยี้ขมับอย่างหงุดหงิด ก่อนจะวางสายแล้วโทรหาเฉิงซวงคำตำหนิที่ว่าเฉิงซวงไม่รู้ความกำลังจะหลุดออกจากปาก ทันทีที่ได้ยินเสียงตู๊ด เขาก็กรอกเสียงดุใส่ว่า “เธอกำลังงอนอะไรอยู่ ช่างแต่งหน้ามาถึงแล้ว เปิดประตูสิ!”แต่ในวินาทีถัดมา ฉีถิงสือถึงได้ยินชัดว่าปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงที่เย็นชาเหมือนเครื่องจักร แจ้งเตือนว่า หมายเลขที่ท่านโทรติดต่อ ปิดเครื่องอยู่ในขณะนี้ฉีถิงสือจึงปักใจเชื่อทันทีว่าเฉิงซวงแค่กำลังงอนเล็ก ๆ เขาเลยบอกกับช่างแต่งหน้าว่า “ต้องรบกวนด้วยนะ งั้นพวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ไม่ต้องไปสนใจเธอแล้ว”ช่างแต่งหน้ารู้สึกไม่เข้าใจ แต่ก็ทำได้เพียงทำตามคำสั่งหลังจากวางสาย ฉีถิงสือก็กลับเข้าไปในห้องพักคนไข้ แล้วพบว่าฮันโม่หรานตื่นขึ้นมาแล้ว เขาพลันร้อนรนทันที “โม่ห
Read more
บทที่ 5
ฮันโม่หรานบอกว่าตัวเองปวดท้อง และถามฉีถิงสือว่าเขาจะกลับไปหาเธอสักหน่อยได้ไหมฉีถิงสือชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายก็ยังตัดสินใจไปอยู่ดีฉินชวนมองแผ่นหลังของฉีถิงสือที่เดินจากไป แล้วถอนหายใจพร้อมพูดว่า “ทั้งหมดนี่มันคือชะตากรรมจริง ๆ”ฉีถิงสือรีบไปถึงโรงพยาบาล ด้วยความร้อนรนจึงเผลอชนเข้ากับใครบางคน“คุณฉี?”ฉีถิงสือเพิ่งจะสังเกตเห็นในตอนนั้นเองว่าคนที่เขาชนเข้า คือคุณหมอหลี่ แพทย์เจ้าของไข้ของพ่อเฉิงซวงในปีนั้นเมื่อเห็นคุณหมอหลี่ ความไม่สบายใจที่อัดอั้นอยู่ในใจของฉีถิงสือก็พลันพุ่งพรวดขึ้นมา พยักหน้าให้เล็กน้อยแล้วคิดจะเดินจากไป“เอ๊ะ วันนี้เฉิงซวงไม่ได้มากับคุณเหรอ อาการของเธอเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”“เฉิงซวงเป็นอะไร?”เมื่อได้ยินชื่อของเฉิงซวง ความกระวนกระวายใจของฉีถิงสือก็ยิ่งทวีขึ้น พร้อมกับความเป็นห่วงที่ถาโถมเข้ามาเธอป่วยหรือเปล่า? ทำไมถึงมาโรงพยาบาล? แล้วทำไมไม่บอกเขาเลยล่ะ?ดังนั้นคุณหมอหลี่จึงเล่าเรื่องที่เฉิงซวงมาที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ให้ฉีถิงสือฟัง หลังจากนั้นยังได้เอ่ยปากเตือนให้ฉีถิงสือช่วยพาเฉิงซวงก้าวออกมาจากเงามืดให้ได้เมื่อฉีถิงสือได้ฟังจบ เขาก็ยืนนิ่งงันอยู่กับที
Read more
บทที่ 6
ฉันมาถึงเมืองก่างเฉิงตอนเที่ยง แต่ทันทีที่ก้าวลงจากเครื่อง สัญชาตญาณก็เตือนว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยเลยอาจจะเป็นคนของฉีถิงสือ หรือไม่ก็คนของฮันโม่หราน แต่ไม่ว่าใครก็ตาม นั่นก็หมายความว่าที่อยู่ของฉันถูกเปิดเผยแล้วดังนั้นฉันจึงจำใจต้องยกเลิกชื่อ “เฉิงซวง” เปลี่ยนไปใช้บัตรประชาชนใบใหม่ และบินออกไปต่างประเทศก่อนที่ตระกูลเฉิงจะล้มละลาย ฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาตลอด แม้จะห่างหายไปหลายปี แต่โชคดีที่ยังสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วครั้งนี้ฉันเลือกไปยังประเทศเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในแถบยุโรปเหนือ ผู้คนเบาบาง และเป็นดินแดนที่มีทั้งปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนกับคืนขั้วโลกอยู่พร้อมกันถ้าโชคดี ฉันอาจได้เห็นแสงเหนือที่นี่ย่ำเท้าลงบนหิมะหนานุ่ม ลมหนาวอันเย็นเฉียบพัดผ่าน ฉันกลับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่เรื่องราวเก่า ๆ ของเมืองไห่เฉิง ฉันทิ้งมันไว้ในอดีตได้จริง ๆฉันเคยบอกฉีถิงสือว่าอยากไปดูแสงเหนือ ตอนนั้นเขาก็ตอบตกลงอย่างง่ายดายแต่ทุกปีเขาก็มักจะใช้สารพัดข้ออ้างมาปฏิเสธฉันไม่ใช่ว่าเขางานยุ่ง ก็เป็นเพราะฮันโม่หรานมีเรื่องให้ตามตัว ไม่ว่าเหตุผลไหน สุดท้ายฉันกับแสงเหนือของฉันก็มักถูกวางทิ้งไว้ข้า
Read more
บทที่ 7
หลังจากมาที่นี่ ฉันตั้งใจทำให้ตัวเองยุ่งตลอดเวลา ไม่รับรู้ข่าวสารจากในประเทศแต่เมื่อคืนขั้วโลกมาถึง เวลาเปิดร้านก็ต้องสั้นลง ฉันจึงถูกบังคับให้ว่างลงด้วยทั้งความอยากรู้อยากเห็นและความไม่ยอมแพ้ ฉันจึงกดเปิดดูข่าวจากในประเทศถึงได้รู้ว่าฮันโม่หรานได้หย่ากับซูซินอวี่แล้วหลังจากตอนนั้นฉีถิงสือปล่อยข่าวเล็ก ๆ เรื่องที่ฮันโม่หรานเข้ารพ. ให้กับนักข่าวสายซุบซิบ พวกนักข่าวก็เหมือนแมลงวันได้กลิ่นเนื้อ พากันกรูเข้ามาไม่ขาดสายจากการขุดคุ้ยว่าเหตุใดฮันโม่หรานถึงต้องเข้าโรงพยาบาล สุดท้ายก็ลากยาวไปจนถึงเรื่องที่ซูซินอวี่เป็นหมันเรื่องฉาวของตระกูลมหาเศรษฐีถูกขุดคุ้ยจนไม่เหลือชิ้นดี ตระกูลซูเสียหน้าอย่างหนัก จึงสั่งให้ซูซินอวี่กับฮันโม่หรานหย่ากันทันทีส่วนเด็กในท้องของฮันโม่หรานนั้น เป็นผลที่เกิดขึ้นจากคืนวันแต่งงานของเธอในข่าวยังระบุด้วยว่า หลังจากหย่าแล้ว อันโม่หรานได้ไปขอความช่วยเหลือจากฉีถิงสือ แต่กลับถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพบแม้ตัวอักษรจะเขียนผ่านไปเพียงไม่กี่บรรทัด แต่ก็ยังพอจินตนาการภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นได้เหตุที่ฮันโม่หรานสามารถยืนหยัดในตระกูลฮันได้อย่างมั่นคง อย่างแรกคือเพราะฉีถ
Read more
บทที่ 8
ตอนที่ฉีถิงสือหาฉันเจอ ฉันกำลังจะเก็บข้าวของเพื่อออกเดินทางไปดูแสงเหนืออยู่พอดีข่าวซุบซิบในประเทศมีมากมาย เรื่องราวระหว่างฉีถิงสือกับฮันโม่หรานก็ถูกกลบฝังไปตามกาลเวลาฉันเองก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวางลงได้ทีละน้อยไม่ว่าจะเป็นความเสียใจหรือความแค้น ล้วนไม่ควรเป็นเหตุผลให้ฉันทรมานตัวเองในขณะที่ฉันเริ่มเปิดใจยอมรับชีวิตอีกครั้ง ฉันก็ปล่อยวางให้ตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจหลีกเลี่ยงเรื่องราวในประเทศอีกฉันถึงขั้นเปิดโซเชียล แชร์เมนูอาหารที่ทำเองลงไปบนโลกออนไลน์ และก็มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นไม่น้อยแต่ไม่คาดคิดเลยว่า ในบรรดาผู้ติดตามเหล่านั้น จะมีฉีถิงสือรวมอยู่ด้วยทันทีที่ฉันก้าวออกจากบ้าน ก็เห็นฉีถิงสือยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว เขาถูมือไปมา พลางมองมาที่ฉัน“ที่นี่หนาวมาก ซวงเอ๋อร์ยังปรับตัวได้อยู่ไหม?”น่าแปลกใจจริง ๆ เพียงไม่กี่เดือน พอได้เจอฉีถิงสืออีกครั้ง กลับมีความรู้สึกแตกต่างไปโดยสิ้นเชิงไม่มีความแค้น ไม่มีความเจ็บปวด ใจสงบนิ่งเรียบง่ายดุจสายน้ำฉันยืนอยู่ตรงนั้น มองเขา ราวกับกำลังตอบคำถามธรรมดาว่าวันนี้กินอะไรไป “ก็โอเคนะ”ในจังหวะนั้น ฉีถิงสือไม่อาจกดกลั้นเสียงหัวใจของตัวเองได้อีกต่อ
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status