LOGINบทนำ
........................................ “พลอย” “วันนี้ก็ช่วยหาข้ออ้างกับพี่เวคินให้หน่อยนะ” เสียงของฟ้าใสดังขึ้น พร้อมกับคำขอร้องเหมือนอย่างเคย เพราะวันนี้เธอต้องการที่จะแอบไปเที่ยวกับกิ๊กคนที่เท่าไหร่ไม่รู้จึงมาขอให้ฉันช่วยหาข้ออ้างบอกแฟนของเธอที่มักจะมารอเจออยู่ใต้หอพักเกือบทุกวันให้ “ฟ้าใส เราไม่อยากทำแบบนี้เลย เธอเลิกมีกิ๊กไม่ได้หรอ” ซึ่งฉันก็ทำได้แต่พยายามบอกปฏิเสธไป แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอม ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันขนาดนั้นเลยแท้ ๆ ถึงแม้จะมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน หรือ จะเป็นรูมเมทที่หอด้วยกันมาหนึ่งปี แต่ทว่ากลับไม่สนิทใจต่อกันเลยสักนิด แถมก่อนหน้านี้เธอยังเอาแต่เมิน และ บางครั้งก็มองเหยียดกันเสียด้วยซ้ำไป แต่ทว่าพอฉันดันไปรู้ความลับที่ไม่ใสของเธอเข้า เจ้าตัวก็ดันเอาแต่มาทำตัวเกาะติดราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนเพราะกลัวว่าฉันจะเอาความลับของดาวมหาลัยอย่างเธอไปแพร่งพราย และ บอกให้แฟนของเธอที่เป็นปู่รหัสของฉันรู้ “ก็แค่ช่วยแค่นี้เอง” “อีกอย่างพลอยก็เป็นสายรหัสของพี่เวคินด้วย เขาก็คงไม่เซ้าซี้อะไรมากหรอก” “ช่วยหน่อยเถอะนะ ก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ” ยัยฟ้าใสเอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะตบท้ายด้วยการเอามิตรภาพจอมปลอมมาบีบบังคับฉัน ซึ่งถ้าฉันบอกไปว่าฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ก็ไม่รู้ว่ายัยนี่จะวีนยังไงบ้างเลย ใครจะไปคิดว่าดาวมหาลัยที่มีภาพลักษณ์ใส และ บริสุทธิ์ จะแอบคบซ้อนกับผู้ชายหลายสิบคน หนำซ้ำยังกล้าที่จะสวมเขาให้พี่เวคิน ไอดอลคนดังของมหาลัยอีก “อือ ๆ แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ” ฉันยื่นคำขาด เพราะไม่อยากเป็นเครื่องมือในการนอกใจแฟนของคนอื่น เพราะมันบาป! ถึงแม้จะรู้ว่าอาจไม่เข้าหูยัยนี่เลยก็ตาม แถมอีกฝ่ายก็ยังเป็นถึงปู่รหัสของฉันอีกต่างหาก “ขอบใจนะ งั้นฟ้าใสไปนะ เดี๋ยวขากลับซื้อขนมแพง ๆ มาฝาก” ฟ้าใสเอ่ยอย่างร่าเริง ก่อนจะรีบออกจากห้องไป วันนี้เธอแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด และ แต่งหน้าจัดจ้านกว่าปกติ ซึ่งดูท่าวันนี้เธอก็คงจะไม่กลับหอเหมือนอย่างเคยแน่นอน เรื่องขนมของฝากไม่จำเป็นต้องฝันถึงเลย ปึง! “เฮ้ออ” ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทลง ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลง ๆ ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้อง “ใกล้ได้เวลาแล้วสินะที่พี่เวคินจะมา ฮึบ! รีบไปทำให้เสร็จแล้วรีบกลับมาอ่านหนังสือต่อดีกว่า” ฉันได้แต่พึมพำกับตัวเอง เพราะต้องทำอะไรแข่งกับเวลา ทุกเวลาทุกนาทีสำหรับฉันนั้นมีค่ามาก ในวันหยุดแบบนี้ที่ไม่ต้องไปทำงานพิเศษ ฉันก็ต้องใช้มันไปกับการทบทวนตำราให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้ทุนการศึกษาที่ได้รับหลุดลอยไป @ใต้หอพัก หอพักนี้เป็นหอของมหาวิทยาลัยที่เปิดให้นักศึกษาคนที่เรียนดี และ คนที่มีการสนับสนุนอุปถัมภ์ทางมหาลัยเข้าอยู่ได้ ซึ่งเป็นหอพักที่หรูหรามากราวกับคอนโดเลยทีเดียว ไม่เสียชื่อมหาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแพงที่สุดในประเทศ ซึ่งฉันได้อยู่ที่หอนี้เพราะเรียนดี และ ได้รับทุนติดต่อกันมาสองปีแล้ว ตึก ตึก ตึก หลังจากแวะไปซื้อของที่ร้านค้า ฉันก็แกล้งกินไอติมเดินวนไปวนมาที่ใต้หอ เพื่อรอจัดการธุระให้ฟ้าใสให้จบ ๆ ไปเพื่อที่จะได้ขึ้นไปอ่านหนังสืออย่างสบายใจสักที และ เพราะไม่ได้จะออกไปไหนไกล ตอนนี้ฉันจึงสวมแค่กางเกงขาสั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยกับเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์สีดำเท่านั้น ฉันชอบแต่งตัวสบาย ๆ ไม่ชอบให้ตัวเองอึดอัด แต่ไม่อยากจะอวด เพราะถึงฉันจะแต่งตัวแบบนี้ แต่ทว่าก็ยังมีหนุ่ม ๆ แอบลอบมองกันอยู่เนื่อง ๆ ฉันก็พอจะรู้ว่าตัวเองหน้าตาดี เลยทำให้เนื้อหอมอยู่บ้าง แต่ทว่าหน้าตาจะไปสำคัญอะไรหากมันให้เงินฉันไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่สนใจที่จะมีความรักกับใครทั้งนั้น ฉันอยากรีบเรียนให้จบ รีบทำงาน และ มีชีวิตที่มั่นคงมากกว่า จุ้บ.....จ้วบ “ไอติมอันนี้ก็อร่อยดีเหมือนกันนะเนี่ย ไว้เดี๋ยวไปซื้อเพิ่มอีกแท่งดีกว่า” ฉันพึมพำกับตัวเองในขณะที่อมไอติมช็อกโกแลตอยู่ในปาก เพราะรู้สึกว่ารสชาติของมันถูกใจดีจนอยากจะกินอีกแท่ง “พริ้งพลอย” “อุ้ย!?” เสียงของใครบางคนที่ด้านหลังทำเอาฉันถึงกับสะดุ้ง และ เมื่อหันไปก็พบว่าเป็นพี่เวคิน ผู้ซึ่งเป็นปู่รหัสของฉันนั่นเอง “สวัสดีค่ะพี่เวคิน” ฉันหยิบไอติมออกจากปาก ก่อนจะยกมือไหว้ชายหนุ่มที่แก่กว่าฉันประมาณสองปีอย่างนอบน้อม เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีแถมยังบ้านรวย นิสัยก็ดี ทั้งเป็นสุภาพบุรุษ และ ช่างเอาอกเอาใจ ทุกอย่างดูเพอร์เฟคไปหมดเลยสำหรับผู้ชายคนนี้ “มายืนทำอะไรตรงนี้หรอ(^_^)” พี่เวคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดี ก่อนจะส่งยิ้มที่สาว ๆ ที่ไหนได้เห็นก็คงจะใจละลายมาให้ฉัน แต่ทว่าโชคดีไปที่ฉันมีภูมิคุ้มกันคนหล่อมากพอ เพราะงั้นจึงไม่ถูกความสวยงามตรงหน้ายั่วยวนง่าย ๆ “พอดีพลอยหิว ก็เลยลงมาหาอะไรกินนิดหน่อยค่ะ” “หิว แต่กินแต่ขนมงั้นหรอ เป็นเด็กหรือไงเรา(^_^)” พี่เวคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู เขาทำราวกับฉันเป็นเด็กน้อย ซึ่งทำเอาฉันรู้สึกเขินขึ้นมาหน่อย ๆ แต่ทว่าฉันดันเป็นคนเก็บอาการเก่งก็เลยไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกไป “พอดีพลอยไม่ค่อยชอบกินข้าวเท่าไหร่ค่ะ” ฉันบอกคนตรงหน้าไปตามตรง เพราะฉันไม่ค่อยชอบกินข้าวจริง ๆ “ไม่ได้สิ ต้องกินข้าวนะ” “ไม่ได้การแล้ว จะปล่อยให้หลานรหัสพี่ทำตัวแบบนี้ได้ยังไงกัน วันนี้พี่จะพาเรา กับ ฟ้าใสไปกินข้าว เดี๋ยวพี่โทรหาฟ้าใสก่อนนะครับ” พอพี่เวคินพูดแบบนั้นฉันก็ตกใจขึ้นมาทันที “พะ พี่เวคิน คือพอดีฟ้าใสไม่สบายนิดหน่อยก็เลยหลับไปแล้วค่ะ(^_^ ;)” ฉันได้แต่แก้ตัวไปแบบนั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อหรือเปล่า แต่ขอให้เชื่อทีเถอะนะ ขอร้องล่ะ(︸~︸) “อ้อ.....หรอครับ” “งั้นพลอยไปกินข้าวกับพี่ก็แล้วกัน พี่จะได้ซื้อโจ๊กฝากพลอยไปให้ฟ้าใสกินกับยาด้วย” “ก็ได้ค่ะ” ฉันได้แต่ตอบรับอย่างจำใจ คอยดูเถอะยัยฟ้าใส เพราะเธอคนเดียวถึงทำให้ฉันต้องมานั่งปั้นน้ำเป็นตัวกับคนที่จิตใจดีคนนี้ บ้าเอ๊ย รู้สึกผิดชะมัดเลย (︸~︸) “ว่าแต่.....พี่ว่าพลอยไปเปลี่ยนกางเกงดีกว่านะครับ(^_^)” “คะ?” ฉันเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เวคินถึงต้องให้ฉันไปเปลี่ยนกางเกงด้วย “มันสั้นเกินไปครับ” “แต่พลอยว่ามันไม่ได้สั้นขนาดนั้น.....” ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยจบประโยค จู่ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความกดดันบางอย่างจากพี่เวคิน ทั้ง ๆ ที่เขากำลังยิ้มอยู่แท้ ๆ แต่ทว่าฉันกลับรู้สึกขนลุกไปหมด “เอ่อ.....ค่ะ เดี๋ยวพลอยไปเปลี่ยนกางเกงก่อนนะคะ” “ครับ เดี๋ยวพี่รออยู่ตรงนี้(^_^)” “เหนียวไปหมดเลย” ฉันพึมพำเบา ๆ เพราะคุยนานเกินไปไอติมที่ถือไว้ก็เลยละลายหมดจนไหลเยิ้มลงตามร่องนิ้วมือ และ เพราะความลืมตัวฉันจึงยกมือขึ้นมาเลียเบา ๆ แต่ทว่าก็ต้องสะดุ้งเมื่อนึกได้ว่าพี่เวคินก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย แถมกำลังมองฉันอยู่อีกต่างหาก “อุ้ย! ขอโทษค่ะ” ฉันทำได้แค่ยิ้มแหย ๆ และ จะเดินไปทิ้งไม้ไอติม แต่ทว่าเสียงของพี่เวคินดันดังขึ้นซะก่อน “เอามาให้พี่สิครับ เดี๋ยวพี่ทิ้งให้” “แล้วก็เอานี่ไปเช็ดมือนะ” พี่เวคินเอ่ยยิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าราคาแพงมาให้ “เอ่อ เดี๋ยวพลอยขึ้นไปล้างมือเอาก็ได้ค่ะ” ฉันเอ่ยด้วยท่าทางเกรงใจ ใครจะไปกล้าใช้ผ้าเช็ดหน้าราคาหลายหมื่นแบบนั้นมาเช็ดคราบไอติมกันละ พลอยไม่บังอาจจริง ๆ “รังเกียจหรอครับ” “ปะ เปล่านะคะ” เมื่อจู่ ๆ พี่เวคินก็เอ่ยเสียงเศร้า ฉันก็ได้แต่รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขามาเช็ดมือทันที ฉันเนี่ยนะจะไปกล้ารังเกียจเขา “เดี๋ยวพลอยซักแล้วจะเอามาคืนให้นะคะ” “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่เอาไปซักเองก็ได้” เมื่อฉันเช็ดมือเสร็จแล้วบอกว่าจะไปซักมาคืนให้ แต่ทว่าพี่เวคินดันปฏิเสธ และ หยิบผ้าเช็ดหน้ากับไม้ไอติมที่มือฉันไปทันที คนอะไรทั้งหล่อ ทั้งใจดี แถมยังไม่รังเกียจที่จะหยิบไม้ไอติมไปทิ้งให้อีก ดูสิทั้ง ๆ ที่ปู่รหัสของฉันดีขนาดนี้ แต่ยัยฟ้าใสก็ยังกล้าที่จะนอกใจได้ลงคอ ช่างเป็นคนที่ไม่มีจิตสำนึกเลยจริง ๆ “ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวพลอยลงมานะคะ” ฉันเอ่ย ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงบนห้องทันที เพราะไม่อยากให้ปู่รหัสคนดีต้องรอนาน “...................” หลังจากที่พริ้งพลอยวิ่งขึ้นห้องไป เวคินก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พร้อมกับเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ห่อไม้ไอติมของพริ้งพลอยเอาไว้ยัดใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่พี่เวคินพาฉันไปกินข้าวจนอิ่มแปล้ก็ยังใจดีพาฉันมาส่งถึงที่หออีก แถมไม่ลืมซื้อโจ๊กกับยาแก้ไข้ให้คนป่วยทิพย์ที่ถูปอุปโหลกขึ้นมา ก็คงต้องเป็นฉันอีกนั่นแหละที่ต้องจัดการโจ๊กถุงนี้เพื่อไม่ให้เสียของ “ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่คิน” ฉันยกมือไหว้ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถหรูของพี่เวคินอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวจะทำรถราคาหลายสิบล้านของเขาเป็นรอย เพราะไม่มีทางมีปัญญาชดใช้ให้เขาแน่ ๆ ถึงแค่จะเป็นเพียงรอยขีดข่วนก็ตาม “ครับ ขึ้นห้องดี ๆ นะ” “ขอบคุณค่ะ” ฉันค้อมหัวให้พี่เวคินเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นห้องทันทีโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองพี่เวคินอีกเลย ทว่าขึ้นไปได้ครึ่งทางแล้วดันนึกขึ้นได้ว่าอยากกินไอติมรสเดิมอีกแท่ง เพราะอย่างนั้นจึงจำต้องลงมาที่ด้านล่างหอพักอีกครั้ง ก็ฉันมันเป็นพวกเห็นข้าวเป็นลม เห็นขนมสู้ตายซะด้วยสิ สิบนาทีต่อมา ฉันเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับถุงขนมถุงใหญ่ในมือ มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉันจริง ๆ ที่จะตัดใจไม่ซื้อขนมไปตุนไว้บนห้องเพื่อนกินแก้เครียดในขณะอ่านหนังสือ ตึก ตึก ตึก….. ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินขึ้นหอพัก ทว่าจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากที่ซอกตึกข้างหอ และถึงแม้ปกติฉันจะไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น แต่ทว่าวันนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันก้าวเดินไปดูว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมันคืออะไร ปึก ๆ ๆ พับ ๆ ๆ! “อึก! อืออ อ๊ะ แฮ่ก ๆ ๆ” “เสียงอะไรน่ะ” ฉันพึมพำ ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูในซอกตึกที่ค่อนข้างมืด แต่ทว่าก็พอที่จะเห็นเป็นเงาลาง ๆ ซึ่งภาพตรงหน้าทำเอาฉันตกใจแทบสิ้นสติ เพราะคิดว่ากำลังดูสารคดีสัตว์โลกที่ไม่น่ารักอยู่ ภาพที่เห็นคือการปฏิสนธิเพื่อดำรงซึ่งเผ่าพันธุ์แบบไม่เลือกที่เลือกทางของสิ่งที่ถูกพัฒนามาจากลิงที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปึก ๆ ๆ พับ ๆ ๆ! “อึก! อืออ อ๊ะ แฮ่ก ๆ ๆ” “(⊙_⊙)” ฉันได้แต่ยืนตาค้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า และ ในขณะที่กำลังจะเบือนหน้าหนี ทว่าหางตาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าของใครบางคนที่ช่างแสนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ตาเถร! นั่นมันพี่เวคินไม่ใช่หรอ!!!!บทที่ 49ENDING........................................ปึก ปึก ปึกพับ พับ พับ“อ๊ะ อื้ออ พี่คินช้า ๆ ..... แฮ่ก” ฉันเอ่ยบอกพี่คินเสียงกระเส่า เพื่อให้เขาขยับสะโพกช้าลงหน่อย ตอนนี้ฉันถูกร่างสูงของพี่คินกักตัวเอาไว้บนโต๊ะทำงานราคาแพงของเขา ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็เกิดอารมณ์หื่นกามขึ้นมากะทันหัน ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนก็เล่นงานฉันจนแทบจะมาทำงานไม่ไหวแท้ ๆ“อยากกินนม” พี่คินที่เหมือนจะสติหลุดเอ่ยพึมพำในขณะที่มือก็บีบเคล้นหน้าอกฉันไม่หยุดปึก ปึก ปึกพับ พับ พับ“พี่คินอย่า.....อึก อื้อ” ฉันพยายามปัดป้องมือหนาของพี่คินที่พยายามจะแกะกระดุมเสื้อของฉัน พี่คินจะรู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่าเขาทำให้ฉันถูกนินทาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ความสัมพันธ์ร้าย ที่เริ่มต้นแบบลับ ๆ ของเรา ตอนนี้มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะพี่คินแสดงออกอย่างชัดเจนต่อหน้าของทุก ๆ คน ว่าฉันคือคนรักของเขา จนตอนนี้เหล่าเพื่อนร่วมฝึกงานบางคนก็เรียกฉันว่า ว่าที่คุณนายสนามบินไปแล้วปึก ปึก ปึกพับ พับ พับ“ชอบจังเลย.....ถุงน่องสีเนื้อ” พี่คินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสนโรคจิต บ่งบอกว่าเขาพึงพอใจมากแค่ไหนในยามที่ลูบไล้มือไปบนถุงน่องที่ขาดวิ่น ซึ่งก็เป็นฝีมือเข
บทที่ 48การหน่วงเหนี่ยวที่เต็มใจ NC18+........................................สวบ สาบ“อย่าเอาแต่เขยิบหนีพี่สิครับพลอย” พี่คินเอ่ยเสียงกระเส่า ก่อนจะใช้มือจับล็อกสะโพกของฉันเอาไว้เพื่อไม่ให้ฉันขยับหนีไปไหนได้สวบ สาบ“อึกก พี่คิน”“พลอยร้อนค่ะ แฮ่ก ๆ”“พี่เร่งแอร์ให้แล้วยังร้อนอยู่หรอครับ”สวบ สาบกึด!“อึก อื้ออ พะ พี่ก็รู้ว่าพลอยไม่ได้หมายถึงแอร์” ฉันใช้มือผลักหน้าอกของพี่คินเบา ๆ ก่อนจะชะโงกหน้ามองไปที่บริเวณกลางกายของตัวเองที่มีอะไรบางอย่างที่ทั้งใหญ่ทั้งร้อนสอดเข้าออกไม่หยุดเป็นจังหวะ พอมองมุมนี้แล้วมันช่างดูลามกจริง ๆ แต่สิ่งที่ลามกยิ่งกว่าก็คงเป็นคนตรงหน้า ตอนนี้สีหน้าของพี่คินเหมือนคนโรคจิตไม่มีผิดเลยสวบ สาบปึก ปึก ปึก“แฮ่ก.....พลอยมองหน้าพี่สิครับ” พี่คินเอ่ยเสียงกระเส่า ก่อนจะใช้มือจับใบหน้าของฉันเอาไว้ ส่วนเอวของเขาก็ยังคงขยับไปมาไม่หยุดเป็นจังหวะเนิบช้าสวบ สาบปึก ปึก ปึก“อึก ๆ แฮ่ก ๆ” ตอนนี้หัวของฉันมันขาวโพลนไปหมด ยิ่งพี่คินขยับช้าฉันก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตของเขาอย่างชัดเจน ไหนจะการที่เขาชอบกระแทกเข้ามาจนสุดความยาวแล้วคาทิ้งเอาไว้ครู่หนึ่งอีก มันทำเอาฉันทรมา
บทที่ 47ครอบครัวเพียงคนเดียว........................................“พวกคุณจะไม่มีทางได้เงินสักบาทเดียว”เสียงของใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาดังขึ้น ทำเอาคนทั้งโต๊ะหันไปมองเป็นตาเดียว“พลอย.....” พี่คินตาโตทันทีเมื่อเห็นว่าฉันปรากฏตัวขึ้นกลางวงสนทนา“นี่คือสาเหตุที่พี่เบี้ยวนัดพลอยหรอคะ”“เพื่อมาเจอคนน่ารังเกียจพวกนี้เนี่ยนะ”ฉันเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะกวาดตามองเหล่าคนหน้าเงินที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยสายตาเย็นชา“แกกล้าเรียกพวกฉันว่าคนน่ารังเกียจหรอ นี่พ่อ แม่ แล้วก็น้องของแกนะ!”“ฉันไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ น้องยิ่งไม่มี”“ครอบครัวของฉันมีแค่เขาคนเดียว” ฉันเอ่ย ก่อนจะชี้นิ้วไปที่พี่คิน ซึ่งพอเขาได้ยินแบบนั้น ใบหน้าหล่อที่แสนคุ้นเคยก็พลันฉีกยิ้มกว้างออกมา“อย่ามาอวดดีนะ เลือดในตัวของแกมันก็มาจากพวกฉันทั้งนั้น”“ฉันลำบากแค่ไหนกว่าจะคลอดแกออกมา แกจะมาเนรคุณฉันไม่ได้!”“คลอดลูกออกมาเพื่อขายกินงั้นหรอ”“นี่พวกคุณทำฟาร์มค้าสัตว์หรือไง?” ฉันแสยะยิ้มมุมปาก ถึงจะรู้ว่าไม่ควรพูดกับผู้ให้กำเนิดแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันเหลืออดแล้วจริง ๆ สำหรับคนพวกนี้ไม่คู่ควรให้ฉันถวิลหาเลยจริง ๆ“นังพลอย!
บทที่ 46คนเดียวในใจ........................................“ (^_^) ”ใบหน้าหล่อของเวคินเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่กำลังขับรถเข้ามาในสนามบิน การมีอยู่ของพริ้งพลอยนั้นเพียงพอทำให้เขาสุขใจได้แล้ว แต่ทว่าใบหน้าที่เปื้อนยิ้มกลับคงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อหางตาดันไปเหลือบเห็นบางเข้า“จิ๊!” เวคินจิ๊ปากออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าบุคคลเจ้าปัญหากำลังยืนออกันอยู่ที่ลานจอดรถ ซึ่งคนเหล่านั้นก็คือ พ่อกับแม่ของพริ้งพลอย ส่วนอีกคนก็คือน้องสาวฝาแฝดของพริ้งพลอยนั่นเอง“เงินก็โอนให้แล้วมาทำอะไรกันอีก”เอี๊ยด!รถหรูจอดลงตรงหน้าของคนทั้งสาม ก่อนที่เวคินจะลดกระจกลงจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาคมกริบบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจมาก ๆ“มาทำอะไรที่นี่ครับ” เวคินเอ่ยเสียงเข้ม ตอนนี้ใจเขารู้สึกร้อนรนเล็กน้อยเพราะกลัวพริ้งพลอยจะเห็นคนทั้งสาม“คือพวกเรามีเรื่องจะรบกวนคุณสักหน่อยน่ะค่ะ (^_^) ” หญิงวัยกลางคนเอ่ย เธอยิ้มให้เวคินด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะดึงแขนลูกสาวของตัวเองมายืนข้าง ๆ และทำการแนะนำเสร็จสรรพ“นี่ลูกแพรวค่ะ พอดีน้องกำลังหาที่ฝึกงานอยู่ เลยอยากจะถามว่าคุณสามารถรับน้องแพรวเข้าฝึกงานที่นี่ได้ไหมคะ” หญ
บทที่ 45คนเห็นแก่ตัว........................................“ตั้งใจทำงานนะครับ (^_^) ”พี่คินเอ่ยบอกฉันเสียงหวาน โดยที่มือของเขาก็ยกขึ้นขยี้ผมของฉันไปด้วยท่าทางเอ็นดู“หยุดขยี้ผมพลอยได้แล้วค่ะ มันยุ่งหมดแล้วเนี่ย”ฉันอ้อมแอ้มเอ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้หรอกนะ แต่ว่ามันเขินต่างหาก ตอนนี้หน้าของฉันมันร้อนไปหมดแล้ว ยิ่งพี่คินทำตัวอ่อนโยนใส่ หัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นแรง แต่ที่เป็นแบบนี้จะโทษว่าฉันใจง่ายไม่ได้นะ ก็ใครใช้ให้ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีเกินไป อ่อนโยน และ ทะนุถนอมฉันเกินไปกันล่ะ จะโทษก็ต้องโทษพี่คินนั่นแหละ ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาคนเดียวเลย (-///////-)“วันนี้พี่ไปทำงานข้างนอก พลอยอยู่นี่ก็เป็นเด็กดีนะครับ”“ห้ามดื้อ ห้ามซน ห้ามมอง หรือ ไปใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นรู้ไหม”“ทำเหมือนพลอยเป็นเด็ก ๆ ไปได้” ฉันเอียงแก้มหนีริมฝีปากพี่คินที่กำลังซุกไซ้อยู่เล็กน้อยด้วยความเขินอาย ทำไมเขาถึงขยันทำให้ฉันใจสั่นจริง ๆ เลยเนี่ย“ที่พี่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะเห็นพลอยเป็นเด็กสักหน่อย”“แต่ที่ทำแบบนี้เพราะพี่รักต่างหาก”ตึกตัก ตึกตักสิ้นคำบอกรักแสนหวานของพี่คิน หัวใจของฉันก็พลันสั่นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง“พี
บทที่ 44อ่อนใจ หรือ ใจอ่อน........................................สวบ สาบจุ้บ ๆ จุ้บ“พะ พี่คิน.....หยุดได้แล้ว”ฉันเอ่ยในขณะพยายามใช้มือดันหน้าอกของพี่คินที่เอาแต่โถมตัวเข้าใส่และซุกไซ้ซอกคอฉันไม่หยุด ตอนนี้เราอยู่กันบนเตียงของฉัน เนื่องจากไม่ว่าอย่างไรฉันก็ไม่ยอมตามเขาขึ้นรถไปที่คอนโด เพราะอย่างนั้นคนหน้ามึนจึงถือวิสาสะจะเข้ามาในห้องฉันให้ได้ และ หลังจากเข้ามาในห้องเขาก็ผลักฉันล้มลงบนเตียงทันที“ไม้เบสบอลพี่อยู่ไหนนะ (^_^) ”“พี่คิน!” ฉันขมวดคิ้วใส่พี่คินทันทีเมื่อเขาเอาแต่ข่มขู่ฉันไม่เลิก“อย่ามาโมโหใส่พี่เพราะคนอื่นนะพริ้งพลอย”“อะไรพี่ก็ยอมได้ ยกเว้นเรื่องนี้เท่านั้นที่พี่ไม่ยอม”“สำหรับพลอยที่หนึ่งต้องเป็นพี่เท่านั้น” พี่คินเอ่ยเสียงเรียบแต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความกดดัน“....................”ความกดดันของพี่คินทำเอาฉันได้แต่นิ่งพูดอะไรไม่ออกแผล็บ!“อื้ออ”“เข้าใจไหม” พี่คินเลียแก้มของฉัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเข้มราวกับจะเร่งเร้าให้ฉันตอบ“ถ้ายังไม่เข้าใจละก็.....”“พะ เพชรเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงค่ะ (>_”ฉันรีบเอ่ยเมื่อเห็นว่าพี่คินเหลือบมองไปที่ไม้เบสบอลที่วางอยู่บนพื้นห้อง ให้ตา