บทนำ
........................................ “พลอย” “วันนี้ก็ช่วยหาข้ออ้างกับพี่เวคินให้หน่อยนะ” เสียงของฟ้าใสดังขึ้น พร้อมกับคำขอร้องเหมือนอย่างเคย เพราะวันนี้เธอต้องการที่จะแอบไปเที่ยวกับกิ๊กคนที่เท่าไหร่ไม่รู้จึงมาขอให้ฉันช่วยหาข้ออ้างบอกแฟนของเธอที่มักจะมารอเจออยู่ใต้หอพักเกือบทุกวันให้ “ฟ้าใส เราไม่อยากทำแบบนี้เลย เธอเลิกมีกิ๊กไม่ได้หรอ” ซึ่งฉันก็ทำได้แต่พยายามบอกปฏิเสธไป แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอม ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันขนาดนั้นเลยแท้ ๆ ถึงแม้จะมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน หรือ จะเป็นรูมเมทที่หอด้วยกันมาหนึ่งปี แต่ทว่ากลับไม่สนิทใจต่อกันเลยสักนิด แถมก่อนหน้านี้เธอยังเอาแต่เมิน และ บางครั้งก็มองเหยียดกันเสียด้วยซ้ำไป แต่ทว่าพอฉันดันไปรู้ความลับที่ไม่ใสของเธอเข้า เจ้าตัวก็ดันเอาแต่มาทำตัวเกาะติดราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนเพราะกลัวว่าฉันจะเอาความลับของดาวมหาลัยอย่างเธอไปแพร่งพราย และ บอกให้แฟนของเธอที่เป็นปู่รหัสของฉันรู้ “ก็แค่ช่วยแค่นี้เอง” “อีกอย่างพลอยก็เป็นสายรหัสของพี่เวคินด้วย เขาก็คงไม่เซ้าซี้อะไรมากหรอก” “ช่วยหน่อยเถอะนะ ก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ” ยัยฟ้าใสเอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะตบท้ายด้วยการเอามิตรภาพจอมปลอมมาบีบบังคับฉัน ซึ่งถ้าฉันบอกไปว่าฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ก็ไม่รู้ว่ายัยนี่จะวีนยังไงบ้างเลย ใครจะไปคิดว่าดาวมหาลัยที่มีภาพลักษณ์ใส และ บริสุทธิ์ จะแอบคบซ้อนกับผู้ชายหลายสิบคน หนำซ้ำยังกล้าที่จะสวมเขาให้พี่เวคิน ไอดอลคนดังของมหาลัยอีก “อือ ๆ แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ” ฉันยื่นคำขาด เพราะไม่อยากเป็นเครื่องมือในการนอกใจแฟนของคนอื่น เพราะมันบาป! ถึงแม้จะรู้ว่าอาจไม่เข้าหูยัยนี่เลยก็ตาม แถมอีกฝ่ายก็ยังเป็นถึงปู่รหัสของฉันอีกต่างหาก “ขอบใจนะ งั้นฟ้าใสไปนะ เดี๋ยวขากลับซื้อขนมแพง ๆ มาฝาก” ฟ้าใสเอ่ยอย่างร่าเริง ก่อนจะรีบออกจากห้องไป วันนี้เธอแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด และ แต่งหน้าจัดจ้านกว่าปกติ ซึ่งดูท่าวันนี้เธอก็คงจะไม่กลับหอเหมือนอย่างเคยแน่นอน เรื่องขนมของฝากไม่จำเป็นต้องฝันถึงเลย ปึง! “เฮ้ออ” ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทลง ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลง ๆ ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้อง “ใกล้ได้เวลาแล้วสินะที่พี่เวคินจะมา ฮึบ! รีบไปทำให้เสร็จแล้วรีบกลับมาอ่านหนังสือต่อดีกว่า” ฉันได้แต่พึมพำกับตัวเอง เพราะต้องทำอะไรแข่งกับเวลา ทุกเวลาทุกนาทีสำหรับฉันนั้นมีค่ามาก ในวันหยุดแบบนี้ที่ไม่ต้องไปทำงานพิเศษ ฉันก็ต้องใช้มันไปกับการทบทวนตำราให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้ทุนการศึกษาที่ได้รับหลุดลอยไป @ใต้หอพัก หอพักนี้เป็นหอของมหาวิทยาลัยที่เปิดให้นักศึกษาคนที่เรียนดี และ คนที่มีการสนับสนุนอุปถัมภ์ทางมหาลัยเข้าอยู่ได้ ซึ่งเป็นหอพักที่หรูหรามากราวกับคอนโดเลยทีเดียว ไม่เสียชื่อมหาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแพงที่สุดในประเทศ ซึ่งฉันได้อยู่ที่หอนี้เพราะเรียนดี และ ได้รับทุนติดต่อกันมาสองปีแล้ว ตึก ตึก ตึก หลังจากแวะไปซื้อของที่ร้านค้า ฉันก็แกล้งกินไอติมเดินวนไปวนมาที่ใต้หอ เพื่อรอจัดการธุระให้ฟ้าใสให้จบ ๆ ไปเพื่อที่จะได้ขึ้นไปอ่านหนังสืออย่างสบายใจสักที และ เพราะไม่ได้จะออกไปไหนไกล ตอนนี้ฉันจึงสวมแค่กางเกงขาสั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยกับเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์สีดำเท่านั้น ฉันชอบแต่งตัวสบาย ๆ ไม่ชอบให้ตัวเองอึดอัด แต่ไม่อยากจะอวด เพราะถึงฉันจะแต่งตัวแบบนี้ แต่ทว่าก็ยังมีหนุ่ม ๆ แอบลอบมองกันอยู่เนื่อง ๆ ฉันก็พอจะรู้ว่าตัวเองหน้าตาดี เลยทำให้เนื้อหอมอยู่บ้าง แต่ทว่าหน้าตาจะไปสำคัญอะไรหากมันให้เงินฉันไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่สนใจที่จะมีความรักกับใครทั้งนั้น ฉันอยากรีบเรียนให้จบ รีบทำงาน และ มีชีวิตที่มั่นคงมากกว่า จุ้บ.....จ้วบ “ไอติมอันนี้ก็อร่อยดีเหมือนกันนะเนี่ย ไว้เดี๋ยวไปซื้อเพิ่มอีกแท่งดีกว่า” ฉันพึมพำกับตัวเองในขณะที่อมไอติมช็อกโกแลตอยู่ในปาก เพราะรู้สึกว่ารสชาติของมันถูกใจดีจนอยากจะกินอีกแท่ง “พริ้งพลอย” “อุ้ย!?” เสียงของใครบางคนที่ด้านหลังทำเอาฉันถึงกับสะดุ้ง และ เมื่อหันไปก็พบว่าเป็นพี่เวคิน ผู้ซึ่งเป็นปู่รหัสของฉันนั่นเอง “สวัสดีค่ะพี่เวคิน” ฉันหยิบไอติมออกจากปาก ก่อนจะยกมือไหว้ชายหนุ่มที่แก่กว่าฉันประมาณสองปีอย่างนอบน้อม เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีแถมยังบ้านรวย นิสัยก็ดี ทั้งเป็นสุภาพบุรุษ และ ช่างเอาอกเอาใจ ทุกอย่างดูเพอร์เฟคไปหมดเลยสำหรับผู้ชายคนนี้ “มายืนทำอะไรตรงนี้หรอ(^_^)” พี่เวคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดี ก่อนจะส่งยิ้มที่สาว ๆ ที่ไหนได้เห็นก็คงจะใจละลายมาให้ฉัน แต่ทว่าโชคดีไปที่ฉันมีภูมิคุ้มกันคนหล่อมากพอ เพราะงั้นจึงไม่ถูกความสวยงามตรงหน้ายั่วยวนง่าย ๆ “พอดีพลอยหิว ก็เลยลงมาหาอะไรกินนิดหน่อยค่ะ” “หิว แต่กินแต่ขนมงั้นหรอ เป็นเด็กหรือไงเรา(^_^)” พี่เวคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู เขาทำราวกับฉันเป็นเด็กน้อย ซึ่งทำเอาฉันรู้สึกเขินขึ้นมาหน่อย ๆ แต่ทว่าฉันดันเป็นคนเก็บอาการเก่งก็เลยไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกไป “พอดีพลอยไม่ค่อยชอบกินข้าวเท่าไหร่ค่ะ” ฉันบอกคนตรงหน้าไปตามตรง เพราะฉันไม่ค่อยชอบกินข้าวจริง ๆ “ไม่ได้สิ ต้องกินข้าวนะ” “ไม่ได้การแล้ว จะปล่อยให้หลานรหัสพี่ทำตัวแบบนี้ได้ยังไงกัน วันนี้พี่จะพาเรา กับ ฟ้าใสไปกินข้าว เดี๋ยวพี่โทรหาฟ้าใสก่อนนะครับ” พอพี่เวคินพูดแบบนั้นฉันก็ตกใจขึ้นมาทันที “พะ พี่เวคิน คือพอดีฟ้าใสไม่สบายนิดหน่อยก็เลยหลับไปแล้วค่ะ(^_^ ;)” ฉันได้แต่แก้ตัวไปแบบนั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อหรือเปล่า แต่ขอให้เชื่อทีเถอะนะ ขอร้องล่ะ(︸~︸) “อ้อ.....หรอครับ” “งั้นพลอยไปกินข้าวกับพี่ก็แล้วกัน พี่จะได้ซื้อโจ๊กฝากพลอยไปให้ฟ้าใสกินกับยาด้วย” “ก็ได้ค่ะ” ฉันได้แต่ตอบรับอย่างจำใจ คอยดูเถอะยัยฟ้าใส เพราะเธอคนเดียวถึงทำให้ฉันต้องมานั่งปั้นน้ำเป็นตัวกับคนที่จิตใจดีคนนี้ บ้าเอ๊ย รู้สึกผิดชะมัดเลย (︸~︸) “ว่าแต่.....พี่ว่าพลอยไปเปลี่ยนกางเกงดีกว่านะครับ(^_^)” “คะ?” ฉันเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เวคินถึงต้องให้ฉันไปเปลี่ยนกางเกงด้วย “มันสั้นเกินไปครับ” “แต่พลอยว่ามันไม่ได้สั้นขนาดนั้น.....” ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยจบประโยค จู่ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความกดดันบางอย่างจากพี่เวคิน ทั้ง ๆ ที่เขากำลังยิ้มอยู่แท้ ๆ แต่ทว่าฉันกลับรู้สึกขนลุกไปหมด “เอ่อ.....ค่ะ เดี๋ยวพลอยไปเปลี่ยนกางเกงก่อนนะคะ” “ครับ เดี๋ยวพี่รออยู่ตรงนี้(^_^)” “เหนียวไปหมดเลย” ฉันพึมพำเบา ๆ เพราะคุยนานเกินไปไอติมที่ถือไว้ก็เลยละลายหมดจนไหลเยิ้มลงตามร่องนิ้วมือ และ เพราะความลืมตัวฉันจึงยกมือขึ้นมาเลียเบา ๆ แต่ทว่าก็ต้องสะดุ้งเมื่อนึกได้ว่าพี่เวคินก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย แถมกำลังมองฉันอยู่อีกต่างหาก “อุ้ย! ขอโทษค่ะ” ฉันทำได้แค่ยิ้มแหย ๆ และ จะเดินไปทิ้งไม้ไอติม แต่ทว่าเสียงของพี่เวคินดันดังขึ้นซะก่อน “เอามาให้พี่สิครับ เดี๋ยวพี่ทิ้งให้” “แล้วก็เอานี่ไปเช็ดมือนะ” พี่เวคินเอ่ยยิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าราคาแพงมาให้ “เอ่อ เดี๋ยวพลอยขึ้นไปล้างมือเอาก็ได้ค่ะ” ฉันเอ่ยด้วยท่าทางเกรงใจ ใครจะไปกล้าใช้ผ้าเช็ดหน้าราคาหลายหมื่นแบบนั้นมาเช็ดคราบไอติมกันละ พลอยไม่บังอาจจริง ๆ “รังเกียจหรอครับ” “ปะ เปล่านะคะ” เมื่อจู่ ๆ พี่เวคินก็เอ่ยเสียงเศร้า ฉันก็ได้แต่รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขามาเช็ดมือทันที ฉันเนี่ยนะจะไปกล้ารังเกียจเขา “เดี๋ยวพลอยซักแล้วจะเอามาคืนให้นะคะ” “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่เอาไปซักเองก็ได้” เมื่อฉันเช็ดมือเสร็จแล้วบอกว่าจะไปซักมาคืนให้ แต่ทว่าพี่เวคินดันปฏิเสธ และ หยิบผ้าเช็ดหน้ากับไม้ไอติมที่มือฉันไปทันที คนอะไรทั้งหล่อ ทั้งใจดี แถมยังไม่รังเกียจที่จะหยิบไม้ไอติมไปทิ้งให้อีก ดูสิทั้ง ๆ ที่ปู่รหัสของฉันดีขนาดนี้ แต่ยัยฟ้าใสก็ยังกล้าที่จะนอกใจได้ลงคอ ช่างเป็นคนที่ไม่มีจิตสำนึกเลยจริง ๆ “ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวพลอยลงมานะคะ” ฉันเอ่ย ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงบนห้องทันที เพราะไม่อยากให้ปู่รหัสคนดีต้องรอนาน “...................” หลังจากที่พริ้งพลอยวิ่งขึ้นห้องไป เวคินก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พร้อมกับเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ห่อไม้ไอติมของพริ้งพลอยเอาไว้ยัดใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่พี่เวคินพาฉันไปกินข้าวจนอิ่มแปล้ก็ยังใจดีพาฉันมาส่งถึงที่หออีก แถมไม่ลืมซื้อโจ๊กกับยาแก้ไข้ให้คนป่วยทิพย์ที่ถูปอุปโหลกขึ้นมา ก็คงต้องเป็นฉันอีกนั่นแหละที่ต้องจัดการโจ๊กถุงนี้เพื่อไม่ให้เสียของ “ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่คิน” ฉันยกมือไหว้ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถหรูของพี่เวคินอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวจะทำรถราคาหลายสิบล้านของเขาเป็นรอย เพราะไม่มีทางมีปัญญาชดใช้ให้เขาแน่ ๆ ถึงแค่จะเป็นเพียงรอยขีดข่วนก็ตาม “ครับ ขึ้นห้องดี ๆ นะ” “ขอบคุณค่ะ” ฉันค้อมหัวให้พี่เวคินเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นห้องทันทีโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองพี่เวคินอีกเลย ทว่าขึ้นไปได้ครึ่งทางแล้วดันนึกขึ้นได้ว่าอยากกินไอติมรสเดิมอีกแท่ง เพราะอย่างนั้นจึงจำต้องลงมาที่ด้านล่างหอพักอีกครั้ง ก็ฉันมันเป็นพวกเห็นข้าวเป็นลม เห็นขนมสู้ตายซะด้วยสิ สิบนาทีต่อมา ฉันเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับถุงขนมถุงใหญ่ในมือ มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉันจริง ๆ ที่จะตัดใจไม่ซื้อขนมไปตุนไว้บนห้องเพื่อนกินแก้เครียดในขณะอ่านหนังสือ ตึก ตึก ตึก….. ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินขึ้นหอพัก ทว่าจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากที่ซอกตึกข้างหอ และถึงแม้ปกติฉันจะไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น แต่ทว่าวันนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันก้าวเดินไปดูว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมันคืออะไร ปึก ๆ ๆ พับ ๆ ๆ! “อึก! อืออ อ๊ะ แฮ่ก ๆ ๆ” “เสียงอะไรน่ะ” ฉันพึมพำ ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูในซอกตึกที่ค่อนข้างมืด แต่ทว่าก็พอที่จะเห็นเป็นเงาลาง ๆ ซึ่งภาพตรงหน้าทำเอาฉันตกใจแทบสิ้นสติ เพราะคิดว่ากำลังดูสารคดีสัตว์โลกที่ไม่น่ารักอยู่ ภาพที่เห็นคือการปฏิสนธิเพื่อดำรงซึ่งเผ่าพันธุ์แบบไม่เลือกที่เลือกทางของสิ่งที่ถูกพัฒนามาจากลิงที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปึก ๆ ๆ พับ ๆ ๆ! “อึก! อืออ อ๊ะ แฮ่ก ๆ ๆ” “(⊙_⊙)” ฉันได้แต่ยืนตาค้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า และ ในขณะที่กำลังจะเบือนหน้าหนี ทว่าหางตาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าของใครบางคนที่ช่างแสนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ตาเถร! นั่นมันพี่เวคินไม่ใช่หรอ!!!!บทที่ 8ข้อเสนอที่ห้ามปฏิเสธ........................................ตึก ตึก ตึกหมับ!ยังไม่ทันได้ไปไหนไกล ฉันตัดสินใจคว้าต้นแขนของพี่เวคินเอาไว้"พี่คิน.....พี่รู้หรอว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของพลอยเป็นใคร" ฉันพยายามบังคับเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น แต่ทว่ามันก็ช่างยากเสียเหลือเกิน" (^_^) " พี่คินคลี่รอยยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ"ละ แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหนคะ ตอนนี้.....พวกเขาอยู่ที่ไหน""พลอย""ทุกอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนนะครับ""พี่บอกพลอยแล้วไม่ใช่หรอ ว่าข้อเสนอของพี่คืออะไร" พี่เวคินเอ่ย เขาหยิบสร้อยที่คอฉันลอยขึ้น ก่อนที่เขาจะก้มลงมาจุมพิตลงบนมัน และ ช้อนตาขึ้นมามองฉันอย่างเชื่องช้า"พี่คิน.....ไม่ทำแบบนี้ไม่ได้หรอคะ""พลอยเป็นหลานรหัสพี่นะ" ฉันเอ่ยกับร่างสูงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ยึดติดกับการที่จะปิดปากฉันนัก ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ยืนยันไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งว่าไม่มีทางบอกใครแท้ ๆ" (^_^) " พี่คินไม่ยอมตอบ เขายังคงเอาแต่ยิ้มเหมือนอย่างเคย และ ขึ้นรถหรูขับออกไปทันที"ฮึก ๆ ทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ละเนี่ย" ฉันได้แต่ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง
@ห้องน้ำ"ตะขออยู่ไหนเนี่ย" ฉันเริ่มหงุดหงิดเมื่อมาที่ห้องน้ำเพื่อที่จะถอดสร้อยเส้นนี้ออกจากคอ แต่ทว่าไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ไม่พบวิธีถอดเลย"หาวิธีถอดสร้อยอยู่หรอ""อุ๊ย!" ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงของพี่เวคินดังขึ้นที่ด้านหลัง ก่อนจะเห็นภาพเงาสะท้อนของเขาในกระจก"พี่เป็นคนเดียวที่รู้วิธีถอดสร้อยเส้นนั้น ให้พี่ช่วยไหม" พี่เวคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ก่อนจะสาวเท้าเข้าหาฉัน"ไม่ต้องค่ะ ถ้ามันถอดยากนักพลอยก็จะใช้กรรไกรตัดมันออกซะ" เอาสิถ้ากดดันฉันมาก ๆ ละก็นะ เพชรก็เพชรเถอะ แม่จะตัดไม่เลี้ยงเลย"พริ้งพลอย" พี่เวคินเรียกฉันเสียงเข้ม ตอนนี้ฉันเริ่มจะจับทางได้หน่อย ๆ แล้วว่าเวลาไหนเขาอารมณ์ดี เวลาไหนเขากำลังโกรธ เวลาที่เขาอารมณ์ดีเขาจะเรียกฉันว่าพลอย แต่ว่าเวลาอารมณ์เสียน่ะหรอ พริ้งพลอยพร้อมกับน้ำเสียงเข้มดุมาเลยล่ะ"พี่คินหลีกทางค่ะ" ฉันเอ่ย ก่อนทำท่าจะเดินออกจากห้องน้ำ แต่ทว่ากลับถูกร่างสูงของพี่เวคินขวางเอาไว้ปึก!พี่เวคินยกแขนยันไปที่ประตูเพื่อนปิดทางออกฉันเอาไว้ทุกทาง ก่อนจะใช้มืออีกข้างผลักประตูห้องน้ำให้ปิดลงพร้อมกับล็อกกลอนประตูทันที"พี่คินจะทำอะไรคะ!?" ฉันเอ่ยด้ว
บทที่ 7ข้อเสนอ........................................"ดูจากหน้าแล้วก็คงลืมวันเกิดตัวเองจริง ๆ สินะ" แก้วเอ่ยในขณะเดินวนไปวนมาสำรวจชุดยูนิฟอร์มเมดสาวแสนสวยของร้านที่ฉันสวมอยู่ด้วยท่าทางพิจารณา"พลอยใส่ชุดนี้แล้วเซ็กซี่มากเลย พี่เวคินเห็นด้วยไหมคะ"ปัก!"จะไปถามเขาทำไม" ฉันรีบกระทุ้งแขนใส่ยัยแก้ว ที่จู่ ๆ ก็โยนบทสนทนาต่อให้คนที่ฉันไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า ไม่รู้เขาจะมาทำไม ทั้งที่ยัยฟ้าใสก็ไม่ได้มา เพราะอ้างว่าไม่สบาย แต่ก็อย่างที่รู้ ๆ นั่นแหละ ว่าเธอก็คงจะไปหากิ๊กกั๊กของตัวเองเหมือนเคย"เรื่องแบบนี้ก็ต้องถามผู้ชายสิ""ใช่ไหมคะพี่เวคิน"" (^_^) " ไอพี่เวคินแสร้งตีหน้ายิ้มทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ได้ตอบอะไร เพราะเขาทำแบบนี้ไง ถึงได้หลอกฉันมาได้ว่าเป็นคนดีตั้งสองปี"ว่าแต่ทุกคนไม่เห็นต้องเหมาร้านเลย มันเปลืองเงินนะ" ฉันเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ด้วยรู้ค่าของเงินดีว่าลำบากแค่ไหนกว่าจะได้มา"ไม่ต้องห่วง เพราะผู้ใหญ่ใจดีอย่างพี่เวคินเป็นคนออกจ้า" ตาออมเอ่ย ก่อนจะผายมือไปยังไอ้พี่เวคินที่กำลังยืนยิ้มอยู่"รีบขอบคุณพี่เขาเร็วเข้า พี่เวคินเป็นคนออกไอเดียทั้งหมดนี่ แถมยังออกตังค์ให้เลยนะ""ขอบ
@Coffee Shop "เตตตต พลอยขอโทษนะ พอดีพลอยรีบไปหน่อยเลยไม่ทันรู้ตัว""จู่ ๆ ก็ดันพาเตมาถึงนี่เลย(︸︵︸)" ฉันขอโทษขอโพยตั้งเตยกใหญ่ด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะยื่นช็อกโกแลตเย็นส่งให้เขา"ไม่เป็นไรครับ เตก็อยากหาอะไรดื่มอยู่พอดี" ตั้งเตเอ่ย ก่อนจะลูบต้นคอตัวเองไปมา ฉันสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเขาดูแดงเล็กน้อยสงสัยจะร้อนสินะ ก็อากาศวันนี้น่ะสิ ร้อนเหมือนจะทำให้ตัวละลายเลย จะว่าไปเพื่อนของฉันนี่ก็หล่อจริง ๆ เลย มิน่าล่ะถึงได้เป็นถึงเดือนมหาลัย"หลงพาเพื่อนมาอีกเยอะ ๆ นะพลอย ร้านพี่จะได้ขายดี ๆ" พี่ธีที่ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางขบขัน เขาคงจะรู้สึกสนุกมากเลยสินะที่ได้เห็นฉันขายหน้าแบบนี้"ผมจะมาบ่อย ๆ เลยครับ(^_^)""อย่าเลยเต ร้านนี้ใช้ผงช็อกโกแลตหมดอายุชงนะ" ฉันแสร้งกระซิบกระซาบบอกตั้งเต ซึ่งเขาเองก็รับมุกอย่างรวดเร็วแกล้งทำตาเหลือกเหลือบมองแก้วน้ำช็อกโกแลตในมือตัวเอง"อย่าบอกนะว่าแก้วนี้""เฮ้ยพลอย พูดแบบนี้พี่เสียชื่อหมด.....ตามจริงมันก็เพิ่งจะหมดได้แค่สองวันเอง กินได้ไม่เป็นไรหรอก""เรื่องจริงปะเนี่ยพี่ธี" ตอนนี้ภายในร้านเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งฉัน พี่ธี และ เตต่างรับส่งมุกกันไปมา
บทที่ 6สุขสันต์วันเกิด........................................@มหาวิทยาลัย "ไอ้พลอยมันเป็นอะไรของมัน""ทำไมมันถึงทำหน้าอมทุกข์เหมือนคนอึไม่ออกมาหลายวันแบบนั้น" "พลอยได้ยินนะแก้ว" ฉันขมวดคิ้วใส่แก้วเล็กน้อย ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะที่เป็นที่สิงสถิตประจำกลุ่มของพวกเราด้วยความอ่อนแรง แต่ทว่าหลับตาลงที่ไรก็มักจะมีภาพของเวคินแวบเข้ามาในหัว เมื่อเป็นแบบนั้นฉันก็รู้สึกคันยุบยิบที่ปากขึ้นมา เป็นสิบเป็นร้อยครั้งที่ฉันล้าง และ บ้วนปากอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหวังให้ความป่าเถื่อนที่ไอ้พี่เวคินทำกับฉันจางหายไป"วันนี้ยัยฟ้าใสก็โดดคาบเช้าอีกแล้ว""ดูทรงน่าจะได้ลงเรียนใหม่แน่ ๆ ฟ้าใสมันอยู่ห้องบ้างไหมเนี่ยพลอย" ตาออมบ่นพึมพำถึงฟ้าใส ก่อนจะหันมาถามฉันผู้ที่เป็นรูมเมทของคนในบทสนทนา แต่ทว่าฉันก็ได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้อย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไร"ตายยากจริง ๆ เลยยัยคนนี้""นู่น มันเดินควงแขนมากับพี่เวคินแล้วนั่น เรียนไม่เข้า เอาแต่ไปเกาะติดอยู่กับผู้ชาย" ทันทีที่ได้ยินคำพูดของแก้ว ตัวของฉันก็พลันลุกพรวดขึ้นอัตโนมัติ"ทุกคน เดี๋ยวพลอยไปทำงานพิเศษก่อนนะ" ฉันบอกลาเพื่อน ๆ ด้วยความรีบร้อน ก่อนจ
บทที่ 5มีความลับร่วมกัน ........................................“ต้องมีผลประโยชน์ร่วมกันคืออะไร แล้วต้องมีความลับร่วมกันหมายถึงอะไรคะ" ฉันถามถึงสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอที่พี่เวคินหยิบยกมาให้ เพราะต้องการหาทางออก"อืม.....ผลประโยชน์ร่วมกันก็คือ พวกเรามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องการเหมือนกัน และ สิ่งนั่นให้ประโยชน์แก่เราทั้งคู่ แต่พี่ว่าข้อนี้น่าจะไม่ตรงกับพวกเราเลย เพราะดูพลอยจะไม่เคยต้องการอะไรจากพี่เลยสักอย่าง""แต่ข้อสอง พี่ว่าอันนี้เราน่าจะมีร่วมกันได้ก็คือความลับ เป็นความลับระหว่างเราที่เก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ ความน่าอายที่บอกใครไม่ได้ เพราะถ้าพูดออกไปก็คงจะไม่ดี....." พี่เวคินเอ่ย ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากโซฟาฝั่งตรงข้าม และเดินย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน และ ในที่สุดเขาก็ใช้แขนทั้งสองข้างกักฉันเอาไว้กับโซฟาฟึบ"เป็นข้อเสนอที่ดีนะว่าไหมครับ(^_^)""ไม่ดีค่ะ ไม่ว่ายังไงพลอยก็ดูเสียเปรียบ ทำไมพลอยต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยในเมื่อพลอยไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย""พลอยบอกไปแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องของพี่ พลอยก็จะไม่พูด ส่วนพี่จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่พี่เลยค่ะ" โมโหแล้วนะ! ไอ้ข้อเสนอเห็นแก่ต