เปลวเพลิงแห่งความแค้นโหมกระหน่ำในใจของเกวลิน ราวกับไฟบรรลัยกัลป์ที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า การสูญเสียคีรินทร์ได้เปลี่ยนเธอไปอย่างสิ้นเชิง จากหญิงสาวที่เคยอ่อนโยนและหวาดกลัว กลายเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวและเลือดเย็น พร้อมที่จะนำพาแก๊งวาเลนซิโอเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบกับตระกูลดิอาโบล ภายใต้การบัญชาการของเกวลิน การโจมตีของแก๊งวาเลนซิโอทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักของเธอคือการสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและธุรกิจของตระกูลดิอาโบลอย่างหนักหน่วง ลูกน้องของคีรินทร์ต่างก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเธออย่างเคร่งครัด ด้วยความเคารพในตัวคีรินทร์และความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นให้กับเขา ข่าวการลุกฮือของแก๊งวาเลนซิโอภายใต้การนำของหญิงสาวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในโลกใต้ดิน หลายคนต่างก็ประหลาดใจและสงสัยในความสามารถของเกวลิน แต่เมื่อได้เห็นความเด็ดขาดและกล้าหาญของเธอ พวกเขาก็เริ่มตระหนักว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ควรประมาท ตระกูลดิอาโบลเริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกเขาพยายามที่จะตอบโต้ แต่ก็ถูกสกัดกั้นโดยลูกน้องของเกวลินที่ได้รับการวางแผนมาเป็นอย่างดี ความหวาดกลัวเ
เสียงกรีดร้องโหยหวนของเกวลินดังก้องกังวานไปทั่วห้องใต้ดินที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ร่างไร้วิญญาณของคีรินทร์อยู่ในอ้อมแขนของเธอ ความอบอุ่นที่เคยแผ่ออกมาจากร่างนั้นได้จางหายไป เหลือเพียงความเย็นเยียบที่กัดกินหัวใจของเธอจนแทบแหลกสลาย น้ำตาไหลอาบแก้มของเกวลินไม่หยุดหย่อน เธอจูบใบหน้าคมสันที่ซีดเซียวของคีรินทร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับหวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และเขาจะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ความเงียบงันที่ตอบกลับมานั้นช่างโหดร้ายและเป็นจริง ความโกรธและความแค้นเริ่มกัดกร่อนความเศร้าในใจของเกวลิน เธอเงยหน้าขึ้นมองร่างศัตรูที่นอนแน่นิ่งอยู่รอบๆ ตัว ความคลั่งคลั่งที่เคยครอบงำเธอเริ่มจางหายไป เหลือเพียงความเย็นชาและความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นให้กับคนที่เธอรัก "พวกแกจะต้องชดใช้..." เกวลินพึมพำเสียงแผ่ว แต่แววตาของเธอกลับแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความอาฆาต ริคาร์โด้และลูกน้องคนอื่นๆ รีบลงมาในห้องใต้ดิน เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ทรุดเข่าลงด้วยความตกใจและความเสียใจ "หัวหน้า..." ริคาร์โด้ครางด้วยน้ำเสียงที่แตกพร่า เกวลินค่อยๆ วางร่างของคีรินทร์ลงบนพื้นอย่างเบามือ เธอลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากั
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังสนั่นกึกก้องไปทั่วคฤหาสน์วาเลนซิโอ ราวกับเสียงประกาศิตแห่งความตาย ความสงบสุขที่เพิ่งหวนคืนมาถูกฉีกกระชากออกไปอย่างโหดร้าย เกวลินตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ มองหน้าคีรินทร์ที่สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นดุดันและเย็นชาในทันที"เกิดอะไรขึ้น?" เกวลินถามด้วยเสียงสั่นเครือ"พวกมันบุกเข้ามา" คีรินทร์คำรามเสียงต่ำ ดวงตาคมกริบของเขาเปล่งประกายความโกรธเกรี้ยว "พวกมันกล้าดีอย่างไร!"ริคาร์โด้ยืนหอบอยู่หน้าประตู ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก "หัวหน้าครับ พวกมันมากันเยอะมาก พวกมันทะลวงเข้ามาทางด้านหลังคฤหาสน์แล้ว!"คีรินทร์ผลักเก้าอี้ล้มครืน เสียงดังสนั่น "เตรียมอาวุธ! ทุกคน! ต่อสู้!"ความคลั่งเริ่มครอบงำร่างของคีรินทร์ เกวลินไม่เคยเห็นเขาในสภาพเช่นนี้มาก่อน ดวงตาของเขาแดงก่ำ ราวกับปีศาจที่ถูกปลดปล่อยออกมา ความโกรธและความแค้นแผ่ออร่าออกมาจากตัวเขาอย่างน่าสะพรึงกลัว"คีร์...ใจเย็นๆ ก่อน" เกวลินพยายามดึงสติเขา แต่คีร์ไม่ฟัง เขาก้าวฉับๆ ไปยังตู้เก็บอาวุธ คว้าปืนไรเฟิลจู่โจมกระบอกโปรดออกมา พร้อมกับแม็กกาซีนสำรองอีกหลายอัน"เธออยู่ข้างหลังฉัน เกวลิน" คีรินทร์สั่งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
ความเงียบในห้องทำงานหนักอึ้ง ราวกับพายุกำลังจะมาเยือน เกวลินยืนตัวสั่นเทา มองคีรินทร์ที่กำลังตรวจสอบแฟลชไดรฟ์ในมือด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ความรู้สึกหวาดกลัวและความไม่เข้าใจถาโถมเข้ามาในจิตใจ เธอไม่รู้ว่าแฟลชไดรฟ์นั้นมาได้อย่างไร และทำไมคีร์ถึงมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นนั้น คีรินทร์เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ของเขา ดวงตาคมกริบไล่อ่านข้อมูลและดูภาพถ่ายที่ปรากฏบนหน้าจออย่างละเอียด เกวลินสังเกตเห็นเส้นเลือดที่ขมับของเขาปูดขึ้น บ่งบอกถึงความโกรธและความตึงเครียดที่กำลังก่อตัว "นี่มันอะไรกัน?" คีร์ถามด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำ ดวงตาของเขาจ้องมองเกวลินอย่างไม่วางตา "ฉัน...ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ" เกวลินตอบด้วยเสียงสั่น "ฉันเจอแฟลชไดรฟ์นี้วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง" คีรินทร์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เดินตรงเข้ามาหาเกวลินด้วยท่าทางที่น่ากลัว "อย่าโกหกฉัน เกวลิน" เขาคำรามเสียงต่ำ "ใครเป็นคนเอาสิ่งนี้มาให้เธอ?" "ไม่มีใครค่ะ! ฉันสาบานได้!" น้ำตาของเกวลินไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรม คีรินทร์คว้าแขนของเธอไว้แน่น บีบจนเกวลินรู้สึกเจ็บปวด "แล้วเธอจะอธิบายภาพถ่าย
คำสัญญาของคีรินทร์ที่ว่าจะพยายามเชื่อใจเกวลิน ยังคงเป็นเหมือนเส้นบางๆ ที่กั้นกลางระหว่างความรักและความหวาดระแวงในความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้ว่าเขาจะพยายามควบคุมความหึงหวงที่รุนแรงของตัวเอง แต่เกวลินก็ยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้อง และการสอดส่องดูแลที่เข้มงวดอยู่เสมอ หลังจากเหตุการณ์ที่อเล็กซ์มาเยี่ยมคฤหาสน์ คีร์ก็ยิ่งแสดงความเป็นเจ้าของเกวลินอย่างชัดเจนมากขึ้น เขามักจะอยู่ใกล้ชิดเธอตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปที่ไหน ราวกับต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว เกวลินเข้าใจถึงความไม่มั่นคงที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของคีร์ เธอรู้ว่าบาดแผลในอดีตและความอันตรายในโลกที่เขาเป็นเจ้าของ ทำให้เขายากที่จะวางใจใครได้อย่างสนิทใจ แต่การถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและสูญเสียอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่ง ขณะที่เกวลินกำลังนั่งวาดรูปอยู่ในห้องนั่งเล่น คีร์ก็เดินเข้ามาหาเธอ เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เธอ มองดูภาพวาดในสมุดของเธอด้วยความสนใจ "เธอมักจะวาดรูปดอกไม้เสมอ ชอบเหรอ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เกวลินยิ้มบางๆ "ชอบสิค่ะ ดอกไม้ทำให้ฉันรู้สึกสงบค่ะ" คีร์จับมือเ
อ้อมกอดของคีรินทร์แน่นกระชับ ราวกับต้องการหลอมรวมเกวลินให้เป็นส่วนหนึ่งของเขาอีกครั้ง ความกลัวและความตื่นเต้นจากการต่อสู้เมื่อครู่ยังคงคลุกเคล้าอยู่ในความรู้สึกของทั้งสอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความรักและความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ คีรินทร์สั่งให้ลูกน้องดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม เขายังคงกอดเกวลินไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้เธอคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว ราวกับกลัวว่าเธอจะถูกพรากไปจากเขาอีกครั้ง ในห้องนอน คีรินทร์ค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยดินและคราบเลือดของเกวลินออกอย่างทะนุถนอม ดวงตาคมกริบของเขาสอดส่องสำรวจร่างกายของเธออย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ "เธอไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเครือเล็กน้อย เกวลินส่ายหน้าและยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน "ฉันสบายดีค่ะ คีร์...ขอบคุณคุณ" คีร์จูบฝ่ามือของเธออย่างแผ่วเบา "ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ...ที่กล้าหาญและเข้มแข็งขนาดนี้" หลังจากนั้น คีร์ก็พาเกวลินไปอาบน้ำอุ่น เขาดูแลเธอทุกขั้นตอน ราวกับเธอเป็นเด็กน้อยที่ต้องการการปกป้อง เกวลินปล่อยให้เขาด
คำมั่นสัญญาของคีรินทร์ดังก้องอยู่ในหัวใจของเกวลิน ราวกับเป็นเกราะกำบังที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ความหวาดระแวงในโลกมืดมิดของเขาจะยังคงเป็นเงาที่คอยตามหลอกหลอน แต่ความรักและความมุ่งมั่นที่คีร์แสดงออกอย่างชัดเจน ก็ทำให้เกวลินรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนหลังจากเหตุการณ์การพยายามลักพาตัวน้องสาวของคีรินทร์ สถานการณ์ก็ตึงเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คีร์สั่งให้ลูกน้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา การเคลื่อนไหวในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบ ราวกับพายุที่กำลังจะมาเยือนคีรินทร์ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในการวางแผนและสั่งการ เขาต้องการที่จะจัดการกับศัตรูที่กล้าท้าทายอำนาจของเขาอย่างเด็ดขาด เกวลินสังเกตเห็นความมุ่งมั่นในแววตาของเขา มันเป็นความมุ่งมั่นที่น่าเกรงขามและทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเขาพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนที่เขารักวันหนึ่ง ขณะที่เกวลินกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนกับคีร์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องใบหน้าของทั้งสองอย่างอบอุ่น แต่บรรยากาศกลับแฝงไปด้วยความเงียบและความตึงเครียด" คีร์ค่ะ คุณยังกังวลอยู่หรือเปล่า?" เกวลินถามด้วยความเป็นห่วงคีร์หยุดเดินและหันมาจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไ
คำสัญญาของคีรินทร์ดังก้องอยู่ในหัวใจของเกวลิน แม้ว่าความหวาดระแวงในโลกอันตรายของเขาจะไม่เคยจางหายไป แต่ความตั้งใจที่แน่วแน่ของเขาที่จะมอบอิสระให้เธอในขอบเขตที่เขาสามารถควบคุมได้ ก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความรักและความใส่ใจที่แท้จริง หลังจากนั้น ชีวิตในคฤหาสน์วาเลนซิโอก็กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เกวลินได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือได้อย่างอิสระ เธอติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว แม้ว่าเธอจะยังคงเลี่ยงที่จะเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตใหม่ของเธอมากนัก แต่การได้ยินเสียงคนที่เธอรักก็ทำให้เธอรู้สึกคลายเหงาลงได้บ้าง คีรินทร์ยังคงดูแลเธออย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขามักจะหาเวลามาทานอาหารกับเธอ พาเธอเดินเล่นในสวน และพูดคุยกับเธอมากขึ้น แม้ว่าบางครั้งเขาจะยังคงเก็บซ่อนความกังวลและความเครียดไว้ภายใต้ใบหน้าคมสันนั้นก็ตาม เกวลินเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในตัวคีร์ เขามักจะลูบผมเธออย่างอ่อนโยน จูบหน้าผากเธออย่างทะนุถนอม และแสดงความห่วงใยผ่านการกระทำต่างๆ มากกว่าคำพูด มันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังพยายามปรับตัวและเรียนรู้ที่จะรักเธอในแบบที่เธอต้องการ วันหนึ่ง ขณะที่เกวลินกำลังจัดด
อ้อมกอดของคีรินทร์แน่นกระชับ ราวกับต้องการผนึกเกวลินให้เป็นส่วนหนึ่งของเขาอีกครั้ง ความหวาดกลัวที่เธอเพิ่งเผชิญทำให้เธอตัวสั่นเทา แต่ความอบอุ่นและความแข็งแกร่งจากอ้อมแขนของเขาก็ช่วยปลอบประโลมเธอได้บ้าง คีร์ไม่ยอมปล่อยเธอแม้แต่วินาทีเดียว พาเธอกลับมายังคฤหาสน์ราวกับเป็นสิ่งล้ำค่าที่เขาไม่อาจสูญเสียไปได้อีก เมื่อกลับถึงห้องนอน คีร์อุ้มเกวลินวางลงบนเตียงอย่างเบามือ ใบหน้าคมสันของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความกังวล เขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย "เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? พวกมันทำอะไรเธอหรือเปล่า?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน เกวลินส่ายหน้าทั้งน้ำตา "ไม่ค่ะ...พวกมันแค่พยายามจะลากฉันขึ้นรถ" คีร์กำมือแน่นจนเห็นข้อนิ้วขาว "ฉันจะไม่มีวันให้อภัยพวกมัน" เขาคำรามเสียงต่ำ "พวกมันกล้าแตะต้องเธอ..." เขานั่งลงข้างเตียงและกุมมือเธอไว้แน่น สัมผัสที่แข็งแกร่งของเขาพยายามจะสื่อถึงความมั่นคงและความปลอดภัย "ฉันขอโทษ..." เกวลินกระซิบเสียงแผ่ว "ฉันไม่ควรหนีไป" คีร์ส่ายหน้าและยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบแก้มของเธออย่างอ่อนโยน "อย่าพูดแบบนั้น เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกชีวิตของตัวเอง แต่เธอต้อง