/ โรแมนติก / คืนหนึ่งเมื่อแรกเจอ / ตอนที่ 2 ขอความช่วยเหลือ

공유

ตอนที่ 2 ขอความช่วยเหลือ

last update 최신 업데이트: 2025-12-03 21:47:54

เมื่อกลับถึงบ้านแล้วทอฝันก็สูดลมหายใจลึกพร้อมเกร็งตัวรอ มัวแต่ไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นจนมาช้าแบบนี้ เธอต้องโดนตบตีอีกแน่ เด็กสาวเม้มปากแน่น ยอมรับชะตากรรม แต่ผิดคาดไปมาก เพราะผู้เป็นแม่นอนหลับหมดสภาพอยู่บนโซฟา ดูท่าคงจะไม่ไหวจริง ๆ ต่างจากทุกครั้งที่ต้องได้กินอะไรก่อนปล่อยให้ตัวเองหลับ

ทอฝันถอนหายใจ นำบะหมี่ไปไว้ในตู้เย็นโดยไม่คิดจะแตะต้อง เธอต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินไปแล้ว กินน้อยจนชิน ตอนนี้จึงยังอิ่มอยู่ เอาไว้ค่อยอุ่นกินพรุ่งนี้ก็แล้วกัน

เจ้าของร่างบางเดินกลับมาหามารดา ดวงตาเย็นชาทอดมองอย่างไร้ความรู้สึกอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะเดินแยกขึ้นข้างบนเพื่ออาบน้ำทำแผลใหม่อีกสักรอบ วันนี้ใช้เวลาในห้องน้ำนานกว่าทุกวัน ฟอกสบู่ถูตัวจนหอมกรุ่น สระผมสองรอบจนสะอาดแล้วจึงล้างเนื้อล้างตัว

เมื่อเช็ดตัวและผมเผ้าจนเกือบแห้งดีแล้ว เธอก็สวมชุดนอนลายเป็ดเหลืองที่เก่าจนคอยืดย้วย เตรียมตัวคลานขึ้นเตียงนอน ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตรงหน้าต่างห้องเสียก่อน เสียงนั้นคล้ายกับว่าใครคนหนึ่งกำลังปาก้อนหินก้อนเล็ก ๆ มากระทบที่ประตูระเบียง ทอฝันย่นคิ้ว แต่ก็รีบลุกพรวดออกไปดูทันที

ผู้ชายคนนั้น!...คนที่ถูกพวกอันธพาลตามทำร้ายจนสะบักสะบอมนั่นเอง

ทอฝันทำตาโตด้วยความตกใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาตามมาตอนไหน แล้วเข้ามายืนอยู่ในรั้วบ้านได้อย่างไร เธอมองซ้ายมองขวา พบเพียงแค่เขายืนจังก้า แหงนหน้ามองขึ้นมาข้างบนจนคอตั้งบ่า ใบหน้าที่อาบเลือดดูร้อนรน กิริยาท่าทางกระสับกระส่าย

“ขอขึ้นไปหน่อย”

ประโยคแรกทำเอาทอฝันถึงกับอ้าปากค้าง

“จะบ้าเหรอคุณ คุณเป็นใครก็ไม่รู้ จู่ ๆ จะให้ขึ้นมาในบ้านได้ยังไง”

“ถ้าพวกนั้นตามมาเจอ มันเอาตายแน่ ขอขึ้นไปหลบหน่อยสิ”

“แต่ที่อื่นก็มี” เธอแย้ง ใครเล่าจะกล้าไว้ใจคนแปลกหน้า

“ขอร้องเถอะ ไหน ๆ ช่วยแล้วก็ช่วยให้ตลอดรอดฝั่งเถอะนะ ไม่งั้นคงได้ตายเป็นผีวนเวียนอยู่แถวนี้แน่ พวกนั้นไม่ได้จะเอาแค่เจ็บนะ แต่มันจะเอาถึงชีวิตเลย” น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูจริงจังเกินกว่าจะล้อเล่น

หัวใจของทอฝันเต้นรัว ใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอีกฝั่งที่กำลังตามล่ามีกันหลายคน ขืนเพิกเฉยต่อไป ผู้ชายที่อาจหาญปีนเข้ามาในรั้วบ้านของเธออาจจะถูกเล่นงานถึงตายเอาได้

“มีบันไดอยู่ทางโน้น” สาวน้อยตัดสินใจในที่สุด รีบชี้นิ้วผ่านความมืดไปยังกำแพงอีกด้าน

ชายหนุ่มมองตามไป ยิ้มกว้างเมื่อเห็นบันไดไม้ไผ่วางอยู่บนพื้นหญ้าชิดกับกำแพง เขารีบปรี่ไปยกมันมา จัดพาดไปยังระเบียงห้องนอนของทอฝัน แล้วรีบปืนไปขึ้นโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เมื่อเท้าแตะลงตรงระเบียง เขาก็คว้าข้อมือเธอแล้วดึงให้รีบเข้าไปข้างในห้อง

“หลบก่อน”

“ปล่อยนะ”

ทอฝันรีบบิดข้อมือให้พ้นจากการเกาะกุม ถอยกรูดไปชิดประตูห้อง หากเขาคิดไม่ดีจะได้หนีออกไปได้ทันท่วงที ชายหนุ่มหรี่ตามองคนที่ตัวสั่นงันงกแล้วคลี่ยิ้ม ไม่สนใจเธอ แต่มองดูว่าในห้องมีห้องน้ำในตัวหรือไม่ เมื่อพบมันเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่คิดจะขออนุญาตเจ้าของบ้านด้วยซ้ำ

น่าแปลกที่ทอฝันไม่คิดจะขยับเขยื้อนกายหนีไปไหน ยังเอนหลังพิงประตูห้องนอนอยู่อย่างนั้น ฟังเสียงน้ำไหลไปพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นรัว ไม่นานนักเขาก็เดินกลับออกมา

เธอเอื้อมมือไปที่สวิตช์ไฟ กดเปิดเพื่อให้ภายในห้องสว่างจ้าชัดเจน ตอนนั้นเองที่ได้เห็นผมเผ้าของเขาเปียกปอนและมีหยดน้ำเกาะพราวอยู่บนใบหน้า คราบเลือดถูกล้างออกไปหมดแล้ว

“มีไฟที่สว่างน้อยกว่านี้ไหม”

เขาถอนหายใจ หรี่ตากับแสงไฟอย่างขัดเคือง ขณะยืดตัวยืนเต็มความสูง ซึ่งทอฝันมองว่าคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร เธอปากหนักขึ้นมาเสียดื้อ ๆ เมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

เขามีผิวขาวจัด ขาวแบบอมชมพูเลยด้วยซ้ำ ใบหน้ายาวได้รูป จมูกโด่งเป็นสันรับกับเรียวปากรูปกระจับ สายตาที่มองมาดูมีเสน่ห์แพรวพราวอย่างกับพระเอกละครหลังข่าว ที่พักหลังเธอแทบไม่ได้ดูเลยเพราะต้องประหยัดค่าไฟ แค่แม่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งคืนก็แทบหาเงินจ่ายค่าไฟไม่ไหวแล้ว

“โคมไฟน่าจะยังไม่เสีย”

ทอฝันมองไปยังโต๊ะริมหน้าต่าง มีกองหนังสือตั้งอยู่กับโคมไฟเก่า ๆ ชายหนุ่มเดินไปเสียบปลั๊กไฟ พยายามกดเปิดแต่มันไม่ติด เขาจึงตบแรงๆ จนสุดท้ายไฟสีส้มสลัวก็สว่างขึ้น ทอฝันเห็นแบบนั้นจึงยอมกดปิดสวิตช์ไฟหลอดใหญ่ลงตามเดิม

“ขอบใจนะ”

“คุณรู้ได้ยังไงคะว่านี่เป็นห้องฝัน ถ้าเป็นห้องคนอื่นล่ะ” เธอถามสิ่งที่ค้างคาใจ

“ยืนดูจนแน่ใจแล้วน่ะสิ เธอไม่ได้ปิดผ้าม่าน ไฟก็สว่างจ้าจะตาย เห็นเดินวนไปวนมาอยู่ตั้งนาน”

“มองเห็นด้วยเหรอคะ” เธอเริ่มกังวลขึ้นมาเล็ก ๆ

“ชัดเจน ควรปิดผ้าม่านให้มิดชิดทุกวันนะ ว่าแต่...พอจะมีอะไรทำแผลบ้างไหม” เขาถามตอนที่นั่งลงบนพื้นห้อง เอนหลังพิงเตียงนอนของเธอ แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างสนใจ

“เดี๋ยวฝันจะลงไปดูให้ แล้ว...คุณหิวไหม” เสียงหวานอ้อมแอ้มถาม

“หิวสิ ถ้ามีอะไรให้กินหน่อยก็จะขอบใจมาก” เขายิ้ม ทำเอาสาวน้อยถึงกับแก้มร้อนผ่าว

“มีบะหมี่อยู่ในตู้เย็น เดี๋ยวอุ่นขึ้นมาให้นะคะ” แล้วก็รีบเปิดประตูห้องออกไปทันที หัวใจของเธอเต้นรัวอย่างไม่มีเหตุผล ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสิบแปดปี ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกใจสั่นหวั่นไหวแบบนี้มาก่อนเลย ผู้ชายคนนั้นเป็นคนแปลกหน้าแท้ ๆ แต่ทำไมถึงได้ไว้ใจเขาแบบนั้น

หรือจะเรียกว่าถูกชะตากันนะ?...

ทอฝันส่ายหน้า ในเมื่อหาเหตุผลมาอ้างการกระทำอันตรายของตัวเองไม่ได้ เธอก็รีบไปเปิดตู้เย็น นำบะหมี่ออกมาเทอุ่นให้ร้อน ระหว่างนั้นก็ไปค้นหาอุปกรณ์ทำแผลในตู้ กล่องพลาสติกแบบหูหิ้วไม่มีอะไรมากนัก นอกจากสำลีชุบแอลกอฮอล์แบบสำเร็จ เบตาดีน แล้วก็ปลาสเตอร์ปิดแผล

ทุกอย่างที่ว่านั่นมีไว้ใช้กับตัวเอง เวลาที่ถูกแม่ตบตีจนเลือดตกยางออก เธอคว้ามันมาถือไว้ ชะโงกหน้ามองผู้ให้กำเนิดพบว่ายังหลับอยู่ที่เดิม และคงเหมือนทุกครั้งที่ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย จนกว่าจะถึงช่วงสายจนเกือบเที่ยงของเช้าวันใหม่

ทอฝันปิดแก๊ส เทบะหมี่ร้อน ๆ ลงในชาม แล้วถือขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับกล่องทำแผล กำลังจะวางของลงบนพื้นเพื่อเปิดประตู แต่ราวกับว่าอีกฝ่ายรับรู้ถึงการมาของเธอ เมื่อมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเขาก็เปิดประตูให้ทันที

เขายิ้ม ยื่นมือมารับชามบะหมี่ไปจากเธอเป็นสิ่งแรก แล้วไปนั่งกินอยู่บนโต๊ะหนังสือข้างหน้าต่าง

คนตัวเล็กเดินตามเข้าไป ปิดประตูลงเบา ๆ ก่อนจะลอบมองคนที่ตักบะหมี่ใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างน่าอร่อยแล้วอมยิ้ม ดูท่าจะหิวมากทีเดียว ถึงได้ก้มหน้าก้มตากินแบบนั้น เธอนึกได้ว่าลืมเอาน้ำดื่มขึ้นมาให้เขา จึงวางกล่องทำแผลลงบนเตียงแล้วกลับลงไปข้างล่างอีกรอบ หยิบน้ำสะอาดกับยาแก้ปวดติดมือมาด้วย

ชายหนุ่มวางช้อนกับตะเกียบลงบนขอบชาม หันมามองแล้วรับน้ำดื่มไปจากเจ้าของบ้านที่แสนใจดีมีน้ำใจ ไม่ลังเลเลยที่จะคว้ายาแก้ปวดสองเม็ดตบเข้าปากไปด้วย เขาพยักพเยิดไปทางกล่องทำแผล แล้วชี้มาที่ปลายคิ้วของตัวเอง เป็นเชิงบอกให้เธอช่วยจัดการให้ ทอฝันกลืนน้ำลายหนืด ๆ ลงคอไปอย่างยากเย็น

“คุณทำเองไม่ได้เหรอ ฝันกลัวว่าจะเผลอหนักมือไป”

“ทำให้พี่หน่อยเถอะ ทำเองมันไม่ถนัด” เขาลุกจากเก้าอี้ ไปนั่งลงบนเตียงนุ่มอย่างถือวิสาสะ แถมยังแทนตัวเองว่า ‘พี่’ อย่างสนิทสนมอีก

นั่นยิ่งทำให้สาวน้อยที่อ่อนต่อโลกยิ่งหัวใจเต้นรัว ประหม่าและขวยเขินสุดจะบรรยาย นี่ถ้าไฟสว่างกว่านี้ เขาคงเห็นหมดแล้วว่าพวงแก้มของเธอแดงปลั่งแค่ไหน

ทอฝันไม่พูดอะไร แต่ไปนั่งข้างๆ แล้วบรรจงเช็ดรอบแผลด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์อย่างเบามือ เมื่อมั่นใจว่าสะอาดแล้ว เธอจึงทาเบตาดีนแล้วปิดปลาสเตอร์เหนือหางคิ้วให้ ชายหนุ่มไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้มนั่นเลย เขานิ่วหน้าเล็กน้อย หลังจากพบว่ารอยบอบช้ำบนใบหน้าเธอนั้นยังใหม่อยู่

“ใครทำ” เขาแตะนิ้วลงบนมุมปากที่ช้ำเบา ๆ

“เสร็จแล้ว” เธอไม่ตอบ แต่เบนหน้าไปทางอื่น แสร้งทำเป็นเก็บกล่องยา กำลังจะลุกแยกไป

“บอกหน่อยไม่ได้เหรอ” แต่เขาดึงข้อมือไว้

“ถ้างั้นคุณก็บอกมาก่อนสิว่าทำไมถึงโดนพวกนั้นตามทำร้าย” เสียงเล็กต่อรอง

“นั่งลงสิ แล้วจะเล่าให้ฟัง” เขาปล่อยข้อมือบาง ตบเบา ๆ บนเตียงข้างตัวราวกับว่านั่นคือห้องตัวเอง

“คุณเป็นใครคะ” ทอฝันไม่นั่ง แต่ยืนอยู่อย่างนั้นแล้วถามจริงจัง

“พี่ชื่อภาวัช เรียกว่าพี่พายก็ได้ เพิ่งเรียนปริญญาตรีมาหมาด ๆ อายุยี่สิบสอง...”

“ดูจากท่าทางก็น่าจะไม่ใช่นักเลงนี่ แล้วทำไมถึง...” เธอเริ่มมองมาอย่างสนใจ

“พี่ก็แค่ไปมีเรื่องกับน้องชายของหนึ่งในนั้น มันฉุดเพื่อนพี่ไปหวังจะข่มขืน พี่เลยไปช่วย แล้วก็อัดมันจนน่วม นอนหยอดข้าวต้มอยู่โรงพยาบาล พี่ชายมันแค้นแทนน้องชาย เลยยกพวกมาหวังจะเอาคืน นี่ป่านนี้มันคงระบายความแค้นกับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของพี่จนเละไปแล้ว คันนึงเกือบล้าน ต้องโดนพ่อบ่นแน่”

“เกือบล้าน! แล้วนี่รถอยู่ไหนคะ ทำไมไม่เอามาด้วยล่ะ”

“น้ำมันหมดน่ะ เลยจอดทิ้งไว้ข้างทาง ไม่ไกลจากหมู่บ้านนี้เท่าไร ขับหนีไม่ได้เลยต้องวิ่งเข้ามาในหมู่บ้านแทน พลาดโดนรุมไปยกนึง กว่าจะฝ่าดงเท้าออกมาได้...สภาพก็อย่างที่ฝันเห็นนี่แหละ” เขาเรียกชื่อเธออย่างเป็นกันเอง เพราะได้ยินเธอแทนตัวว่าอย่างนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน

“แย่จริง น้องตัวเองทำเลวกับคนอื่นก่อนแท้ ๆ” ทอฝันบ่นอุบ

“เรื่องมันก็แค่นี้แหละ ทีนี้ถึงทีฝันแล้ว เล่ามาว่าใครทำให้หน้าบวมช้ำแบบนี้” เขาทวงถาม

“ฝัน...” ดวงตากลมโตฉายแวววูบไหว ดูคล้ายไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี

“ชื่ออะไร อายุเท่าไรแล้ว” เขาจึงถามเพื่อเปิดฉากให้ก่อน

“ชื่อทอฝันค่ะ อายุสิบแปด เพิ่งเรียนจบม.ปลาย”

“กำลังจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยสินะ”

“ไม่ได้เรียนหรอกค่ะ ฝันอยากทำงานมากกว่า” คำตอบนี้ทำเอาชายหนุ่มนิ่งไป

“แล้วแผลพวกนี้...” น้ำเสียงทุ้มฟังดูแผ่วลงด้วยความเห็นใจ

“แม่เป็นคนทำ...เวลาเมาก็จะหนักมือหน่อย ถ้าไม่เมาก็จะไม่หนักมากนัก แม่ไม่ได้อยากให้ฝันเกิดมาเท่าไร ฝันว่าพูดแค่นี้พี่ก็คงจะเข้าใจนะคะ”

ทอฝันเอ่ยโดยไม่สบตา น้ำเสียงราบเรียบไร้แววขมขื่นอย่างที่ชายหนุ่มคาดไว้ เธอดูยอมรับสภาพตัวเองได้ดี ไม่ได้ทำตัวน่าสงสาร ตรงกันข้ามกลับดูเข้มแข็งอย่างที่หาได้ยากจากเด็กผู้หญิงวัยนี้

“ทำไมถึงทน”

“ฝันแค่ยอมรับสภาพ”

“จริงเหรอ ไม่คิดจะหนีออกจากบ้านบ้างเลยหรือไง”

“มีแต่คนถามฝันแบบนี้ทั้งนั้น ฝันก็ตอบไปแบบเดิม ๆ ว่าฝันไม่หนีหรอก เพราะมันเป็นวิธีของคนขี้ขลาด ถ้าวันนึงแม่จะฆ่าฝัน ฝันก็ยอม เพราะแม่ทำให้ฝันเกิดได้ แม่ก็เอาชีวิตฝันคืนได้เหมือนกัน ฝันปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของโชคชะตา วันข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะค่ะ” ทอฝันตอบแบบที่เคยตอบคนอื่น แล้วยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย ดูไม่ทุกข์ร้อนนัก

ภาวัชมองคนตัวเล็กอย่างนึกทึ่ง นอกจากจะสวยใสจากภายนอกแล้ว เธอยังมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่าอายุเสียอีก ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน แตะต้นแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างไว้ ทำให้ทอฝันเงยหน้าขึ้นมองเขาจนคอตั้งบ่า ใจอยากถอยห่าง ไม่ให้ชายตรงหน้าถูกเนื้อต้องตัว แต่กายหนักอึ้ง เท้าตรึงแน่นอยู่กับพื้น

“เก่งมาก สาวน้อย”

มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาลูบเบา ๆ บนศีรษะ ความรู้สึกอุ่นวาบแล่นเข้าสู่หัวใจของทอฝันอย่างไม่อาจต้านทาน เธอสบตากับเขาเนิ่นนาน ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าคนแปลกหน้าจะทำให้รู้สึกอบอุ่นได้อย่างนี้ เขายิ้มน้อย ๆ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ทอฝันเคยเห็นมาเลย

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คืนหนึ่งเมื่อแรกเจอ   ตอนที่ 2 ขอความช่วยเหลือ

    เมื่อกลับถึงบ้านแล้วทอฝันก็สูดลมหายใจลึกพร้อมเกร็งตัวรอ มัวแต่ไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นจนมาช้าแบบนี้ เธอต้องโดนตบตีอีกแน่ เด็กสาวเม้มปากแน่น ยอมรับชะตากรรม แต่ผิดคาดไปมาก เพราะผู้เป็นแม่นอนหลับหมดสภาพอยู่บนโซฟา ดูท่าคงจะไม่ไหวจริง ๆ ต่างจากทุกครั้งที่ต้องได้กินอะไรก่อนปล่อยให้ตัวเองหลับทอฝันถอนหายใจ นำบะหมี่ไปไว้ในตู้เย็นโดยไม่คิดจะแตะต้อง เธอต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินไปแล้ว กินน้อยจนชิน ตอนนี้จึงยังอิ่มอยู่ เอาไว้ค่อยอุ่นกินพรุ่งนี้ก็แล้วกันเจ้าของร่างบางเดินกลับมาหามารดา ดวงตาเย็นชาทอดมองอย่างไร้ความรู้สึกอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะเดินแยกขึ้นข้างบนเพื่ออาบน้ำทำแผลใหม่อีกสักรอบ วันนี้ใช้เวลาในห้องน้ำนานกว่าทุกวัน ฟอกสบู่ถูตัวจนหอมกรุ่น สระผมสองรอบจนสะอาดแล้วจึงล้างเนื้อล้างตัวเมื่อเช็ดตัวและผมเผ้าจนเกือบแห้งดีแล้ว เธอก็สวมชุดนอนลายเป็ดเหลืองที่เก่าจนคอยืดย้วย เตรียมตัวคลานขึ้นเตียงนอน ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตรงหน้าต่างห้องเสียก่อน เสียงนั้นคล้ายกับว่าใครคนหนึ่งกำลังปาก้อนหินก้อนเล็ก ๆ มากระทบที่ประตูระเบียง ทอฝันย่นคิ้ว แต่ก็รีบลุกพรวดออกไปดูทันทีผู้ชายคนนั้น!...คนที่ถูกพว

  • คืนหนึ่งเมื่อแรกเจอ   ตอนที่ 1 เมื่อแรกเจอ

    ความคุ้นเคยที่ไม่มีวันคุ้นชิน...เมื่อมารดากลับมาถึงบ้านในสภาพเมามายและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย สิ่งที่ทอฝันต้องทำเป็นอย่างแรกคือเตรียมน้ำสะอาดใส่ในกะละมังใบย่อมพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็ก แล้วยกไปวางบนโต๊ะรับแขก ปล่อยให้ราณีจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวเอง เพราะคนเป็นแม่ไม่ต้องการให้ลูกสาววัยสิบแปดปีถูกเนื้อต้องตัวนักอย่าว่าแต่ดื่มนมจากอกในตอนแบเบาะเลย ทอฝันไม่เคยได้รับอ้อมกอดจากแม่ด้วยซ้ำ การเกิดมาโดยที่แม่ไม่รักไม่ต้องการมันก็อดสูอย่างนี้เองแรก ๆ ก็ทุกข์ใจ ระทมในอกจนสุดจะบรรยาย แต่พอเวลาผ่านไป จิตใจของทอฝันก็แกร่งขึ้น รับความจริงได้มากขึ้น และมองว่ามันเป็นเวรกรรม...แม้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนกำหนดมันขึ้นมาก็ตาม“อีฝัน!” ราณีจิกหัวเรียกหยาบคาย“เอาอะไรเพิ่มเหรอจ๊ะแม่”เจ้าของร่างผอมบางที่กำลังล้างถ้วยชามรีบล้างมือ แล้วปรี่เดินมาถามในห้องรับแขก บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้น มีเครื่องเรือนครบครัน ดูภายนอกเหมือนคนมีฐานะ แต่จริง ๆ แล้วได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากคุณตาของเธอเอง ท่านเพิ่งจากไปได้ราว ๆ ห้าปี นั่นทำให้ชีวิตของทอฝันยิ่งเลวร้ายลงไปทุกวัน“ไปต้มบะหมี่มาหน่อย กูหิว!”“บะหมี่ซองหมดแล้วแม่ แบบถ้วยก็หมด”แน่ล่ะ ท

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status