แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: จือจือแสนขยัน
หลังจากอวี๋เนี่ยนเดินไป เซ่ามู่ไป๋ก็พูดเหน็บแนม

“โธ่คุณชายสามฮั่วของพวกเราปรารถนาทางโลกซะแล้ว ทำไมถึงไม่ตามไปถือกระเป๋าให้น้องอวี๋ล่ะ?”

ฮั่วเยี่ยนเหลือบมองเขา เจ้าปัญญาอ่อนนี่ สาวน้อยไม่ได้เอาอะไรมาเลย แน่นอนว่ามีของบางอย่างที่เขาไม่สะดวกไปซื้อกับเธอ

เขาสนใจอวี๋เนี่ยนจริง ๆ ตอนที่เห็นเธอเข้ามาในห้อง ก็ราวกับคนที่มองโลกด้วยสายตาเย็นชาค้นพบแสงสว่างที่ดึงดูดเขาเจอ

ชั่วขณะนั้นที่จับมือเธอดึงให้ลุกขึ้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกถึงความปรารถนาในฉับพลัน

ปัญหาคือเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับด้านนี้เลย ถ้าเขาไล่ตามมากเกินไป เกรงว่าจะทำให้รู้สึกไม่พอใจได้

“ต่อไปห้ามเรียกเธอว่าน้องสาว”

เซ่ามู่ไป๋ตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง

“พี่ชาย นายยังจีบเธอไม่ติดเลย ไม่สิ ยังไม่ทันได้ตามจีบด้วยซ้ำ ตอนนี้นายแค่รักเธอข้างเดียวนะ”

จิ๊ ๆ ๆ พี่ฮั่วกลายเป็นโรคจิตไปแล้ว นี่เป็นการเริ่มแสดงอำนาจอธิปไตยหรือเปล่า? พอคนทึ่มทื่อในรักเริ่มหวั่นไหวก็คลั่งเลย

ทั้งยังกล่าวเสริมประโยคหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ

“เธอพักอยู่กับนาย ไม่ได้จะขายให้นายเสียหน่อย”

ฮั่วเยี่ยนไม่สนใจเขา เดินไปดูห้องที่ให้อวี๋เนี่ยนด้วยตัวเองว่ายังขาดอะไรบ้าง ปล่อยให้เซ่ามู่ไป๋ที่ยังไม่กลับอยู่ที่ห้องรับแขก

เซ่ามู่ไป๋พูดเรื่อยเปื่อยต่อ

“ลุงเฮ่อ ลุงว่าฮั่วเยี่ยนกินยาผิดหรือเปล่า”

ลุงเฮ่อยิ้มอย่างใจดี พูดด้วยน้ำเสียงปลื้มใจ

“นี่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ แบบนี้คุณชายถึงจะดูมีความรู้สึกหน่อย”

มือสองข้างของเซ่ามู่ไป๋ไขว้กันอยู่ที่หน้าอก นึกถึงบทพูดน้ำเน่าประโยคนั้นขึ้นมา

“ลุงเฮ่อ ประโยคต่อไปลุงคงไม่ได้จะบอกว่าคุณชายไม่ได้ยิ้มแบบนั้นมานานมากแล้วใช่ไหม!”

“คุณชายไป๋ คุณนั่งอยู่คนเดียวก่อนนะ ผมจะขึ้นไปดูว่าคุณชายต้องการให้ช่วยอะไรไหม”

ลุงเฮ่อพูดจบก็เดินไป ทิ้งให้เซ่ามู่ไป๋นั่งอยู่ที่เดิมคนเดียว

เซ่ามู่ไป๋ตัวสั่นเทา จบแล้วคนในบ้านพวกเขาไม่ปกติกันทุกคนเลย

หยิบโทรศัพท์ออกมา สร้างกลุ่มอย่างเงียบ ๆ คนสามคนที่ถูกเชิญเข้ากลุ่มรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

เซ่ามู่ไป๋เริ่มแทกทั้งสามคนในกลุ่มอย่างบ้าคลั่ง เรื่องซุบซิบของฮั่วเยี่ยนเขาเก็บไว้ในใจจนอึดอัดจะตายแล้ว

ฟู่จิ่งอี้ : ไม่ใช่ว่ามีกลุ่มอยู่แล้วเหรอ? ทำไมต้องสร้างอีกกลุ่มด้วย

หานเจิง : ไม่มีฮั่วเยี่ยน แยกเขาออกคนเดียวเหรอ?

เหวินเหริน : ...

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : เรื่องซุบซิบของฮั่วซาน พวกนายอยากฟังไหม?

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : รีบขอร้องฉัน แล้วฉันจะบอกพวกนาย

ฟู่จิ่งอี้ : แคปหน้าจอไว้แล้ว

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : ล้อกันเล่นเหรอ! ฉันจะไม่บอกพวกนายเรื่องสาวสวยที่ถูกซ่อนอยู่ในบ้านของฮั่วซานแล้ว

หานเจิง : ช่วยขยายความด้วย

เซ่ามู่ไป๋เห็นว่ามีคนสนับสนุน ความปรารถนาในการแบ่งปันก็ระเบิดออกมาทันที อธิบายขั้นตอนทั้งหมดที่จิ้งจอกเฒ่าฮั่วเยี่ยนคนนี้ลักพาตัวสาวน้อยให้เหล่าคนในกลุ่มฟังอย่างเกินจริง

ตอนนี้พวกเขาสงสัยใคร่รู้ขึ้นมาแล้ว ใครกันที่ทำให้ฮั่วเยี่ยนหวั่นไหวได้

หลายปีที่ผ่านมามีคนไม่น้อยที่อยากเด็ดดอกฟ้า ไม่ว่าคนประเภทไหนก็ล้วนมีหมด แต่ไม่เคยเห็นเขาชายตามองใครเลย

ถึงขั้นมีหลายคนที่จู่โจมเขาตรง ๆ ทว่าเมื่อฮั่วเยี่ยนจัดการอย่างโหดเหี้ยมหลายครั้ง จึงเพิ่งสงบลง

เหวินเหริน : ยังอยู่ไหม? ฉันไปดูได้ไหม?

หานเจิง : ยังอยู่ไหม? ฉันไปดูได้ไหม?

ฟู่จิ่งอี้ : ยังอยู่ไหม? ฉันไปดูได้ไหม?

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : นี่ ๆ ๆ ฉันแชร์เรื่องซุบซิบให้พวกนายแต่พวกนายก็อย่ามาฝังฉันสิ คุณชายสามฮั่วของพวกเราไปจัดห้องให้เธอด้วยตัวเองเลยนะ

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : น้องอวี๋ไปซื้อของ อีกเดี๋ยวกลับมาแล้วจะแอบถ่ายรูปให้พวกนาย

หานเจิง : น้องอวี๋?

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : เจ้าหน้าเหม็นไร้ยางอายฮั่วเยี่ยนคนนี้ไม่ให้ฉันเรียกว่าน้องสาว เด็กขนาดนั้นถ้าไม่เรียกว่าน้องสาวแล้วจะให้ฉันเรียกว่าพี่สาวได้ยังไง

เหวินเหริน : เด็กแค่ไหน?

ไป๋ไป๋สุดหล่อของพวกนาย : ประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปี เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีนี้

ในกลุ่มเงียบลง ฮั่วเยี่ยนเป็นคนไม่แสดงออก แต่พอแสดงออกก็ทำให้คนตกตะลึงจริง ๆ โคแก่กินหญ้าอ่อน

เซ่ามู่ไป๋ยังคงแซะในกลุ่มอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่คนอื่นคิดหาข้ออ้างเพื่อไปดูที่บ้านฮั่วเยี่ยนแล้ว

ฮั่วเยี่ยนลงมาจากชั้นบน เห็นเซ่ามู่ไป๋กำลังจิ้มโทรศัพท์ ก็ถามอย่างรังเกียจ

“ทำไมนายยังไม่ไปอีก”

เซ่ามู่ไป๋แสดงสีหน้าคับอกคับใจ

“ฉันไม่ใช่ไป๋ไป๋สุดที่รักของนายแล้วเหรอ?”

“ฉันจะรอน้องอวี๋”

เขาเปลี่ยนคำพูดภายใต้สายตาจ้องเขม็งอย่างกดดันของฮั่วเยี่ยน

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็ได้ รอเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กลับมาแล้วเลี้ยงข้าวเธอ”

พูดมาถึงตรงนี้ก็ภูมิใจขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันว่านะฮั่วซาน พูดถึงด้านนี้นายสู้ฉันไม่ได้หรอก นายรู้เหรอว่าอาหารร้านไหนอร่อย รู้เหรอว่าร้านอาหารร้านไหนเป็นที่นิยมของสาว ๆ?”

ท่าทางอวดดีมีสีหน้าสื่อว่าถ้านายขอร้องฉันแล้วฉันจะบอกนาย

ฮั่วเยี่ยนคร้านจะสนใจเขา แม้จะทำความรู้จักกับอวี๋เนี่ยนได้ไม่นานนัก แต่เธอน่าจะไม่ชอบกินข้าวในสถานที่พวกนั้นที่เซ่ามู่ไป๋บอกหรอก

ฮั่วเยี่ยนไล่เซ่ามู่ไป๋ที่อยากอยู่ต่อออกไป และเดินเข้าไปในห้องครัว ฮั่วเยี่ยนทำอาหารเป็น

เขาเคยเรียนหลายอย่าง แต่ทุกครั้งก็หมดความสนใจอย่างรวดเร็ว ไม่อาจรักษาความกระตือรือร้นต่อเรื่องใดไว้ได้นานนัก

การทำอาหารก็เป็นหนึ่งในนั้น

ให้คนในห้องครัวเลิกงาน ส่งบอดี้การ์ดกับคนใช้ทั้งหมดไปอีกฝั่งหนึ่ง และตัวเองก็ลงมือทำอาหาร

รอจนอวี๋เนี่ยนกลับมา ฮั่วเยี่ยนก็ทำอาหารสี่อย่างน้ำแกงหนึ่งถ้วยเสร็จแล้ว

“คุณอวี๋ กินข้าวก่อนไหม?”

อวี๋เนี่ยนแปลกใจเล็กน้อย รอเธอมากินข้าวด้วยกันเหรอ?

พวกเขา...สนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอ?

แต่เธอหิวจริง ๆ ในเมื่อเจ้าบ้านเชิญ ก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน หลังจากล้างมือแล้วก็เดินเข้าไป

ทั้งสองคนนั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามกัน อวี๋เนี่ยนชิมอาหารไปสองสามคำ ดวงตาตอนที่กินก็สว่างไสว เธอมีงานอดิเรกไม่มาก อาหารเลิศรสถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น

ฮั่วเยี่ยนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมองเธอ ดูท่าก้าวนี้เขาจะเดินถูกแล้ว สาวน้อยเป็นนักกินคนหนึ่ง

อวี๋เนี่ยนมองฮั่วเยี่ยน ชื่นชมจากใจจริง

“คุณฮั่ว พ่อครัวบ้านคุณฝีมือดีจริง ๆ”

ฮั่วเยี่ยนยิ้มบาง

“ขอบคุณสำหรับคำชมคุณอวี๋”

อวี๋เนี่ยนรู้สึกว่าบทสนทนาแปลกเล็กน้อย ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ ตอนที่กลับมาดูเหมือนฮั่วเยี่ยนจะกำลังยกอาหารมา และในห้องครัวก็ไม่มีคนอื่นแล้ว

“นี่คุณฮั่วทำเหรอคะ?”

เมื่อได้รับคำตอบยืนยัน อวี๋เนี่ยนก็สงสัยใคร่รู้เล็กน้อย

“คุณฮั่วทำอาหารเองหมดตลอดเลยเหรอคะ?”

กลัวคนอื่นวางยาพิษเหรอ?

“ปกติพ่อครัวเป็นคนทำ วันนี้ทำเพื่อต้อนรับคุณอวี๋ รสชาติถูกปากคุณอวี๋ไหม?”

อวี๋เนี่ยนพยักหน้าตอบรับ

“คุณฮั่วทำอาหารอร่อยมาก”

“เห็นแก่อาหารเย็นมื้อนี้ อยากขอร้องคุณอวี๋สักเรื่องหนึ่งได้ไหม?”

แม้ว่าอวี๋เนี่ยนจะไม่คิดว่าตัวเองสามารถช่วยอะไรฮั่วเยี่ยนได้ แต่ก็ยังพยักหน้า

“คุณฮั่วพูดมาเถอะ”

“ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณฮั่ว เปลี่ยนคำเรียกเถอะ”

อวี๋เนี่ยนชะงัก “คำขอนี้เหรอคะ?”

“ใช่ เป็นคำขอนี้”

“งั้น คุณชายสาม?”

“คุณชายสามเป็นคำที่คนนอกเรียก”

อวี๋เนี่ยนแอบคิดว่า เธอก็ไม่ใช่คนในเหมือนกัน

คุณฮั่วกับคุณชายสามไม่ได้ หรือต้องเรียกชื่อเขา? จะไม่เสียมารยาทเกินไปเหรอ

ขณะที่ฮั่วเยี่ยนมองอวี๋เนี่ยนที่มีท่าทางขมวดคิ้วพยายามครุ่นคิด ก็ได้ยินสาวน้อยฝั่งตรงข้ามเรียกเสียงเบา

“พี่ชาย?”

ฮั่วเยี่ยนตัวสั่นสะท้าน มือจับตะเกียบแน่นขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึก เมื่อสงบลงอีกครั้งหลังผ่านไปครู่หนึ่ง ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ตัวเองขาดความยับยั้งชั่งใจเกินไป เรียกว่าพี่ชายครั้งเดียว ก็เกือบทำให้เขาสูญเสียการควบคุม ทำตัวน่าอายต่อหน้าอวี๋เนี่ยนแล้ว

อวี๋เนี่ยนเห็นว่าผ่านไปนานฮั่วเยี่ยนก็ยังไม่พูดอะไร จึงคิดในใจว่าหรือเขาจะไม่พอใจคำเรียกนี้เหมือนกัน?

เมื่อครู่เธอนึกขึ้นได้ว่าตอนบ่ายป้าเฉินบอกให้เรียกเขาว่าพี่

ฮั่วเยี่ยนเห็นเด็กสาวตรงหน้ากำลังสับสน เขาไม่พอใจเสียที่ไหน เขาพอใจมากเกินไปเลยต่างหาก

แต่เขาหวังว่าเด็กสาวจะเรียกเขาว่าพี่ที่อื่นด้วยเช่นกัน หลังสูดลมหายใจเข้าลึก ก็ไม่คิดให้มากความอีก

“ผมเป็นลูกคนที่สามของบ้าน เนี่ยนเนี่ยนเรียกผมว่าพี่สามก็ได้”

อวี๋เนี่ยนรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ทำไมเขาเรียกเธอว่าเนี่ยนเนี่ยน พวกเขาสนิทกันขนาดนี้เลยเหรอ หรือก็แค่คำเรียก?

“พี่สาม”

ฮั่วเยี่ยนรู้สึกพอใจ

“เนี่ยนเนี่ยนไม่ถือสาใช่ไหมที่ฉันเรียกเธอแบบนี้? ฉันได้ยินแม่เรียกเธอแบบนี้เหมือนกัน ถึงยังไงเธอก็เรียกฉันว่าพี่สาม ถ้าฉันเรียกเธอว่าคุณอวี๋จะไม่ห่างเหินเกินไปเหรอ”

อวี๋เนี่ยนพยักหน้าอย่างมึนงง มักรู้สึกว่ามีส่วนที่แปลกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าตรงไหน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 40

    “ฮาย เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ คิดถึงฉันไหม?”ฮั่วเยี่ยนคร้านจะใส่ใจกับพฤติกรรมบ้า ๆ บอ ๆ ของเซ่ามู่ไป๋“เนี่ยนเนี่ยน มานั่งเถอะ”อวี๋เนี่ยนเดินไป นั่งลงอย่างเซื่องซึม“ไหนบอกว่ายังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันไง?”“แหม ก็มีบางคนที่อยากกลับมาใจจะขาดน่ะสิ”เซ่ามู่ไป๋พูดจาทะเล้น หาวไปพลางเดินไปที่ห้อง“ไม่ได้นอนมาหนึ่งคืน ฉันไปนอนสักตื่นก่อนนะ พวกนายก็คุยกันไปแล้วกัน”ฮั่วเยี่ยนมองอวี๋เนี่ยนไม่ละสายตาโดยไม่พูดอะไร ตั้งแต่ที่รู้ว่าอวี๋เนี่ยนอยู่ที่ประเทศอาร์กับเหวินเหรินหลิ่น ในที่สุดหัวใจที่ว้าวุ่นไม่ยอมสงบลงแม้แต่น้อยก็สงบลงได้เสียทีไม่ได้หึงหวงที่เธออยู่กับเหวินเหรินหลิ่น แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของเธอต่างหาก เพราะถึงอย่างไรแล้วหากไม่อันตรายก็คงไม่ต้องไปรบกวนเหวินเหรินหลิ่นหลายวันมานี้อวี๋เนี่ยนอยู่ที่เยี่ยนหยวนตลอด ปกติก็ไม่ได้ออกไปไหนหลังจากรู้ว่าเธอเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากความเป็นห่วงแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดตามมา มันเป็นความหวาดกลัวที่จะสูญเสียได้ตลอดเวลาแม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายร้อยแปดพันเก้า ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วก็ยังคงความอบอุ่นไว้ได้ เขายื่นกล่องใบหน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 39

    ตู้ลี่เจินยังสารภาพเรื่องสำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งออกมา เธอว่าเคยได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงตระกูลไป๋ถ้าเกิดเป็นตระกูลไป๋ขึ้นมาจริง อย่างนั้นก็เป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่โตอีกเรื่องเลยทีเดียวกับคนของกองทัพอย่างพวกเขาเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวข้องอะไรมาก หลัก ๆ นั้นเป็นการพัวพันกันของแวดวงการเมืองกับแวดวงธุรกิจในเมืองหลวงต่างหากกับตระกูลไป๋นี้จะว่าอย่างไรดี พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรมากตระกูลไป๋ทุ่มเทกำลังไปกับการให้กำเนิดลูกสาว ทำให้มีสมาชิกตระกูลมาก นับเป็นตระกูลใหญ่เลยทีเดียวตระกูลใหญ่ทั้งตระกูลล้วนพึ่งพาความสัมพันธ์ของเหล่าผู้หญิง วิธีการเลี้ยงดูบุตรสาวของตระกูลไป๋นั้นล้วนพยายามเลี้ยงดูให้กลายเป็นคุณหญิงคุณนายของตระกูลเก่าแก่เด็กสาวที่เลี้ยงดูออกมาล้วนเพียบพร้อมไปด้วยความอ่อนหวานและคุณธรรม เก่งกาจการเข้าสังคม เชี่ยวชาญการเรือนเป็นมาตรฐานในการเลือกเฟ้นลูกสะใภ้ของหลาย ๆ บ้านความจริงเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาศัยการแต่งงานของบุตรสาวสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ หยั่งรากฝังลึกอย่างมั่นคงในเมืองหลวงที่อำนาจต่าง ๆ สลับซับซ้อนตระกูลไป๋ซับซ้อนเกินไป ไม่อา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 38

    อวี๋เนี่ยนมองวิดีโอกล้องวงจรปิดจากห้องสอบสวนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก รอผลการสอบสวนอยู่กับพวกผู้อาวุโสหลาย ๆ ท่านจะเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ เนื่องด้วยในห้องนี้มีการปิดกั้นสัญญาณ ป้องกันไม่ให้มีคนแอบส่งข่าวออกไปผลการสอบสวนออกมาแล้ว ตระกูลเจิ้งบริสุทธิ์ อวี๋เนี่ยนไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ ตอนที่เธอเค้นถามคนพวกนั้นที่ประเทศอาร์ก็รู้แล้วว่าคนที่พวกเขาติดต่อด้วยคือตระกูลตู้เจิ้งเฉิงกังผู้นี้เป็นคนกระทำการระมัดระวังรอบคอบ เขาตอบรับบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ทว่ามากกว่านั้นเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานการณ์แบบนี้ ตระกูลเจิ้งนั้นอยากรักษาการใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบาย ซึ่งตระกูลตู้ก็เป็นแหล่งรายได้หลักเนื่องจากเจิ้งเฉิงกังมีนิสัยระมัดระวังรอบคอบ ตระกูลตู้จึงไม่ได้อาศัยบารมีอะไรของตระกูลเจิ้ง มีแต่ลงทุนเข้าไปถึงจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าล่วงเกินตระกูลเจิ้ง ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่อยากเล่นงานพวกเขาก็ทำได้ง่ายดาย มีคนทำธุรกิจคนไหนบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนคนประเทศอีก็จับจุดนี้ได้จึงเข้าหาตระกูลตู้ แสดงท่าทีว่าต้องการแค่ตู้ลี่เจินนำของบางอย่างจากเจิ้งเฉิงกังมาให้พวกเขาเท่านั้น แล้ว

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 37

    รถเคลื่อนตัวมาถึงลานจอดเครื่องบิน โยนตู้ลี่เจินที่สลบไสลขึ้นไปบนห้องด้านหลังไม่มีความตั้งใจจะสอบสวนหล่อนแม้แต่น้อย เธอไม่อยากเข้าไปพัวพันลึกเกินไป จับคนกลับมาแล้วส่งตัวขึ้นไป ก็ถือว่าเธอทำหน้าที่สำเร็จแล้ว ก็ควรถอยออกมา อวี๋เนี่ยนมองเหวินเหรินหลิ่นที่มาปรากฏตัวอีกครั้งบนเครื่องบิน“ไม่ต้องจัดการเรื่องในตระกูลของพวกคุณหรือไง?”“ไม่ส่งคุณกลับประเทศอย่างปลอดภัย กลัวว่าฮั่วเยี่ยนต้องเอาผมตายแน่”“ฐานที่มั่นนั่นของคุณเปิดเผยได้นะ”อวี๋เนี่ยนลูบคาง เรื่องนี้น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่โต ถึงอย่างไรก็ให้เหวินเหรินหลิ่นช่วยเหลือมากมายขนาดนี้โดยไม่ได้อะไรกลับไปเลยไม่ได้เหวินเหรินหลิ่นเดาได้ว่าอวี๋เนี่ยนเป็นคนของทางรัฐบาล แม้ว่าตัวตนจริงจะไม่ชัดเจนก็ตามทว่าสามารถออกมาทำเรื่องแบบนี้เพียงลำพังได้ แถมวิธีการก็ยัง...เอ่อ ไม่ค่อยนุ่มนวลสักเท่าไร ตำแหน่งคงสูงไม่เบา“นี่เป็นของตอบแทนจากคุณงั้นเหรอ?”ของตอบแทนที่ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ เดิมทีแค่อยากตอบแทนน้ำใจของอวี๋เนี่ยนคืนไปก็เท่านั้น นี่นับว่าเป็นประโยชน์นอกเหนือความคาดหมายเลยเชียว“ไม่พอใจเหรอ?”“ไม่ใช่ แค่คิดถึงครั้งก่อนที่คุณอวี๋ช่วยผมน่ะ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 36

    กลับขึ้นรถ รับทิชชูเปียกที่เหวินเหรินหลิ่นยื่นให้ แล้วเช็ดไปตามนิ้วมือด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย“เสื้อผ้าเลอะหมดเลย”แม้จะกำลังบ่นว่า ทว่าฟังแล้วดูเหมือนว่าอวี๋เนี่ยนจะอารมณ์ดีไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นยิ่งยิ้มกว้าง ที่แท้ก็เป็นคนแปลก ๆ นิด ๆ นี่เอง“ผมจะให้คนนำเสื้อผ้ามาให้คุณ”“คุณอวี๋คิดจะจัดการพวกเขาอย่างไร?”“แน่นอนว่าต้องทำลายศพไม่ให้เหลือร่องรอย เรื่องนี้คุณถนัดกว่าฉันนี่”อวี๋เนี่ยนพูดอย่างไม่ใส่ใจกวาดสายตามองตู้ลี่เจินที่นั่งตัวสั่นเป็นใบไม้ไหวอยู่ที่พื้นด้วยสายตาราบเรียบ กล้าทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา แต่ตอนนี้กลับรู้จักกลัว ผลของการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นเหมือนว่าจะได้ผลไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นได้ยินก็ไม่ได้ตกใจ นับตั้งแต่อวี๋เนี่ยนลงจากรถไป เขาก็รู้แล้วว่าเจ้าพวกสามคนนั้นไม่รอดแน่ตู้ลี่เจินถูกอวี๋เนี่ยนในยามนี้ทำให้หวาดกลัวจนขนลุกขนชันไปทั้งกาย หวาดกลัวกว่าตอนที่เห็นการทรมานคนของอวี๋เนี่ยนเมื่อครู่นี้เสียอีกอดรู้สึกหนาวเย็นจับใจไม่ได้ พวกเขาพูดเรื่องทำลายศพเผาหลักฐานต่อหน้าตัวเองแบบนี้ เกรงว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็ต้องถูกฆ่าปิดปากตามไปด้วยตอนนี้เห็นสายตาของอวี๋เนี่ยนที่กวาดสายตา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 35

    อวี๋เนี่ยนเดินลากท่อนเหล็กไปอยู่ตรงหน้าสามคนนั้น ลูกน้อยของเหวินเหรินหลิ่นจึงถอยหลังลงไปสองสามก้าวหลีกทางให้เธออวี๋เนี่ยนพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ“บอกสิ่งที่พวกคุณรู้มาให้หมด”ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าหยิ่งผยอง ไม่มีความคิดที่จะตอบโดยสิ้นเชิง อีกสองคนที่เหลือก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเช่นกันอวี๋เนี่ยนแย้มยิ้มโหดเหี้ยมออกมาเล็กน้อย ไม่ให้ความร่วมมือสินะ? อย่างนั้นก็ดีเลยลากผู้ชายคนนั้นออกมา แล้วฟาดท่อนเหล็กไปที่แขน ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน ไม่กี่คนที่อยู่ข้าง ๆ ล้วนได้ยินเสียกระดูกหักได้อย่างชัดเจนผู้หญิงที่เดิมที่มีแต่ความโอหังฉายอยู่เต็มหน้าพลันใบหน้าเปลี่ยนสีทันที คนขับรถที่อยู่ข้างกันก็ยิ่งตกใจแข้งขาอ่อนจนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นผู้หญิงคนนั้นร้องตะโกน“พวกเราเป็นทหารประเทศอี คุณไม่มีสิทธิ์ทรมานพวกเรา ฉันต้องการคุยกับรัฐบาลของพวกคุณ”ไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะร้องตะโกนไม่หยุด เธอลงมือฟาดท่อนเหล็กต่อไป คราวนี้ฟาดลงไปบนหัวเข่า เสียงกระดูกแตกดังยิ่งกว่าเก่า ผู้ชายคนนั้นร้องโหยหวนพลางล้มลงไปตะโกนลั่นว่า “ฉันบอกแล้ว บอกแล้ว”ไม่ต้องใส่หูฟังเสียงร้องโหยหวนก็ดังเข้ามาถึงในรถ ตู้ลี่เจิน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 34

    “พ้นจากตัวเมืองไปแล้วค่อยลงมือ”เขามีความมั่นใจมากว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้นได้ หากขัดขวางพวกเขาที่นี่จะเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย ไม่กลัวหนึ่งหมื่นแต่กลัวหนึ่งในหมื่นอวี๋เนี่ยนพยักหน้าเข้าใจ ไม่เกรงใจเขา ยกให้เขาจัดการไป เพราะเรื่องต่อจากนี้อย่างไรก็ยังต้องรบกวนเขาอีกไม่น้อยไม่นานนักรถของพวกเขาก็ไล่ตามตู้ลี่เจินทัน หลังจากขับตามมาสักพักจึงเพิ่มความเร็วแซงหน้ารถที่ตู้ลี่เจินนั่งอยู่หลังจากขับผ่านบริเวณที่ไฟถนนพังเสียหายไปจึงจอดรถ แล้วก็มีคนวางเครื่องกีดขวางขนาดเล็กไว้ด้านหน้าในทันทีไม่ช้านาน รถของตู้ลี่เจินก็แล่นมาถึง รถเหยียบบดลงบนเครื่องกีดขวางด้วยความเร็ว ล้อรถระเบิดจนเสียการทรงตัวลื่นไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางอย่างรุนแรงควันขาวลองคลุ้งออกมาจากกระโปรงรถ เห็นได้ชัดว่าใช้การไม่ได้แล้ว ดูจากสภาพความเสียหายของรถแล้ว ตัวคนน่าจะไม่เป็นอะไร จริงตามคาด ผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากห้องคนขับ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนลงมาดูสถานการณ์อวี๋เนี่ยนวางกล้องส่องทางไกลสำหรับกลางคืนในมือ นอกจากสามคนนี้ที่ลงมาจากรถแล้ว ในรถก็เหลือเพียงตู้ลี่เจินคนเดียวเท่านั้นเหวินเหรินหลิ่นส่งสัญญาณม

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 33

    หลังยืนยันข้อมูล อวี๋เนี่ยนก็หาเบอร์ติดต่อเหวินเหรินหลิ่นที่ฮั่วเยี่ยนให้เธอไว้เจอ แล้วจึงต่อสายโทรหาทันที“ฉันอวี๋เนี่ยนนะ”“คุณอวี๋?”ตอนที่เหวินเหรินหลิ่นรับสายของอวี๋เนี่ยนก็ประหลาดใจอยู่บ้าง โทรมาหาในเวลาแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?“สะดวกคุยหรือเปล่าคะ? อยากรบกวนให้คุณช่วยสักหน่อย”“สะดวกครับ คุณอวี๋พูดมาได้เลย”เหวินเหรินหลิ่นเองก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าโอกาสตอบแทนน้ำใจจะมาถึงเร็วขนาดนี้“ช่วยจับตาดูคนคนหนึ่งที่สนามบินของเมืองหลวงประเทศอาร์ และหากเป็นไปได้จะขอยืมเครื่องบินส่วนตัวของคุณด้วย”อวี๋เนี่ยนไม่เกรงใจ พูดความต้องการของตนเองออกไปตรง ๆประเทศอาร์เป็นฐานที่มั่นของเหวินเหรินหลิ่น เรื่องนี้จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเข้าแล้ว“ไม่มีปัญหาครับ”เหวินเหรินหลิ่นตอบตกลงโดยไม่ลังเล“ฉันส่งข้อมูลไปให้คุณแล้ว เครื่องบินที่เธอนั่งจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองหลวงประเทศอาร์ในอีกสี่ชั่วโมงให้หลัง”เหวินเหรินหลิ่นรีบส่งข้อมูลไปให้คนของทางนั้น เพื่อจัดแจงคนไปคอยเฝ้ารอที่สนามบิน“ให้จับกุมเหรอครับ?”“สะกดรอยตามไว้ ฉันจะไปถึงในอีกสิบนาที ต้องวางสายแล้ว”อวี๋เนี่ยนดูที่อยู่ที่เหวินเ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 32

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นดยุคอวี๋เนี่ยนผุดตัวลุกขึ้นนั่งทันที เกิดเรื่องแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องติดต่อมาทางออนไลน์ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์คับขันเป็นอย่างที่คิด อวี๋เนี่ยนเพิ่งรับสายโทรศัพท์ เสียงของดยุคก็ดังลอดออกมาจากทางนั้นแล้ว“หัวหน้า ตู้ลี่เจินออกนอกประเทศแล้ว เครื่องเพิ่งออกไป”“ส่งข้อมูลมาให้ฉัน”พูดจบ อวี๋เนี่ยนก็วางสายโทรศัพท์ แล้วต่อสายไปหาเว่ยกังให้เขารีบตรวจสอบทันที ไม่ใช่ว่าให้จับตาดูไว้หรอกเหรอ ทำไมปล่อยให้ออกนอกประเทศไปได้?ระหว่างที่รอสายของเว่ยกัง อวี๋เนี่ยนก็ดูเอกสารที่ดยุคส่งมาให้ไปพลาง ๆ ตู้ลี่เจินใช้ตัวตนปลอม ทำให้พวกเขาไม่ได้รับข่าวตั้งแต่แรกเครื่องบินทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าไปสี่สิบนาทีแล้ว เป็นการบินไปยังเมืองหลวงของประเทศอาร์ ระยะเวลาในการบินราวห้าชั่วโมงครึ่งอวี๋เนี่ยนครุ่นคิด จะให้เครื่องบินวกกลับมานั้นเป็นการสร้างความวุ่นวายใหญ่โต ยากจะปิดบังได้อยู่ อีกทั้งเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยิ่งไม่อาจทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้อวี๋เนี่ยนดวงตาเปล่งประกาย นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจากทางฝั่งเว่ยกัง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status