LOGINบาลีเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีลูกชายวัยเจ็ดขวบที่หล่อมาก หล่อแบบวัวตายควายล้มมีอยู่จริง ก็จะไม่ให้หล่อขนาดนั้นได้อย่างไรเล่า เพราะพ่อของลูกชายบาลีนั้น เป็นถึงซุป’ ตาร์อันดับต้นของวงการ แต่น่าเสียดายที่เธอบอกใครไม่ได้ แม้แต่ผู้เป็นพ่อของลูก!
View Moreบทนำ
อีเวนท์ของซุป’ ตาร์
กว่าจะเบียดผู้คนเข้ามาภายในบริเวณงาน ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางเมือง บาลีถึงกับหายใจหอบเล็กน้อย เมื่อได้ยืนอยู่ในจุดที่สามารถมองไปยังบนเวทียกพื้นเตี้ย ซึ่งซุปเปอร์สตาร์หนุ่มอันดับต้นๆ ของเมืองไทยคนหนึ่งกำลังร้องเพลงเล่นกีตาร์ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม บวกกับการเล่นกีตาร์ที่เข้าขั้นเทพ ก็ทำให้ได้รับเสียงกรี๊ดจนหูแทบจะดับ
“มึง พี่อัทธ์ แม่งโคตรหล่อ โคตรเท่เลย กรี๊ดดดด”
“โอ๊ย เสียงก็โคตรเพราะ”
“เพลงพี่เขาก็แต่งเองเลยนะ”
“คนบ้าอะไร ครบเครื่องสุดๆ ทั้งหล่อ เท่ เล่นละครเก่งแล้ว ยังร้องเพลงเพราะ แต่งเพลง เล่นดนตรีได้อีก มึง กูไม่ไหวแล้วอะ กรี๊ดดด”
ถึงจะหนวกหูเสียงกรี๊ด แต่บาลีก็แอบยิ้มปลื้มกับคำชื่นชมที่ได้ยินจากเด็กสาวกลุ่มใหญ่ที่ยืนเบียดเสียดในงาน เพราะเธอเป็นแฟนคลับอัทธ์มาตั้งแต่เขายังไม่ได้เป็นซุป’ ตาร์เหมือนในตอนนี้
เรียกว่าเป็นเอฟซีรุ่นบุกเบิก เพราะเธอติดตามชายหนุ่มมาตั้งแต่เขายังเป็นรุ่นพี่ในคณะ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
ซึ่งมันก็นานมาแล้ว
นานมากกว่าอายุของลูกชายวัยเจ็ดขวบของเธอเสียงด้วยซ้ำ
สายตาเธอทอดมองคนบนเวที อัทธ์นั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์ อยู่ในชุดสูทแบรนด์ดังสีเทา ผมสีน้ำตาลเข้มเริ่มยาวระต้นคอ ใบหน้าเรียวคมกำลังครวญเพลงเล่นกีตาร์ พร้อมยิ้มบางๆ ทำให้ดวงตาสีเดียวกับสีผมนั้นเป็นประกายหวาน
แล้วไหนจะร่างกายสูงถึง 184 เซนฯ ที่แม้จะอยู่ในชุดสูท แต่ก็มองเห็นมัดกล้ามอย่างชัดเจน ตามแบบฉบับของผู้ชายที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
เมื่อเสียงเพลงจบลง ทีมงานก็เข้ามารับกีตาร์ไปเก็บ พิธีกรของงานก็เดินเข้ามาบนเวที
“เพลงเพราะมากครับ สุดยอดมากเลยครับสำหรับซุป’ ตาร์ หนุ่มคนนี้ อัทธ์ อัครพิสุทธิ์”
พิธีหนุ่มคนดังของวงการอีเวนท์พูดจบ พร้อมกับผายมือไปยัง คนข้างตัว ที่ตอนนี้ลุกจากเก้าอี้ มายืนเคียงข้าง ขณะที่เสียงปรบมือก็ดังสนั่นพร้อมเสียงกรี๊ดก้องไปทั่วบริเวณลานจัดงาน
อีเวนท์เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์กาแฟชื่อดัง กับสโลแกน ‘หอมกรุ่น ละมุนไอรัก กาแฟที่คู่ควรกับคนเคียงข้าง’บทสัมภาษณ์เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเรื่องงานในวงการ โพรเจกต์ต่อไปของชายหนุ่ม และได้รับเสียงกรี๊ดหนักมาก เมื่อพิธีกรถามเรื่องหัวใจของซุป’ ตาร์หนุ่ม
“ก็โสดตามปกติมานานแล้วครับ” เมื่อห้าปีก่อนอัทธ์คบหากับนางเอกคู่จิ้นอยู่สามปี ก่อนเลิกรากันไป และเขาก็โสดมาจนถึงตอนนี้
“ตามปกตินี่คือไม่มีคนคุยเลยเหรอครับ”
“ก่อนหน้านั้น พอมีคนคุยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีครับ”
“ทำไมปล่อยให้โสดมานานขนาดนี้ อายุอานามก็เหมาะจะมีคู่แล้วนะ”
“ผมงานยุ่งตลอด ถ้ามีแฟนก็คงดูแลเขาได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้ขอโสดไปก่อนแล้วกัน เพราะยังมีงานเพลงที่ผมต้องใช้เวลากับมันค่อนข้างเยอะ”
“แสดงว่างานแสดงจะน้อยลง”
“ครับ อาจจะปีละเรื่อง หรือสองปีเรื่องหนึ่ง เพราะผมอยากทำเพลง ไม่ได้ออกซิงเกิลมาสองปีแล้ว ยังไงก็ฝากทุกคนช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะครับ”
เสียงพูดคุยหยุดไปชั่วครู่ เพราะปล่อยให้บรรดาแฟนคลับได้กรีดร้องรับคำพูดของคนบนเวที
เมื่อเสียงซาลง พิธีกรก็วกเข้าสู่เรื่องงานอีเวนท์ของวันนี้ นอกจากนั้นก็มีเล่นเกมกับบรรดาท็อปสเปนเดอร์ของงาน ร่วมถ่ายรูปกับแฟนคลับที่มียอดซื้อสูงตามลำดับที่แบรนด์ตั้งเงื่อนไขไว้
เมื่ออีเวนท์จบอัทธ์ก็ยังให้สัมภาษณ์ต่ออีกครู่ใหญ่ ก่อนที่เขาจะออกจากบริเวณจัดงาน เพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้า โดยมีบรรดาแฟนคลับตามไปโบกมืออำลาอย่างหนาแน่น
ไม่เว้นแม้แต่บาลีที่เบียดเสียดผู้คนตามติดไปส่งถึงรถ
ชายหนุ่มที่โผล่หน้าโบกมือให้แฟนคลับอย่างทั่วถึง บาลีได้แต่มองแล้วยิ้ม ก่อนรถเคลื่อนออกจากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า หญิงสาวถึงกับตะลึง เพราะจู่ๆ สายตาคมพราวคู่นั้นก็สานสบกับดวงตาเธอเต็มๆ แม้แค่ชั่ววินาที แต่บาลีก็หัวใจเต้นแรง ไม่ต่างจากวันแรกพบ ที่เธอเป็นเฟรชชี่ในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกันกับอีกฝ่าย
บาลียืนตะลึงอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะโดนเบียดจนเซเล็กน้อย ถึงรู้สึกตัว แล้วเดินกลับเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพราะเธอมีนัดกินข้าวเย็นกับเพื่อนสนิท
อัณญา หรือเอย สาวเก๋ ปราดเปรียว เออีคนเก่งแห่งวงการโฆษณา เป็นเพื่อนสมัยเด็ก พอจบมัธยมปลายอัณญาก็ไปเรียนต่อเมืองนอก กระทั่งจบปริญญาโท หาประสบการณ์ทำงานเมืองนอกอยู่หลายปีก็กลับมาทำงานที่เมืองไทย จึงทำให้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง
.....................
“ฉันห่วงแกนั่นแหละ ทำงานเยอะไปแล้ว เป็นเจ้าของโรงแรมยังไง วันหยุดแทบไม่มี เวลาพักผ่อนน้อย เห็นพี่ดินบ่นนอนดึกทุกคืน”“เออ หลังแต่งงาน ฉันจะทำงานน้อยลง จะจ้างผู้ช่วยเพิ่ม และไอ้เอใกล้เรียนจบแล้ว ก็มาช่วยแบ่งเบางาน ฉันจะหยุดเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ให้ดู” อัณญาเอ่ยถึงน้องชายต่างแม่ ที่ตอนนี้อธิปกำลังเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก “ดีแล้วแก ฉันจะได้มีเพื่อนคุย เพื่อนช้อป” “แหม เห็นไปช้อปกับยัยพิมและยัยรตีในเมืองบ่อยๆ” คนหลังนี่ ปรับปรุงนิสัยดีขึ้น บาลีเลยยอมคุยดีๆ ด้วย เพราะจะว่าไปรตีเป็นเพื่อนคนเดียวในละแวกนี้ที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีเหมือนบาลี ทั้งสองเลยคุยกันได้มากขึ้น “บ่อยที่ไหน เดือนละครั้งสองครั้ง” “ตกลงยัยรตี มันคืนดีกับไอ้พี่วันหรือยัง”“ยังเลย มันบอกเจ็บแล้วจำ และมันรู้สึกว่าไอ้พี่วันอยากกลับมาคืนดี เพราะไม่มีที่ไปมากกว่าจะคิดได้ว่ารักมันกับลูก”“โอ๊ย จู่ๆ ยัยรตีก็ฉลาดขึ้นมางั้นเลย” “ก็แหงสิ ใครมันจะฉลาดมาตั้งแต่เกิดเหมือนเธอละยะ!” เสียงแว้ดขึ้นมาก่อนเจ้าตัวจะเดินเฉิดฉายมานั่งในศาลา จากนั้นก็ส่งค้อนให้อัญญา “แหะๆ ขอโทษนะแก ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เมื่อก่อนไอ้พี่วัน มันก็ไม่เห็นว่าจ
ตอนพิเศษ “น้องอิงคะ วิ่งช้าๆ เดี๋ยวล้มนะลูก” น้ำเสียงทุ้ม ที่ร้องห้ามลูกสาววัยสามขวบนั้นอ่อนโยน จนคนได้ยินถึงกับเอ่ยชม“พี่อัทธ์ เป็นพ่อที่แสนดีอบอุ่นเหมือนเตาไมโครเวฟเลย” อัณญาว่า ขณะมองตามพระเอกหนุ่มที่แทบจะหันหลังให้วงการบันเทิงมาเป็นพ่อบ้านเต็มตัว เพื่อดูแลลูกทั้งสอง “เตาไมโครเวฟกี่องศาดีล่ะ” คนที่พูดคือธรินท์ ที่นั่งอยู่ข้างๆ แฟนสาว ซึ่งเดือนหน้าก็จะเข้าพิธีวิวาห์กันแล้ว “แหม ก็ต้องไฟกำลังพอดี อุ่นๆ สิ” “แล้วพี่นี่ต้องกี่องศา หือ” คนถามทำตามกรุ้มกริ่มใส่ว่าที่เจ้าสาวด้วย“จะบ้าเหรอ มาถามอะไรแบบนี้” อัณญาปาเม็ดอัลมอนด์ที่กำลังกินเป็นของว่างยามบ่ายใส่ว่าที่เจ้าบ่าว “งั้นคืนนี้...”“ฮะ แฮ่ม นี่คิดว่าอยู่กันสองคนหรือไง!” คนที่แว้ดออกมานั้นคือบาลี ซึ่งกำลังเคี้ยวมะม่วงเปรี้ยวจิ้มพริกเกลืออย่างเอร็ดอร่อย พอได้ฟังว่าที่บ่าวสาวคุยกันท่าทางจะออกนอกลู่นอกทาง เลยต้องเบรกไว้ก่อน “แกเหอะ กินของเปรี้ยวแบบนี้ แพ้ท้องหรือเปล่า”“ไม่ได้แพ้ แค่อยากินไรเปรี้ยวๆ แก้เลี่ยนความหวานของแกกับพี่ดินนี่แหละ” ทั้งสามนั่งคุยกัน พร้อมกินของว่างยามบ่ายจัด ที่แดดอ่อนแสงไปแล้ว อยู่ใต้ซุ้มไม้ใหญ่ข้างบ้าน ท
“เหนื่อยไหมครับลูก” อัทธ์ถามลูกชาย ขณะเอนตัวลงนอนเคียงข้างลูกชาย อยู่ในชุดนอนเรียบร้อยกันทั้งสามคน ส่วนบาลีนั้นนอนอยู่อีกฝั่ง ข้างลูกชายเช่นกัน และเธอกำลังไล่ดูภาพของเพื่อนๆ อัทธ์ ที่ทยอยโพสต์ภาพงานในอินสตาแกรม ยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นรูปของตัวเองที่สวยเกือบทุกภาพ ส่วนอัทธ์กับน้องอิฐนั้น ไม่ต้องกังวล คือหล่อทั้งสองคน ก็เพราะคนพ่อเป็นดาราระดับซุป’ ตาร์ ส่วนลูกชายนั้น นักแสดงเด็กอนาคต ซุป’ ตาร์ ตามรอยพ่อเลยนะ “ลี เลิกเล่นโทรศัพท์ และปิดไฟได้แล้ว เลยเวลานอนมาสองชั่วโมงแล้วนะ” อัทธ์บอกบาลีเสียงจริงจัง“ได้ค่ะ คุณพ่อตัวอย่าง” แล้วเธอก็ปิดโคมไฟ แล้วขยับตัวไปกอดลูกชายหลวมๆ“พ่อครับ ร้องเพลงให้ผมฟังหน่อย”“ได้สิ เพลงอะไรดี” “ทวิงเคิลลิทเทิลสตาร์ครับ” “ได้ครับ” บาลีแอบยิ้มอยู่ในความสลัวภายในห้อง เพราะเพลงนี้เป็นเพลงกล่อมนอนเพลงโปรดของลูก แต่เธอร้องเพลงไม่เพราะ จึงเปิดคลิปเสียงให้ลูกฟังทุกวันตั้งแต่เด็กแบเบาะ โตแล้วก็ยังชอบฟังก่อนนอน คงเห็นว่าพ่อเป็นนักร้องเสียงเพราะที่สุดในโลก เจ้าตัวก็คงอยากฟังเพลงกล่อมนอนเพลงโปรดของตนเอง ทวิงเคอ ทวิงเคอ ลิทเดิท สตาร์ ฮาว ไอ วันเดอร์ วอท ยูว์ อาร์ อัพ
บทส่งท้าย ‘ฉันกำลังฝันไปอยู่หรือเปล่า’ บาลีครุ่นคิดในใจ ขณะมองเงาที่สะท้อนในกระจก หญิงสาวที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวเกาะอก ผมยาวคลุมเข่า เกล้าผมสูง โชว์ใบหน้าเรียว แต่งหน้าอย่างประณีต ด้วยฝีมือ เมกอัพอาร์ตติสชื่อดังของวงการ ที่เจ้าบ่าวเป็นคนจ้างมา รวมทั้งชุดที่เธอสวมใส่ก็จากแบรนด์หรู เครื่องประดับ ทั้งสร้อย ต่างหูและกำไลข้อมือก็เช่นกัน ยกเว้นแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งเป็นแหวนหมั้นจากตระกูลอัครพิสุทธ์ ที่มารดาของอัทธ์เป็นคนส่งมอบให้อัทธ์มาเพื่อหมั้นเธอ “ว้าว เมื่อเช้าชุดไทยก็ว่าสวยแล้ว ตอนนี้ก็สวยยิ่งกว่า” คนที่พูดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าบ่าวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเจ้าสาวนั่นเอง อัทธ์อยู่ในชุดสูทสีเทาของแบรนด์ดัง ผมยาวระต้นคอถูกเซ็ทอย่างดี ปกติก็หล่ออยู่แล้ว พอเป็นเจ้าบ่าว ราศีสามีของบาลีก็พุ่งทะลุทุกแสงบนโลกนี้ทั้งสองแยกห้องแต่งตัวเพราะมีเพื่อนๆ ครอบครัวและญาติของทั้งสองฝั่งมานั่งพักรองาน หรือมาพูดคุยทักทายก่อนงานเริ่มตอนนี้ถึงเวลาต้องลงที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม ซึ่งเป็นโรงแรมขุนเขาของครอบครัวอัณญานั่นเองหลังจากพิธีช่วงเช้า ซึ่งมีแต่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น





