LOGINเสิ่นชิงซูหลับตา ร่างกายร่วงลงไปข้างล่างแทบจะเป็นเวลาเดียวกัน เงาร่างทั้งสองกระโจนเข้ามาหาเธอชั่วขณะ มือของเสิ่นชิงซูถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าเอาไว้ การร่วงลงไปหยุดชะงัก!เธอลืมตาขึ้น บุรุษดวงตาเรียวยาวจ้องเธอตาเขม็ง หางตาแดงระเรื่อเสิ่นชิงซูรูม่านตาหดเล็ก “คุณ คุณบ้าแล้ว...”ฟู่ซือเหยียนอยู่ในชุดออกรบสีดำ มือใหญ่จับข้อมือเล็กของเธอแน่น เนื่องจากออกแรง มุมหน้าผากของเขาจึงมีเอ็นเขียวปูดโปน “อาซู เร็ว เอามืออีกข้างดึงแขนของผมไว้...”เสิ่นชิงซูส่ายหน้า “คุณปล่อยฉันเร็ว ๆ จิ้นเชวี่ยเขา...”ยังไม่ทันพูดจบ จู่ ๆ ฟู่ซือเหยียนก็ครางเสียงต่ำ!แขนข้างที่จับเสิ่นชิงซูถูกแทงหนึ่งที กระนั้นฟู่ซือเหยียนก็ยังไม่ปล่อยมือจิ้นเชวี่ยถือมีดทหารอยู่ในมือเล่มหนึ่ง ย่อตัวลงข้างตัวฟู่ซือเหยียน“นายเองเหรอ...” เขาหัวเราะปานปีศาจที่คลานขึ้นมาจากขุมนรก “น้องชายคนดีของฉัน นายกลับไม่ตาย!”ฟู่ซือเหยียนใบหน้าทรมาน “จิ้นเชวี่ย นายจะฆ่าจะแกงฉันก็ตามใจ แต่อาซูบริสุทธิ์ เธอไม่ควรตายอย่างนี้ ขอร้อง ปล่อยเธอ...”จิ้นเชวี่ยแสยะยิ้ม “เธอยอมตายก็ไม่แต่งกับฉัน ฉันผิดหวังมาก!”“เธอเคยช่วยนายนะ! จิ้นเชวี่ย นายปล่
จิ้นเชวี่ยนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ เลือดสดไหลหยดลงมาจากหน้าผากทว่าเขากำลังยิ้ม ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมเศร้าหมอง “อาซูเชื่อฟังนะ กลับมา ถ้าเดินต่อไปอีกก้าว ผมก็ได้แต่ต้องยิง”เสิ่นชิงซูสบสายตากับเขาปืนกระบอกนั้นชี้มาทางเธอ เธอต้องกลัวอยู่แล้วแต่เธอมาถึงตรงนี้แล้ว จะกลับไปอีกได้อย่างไร?“จิ้นเชวี่ย ฉันจะไม่กลับไป”เสิ่นชิงซูเอามือดึงผ้าคลุมศีรษะออก ถอดตุ้มหู กระชากสร้อยออกจากคอ... เธอใช้หลังมือปาดลิปสติกออกจากริมฝีปาก แล้วจ้องจิ้นเชวี่ยด้วยท่าทางแน่วแน่ที่สุด “ต่อให้ตายฉันก็ไม่เป็นเจ้าสาวของคุณ”จิ้นเชวี่ยมองเธอสายตาแดงก่ำ“อาซู คุณใจดำจริง ๆ”เสิ่นชิงซูยิ้มแล้วหันหลัง ก่อนจะเดินไปข้างหน้าไปอย่างไม่ลังเลปัง!!!เสียงปืนดังขึ้น ลูกกระสุนนัดหนึ่งตกข้างเท้าเธอ!เสิ่นชิงซูแค่ชะงักไป นั่นเป็นการตอบสนองตามสัญชาตญาณยามมนุษย์เจอกับอันตรายแต่วินาทีต่อมา เธอถกชายกระโปรงเหยียบโคลนบนผิวพื้นเดินไปข้างหน้าปัง!!!เสียงปืนดังขึ้นมาอีกหน กระสุนยิงถูกลำต้นข้างเธอ!เสิ่นชิงซูใบหน้าปราศจากริ้วอารมณ์ มุ่งหน้าต่อโดยเห็นความตายดังกลับบ้านหนึ่งก้าว สองก้าว...โคลนบนพื้นทำกระโปรงเธอสกปรก เธ
จิ้นเชวี่ยเปิดประตูรถ แล้วล้วงปืนสั้นลงไปกวนเยว่ถูกลูกกระสุนที่หลัง แต่เขาใส่เสื้อกันกระสุนอยู่ ไม่ได้ล้มลงไปเขาปกป้องเจียงหมี่รั่ววิ่งไปทางรถพอเห็นจิ้นเชวี่ยออกมารับ กวนเยว่ก็ผลักเจียงหมี่รั่วไป “มีการซุ่ม พวกคุณไปก่อน!”จิ้นเชวี่ยรับตัวอ่อนปวกเปียกของเจียงหมี่รั่วมา มองกวนเยว่ “คุณเป็นยังไงบ้าง?”“ผมไม่เป็นไร” กวนเยว่มองจิ้นเชวี่ย “คุณจิ้น ถ้าผมรอด ผมจะไปหาคุณ แต่ถ้า...ก็ขออวยพรให้คุณสมปรารถนาแล้วกัน”จิ้นเชวี่ยขมวดคิ้ว ยังไม่ทันได้ต่อคำ ทางพุ่มหญ้าก็มีเจ้าหน้าที่ในชุดติดอาวุธพุ่งออกมาสองสามคำกะทันหันกวนเยว่ตะโกนไป “ไปซะ!!”จิ้นเชวี่ยกัดฟัน แล้วฉุดเจียงหมี่รั่ววิ่งไปทางรถเป็นเวลาเดียวกัน จู่ ๆ เสิ่นชิงซูก็ผลักประตูรถวิ่งออกมาเสียงกราดยิงดังสนั่นรอบทิศ เสิ่นชิงซูกลับวิ่งไปทางพวกเขาทั้งอย่างนั้น!“อาซู!”จิ้นเชวี่ยรูม่านตาหดเล็ก แทบจะผลักเจียงหมี่รั่วออกตามจิตใต้สำนึกแล้ววิ่งไปกอดเสิ่นชิงซูจังหวะที่เสิ่นชิงซูถูกเขากอด เธอจ้องเจียงหมี่รั่วตาเขม็ง “หนีไป! วิ่งลงเขา...”เจียงหมี่รั่วตัวแข็งอยู่กับที่ ตามด้วยร้องไห้พลางส่ายหน้า “พี่ชิงซู ฉันหนีไปไม่ได้ พี่ต่างหากที่ควร
“พี่กวน เสร็จแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่สร้างความลำบากให้” เจียงหมี่รั่วก้มหน้า ขณะพูดยังทำท่าว่าจะร้องไห้เห็นแล้วอัดอั้นตันใจที่สุดจริง ๆกวนเยว่ไม่เห็นด้วยกับการให้เจียงหมี่รั่วอุ้มบุญแทนจิ้นเชวี่ยกับเสิ่นชิงซูมาตลอดที่เขาติดตามจิ้นเชวี่ยหลายปีนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณตอนนั้นเขาถูกคนหลอกไปเป็นมิจฉาชีพที่เมียนปยี ในตอนที่หลบหนีแต่ถูกจับกลับมาเกือบถูกตีตายนั้น จิ้นเชวี่ยพาเขาหนีไปจิ้นเชวี่ยบอกเขา ถ้าสมัครใจติดตามเขา เขาก็จะรับรองลาภยศสรรเสริญอีกฝ่ายได้ ครอบครัวของเขาจะมีเงินใช้ไม่สิ้นเทียบกับการถูกตีตาย การติดตามจิ้นเชวี่ยคือทางออกที่ดีที่สุดของกวนเยว่กวนเยว่เคารพเลื่อมใสจิ้นเชวี่ยที่สุด เขายังถึงขั้นคิดว่าถ้าจิ้นเชวี่ยไม่เกิดความยึดมั่นถือมั่นกับเสิ่นชิงซู ทุกอย่างนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น‘อาณาจักร’ ที่จิ้นเชวี่ยพยายามสร้างขึ้น ต่อให้โลกไม่ยอมรับ กลับพอให้จิ้นเชวี่ยทำตามอำเภอใจได้ทั้งชาติและเจียงหมี่รั่วที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนกับจิ้นเชวี่ยพวกเขาต่างเป็นทาสรักที่ถูกควบคุมกวนเยว่ไม่ยอมรับ แต่ก็จนปัญญาตอนนี้เห็นเจียงหมี่รั่วน่าเวทนาอย่างนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ชาย อย่างไรก็เห็นใจอยู
เสิ่นชิงซูมองจิ้นเชวี่ย “ไม่มีแม่คนไหนจะไม่สนใจลูกของตัวเอง จิ้นเชวี่ย คุณสร้างเด็กคนหนึ่งขึ้นมาก็เพื่อให้ฉันใจอ่อน จะได้ควบคุมฉันได้ง่ายไม่ใช่เหรอ? ถ้าไม่มีเด็กคนนี้ ระหว่างเราก็ไม่มีความเป็นไปได้แล้วจริง ๆ”จิ้นเชวี่ยเม้มริมฝีปาก จ้องเสิ่นชิงซูเขากำลังวิเคราะห์ว่าถ้อยคำนี้มีความจริงใจกี่ส่วนในตอนที่เจียงหมี่รั่วโอดครวญ ในที่สุดเขาก็เอ่ยปาก “กวนเยว่ หาที่ลับตาคนจอดรถก่อน”กวนเยว่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงขมวดคิ้วว่า “คุณจิ้น ตอนนี้เราควรไปท่าเรือให้เร็วที่สุด พวกเขาต้องเตรียมตัวมาแน่ เวลานี้เราหยุดนาทีหนึ่งก็เสี่ยงที่จะเปิดเผยมากขึ้นส่วนหนึ่งนะครับ”จิ้นเชวี่ยน้ำเสียงหงุดหงิด “ผมไม่อยากพูดเป็นครั้งที่สอง”จิ้นเชวี่ยกัดฟัน บาดแผลที่ต้นขายังไม่หายดี เขารู้ว่าพอจิ้นเชวี่ยบ้าขึ้นมาสามารถทำได้ทุกอย่าง!“คุณจิ้น หวังว่าคุณจะไม่เสียใจภายหลังนะครับ!”กวนเยว่ถอนหายใจ แล้วขับรถไปทางพุ่มไม้รถออฟโรดจอดในพุ่มไม้จิ้นเชวี่ยเปิดกระเป๋าสำหรับการฝังเข็มทันทีกวนเยว่ลงรถ ตามด้วยกระโดดขึ้นไปบนหลังคาดูลาดเลาเวลานี้ ในรถเหลือพวกเขาเพียงสามคนเสิ่นชิงซูช่วยฉีกแผ่นสำลีชุบแอลกอฮอล์แบบใช้แล้วทิ้
พิธีกรยืนอยู่หน้าแท่นพิธี มองคู่บ่าวสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความเมตตา “ขอแสดงความยินดีกับทั้งสองท่านที่ได้มาเป็นสามีภรรยากันในวันดี ๆ เช่นนี้...”เสิ่นชิงซูไม่ได้ยินสิ่งที่พิธีกรพูดเลยแม้แต่น้อย จิตใจของเธอไม่ได้อยู่ที่นี่จนกระทั่งจิ้นเชวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดคำว่า ‘ผมยินดี’ สามคำนั้นออกมา เสิ่นชิงซูก็พลันได้สติกลับคืนมา“...เจ้าสาว คุณยินดีไหมครับ?”ไหล่ของเสิ่นชิงซูถูกมือใหญ่ของชายหนุ่มจับไว้ ร่างของเธอหมุนไปครึ่งรอบเพื่อเผชิญหน้ากับจิ้นเชวี่ยจิ้นเชวี่ยเปิดผ้าคลุมหน้าสีขาวของเธอขึ้นทั้งคู่สบตากัน ในดวงตาของจิ้นเชวี่ยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักลึกซึ้งไม่เปลี่ยนแปลง“อาซู คุณจะยอมอยู่กับผมจนแก่เฒ่า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปจนวันตายไหม?”เปลือกตาของเสิ่นชิงซูสั่นระริกเธอกำช่อดอกไม้ในมือแน่น เอ่ยคำพูดที่สวนทางกับหัวใจออกมาเบา ๆ “ฉันยินดี”ดวงตาของจิ้นเชวี่ยเป็นประกายขึ้นมาในทันทีมันเป็นความปีติยินดีที่เห็นได้อย่างชัดเจนเจียงหมี่รั่วถือแหวนแต่งงานเดินเข้ามาอยู่ข้าง ๆ พวกเขาจิ้นเชวี่ยหยิบแหวนแต่งงานขึ้นมา จับมือขวาของเสิ่นชิงซูแหวนค่อย ๆ สวมเข้าไปในนิ้วเรียวของหญิงสาว