Share

23. ดวงตาที่มืดบอด

Author: Lastlatte.
last update Last Updated: 2025-11-04 21:54:10

“ผมมองไม่เห็น…ตาซ้ายของผมมองไม่เห็นแล้ว” น้ำตาของณดลไหลอาบทั้งสองแก้ม ร่างกายสั่นระริกด้วยความกลัว ภวิตาจึงรีบลุกขึ้นกดโทรศัพท์เพื่อตามหมอให้มาดูอาการ ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจเธอกลัวว่าสาเหตุที่ทำให้ณดลมองไม่เห็นจะมาจากที่เธอปาแจกันใส่ ซึ่งมันก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่ทำให้ณดลเป็นแบบนี้

“ไม่เป็นไรนะ เธอต้องไม่เป็นไรแม่โทรตามหมอให้แล้ว ใจเย็นๆนะ” ธนัทกอดปลอดณดลที่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด เสียงร้องราวกับคนที่กำลังจะขาดใจนั่นยิ่งทำให้ภวิตารู้สึกผิดขึ้นเรื่อยๆ

“ฮึก….มันมืดไปหมด คุณธนัทครับ...ผมกลายเป็นคนตาบอดไปแล้ว ผมมองไม่เห็นอะไรเลยแบบนี้ผมก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ คุณหญิงก็จะยิ่งรังเกียจผมเพิ่มเข้าไปอีก” ณดลเอาแต่พูดซ้ำไปมาว่าตัวเองกลายเป็นคนตาบอด ต่อให้ธนัทจะพยายามพูดปลอบยังไงเจ้าตัวก็ไม่ยอมฟัง

“อย่าพึ่งคิดอะไร รอหมอก่อนนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันอยู่ข้างเธอเสมอ” ธนัทประทับจูบลงที่เปลือกตาทั้งสองของณดล

“ผมกลัว…มันเหมือนตอนนั้นก่อนที่ตาขวาของผมจะบอดมันก็เป็นแบบนี้”

“อย่าพึ่งกังวลเดี๋ยวหมอก็มาแล้วนะคนดี”

“ถ้ามันบอดละ ถ้าผมมองไม่เห็นคุณไปตลอดจะทำยังไง” ณดลร้องไห้สะอื้นออกมาเสียงดังธนัทเองก็ไม่รู้จะพูดปลอบยังไงจึงทำได้เพียงกอดปลอบไว้จนกว่าหมอจะมา

“ที่คุณณดลเป็นคืออาการตาบอดชั่วคราวจากการถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงครับ ซึ่งในอดีตเขาก็เคยเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนทำให้ดวงตาข้างขวาบอด โชคดีนะครับที่ครั้งนี้เป็นอาการบอดแค่ชั่วคราวไม่อย่างนั้นสภาพจิตใจของเขาคงจะแย่กว่านี้แน่” คุณหมอพูดอธิบายเรื่องอาการของณดลและเน้นย้ำว่าต้องช่วยกันดูแลสภาพจิตใจของณดลเป็นพิเศษ

“นานไหมคะกว่าจะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม” เป็นภวิตาที่ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงและกังวล

“แล้วแต่อาการครับ บางคนไม่กี่วันก็หายกลับมามองเห็นได้อย่างปกติแต่บางคนก็ใช้ระยะเวลาเป็นเดือน”

“ธนัท…แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้เลยนะ” ภวิตาเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิดที่เป็นคนทำให้ณดลต้องตาบอดชั่วคราว

“คนที่แม่ควรขอโทษคือณดลครับ ไม่ใช่ผม…แล้วแม่เชื่อไหมว่า ถ้าแม่ไปขอโทษณดลเขาก็จะยิ้มให้แล้วบอกว่า ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ” ธนัทบอกอย่างรู้นิสัยของอีกฝ่าย

“เขา…”

“เขาใจดีเสมอไม่ว่ากับใครแต่ไม่รู้ว่าทำไมคนรอบข้างถึงเอาแต่ใจร้ายกับเขา ทั้งที่เขาไม่เคยทำอะไรให้ใครเลยผมไม่เข้าใจ…เพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกเหรอครับ แบบนั้นมันไม่ใจร้ายกับเขาไปหน่อยเหรอ” ธนัทพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินเข้าห้องไปหาณดลที่นั่งอยู่ที่เตียง

“หมีน้อยไม่ต้องเครียดนะ หมอบอกแล้วว่าแค่ชั่วคราว…เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้นนะคนดี” ธนัทพูดปลอบเพราะเขารู้ว่าณดลนั้นกลัวมากแค่ไหน เพราะมีเพียงแค่ดวงตาซ้ายข้างเดียวที่ยังมองเห็น เจ้าตัวคงรับไม่ได้แน่หากมันต้องบอดสนิทเหมือนกับตาขวา ใบหน้าแสนน่ารักเต็มไปด้วยน้ำตากับร่างกายที่สั่นกลัวยังคงติดตาของเขาอยู่ ต้องกลัวขนาดไหนถึงแสดงอาการอย่างนั้นออกมา

“ต่อให้แค่ชั่วคราวผมก็ยังกลัวอยู่ดี…ผมกลัวที่จะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีก” สองมือหนาของณดลยกขึ้นมาพยายามจับหาใบหน้าของธนัทก่อนจะลูบสัมผัสใบหน้านั้นไปมา

“หล่อไหม” ณดลพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ ธนัทพยายามที่จะยิ้มเพื่อให้ณดลสัมผัสได้ ทั้งที่ความจริงเขาอยากจะร้องไห้ออกมากับประโยคก่อนหน้าที่ณดลพูด หัวใจของเขาเหมือนถูกบีบรัดมันเจ็บหน่วงจนไม่สามารถที่จะอธิบายได้

“หล่อครับ ผมอยากรีบหายจะได้มองความหล่อของคุณ จะมองทั้งวันทั้งคืนเลย”

“ต้องหายแน่นอน เชื่อฉันนะ” ธนัทพยายามพูดไม่ให้ณดลคิดมาก

“คุณธนัทครับ….ถ้าสมมติแค่สมมตินะครับ”

“อืม แค่สมมติ เธออยากพูดเรื่องสมมติอะไรเหรอ”

“ถ้ามันไม่หายละครับ แค่สมมตินะครับ” ณดลรีบพูดย้ำว่าเป็นการสมมติเพราะกลัวจะถูกธนัทดุที่พูดอะไรที่ไม่ดีออกมา

“คิดมากสินะ…” ณดลพยักหน้า

“ฉันพร้อมที่จะเป็นดวงตาให้กับเธอเอง ไม่ต้องกังวลฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันสัญญา”

“ฮึก…ขอบคุณนะครับ”

“ไม่ร้องสิเดี๋ยวตาบวมนะ…เธอก็รู้ฉันรวย ถ้ามันมีทางที่จะให้เธอกลับมามองเห็นฉันก็พร้อมที่จะจ่าย” ธนัทยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ณดล

“หิวไหม เธอยังไม่ได้กินอะไรเลย” ธนัทถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่อยากกินอะไรเลยครับ” ณดลบอก

“ไม่ได้ เธอต้องกินนะ เดี๋ยวฉันลงไปซื้อให้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ณดลส่ายหัวไปมา

“งั้นเดี๋ยวฉันเลือกให้เองแล้วกัน อยากไปเข้าห้องน้ำก่อนรึเปล่า”

“ไม่ครับ คุณไปเถอะ”

“ครับ รอฉันนะเดี๋ยวมา”

“อ้าว นทีมาแล้วเหรอ” ธนัทที่กลับเข้ามาเอ่ยทักเมื่อเห็นนทีกำลังนั่งป้อนไส้กรอกให้กับณดลอยู่

“มาแล้วครับ ตาทองก็มาด้วยแต่เหมือนจะออกไปหาคุณหญิงแล้ว” นทีบอก

“หมีน้อยกินไส้กรอกของนทีแล้ว จะสนใจคอหมูย่างที่ฉันซื้อมาให้อยู่ไหมนะ” ธนัทเปิดกล่องคอหมูย่างแล้วถือวนไปมาที่จมูกของณดล

“สนใจสิครับ!” ณดลรีบตอบ

“ข้าวเหนียวกับน้ำจิ้มแจ่วละ”

“ครบชุดเลย คุณธนัทน่ารักที่สุด” ณดลยิ้มร่าพร้อมกับอ้าปากรอให้ธนัทป้อน

“เหมือนพ่อหมีกำลังป้อนข้าวลูกหมีเลยครับ” นทีพูดแซว

“ต้องบอกว่าพ่อหมีกำลังป้อนแม่หมี ฉันไม่เอาลูกจะเอาเมีย โอ๊ย!” ธนัทพูดก่อนจะโดนอุ้งมือของแม่หมีตีเข้าที่ต้นแขน

“โอ้โห ตีแม่นซะด้วย” นทีพูดแซวเพราะณดลมองไม่เห็นแต่กลับฟาดมือไปตีโดนแขนของธนัทได้อย่างแม่นยำ

“ขอโทษครับ เจ็บรึเปล่า” คนตีถามคนถูกตีด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เจ็บเลย เธอเจ็บกว่าฉันเยอะ อ้ามๆ” ธนัทบอกพร้อมกับป้อนข้าวไปด้วย

“ต้องเป็นร้านที่คุณซื้อให้บ่อยๆแน่เลย ผมจำรสชาติได้” ณดลบอก

“ใช่ เก่งมากอย่างนี้ต้องให้รางวัล”

“อะไรเหรอครับ”

“เครปเย็นของโปรดของหมีน้อยแถวนี้” ณดลยิ้มร่า

“ยิ้มใหญ่เชียว” ธนัทเอื้อมมือไปดึงแก้มนิ่มของณดล

“ผมก็ไม่น้อยหน้า มีนมชมพูแสนอร่อยให้หมีน้อยของผมเหมือนกัน” นทีรีบเดินไปหยิบนมเย็นที่เขาแช่ไว้ในตู้เย็นมาป้อนณดลทันที

“ขอบคุณนะครับทั้งคุณธนัทและพี่นทีที่หาของอร่อยๆมาฮีลใจผมในวันที่แย่แบบนี้ ขอบคุณมากๆเลยครับ”

“เราก็น้องชายพี่คนหนึ่ง พี่อยู่ข้างเราเสมอเด็กน้อย”

“ฉันก็ว่าที่คนรักของเธอ อยู่ข้างเธอเสมอหมีน้อย”

“พูดตามผม ขี้ก๊อปอ่ะ”

“จดลิขสิทธิ์รึไง” สองเจ้านายลูกน้องลับฝีปากกันสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับณดลได้เป็นอย่างดี

“คุณหญิงครับ…” ตาทองที่เข้าไปเยี่ยมณดลเสร็จแล้วเดินออกมาหาภวิตาที่นั่งอยู่ที่โซฟาของส่วนกลาง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

“ลุงทองมาด้วยเหรอ” ภวิตาถามอย่างแปลกใจเพราะนอกจากเธอกับธนัทแล้วก็ไม่มีใครคนอื่นมาอีก

“มาสิครับ เจ้านทีมันโทรบอกแล้วก็แวะไปรับผมมา และผมเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหญิงด้วย ยังไงก็ช่วยรับฟังกันหน่อยนะครับ คิดซะว่าฟังคนแก่บ่นก็ได้”

“ฉันยินดีฟังค่ะ” ภวิตาบอก

“ก่อนหน้าที่ผมจะมาทำงานกับคุณหญิงผมเคยมีลูกมีเมียมาก่อน แต่เมียผมมันทิ้งไปมีผัวใหม่เพราะทนลำบากกับผมไม่ไหว ทิ้งให้ผมกับลูกชายอยู่กันสองคนเพราะความจนเลยทำให้ผมไม่มีปัญญาส่งลูกเรียน แต่ลูกผมมันก็เข้าใจและเลือกที่จะออกจากโรงเรียนมาช่วยผมทำงาน จนพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่งผมเลยลงทุนซื้อของมาขาย ทำให้ฐานะค่อยๆดีขึ้นพอจะมีเงินส่งลูกตัวเองเรียน” ตาทองเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้ภวิตาฟัง

“ลูกผมมันก็ตัวประมาณเจ้าณดลนี่แหละ แต่มันเป็นกะเทยอยากแต่งหญิงที่ผมรู้เพราะข้างบ้านมาบอกและถ่ายรูปมาให้ผมดูตอนที่มันแต่งตัวเป็นผู้หญิงเดินขบวนพาเหรดกีฬาสีที่วิทยาลัย ผมโกรธมากเลยถามว่ามันเป็นกะเทยอย่างที่คนอื่นพูดไหม คำตอบที่ผมได้รับมาคือใช่”

“ตอนนั้นผมเสียใจมาก พยายามบังคับให้ลูกตัวเองเป็นผู้ชาย ยิ่งมารู้ว่ามันมีแฟนยิ่งทำให้ผมรับไม่ได้ที่ลูกชายของตัวเองไปเป็นเมียผู้ชายด้วยกันเลยกีดกันทุกอย่างถึงขนาดให้มันลาออกแล้วจะย้ายที่อยู่ใหม่”

“ลูกผมเลือกที่จะหนีออกจากบ้าน มันเขียนจดหมายขอโทษและขอให้ผมอโหสิกรรมกับสิ่งที่มันทำ มันอยากเป็นตัวของตัวเองอยากใช้ชีวิตแบบที่ต้องการแต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ทำตามที่มันหวัง เพราะมันถูกรถชนตายตอนที่กำลังจะข้ามถนน…คนขับเมาตอนชนมันไม่รู้เลยทำให้ร่างของลูกผมโดนลากไปไกลเป็นกิโล ผมได้เพียงโทษตัวเองว่าถ้าวันนั้นผมไม่กีดกันและเปิดใจให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเองมันก็คงไม่ต้องมาตาย ส่วนแฟนของลูกผมก็บวชให้จนปัจจุบันก็ยังไม่สึกออกมา”

“ที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้คุณหญิงฟังก็เพราะอยากจะบอกว่า อนุญาตให้ลูกตัวเองมีความสุขเถอะครับ อนุญาตให้ลูกได้เลือก ได้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ อย่าให้ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างแบบผมก่อนแล้วค่อยมาคิดได้…มาคิดได้ในวันที่แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว” ตาทองเล่าอดีตของตัวเองให้ภวิตาฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะยังคงรู้สึกผิดและเสียใจอยู่ตลอด แต่ที่เขาตัดสินใจเล่าก็เพื่อให้ประสบการณ์ที่ผิดพลาดของตัวเองเป็นบทเรียนให้กับภวิตา

“คุณหญิงชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนนะ บางทีก็ไม่ใช่พ่อแม่ที่ไปก่อนลูก เราไม่รู้เลยว่าใครจะไปก่อนใคร วันนี้ยังมีกันอยู่ก็สร้างแต่ความทรงจำดีๆไว้ให้นึกถึงกันเถอะครับ ลูกน่ะเราเลี้ยงได้แต่ตัว เขาต้องมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง เราที่เป็นพ่อแม่ทำได้แค่เพียงสนับสนุน คอยให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้กับเขา เพราะความสุขของเราคือการที่เห็นลูกมีความสุขไม่ใช่เหรอครับ” คำพูดของตาทองทำให้ภวิตารู้สึกจุก เพราะที่ผ่านมาเธอเป็นคนคอยกำหนดเส้นทางชีวิตของธนัทมาตลอด และเธอก็คิดมาตลอดว่าสิ่งที่เธอเลือกให้มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกของเธอ

“ชีวิตมันเป็นของเขา ต้องให้เขาได้เลือกคนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกันด้วยตัวเอง เพราะเขาต้องมั่นใจและรู้สึกอะไรบางอย่างถึงได้เลือกคนคนนั้น แต่ถ้าลูกเราเลือกผิดเขาก็ต้องเรียนรู้และผ่านมันไปได้ด้วยตัวเอง เขาโตพอที่จะเรียนรู้ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแล้วนะครับ”

“คุณหญิงอาจจะมองว่าเจ้าณดลมันไม่คู่ควรกับคุณธนัทด้วยอะไรหลายๆอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรับประกันได้เลยคือมันเป็นคนดี ไม่เคยคิดทำร้ายหรือรังแกใครแม้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อนเสมอ ชีวิตของมันน่าสงสารนะครับ เกิดมาหูข้างนึงก็ไม่ดีแล้วตาขวาก็ยังต้องมาบอดเพราะอุบัติเหตุที่ทำให้พ่อกับแม่มันต้องตายอีก มันเลยต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เด็ก”

“แต่เพราะตอนนั้นมันได้ช่วยชีวิตคุณธนัทไว้ ทำให้คุณเขาตั้งใจจะกลับไปตอบแทนแล้วดันเป็นตอนที่มันกำลังไม่มีที่ไปพอดีเลยได้ชวนให้มาทำงานอยู่ด้วยกัน แต่มันก็ไม่เคยพูดทักทวงบุญคุณอะไรเลยนะครับ กลับกันยังเอาแต่พูดบอกว่าตัวเองติดหนี้บุญคุณที่คุณธนัทเมตตา ให้งาน ให้ที่อยู่ที่กินกับมัน” ตาทองเล่าเรื่องราวของณดลให้ฟัง เพื่อหวังว่าภวิตาอาจจะปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดและลดอคติในใจที่มีต่อณดลลงไม่มากก็น้อย

“ฉัน…”

“ลองคิดทบทวน ลองนึกย้อนกลับไปดูการกระทำของตัวเองดูนะครับ ว่าคุณหญิงทำอะไรกับมันไว้บ้าง และมันเคยทำอะไรคุณหญิงรึเปล่า”

“ผมเชื่อว่าเจ้าณดลมันไม่ใช่คนคิดแค้นอะไรใคร ถ้ารู้ว่าเราผิดก็แค่ขอโทษ ตัวมันพร้อมจะยกโทษให้อยู่แล้วละครับ…อย่าให้เอาอคติที่ตัวเองมีไปทำร้ายคนดีๆที่ลูกของคุณเลือกเลยนะครับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   29. ความสุขในชีวิต [End]

    ณดลสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน หลังจากที่เขาตัดสินใจใช้สถานะแฟนกับธนัทอย่างเป็นทางการ จากทุกครั้งที่เวลาเดินผ่านเอาเอกสารไปให้เขามักจะถูกเหล่าพนักงานมองเหยียดหรือไม่ก็หันไปพูดซุบซิบนินทา หนักหน่อยก็พูดว่าขึ้นมาลอยๆซึ่งเขาก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่าคนพวกนั้นต่างพากันส่งยิ้มมาให้เขาแม้จะเป็นรอยยิ้มแห้งๆก็ตาม บางคนเมื่อก่อนเดินแทบจะชนเหมือนกับว่ามองไม่เห็น ตอนนี้กลับก้มหัวให้เขาแล้วรีบเดินไปและที่สำคัญไม่มีใครใช้ประโยคและน้ำเสียงที่พูดดูถูกหรือจิกหัวใช้เหมือนก่อนหน้านี้กับเขาอีกเลย คนที่จะไขข้อสงสัยได้ก็มีเพียงแค่คุณแฟนของเขาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ “คุณธนัทครับ ผมมีอะไรอยากถาม” “ว่าไงครับที่รัก” ธนัทตอบรับเสียงหวานพร้อมสรรพนามที่ทำเอาณดลจั๊กจี้ทุกครั้งที่ได้ยิน “ต้องเป็นฝีมือของคุณแน่ๆเลยใช่ไหมครับ ที่ทำให้คนอื่นมีท่าทางแปลกๆกับผม พวกเขาดูเกร็งแล้วก็ไม่แกล้งผมเหมือนเมื่อก่อน” “ฉันทำอะไร…ไม่ได้ทำอะไรเลย” ธนัทปฏิเสธ “ไม่เชื่อครับ บอกผมมาเลยนะถ้าไม่ยอมบอก ไม่ให้นอนกอด” ณดลพูดขู่ “พวกนั้นคงเห็นโพสต์ของฉันละมั้ง” ธนัทขยับเก้าอี้เลื่อนมาอยู

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   28. ชอบเธอไปทั้งตัว [NC18+]

    ในทุกครั้งที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน ธนัทมักจะชอบเอ่ยขออนุญาตอยู่เสมอเป็นเหมือนการถามความยินยอม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเปลื้องผ้าเหลือแต่ตัวเปลือยๆกันแล้วก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นความน่ารักของเจ้าตัวที่ทำให้เขาแอบประทับใจ “ครับ” ณดลตอบตกลง ลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดดูดดึงยอดอกของณดลทั้งสองข้างจนมันชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีใสแถมยังตั้งชูชันขึ้นอย่างน่าอาย แต่เขากลับกลายเป็นคนลามกที่ชอบให้ธนัทให้ลิ้นห่อแล้วดูดดึงมันเล่น และเพียงแค่นั้นส่วนกลางกายของเขาก็เริ่มแข็งมีอารมณ์ขึ้นมา “แค่ดูดนมเธอก็แข็งซะแล้วหมีน้อย” ธนัทเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดูก่อนจะลากลิ้นขยับลงมาจนถึงท่อนเอ็นอวบ “อ๊าา…อื้ออ บ...แบบนี้” “อื้ออ…อ่ะอ่าา” ณดลร้องครางพลางแอ่นสะโพกสู้ริมฝีปากของธนัทที่กำลังครอบครองท่อนเอ็นของเขาเข้าไป “อืมม…อึกก” “อื้ออ…อ่ะอ้าา…ส...เสียวนะครับ” “อืม…จ๊วบบ…แผล่บๆ…แผล่บ” ธนัทถอนริมฝีปากออกแล้วใช้มือกำท่อนเอ็นไว้ ก่อนจะเปลี่ยนมารัวลิ้นที่ส่วนหัวแดงจนณดลครางเสียงดังกระเส้า สองมือหนาที่เขาเฝ้าถนอมช่วยบำรุงจนเริ่มกลับมานิ่มขึ้นจิกลงบนหัวของเขาเพื่อระบายความเสียว “อื้ออ...เสียว…อ่าา…คุณธนัทอื้อออ” สะโพกมนส่ายร่าไปมา ก่อ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   27. คำสารภาพของคนปากแข็ง

    ณดลเข้าไปให้ปากคำเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา โดยที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวของผู้ต้องหาทั้งสี่เขาฝากขังไว้ก่อน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดูอันตรายพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายผู้เสียหาย “เป็นไงบ้าง” เป็นภวิตาที่เอ่ยถาม ส่วนธนัทที่ถึงแม้จะเป็นห่วงแต่ก็แค่มองมาเฉยๆไม่ได้พูดอะไร “ผมเล่าเรื่องทุกอย่างที่ถูกกระทำให้ทางตำรวจหมดแล้วครับ เล่าทุกอย่างเลย…” ณดลบอก “กลับได้แล้วใช่ไหม” ภวิตาถาม ณดลพยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบ “งั้นกลับกันเถอะ นี่ก็เก๊กหน้านิ่งอยู่ได้” ภวิตาหันไปบ่นลูกชายของตัวเอง “อารมณ์ไม่ดีครับ” ธนัทตอบมาสั้นๆ “ขอโทษครับ” ณดลบอกแต่ธนัททำเมิน “ทำทรงไปงั้นแหละ เชื่อแม่” ภวิตาพูดให้กำลังใจณดลที่ทำหน้าเหมือนหมีหงอยอยู่ “คุยกันดีๆ แม่ไปพักก่อน” เมื่อกลับมาถึงบ้านภวิตาก็รีบปลีกตัวออกไปเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน “จะกลับห้องตัวเองหรือจะขึ้นไปห้องฉัน” ธนัทถามโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง “ขออนุญาตไปห้องของคุณได้ไหมครับ” “งั้นก็ตามมา” ธนัทเดินนำขึ้นไปที่ห้องโดยที่ไม่ได้เดินรอเหมือนอย่างทุกที “ขอโทษครับ/เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่เข้ามาในห้อง “เ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   26. เพราะไว้ใจคนผิด

    “วันนี้มันไม่อยู่เหรอวะ” ป้าสายบัวพูดขึ้นเมื่อยืนเคาะประตูห้องของณดลมาพักใหญ่แต่ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ “มันหลบอยู่เปล่า ก็ป้าเล่นไปขู่จะแทงตามันอ่ะ” กระแตพูด “จริงๆตัวมันก็ใหญ่นะแต่เสือกใจเซาะกลัวพวกเราซะงั้น” กระถินพูดขึ้นเพราะณดลตัวใหญ่กว่าแค่ตบพวกเธอทีเดียวน่าจะหลับไปหลายวัน “ก็ดีแล้วที่มันใจเซาะเราจะได้ไถเงินมันได้ แถมยังได้กินของดีๆที่คุณเขาซื้อมาให้มันอีก ถึงว่าไม่มาแดกข้าวที่โรงครัวเลยเพราะติดหรูกินแต่อาหารดีๆนี่เอง” “พวกมึงมาทำอะไรที่หน้าห้องไอ้ณดล!” เสียงของตาทองที่ตะโกนถามทำเอาสามสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ป้าสายบัวรีบพูดกระซิบให้ทำตัวให้เป็นปกติ “เอ้า! กูถามไม่ตอบหูตึงกันแล้วรึไง” ตาทองพูด “ทำอะไร กูไม่ได้ทำอะไร แค่มาดูไอ้ณดลมันเป็นยังไงบ้าง” ป้าสายบัวตอบ “คนอย่างมึงน่ะเหรอจะมาดูดำดูดีไอ้ณดล” ตาทองไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “ทำไม กูก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง เห็นวันนี้เงียบๆไม่มีใครเอาอะไรมาให้มัน กลัวมันจะอดตาย” “มันไปทำงานกับคุณธนัทแล้ว” “อ่อ งั้นกลับไปทำงานกันต่อเถอะพวกเรา” สามสาวที่ได้คำตอบก็แยกย้ายกลับไปทำงานที่โรงครัวต่อ แต่ตาทองยังคงสงสัยและรู้สึกแปลกใจ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   25. คำโกหก

    “เรียกอีกทีเอาแบบไม่เกร็ง” ภวิตาบอกพร้อมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู “เอ่อ…เกร็งครับ” ณดลยอมรับออกมาตรงๆ “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าครับแม่ ณดลยังคงปรับตัวไม่ทัน” ธนัทช่วยพูด “ก็ได้ๆ ตอนนี้ก็เรียกตามที่สะดวกใจไปก่อนแล้วกัน สนิทกันขึ้นเมื่อไหร่ค่อยเรียกแม่” ภวิตารับฟังก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอาขนมที่เธอซื้อมาฝากมาป้อนให้ณดล “อร่อยมากเลยครับ” “อร่อยก็กินเยอะๆ ถ้าชอบเดี๋ยวแม่เหมามาให้” ภวิตาเริ่มแทนตัวเองว่าแม่เพื่อละลายพฤติกรรมระหว่างกัน “เกรงใจครับ แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้วครับ” “ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก เราคนกันเอง” ยิ่งบอกว่าคนกันเองณดลยิ่งรู้สึกเกร็ง แผลของณดลไม่มีอาการติดเชื้อและค่อยๆแห้งทำให้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้โดยนัดวันที่จะตัดไหมอีกที มีแค่ดวงตาข้างซ้ายที่ยังไม่หายดีทำให้ยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เขาจึงขอย้ายกลับมาที่ห้องพักของตัวเองเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้ชีวิตระหว่างที่ธนัทต้องไปทำงาน โดยมีตาทองคอยช่วยเอาอาหารมาให้เพราะภวิตาต้องไปช่วยงานธนัทแทนณดล ก๊อก ก๊อก “ครับๆ ตาทองเหรอครับ…เมื่อกี้พี่ตุ่นเอาข้าวมาให้ผมแล้วนะครับ” ณดลค่อยๆเดินมาเปิดประตูให้เพราะคิดว่าเป็นตาทองที่มาหา

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   24. เรียนรู้และเริ่มต้นใหม่

    “ฉันพูดจาไม่ดีกับณดลไว้มาก ไม่รู้เลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง…ฉัน” ภวิตาที่เริ่มสำนึกคิดได้พูดออกมา “คุณหญิงไม่รู้ไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการไปพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจกัน ถ้าเราเป็นเหมือนมันแล้วโดนพูดแบบนั้นใส่เป็นผมคงเสียใจไม่น้อยเลยครับ มันเป็นแบบนั้นก็นับว่าโชคร้ายแล้วเราอย่าไปทำตัวใจร้ายบั่นทอนใจมันเลยนะครับ” ภวิตาพยักหน้ารับฟังในสิ่งที่ตาทองพูด “อีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคือเราอย่าไปตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ต้องศึกษาเนื้อในของเขาก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าคนนั้นเป็นยังไง และไม่ใช่เอาแต่เชื่อคำพูดยุยงของคนอื่น ลองได้มารู้จักเจ้าณดลก่อนแล้วคุณหญิงก็จะเข้าใจว่าทำไมคุณธนัทถึงเลือกมัน” ตาทองพูดสอน “ฉันเข้าใจแล้ว…ฉันเอาแต่คิดว่าสิ่งที่ฉันเลือกมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่จริงๆสิ่งที่ฉันควรสนใจมากกว่านั้นคือความสุขของเขา ถ้าเขาอยู่กับใครแล้วมีความสุขฉันก็ควรสนับสนุนเขาในฐานะแม่ ฉันผิดเองที่เอาแต่เชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วตัดสินณดลจากสิ่งที่ได้ยิน” ภวิตานั่งคิดทบทวนตัวเองสักพักก่อนจะพูดออกมา ที่ผ่านมาเธอไม่ชอบณดลเพราะฟังคำของป้าชม้อยแม่บ้านคนสนิทที่คอยโทรรายงาน ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่เรื่องไม่ดีที่ณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status