Share

ครอบครัวเหรอ?

last update Last Updated: 2025-10-13 21:22:32

พราวนภาจอดรถลูกรักของตัวเองหน้าคอนโดหรูตอนห้าทุ่มครึ่ง เพราะระยะทางมันค่อนข้างไกล ทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆนอนหลับสนิท เสียงลมหายใจดังออกมาเบาๆ ทำให้เธอไม่กล้าปลุกเขาเลย

“ริว ริว”

“ริว! ตื่น ถึงแล้ว พี่จะกลับบ้าน ง่วง”

พราวนภาเพิ่มเสียงขึ้นจากเดิม จนคนหลับสะดุ้งตื่น มองเธอด้วยใบหน้างัวเงีย ก่อนจะมองรอบตัว เมื่อเห็นว่าตรงหน้ารถคือคอนโดขนาดใหญ่ ก็เบ้ปาก พี่พราวมาส่งที่นี่จริงๆแฮะ!

“นอนด้วยกันไหม?”

“ไม่! พี่จะกลับแล้ว”

“ดึกขนาดนี้เนี่ยนะ!”

“รีบๆลงไปสิ พี่จะได้ไม่กลับดึกมากไปกว่านี้”

“เหอะ! หมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง”

“ขอบคุณนะ แต่พี่เหนื่อยจริงๆ”

พราวนภามองคนที่มีท่าทางน้อยอกน้อยใจ ด้วยสายตารู้สึกผิด

“ขับรถดีๆนะ”

“อืม”

คิริวมองรถที่เคลื่อนออกไปด้วยสายตาเป็นห่วง ถ้าไม่ติดว่ารถเขาจอดอยู่ข้างบน ซึ่งค่อนข้างใช้เวลามากในการขึ้นไป เขาคงขึ้นไปเอามันขับตามไปส่งเธอแล้ว ปล่อยให้เธอขับรถกลับเองดึกๆดื่นๆแบบนี้ เป็นห่วงชะมัด นึกว่าจะค้างด้วยกันซะอีก โคตรเซง!

พราวนภาขับรถมาถึงบ้านเกือบตีสอง เพราะเธอขับช้ากว่าตอนที่ไปส่งคิริวมาก จอดรถเสร็จก็รีบเดินหนีเข้าบ้าน เพราะไม่อยากปะทะกับใครตอนนี้ แต่เหมือนเธอจะคิดผิด เพราะตอนนี้ทั้งพ่อทั้งแม่เลี้ยง กำลังนั่งเรียงกันอยู่ในห้องรับแขกที่เธอต้องเดินผ่านขึ้นไปข้างบน

“พราวมาคุยกับพ่อหน่อย”

อรรถพรเอ่ยรั้งลูกสาวที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดได้ทัน ทำให้พราวนภาจำต้องเดินเข้าไปหา ทั้งที่ตั้งใจแล้วว่ายังไงก็จะเดินหนีขึ้นข้างบน แต่น้ำเสียงราบเรียบของพ่อทำให้เธอไม่กล้าทำแบบนั้น เดินไปนั่งลงที่โซฟาอีกตัว ก้มหน้าลงนิดๆ เหมือนที่เคยทำเวลาทำผิดมาแล้วถูกพ่อจับได้

“วิขอตัวนะคะ”

“ไม่ต้อง นั่งอยู่นี่แหละ”

อรรถพรพูดแบบนั้น วริษาจำต้องนั่งลงที่เดิม ผู้นำของบ้านมองลูกสาวเพียงคนเดียวก่อนจะถอนใจ

เมื่อตอนเย็นเขาได้รับโทรศัพท์จากบุคคลหนึ่ง ทางนั้นแจ้งว่าพราวนภาก่อเรื่องให้ลูกสาวของท่านเสื่อมเสียชื่อเสียง ให้เขาพาตัวพราวนภาไปกราบขอโทษให้ได้ ไม่งั้นท่านไม่จบเรื่องง่ายๆแน่ และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อธุรกิจที่เขาทำด้วย

“รู้ใช่ไหมว่าสร้างเรื่องอะไรไว้ ถึงได้กลับมาเอาป่านนี้”

เขาเลี้ยงเธอมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ทำไมจะไม่รู้นิสัยของลูกสาว แม้ช่วงหลังๆจะห่างเหินกันไป เพราะเจ้าตัวเริ่มตีตัวออกห่าง แต่ก็ยังอยู่ในสายตาเขาอยู่ตลอด

“เขาว่าไงละคะ”

“พราว!”

ท่าทีไม่สำนึกผิด ทำให้ท่านอดขึ้นเสียงใส่ลูกสาวตัวดีไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพราวนภาจะไม่เคยทำผิด พราวนภามักจะมีเรื่องแบบนี้มาให้เสมอ แม้บางครั้งจะไม่ใช่เธอเริ่มก่อน แต่ก็ต้องสำนึกบ้างว่าไม่ควรใช้กำลังตัดสินปัญหา

“พราวถามว่าเขาให้พราวทำยังไง ให้ไปกราบตีนลูกเขาเหรอ”

สิ่งที่พราวนภาพูดมาไม่เกินจริง จนอรรถพรกัดฟันแน่น รู้ดีว่าลูกสาวไม่ยอมทำแบบนั้นแน่ ถึงต้องนั่งรอเพื่อเกลี้ยกล่อมเธอมานานหลายชั่วโมง ตั้งแต่ทราบเรื่องจนถึงตอนนี้ แต่กระนั้นลูกสาวตัวดีก็ยังมีทีท่าว่าจะไม่ยอมให้ใครทั้งนั้น

“ไปทำให้มันถูกต้องซะพราว ตบหน้าเขาขนาดนั้น ก็ต้องไปขอโทษเขา”

“พราวจะทำก็ต่อเมื่อทางนั้นมาขอโทษพราวก่อน พ่อไม่ถามเขาเหรอคะว่าเรื่องมันเริ่มต้นยังไง ทำไมไม่ถามทางนั้นบ้างล่ะ ว่าใครสมควรขอโทษใคร”

พราวนภาลุกขึ้นยืนเมื่อหมดธุระที่จะพูด รู้อยู่แล้วว่าทางนั้นต้องติดต่อมาที่บ้าน และกดดันพ่อเธอทุกทาง แต่เธอคิดว่าสิ่งที่ทำนั้น ไม่ได้เกินไปเลยสักนิด ตบครั้งเดียวมันน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเธอเอ็นดูอินทิรามาก่อน เธอตบไปมากกว่านี้

“พ่อไม่คิดเลยว่าพราวจะเป็นคนแบบนี้”

“ทำไมพราวจะเป็นคนแบบนี้ไม่ได้ค่ะ พราวก็แค่ปกป้องตัวเอง”

“ปกป้องตัวเองด้วยการทำร้ายคนอื่นอย่างนี้เหรอพราว พ่อสอนให้พราวเป็นคนแบบนั้นเหรอ!”

“พ่อไม่ได้สอนค่ะ พราวเป็นของพราวเอง ไม่ต้องมีใครหน้าไหนมาช่วยรับสิ่งที่พราวทำทั้งนั้น พราวก่อเอง พราวจะรับผิดชอบเอง แต่ไม่ใช่การไปขอโทษทางนั้นแน่นอนค่ะ”

พราวนภาพูดยาวๆจนต้องหอบหายใจ มือไม้สั้นเพราะคุมอารมณ์ไม่ไหว มองหน้าคนเป็นพ่อที่มีสีหน้าไม่ต่างเธอเลย

“น้าว่าพราวไปขอโทษเขาดีกว่า รู้ไหมว่าถ้าไม่ทำ มันส่งผลต่อธุรกิจของพี่อรรถ”

วริษาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ อยากช่วยสามีพูดอีกแรง เพราะไม่อยากให้ธุรกิจที่ทำอยู่โดนผลกระทบด้วย ทางนั้นค่อนข้างเส้นใหญ่ จะทำอะไรก็คงง่ายอยู่แล้ว ไม่อยากให้งัดข้อกันนัก เพราะฝ่ายที่เสียเป็นเรามากกว่า ก็แค่ยอมเสียศักดิ์ศรีสักหน่อย เรื่องก็น่าจะจบแล้ว

“หึ! ก็เพราะยอมก้มหัวให้อำนาจที่กระทำแบบมิชอบไง ถึงได้อุดอู้อยู่แบบนี้”

เพี๊ยะ!

มือหนักๆของคนเป็นพ่อวาดลงไปบนแก้มขาวใสจนเป็นรอย นอกจากไม่สำนึก ยังลามปามอีก เขาไม่เคยสอนให้พราวนภาเป็นแบบนี้สักครั้ง

“เหอะ! ก็แค่พูดความจริง ทำรับไม่ได้”

“พราว!”

“ทำไม คิดว่าตบพราวแล้วพราวจะหยุดพูดเหรอ พราวพูดผิดตรงไหน ถ้าพ่อไม่ยอมก้มหัวให้พวกมัน ป่านนี้ธุรกิจของพ่อก้าวกระโดดไปไกลแล้ว เพราะมัวแต่กลัวคนแบบนั้นไง ถึงได้อยู่แบบนี้”

ที่บ้านเธอทำธุรกิจส่งออก ส่งออกทุกอย่างที่พอจะส่งไปขายได้ ลูกค้ามีเยอะเลย แต่ผลกำไรกลับน้อยนิด เพราะอะไรนะเหรอ เพราะโดนคนในหน่วยงานหน่วยงานหนึ่ง หักผลประโยชน์ที่ควรจะเป็นของพ่อเธอ ไปเป็นของตัวเองยังไงล่ะ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่สมควร แต่พ่อเธอหลับหูหลับตายอม เพราะเกรงกลัวอำนาจคนพวกนั้น

“แกไม่รู้อะไร แกอย่ามาพูดมากนะพราว”

“เหอะ! พราวไม่พูดไม่ใช่ว่าพราวโง่ พราวไม่ใช่พ่อที่จะดูคนไม่ออก ว่าคนไหนดี คนไหนไม่ดี”

พราวนภาเบนสายตาจากคนเป็นพ่อ ไปหยุดนิ่งอยู่ที่ใบหน้าของวริษาที่เป็นแม่เลี้ยง ใบหน้าที่สงบนิ่งมาตลอดซีดลงทันที ที่โดนเธอพูดแบบนั้นใส่

เพี๊ยะ!

“เมื่อไหร่จะเลิกลามปามวิ!”

“เมื่อไหร่เหรอ! น้าวิเลิกทำตัวเป็นปลิงเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละ”

พราวนภาหันหลังเดินหนีขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็ว แต่ต้องชะงักเท้าลง เมื่อเห็นน้องคนเล็กยืนน้ำตาคลออยู่หัวบันไดบ้านเธอยิ้มให้น้องชายเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะเดินผ่านเข้าห้องตัวเอง ลงกลอนแน่นหนา ก่อนจะปล่อยน้ำตาที่อดกลั้นมาตลอดไหลริน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ตรงนี่แหละ (NC)

    “พี่ไม่ได้ตั้งใจ” “ตั้งใจหรือเปล่า ตอนนี้ไม่รู้ด้วยแล้ว” มือหนาดึงใบหน้าสวยให้หันกลับมานิดหน่อยเพื่อรับจูบจากเขา ตอนนี้เธอจะรู้สึกยังไงก็ช่าง เขาไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้อีกแล้ว ลิ้นร้อนขยับตามใจตัวเอง ดูดดึงลิ้นเล็กที่ขยับตามอย่างช่ำชอง พี่พราวจูบเก่ง และตอบสนองได้ดี ดีจนเขาไม่อยากหยุด มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขแล้วตอนนี้ ความวาบวาบแล่นทั่วกายจนเสียวซ่าน เคล้นคลึงหน้าอกอวบทั้งสองข้างเบาบ้าง หนักบ้าง จนได้ยินเสียงครางหวานดังต่อเนื่อง ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องใส่อะไรแล้ว จึงปล่อยให้ผ้าเช็ดตัวหลุดออกไปจากเอวอย่างไม่สนใจใยดี ซ้ำยังใช้เท้าเขี่ยมันออกไปไกลๆ ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วด้วยซ้ำ “อื้อ ระ ริว อ่า” พราวนภาครางเสียงแผ่ว ขยับตัวตามใจคนตัวโต ตอนนี้เธอถูกพลิกให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา รอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า ทำให้เธอรู้ชะตากรรมของตัวเอง “ไม่ต้องห้ามนะ! ริวไม่หยุด” อุ้มคนเขินอายขึ้นนั่งในตู้เสื้อผ้าที่เปิดอ้าอยู่ ความแข็งแรงของมันทำให้เขามั่นใจ ว่าต่อให้ทำอะไรลงไปมันก็จะไม่พัง ดึงรั้งเสื้อที่ห่อหุ้มร่างกายคนบนนั้นออกไป รวมถึงกางเกงที่ใส่ด้วย “ตรงนี้เหรอ?” “อืม ตรงน

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   งี่เง่า

    “เราเป็นแฟนกัน หรือริวเป็นแฟนยัยเด็กนี่” ตอนนี้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ มีเพียงเสียงเพลงที่ยังคงดังกระหึ่ม เพื่อนๆของคิริว ต่างมองด้วยความสงสัยปนตกใจ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอ้อมดาวนั้นเป็นแฟนไอ้วิน พูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าไอ้วินแม่งโดนแฟนแทงข้างหลัง “เราเป็นแฟนกันด้วยเหรอ?” คิริวเองก็เมาไม่น้อย ถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสียงดัง เมื่อกี้พูดอะไรกับเขาไว้ ทำไมถึงกล้ามาถามเขาด้วยคำถามแบบนี้ “เหอะ! งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเอง ว่าที่ผ่านมาเราเป็นแฟนกัน” พราวนภาหมุนตัวออกเดิน อับอายชิบหายที่ตัวเองคิดไปไกลคนเดียว เธอแค่อยากถอยไปตั้งหลัก ไม่ได้บอกว่าเลิก แต่ไม่กล้าบอกให้เขารอ แค่ให้โอกาสเขาเท่านั้น เผื่อเขาเบื่อผู้หญิงอายุมากที่ดีแต่เล่นตัวแบบเธอไง พราวนภาเดินกึ่งวิ่งออกมาหน้าร้าน มองหารถแท็กซี่ แต่ไม่มีว่างสักคัน ช่วงนี้คนทยอยเข้าทยอยออก รถเลยไม่ค่อยว่าง ในจังหวะที่จะเดินออกไปนอกร้านอีกสักหน่อยเพื่อเรียกรถ ข้อมือก็ถูกดึงไปจับไว้แน่น ซ้ำยังถูกลากไปหลังร้านอย่างไร้ความปรานี “ปล่อยเลยนะ!” “เงียบ!” คิริวปรามเสียงดุ ยังคงดึงมือคนข้างๆเดินไปที่รถ เล่นตลกอะไรกับความรู้สึกเขาหนักหนา เห็นเขาไม่เรียกร

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ทะเลาะ

    “วินไม่กล้ารับอะไรจากพี่พราวหรอก” เขารู้สึกว่าเธอเป็นพี่มาตลอด แต่นี่คือครั้งแรกที่เรียกเธอว่าพี่ ละอายใจเหลือเกินที่แม่ของตัวเองทำแบบนี้กับพี่พราวมาตลอด เลยไม่กล้าเรียกเธอว่าพี่สักครั้ง เพราะกลัวเธอโกรธ เธอเกลียดเขา เหมือนที่เกลียดแม่ของเขา แต่เธอแสดงออกมาตลอดว่าไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยสักครั้ง “พี่ให้ก็รับไปเถอะ บัตรเติมน้ำมันอยู่ในรถ ใช้ได้ตลอดเดี๋ยวพี่จัดการเรื่องเงินเอง วินมีหน้าที่เพียงแค่รับไป และช่วยพี่ในส่วนที่พี่ไม่สามารถทำได้” พราวนภาตบไหล่น้องชายเบาๆ เหม่อมองขึ้นไปบนฟ้า เธอไม่ได้ตั้งใจมากินเหล้า เลยไม่มีความรู้สึกว่าอยากเข้าไปข้างใน ที่มาตามคำชวนเพราะห่วงวินนี่แหละ รู้ดีว่าวริษาต้องฟ้องอะไรวินแน่ๆ ตั้งใจจะทำให้เธอดูแย่ในสายตาทุกคน งานถนัดเขาล่ะ “จะเข้าไปยัง!” “ยัง มานี่หน่อย!” พราวนภาหันกลับไปยิ้มให้พลางกระดิกนิ้วชี้เรียก บุคคลที่ถามคำถามเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงห้วนจัด คงแอบตามมา เพราะคิดว่าเธอกับวินอาจจะทำอะไรแปลกๆสินะ เธอไม่ใช่คนแบบนั้นไหม ไม่งั้นบอกวินไปตั้งนานแล้วว่าชอบ คิริวเดินหน้ามุ่ยเข้าไปใกล้ เพื่อนตบบ่าให้กำลังใจเบาๆ ก่อนจะเดินหนีไปให้คนทั้งสองได้ใ

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ถ้าบอกว่าหวัง

    “ถ้าบอกว่าหวังล่ะ” ตอนนี้เขากับเธอเดินมาถึงรถพอดี จึงใช้แขนข้างที่ว่างวางลงบนตัวรถด้านที่พี่พราวต้องขึ้นไปนั่ง กักขังเธอไว้กลายๆ พลางจ้องมองด้วยสายตาจริงจัง เขาหวังมาตลอดแหละ หวังมาตลอดเลย! “รอก่อนได้ไหมล่ะ รอให้พี่ชัดเจนกว่านี้ก่อน พี่จะให้ทุกอย่างที่ริวต้องการ” มือเรียวสวยยกขึ้นดันอกกว้างไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาใกล้มากกว่านี้ ตอนนี้ยังอยู่ในลานจอดรถของห้างอยู่เลย คนเดินผ่านไปมาประปราย เธอกลัวมากว่าจะมีข่าวลือไม่ดีออกมา ทำให้น้องมันเสียหาย คิริวยังเรียนรู้ เป็นวัยที่ไม่ควรมีเรื่องให้เสื่อมเสีย เธอคิดแบบนั้น “ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร แบบที่เป็นตอนนี้ก็ดีแล้ว” มือเรียวยาวลากไล้กรอบหน้าหวาน จับเส้นผมสีน้ำตาลระกรอบหน้าออกไปทัดไว้หลังใบหู แค่ได้อยู่ใกล้ ได้แบ่งปันอะไรบางอย่างกับเธอ เขาก็มีความสุขมากแล้ว ไม่ได้รีบร้อนอะไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร “ไปกันเถอะ เดี๋ยววินรอ” พราวนภายิ้มกว้าง มองนาฬิกาข้อมือพร้อมกับเปิดประตูรถ ตอนนี้จะสามทุ่มแล้ว ควรออกไปเจอน้องชายได้แล้ว เดี๋ยวน้องคิดถึง @xxx club 21:20 น. ร้านที่วินณภัทรนัดคิริวมาดื่ม คือร้านที่อยู่ห่างจากมหาลัยไม่มาก แ

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   หวังอะไร

    ปึ่ง! พราวนภาถูกยัดเข้าไปนั่งในรถ เสียงประตูที่ถูกปิดลง ดังมากจนเธอตกใจ มองใบหน้าคนที่ตั้งใจวนรถออกจากที่จอดนิ่งๆ ไม่ยอมพูดยอมไม่จา น้องมันเป็นเหี้ยอะไรอีกวะ! “โกรธพี่เรื่องที่พี่ทำให้นักข่าวถ่ายรูปเราเหรอ?” “เปล่า” “แล้วโกรธอะไรอะ!” “หึง” “พี่ทำอะไรให้หึงตอนไหน?” พราวนภาถามด้วยใบหน้าขึ้นสี เธอมั่นใจว่าไม่ได้สัมผัสผู้ชายคนไหนเลย แค่อยู่ใกล้ แต่ไม่ได้ใกล้ชิดจนทำให้คนข้างๆหึงได้ เมื่อกี้เธอคิดว่าตัวเองวางตัวดีนะ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกเหรอ? “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” “ผู้ชายคนไหนวะ!” “คนที่ยืนข้างๆ!” “พี่ก้อง??” “เออนั่นแหละ!” คิริวเบ้ปาก นี่คิดเองไม่ได้และไม่รู้เลยสินะ ว่าคนๆนั้นนะ มันน่ากลัวแค่ไหน ภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่แต่งเป็นหญิงเต็มตัว แต่คิริวรู้สึกว่าเขายังคงซุกซ่อนความเป็นชายไว้อยู่ ไม่รู้ดิ แค่รู้สึกว่าเป็นแบบนั้น ผ่านสายตาที่มองมายังพี่พราว รู้สึกว่าเขาคนนั้นเอ็นดูเธอ และเอ็นดูมาก จนอาจจะเรียกได้ว่ารัก! เหมือนที่เขารักเธอ “อุบ! ฮะฮ่า ฮ่าๆ ดูออกขนาดนั้นเลย” พาวนภาหัวเราะจนน้ำตาเล็ด คิริวเก่งนะที่ดูออก เธอรู้ว่าพี่ก้องมีรสนิยมยังไง เพราะค่อนข้

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ขอโทษ

    การรอคอยของคนทั้งสองสิ้นสุดลง หลังจากนั่งดูแฟชั่นโชว์จากกระเป๋าแบรนด์ดังร่วมชั่วโมง ตอนนี้เจ้าของแบรนด์เดินออกมาพบปะแขกในงาน และยืนรับดอกไม้ที่คนนำมาร่วมแสดงความยินดีอยู่บนเวที พราวนภาไม่รอช้า หอบช่อลิลลี่ที่วางอยู่บนตักไปทันที แหวกผู้คนมากมายไปหน้าเวทีด้วยความยากลำบาก และเผลอชนเข้ากับไหล่คุณหญิงท่านหนึ่งที่นั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้าสุด “ขอโทษค่ะ” พราวนภายกมือขึ้นไหว้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นใบหน้าคนที่นั่งอยู่ชัดเจนก็รีบหันหน้าหนี วันนี้มันวันอะไรเนี่ย ทำไมเธอถึงได้เจอคนที่ไม่อยากเจอด้วย! พราวนภาหลบไปอย่างรวดเร็ว ให้กลมกลืนกับคนที่มาร่วมแสดงความยินดีหน้าเวที เป็นการหลบเลี่ยงการพบเจอที่ไม่ควร ได้ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เพราะสายตาของหญิงสูงวัยยังคงจับจ้องแผ่นหลังของเธอ มือท่านสกิดผู้ชายที่ร่วมทุกข์กันมายาวนานที่นั่งอยู่ข้างๆ ชี้มือให้สามีดูเด็กผู้หญิงที่ยืนรอต่อแถวร่วมแสดงความยินดีกับหลานชายที่รักของท่าน อย่าง เกียรติกรุณ โหรมิภัทร “คุณว่าใช่ยัยหนูไหม?” “ไม่น่าใช่นะคุณ ยัยหนูนั่นตัวเล็กออก” ท่านไพรรัตน์มองตามสายตาภรรยาไป ก่อนจะสายหน้า เมื่อเห็นผู้หญิงตัวสูงกำลังเบียดเสียด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status