Share

ตรงนี้ไม่ได้นะ

last update Last Updated: 2025-10-13 21:21:54

“ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวก็โดนจูบหรอกพราว ถอยไปห่างๆเลย”

“ริวเป็นคนเดินมาใกล้พี่เองนะ แล้วอยากจูบทำไมจะจูบไม่ได้ ในเมื่อพี่เป็นของริว”

พูดจบก็รีบก้มหน้ามองเท้า สมองเธอยังปกติอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงได้สั่งการให้ปากพูดอะไรแบบนี้ออกมา บ้าไปแล้วสินะ!

“พูดเองนะพราว!”

คิริวยิ้มมุมปาก ไม่รออะไรก้มลงทำตามที่คนตรงหน้าพูดทันที ใช่สิ เธอเป็นของเขา

พี่พราวเป็นของริวคนเดียว จำได้แล้วใช่ไหม!

“อื้อ”

พราวนภาครางรับจูบเร่าร้อน เธอมั่นใจว่าตัวเองจูบเก่งมากนะ แต่ทำไมเด็กนี่ถึงดูเก่งกว่า ลิ้นร้อนขยับรัวเร็ว เกี่ยวลิ้นของเธอจนเธอเริ่มตามไม่ทัน จูบของเขาไม่ได้ดุดันรุนแรง แต่รวดเร็วเหมือนพยายามกระตุ้นให้รู้สึกอยากทำอะไรที่มากกว่าจูบ

“อือ พอก่อนพราว! ตรงนี้ไม่ได้”

คิริวผละออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้สึกว่าเริ่มคุมอารมณ์ไม่ไหว แม้จะเสียดายรสจูบของพี่พราวอยู่ แต่สถานที่มันไม่เอื้ออำนวยให้ทำต่อจากนั้น ป่านนี้คนข้างนอกตามหาเขากับเธอกันให้ขวักแล้วมั้ง

“ถ้าเป็นที่อื่นได้งั้นเหรอ”

เป๊าะ!

“เจ็บนะ!”

“คิดก่อนพูดหน่อยเหอะ!”

คิริวดุคนที่ลูบหน้าผากตัวเองปอยๆ เพราะฝีมือการดีดนิ้วของเขาเอง พูดไม่คิดเดี๋ยวก็เป็นแบบคืนนั้นอีก คราวนี้จะมาเฉไฉว่าตัวเองเมาแล้วจำไม่ได้ ไม่ได้แล้วนะ เพราะว่าตอนนี้ไม่ได้เมา แม้จะหน้าแดงมากก็เถอะ แต่แดงเพราะเขา ไม่ใช่เพราะเหล้าแน่นอน

“อือ แล้วนี่ริวไม่ต้องกลับเข้าไปถ่ายต่อเหรอ”

พราวนภาหันกลับไปแต่งหน้าอีกครั้ง เธอเผลอปล่อยให้ความต้องการครอบงำจนไม่มีสติอีกแล้ว เหล่มองคนที่กลับไปวางสีหน้าเป็นปกตินิดๆ

คิริวเป็นผู้ชายที่เปลี่ยนสีหน้าได้เร็วมาก ตอนนี้เขาทำหน้านิ่งๆ นิ่งซะจนเธอเผลอมองเพลินเลย

“ไม่อะ แม่งงานอะไรก็ไม่รู้ มันควรถ่ายจบตั้งนานแล้วไหม ไม่รู้ยัยนั่นขออะไรช่างภาพไว้ ถึงถ่ายไม่เสร็จสักที”

ก่อนที่จะรับปากมาทำงานนี้ เขาดูรายละเอียดหมดแล้ว อ่านตั้งสามรอบ พอมาทำงานจริงๆ ไม่เห็นเหมือนที่แจ้งไว้สักนิด เทแม่งเหอะ เบื่อ!

“งั้นเราไปหาอะไรกินไหม พี่หิว”

พราวนภามองหน้าคิริวผ่านกระจก ในสถานการณ์แย่ๆแบบนี้เธอไม่อยากอยู่คนเดียว ยังไม่อยากกลับบ้านด้วย เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เลี้ยงเป็นห่วง วันนี้คิริวทำตัวอ่อนโยน เธอจึงรู้สึกว่าอยากพึ่งพาเขา

“เลี้ยง?”

“ปกติก็เลี้ยงอยู่แล้วป่ะ!”

“อืม งั้นจะกินให้กระเป๋าแฟ๊บเลย ให้ชวนไอ้วินไหม มันว่างนะ”

คิริวมองอย่างรู้ทัน พี่พราวคงไม่อยากอยู่คนเดียวนั่นแหละ แม้จะรู้สึกแย่ที่ต้องมีวินร่วมวงมื้ออาหารครั้งนี้ด้วย แต่เขาไม่อยากเห็นเธอทำหน้าไม่สบายใจอีก

“ไม่อะ พี่อยากไปกับริวแค่สองคน”

ใบหน้าหล่อเหลาแอบหันหนีไปยิ้ม แบบไม่ให้คนที่ง่วนกับการแต่งหน้าเห็น พูดถูกใจเขาก็เป็นแฮะ จะทำให้รักให้หลงไปถึงไหนก็ไม่รู้

17:50 น.

เพราะออกมาจากสตูดิโอก็เย็นมากแล้ว ซ้ำยังต้องขับรถฝ่ารถติดอีก ทำให้พราวนภาขับรถมาถึงร้านอาหารที่ตกลงกันกับคิริวช้ามาก ช้าจนสามารถเดินออกไปมองพระอาทิตย์ตกดินที่ศาลาท่าน้ำได้เลย

“นานแล้วที่ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้”

พราวนภากางแขนทั้งสองข้าง ออกรับสายลมที่พัดเข้ากระทบตัว ตอนนี้เธอยืนอยู่บนศาลาไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างๆเธอมีผู้ชายตัวสูงยืนทอดสายตามองออกไปไกล เธอจึงหันไปมองเขาเงียบๆ อย่างไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องมอง แต่คิริวเป็นผู้ชายที่มองแล้วไม่เบื่อเลย แม้จะชอบทำหน้านิ่งๆดุๆก็เถอะ

“ก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำ”

คิริวหันกลับไปมองคนข้างตัว เมื่อรู้ว่าถูกมองอยู่ใบหน้าก็ร้อนฉ่าขึ้นมาซะงั้น บรรยากาศรอบตัวเขากับพี่พราวเปลี่ยนไปเยอะมากเลย เยอะจนเขาคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเธออาจจะรู้สึกกับเขาบ้างไม่มาก ก็น้อย

“ก็ไม่มีคนหาเลี้ยงนี่นา จะรอขอพ่อก็อย่างที่ริวเห็น ช่วงนี้ไวท์ใช้เงินเยอะมาก ไหนจะค่าเทอมวินอีก ไม่อยากเป็นภาระใครอะ”

“มาเป็นภาระริวสิ ยอมให้เป็นภาระทั้งชีวิตเลย”

“เหอะ! ก่อนหน้านั้นพูดว่าอะไรนะ ให้พี่เลี้ยงใช่ไหม มาพูดอะไรตอนนี้ เข้าไปข้างในเถอะ อาหารมาแล้ว”

พราวนภาเดินนำกลับไปนั่งที่โต๊ะ ยังหรอก เธอยังไม่ได้รู้สึกกับเขาขนาดนั้น แม้จะตั้งใจว่า ให้เขาเป็นคนแรกและคนเดียว แต่ระหว่างเธอกับเขานั้นยังต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาชอบเธอหรือเปล่า เขาอาจจะยังชอบวินอยู่ก็ได้ ใครจะไปรู้

อาหารมื้อใหญ่ที่พราวนภาตั้งใจสั่งมาเพราะอยากใช้เวลาอยู่ข้างนอกนานๆ จบลงตอนเวลาเกือบสี่สุ่ม เช็คบิลทีเข่าแทบทรุด เธอควักกระเป๋าเกือบหมื่น แต่ก็คุ้มค่าแหละ เพราะตอนนี้เธอสบายใจมาก

“ให้พี่ไปส่งที่ไหน”

“แล้วแต่ จะให้ไปนอนด้วยก็ได้นะ ถ้านอนคนเดียวไม่ได้”

คิริวมองคนที่ตั้งใจขับรถด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าพี่พราวไม่ตอบอะไร ก็หลับตาลงอีกครั้ง กินอิ่มแล้วมันง่วงอะ มีคนขับรถให้นั่ง สบายจะตาย!

“นอนโรงแรมกันไหม!”

“หะ!”

“ไม่รู้ดิ ไม่อยากกลับบ้านอะ”

พราวนภาตามองถนนก็จริง แต่ในใจกลับอยากให้ถนนที่มุ่งไปที่บ้าน ยาวออกไปไกลแสนไกล

เข้าใจไหมว่าเธอเป็นลูกของภรรยาเก่าที่ตายไปแล้วของพ่อ มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงมักจะไม่ถูกกัน แม้เธอกับน้าวิจะไม่ได้เถียงหรือตบตีกันเหมือนเคสอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้รักกันกลมกลืนขนาดนั้น เธอไม่อยากเอาปัญหาเข้าบ้าน เหมือนตอนนี้พ่อกับแม่เลี้ยงกำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่ด้วย เธอไม่อยากเอาปัญหาไปเพิ่มให้คนทั้งสองอีก

“ไปนอนคอนโดนี่ไหมล่ะ จะได้ไม่ต้องเสียค่าห้องอีก ที่จริงมีห้องว่างนะ ถ้าอึดอัดใจก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียวก็ได้นี่”

อยากจะดึงเธอเข้ามากอดชะมัด แต่เพราะพี่พราวขับรถอยู่ เขาจึงทำได้แค่พูดแล้วนั่งมองอยู่แบบนี้ รู้ว่าสภาพครอบครัวนั้นเป็นยังไง รู้ว่าพี่พราวไม่ออกมาหรอก แต่พูดเผื่อไว้ ถ้ามาได้ก็ดี เพราะห้องที่ว่างมันติดกับห้องเขาเอง หรือจะอยู่ห้องเขาเลยก็ได้ ไม่ถืออยู่แล้ว

“คิดดูก่อน พี่ไปส่งริวที่คอนโดนะ อยู่ที่ไหนอะ”

“ถนนxx ใกล้ๆมหาลัยนู้นอะ”

“ไกลแฮะ”

พราวนภาพูดแค่นั้น ก็ตั้งใจขับรถมากขึ้น อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้มันเกิดแหละ เธอทำได้แค่เตรียมพร้อมรับมือกับทุกเรื่องเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ตรงนี่แหละ (NC)

    “พี่ไม่ได้ตั้งใจ” “ตั้งใจหรือเปล่า ตอนนี้ไม่รู้ด้วยแล้ว” มือหนาดึงใบหน้าสวยให้หันกลับมานิดหน่อยเพื่อรับจูบจากเขา ตอนนี้เธอจะรู้สึกยังไงก็ช่าง เขาไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้อีกแล้ว ลิ้นร้อนขยับตามใจตัวเอง ดูดดึงลิ้นเล็กที่ขยับตามอย่างช่ำชอง พี่พราวจูบเก่ง และตอบสนองได้ดี ดีจนเขาไม่อยากหยุด มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขแล้วตอนนี้ ความวาบวาบแล่นทั่วกายจนเสียวซ่าน เคล้นคลึงหน้าอกอวบทั้งสองข้างเบาบ้าง หนักบ้าง จนได้ยินเสียงครางหวานดังต่อเนื่อง ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องใส่อะไรแล้ว จึงปล่อยให้ผ้าเช็ดตัวหลุดออกไปจากเอวอย่างไม่สนใจใยดี ซ้ำยังใช้เท้าเขี่ยมันออกไปไกลๆ ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วด้วยซ้ำ “อื้อ ระ ริว อ่า” พราวนภาครางเสียงแผ่ว ขยับตัวตามใจคนตัวโต ตอนนี้เธอถูกพลิกให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา รอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า ทำให้เธอรู้ชะตากรรมของตัวเอง “ไม่ต้องห้ามนะ! ริวไม่หยุด” อุ้มคนเขินอายขึ้นนั่งในตู้เสื้อผ้าที่เปิดอ้าอยู่ ความแข็งแรงของมันทำให้เขามั่นใจ ว่าต่อให้ทำอะไรลงไปมันก็จะไม่พัง ดึงรั้งเสื้อที่ห่อหุ้มร่างกายคนบนนั้นออกไป รวมถึงกางเกงที่ใส่ด้วย “ตรงนี้เหรอ?” “อืม ตรงน

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   งี่เง่า

    “เราเป็นแฟนกัน หรือริวเป็นแฟนยัยเด็กนี่” ตอนนี้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ มีเพียงเสียงเพลงที่ยังคงดังกระหึ่ม เพื่อนๆของคิริว ต่างมองด้วยความสงสัยปนตกใจ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอ้อมดาวนั้นเป็นแฟนไอ้วิน พูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าไอ้วินแม่งโดนแฟนแทงข้างหลัง “เราเป็นแฟนกันด้วยเหรอ?” คิริวเองก็เมาไม่น้อย ถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสียงดัง เมื่อกี้พูดอะไรกับเขาไว้ ทำไมถึงกล้ามาถามเขาด้วยคำถามแบบนี้ “เหอะ! งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเอง ว่าที่ผ่านมาเราเป็นแฟนกัน” พราวนภาหมุนตัวออกเดิน อับอายชิบหายที่ตัวเองคิดไปไกลคนเดียว เธอแค่อยากถอยไปตั้งหลัก ไม่ได้บอกว่าเลิก แต่ไม่กล้าบอกให้เขารอ แค่ให้โอกาสเขาเท่านั้น เผื่อเขาเบื่อผู้หญิงอายุมากที่ดีแต่เล่นตัวแบบเธอไง พราวนภาเดินกึ่งวิ่งออกมาหน้าร้าน มองหารถแท็กซี่ แต่ไม่มีว่างสักคัน ช่วงนี้คนทยอยเข้าทยอยออก รถเลยไม่ค่อยว่าง ในจังหวะที่จะเดินออกไปนอกร้านอีกสักหน่อยเพื่อเรียกรถ ข้อมือก็ถูกดึงไปจับไว้แน่น ซ้ำยังถูกลากไปหลังร้านอย่างไร้ความปรานี “ปล่อยเลยนะ!” “เงียบ!” คิริวปรามเสียงดุ ยังคงดึงมือคนข้างๆเดินไปที่รถ เล่นตลกอะไรกับความรู้สึกเขาหนักหนา เห็นเขาไม่เรียกร

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ทะเลาะ

    “วินไม่กล้ารับอะไรจากพี่พราวหรอก” เขารู้สึกว่าเธอเป็นพี่มาตลอด แต่นี่คือครั้งแรกที่เรียกเธอว่าพี่ ละอายใจเหลือเกินที่แม่ของตัวเองทำแบบนี้กับพี่พราวมาตลอด เลยไม่กล้าเรียกเธอว่าพี่สักครั้ง เพราะกลัวเธอโกรธ เธอเกลียดเขา เหมือนที่เกลียดแม่ของเขา แต่เธอแสดงออกมาตลอดว่าไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยสักครั้ง “พี่ให้ก็รับไปเถอะ บัตรเติมน้ำมันอยู่ในรถ ใช้ได้ตลอดเดี๋ยวพี่จัดการเรื่องเงินเอง วินมีหน้าที่เพียงแค่รับไป และช่วยพี่ในส่วนที่พี่ไม่สามารถทำได้” พราวนภาตบไหล่น้องชายเบาๆ เหม่อมองขึ้นไปบนฟ้า เธอไม่ได้ตั้งใจมากินเหล้า เลยไม่มีความรู้สึกว่าอยากเข้าไปข้างใน ที่มาตามคำชวนเพราะห่วงวินนี่แหละ รู้ดีว่าวริษาต้องฟ้องอะไรวินแน่ๆ ตั้งใจจะทำให้เธอดูแย่ในสายตาทุกคน งานถนัดเขาล่ะ “จะเข้าไปยัง!” “ยัง มานี่หน่อย!” พราวนภาหันกลับไปยิ้มให้พลางกระดิกนิ้วชี้เรียก บุคคลที่ถามคำถามเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงห้วนจัด คงแอบตามมา เพราะคิดว่าเธอกับวินอาจจะทำอะไรแปลกๆสินะ เธอไม่ใช่คนแบบนั้นไหม ไม่งั้นบอกวินไปตั้งนานแล้วว่าชอบ คิริวเดินหน้ามุ่ยเข้าไปใกล้ เพื่อนตบบ่าให้กำลังใจเบาๆ ก่อนจะเดินหนีไปให้คนทั้งสองได้ใ

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ถ้าบอกว่าหวัง

    “ถ้าบอกว่าหวังล่ะ” ตอนนี้เขากับเธอเดินมาถึงรถพอดี จึงใช้แขนข้างที่ว่างวางลงบนตัวรถด้านที่พี่พราวต้องขึ้นไปนั่ง กักขังเธอไว้กลายๆ พลางจ้องมองด้วยสายตาจริงจัง เขาหวังมาตลอดแหละ หวังมาตลอดเลย! “รอก่อนได้ไหมล่ะ รอให้พี่ชัดเจนกว่านี้ก่อน พี่จะให้ทุกอย่างที่ริวต้องการ” มือเรียวสวยยกขึ้นดันอกกว้างไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาใกล้มากกว่านี้ ตอนนี้ยังอยู่ในลานจอดรถของห้างอยู่เลย คนเดินผ่านไปมาประปราย เธอกลัวมากว่าจะมีข่าวลือไม่ดีออกมา ทำให้น้องมันเสียหาย คิริวยังเรียนรู้ เป็นวัยที่ไม่ควรมีเรื่องให้เสื่อมเสีย เธอคิดแบบนั้น “ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร แบบที่เป็นตอนนี้ก็ดีแล้ว” มือเรียวยาวลากไล้กรอบหน้าหวาน จับเส้นผมสีน้ำตาลระกรอบหน้าออกไปทัดไว้หลังใบหู แค่ได้อยู่ใกล้ ได้แบ่งปันอะไรบางอย่างกับเธอ เขาก็มีความสุขมากแล้ว ไม่ได้รีบร้อนอะไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร “ไปกันเถอะ เดี๋ยววินรอ” พราวนภายิ้มกว้าง มองนาฬิกาข้อมือพร้อมกับเปิดประตูรถ ตอนนี้จะสามทุ่มแล้ว ควรออกไปเจอน้องชายได้แล้ว เดี๋ยวน้องคิดถึง @xxx club 21:20 น. ร้านที่วินณภัทรนัดคิริวมาดื่ม คือร้านที่อยู่ห่างจากมหาลัยไม่มาก แ

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   หวังอะไร

    ปึ่ง! พราวนภาถูกยัดเข้าไปนั่งในรถ เสียงประตูที่ถูกปิดลง ดังมากจนเธอตกใจ มองใบหน้าคนที่ตั้งใจวนรถออกจากที่จอดนิ่งๆ ไม่ยอมพูดยอมไม่จา น้องมันเป็นเหี้ยอะไรอีกวะ! “โกรธพี่เรื่องที่พี่ทำให้นักข่าวถ่ายรูปเราเหรอ?” “เปล่า” “แล้วโกรธอะไรอะ!” “หึง” “พี่ทำอะไรให้หึงตอนไหน?” พราวนภาถามด้วยใบหน้าขึ้นสี เธอมั่นใจว่าไม่ได้สัมผัสผู้ชายคนไหนเลย แค่อยู่ใกล้ แต่ไม่ได้ใกล้ชิดจนทำให้คนข้างๆหึงได้ เมื่อกี้เธอคิดว่าตัวเองวางตัวดีนะ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกเหรอ? “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” “ผู้ชายคนไหนวะ!” “คนที่ยืนข้างๆ!” “พี่ก้อง??” “เออนั่นแหละ!” คิริวเบ้ปาก นี่คิดเองไม่ได้และไม่รู้เลยสินะ ว่าคนๆนั้นนะ มันน่ากลัวแค่ไหน ภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่แต่งเป็นหญิงเต็มตัว แต่คิริวรู้สึกว่าเขายังคงซุกซ่อนความเป็นชายไว้อยู่ ไม่รู้ดิ แค่รู้สึกว่าเป็นแบบนั้น ผ่านสายตาที่มองมายังพี่พราว รู้สึกว่าเขาคนนั้นเอ็นดูเธอ และเอ็นดูมาก จนอาจจะเรียกได้ว่ารัก! เหมือนที่เขารักเธอ “อุบ! ฮะฮ่า ฮ่าๆ ดูออกขนาดนั้นเลย” พาวนภาหัวเราะจนน้ำตาเล็ด คิริวเก่งนะที่ดูออก เธอรู้ว่าพี่ก้องมีรสนิยมยังไง เพราะค่อนข้

  • คุณพี่ที่(ร้าย)รัก   ขอโทษ

    การรอคอยของคนทั้งสองสิ้นสุดลง หลังจากนั่งดูแฟชั่นโชว์จากกระเป๋าแบรนด์ดังร่วมชั่วโมง ตอนนี้เจ้าของแบรนด์เดินออกมาพบปะแขกในงาน และยืนรับดอกไม้ที่คนนำมาร่วมแสดงความยินดีอยู่บนเวที พราวนภาไม่รอช้า หอบช่อลิลลี่ที่วางอยู่บนตักไปทันที แหวกผู้คนมากมายไปหน้าเวทีด้วยความยากลำบาก และเผลอชนเข้ากับไหล่คุณหญิงท่านหนึ่งที่นั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้าสุด “ขอโทษค่ะ” พราวนภายกมือขึ้นไหว้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นใบหน้าคนที่นั่งอยู่ชัดเจนก็รีบหันหน้าหนี วันนี้มันวันอะไรเนี่ย ทำไมเธอถึงได้เจอคนที่ไม่อยากเจอด้วย! พราวนภาหลบไปอย่างรวดเร็ว ให้กลมกลืนกับคนที่มาร่วมแสดงความยินดีหน้าเวที เป็นการหลบเลี่ยงการพบเจอที่ไม่ควร ได้ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เพราะสายตาของหญิงสูงวัยยังคงจับจ้องแผ่นหลังของเธอ มือท่านสกิดผู้ชายที่ร่วมทุกข์กันมายาวนานที่นั่งอยู่ข้างๆ ชี้มือให้สามีดูเด็กผู้หญิงที่ยืนรอต่อแถวร่วมแสดงความยินดีกับหลานชายที่รักของท่าน อย่าง เกียรติกรุณ โหรมิภัทร “คุณว่าใช่ยัยหนูไหม?” “ไม่น่าใช่นะคุณ ยัยหนูนั่นตัวเล็กออก” ท่านไพรรัตน์มองตามสายตาภรรยาไป ก่อนจะสายหน้า เมื่อเห็นผู้หญิงตัวสูงกำลังเบียดเสียด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status