“อ๊ะ โอ้ย!”
“กัดทำไมวะพราว!” พราวนภาเงยหน้าขึ้นไปมอง คนที่ร้องโอดโอยเพราะโดนเธอกัดหัวนม ก็อยากมาทำให้เธอหวั่นไหวทำไม แล้วยังโผล่มาในตอนที่เธอกำลังมีอารมณ์สุดๆอีก เธออยากจะทำมันมากๆ แต่กลัวว่าตัวเองจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ เธอยอมรับว่าเมาหนักมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีสติ แต่พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้ เธออาจจะจำเรื่องที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ได้ “ทำยังไงก็ได้ ให้พี่ไม่ลืมเรื่องในคืนนี้” พราวนภามองด้วยสายตาจริงจัง ขยับนั่งหลังตรงอยู่บริเวณเอวสอบ จ้องมองดวงตาหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ไม่วางตา วันนี้สีตาของริวสวยที่สุด “อือ” คิริวรับคำ จับจ้องใบหน้าสวย ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด เมื่อความรู้สึกของเขาถาโถมมากขึ้น เขารักเธอมานานหลายปี ทำไมจะทำในสิ่งที่เธอขอร้องไม่ได้ จะทำให้จำได้ไม่ลืมเลย ว่าต่อจากนี้ นี่คือผัว! คิริวขยับตัวเร็วๆ ส่งให้คนตัวเล็กกว่าไปนอนอยู่ใต้ร่าง นั่งคร่อมทับขาเรียวยาวไว้ กันพี่พราวมันบ้าจี้ยกขึ้นถีบ เลื่อนมือขึ้นไปขยุ้มหน้าอกคัพ c เต็มไม้เต็มมือ เมื่อทนเกะกะลูกตาของบราไม่ไหว ก็เกี่ยวตะขอดึงมันออกไปให้พ้นตัว โน้มลงไปใกล้ ใช้ปากครอบครองสองเต้าอวบสลับกันไปมา “ซี๊ด! อ๊า เสียว!” ความเสียวแล่นพล่านทั่วสรรพางค์กาย มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมสีดำสนิท ดึงรั้งแรงๆเพื่อบรรเทาความเสียวซ่าน ไม่กล้ามองไปที่ไหน ได้แต่ทอดสายตามองเพดาน พลางคิดในใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ร่างกายขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยแดง จากฝีมือคนตัวโต ทุกที่ที่ริมฝีปากหนาลากผ่าน เขาฝากรอยแดงจางๆทิ้งไว้ ตื่นมาเธอจะได้เห็น และจำเรื่องที่เกิดตอนนี้ได้ง่ายขึ้น มือหนาเริ่มเลื่อนลงต่ำ มือซ้ายขย้ำหน้าอก มือขวาเลื่อนลงเรื่อย จนถึงกลางกายสาว เกี่ยวกางเกงชั้นในลูกไม้ออกไปนิดหน่อย เพื่อสอดนิ้วเรียวยาวเข้าไปทักทายดอกไม้ช่องาม “อ๊า เบาหน่อย เจ็บ” ความเจ็บวิ่งเข้ามาแทนความเสียว ใบหน้าบิดเบี้ยวก้มลงมองสิ่งที่คิริวกำลังทำ ดวงตาหวานฉ่ำฉายแววตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลากำลังฟัดเต้าอวบของตัวเองสลับกันไปมาไม่ต่างจากเด็กน้อยหิวโซ เธอเห็นเพียงแค่นั้น เพราะทั้งร่างของเขาบังส่วนที่เธอรู้สึกเจ็บมากกว่าเสียวอยู่ “รอก่อนพราว” ใบหน้าคมเงยขึ้นไปตอบ เขาพยายามอย่างมากในการหักห้ามอารมณ์ของตัวเอง ตั้งใจทำให้คนใต้ร่างพร้อมมากที่สุด ตอนนี้ร่องรักของเธอยังไม่พร้อมเลย มันมีน้ำออกมาล่อลื่นแล้วก็จริง แต่มันยังแน่นมากๆ แน่นเหมือนคนที่ไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์เลยสักครั้ง คิริวหยุดมือที่กำลังเกี่ยวเข้าออกในร่องรักลง บ้าน่า! พี่พราวยังไม่เคยงั้นเหรอ ท่าทางก๋ากั่นซะชนาดนี้ ไหนจะทำใจกล้าชวนเขาทำเรื่องแบบนี้อีก ทำไมถึงยังไม่เคยล่ะ “พราว! ให้หยุดไหม?” “อย่าหยุดนะ อื้อ ทำต่อสิริว” มือเล็กๆเลื่อนไปกุมมือหนาไว้แน่น ทั้งยังบังคับให้เขาทำอย่างที่เคยทำก่อนหน้า ใบหน้าสวยมองอย่างเว้าวอน หยุดตอนนี้เนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า! นิ้วมือเรียวยาวขยับเข้าออกเร็วๆ เพื่อให้คนตัวเล็กกว่าได้พบพานกับความสุข ไม่นานร่องรักคับแน่นก็บีบรัดมากขึ้น ส่งสัญญาณว่าพี่พราวของเขานั้น ขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อย ร่างสูงไม่รอช้า ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวในขณะที่ปล่อยให้พี่พราวได้พักหายใจ เขาคงไม่สามารถหาอาวุธป้องกันการตั้งครรภ์ได้ เพราะเขาไม่มีนิสัยชอบเอากับใครไปทั่ว ของพวกนี้ไม่เคยมีติดตัว จึงไม่มีให้ใส่ แต่จะพยายามป้องกันให้ได้มากที่สุด ด้วยการหลั่งข้างนอกแทน คิริวจับแก่นกายของตัวเอง จดจ่อเข้ากับร่องรักหยาดเยิ้มของคนที่เพิ่งไปถึงสวรรค์ ความตื่นเต้นทำให้มือเขาสั่น รวมทั้งหัวใจด้วย กลัวพี่พราวเจ็บอะ กลัวมาก “พราว ขอโทษนะ!” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงไปใกล้ กระซิบคำขอโทษขณะบังคับแก่นกายตัวเองเข้าไปด้านใน ความคับแน่นบีบรัดตัวตนของเขาจนเจ็บ แต่ไม่เจ็บเท่าหัวไหล่ ที่โดนมือทั้งสองข้างของพี่พราวจิกเล็บยาวๆลงไป “อื้อ เจ็บ! พอก่อน!” “ไม่ได้แล้วพราว ทนอีกนิดนึงนะ” คิริวตัดสิ้นใจดันสะโพกเข้าไปจนสุด หยุดทุกอย่างไว้เมื่อตัวตนของเขาแทรกผ่านครั้งแรกของพี่พราวไป มันเจ็บเขารู้ เพราะใบหน้าสวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา แต่เขาย้อนกลับไปไม่ได้แล้วไง มีแต่ต้องเดินหน้าต่อ “ฮือ เจ็บอะริว” น้ำเสียงหวานๆดูออดอ้อนต่างจากปกติ คนฟังถึงกับมองนิ่งๆ เพราะคิดว่าตัวเองหูฟาด พี่พราวอ้อนเหรอ? พี่พราวตอนเมาน่ารักมาก น่ารักจนเขาอยากให้เมาทุกวันเลย “เดี๋ยวจะทำให้หายเจ็บ” พูดจบก็โน้มใบหน้าลงไปชิดหน้าอกอวบอิ่ม ดูดกลืนเต้าอวบทั้งสองข้างสลับกันไปมา ปล่อยให้ปากกระจับได้รูปส่งเสียงครางหวาน โดยไม่คิดจะเลื่อนปากไปปิด สองมือลูบไล้ทั่วกายสาว เพื่อปลุกเร้าความต้องการ เมื่อพี่พราวคลายความเจ็บลง เขาจึงเริ่มต้นพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ไม่ใช่แค่จูบเป็นนะเว้ยพี่พราว ริวทำแบบนี้ก็เป็น เก่งกว่าพี่เยอะด้วย! จะพิสูจน์ให้เห็นทั้งคืนเลย! วันรุ่งขึ้น 10:45 น. พราวนภาขยับตัวอย่างยากลำบาก ขยับนิดเดียวเสียวไปทั้งตัว ทั้งจุกทั้งเจ็บ ระบบไปหมด ดวงตากลมโตลืมขึ้นอย่างยากลำบาก นี่เธอเมายังไง ให้ตัวเองมีสภาพเหมือนถูกรถสิบล้อชน “อื้อ!” “ตื่นแล้วเหรอ” คนที่ตื่นก่อนตั้งแต่เช้า ยืนมองคนที่ตัวเองโมเมไปแล้วว่าเป็นคนรัก อยู่ริมหน้าต่าง ด้วยการพิงหลังเข้ากับกรอบหน้าต่างไว้เบาๆ ก็เผื่อพี่พราวโวยวาย จะได้โดดลงตรงนี้? “ริว?? มาทำอะไรที่นี่” คิ้วเรียวขมวดมุ่น เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนสนิทน้องชายยืนพิงหน้าต่างอยู่ ผมที่เคยจัดเซ็ตอย่างดี วันนี้ถูกเจ้าตัวปล่อยปละละเลย ผมหน้าแทบจะทิ่มลูกตาแล้ว จนเจ้าตัวต้องปัดเสยขึ้นไปอย่างหงุดหงิด แต่ทำไมมันทำเหมือนหงุดหงิดเธอมากกว่าหงุดหงิดผม? “กูว่าละ ตั้งสติแล้วนึกดีๆสิพราว ว่าทำไมนี่ต้องมาติดแหง็กอยู่ในนี้” คิริวบ่นเบาๆ ก่อนจะบอกให้คนที่นั่งเอ๋อๆอยู่บนเตียงทบทวนเรื่องที่ทำร่วมกันกับเขาทั้งคืน จนเขาไม่ได้ไปเรียนพร้อมกับไอ้วิน เพราะหมดสภาพ! “ลืมกุญแจ? แต่เห้ย มันออกได้นะริว!” คิริวถอนหายใจอีกครั้ง พี่พราวเวลาปกติเป็นงี้จริงๆ เอ๋อๆ แต่เวลาโมโหขึ้นมาแล้วเตรียมหูชาได้เลย พี่แกเหมือนผีเข้าผีออก ตอนนี้น่าจะผีออก ดูไม่มีสติสตังเอาซะเลย “ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นไหมพราว คิดดูดีๆ ว่าเมื่อคืนทำอะไรบ้าง อย่าให้ต้องพูดซ้ำดิ พูดมาจะเอายังไง” ทำไมเขาต้องมารอทวงถามความรับผิดชอบเหมือนผู้หญิงแบบนี้วะ แล้วดูคนที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรดิ นั่งเอ๋ออีกแล้วอะ ดวงตาอ่อนล้าก้มลงสำรวจตัวเองตามที่เด็กนั่นพูด ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อเห็นสภาพตัวเอง ดึงรั้งผ้าห่มขึ้นมาคลุมแทบไม่ทัน การกระทำนั้นทำให้คนตัวโตพ่นเสียง หึ! ในลำคอ อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ น้องมันมองนมเธออยู่ตลอด“พี่ไม่ได้ตั้งใจ” “ตั้งใจหรือเปล่า ตอนนี้ไม่รู้ด้วยแล้ว” มือหนาดึงใบหน้าสวยให้หันกลับมานิดหน่อยเพื่อรับจูบจากเขา ตอนนี้เธอจะรู้สึกยังไงก็ช่าง เขาไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้อีกแล้ว ลิ้นร้อนขยับตามใจตัวเอง ดูดดึงลิ้นเล็กที่ขยับตามอย่างช่ำชอง พี่พราวจูบเก่ง และตอบสนองได้ดี ดีจนเขาไม่อยากหยุด มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขแล้วตอนนี้ ความวาบวาบแล่นทั่วกายจนเสียวซ่าน เคล้นคลึงหน้าอกอวบทั้งสองข้างเบาบ้าง หนักบ้าง จนได้ยินเสียงครางหวานดังต่อเนื่อง ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องใส่อะไรแล้ว จึงปล่อยให้ผ้าเช็ดตัวหลุดออกไปจากเอวอย่างไม่สนใจใยดี ซ้ำยังใช้เท้าเขี่ยมันออกไปไกลๆ ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วด้วยซ้ำ “อื้อ ระ ริว อ่า” พราวนภาครางเสียงแผ่ว ขยับตัวตามใจคนตัวโต ตอนนี้เธอถูกพลิกให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา รอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า ทำให้เธอรู้ชะตากรรมของตัวเอง “ไม่ต้องห้ามนะ! ริวไม่หยุด” อุ้มคนเขินอายขึ้นนั่งในตู้เสื้อผ้าที่เปิดอ้าอยู่ ความแข็งแรงของมันทำให้เขามั่นใจ ว่าต่อให้ทำอะไรลงไปมันก็จะไม่พัง ดึงรั้งเสื้อที่ห่อหุ้มร่างกายคนบนนั้นออกไป รวมถึงกางเกงที่ใส่ด้วย “ตรงนี้เหรอ?” “อืม ตรงน
“เราเป็นแฟนกัน หรือริวเป็นแฟนยัยเด็กนี่” ตอนนี้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ มีเพียงเสียงเพลงที่ยังคงดังกระหึ่ม เพื่อนๆของคิริว ต่างมองด้วยความสงสัยปนตกใจ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอ้อมดาวนั้นเป็นแฟนไอ้วิน พูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าไอ้วินแม่งโดนแฟนแทงข้างหลัง “เราเป็นแฟนกันด้วยเหรอ?” คิริวเองก็เมาไม่น้อย ถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสียงดัง เมื่อกี้พูดอะไรกับเขาไว้ ทำไมถึงกล้ามาถามเขาด้วยคำถามแบบนี้ “เหอะ! งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเอง ว่าที่ผ่านมาเราเป็นแฟนกัน” พราวนภาหมุนตัวออกเดิน อับอายชิบหายที่ตัวเองคิดไปไกลคนเดียว เธอแค่อยากถอยไปตั้งหลัก ไม่ได้บอกว่าเลิก แต่ไม่กล้าบอกให้เขารอ แค่ให้โอกาสเขาเท่านั้น เผื่อเขาเบื่อผู้หญิงอายุมากที่ดีแต่เล่นตัวแบบเธอไง พราวนภาเดินกึ่งวิ่งออกมาหน้าร้าน มองหารถแท็กซี่ แต่ไม่มีว่างสักคัน ช่วงนี้คนทยอยเข้าทยอยออก รถเลยไม่ค่อยว่าง ในจังหวะที่จะเดินออกไปนอกร้านอีกสักหน่อยเพื่อเรียกรถ ข้อมือก็ถูกดึงไปจับไว้แน่น ซ้ำยังถูกลากไปหลังร้านอย่างไร้ความปรานี “ปล่อยเลยนะ!” “เงียบ!” คิริวปรามเสียงดุ ยังคงดึงมือคนข้างๆเดินไปที่รถ เล่นตลกอะไรกับความรู้สึกเขาหนักหนา เห็นเขาไม่เรียกร
“วินไม่กล้ารับอะไรจากพี่พราวหรอก” เขารู้สึกว่าเธอเป็นพี่มาตลอด แต่นี่คือครั้งแรกที่เรียกเธอว่าพี่ ละอายใจเหลือเกินที่แม่ของตัวเองทำแบบนี้กับพี่พราวมาตลอด เลยไม่กล้าเรียกเธอว่าพี่สักครั้ง เพราะกลัวเธอโกรธ เธอเกลียดเขา เหมือนที่เกลียดแม่ของเขา แต่เธอแสดงออกมาตลอดว่าไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยสักครั้ง “พี่ให้ก็รับไปเถอะ บัตรเติมน้ำมันอยู่ในรถ ใช้ได้ตลอดเดี๋ยวพี่จัดการเรื่องเงินเอง วินมีหน้าที่เพียงแค่รับไป และช่วยพี่ในส่วนที่พี่ไม่สามารถทำได้” พราวนภาตบไหล่น้องชายเบาๆ เหม่อมองขึ้นไปบนฟ้า เธอไม่ได้ตั้งใจมากินเหล้า เลยไม่มีความรู้สึกว่าอยากเข้าไปข้างใน ที่มาตามคำชวนเพราะห่วงวินนี่แหละ รู้ดีว่าวริษาต้องฟ้องอะไรวินแน่ๆ ตั้งใจจะทำให้เธอดูแย่ในสายตาทุกคน งานถนัดเขาล่ะ “จะเข้าไปยัง!” “ยัง มานี่หน่อย!” พราวนภาหันกลับไปยิ้มให้พลางกระดิกนิ้วชี้เรียก บุคคลที่ถามคำถามเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงห้วนจัด คงแอบตามมา เพราะคิดว่าเธอกับวินอาจจะทำอะไรแปลกๆสินะ เธอไม่ใช่คนแบบนั้นไหม ไม่งั้นบอกวินไปตั้งนานแล้วว่าชอบ คิริวเดินหน้ามุ่ยเข้าไปใกล้ เพื่อนตบบ่าให้กำลังใจเบาๆ ก่อนจะเดินหนีไปให้คนทั้งสองได้ใ
“ถ้าบอกว่าหวังล่ะ” ตอนนี้เขากับเธอเดินมาถึงรถพอดี จึงใช้แขนข้างที่ว่างวางลงบนตัวรถด้านที่พี่พราวต้องขึ้นไปนั่ง กักขังเธอไว้กลายๆ พลางจ้องมองด้วยสายตาจริงจัง เขาหวังมาตลอดแหละ หวังมาตลอดเลย! “รอก่อนได้ไหมล่ะ รอให้พี่ชัดเจนกว่านี้ก่อน พี่จะให้ทุกอย่างที่ริวต้องการ” มือเรียวสวยยกขึ้นดันอกกว้างไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาใกล้มากกว่านี้ ตอนนี้ยังอยู่ในลานจอดรถของห้างอยู่เลย คนเดินผ่านไปมาประปราย เธอกลัวมากว่าจะมีข่าวลือไม่ดีออกมา ทำให้น้องมันเสียหาย คิริวยังเรียนรู้ เป็นวัยที่ไม่ควรมีเรื่องให้เสื่อมเสีย เธอคิดแบบนั้น “ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร แบบที่เป็นตอนนี้ก็ดีแล้ว” มือเรียวยาวลากไล้กรอบหน้าหวาน จับเส้นผมสีน้ำตาลระกรอบหน้าออกไปทัดไว้หลังใบหู แค่ได้อยู่ใกล้ ได้แบ่งปันอะไรบางอย่างกับเธอ เขาก็มีความสุขมากแล้ว ไม่ได้รีบร้อนอะไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร “ไปกันเถอะ เดี๋ยววินรอ” พราวนภายิ้มกว้าง มองนาฬิกาข้อมือพร้อมกับเปิดประตูรถ ตอนนี้จะสามทุ่มแล้ว ควรออกไปเจอน้องชายได้แล้ว เดี๋ยวน้องคิดถึง @xxx club 21:20 น. ร้านที่วินณภัทรนัดคิริวมาดื่ม คือร้านที่อยู่ห่างจากมหาลัยไม่มาก แ
ปึ่ง! พราวนภาถูกยัดเข้าไปนั่งในรถ เสียงประตูที่ถูกปิดลง ดังมากจนเธอตกใจ มองใบหน้าคนที่ตั้งใจวนรถออกจากที่จอดนิ่งๆ ไม่ยอมพูดยอมไม่จา น้องมันเป็นเหี้ยอะไรอีกวะ! “โกรธพี่เรื่องที่พี่ทำให้นักข่าวถ่ายรูปเราเหรอ?” “เปล่า” “แล้วโกรธอะไรอะ!” “หึง” “พี่ทำอะไรให้หึงตอนไหน?” พราวนภาถามด้วยใบหน้าขึ้นสี เธอมั่นใจว่าไม่ได้สัมผัสผู้ชายคนไหนเลย แค่อยู่ใกล้ แต่ไม่ได้ใกล้ชิดจนทำให้คนข้างๆหึงได้ เมื่อกี้เธอคิดว่าตัวเองวางตัวดีนะ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกเหรอ? “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” “ผู้ชายคนไหนวะ!” “คนที่ยืนข้างๆ!” “พี่ก้อง??” “เออนั่นแหละ!” คิริวเบ้ปาก นี่คิดเองไม่ได้และไม่รู้เลยสินะ ว่าคนๆนั้นนะ มันน่ากลัวแค่ไหน ภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่แต่งเป็นหญิงเต็มตัว แต่คิริวรู้สึกว่าเขายังคงซุกซ่อนความเป็นชายไว้อยู่ ไม่รู้ดิ แค่รู้สึกว่าเป็นแบบนั้น ผ่านสายตาที่มองมายังพี่พราว รู้สึกว่าเขาคนนั้นเอ็นดูเธอ และเอ็นดูมาก จนอาจจะเรียกได้ว่ารัก! เหมือนที่เขารักเธอ “อุบ! ฮะฮ่า ฮ่าๆ ดูออกขนาดนั้นเลย” พาวนภาหัวเราะจนน้ำตาเล็ด คิริวเก่งนะที่ดูออก เธอรู้ว่าพี่ก้องมีรสนิยมยังไง เพราะค่อนข้
การรอคอยของคนทั้งสองสิ้นสุดลง หลังจากนั่งดูแฟชั่นโชว์จากกระเป๋าแบรนด์ดังร่วมชั่วโมง ตอนนี้เจ้าของแบรนด์เดินออกมาพบปะแขกในงาน และยืนรับดอกไม้ที่คนนำมาร่วมแสดงความยินดีอยู่บนเวที พราวนภาไม่รอช้า หอบช่อลิลลี่ที่วางอยู่บนตักไปทันที แหวกผู้คนมากมายไปหน้าเวทีด้วยความยากลำบาก และเผลอชนเข้ากับไหล่คุณหญิงท่านหนึ่งที่นั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้าสุด “ขอโทษค่ะ” พราวนภายกมือขึ้นไหว้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นใบหน้าคนที่นั่งอยู่ชัดเจนก็รีบหันหน้าหนี วันนี้มันวันอะไรเนี่ย ทำไมเธอถึงได้เจอคนที่ไม่อยากเจอด้วย! พราวนภาหลบไปอย่างรวดเร็ว ให้กลมกลืนกับคนที่มาร่วมแสดงความยินดีหน้าเวที เป็นการหลบเลี่ยงการพบเจอที่ไม่ควร ได้ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เพราะสายตาของหญิงสูงวัยยังคงจับจ้องแผ่นหลังของเธอ มือท่านสกิดผู้ชายที่ร่วมทุกข์กันมายาวนานที่นั่งอยู่ข้างๆ ชี้มือให้สามีดูเด็กผู้หญิงที่ยืนรอต่อแถวร่วมแสดงความยินดีกับหลานชายที่รักของท่าน อย่าง เกียรติกรุณ โหรมิภัทร “คุณว่าใช่ยัยหนูไหม?” “ไม่น่าใช่นะคุณ ยัยหนูนั่นตัวเล็กออก” ท่านไพรรัตน์มองตามสายตาภรรยาไป ก่อนจะสายหน้า เมื่อเห็นผู้หญิงตัวสูงกำลังเบียดเสียด