แชร์

บทที่ 9 หญิงสาววิปลาส

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 00:57:15

ยังดีที่นางเก็บกระบี่กลับมาด้วย นางใช้กระบี่เล่มนั้นข่มขู่จนได้ซาลาเปามาสองลูกและได้ม้ามาตัวหนึ่ง แม้นางจะบอกว่าขอยืมก่อน แต่เจ้าของร้านน้ำชาในที่พักม้าก็ไม่คิดว่าจะได้ม้าคืนอีก

หลี่เฟิ่งเซียนควบม้าวิ่งไปทางตะวันออก กระทั่งใกล้ยามจื่อ ในที่สุดนางก็มาถึงด่านตรวจ ที่แท้ต้องควบม้าถึงจะมาถึงด่านตรวจได้ เรื่องที่นางจำได้ว่าเดินเพียงไม่นานก็ถึงนั้นเหลวไหลทั้งเพ!

นางวิ่งทั้งวันแต่ไปไม่ถึงไหน นางคงวิ่งวนไปมา เดินไม่เท่าไหร่ก็ออกมาที่เดิม หากนางไม่ถูกเจอตัวในป่าและยังคงหนีไปเรื่อยๆ นางอาจหลงป่า ไม่มีอะไรกินและตายในป่าได้ นางเริ่มสงสัยว่าตัวเองฉลาดหนีออกจากป่ากลับมาที่ที่พักม้าได้ หรือโง่จนเดินหลงหลายครั้งซ้ำซ้อนแต่โชคดีหนีมาได้อย่างปลอดภัย

ทหารที่เฝ้าด่านตรวจมีเพียงไม่กี่คน หลี่เฟิ่งเซียนเดินเข้าไปแสดงตัวว่าเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนแม่ทัพหลี่ แต่..ทหารพวกนั้นต่างมีสีหน้าไม่ต่างจากเสี่ยวเอ้อก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างไม่ยอมเชื่อว่านางคือคุณหนูใหญ่ของจวนแม่ทัพหลี่ หลี่เฟิ่งเซียนโมโหมากจึงโวยวายใหญ่โต ทหารบางคนเริ่มไม่แน่ใจว่าใช่นางหรือไม่ สุดท้ายจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากนายกอง

“หญิงสาววิปลาสคนเดียว พวกเจ้ากลับไม่รู้จะรับมืออย่างไรหรือ” นายกองด่าพวกทหารไปเช่นนั้น แต่เมื่อออกมาพบหญิงสาวคนนั้น เขาก็ไร้หนทางเช่นกัน ในที่สุดเขาลงความเห็นว่านางอาจเจอเรื่องร้ายมา ดูจากสภาพภายนอกที่เต็มไปด้วยเลือด มีบาดแผลใหญ่ นางอาจหวาดกลัวจึงสร้างเรื่องพวกนี้เพื่อให้ตัวเองได้รับการคุ้มครอง

สุดท้ายนายกองตัดรำคาญ อนุญาตให้หมอมาทำแผลให้นางก่อน แต่ยังคงไม่ให้นางเข้าไปในด่านตรวจ หลี่เฟิ่งเซียนได้แต่เก็บความคับแค้น สาบานกับตัวเองว่าเมื่อนางพิสูจน์ตัวเองได้ นางต้องเล่นงานเขาให้หนักแน่

คืนนั้น นางได้นอนนอกกำแพง พวกทหารยังหาผ้าห่มให้นางผืนหนึ่ง ยังอนุญาตให้นางนอนบนเกวียนฟางข้าวด้วย เพราะสงสารที่นางเจอเรื่องร้ายมา ตั้งแต่ถูกจับ คืนนี้เป็นครั้งแรกที่นางนอนหลับได้สนิทที่สุด แม้จะไม่ได้นอนบนเตียงผ้าไหมอย่างดี เพราะแต่เด็กนางอยู่กับค่ายทหารตลอด ท่านพ่อของนางก็เป็นทหาร เมื่ออยู่ใกล้ค่ายทหารนางจึงรู้สึกอุ่นใจ

รุ่งขึ้น นางยังไม่ทันตื่น ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นเต็มดวง เพียงมีแสงรำไรโผล่พ้นที่ยอดเขา หลี่เฟิ่งเซียนได้ยินเสียงฝีเท้าม้าหลายตัวกำลังวิ่งมาที่ด่านตรวจ มองไกลๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็รู้ว่าเป็นผู้ใด ท่านอ๋องเยียน!!

หลี่เฟิ่งเซียนในสภาพไม่ได้หวีผม ใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาดของพวกนางโลม ไหล่และเอวข้างหนึ่งเต็มไปด้วยคราบเลือด ไม่ได้ล้างหน้ามาตั้งแต่เมื่อวาน ซ้ำยังมีกลิ่นอาจมจากการปีนห้องน้ำหนีด้วย แต่คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่เช่นนาง ไหนเลยจะใส่ใจเรื่องเล็กพวกนี้ นางเร่งรีบออกไปต้อนรับอ๋องเยียน

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง” หลี่เฟิ่งเซียนร้องเรียก

ทหารหลายคนที่กำลังยืนต้อนรับอ๋องเยียนอยู่นอกประตูด่านต่างหันไปมองนางเป็นตาเดียว พวกเขากลัวว่าหากท่านอ๋องเห็นนางโลมอยู่ที่ประตูหน้าด่านตรวจ ทหารหลายคนอาจต้องรับโทษทางวินัย มีทหารสองนายจึงพยายามขวางนางไว้ หลี่เฟิ่งเซียนโมโหจึงเตะเขาไปทีหนึ่ง แต่ทหารอีกคนก็จับนางปิดปาก ลากไปด้านหลัง ป้องกันไว้ก่อนที่ท่านอ๋องเยียนจะควบม้ามาถึง

หลี่เฟิ่งเซียนไม่เคยคิดว่าเป็นหญิงสาวทั่วไป จะขอความช่วยเหลือสักครั้งมันยากเย็นเพียงนี้ นางในฐานะคุณหนูใหญ่ เดินไปทางใดมีแต่คนก้มหัวให้ ตอนนี้นางแม้แต่จะเรียกชื่ออ๋องเยียนยังถูกห้าม

ชั่วขณะหนึ่งนางคล้ายจะเข้าใจความลำบากของผู้อื่นมากขึ้น แต่ชั่วขณะต่อมา นางจะไม่ยอมให้เรื่องผ่านไปง่ายดายเช่นนี้ หลี่เฟิ่งเซียนยอมอยู่เฉยๆ คล้ายยอมไม่เอะอะโวยวาย แต่ทันทีที่เสียงม้าวิ่งเข้ามาใกล้ นางปล่อยหมัดคุณหนูใหญ่ใส่สีข้างของทหารนายนั้น จนเขาคุดคู้นั่งลงอย่างเจ็บปวด

นางวิ่งสุดแรงไปขวางม้าของอ๋องเยียนไว้ ม้าตกใจร้อง ฮี้ๆๆ ออกมา อ๋องเยียนต้องใช้ความพยายามสักครู่กว่าจะทำให้มันสงบลงได้ พวกทหารเฝ้าด่านตรวจต่างเหงื่อแตกพลั่ก วันนี้คงเป็นวันตายของพวกเขา!

“คุณหนูใหญ่!!” ในที่สุดเขาก็หันมามองเห็นหลี่เฟิ่งเซียน อ๋องเยียนผู้หล่อเหลาในชุดผ้าไหมสีเข้ม ขมวดคิ้วตกใจกับภาพตรงหน้า คราแรกเขาโกรธมาก ใครมันบังอาจวิ่งมาขวางทางม้าของเขา ตั้งใจจะสั่งตัดหัว แต่พอหันมา สิ่งที่เห็นทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าที่ม้าตกใจ หลี่เฟิ่งเซียนน้ำตาไหลพราก วิ่งไปกอดอ๋องเยียนทันทีที่เขาลงจากหลังม้า

“ไม่เป็นไรแล้ว ท่านปลอดภัยแล้ว” อ๋องเยียนพูด แม้ในใจหลี่เฟิ่งเซียนจะอยากบอกว่านางรู้ดีว่านางปลอดภัยแล้ว แต่อย่างไรนางก็เป็นสตรีน้อยนางหนึ่ง เมื่อคิดถึงความยากลำบากที่นางต้องเผชิญเกือบเดือนที่ผ่านมา นางย่อมต้องการหลั่งน้ำตานานขึ้นสักหน่อยเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าคนที่นางชื่นชอบ

เช้าวันนี้ พวกทหารเฝ้าด่านตรวจต่างรู้สึกชีวิตไม่มั่นคง ก่อนหน้ายังกลัวว่าจะถูกลงโทษทางวินัยเพราะช่วยชีวิตนางโลมผู้หนึ่งเอาไว้ มาตอนนี้ท่านอ๋องกลับตกรางวัลให้ทหารทุกคนที่ช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่ของจวนแม่ทัพหลี่

เมื่อคำนวณดูจากชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่ การที่นางยังไม่สั่งตัดหัวพวกเขาที่บังอาจทิ้งนางนอนด้านนอกทั้งคืนก็ถือว่าดีมากแล้ว ตอนนี้ท่านอ๋องยังสัญญาว่าจะเพิ่มรางวัลให้อีก ใครมันจะกล้ารับรางวัลพวกนั้น ไม่ต้องพูดถึงนายทหารที่ถูกต่อยคนนั้น มันไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หน้าออกมาให้ใครเห็น

ในที่พักรับรองของคุณหนูใหญ่ หลี่เฟิ่งเซียนได้อาบน้ำดีๆ ในที่สุด ทั้งยังมีสาวใช้มาช่วยปรนนิบัติขัดตัว แม้ท่านหมอจะห้ามนางทำแผลโดนน้ำ แต่นางไหนเลยจะฟัง หลี่เฟิ่งเซียนอาบน้ำสระผมอยู่นาน จนนางรู้สึกกลับมาสะอาดอีกครั้ง นางจึงขึ้นจากถังอาบน้ำ และแต่งตัวชุดใหม่ ให้เหมาะสมกับฐานะคุณหนูใหญ่

แต่งตัวเสร็จนางก็ออกไปหาท่านหมอซึ่งรออยู่ในห้องโถง นางถามหาวิธีเอาแผลถลอกและตุ่มใสปลอมที่แก้มของนางออก แต่ท่านหมอเองก็ไม่แน่ใจว่าใช้สิ่งใดติด หากฝืนเอาออกอาจทำให้นางเกิดแผลขึ้นมาจริงๆ ได้

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกโมโหยิ่ง เจ้าคนเลวนั่น เขาคงวางแผนไว้แล้ว หากนางหนีออกมาได้ นางจำเป็นต้องกลับไปช่วยเขา เพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถเอาแผลปลอมนี่ออก หากนางไม่กลับไปช่วย ก็ต้องทนติดแผลปลอมไปตลอดชีวิตหรือ สารเลวนัก!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 17 สั่นระริก

    ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้งหลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกันยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status