จวนสกุลเซียว
ตอนนี้เซียวอี้หลงกำลังหัวเสียอยู่ในห้องหอ ว่านชิงชิงเองก็นั่งนิ่งหยิบของแห้ง ขนมเข้าปากนั่งฟังเขาโวยวายมากว่าครึ่งชั่วยามแล้ว หนวกหูจริงๆเลย
“เจ้าไม่มีปากปฏิเสธออกมาบ้างหรือว่านชิงชิง หรือจริงๆแล้วเจ้าเองก็อยากแต่งงานกับข้าจนเนื้อเต้น”
“ใต้เท้าเซียว..ข้าเองก็อยากปฏิเสธแต่คนที่ไปรับข้าคือเซียวจ้านท่านปู่ของท่าน จะให้ข้าทำเช่นไร ท่านต้องการให้สกุลว่านทำเช่นไร ปฏิเสธเขาไล่กลับมาให้พวกเราหักหน้าอดีตเจ้ากรมการคลังหรือ ต้องการเช่นนั้นจริงๆหรือเซียวอี้หลง”
“เจ้าๆๆ..ใจง่ายนัก อย่าหวังนะว่าข้าจะสนใจใยดีเจ้า แห้งเหี่ยวตายคาเรือนหอไปเถอะ”
“นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ท่านสามารถทำได้ จงอยู่ห่างๆข้าเอาล่ะจะนอนที่นี่หรือใต้เท้า ในเมื่อชังหน้ากันนักท่านควรเอาตัวเองออกไปจากห้องได้แล้ว”
“นี่เรือนข้า เจ้ากล้าสั่งหรือ อาอวี้มาขนของคุณหนูว่านไปไว้เรือนเล็ก เรือนข้าไม่เหมาะกับเจ้าหรอก สตรีไร้ยางอาย”
"ไร้ยางอายหรือ..ใช่ๆๆ ใต้เท้าหมิงก็แต่งงานวันนี้ สงสารคู่รักยวนยางอย่างท่านสองคนจริงๆ ข้าไปอยู่เรือนข้างดี จะได้ไม่เห็นอะไรที่ขนลุกขนพอง พี่อี้หลงงง น้องหมิงง อึ๊ยขนลุก ปี้เหยาไปกันเถอะ”
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร"
เซียวอี้หลงรู้ถึงเรื่องซูบซิบนินทามาบ้างว่าเขากับหยางหมิงเป็นพวกตัดแขนเสื้อ และมีใจให้กัน แต่ถึงขั้นมีสัมพันกัน่ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาให้ได้ยิน ยายเด็กร้ายกาจนี่ไปเอามาจากไหน
ว่านชิงชิงไม่สนใจท่าทีของเขา นางเรียกหาสาวใช้ของตนก่อนจะยกชายกระโปรงชุดแต่งงานเดินตามองครักษ์ของเขาไป ทั้งสองจวนเงียบสนิทหยางหมิงและเซียวอี้หลงห้ามใครเอ่ยออกไปว่าจางอวี้ถิงกับว่านชิงชิงคือภรรยาพวกเขา
ท่านปู่ของพวกเขาออกเดินทางไปทันทีที่ส่งหลายชายหลานสะใภ้เข้าห้องหอเรียบร้อย ทั้งสี่คนมีนัดกับตาแก่เอาแต่ใจที่สุดในแคว้นจะชักช้ารอแอบฟังหลานชายกับหลานสะใภ้ก็ไม่ได้อีก
แต่งงานมาสามเดือนแล้ว จางอวี้ถิงอยู่ในจวนเล็กมาตลอด ไม่เคยออกจวกจวนเลย นางยังคงกินยาต่อเนื่อแต่กลับอาการแย่ลง บ่าวไพร่ที่เคยถูกให้มาอยู่คอยรับใช้ก็เริ่มรังเกียจ ฮูหยินน้อยอันใดใต้เท้าไม่ใยดีมิหนำซ้ำยังห้ามเอ่ยว่านางคือภรรยาของเขา ใครจะอยากถูกขายเพราะกาฝากคนนี้กัน ยิ่งนางแสดงอาการป่วยเท่าไหร่พวกนางก็ไม่อยากอยู่ใกล้รับใช้อีกต่อไป
"เจ้าว่านางจะเอาโรคร้ายมาติดพวกเราหรือไม่กัน"
"ข้าว่านะนางน่าจะไปอยู่ที่อื่น เกิดมาตายในจวนผู้ตรวจการมิเป็นอัปมงคลหรืออย่างไร"
"ใช่ๆๆ"
สาวใช้สองคนต่างก็นินทากันสนุกปาก จนลี่จูมาได้ยินและไปหาผู้ดูแลจวนแต่เขากลับเข้าข้างพวกนาง จนจางอวี้ถิงบอกให้พวกนางกลับไปไม่ต้องมารับใช้แล้ว ทั้งจวนจึงเหลือเพียงสองนายบ่าวเท่านั้น คืนนี้อากาศหนาวกว่าปกติ จางอวี้ถิงคิดถึงท่านปู่ของนางน้ำตาก็ไหลออกมา ตั้งแต่ท่านพ่อกับท่านแม่จากไปนางก็ถูกท่านปู่เลี้ยงมาตลอดตั้งแต่อายุห้าขวบ สิบปีแล้วที่ชายชราพยายามจะรักษาโรคที่นางเป็นอยู่ จางอวี้ถิงได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ลืมตามองดู
"ได้เวลาแล้ว ไปพานางมาเถอะข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่เด็กน้อย"
จางอวี้ถิงพยักหน้าก่อนจะลุกออกจากร่างตนเองไปตามแสงสีขาวที่สาดเป็นทางเดิน
หลังจากแต่งงานชีวิตของจางอวี้ถิงก็มีแต่ความสุข ท่านตาและท่านยายมาหาเสมอ ท่านน้าพาบุตรชายและบุตรสาวมาหาทุกๆครึ่งเดือนเพราะเปิดร้านในเมืองหลวง จางอวี้ถิงใกล้คลอดแล้ว ว่านชิงชิงคลอดบุตรชายให้เซียวอี้หลง ส่วนเซียวอี้หรูที่เพิ่งจะแต่งงานได้สามเดือนตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ ว่านชิงเหอดีใจมากที่เขากำลังจะเป็นพ่อคนจางอวี้ถิงกำลังสอนให้สาวใช้ในจวนและสาวใช้สกุลเซียวเรียนทำขนม เซี่ยหลิงเอ๋อร์มาหาเพื่อจะพูดคุยกับเซียวอี้หรู เซี่ยหลิงเอ๋อร์เพิ่งจะแต่งงานกับเยี่ยเฟิงได้สองเดือน นางอยากมีลูกให้เขาเช่นกันเยี่ยเฟิงก็ขยันทำทุกคืนแต่นางยังไม่มีวี่แววเลย"พวกท่านคนหนึ่งก็เป็นมารดาแล้ว พี่ถิงถิงกำลังจะคลอด อี้หรูก็ตั้งครรภ์แล้ว ลี่จูก็คลอดได้สิบกว่าวันแล้ว แต่ข้ายังไม่มีวี่แววเลย ทั้งๆที่ท่านพี่ก็...""ก็อะไรหรือหลิวเอ๋อร์"เซียวอี้หรูเงยหน้าจากที่กำลังเก็บขนมใส่ตะกร้า เซี่ยหลิงเอ๋อร์หน้าแดงก่อนจะตอบเสียงเบา"ทั้งๆที่เขาขยันทุกคืน"จางอวี้ถิงอมยิ้มก่อนจะหันไปมองสาวใช้และขยับมาใกล้ๆเซี่ยหลิงเอ๋อร์เอ่ยกระซิบให้ได้ยินแค่กลุ่มพวกนาง"ปี้เฉาก็ยังไม่ท้องเลยนางแต่งก่อนเจ้าอีกนะ อ้อถ้าขยันทุกคืนไม่ได้ผล ลองขยันกลางวั
จางอวี้ถิงยามนี้พักอยู่สกุลจางเพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของนางกับหยางหมิง ร่างอวบนั่งอญุ่ในห้องแต่งตัวเพื่อรอขบวนเจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาว ลี่จูเห็นฮูหยินน้อยของตนสีหน้าดีขึ้นเพราะหายแพ้ท้องแล้วก็ยิ้มแย้ม เซียวไท่ไท่ที่เพิ่งจัดงานแต่งงานให้หลานชายกับกลานสะใภ้เรียบร้อยตั้งแต่เดือนก่อนก็อาสามาเป็นคนหวีผมให้กับนางเอง หญิงชราเชยคางมนขึ้นมาก่อนจะเอ่ย"ถิงเอ๋อร์...เจ้างามมากนักสมัยที่ท่านย่าของเจ้านางยังมีชีวิตอยู่นางถือว่าเป็นสตรีที่งามล่มแคว้นเชียวนะ""ท่านย่าเซียว ท่านย่าของข้าเป็นสตรีอบอุ่นอ่อนโยน ข้ายังจำได้ถึงอ้อมกอดของนาง ท่านพ่อท่านแม่จากไปไว ท่านย่าคิดถึงบุตรชายจนล้มป่วย ท่านปู่แม้จะมีฝีมือแต่ก็มิอาจรักษาโรคทางใจ สุดท้ายนางก็จากเราสองคนปู่หลานไป ข้าคิดถึงท่านย่าเจ้าค่ะ""ในเมื่อรู้ว่าย่าเจ้าเป็นสตรีแบบไหนก็เอาเช่นนาง เป็นสตรีอ่อนโยนที่อบอุ่นใครอยู่ใกล้แล้วมีความสุขให้ได้ เอาล่ะเสร็จแล้วย่ากลับก่อนเจอกันที่จวนหยางล่ะ""ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะท่าย่าเซียว ค่อยๆเดินนะเจ้าคะ"เซียวไท่ไท่ออกจากห้องก็เจอเข้ากับจางอวี้หมิ่น นางทักทายเขาอย่างกันเอง"ท่านหมอจางยินดีด้วย ท่านทำหน้าที่ได้ดีแล้วฉือเย่
เมื่อผ้าแพรถูกเปิดออกหยางหมิงก็กางฉากบังลมออก ภาพที่ปรากฏทำเอาคนในงานถึงกับตะลึง มีภูเขาเรียงรายเขียวขจี ด้านล่างเป็นทุ่งข้าวสาลีที่กำลังออกรวงเหลืองอร่าม หญิงสาวหลายๆคนกำลังซักผ้าริมลำธาร และเด็กกำลังวิ่งไล่จับปลา ด้านบนมีภาพกวนอิมในปางประทานพร รัศมีสีทองที่เปล่งประกายออกมาบวกกับช่างปักฝีมือดีทำให้ภาพนี้ดูราวกับเป็นแดนเซียน"อืม...เป็นภาพที่งามมากนัก ว่าอย่างไรฮองเฮา สนมทั้งสอง""งดงามมากเพคะไทเฮา ฮูหยินใต้เท้าหยางช่างเป็นสตรีที่มากฝีมือจริงๆ""ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงชมเชย นอกจากนี้ฮูหยินของกระหม่อมยังฝากของขวัญส่วนตัวมาถวายด้วยพ่ะย่ะค่ะ"ฉีกงกงเดินลงมารับถาดไม้ที่มีกล่องไม้วางอยู่สี่กล่อง ลวดลายที่แกะสลักบ่งบอกชัดเจนว่ามอบให้ใครบ้าง เมื่อเปิดออกดูไทเฮาและไท่ซ่างหวงก็มองหน้ากัน ฮ่องเต้ที่ทอดพระเนตรพร้อมกับฮองเฮาก็มองลงมายังหยางหมิง จากนั้นฮ่องเต้ก็เอ่ยถามจางอวี้หมิ่น"หมอหลวงจาง ท่านลองมาดูสักหน่อยเถอะว่านี่มันมีอายุเท่าไหร่กัน"ขุนนางไม่รู้ว่าของขวัญคืออะไรกระทั่งจางอวี้หมิ่นหยิบของในกล่องมาพิจารณาทั้งหมดก่อนจะกราบทูล"ทูลฝ่าบาทของพระองค์กับไท่ซ่างหวงโสมนั้นอายุน่
จางอวี้ถิงกลับมาถึงจวนได้เดือนกว่าแล้ว ตอนนี้ท่านปู่กลับไปจวนสกุลจางเรียบร้อยแล้ว อาการแพ้ท้องของนางดีขึ้นแต่ยังคงมีอาการเพลียและเวียนหัวบางครั้ง วันนี้เป็นวันประสูติของไทเฮา ทุกคนในจวนกำลังเตรียมตัวที่จะไปร่วมงานเพื่อถวายพระพร แต่จางอวี้ถิงมิได้ไปด้วยร่างบางที่ตอนนี้เอวหนาขึ้นมานิดหน่อยกำลังบรรจุโสมต้นใหญ่ลงในกล่องไม้ที่แกะลวดลายสวยงาม ด้านในกรุด้วยผ้าสีทอง โสมต้นนี้นางเก็บมาจากบนเขาที่ตำหนักฤดูร้อน ส่วนกล่องขนาดกลางเป็นของหยางไท่ไท่ หยางหมิงเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเห็นเมียเด็กของตนกำลังเตรียมของขวัญก็อมยิ้มก่อนจะเดินมาหานางแล้วนั่งลง เขารวบร่างเล็กมานั่งตักจุมพิตซอกคอหอมกรุ่นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย"ไม่เวียนหัวแล้วหรือ ลุกมานั่งอีกแล้วคนดี""นี่เป็นของขวัญที่เตรียมไว้ให้ไทเฮาเพคะ ส่วนนี้ของท่านย่ากับท่านปู่ของท่าน" "โสมต้นใหญ่เชียว ไทเฮาคงดีพระทัยไม่น้อยที่ได้ของมีค่าเช่นนี้""ท่านอา....หากมิใช่ท่านไปขุดเพิ่มคงไม่ได้มากเพียงนี้เจ้าค่ะ...ข้ายังมีเห็ดหลินจืออยู่อีกสองดอก ข้าจะให้ท่านปู่ของข้ากับท่านปู่ของท่านเจ้าค่ะ"ครั้งก่อนตอนที่หยางหมิงกลับมาจากลานล่าสัตว์ ฮ่องเต้ประทับต่อเจ็
ว่านชิงเหอแวะมาดูน้องสาวเมื่อเห็นนางหลับจึงกลับประจำที่ และแวะไปที่รถม้าของสกุลเซียว"คารวะไท่ฮูหยินขอรับ ข้าน้อยมาหาอี้หรู"ท่านด้านข้างเปิดออกก่อนที่ใบหน้าจิ้มลิ้มจะโผล่มาให้เห็น นางยิ้มให้เขาทันที ส่วนชิงดูแลหอยิ้มตอบก่อนจะบอกนางนั่งดีๆ แล้วเขาก็ไปประจำตำแหน่ง เยี่ยเฟิงรั้งท้ายกับว่านชิงเหอ เขาคือองครักษ์เสื้อแพรและผู้ตรวจการพิเศษ ทำคดีสำคัญที่ฮ่องเต้มอบหมาย หยางหมิงอยู่เบื้องหน้าวางแผนส่วนเยี่ยเฟิงคือตัวละครลับที่ไม่มีใครรู้แม้แต่ครอบครัว มีเพียงฮ่องเต้ หยางหมิงและเซียวอี้หลงเท่านั้น เมื่อเห็นบุรุษรูปงามทั้งหลายห่วงใยสตรีของตนนั้น คุณหนูหลายคนที่ดูแคลนว่าพวกเขาเป็นชายตัดแขนเสื้อบัดนี้ก็ได้แต่เสียดายที่ตนเองไม่พยายามมากพอ มิเช่นนั้นคนที่อยู่ในอ้อมกอดของหยางหมิงกับเซียวอี้หลงอาจจะเป็นพวกนางคนใดคนหนึ่งก็ได้"ใต้เท้าหยางรักฮูหยินของตนมากจริงๆ ได้ยินว่าเขาเข้าครัว ต้มยา ทำอาหารเคี่ยวโจ๊กเองเพื่อนางเชียวนะ""จริงหรือ บุรุษมาทำเรื่องเช่นนั้นนี่นะ""ข้าได้ยินว่าเขาเช็ดตัวล้างเท้าแม้กระทั่งนวดเท้าให้กับฮูหยินของเขาอีกด้วย""ใต้เท้าหยางมีวิชาแพทย์ย่อมไม่แปลกอยู่แล
จางอวี้ถิงตื่นขึ้นมาก็ยามซวีแล้ว นางนอนหลับไปนานพอสมควร ร่างบางได้ยินเสียงกุกกักๆดังมาจากทางด้านห้องครัวเล็กก็คิดว่าสาวใช้ต้มยาให้ก่อนจะได้กลิ่นหอมอมเปรี้ยวอมหวาน จากนั้นก้เห็นร่างสูงวที่นางคิดถึงเดินออกมาพร้อมกับมีชามบนถาดไม้ หยางหมิหลับใหลยิ้มให้คนท้องก่อนจะวางถาดไม้ไว้บนโต๊ะและเดินมาประคองนางให้ลุกขึ้น"ตื่นแล้วหรือคนดี...เป็นอย่างไรบ้างบอกอาสิยังเวียนหัวหรือไม่""ท่านอา..ข้าคิดถึงท่านจังเลย ฮือๆๆ ฮึกๆๆๆ"ร่างบางสะอื้นกอดเขาแน่น มือหนาลูบหลังให้นางอย่างปลอบโยนเอ่ยน้ำเสียงอบอุ่น"อาก็คิดถึงเจ้า มาเถอะอาต้มน้ำบ๊วยให้จะได้แก้แพ้ท้อง ดื่มสักหน่อยนะถิงถิงของอา""เจ้าค่ะ"หยางหมิงตักน้ำบ๊วยป้อนนางทีละช้อนๆจนได้ครึ่งชามจางอวี้ถิงก็ไม่เอา นางส่ายหน้าให้กับเขา หยางหมิงนำชามไปวางก่อนจะให้นางนั่งพิงหัวเตียง"นั่งพักนะ อาจะไปเอาน้ำอุ่นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ จะได้สบายตัว""ท่านอา..ทำท่านลำบากแล้วข้าขอโทษเจ้าค่ะ""พูดอะไรเช่นนั้น ในท้องเจ้าคือสายเลือดของอา ถิงถิงต้องลำบากแพ้ท้อง ต้องอุ้มท้องเขาอีกทั้งยั้งต้องคลอดออกมาและเลี้ยงดู เจ้าลำบากกว่าอามากนัก แค่นี้ยังไม่เท่ากับท