“เพื่อ?”
“ร้านอาหารนะคะ...ก็ไปกินไง” หนูนาตอบแบบแกล้งโง่
“กิน?”
“อื้ม”
“แค่นั้น?”
“เอ่อ...” หนูนาเริ่มอึดอัด เพราะรู้ว่าปีเตอร์กำลังจับผิด “หิวจัง...” หนูนาพูดตัดบทและส่งสายตาสื่อความหมายตามที่พูด
ปีเตอร์เลือกที่จะไม่พูดอะไร และออกรถไปยังจุดหมายปลายทางตามความต้องการของหนูนา โดยระหว่างทางการเดินทางไม่มีการพูดคุยอะไรกัน จนมาถึงจุดหมายปลายทางตามความต้องการของหนูนา ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณของทางร้าน ปีเตอร์สังเกตุเห็นชายชุดดำยืนตามระยะตลอดเส้นทางแต่ทุกคนล้วนเปิดท
เมื่อเวลาผ่านไปซักพักระบบการหายใจของทั้งสองก็เข้าสู่ปกติ หนูนาขยับตัวแต่ยังคงนั่งอยู่บนตัวของปีเตอร์ เพราะเขารั้งเอวเธอไว้ไม่อนุญาตให้เธอถอนตัวออกจากการประสานกันอยู่ “พีทค่ะ...หนูนาขอทำแผลให้พีทก่อนนะคะ” ปีเตอร์มองตามสายตาของหนูนาที่มองมาที่มือเขาที่วางอยู่ตรงสะโพกกลมเล็กนั้น ปีเตอร์พยักหน้ายอมรับเพราะตอนนี้เลือดที่ฝ่ามือเขาก็ยังคงซึมไหลออกมาแต่ไม่มาก แต่ตามเนื้อตัวของหนูนามีคราบเลือดของเขาปรากฎให้เห็นอยู่บ้าง และเมื่อปีเตอร์พยักหน้ายอมรับหนูนาก็ขยับตัวอีกครั้ง แต่ปีเตอร์ก็ยังคงรั้งเอวเธอไว้เหมือนเดิม และส่ายหน้าเป็นการห้ามว่าเธอต้องนั่งอยู่แบบนี้ และเขาเอื้อมมือไปหยิบกล่องยาที่เธอวางไว้บนเตียงข้างๆกายเขาส่งให้เธอ หนูนาเข้าใจจุดประสงค์ของ ปีเตอร์ทันทีว่าเขาอนุญาตให้เธอทำแผลเขาในท่าแบบนี้ โดยที่ร่างกายของเธอและเขาต่างก็เปลือยเปล่าและแก่นกายของเขาก็ยังอยู่ในตัวเธอ “แล้วมันจะทำเสร็จมั้ยละเนี่ย” หนูน
และเมื่อปากอิ่มนั้นเข้าครอบครองที่ยอดอกแกร่งของเขาความอบอุ่นและความชื่นนั้นทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจของเขาเต้นถี่เร็วขึ้น แค่การสัมผัสอันน้อยนิดของเธอตอบสนองอารมณ์ความต้องการของเขาได้อย่างน่าพึงพอใจอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และเมื่อหนูนาดูดเสียงดังที่ยอดอกนั้นยิ่งทำให้สิ่งที่อยู่ในมือของหนูนาแสดงความแข็งแรงมากขึ้นจน หนูนารู้สึกได้ เธอทำการขยับมือรูดผิวหนังด้านนอกแก่นกายนั้นขึ้นลงพร้อมๆกับปากอิ่มที่ทำหน้าที่ “โอ้ว...โอ้ว...” ปีเตอร์ร้องครางออกมาอย่างพึงพอใจที่สุด ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกการกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นแล้ว หนูนาเมื่อได้ยินเสียงแห่งความพอใจของสามีก็เร่งจังหวะการจู่โจมทั้งสองทาง ปีเตอร์กางแขนออกไปวางไว้ที่พนักโซฟาทั้งสองข้างเปิดทางให้ภรรยาเป็นผู้ปลดปล่อยเขาอย่างเต็มที่ เสียงหอบหายใจของสามีที่เกิดจากความเสียวซ่านนั้นเปรียบเสมือนน้ำมันเครื่องชั้นดีที่ช่วยในการขบเคลื่อนการกระทำของหนูนามากขึ้น หนูนาสลับไปดูดดื่มกับยอด
ปีเตอร์ปิดปากของหนูนาด้วยปากของเขาทันทีด้วยความร้อนแรงเพราะเขาทั้งดูดและกัดริมฝีปากอิ่มนั้น บดขยี้อย่างไม่ปราณีพร้อมกับสองมือที่บีบขย้ำดอกไม้ตูมแบบอารมณ์เดียวกัน หนูนายกสองแขนโอบรอบคอปีเตอร์ไว้เพื่อเป็นหลักยึด เพราะความรุนแรงและดุดันของเขานั้นอาจทำให้เธอล่วงลงไปนั่งกองกับพื้นได้ หนูนาไม่ขัดขืนต่อการกระทำนี้เลยสักนิด เธออดทนต่อความเจ็บปวดทั้งบริเวณปากกับหน้าอกที่ตอนนี้มันแทบแหลกคามือของสามีที่รักอยู่แล้ว แต่ใช่ว่ามันจะมีแต่ความเจ็บปวดความเสียวซ่านก็ติดตามมาด้วยเช่นกัน ปีเตอร์ปลดปล่อยปากอิ่มนั้นเมื่อดูดกลืนกินความหวานพอใจแล้วและไล่ต่ำมาที่ลำคอต่อ หนูนาแหงนหน้าขึ้นเพื่อเปิดทางให้ทั้งเขาและเธอได้หายใจและตอนนี้ปากอิ่มของหนูนาก็เจ่อบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด ปีเตอร์ยังไม่ลดละที่ลำคอเล็กนั้นเขาทั้งสูดดมด้วยจมูก จุมพิตด้วยปากหนาเสียงดังไปทั่วห้องทิ้งร่องรอยการสัมผัสไว้อย่างเด่นชัด ดั่งเป็นหินนำทางไม่ต้องกลัวหลงทางเลยทีเดียว “อ้าร์ส...อ้าร์ส...อ
“เอาที่อยู่มาเดี๋ยวนี้” ปีเตอร์ออกคำสั่งด้วยเสียงที่เยือกเย็น มาเซลรับคำและจัดการทำตามคำสั่งต่อไปทันที ส่วนปีเตอร์เดินออกจากห้องไปยังลานจอดรถทันที และเมื่อเข้ามาในรถเขาก็นั่งประจำหลังพวกมาลัย รอการแจ้งกลับจากมาเซลถึงจุดหมายที่เขาจะต้องไปเพื่อไปรับคุณภรรยาจอมดื้อกลับ “นายครับ...เอ่อ...ทางโน้นแจ้งว่าเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วจะพาคุณนีน่ากลับมาส่งเองอย่างปลอดภัยครับ” มาเซลหลังจากโทรรายงานก็รอรับระเบิดเวลาที่ใกล้เวลาระเบิดแล้ว แต่ผิดคาดเพราะทางนั้นกลับเงียบและตัดสายเขา มาเซลเองก็ไม่สบายใจตัวเขาก็เป็นห่วงนายหญิงเขาเช่นเดียวกัน “โธ่โว้ย!!!!!!” ปีเตอร์โกรธมากกับสิ่งที่ได้ยิน ใช่! ตอนนี้เขาโกรธแล้วและรวมถึงหนูนาด้วยที่ขัดคำสั่งเขาเพราะเธอเป็นฝ่ายเดินออกไปเอง ปีเตอร์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรออกอีกครั้ง “ตื๊ด...ตื๊ด..”เสียงเร
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็ค่อยๆ ย่องเดินไปที่ประตูทางออก และรีบกดเรียกลิฟท์ทันที “ถ้าไม่นานคงกลับก่อนที่พีทจะออกจากห้องดนตรี...” หนูนาบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่ลิฟท์ลงมาข้างล่าง ปีเตอร์เมื่อเข้ามาในห้องดนตรีพร้อมด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเขาไม่ได้โกรธ หนูนาแต่เขากลัวและมากด้วย มันทำให้เขารู้ว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของหนูนามันทำให้เขากังวลว่าเขาจะปกป้องเธอไม่ได้ ปีเตอร์เดินไปที่ผนังรูปแม่ของเขา “แม่ครับ...ผมจะต้องทำไง...ถึงจะปกป้องหนูนาให้พ้นจากคนอันตรายนั้น...เธอจะต้องปลอดภัย...” ปีเตอร์พูดสายตาจับจ้องที่ภาพของบาบาร่า เขายืนอยู่อย่างนั้นสายตาจ้องมองที่ภาพรอยยิ้มของแม่ทำให้ย้อนกลับไปคิดถึงเวลาเก่าๆระหว่างแม่กับเขาจนไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นและย้ายตัวเองไปที่เปียโนและบรรเลงเพลงไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เขาอยู่คนเดียว ณ สถานที่แห่งนี้ หนูนาเมื่
“เพื่อ?” “ร้านอาหารนะคะ...ก็ไปกินไง” หนูนาตอบแบบแกล้งโง่ “กิน?” “อื้ม” “แค่นั้น?” “เอ่อ...” หนูนาเริ่มอึดอัด เพราะรู้ว่าปีเตอร์กำลังจับผิด “หิวจัง...” หนูนาพูดตัดบทและส่งสายตาสื่อความหมายตามที่พูด ปีเตอร์เลือกที่จะไม่พูดอะไร และออกรถไปยังจุดหมายปลายทางตามความต้องการของหนูนา โดยระหว่างทางการเดินทางไม่มีการพูดคุยอะไรกัน จนมาถึงจุดหมายปลายทางตามความต้องการของหนูนา ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณของทางร้าน ปีเตอร์สังเกตุเห็นชายชุดดำยืนตามระยะตลอดเส้นทางแต่ทุกคนล้วนเปิดท