“เหตุใดถึงได้กล้าที่จะจ่ายเงินมากมายเพื่อซื้อดินบนภูเขา?”
เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านลุงเจคอป…เธอมองโฉนดที่ดินในมือด้วยดวงตาที่เป็นประกาย “ข้าจะมอบหุ้นที่เมบิลให้ท่านลุงยี่สิบเปอร์เซ็นต์…” เธอกล่าวพร้อมกับพาเจคอปเดินเข้าไปในที่ดินของเธอ “หมายความว่ายังไง?” คำพูดของเจคอปจางหายไปทันทีเมื่อเขาเห็นเบลล่าขุดดินขึ้นมา “เพชร?” “ค่ะ จำนวนมหาศาล…ในตอนนี้เราแค่ต้องการคนงานสำหรับขุด” “พระเจ้า..ที่เจ้าบอกว่าเห็นอนาคตได้นี่ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” เบลล่าหัวเราะ “ไม่เชื่อข้าแล้วเหตุใดวันนั้นท่านลุงถึงยอมเซ็นลงนามในสัญญาล่ะคะ?” “….เพราะว่าแววตาของเจ้ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง” “อ่า..เช่นนั้นนี่น่าจะบอกกับท่านลุงได้ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน” เธอวางก้อนหินที่ส่องแสงแวววาวไว้บนมือของเจคอป “มีอีกเรื่องที่ข้าอยากจะให้ท่านลุงสืบ” “ว่ามาได้เลย ต้องการข้อมูลไปทำงานอีกงั้นหรือ?” เบลล่าส่ายหน้า “วันนี้ข้าจะไปคุยกับท่านดยุคโอเว่นว่าข้าจะไม่ทำงานให้เขาแล้วค่ะ….ถึงเวลาที่ข้าจะหันมาลุยธุรกิจของข้าอย่างเต็มตัวสักที…ข้าเพียงอยากให้ท่านลุงสืบเรื่องนักบุญหรือนักบวชที่ชื่ออาเชอร์ และเลดี้ตระกูลพานาร์ดที่ชื่อโจลี่” “อืม ข้าจะให้คนตามสืบให้ ภายในสามวันข้าจะส่งข้อมูลไปให้เจ้า…” เบลล่ายกยิ้ม “ขอบคุณค่ะ…” หากจะเทียบกับในนิยาย…ตอนนี้คือจุดเริ่มต้นของนิยายเลยก็ว่าได้ พระเอกคงจะโกรธเธอน่าดูที่เธอแย่งทุกอย่างที่สมควรจะเป็นของเขามา เบลลาจึงคิดจะแบ่งหุ้นเหมืองเพชรให้อาเชอร์สักสิบเปอร์เซ็นต์เป็นการรับผิดชอบการกระทำของเธอ เธอไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับบ้านแลนเดอร์เลย แต่เบลล่าคิดว่าซี่โน่น่าจะกำลังวางแผนล่อลวงโจลี่อยู่ที่ไหนสักแห่ง…เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร เธอมิได้สนใจ และไม่คิดยื่นมือเข้าไปยุ่งด้วยอยู่ เบลล่าถอนหายใจ…. ก้าวแรกสำเร็จ เธอสามารถซื้อที่ดินบนภูเขาเออเกรย์ได้แล้ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาเท่านั้น!! เธอวางตราประจำตระกูลโอเว่นเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะส่งยิ้มให้เลโอ “หมายความว่ายังไง?” “ข้าจะไม่ทำงานเป็นสายข่าวอีกแล้วค่ะ ข้ามาขอลาออก…” เลโอเลิกคิ้วมองเบลล่า “ก็ดี..ข้าเองก็คิดเรื่องแต่งงานเอาไว้บ้างแล้ว” เบลล่ามองที่เลโออย่างไม่เข้าใจ “เบลมานั่งนี่สิ…” เลโอดึงเธอไปนั่งลงบนตักของเขา เขาโอบกอดเธออย่างโหยหาและคิดถึง.. “เหตุใดถึงต้องทำหน้าตกใจเมื่อข้ากล่าวถึงเรื่องแต่งงาน เจ้าเป็นของข้าแล้ว ยังจะหวังไปแต่งงานให้ชายอื่นอีกรึไง?” เบลล่าหัวเราะเบาๆ “ข้ายังมิได้ผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะเลยค่ะ และข้าก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงานเลย…” “นี่เจ้า..ยั่วโมโหข้าอยู่รึเปล่า?” เธอยกมือขึ้นมาบีบจมูกของเขาเบาๆ “ข้าชอบกินอะไรคะ? ..” “ทุกอย่างที่เจ้าชอบข้าจะหามาให้” “เห็นไหมว่าเรื่องง่ายๆ เช่นนี้ท่านยังไม่รู้เกี่ยวกับข้าเลย เรายังรู้จักกันไม่มากพอเลยค่ะเลโอ..ข้าเป็นสตรีที่ไม่ได้อ่อนหวานและยอมท่านไปได้ตลอด อาจจะมีวันหนึ่งที่ข้าโมโหแล้วลุกขึ้นมาตีท่านก็ได้” “หากเจ้าชอบกระทำเช่นนั้น ข้าก็จะเตรียมไม้เอาไว้ให้…” “เลโอ…ข้าเพียงอยากขอเวลา” “เจ้าขอเวลากับเคาน์เคนเนดี้ด้วยรึเปล่า?” “ใช่ค่ะ ตอนนี้ข้าต้องการเวลาในการจัดการเรื่องต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นมาในช่วงนี้” “รวมทั้งเรื่องของข้า?” ราวกับว่าตอนนี้เขากำลังจงใจที่จะคุยไม่รู้เรื่องสินะ!! เธอยกมือขึ้นมากอดคอเขาเอาไว้ “ทำหน้าเช่นนี้หมายความว่ายังไงคะ?” “เจ้ารู้ดีว่าข้าไม่ชอบการรอคอย ตรงกันข้ามข้าเกลียดการรอคอยมากๆ ด้วย” “แล้วเหตุใดท่านถึงต้องรอ ข้าขอเวลาไม่ได้ห้ามให้ท่านไปหาข้าสักหน่อย ช่วงนี้ข้าก็ยังคงมาหาท่านเช่นเดิม…” เลโอถอนหายใจ “เบล ข้าในตอนนี้อยากจับมือคู่นี้ของเจ้า อยากจูงมือเจ้าเดินบนทางเดินที่วิหารศักดิ์สิทธิ์…ท่ามกลางสายตาของคนที่จ้องมองมาที่เรา บุรุษมากมายจะมองมาที่ข้าด้วยสายตาแห่งความอิจฉาเพราะภรรยาของข้างดงามที่สุด เราจะกล่าวคำสาบานต่อหน้าพระสันตปะปา ข้าจะพาเจ้านั่งรถม้ารอบเมือง ชาวเมืองต่างโห่ร้องและยินดีกับงานแต่งที่แสนจะยิ่งใหญ่ของเรา ข้าจะป่าวประกาศให้ทั่วว่าเจ้าคือดัชเชสแห่งโอเว่น และข้าคือชายที่เจ้ารัก…ก็แค่นั้น…” คำกล่าวที่แสนเอาแต่ใจของเลโอมันทำให้เบลล่ารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก…เธอประทับริมฝีปากของเธอลงกับริมฝีปากของเขา เพื่อจะบอกกล่าวด้วยการกระทำว่าเธอเข้าใจเขาแล้ว… เลโอหลับตาลงเขาโอบกอดเบลล่าเอาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะพาเธอเดินไปที่เตียง “ข้ามีงานต้องกลับไปทำต่อนะคะ…” “ช่างหัวงานพวกนั้นสิ!! “ เบลล่ายกยิ้ม..ก่อนที่เธอจะหลับตาลงเพื่อรอรับทุกสัมผัสที่เลโอมอบให้…. ……. “ท่านมาช่วยข้าอีกแล้ว…” ซีโน่ไม่ได้กล่าวคำใดออกไป เขาเพียงส่งยิ้มให้โจลี่เท่านั้น.. คำว่างดงามนั้นยังไม่อาจจะบรรยายใบหน้าของสตรีผู้นี้ได้เลย อีกทั้งเธอยังต่างจากชนชั้นสูงคนอื่นๆ ตรงที่เธอไม่ดูถูกชาวบ้าน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสตรีที่สูงส่ง แต่แววตาของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจเขาเลยแม้แต่น้อย… “ช่วงนี้มีโจรและขโมยค่อนข้างเยอะ เลดี้ไม่ควรมาแถวนี้..” “แต่ว่ายังมีเด็กที่อดข้าวอยู่ ถึงแม้ข้าจะช่วยไม่ได้มาก แต่ข้าก็ยังอยากจะช่วยพวกเขาเหล่านั้น…” ซี่โน่ยกยิ้ม “เช่นนั้นข้าจะมาคอยคุ้มกันเลดี้เอง อะ..เอ่อ..ข้าพูดถึงในกรณีที่เลดี้ไม่รังเกียจ” โจลี่ยกยิ้ม เธอเดินเข้ามาจับมือของซีโน่เอาไว้ “ท่านเป็นคนดีจริงๆ นะคะ ใครจะกล้ารังเกียจชายที่ห้าวหาญเช่นท่านกันคะ” อ่า..รอยยิ้มนี้อีกแล้ว รอยยิ้มที่ฉุดเขาจมลงไปในวังวนของเธอ เธอจะรู้บ้างไหมว่าเขาคลั่งเธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!! “คุณหนูได้เวลากลับแล้วค่ะ…” สาวใช้เดินเข้ามาตามโจลี่ เธอจำต้องปล่อยมือของเธอที่กุมมือของซีโน่เอาไว้ออก “หวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะคะ ท่านผู้กล้าของข้า!” ซีโน่มองใบหน้าที่งดงามของโจลี่ด้วยความหลงใหล เขามองแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไปจนลับตา..ด้วยหัวใจที่เต้นแรง “ผ้า…” สาวใช้ส่งผ้าเช็ดหน้าให้โจลี่ เธอรีบหยิบผ้าเช็ดหน้านั้นมาเช็ดมือซ้ำไปซ้ำมาอย่างแรง “น่าขยะแขยง!!” ใบหน้าที่งดงามนั้นถอนหายใจ “ใครบอกว่าดยุคโอเว่นจะผ่านทางนี้กัน ข้ารอมาตั้งนานสองนานไม่เห็นวี่แววของรถม้าเลย!” สายของเรารายงานมาว่ารถม้าของโอเว่นยังไม่ออกมาจากคฤหาสน์เลยค่ะ คุณหนูจะรออยู่แถวนี้ก่อนไหมคะ?” เธอถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย “ไม่ล่ะ ข้ามิอาจทำใจที่จะเข้าไปยังสลัมเช่นนั้นได้อีก…แค่นี้ก็ขยะแขยงจะแย่!!” คนรับใช้ก้มหน้านิ่งๆ “ซีโน่ แลนเดอร์ ตระกูลแลนเดอร์งั้นหรือ?” ใบหน้าที่งดงามของโจลี่กำลังใช้ความคิด “ส่งคนไปสืบเรื่องแลนเดอร์มาให้ข้าหน่อยสิ กลับไปถึงพานาร์ดเตรียมชุดให้ข้าด้วย ข้าจะไปหาท่านยายที่เมเบโล่หากการสร้างพรหมลิขิตมันยากเย็นนัก ก็สู้ให้ท่านยายทูลขอสมรสพระราชทานให้เลยจะดีกว่า..” “แต่แกรนด์ดัชเชสโอเว่นมิใช่คนที่จะบังคับได้โดยง่าย…” “ข้าจะแต่งงานกับท่านดยุคเหตุใดต้องเกี่ยวข้องกับแกรนด์ดัชเชส อีกอย่างเมเบโล่เองก็มีอำนาจไม่น้อยกว่าโอเว่นหรอก หากว่าข้าได้พูดคุยกับท่านดยุคสักครั้ง แล้วยื่นข้อเสนอให้ท่าน ข้าคิดว่าคนฉลาดเช่นเขาจะตอบตกลงแต่งงานกับข้าได้ไม่ยาก…” เพราะเธอเป็นสตรีที่งดงามมากยังไงล่ะ เธอมั่นใจอย่างยิ่งว่าหากท่านดยุคได้พูดคุยหรือทำความรู้จักกับเธอเขาจะรักเธอได้ไม่ยาก…. …….. “เหตุใดต้องอารมณ์ไม่ดีถึงเพียงนั้น?” “โลเวลท่านทำแผนการของข้าพัง…” ดยุคโลเวลคุกเข่าลงที่ข้างเตียงเขาก้มลงก่อนจะกอดขาของมิลาด้าเอาไว้ “ข้าจะช่วยเจ้าคิดหาแผนใหม่เอง” มิลาด้าถอนหายใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบผมของโลเวลเบาๆ “เจ้ารู้จักข้าดีกว่าใครโลเวล เจ้ารู้ดีว่าหากข้าวางแผนจะทำอะไร มันต้องสำเร็จ เพราะว่าข้าเกลียดความผิดพลาดมากที่สุด…” “แต่ว่าองค์จักรพรรดิเป็นผู้ประกาศงานแต่งของคิร่ากับองค์รัชทายาทเอง เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไร!!” เธอกำผมของเขาแน่นก่อนจะออกแรงดึงให้เขาเงยหน้าขึ้นมา “….ประกาศงานแต่ง แต่ว่านางยังไม่แต่งไม่ใช่รึไง…ท่านก็แค่ทำให้นางมีคุณสมบัติไม่พอที่จะเป็นพระชายาก็เท่านั้นไม่เห็นจะยากเลยที่รัก” เขาโอบกอดเธอแน่นพร้อมกับซบลงที่ตักของมิลาด้า “หากว่างานนี้สำเร็จ ข้าจะหย่ากับเอซแล้วมาแต่งงานกับท่าน…” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของโลเวล “เจ้าสัญญาแล้วนะ” “ที่รัก…เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้รักเอซเลย แต่ข้ารักท่านต่างหาก…” มิลาด้าแสยะยิ้มก่อนที่เธอจะหลับตาลง ใช่แล้ว ในเมื่อเรื่องมันดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้วก็แค่คว่ำกระดานหมากนี้ซะก็สิ้นเรื่อง เธอจะไม่ยอมเป็นคนที่เจ็บปวดคนเดียวแน่นอน เบลล่า เมบิล รออีกหน่อยเถิด หลังจากทำลายคิร่าเสร็จแล้วต่อไปก็จะถึงคิวเจ้าด้วย!!เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ